Home / วาย / The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg) / ตอนที่ 7 พิษร้ายจากปีศาจ

Share

ตอนที่ 7 พิษร้ายจากปีศาจ

Author: Glita
last update Last Updated: 2024-12-13 13:34:27

          แสงตะวันสีเหลืองทองค่อยๆไต่ไล่แต่ละยอดตึกอย่างเชื่องช้า สีของมันทอเป็นประกายเฉกเช่นเดียวกับความดวงตาของชายร่างใหญ่

          ทว่าในห้องนอนสี่เหลี่ยมเล็กนั้นปิดทึบนั้นต่างจากภายนอกราวกับคนละโลก

          เด็กหนุ่มใบหน้าอิดโรยพยายามดันตัวให้ลุกขึ้นนั่งบนเตียงอย่างยากลำบาก ชายอีกคนยืนอยู่ปลายเตียงไม่มีทีท่าจะเข้าช่วยเหลือ มิหนำซ้ำยังมองเหยียดต่ำลงไปราวกับจ้องมองขยะที่ไร้ประโยชน์

          “ฉันชอบนาย” น้ำเสียงของอาร์เต้แหบพร่า

          “นายไม่ได้ชอบฉันจริงๆหรอกหนุ่มน้อย อีกไม่นานนายก็จะจำฉันไม่ได้ด้วยซ้ำ”

          “งั้นก็อยู่กับฉันต่อเรื่อยๆ ฉันจะได้จำนายได้”

          “ก็อยากอยู่นะ… แต่คงไม่ได้ นายอ่อนแอเกินไป”

          “จูบฉันสิ ฉันจะพิสูจน์ให้นายเห็นว่าฉันเข้มแข็งพอจะอยู่กับนาย”

          “น้ำลายของฉันมันก็ได้ผลแต่ชั่วคราว แต่พอหมดฤทธิ์แล้วนายจะแย่เอา

          “ใครสน!” อาร์เต้ปฏิเสธเสียงแข็ง “ฉันก็แค่อยากมีอะไรกับนาย ต่อให้ร่างกายนี้จะเป็นยังไงก็ช่าง”

          ดันเต้ได้แต่สั่นหัวเบาๆภายใต้เงามืด ในใจก็นึกโทษตัวเองที่น่าจะทิ้งอาร์เต้ไปให้เร็วกว่านี้ 

          ทั้งตัวของดันเต้ล้วนแต่เป็นพิษต่อระบบประสาทของมนุษย์ ทั้งกลิ่นหรือสารคัดหลั่ง หากได้รับเข้าไปเป็นระยะเวลานานอาการก็จะเพ้อเหม่อลอย ไม่เป็นตัวของตัวเอง เขาเป็นปีศาจที่หมายมั่นเก็บเกี่ยวเพียงพลังงานแห่งราคะ การมุ่งร้ายให้ถึงแก่ชีวิตนั้นไม่ใช่จุดประสงค์หลัก

          “สภาพของนายตอนนี้คงไม่ไหวหรอก ขืนทำกันอีกรอบนายไม่ได้แค่หมดเรี่ยวแรง แต่ลมหายใจรวยรินของนายก็อาจไม่เหลือ”

          “ฉันไม่สน ถ้าไม่มีนายฉันก็ไม่อยากอยู่หรอก”

          นัยน์ตาสีเหลืองทองทอแสงเป็นประกายเจิดจ้า กลิ่นหอมเหมือนยางไม้กระจายฟุ้งอบอวลทั่วห้อง ริมฝีปากหนาใหญ่ยกมุมขึ้นสูง “นายพูดเองนะ ฉันไม่ใช่พวกเทวดาที่จะปรานีดวงวิญญาณของมนุษย์เสียด้วยสิ”

          ชายร่างใหญ่คลานขึ้นเตียงอย่างเชื่องช้า เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่มอดไหม้กลายเป็นขี้เถ้าหายไปในอากาศ เหลือเพียงร่างกำยำเปลือยเปล่าพร้อมรอยสักตามเนื้อตัว

          ริมฝีปากหนาอวบบรรจงก้มลงต่ำ ประกบจูบกับเด็กหนุ่มจนแนบสนิท ความร้อนชื้นแทรกซึมจนอาร์เต้ต้องเปิดโพรงโอบรับปลายลิ้นให้เข้ามา

