อะไรวะเนี่ย กูอยากจะบ้าตายวันล่ะหลายหน แค่จะวิ่งเข้าไปหลบสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างกับฟ้าโกรธใคร แต่แค่เปิดประตูร้านคาเฟ่อยู่ ๆ เขาก็โดนส่งเข้าไปเกิดเป็นเพื่อนพระเอกในนิยายวายที่อ่านจบไปนานแล้ว แถมยังมีระบบที่คอยสั่งให้เขาที่เป็นเพียงแค่ตัวประกอบให้คอยด่าคอยสั่งสอนอีตาพระเอกจอมเสเพลและเจ้าชู้นี้ให้เข้ารูปเข้ารอยและหันไปสนใจน้องนายเอกผู้น่ารัก แล้วที่สำคัญเลยอีตาพระรองที่แอบชอบน้องนายเอกผู้แสนน่ารักใสซื่อควรจะสนใจน้องเหมือนเดิม ดันหันมาสนใจเขาเพียงเพราะเจอสกิลปากที่เขาด่าสั่งสอนอีตาพระเอกซะนี้....โอ๊ยยยไอ้เขมหัวจะปวด
View Moreซ่าาาาา ซ่าาาาา
เสียงของสายฝนเทกระหน่ำร่วงหล่นลงจากฟ้าสู่พื้นดินที่แห้งให้เปียกชื้น ท้องฟ้าที่เคยโปร่งแสงบัดนี้เต็มไปด้วยเมฆหนาครึ้มเคลื่อนตัวมาบดบังพระอาทิตย์จนไม่เห็นแสง ทั้งไหนจะสายลมเย็นที่สงบอยู่ ๆ ก็พัดกรรโชกเหล่าต้นไม้ให้ไหวเอนไปตามทิศทางของแรงลม เหล่าผู้คนที่เดินพลุ่งพล่านก็ต่างพากันสาวเท้าออกวิ่งหาที่หลบสายฝนจ้าละหวั่น
ซึ่งหนึ่งในคนที่กำลังวิ่งหาที่หลบสายฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างกับฟ้ารั่วก็มีช่างภาพหนุ่มวัย30อย่าง เขม หรือ เขมกร ก้องวัฒนะกุล ที่พึ่งจบงานถ่ายภาพนายแบบชื่อดังอย่าง คุณที ก็กำลังวิ่งเหลียวหาที่หลบฝนเช่นกัน ด้วยกลัวว่ากล้องราคาแพงที่เขาแบกใส่กระเป๋ามาด้วยจะเปียกเอา
"จะมาตกทำห่าอะไรตอนนี้วะ...แม่งเอ๊ยยยให้กูถึงบ้านก่อนก็ไม่ได้ ตาย ๆ กล้องกูจะเปียกไหมเนี่ยยย"
เขมหรือเขมกรสบถบ่นออกมาอย่างหัวเสียสายตาก็สอดส่องมองหาพื้นที่ที่พอจะบังฝนให้เขาได้ แต่ถึงกระนั้นเขมมองหาจนทั่วแล้วก็ไม่มีตรงไหนเลยที่พอจะเป็นที่หลบฝนให้เขาได้ แต่ทว่าเขมที่กำลังหัวเสียที่หาพื้นที่หลบฝนไม่ได้ สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นร้านคาเฟ่เล็ก ๆ ที่เขาไม่คุ้นตาเอาซะเลยตั้งอยู่ไม่ไกลจากตรงที่เขายืนอยู่
"มาเปิดตอนไหนวะ เดินผ่านก็บ่อยทำไมไม่เคยเห็นเลย"เขมบ่นออกมาเสียงเบาอีกครั้งพลางหัวคิ้วทั้งสองก็ขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างนึกสงสัย ก่อนที่ไม่นานเท้าที่สวมรองเท้าผ้าใบสีขาวที่ตอนนี้เปียกชื้นจะก้าวเร็ว ๆ ตรงไปยังคาเฟ่ที่ตัวเขาไม่คุ้นตาเลยสักนิด พลันในหัวก็สบถบ่นไม่หยุด
