LOGINบทที่5
ก็แค่อยากลอง
“แบบนี้นี่เอง แล้วที่คุณบอกสนใจฉันและนั่งมองอยู่ตลอด ทำไมไม่เดินมาทักทายล่ะคะ” ได้ยินว่าเขาพูดได้หลายภาษาเธอไม่ติดใจอะไรเพราะส่วนใหญ่นักธุรกิจที่เดินทางไปคุยงานหลายประเทศก็มักจะพูดได้หลายภาษาอยู่แล้ว อย่างเธอก็พูดได้หลายภาษาเช่นเดียวกันเว้นก็แต่ภาษาญี่ปุ่นเนี่ยแหละที่ยังไม่ได้เรียนจริงจัง
“หึ เพราะผมยังไม่แน่ใจว่าคุณเองสนใจผมอยู่หรือเปล่า หากเดินเข้ามาทักเลยคุณอาจจะเมินผมก็ได้” จะล่อเหยื่อให้ติดกับก็ต้องมีชั้นเชิงหน่อยสิ เพราะเหยื่อของเขาไม่ใช่คนธรรมดา เขาดูออกว่าเธอไม่ได้โง่ แต่ที่เธอยอมเปิดโอกาสให้เขาเข้ามาทักทายคงเพราะเธอคิดว่าเขาไม่รู้จักตัวตนของเธอ และเธอก็คงถูกใจเขาด้วย
“อ่อ ก็เลยเล่นตัวสักนิดเพื่อให้ฉันสนใจสินะคะ” เธอย่นจมูกใส่เขาอย่างหมั่นไส้ เอาจริงนะ นี่คือครั้งแรกที่เธอรู้สึกผ่อนคลายและสนุกที่ได้คุยกับคนอื่นแถมยังเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่เคยเจอกันอีก อาจเพราะที่ผ่านมามีแต่คนไม่กล้าเข้าหาและมักจะระมัดระวังตัวเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าเธอ
ส่วนเธอเองก็ต้องทำตัวให้น่าเคารพและเข้มแข็งตลอดเวลาเหมือนกัน เกิดเป็นลูกคนโตมันไม่ง่ายและแม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงแต่สุดท้ายเธอก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอคือทายาทตระกูลมาเฟีย ยังไงก็ต้องแบกรับความกดดันและมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบไม่ต่างจากน้องชาย
“ประมาณนั้น” เคนเซยักไหล่เบาๆ ไม่ได้ปฏิเสธเพราะเขาต้องการให้เธอรู้สึกแบบนั้นจริงๆ
“คุณนี่ร้ายใช่เล่นเลยนะ ตอนแรกฉันคิดว่าคุณจะดุและเย็นชามากกว่านี้ เพราะบางครั้งสายตาคุณมันดูราบเรียบจนฉันอ่านไม่ออก แต่พอได้คุยด้วยกลับรู้สึกดีกว่าที่คิด”
“ที่คุณคิดคือถูกแล้วครับ ผมดุจริง หมายถึงบนเตียง” คราวนี้เคนเซขยับไปกระซิบข้างหูเธออย่างถือวิสาสะจนได้กลิ่นหอมละมุนจากตัวเธอซึ่งมันทำให้เขาพอใจเป็นอย่างมาก แต่ก็นะ คนอย่างเขาไม่ใช่คนที่จะหลงไปกับรูปลักษณ์ภายนอกและเขาก็ไม่ใช่คนหมกมุ่นกับเรื่องบนเตียงขนาดนั้น นี่ทำอยู่เนี่ยก็แค่เล่นละครเท่านั้นแหละ