          น้ำลายเหนียวหนืดถูกสอดลอดไปพร้อมกับดุ้นลิ้น น่าแปลกที่มันมีรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัว จะว่าเหมือนของหวานก็ไม่เชิง จะว่าเหมือนของคาวก็ไม่ใช่เสียทีเดียว

          ความมึนงงในรสชาติถูกบดบังด้วยความใคร่ที่หลอมละลายปนกับน้ำลาย หัวใจอิดโรยของอาร์เต้กลับมาเต้นเร่าไม่เป็นจังหวะ ความอุ่นร้อนแผ่ซ่านปลุกชีวิตชีวา ใบหน้าเหี่ยวแห้งเปล่งปลั่งราวกลีบดอกกุหลาบ ทุกอย่างพลิกผันราวกับมีเวทมนตร์

          ภายในตื่นตัวอย่างเต็มแต่ดวงตากลับปิดสนิท อาร์เต้พยายามหายใจเพื่อพาตัวเองให้รอดพ้นการจูบที่ยาวนาน

          ชายร่างใหญ่ถอนริมฝีปากออก เขากระซิบกระซาบด้วยแก้มที่แดงอุ่น “แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ฉันคงคิดถึงนายแย่”

          ปลายลิ้นเปลี่ยนจุดเล้าโลม มันหันไปดุนดันรอบติ่งหู และขบกัดเบาๆเพื่อกระตุ้นอารมณ์

ริมฝีปากที่ยังไม่ปิดของอาร์เต้ส่งเสียงครางกระเส่า พลางพร่ำเพ้อโดยไม่รู้ตัว “อยู่กับฉันสิ ฉันให้นายได้ทุกอย่าง”

          “นายให้ฉันเกือบหมดแล้ว” ชายร่างยักษ์พ่นลมอุ่นๆข้างใบหูอ่อนไหว พลางยืดตัวขึ้นคร่อมช่วงไหล่ของอาร์เต้ “กลืนมันเข้าไปสิ แล้วฉันจะมอบความสุขครั้งสุดท้ายให้นาย”

          อาร์เต้แงะเปลือกตาอันหนักอึ้งขึ้น หัวไหล่ทั้งสองถูกยึดตรึงด้วยหน้าขาของอีกฝ่าย ริมฝีปากเปรอะไปด้วยคราบน้ำลาย

          ท่อนเอ็นขนาดใหญ่จ่ออยู่ตรงใบหน้าขาวนวล ส่วนปลายเปิดเพียงครึ่งเดียว ส่วนที่เหลือซุกซ่อนรอรับความเสียวกระสัน ลำตัวของมันอวบอ้วนโดยเฉพาะตรงกลางที่เป็นปล้องหนา

          “นายรู้ว่าต้องจัดการยังไงกับมัน”

          เจ้าท่อนตรงหน้าผงกหัวล้อเล่นอย่างสนุก ก่อนจะค่อยๆเคลื่อนต่ำลงใกล้ริมฝีปากที่เผยอกว้าง ลิ้นเด็กหนุ่มแลบยาวออกมาเป็นการต้อนรับ ในขณะที่ส่วนหัวขี้อายค่อยๆยืดขยายออก

          ปลอกที่ห่อหุ้มโดนลอกออกอย่างช้าๆด้วยมือเนียนนุ่ม อาร์เต้ค่อยๆขยับริมฝีปากรุกคืบท่อนลำทีละนิดอย่างระมัดระวัง ด้วยขนาดใหญ่โตขนาดนี้หากผลีผลามเพียงนิดเดียว คงโดนฟันจนเสียอารมณ์เป็นแน่

          “อืมๆ” ชายหนุ่มร่างสูงโน้มต่ำ เสียงครางในลำคอบ่งบอกว่าเขาพึงพอใจกับกิจกรรมลามกด้านล่าง “เพราะอย่างนี้ฉันถึงได้ชอบนายยังไงล่ะ นายรู้จักรับมือกับของไซซ์นี้”

          ถึงแม้จะพูดไม่ได้แต่อาร์เต้ก็ส่งภาษากายเป็นการตอบรับคำชม แก้มกลมป่องๆตอบลงพลางดูดกลืนท่อนยักษ์ในมืออย่างมูมมาม

          “ฉันคงเสียดายแย่ถ้าคนคนนั้นไม่เด็ดเท่านาย” ชายร่างใหญ่ประคองศีรษะของอีกฝ่ายในมือ ก่อนค่อยๆกดเข้าหาตัวอย่างช้าๆ