ช่างแม่งเหอะ ตอนนี้ต้องเอาตัวเองให้รอดก่อน ถ้ากล้องพังมึงซวยแน่ไอ้เขมกร
คิดเพียงเท่านั้นเขมกรก็สาวเท้าเร็วตรงไปคาเฟ่เล็ก ๆ นั้นทันที วิ่งไม่นานตัวของเขมกรก็มาถึงหน้าประตูร้านคาเฟ่และทันทีที่เห็นป้ายชื่อร้านหัวคิ้วของเขมกรก็ขมวดมุ่นเข้าหากันอีกครั้งพลางภายในหัวก็ผุดความคิดขึ้นมา
ตั้งชื่อร้านแปลกจังวะ ร้านคาเฟ่เกิดใหม่อาทิตย์ครองจันทร์ เนี่ยนะ แต่จะว่าไปมันก็เข้าท่าดีนะชื่อร้านน่าจะดึงดูดลูกค้าน่าดู แต่จะว่าไปชื่อร้านทำไมมันดูคุ้น ๆ จัง
ไม่คิดมากไปกว่านี้มือของเขมกรก็เอื้อมไปผลักประตูร้านให้เปิดออกและทันทีที่ประตูได้เปิดขึ้น แสงสว่างจ้าก็พวยพุ่งตรงมายังคนที่เปิดประตูทันที อีกทั้งร่างกายของเขมก็เหมือนถูกกระชากให้เข้าไปด้านในอย่างแรง
เขมที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็ทั้งตกใจและมึนงงไปหมดไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง มาตั้งตัวได้อีกทีก็ตอนที่ตัวเองหล่นตุ๊บลงมาในห้องที่เย็นเฉียบและล้อมรอบไปด้วยความมืด จะมีก็เพียงหน้าจอบ้าอะไรก็ไม่รู้ที่โชว์ประวัติของใครก็ไม่รู้อีกนั่นแหละให้เห็น แต่ทว่ารูปผู้ชายที่อยู่ในหน้าจอบ้านั้นกลับเรียกสายตาให้เขาหันไปสนใจ
เพราะรูปที่โชว์ในหน้าจอนั้นมันเป็นรูปของเขา
"เหี้ยอะไรวะเนี่ย! อย่างกับการ์ตูนอนิเมะที่พระเอกตายแล้วไปเกิดใหม่ในต่างโลกเลย นี่กูฝันอยู่เหรอวะ"
เพียะ!
เขมบ่นออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อกับสถานการณ์ที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ ทั้งยังยกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเองอย่างแรงจนดังเพียะ เพื่อที่จะพิสูจน์ดูว่าตัวเองนั้นกำลังฝันอย่างที่คิดไหม และปรากฏก็ต้องทำให้เขมผิดหวังเพราะทันทีที่ฝ่ามือกระทบลงบนแก้มความเจ็บของแรงตบก็ทำให้เขาร้องออกมาทันที
"โอ๊ย! ไอ้เหี้ยยยเจ็บฉิบหายเลย นี่กูไม่ได้ฝันไปอย่างนั้นเหรอวะ"
ความกังวลและความวิตกเริ่มก่อตัวขึ้น เมื่อเขมรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองเจออยู่ในตอนนี้มันไม่ใช่ความฝัน เขมกรเริ่มกวาดสายตามองพื้นที่โดยรอบอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็เจอเพียงแค่ความมืดและหน้าจอที่แสดงสถานะชื่อตัวละครให้เขาเห็นเพียงเท่านั้น