ที่เธอบอกว่าเขาดุและเย็นชา นั่นแหละคือความจริงและมันก็คือตัวตนของเขาเพราะตอนนี้เขาก็ชักจะเริ่มหมดความอดทนกับการเล่นละครของตัวเอง เขาว่าเขาใจเย็นเกินไปแล้ว ควรจะปิดจ็อบสักที ตอนนี้จิโร่คงแอบถ่ายภาพความสนิทสนมของเขากับเธอพอสมควร แต่มันยังไม่มากพอที่จะทำให้เธอไม่สามารถปฏิเสธการแต่งงานกับเขาได้
ในเมื่อเธอเปิดโอกาสให้เขา เขาก็จะสนองให้เธออย่างถึงใจเพราะสุดท้ายคนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดก็คือตัวเขาเอง เรื่องบนเตียงถึงไม่ได้อยู่ในแผนการแต่แรก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่อยากได้เธอ ต่อให้ไม่ได้หมกมุ่นกับเรื่องเซ็กซ์แต่ทว่าเขาก็ไม่ได้ตายด้านซะหน่อย เขายังมีความต้องการอยู่ เมื่อมีโอกาสดึงเรื่องนี้เข้ามาอยู่ในแผนการมีหรือเขาจะปล่อยโอกาสไป ดีซะอีกเธอจะได้ดิ้นไม่หลุด
ตัวเขาไม่ได้ชอบมีเซ็กซ์กับคนแปลกหน้าไปเรื่อยแต่เพราะเธอคือเป้าหมายที่เขาต้องการใช้ประโยชน์เพราะฉะนั้นอะไรที่ทำให้เขาบรรลุเป้าหมายของตัวเองได้ เขาก็จะทำ อีกอย่างยอมรับว่าเขาถูกใจเธอด้วย อยากรู้ว่าเวลาที่เธอนอนอยู่ใต้ร่างของเขาและครางออกมา เธอจะเปิดเผยความรู้สึกจริงๆ ของตัวเองออกมาด้วยหรือเปล่า
เพราะตอนนี้เขารู้ว่าสิ่งที่เธอแสดงออกไม่ใช่ตัวตนทั้งหมดของเธอ เธอเองก็ใส่หน้ากากและเล่นละครเป็นสาวสวยพราวเสน่ห์เพื่อตบตาเขาอยู่เหมือนกัน ซึ่งเขาไม่ติดเพราะตัวเขาก็กำลังเล่นละครและใส่หน้ากากเข้าหาเธอไม่ต่างกัน
“เห็นนิ่งๆ ไม่คิดว่าคุณจะอ่อยเก่งขนาดนี้” ฌาณายิ้มโปรยเสน่ห์คืนบ้าง คืนนี้ไม่น่าเบื่ออีกต่อไปแล้วสินะ เพราะเขาทำให้เธอลืมความเสียใจไปชั่วขณะได้จริงๆ เธอมองเห็นแต่ใบหน้าหล่อๆ ของเขาจนชักอยากทำความรู้จักมากกว่านี้ แต่ก็นะ ไม่มีใครอยากทำความรู้จักกับคนแปลกหน้าจริงๆ หรอก เขากับเธอก็แค่ผ่านมาเจอกันและถูกใจกันเท่านั้นเอง
เพราะงั้นถ้าคืนนี้เธอจะไปต่อกับเขาเพราะรู้สึกถูกใจเขาก็คงไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เธอโตแล้วดูแลตัวเองได้ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่มีผู้ชายคนอื่นกล้ามานั่งพูดคุยกับเธอก่อน ซึ่งก่อนหน้านั้นจะมีแค่พี่หมอคนเดียว เธอถึงได้รู้สึกชอบเขามากกว่าคนอื่น เพราะเขาทั้งสุภาพและใจดีสุดๆ แถมยังปฏิบัติกับเธอแบบเป็นธรรมชาติ ไม่ได้เกร็งหรือทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจ
“ผมอ่อยขนาดนี้แล้ว สนใจไปต่อกับผมหรือยังล่ะ” เขายกยิ้มมุมปากและมองเธออย่างสื่อความหมายจนคนตัวเล็กยิ้มเขินเล็กน้อย
“จริงๆ ฉันชอบที่คุณพูดจาสบายๆ แบบนี้นะคะ เวลาคุณพูดครับมันดูไม่เป็นตัวคุณเท่าไร” เธอรู้สึกแบบนั้นจริงๆ เขาดูเหมาะกับการทำตัวสบายๆ พูดจาปกติไม่ต้องถึงขั้นสุภาพแต่ก็ไม่ได้หยาบคาย
“หึ คุณนี่พูดตรงอีกแล้วนะ แต่ก็ดี งั้นผมจะพูดสบายๆ กับคุณละกัน” บอกตามตรงเขาเองก็โคตรอึดอัด โคตรไม่เป็นตัวของตัวเอง ยังดีที่เธอไม่ได้สนใจว่าเขาจะพูดจาสุภาพหรือไม่สุภาพ นับว่าเธอเป็นผู้หญิงที่น่าสนใจไม่น้อย การได้มานั่งคุยกับเธอแบบนี้ก็ดีเหมือนกันเพราะมันทำให้เขาได้มาทำความคุ้นเคยกับว่าที่เมียในอนาคตก่อนจะได้ไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจริงๆ
และเขาคิดว่าถ้าได้ใช้ชีวิตด้วยกันจริงๆ เธอคงไม่ได้อ่อนหวานและหว่านเสน่ห์ใส่เขาไม่หยุดแบบนี้หรอก เขาคิดว่าเธอน่าจะดื้อรั้นและพยศใส่เขามากกว่า ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นก็คงดีไม่น้อย ชีวิตเขาจะได้ไม่น่าเบื่อจนเกินไปเพราะเขาชอบปราบพยศคนที่สุด
“จริงๆ วันนี้ฉันอกหักมาค่ะ เลยรู้สึกเศร้านิดหน่อย” อันที่จริงไม่หน่อยหรอกแต่เพราะเธอไม่ได้อยากอ่อนแอให้คนอื่นเห็นถึงต้องพยายามทำตัวเข้มแข็งตลอดเวลา ใครจะไม่เสียใจในเมื่อพี่หมอเป็นรักแรกของเธอ เธอแอบรักเขามาตั้งนานแต่สุดท้ายก็ไม่ได้แม้แต่สารภาพรัก มันเจ็บมากนะ แต่ก็ทำได้แค่ยิ้มรับและยินดีกับคนที่เธอรักทั้งคู่
“ถ้าเศร้าก็ระบายออกมา ไม่จำเป็นต้องทำตัวเข้มแข็งตลอดเวลาก็ได้ ผมเป็นแค่คนแปลกหน้า คุณจะกลัวเสียฟอร์มทำไม อยากดื่มหนักๆ หรืออยากระบายความอัดอั้นก็ทำเถอะ”
นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนบอกให้เธอระบายสิ่งที่อยู่ในใจออกมาและเป็นคนแรกที่บอกให้เธอไม่จำเป็นต้องเข้มแข็งตลอดเวลาเพราะที่ผ่านมาเธอถูกฝึกให้อดทนและเก็บซ่อนความรู้สึกให้เก่ง ต้องเข้มแข็งและแข็งแกร่งให้สมกับเป็นทายาทตระกูลใหญ่
“คุณรู้มั้ยว่านี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินคำพูดอะไรแบบนี้ ขอบคุณมากนะที่ทำให้ฉันรู้สึกดี คุณทำให้ฉันสนใจจนอยากไปต่อด้วยแล้วสิ เพราะงั้นคืนนี้ฉันจะไปต่อกับคุณค่ะ” เธอโตแล้วและก็ใช้ชีวิตอยู่ในกรอบมาโดยตลอด ถ้าคืนนี้เธออยากจะทำอะไรนอกกรอบดูบ้าง คงไม่ใช่เรื่องผิดอะไรที่สำคัญมันดูน่าตื่นเต้นดีไม่ใช่เหรอ เกิดมาจนอายุยี่สิบหกแม้แต่จูบยังไม่เคยเลยด้วยซ้ำ