          “อึก” อาร์เต้พยายามขยายช่องคอให้ทันกับการสอด ลมหายใจเริ่มขาดห้วง

          “อีกนิดคนเก่ง นั่นแหละ… ดีมาก! อืม”

          ทุกๆตารางนิ้วที่ท่อนยักษ์โดนดูดกลืนหายเข้าไปในช่องปาก ชายร่างโตก็จะผ่อนลมหายใจหนักหน่วงออกมา แววตาทอประกายสีเหลืองเด่นชัดแข่งกับแสงแดดภายนอก

          ปลายจมูกเชิดสูงชนเข้ากับท้องน้อย น้ำตาของอาร์เต้ก็รื้นจนไหล ช่วงคออัดแน่นจนการกลืนน้ำลายเป็นไปแทบไม่ได้

          “ผ่านส่วนที่ยากที่สุดไปแล้ว ที่เหลือฝากนายจัดการต่อให้หน่อยนะ”

          ชายหนุ่มเอวบางรู้งานเป็นอย่างดีๆ เขาค่อยๆคายสิ่งที่กินไม่ได้ออกทีละน้อยจนเกือบสุด แล้วกลืนมันกลับลงไปใหม่

          คราบของเหลวเลอะเปรอะจนทั่วริมฝีปาก กรามเกร็งค้างเอาไว้จนเกือบสุด ความทรมานเหล่านี้กลับสร้างความสุขให้กับอาร์เต้จนหยุดไม่ได้

          ยิ่งเพิ่มจังหวะให้เร็วเด็กหนุ่มก็ยิ่งรู้สึกถึงสารบางอย่างในร่างกายที่ปะทุอยู่ภายใน ผสมรวมเข้ากับเสียงครางนุ่มทุ้มแล้วก็รู้สึกได้เลยว่าตัวเองขาดความรู้สึกนี้ไปไม่ได้

          “ใกล้แล้วที่รัก อ้า!” ถึงตัวจะสูงใหญ่และดูแข็งแรง แต่ร่างตระหง่านนี้ก็เริ่มอ่อนยวบยาบ “รู้ใช่ไหมถ้านายอยากได้ของดี นายต้องพยายามมากกว่านี้อีกหน่อย”

          “ออ” อาร์เต้เพิ่มความเร็วพลางใช้มือช่วยชักรูด

          ขนาดที่ขยายใหญ่อยู่ในลำคอนั้นทำให้ชายหนุ่มรู้ว่า เวลาปะทุใกล้มาถึงแล้ว

          ความสุภาพกลายเป็นสิ่งไร้ค่าเมื่อใกล้ถึงช่วงเวลาสำคัญ มือหยาบหนาจับหัวของเด็กหนุ่มโขกเข้ากับหน้าท้องไม่เป็นจังหวะ บั้นท้ายหนาแกร่งก็พลางเด้งส่งท่อนเนื้อเข้าปากไปจนสุดโคน

          น้ำตาของอาร์เต้ไหลพราก ช่องคออุ่นจนแทบเผาไหม้ ความขมขื่นอันแสนหวานทำให้เด็กหนุ่มหลงใหลอยู่ในวังวนแห่งความสุขสม

          การกระแทกอย่างดุดันถี่รัวจนเข้าสู่ห้วงสูงสุดของจังหวะ หลอดเลือดทั่วทั้งร่างเปิดขยายจนกว้าง ชีพจรสูบฉีดจนภายในเริ่มระเบิด

          “ซี้ด!” ดันเต้ขบกันฟันกรามไว้แน่น ดวงตาปิดแน่นจนมืดสนิท “โอ้ะ… อ้า!”

          เมือกเหนียวขุ่นทะลักออกมาดับความรุ่มร้อน อาร์เต้พยายามกลืนมันเข้าไปจนหมดอย่างหื่นกระหาย ดวงตาเปียกชุ่มน้ำตาเบิกโพลง

          ลาวาสีขาวขุ่นที่ปะทุจากปากปล่องมหึมาไหลเยิ้มจากริมฝีปาก ดันเต้ก้มมองภาพลามกนี้อย่างพึงพอใจ เขาใช้หัวแม่มือของตัวเองเช็ดคราบเลอะเทอะนั้น

          ทว่าเด็กหนุ่มผู้ซุกซนไม่ยอมให้ของล้ำค่าจากตัวชายหนุ่มเสียเปล่า เขาดึงมือหนาใหญ่เข้าใกล้ใบหน้า จ้องมองดวงตาของดันเต้ในขณะที่ดูดกลืนนิ้วมือสีเข้มทีละนิ้วจนสะอาด

          “นายรู้ใช่ไหม? ว่าฉันชอบรอบสองที่สุด” พูดจบอาร์เต้ก็เปิดปากโชว์ความสะอาดเรียบร้อยภายใน 

          ชายร่างใหญ่ยิ้มกรุ้มกริ่ม เขียวซี่งามปรากฏออกจากรอยยิ้ม “เหลือเชื่อที่นายทนฉันได้นานขนาดนี้”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 67 มุมมองที่ต่างกัน

    “ทวดของผม” โพรงปากของเด็กหนุ่มอ้าค้างจนมองเห็นลิ้นไก่ข้างในลึกสุด “นี่พี่เกิดสมัยอยุธยาเป็นเมืองหลวงเลยไหมเนี่ย?” “ไม่นานขนาดนั้น” เสียงหัวเราะร่วนของเป็นเอกดัง “พี่เกิดหลังทวดของนายไม่กี่ปี ปี พ.ศ. สองพันสี่ร้อยกว่าเห็นจะได้” “แล้วพี่เป็นใครกันแน่?… ผีบรรพบุรุษส่งให้พี่มาดูแลตระกูลของผมหรือยังไง?” “ฉันว่าเรื่องของนายเหลือเชื่อกว่าเรื่องของฉันอีก” ยังไม่ทันจะต่อความยาวสาวความยืด เสียงฝีเท้าตึงตังก็ดังมาจากบันไดไม้ หญิงสาวแรกรุ่นพรวดพราดเข้ามาในห้องนอนที่ชายทั้งคู่อยู่ เธอกระโจนเข้าหาเป็นเอกและสวมกอดรอบคอจนแน่น “คิดถึงคุณลุงจัง” น้ำเสียงของหญิงสาวสดใสพอกันกับหน้าตา ดวงตาของเธอสุกใสเป็นประกาย ผิวหนังเนียนหนุ่มอ่อนเยาว์สมกับการเป็นสาวแรกรุ่น “คิดถึงลุงหรือคิดถึงของฝากกันแน่” มือของชายผู้แก่กว่ามากลูบศีรษะอย่างเอ็นดู “ก็ต้องคิดถึงคุณลุงอยู่แล้วสิคะ” “ถ้าอย่างนั้นวันนี้ลุงไม่มีของฝาก นิดหน่อยก็จะยังคิดถึงลุงอยู่ใช่ไหม?” หญิงสาวตัวเล็กยืดตัวขึ้นทำแก้มป่อง “ไม่มีจริงเหรอ?”

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 66 เพื่อนเก่าเพื่อนแก่

    ไม่ได้มีโอกาสบ่อยนักที่อาร์เต้จะได้อ้าแขนกอดรับดวงอาทิตย์ยามสาย ถึงมันออกจะร้อนสักหน่อยก็เถอะแต่สำหรับชายหนุ่มที่ไม่ค่อยชอบชีวิตช่วงกลางคืนเท่าไหร่นัก นี่ก็นับว่าเป็นคุ้มค่าที่จะแลก หลังจากได้ฟังเรื่องราวอันไกลเกินขอบเขตของความเชื่อมาแล้ว แววตาของอาร์เต้ตอนมองเป็นเอกกลับไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไหร่ หากไม่ใช่เพราะยังไม่เชื่ออย่างสมบูรณ์แบบบ ก็คงเป็นเพราะอคติบางอย่างที่สร้างความเอนเอียง ความรู้สึกในใจของชายทั้งสองไม่อาจถูกคั่นกลางด้วยสิ่งแปลกปลอม ระยะห่างระหว่างกันยังคงเส้นคงวา ไม่อาจใกล้มากกว่านี้หรือถอยห่างจากที่เป็น ถึงหมุดหมายของทริปนี้เป็นเอกจะบอกไว้ว่าเป็นการออกตามหาความจริง ทว่าอาร์เต้มองแตกต่างออกไป เขาคิดเงียบๆ อยู่คนเดียวว่าการเดินทางครั้งนี้เป็นเสมือนการออกเดตนอกสถานที่ครั้งแรกของพวกเขา นั่นเลยช่วยทำให้รู้สึกดีมากกว่ากังวล อาร์เต้ไม่เอ่ยถามถึงจุดหมายปลายทาง เขารู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่ยอมพูดอะไรแน่นอน ซึ่งเป็นเอกก็คิดเช่นนั้น ชายแก่ในร่างหนุ่มคิดไว้ว่าการอธิบายกลางอากาศอย่างเดียว คงไม่หนักแน่นพอจะยืนยันทุกอย่าง ท้องฟ้าปลอ