"โว้ยเหี้ยอะไรของชีวิตกูเนี่ย!"เขมกรสบถร้องออกมาอย่างหัวเสียอีกครั้งพลางมือทั้งสองก็ยกขึ้นมาขยี้หัวตัวเองเพื่อระบายอารมณ์หงุดหงิด แต่สุดท้ายเขมที่ไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดีเขาก็ได้แต่สงบสติอารมณ์ตัวเองและหันไปสนใจหน้าจอตรงหน้าและเริ่มอ่านประวัติตัวละครบนหน้าจอ
"ชื่อเล่นข้าวตัง อายุ30ปี อายุเท่ากับกูเลยโอ๊ะ ส่วนสูง179เท่ากูด้วยแถมอาชีพยังเป็นช่างภาพอิสระแบบกูอีก หน้าตาเหมือนกูไม่พออาชีพและความชอบยังเหมือนกูอีก แล้วนี่อะไร สถานะตัวละครนี่มันตัวประกอบไม่ใช่เหรอไง"
"ไม่ใช่ค่ะ เป็นเพื่อนพระเอก"
"เหี้ย! ใจกูแทบวาย"อยู่ ๆ เสียงระบบก็ดังขึ้นทำให้เขมกรที่กำลังสนใจเกี่ยวกับประวัติตัวละครอยู่นั้นสะดุ้งตกใจ ก่อนที่จะเอ่ยพูดขึ้นอีกครั้ง"แล้วไอ้เพื่อนพระเอกมันไม่ตัวประกอบตรงไหนอ่ะ"
"ไม่ค่ะ ตัวละครข้าวตังในเรื่องอาทิตย์ครองจันทร์ถือว่าเป็นตัวละครหลักอีกตัว เพราะมีบทบาทพอ ๆ กับพระเอกนายเอกค่ะ"
"บทบาทอะไร"เขมถามขึ้นด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง พลางในหัวก็นึกคิดว่าทำไมเขารู้สึกคุ้น ๆ ชื่อเรื่องที่ระบบได้เอ่ยขึ้นมาจัง ก่อนที่ไม่นานเขมจะอ๋อขึ้นมาในใจ
เมื่อเขานึกออกแล้วว่าชื่อเรื่องที่ระบบเอ่ยมานั้น มันเป็นนิยายวายที่ตัวของเขมเคยอ่านเมื่อตอนที่ยังเรียนมหาวิทยาลัย จนเขาแทบจะลืมเนื้อหาไปหมดแล้ว เขมจำได้เพียงแค่ว่าพระเอกเรื่องนี้ชื่อว่าอาทิตย์และนายเอกชื่อวันจันทร์ ที่จำชื่อสองคนนี้ได้เพราะมันเป็นชื่อเรื่องด้วยอะนะ
และที่เขมจำได้อีกอย่างก็คืออีตาอาทิตย์พระเอกเรื่องนี้มันเพลย์บอยจัด ๆ ควงหญิงควงชายไม่ซ้ำหน้าในแต่ละวัน ส่วนคุณน้องวันจันทร์ก็เป็นนายเอกตามฉบับนิยายเลย ก็คือใสซื่อบริสุทธิ์ผุดผ่อง ใสซื่อจนกูที่เป็นคนอ่านเนี่ยเหนื่อยใจว่าทำไมคุณน้องถึงได้ร๊ากรักอีตาพระเอกแสนห่วยแตกขนาดนี้ ถ้าเป็นพี่นะ พี่หนีไปเอาพระรองที่น่ารักแสนดีและดูแลเอาใจใส่น้องดีกว่า
แต่ก็อย่างว่าแหละนายเอกนิยายส่วนใหญ่ก็มักจะชอบผู้ชายแบด ๆ กันอ่ะนะ เออจะว่าไปคิดเพลินไปหน่อยจนลืมสนใจคุณระบบเขาเลย
"บทบาทคอยด่า เอ๊ย..คอยตักเตือนพระเอกให้หันมาสนใจและเอาใจใส่นายเอกค่ะ"
สิ้นประโยคคำพูดของระบบ เขมกรก็ยืนนิ่งไปสักพักภายในหัวก็ประมวลผลกับประโยคเมื่อกี้ อะไรนะ เมื่อกี้เขาได้ยินระบบบอกว่าตัวละครข้าวตังต้องคอยอะไรนะ คอยด่าอีตาพระเอกใช่ไหม?