“พูดแล้วผมไม่ให้คุณคืนคำนะ” เคนเซแสยะยิ้มและยกแก้วเหล้าที่เขาชงเองขึ้นมาชนกับเธอ ซึ่งเธอก็ชนตอบเป็นการตกลงที่จะไปต่อกับเขาด้วยความเต็มใจ ทุกอย่างเข้าทางเขาหมดจริงๆ
“ฉันพูดคำไหนคำนั้นค่ะ ไหนๆ ก็อกหักแล้ว ก็อยากลองมีวันไนต์กับคนแปลกหน้าดูบ้างเผื่อว่าจะทำให้ฉันหายเศร้า อีกอย่างฉันกับคุณก็คงไม่ได้เจอกันอีกเพราะฉันจะไม่สานต่อใดๆ กับคุณหลังจากคืนนี้จบลง”
การมีเซ็กซ์เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องน่าอายและเธอก็ไม่ได้ยึดติดว่าครั้งแรกต้องเก็บไว้ตอนแต่งงานเท่านั้น วันนี้เธอถูกใจคนแปลกหน้าคนนี้ก็แค่อยากไปต่อกับเขา อีกอย่างเขาหล่อและหุ่นดีขนาดนี้ เรียกได้ว่าตรงสเป็กเธอมาก ยังไงก็คงคุ้มกับการเสียตัวครั้งแรกแหละ และเธอมั่นใจว่าเขาจะมอบประสบการณ์สุดวิเศษให้กับเธอด้วย
“งั้นคืนนี้ผมจะจัดคุณให้หนักและทำให้คุณลืมคนที่มันทำคุณเสียใจ คืนนี้คุณจะนึกถึงแต่หน้าผมและเปลี่ยนมาลืมผมไม่ลงแทน” เชื่อเถอะว่ามันไม่ใช่แค่คืนนี้หรอกที่เธอจะลืมเขาไม่ลง เพราะหลังจากคืนนี้ไปชีวิตเธอจะเปลี่ยนไปแน่นอนและเธอจะจดจำเขาจนลืมไม่ลงไปตลอดชีวิต เธอบอกว่าคงไม่ได้เจอเขาอีกงั้นเหรอ งั้นมาดูกันว่าเธอกับเขาจะได้เจอกันอีกหรือเปล่า…
เมื่อทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยก็จัดการโทรหาลูกน้องคนสนิทอย่างซิน เจ้าตัวเป็นลูกชายของอาตงมือขวาพ่อเธอเอง ซินอายุน้อยกว่าเธอหนึ่งปีเรียกว่าเติบโตมาด้วยกันเป็นทั้งบอดี้การ์ดและเพื่อน ถึงเจ้าตัวจะเป็นน้องแต่ทว่ากลับมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเธออีก ที่สำคัญเธอไว้ใจซินมากกว่าลูกน้องคนไหนทั้งนั้น เรื่องที่เธอฝากซื้อยาคุมฉุกเฉินมาให้จะไม่มีทางหลุดไปถึงหูคนในครอบครัวเธอแน่นอนอีกอย่างในเมื่อเจ้าของบ้านอนุญาตให้เธอเลือกลูกน้องมาอยู่ดูแลที่นี่ได้หนึ่งคน คนคนนั้นต้องเป็นซินอยู่แล้วเพราะเจ้าตัวฉลาดและเก่งรอบด้าน ช่วยงานเธอได้เยอะแน่นอน แถมยังเป็นหูเป็นตาให้เธอได้อีกด้วยร่างบางก้าวขาออกมาจากห้องน้ำด้วยความจุกหน่วงท้องน้อยนิดๆ แต่ขาเหมือนจะสั่นน้อยลงแล้วถึงได้เดินออกมาด้วยตัวเองได้ เธอกวาดสายตาหาเจ้าของบ้านและพบว่าเขาสูบบุหรี่อยู่ตรงระเบียงจึงเดินเลี่ยงออกไปจากห้องนอนเพื่อไปรอลูกน้องคนสนิทเอายาคุมฉุกเฉินมาให้ ซึ่งเธอก็ไม่ลืมที่จะหยิบเสื้อคลุมมาสวมใส่อีกตัวเพื่อปกปิดร่างกายให้มิดชิดกว่าเดิม ยังไงที่นี่ก็มีแต่ผู้ชายและมีแต่ลูกน้องของเขา ระวังตัวไว้ก่อนย่อมดีกว่าประมาท“นี่ นายน่ะ มาหาฉันหน่อย” เธอเดินลงม
นอกจากจะรับรู้ได้ถึงอาการสั่นของขาและเจ็บระบมตรงร่องรักของตัวเอง คนตัวเล็กก็เหมือนจะพึ่งนึกได้ว่าเขาไม่ได้ป้องกันกับเธอ เพราะหลังจากที่เขาดึงแก่นกายออก น้ำรักก็ไหลเปรอะเปื้อนออกมาจนเธอรู้สึกเหนียวเหนอะหนะไปทั่วหว่างขา แถมเขายังลุกไปหยิบทิชชูมาทำความสะอาดแก่นกายตัวเองอย่างหน้าตาเฉย ไม่ละอายใจบ้างเลยหรือไง!“เดี๋ยวนะ นี่นายไม่ได้ป้องกันเหรอ เห็นแก่ตัวไปหรือเปล่า!” เธอมองหน้าเขาด้วยสายตาไม่พอใจและอยากจะลุกไปทุบตีเขาสักที แต่ทว่าแม้แต่แรงจะขยับตัวยังไม่มีเลย ก็เขาเล่นสูบพลังเธอไปจนหมดเลยนี่นา ปกติเธอเป็นคนแข็งแรงมากนะ แต่วันนี้ไหนจะต้องตื่นมาแต่งหน้าแต่งตัวและยังต้องเข้าพิธีแต่งงานกับเขาอีก ถึงจะใช้เวลาไม่นานแต่มันก็เหนื่อยมากๆ คงเพราะก่อนหน้านั้นเธอทำงานแทบไม่ได้หยุดพักด้วยแหละ“หึ เอากันจนน้ำแตก พึ่งจะมาระลึกชาติได้หรือไง” เคนเซหันไปแสยะยิ้มและหยิบกางเกงนอนตัวเองขึ้นมาใส่ด้วยท่าทีไม่ทุกข์ร้อน วันนี้เขาลงโทษเธอแค่นี้ก็พอเพราะเห็นว่าเธอไม่ได้พยศใส่จนน่าโมโห เวลาอยู่บนเตียงก็เชื่องเหมือนแมวดี“ไม่คิดจะมีความรับผิดชอบเลยหรือไง แล้วนี่มีโรคติดต่อหรือเปล่าก็ไม่รู้” คนตัวเล็กบ่นต่อ“เลิกบ่นสัก
ร่างสูงแสยะยิ้มร้ายก่อนจะเป็นฝ่ายดึงคนตัวเล็กขึ้นมาคร่อมบนตัวแล้วคว้าต้นคอเธอมาจูบอย่างรุนแรงเพราะต้องการลงโทษเด็กดื้อที่ทำให้เขาค้างอยู่แบบนี้ แม้ตรงนั้นจะยังไม่ได้รับการปลดปล่อยแต่เชื่อเถอะว่าเขาไม่ปล่อยคนที่ทำเขาคลั่งไปง่ายๆ แน่เธอจะต้องได้รับรู้รสชาติของการยั่วอารมณ์ดิบเขา เคนเซยังคงจูบเธอด้วยความดุดันเหมือนเดิม มันเร่าร้อนและไม่ยอมให้โอกาสเธอได้หายใจด้วยซ้ำ จนคนตัวเล็กแทบขาดใจตายลงตรงนี้“อื้ออ” ร่างบางได้แต่ครางอื้ออึงและทุบไหล่เขาไปแรงๆ หลายที แต่ทว่าเขากลับจูบเธอหนักกว่าเดิมราวกับจะสูบวิญญาณเธอไปด้วยอย่างไรอย่างนั้น