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 65 เริ่มนับเวลาถอยหลัง

    เมื่อความสุขสุดขีดพุ่งสูงจนทะลุหลอด ความเหนื่อยล้าก็เข้ามาห่อหุ้มร่างกึ่งเปลือยเปล่าของเด็กหนุ่ม หน้าอกภายใต้เสื้อตัวบางกระเพื่อมหนักหน่วง ริมฝีปากเผยออ้าเติมอากาศเข้าไปทดแทนกับที่ขาดหาย ใบหน้าฝาดก่ำด้วยสีเลือดสดๆ และเข้มมากขึ้นไปอีกเมื่อนึกถึงความดังของเสียงที่เพิ่งเปล่งออกไป ท่อนล่างโล่งโจ้งเลอะเทอะด้วยคราบของเหลวจากร่างกาย ในใจของมิวร้องตะโกนกู่ก้องเมื่อความรู้สึกที่อัดอั้นถูกระบายออกมาได้เสียที นั่นเป็นสิ่งประจักษ์แน่ชัดแล้วว่า ร่างกายและความเป็นชายได้กลับเป็นปกติอย่างที่ควรจะเป็น ทว่าก็ยังรู้สึกติดค้างบางอย่างแถวก้นบึ้งของจิตใต้สำนึก รอยยิ้มกางกว้างบนใบหน้าเรียวงาม เด็กหนุ่มรีบจัดแจงตัวเองให้เรียบร้อย ด้วยกลัวจะมีใครเปิดประตูเข้ามา การโดนมองเห็นไม่น่าหนักใจเท่ากับการโดนล้อ มิวนึกออกว่าดันเต้จะพูดอะไรบ้างหากเห็นสภาพของเขาในตอนนี้ ‘ไม่คิดจะชวนกันสักหน่อยเหรอ?’ ‘ทำไมนายถึงหนีมาสนุกคนเดียวล่ะ!’ ‘อีกรอบไหม?’ ‘คิดถึงดุ้นยักษ์ของฉันล่ะสิ!’ น้ำเสียงทะลึ่งตึงตังรวมกับสีหน้าหื่นกระหายของดันเต้ ผุดขึ้นมาใน

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 64 กลับไปใช้งานได้

    ความเงียบบรรเลงดนตรีกระซิบข้างใบหู ความเหนื่อยล้าขับกล่อมท่วงทำนองยืดยานจนชายหนุ่มหลับใหลไปอย่างง่ายดาย พื้นที่แสนปลอดภับโอบกอดมิวเอาไว้แน่นไปถึงความฝัน ชายหนุ่มทิ้งความหวาดระแวงเอาไว้ข้างเตียง และปล่อยความอิสระให้คืนสู่จิตใจ เวลาในกำมือหมดไปอย่างรวดเร็ว จนแอบนึกเสียไม่ได้ว่าสิ่งล้ำค่านี้ไม่เคยเพียงพอในหนึ่งชีวิต… ร่างกายของมิวนั้นฟื้นฟูได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งความเหนื่อยล้าหรือบาดแผลบนร่างกาย อันที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องนอนเลยด้วยซ้ำหากในตัวมีเมล็ดพันธุ์ปีศาจอยู่ ความรู้สึกเบาสบายจากห้วงนิทราถูกความร้อนตรงท้องทำลาย เด็กหนุ่มกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ ลำตัวบิดงองุ่นง่าน การข่มตาให้หลับกลายเป็นเรื่องยากขึ้นทุกที การโดนร่างกายของตัวเองรังควานสร้างความหงุดหงิดนิดๆ มิวลืมตาตื่นนั่งพิงหัวเตียง ดวงตาแจ่มใสทั้งที่เพิ่งนอนไปได้แค่สองชั่วโมง ด้านล่างของลำตัวร้อนรุ่มอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนบาง ปลายเท้าบิดงอเข้าหากัน ต้นขาหนีบแน่นจนสะโพกเกร็ง อาการวูบวาบแผ่ซ่านจากศูนย์รวมความรู้สึกไปยังเส้นประสาท ดวงตาของมิวหั