"แล้วคือยังไง แล้วทำไมผมต้องมารู้เรื่องพวกนี้ด้วย แล้วอีกอย่างนะทำไมผมถึงได้มาอยู่ที่นี่ คุณส่งผมกลับไปเหมือนเดิมเลยนะ"เขมเริ่มโวยวายออกมา เมื่อเขาไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องมาอยู่ตรงนี้และยิ่งเริ่มจะหงุดหงิดขึ้นทุกทีเมื่อไอ้คุณระบบมันเอ่ยว่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ มันเป็นเพราะเขาตัดสินใจมาด้วยตัวเอง
"ไม่ได้ค่ะ ตัวละครที่คุณเห็นอยู่ในตอนนี้ คือตัวละครที่คุณต้องเข้าไปสวมบทบาทเป็นเขา และที่คุณถามว่าทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ นั้นก็เป็นเพราะคุณเลือกที่จะเปิดประตูเข้ามาเองเราไม่ได้บังคับคุณ ซึ่งถ้าคุณอยากจะกลับไปที่โลกเดิมของคุณ คุณก็ต้องทำให้เนื้อหานิยายจบสมบูรณ์ นั้นคือทำให้อาทิตย์พระเอกของเรื่อง รักและซื่อสัตย์กับวันจันทร์ที่เป็นนายเอกเพียงคนเดียว"
ฟังจบเขมกรก็ยืนตกตะลึงอ้าปากค้างกับสิ่งที่ตัวเองได้รับรู้ แต่ยังไม่ทันที่เขมกรจะได้โต้แย้งหรือปฏิเสธอะไรออกไป เสียงของคุณระบบก็เริ่มเอ่ยพูดขึ้นอีกครั้ง แล้วในครั้งนี้ก็แจ้งเกี่ยวกับการที่จะส่งตัวของเขาเข้าไปในนิยายเรื่องที่เขาจำเนื้อหาแทบไม่ได้แล้วนี่สิ!
"ระบบกำลังจะเริ่มต้น โปรดเตรียมตัวให้พร้อม"
"เหี้ย ๆ ๆ ๆ เดี๋ยวก่อนสิเดี๋ยวก่อน! ไอ้ระบบเหี้ยเอ๊ยคอยดูนะ กูจะด่าพระเอกของมึงให้มันหาทางกลับบ้านไม่เจอเลย!"
"นี่มัน..."ทันทีที่รถคันหรูจอดเทียบข้างรั้วบ้าน2ชั้นแถบชานเมือง ดวงตาของเขมกรก็จ้องมองอย่างตกตะลึงพลางริมฝีปากก็สบถออกมาเสียงเบา ก่อนจะเงียบไปไม่ได้เอ่ยความคิดในหัวออกมา นี่มันเหมือนกับบ้านของข้าวตังในโลกนิยายเปี๊ยบเลยนัยน์ตากลมทอดมองออกไปนอกกระจกรถ คิ้วเรียงสวยทั้งสองขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างนึกสงสัยว่าทำไมบ้านหลังนี้ถึงได้เหมือนบ้านของข้าวตังตัวประกอบในนิยายได้ขนาดนี้ แล้วคุณทีรู้จักบ้านหลังนี้ได้อย่างไรแล้วทำไมถึงได้พาเขามาที่นี่กัน หรือว่าคุณทีจะจำเรื่องทุกอย่างได้แล้วจริง ๆในหัวของเขมกรเกิดคำถามขึ้นมามากมายพลางความทรงของเขากับธีโอที่เคยใช้ชีวิตในบ้านของข้าวตังตอนอยู่ในโลกนิยายก็ผลุดแล่นขึ้นมาในหัวไม่หยุดหย่อน ยามเมื่อสอดสายตามองเข้าไปในบ้านหลังนี้ที่คล้ายคลึงกับบ้านในนิยายเหลือเกิน"เข้าไปดูข้างในบ้านกันเถอะครับ"เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นเรียกสติให้เขมกรหลุดจากภวั