ตอนนี้ไม่รู้ว่าตัวเองคิดผิดหรือคิดถูกที่ไปยั่วอารมณ์เขาและไม่ยอมทำให้เขาเสร็จสมจนตัวเองถูกคนร้ายกาจเอาคืนแบบนี้“หึ อย่าพึ่งขาดใจตายซะก่อนล่ะ เพราะนี่มันแค่เริ่มต้น” คืนนั้นเขายังยั้งแรงกับเธอเพราะไม่อยากทำให้เธอหวาดกลัวและบอบช้ำกับเซ็กซ์ครั้งแรก แต่ครั้งนี้เขาจะทำตามที่ใจตัวเองต้องการ ในเมื่อเธอเป็นฝ่ายยั่วเขาก็ต้องรับผลจากการกระทำตัวเอง จะได้รู้ว่าไม่ควรมาอวดดีกับเขาไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามเพราะเธอไม่มีทางชนะเขาไปได้หรอก“อ๊า อย่ากัด เจ็บนะ” ปลายลิ้นร้อนเปลี่ยนจากเ
หมับ!“จะทำอะไร ปล่อยฉันนะ บอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้จะมาทำหน้าที่เมีย” หลังจากถูกเขาดึงเข้ามาในห้องนอน เธอก็ถูกเขาอุ้มจนตัวปลิวและมาวางไว้บนเตียงกว้าง ที่นอนเขาทั้งหนาและนุ่มมากจนเธอแทบไม่อยากลุกหนีไปไหน แต่ทว่าคนที่ตามมาคร่อมทับเธอไว้นี่สิ มันทำให้เธอต้องดันร่างกายกำยำเขาออกห่างคนบ้า! พูดจาไม่รู้เรื่องหรือไง ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้จะมาทำเรื่องอย่างว่า ยังคิดไปถึงเรื่องนั้นได้ นี่คงคิดว่าเธอมาอ่อยถึงห้องแน่ๆ“หึ อยากมานอนกับฉันไม่ใช่เหรอ เข้ามาแล้วก็ต้องทำหน้าที่เมียสิ” สำหรับเขามันก็แค่เซ็กซ์ ในเมื่อจัดการแยกห้องนอนให้แล้วเพื่อต่างคนต่างอยู่ แต่เธอก็ยังหาเรื่องใส่ตัว ในเมื่อกล้ามาเสนอให้เขาถึงที่ เขาก็จะสนองให้เธออย่างเต็มที่เหมือนกันยิ่งได้สูดดมร่างกายหอมกรุ่นของเธอใกล้ๆ อีกครั้ง มันยิ่งกระตุ้นให้เขาอยากใคร่ในตัวเธอเหมือนกับคืนนั้นที่เขากับเธอได้ปลดปล่อยอารมณ์ดิบร่วมกัน สำหรับเขาแค่ได้ปลดปล่อยให้สบายตัวก็พอแล้ว ส่วนเธอจะคิดยังไง จะรู้สึกยังไงก็เรื่องของเธอ“ก็ใช่ แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันอยากมาทำเรื่องแบบนั้นกับนายสักหน่อย แค่อยากมาอยู่ห้องนี้ก็เท่านั้น” เธอบอกเขาเสียงเข้มและพยายามดันแผงอก