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 63 กาลเวลาที่ยืดหดได้

    เบื้องบนโปรยแสงรำไรออกมาจากมาจากรูโหว่อันดำมืดของท้องฟ้า เช้าวันใหม่นี้แสนอึมครึมไม่สดใส ส่งผลโดยตรงต่อจิตใจให้ขมุกขมัว หัวงมหรรณพแห่งเวลาสงบเสงี่ยมเฉกเช่นหนุ่มน้อยหน้าตาใสซื่อ ปกติท่าทีของอาร์เต้จะกระโดกกระเดกไม่เรียบร้อย บัดนี้กลับสงวนกิริยาขัดจากนิสัยปกติราวกับเป็นอีกคน อาจเพราะเขาถนัดการซ่อนมุมจริงจังเอาไว้เพื่อบดบังตัวตน จึงมีน้อยคนจะเคยได้เห็นอีกด้าน “ที่จริงแล้วพี่เลือกจะโกหกต่อไปก็ได้ แต่พี่ไม่อยากทำ” ชายวัยกลางคนนั่งบนโซฟาที่คุ้นเคย สายตาจับจ้องร่างเด็กกว่าตรงกันข้ามด้วยความสับสน หลังจากพยายามเลี่ยงการเปิดปากตอนอยู่ในรถอยู่นาน เขาก็มาถึงสถานที่เหมาะแก่การคายทุกอย่างออกมา “พี่รู้ว่ามันอาจจะฟังแล้วเหลือเชื่อไปหน่อย แต่พี่ก็อยากให้อาร์ตเปิดใจ” หนุ่มน้อยเอียงคอสงสัย ปกติเป็นเอกเป็นคนขึงขังอยู่แล้ว ยังมีเรื่องอะไรที่ทำให้ผู้จัดการร้านคนนี้หัวเสียได้มากกว่าเดิมอีกเหรอ “ผมเปิดใจให้พี่อยู่แล้ว… พี่รู้ใช่ไหม?” “แต่เรื่องที่พี่จะเล่ามันจะเปลี่ยนความคิดของนายที่มีต่อพี่ไปเลย” นี่คือสิ่งที่อาร์เต้ไม่ชอบ

  • The bonding wings เสน่หาพันธะปีศาจ (Mpreg)   ตอนที่ 62 ความจริงที่พูดไม่หมด

    การโดนสปอยด์ตอนจบไม่น่าอภิรมย์ของพิธีกรรมปีศาจที่ได้ยินจากปากของกามเทพ เป็นสิ่งที่มิวพกติดตัวออกจากห้องคุมขังมาด้วย หากเป็นก่อนหน้านี้เด็กหนุ่มคงดวงตาเบิกโพลง จิตใจแช่มชื่นเมื่อรู้ว่าตัวเองมีส่วนพัวพันกับเรื่องราวลี้ลับที่น้อยคนจะได้พบเจอ ตอนนี้ทุกอย่างตาลปัตรกลับด้านชวนใจหาย เขาเริ่มหวาดกลัวในสิ่งเหนือธรรมชาติที่ไม่อาจคาดเดาได้ และโทษที่ตัวเองคิดน้อยเกินไป บนถนนที่แออัดไปด้วยรถยนต์อุ่นหนาฝาคั่ง ในห้องโดยสารนั้นกลับอึดอัดมากกว่าข้างนอกนั่นหลายเท่า การหายใจไม่อาจทั่วท้องเมื่อต้องนั่งชิดติดอยู่กับความหงุดหงิด บรรยากาศธรรมดาที่สามารถพบเจอได้ทุกวัน ท้องฟ้าขมุกขมัวสาดไปด้วยแสงของดวงดาว เสียงบีบแตรและไฟท้ายของรถที่สะท้อนเข้าดวงตา ทุกอย่างในการมองเห็นตอนนี้กลับพิเศษเมื่อเด็กหนุ่มขาดหายไปหลายวัน ปกติมิวไม่ค่อยชอบคนขับรถที่ซอกแซกชีวิตส่วนตัวของผู้โดยสาร ยกเว้นวันนี้… เขารู้สึกอยากกดทิปให้หลายร้อยบาทเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณที่ช่วยให้สมองวุ่นวายได้คิดเรื่องอื่นบ้าง คำพูดยาวเหยียดก่นด่าไปทั่ว ตั้งแต่ลม ฟ้า อากาศ รวมไปถึงปัญหาค่าครองชีพถูกยัด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status