ภายในร้านคาเฟ่อาทิตย์ครองจันทร์เขมกรนั่งเหม่อลอยทอดสายตามองออกไปด้านนอกอย่างไร้จุดหมาย ในหัวก็คิดถึงเรื่องที่รับรู้แน่ชัดแล้วว่าคุณทีและธีโอนั้นเป็นคนเดียวกัน เพราะเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนหน้าอเดลได้เล่าให้เขาฟังว่าคุณทีเองก็ได้เข้าไปสวมบทบาทเป็นธีโอในนิยายอย่างที่เขาสงสัยแต่ทว่ากรณีของคุณทีเป็นเพียงเหมือนการโดนดึงจิตเข้าไปสวมบทเป็นตัวตนนั้นจริง ๆ ไม่เหมือนกับเขาที่โดนดึงเข้าไปทั้งตัวตน จึงทำให้เมื่อนิยายจบบริบูรณ์เจ้าตัวจะไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับโลกนิยาย จะจำเรื่องราวได้เพียงเลือนรางเหมือนกับว่าตัวเองนอนแล้วฝันไป ต่างกับตัวเขาที่จำได้แล้วก็รับรู้หมดทุกอย่าง"เฮ่อ..."เขมกรถอนหายใจเฮือกใหญ่ในหัวก็ยังคิดไม่ตกกับเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้น รวมไปถึงเรื่องเจ้าของร้านคาเฟ่แห่งนี้ ที่ในตอนนี้ยังคงทำตัวเฉยเมยอย่างกับเรื่องที่ตัวเองต้องพบเจอเป็นเพียงเรื่องธรรมดาทั่วไป ทั้งที่เรื่องที่ตัวเองต้องกลายเป็นมนุษย์นั้นมันเรื่องใหญ่ฉิบหายเขมกรหันมามองอเดลที่เก็
กรุ๊ง กริ๊งเสียงกระดิ่งประตูร้านคาเฟ่ดังขึ้นในช่วงหัวค่ำ เป็นสัญญาณให้เจ้าของร้านรับรู้ได้ว่ามีบุคคลใหม่มาเยือน อเดลวางเศษเสี้ยวของบางสิ่งบางอย่างในมือลงบนโต๊ะแล้วยืนหลังตรงหันหน้าไปมองชายร่างโปร่งผมยาวมีดวงตาและผมสีม่วงเช่นเดียวกับเขาในเมื่อก่อนใช่อ่านไม่ผิดหรอกในตอนนี้สีผมและดวงตาของอเดลได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว เปลี่ยนไปเกือบจะเหมือนมนุษย์โลกทั่ว ๆ ไป นัยน์ตาสีดำอมม่วงเล็กน้อยทอดมองเพื่อน? เรียกว่าเพื่อนได้ไหมนะ เพราะที่โลกระบบของพวกเขานั้นต่างก็พากันไร้ความรู้สึกนึกคิด ไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายกับอะไรเลยแม้แต่น้อย จะให้มามีความผูกพันฉันมิตรก็ยิ่งแล้วใหญ่ 10ปี100ปีนี่พูดคุยกันแทบจะครั้งสองครั้งเองแต่ว่ากับ ชินะ รวม ๆ เกือบ50ปีมานี้อเดลได้พูดคุยกับเขาเกือบสิบครั้งได้ ด้วยชินะนั้นเป็นน้องใหม่ที่พึ่งกำเนิดตัวตนขึ้นมาได้ไม่ถึง50ปีดีด้วยซ้ำ ชินะก็เลยมาถามไถ่ปรึกษาเรื่องระบบกับอเดลอยู่บ่อยครั้ง (บ่อย?) ก็เลยทำให้เขาจำหน้าค่าตาชินะได้ และที
กลับมายังปัจจุบันเขมกรยืนหอบหายใจแรงภายในหัวก็ยังคงงงงวยกับสถานการณ์ที่พึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อกี้ เขมยังงงกับตัวเองว่าทำไมตัวเขาถึงได้ตอบตกลงให้คนตัวสูงที่ในตอนนี้ยืนทิ้งหัวพิงอยู่กับลาดไหล่ของเขาได้จูบแลกลิ้นกันแบบนี้นะ และยิ่งไม่เข้าใจกว่าคือทำไมอยู่ ๆ ทีปกรถึงมาขอจูบเขาทั้งที่ในโลกแห่งนี้เราพึ่งรู้จักกันได้ไม่นานและไม่ได้สนิทสนมกันเลยแท้ ๆหรือเป็นเพราะเจ้าตัวเมาหรือเปล่านะ แต่ว่าถึงจะเมามากยังไงก็ไม่ควรจะขอจูบกับใครมั่ว ๆ แบบนี้ไหมวะ ตัวเองเป็นถึงนายแบบชื่อดังมีชื่อเสียงทั่วทั้งประเทศ เกิดว่าคนที่ขอจูบไม่ใช่ตัวเขาแต่เป็นคนไม่ดี คนคนนั้นจะไม่ฉวยโอกาสเอาเรื่องนี้มาแบล็กเมล์รีดไถตังค์หรือขู่จะเอาไปแพร่ข่าวให้ชื่อเสียงเสียหายหรือไง ทำไมถึงไม่ระวังตัวเอาซะเลย"อ่ะ! คุณทีทำอะไร?"เขมกรที่กำลังง่วนอยู่ในภวังค์ความคิดเป็นต้องสะดุ้งถามคนตัวสูงกว่าอย่างตกใจ เมื่ออยู่ ๆ คนที่ยืนนิ่งพิงหัวไว้ยังลาดไหล่