“หืม แอสตันส่งข้อความมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” สำรวจห้องเสร็จก็เดินมานั่งลงบนเตียงก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อเช็กข้อความต่างๆ เมื่อพบว่าเป็นน้องชายอีกคนของเธอส่งข้อความมาแสดงความยินดีเธอถึงได้ยิ้มออกมาเธอตอบข้อความกลับไปและกดดูรูปถ่ายที่แอสตันส่งมาให้ มันเป็นภาพถ่ายรวมกันกับน้องสาวฝาแฝดของเจ้าตัว ซึ่งก็คือแอนนิสและเอมมี่ และใช่น้องเล็กทั้งสามคนของเธอเป็นฝาแฝดกัน ทั้งสามคนเป็นลูกชายลูกสาวของอาเจอาร์กับน้าเอด้าอาเจอาร์คือเพื่อนสนิทของบิดาเธอเอง ซึ่งงานวันนี้คุณอาก็มาร่วมงานด้วย จะมีก็แต่เจ้าแฝดสามที่ติดเรียนโทอยู่ที่อเมริกาจึงไม่สามารถเดินทางมาร่วมงานได้ ถึงได้ส่งข้อความมาหาเธอแทน คิดแล้วก็คิดถึงน้องเล็กทั้งสามคน ตอนนี้โตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันหมดแล้ว คงต้องรอให้ทั้งสามคนเรียนจบกลับมาถึงจะได้เจอกันบ่อยขึ้นครืด~ เสียงสั่นโทรศัพท์ที่ดังขึ้นติดๆ กันทำเอาฌาณาสะดุ้งเล็กน้อยเพราะเธอกำลังคิดถึงน้องๆ อยู่พอดี ซึ่งหลังจากที่เห็นว่าเป็นเพื่อนรักอย่างโยติกาโทรมา เธอก็รีบกดรับสายทันทีเพราะเธออยากพูดคุยกับเพื่อนอยู่เหมือนกัน“ฮัลโหลแก ฉันกำลังคิดถึงแกเลย มีเรื่องอยากคุยด้วยพอดี”(ฉันเองก็เป็นห่วงแก
เพนต์เฮาส์หลังจากงานแต่งงานเสร็จสิ้นทุกอย่างและส่งพ่อแม่ขึ้นเครื่องเพื่อเดินทางกลับญี่ปุ่น เคนเซก็กลับเพนต์เฮาส์ของตัวเองด้วยความเหนื่อยล้าเพราะแม้ว่างานครั้งนี้จะลดขั้นตอนต่างๆ ไปเยอะมาก แต่ทว่าเขาก็รู้สึกเหนื่อยกับงานที่ต้องเจอกับผู้คนที่ไม่รู้จักอยู่ดี มันสูบพลังงานเขาไปเยอะมากกว่าการรับผิดชอบดูแลงานที่ไนต์คลับอีก“นี่ หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ บอกเหตุผลมาก่อนว่าทำไมไม่ให้ลูกน้องฉันตามมาดูแลที่นี่ คิดจะให้ฉันอยู่ในความดูแลนายงั้นเหรอ?” น้ำเสียงหงุดหงิดของคนที่เดินตามเข้ามาในเพนต์เฮาส์ทำเอาเคนเซถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย เขาหันกลับไปมองคนตัวเล็กด้วยสายตานึกรำคาญอย่างเห็นได้ชัดด้านฌาณาเธอกอดอกมองเขาอย่างไม่พอใจเช่นเดียวกัน เพราะเขาไม่ยอมให้เธอเอาคนของบิดาตามมาดูแลที่นี่ เธอไม่ชอบอยู่ท่ามกลางคนที่ไม่คุ้นเคยเพราะไม่รู้จะเกิดอันตรายกับตัวเองหรือเปล่า ยังไงก็ต้องระวังตัวไว้ก่อน อย่างน้อยถ้ามีคนของเธอตามมาด้วยก็รู้สึกอุ่นใจมากกว่านี้ ถึงเธอจะดูแลตัวเองได้ก็ใช่ว่าจะสู้รบปรบมือกับผู้ชายอันตรายแบบเขาได้“หึ คนอย่างเธอไม่จำเป็นต้องมีคนดูแลหรอก อวดเก่งซะขนาดนี้ อีกอย่างที่นี่บ้านฉัน ฉันจะให้ใครอย