ทีปกรไม่รู้เวลาผ่านไปกี่นาทีหรือกี่ชั่วโมงแล้วที่ตัวของผมยืนอารมณ์เสียไม่ขยับไปจากมุมเดิมที่ตรงนี้ และผมก็ไม่รู้อีกนั่นแหละว่าทำไมตัวเองถึงได้รู้สึกหงุดหงิดเวลาเห็นเขาคนนั้นเดินเข้างานมาพร้อมกับผู้ชายคนอื่น จนทำให้ผู้คนในงานต่างก็พูดว่าพวกเขาสองคนนั้นกำลังศึกษาดูใจกัน ซึ่งแน่นอนว่าเหล่าพวกนักข่าวหน้างานต้องไม่พลาดโอกาสที่จะเอาเรื่องสองคนนี้ไปเล่นข่าวลงหน้าเพจพรุ่งนี้แน่ ๆเหอะ! อยากจะหัวเราะให้ฟังหัก ศึกษาดูใจกันอย่างนั้นเหรอ ทั้งที่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาไอ้บ้านั้นมันตามจีบพี่ชายเขาแท้ ๆ แต่มาวันนี้กับทำให้ผู้คนต่างพูดว่ามันกำลังศึกษาดูใจกับอีกคน แถมรู้ทั้งรู้ว่าถ้าเดินเข้างานมากับคนอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัวตัวเองต้องโดนเล่นข่าวแน่ ๆ แต่ก็ยังกล้าควงคนอื่นเข้างานให้เป็นข่าวไอ้คนปลิ้นปล้อนเอ๊ยยยย ปากบอกว่าชอบพี่วันจันทร์ แต่ที่ผ่านมาหลายเดือนผมกับเห็นมันตามติดช่างภาพอย่างเขมกร ไหนจะตอนที่อยู่ทะเลไหนจะตอนอื่น ๆ ที่ผมเห็นมันเอาแต่ไปขลุ
ร่างของเขมกรถูกดันถอยหลังติดกำแพงทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาภายในห้องพักชั้นบนของโรงแรมที่ใช้จัดงานฉลองวันเกิดของนายนิรุตติ์เจ้าของค้ายดัง เขมกรยังไม่ทันได้ปริปากพูดโต้แย้งอะไร เจ้าของความสูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตรก็กรู่เข้ามาประกบริมฝีปากจูบปิดปากเขาในทันทีริมฝีปากเปียกชุ่มขยับบดเบียดเข้าหาปากอิ่ม ลิ้นร้อนค่อย ๆ แลบเลียตามแนวปากนุ่มอย่างรีบร้อน ก่อนจะสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากไล่เกี่ยวตวัดแลกลิ้นหยอกล้อกับเขมกร นัยน์ตาสีน้ำตาลหยาดเยิ้มจ้องมองอีกฝ่ายเหมือนจะกลืนกินจูบแลกลิ้นกันอยู่นานนายแบบตัวสูงก็ปล่อยริมฝีปากของเขมกรให้เป็นอิสระพลางใบหน้าหล่อที่แก้มทั้งสองขึ้นสีแดงระเรื่อชัดเจนก็ค่อย ๆ โน้มเข้ามาใกล้ใช้หน้าผากตัวเองแตะหน้าผากมนของเขมเบา ๆ ครั้นเมื่อระยะห่างของใบหน้าทั้งสองนั้นน้อยนิดทำให้เขมกรที่ถูกกักอยู่ในอ้อมแขนรับรู้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดถูกใบหน้าของตัวเองจนได้กลิ่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พลันในหัวก็งงงวยกับสถานการณ์ในตอนนี้เป็นอย่างมากเขมกรไม่เข้
Comments