“เป็นฉันนะ พี่ศรุตเสร็จไปนานแล้ว” อลิสรู้สึกว่าศรุตคือตัวเลือกที่เหมาะสม
“แคก ๆ นั่นพี่ชายฉันนะแก” คาริสาแทบสำลัก
“แบบพี่ศรุตอะ เขาเรียกพี่ชายร่วมโลก ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดสักหน่อย ดังนั้นกินได้แก...กินได้” อลิสย้ำด้วยน้ำเสียงจริงจังสุด ๆ
“บ้า พี่ศรุตเขาไม่เคยจีบฉันสักหน่อย”
“แสดงว่าถ้าเขาจีบ ก็ไม่แน่ใช่ปะ” อลิสกระเซ้า
“ก็บอกว่าพี่เขาไม่ได้จีบไงเล่า” คาริสายู่ปาก บ่นพึมพำ
“โอเค ฉันเชื่อแล้วว่ายายริสามันไม่ได้รอใครจริง ๆ แต่มัน...ซื่อ” นุ่มนิ่มกลืนคำว่าโง่ลงคอ ก่อนยกมือขึ้นคลึงขมับเบา ๆ ท่าทีของศรุตที่มีต่อคาริสา ใครเห็นก็ดูออกว่าเขาไม่ได้คิดกับคาริสาแค่พี่น้องธรรมดา แต่เจ้าตัวกลับไม่รู้เสียอย่างนั้น
“เอาละ ๆ ไม่ใช่ฉันไม่เคยสงสัยแบบพวกแก” คาริสาเห็นว่าควรต้องอธิบายบ้างแล้ว
“แล้วไง ตอนนี้แกไม่สงสัยแล้ว?” นุ่มนิ่มเลิกคิ้วมองเพื่อนสาวที่กำลังกระดกค็อกเทลเข้าปากย้อมใจ
“ก็ฉันหยั่งเชิงดูแล้ว”
“หยั่งเชิง?” นุ่มนิ่มเลิกคิ้ว
“แคก ๆ แบบว่า ฉันลองอ่อยพี่แกไปน่ะสิ” คาริสารู้สึกคอแห้งอย่างบอกไม่ถูก
ทันใดนั้นอลิสก็ขึ้นเสียงสูงอย่างตื่นเต้น “เฮ้ย! ไม่เห็นแกเคยเล่า”
“นังอลิส...แกอย่าเพิ่งขัดริสามันดิ” พัดชาทำเสียงดุ ก่อนหันกลับมาเร่งเร้าให้คาริสาเปิดปากขยายความ “แล้วไงต่อยะ”
“แล้วไงต่อน่ะเหรอ หึ นอกจากจะไม่ฉวยโอกาสแล้ว พี่เขาก็ไม่พูดกับฉันเป็นอาทิตย์ กว่าจะมองหน้ากันติดก็เป็นเดือน” คาริสากระดกพิ้งค์เลดี้รวดเดียวหมดแก้ว เรื่องน่าอายแบบนี้มีแค่กีรติกานต์คนเดียวที่รู้ แต่ถ้าไม่เล่า ยายสามสาวนี่คงไม่ยอมเลิกยุยงให้เธอกินหัวกินหางกินกลางตลอดตัวศรุตแน่ ๆ “เจอแบบนี้ ถ้าเป็นพวกแก ยังจะคิดเข้าข้างตัวเองต่อไปได้อีกหรือไง”
“สุภาพบุรุษเว่อร์อะ” อลิสดวงตาเป็นประกาย ทำท่าเหมือนกำลังปลื้มพระเอกเกาหลี
“จ้ะ...พ่อคนดี” นุ่มนิ่มส่ายหัวเบา ๆ ในที่สุดก็เข้าใจได้ว่า ทำไมคาริสาถึงได้ยืนกระต่ายขาเดียวมาโดยตลอดว่าศรุตไม่ได้คิดอะไรกับเจ้าตัว
“ขนาดนี้แล้วทำไมไม่รุกยะ โอ๊ย! น่าเสียดาย ไม่แน่ว่าพี่ศรุตเขาอาจจะรอแกปล้ำอยู่ก็ได้ พอแกไม่ปล้ำ เขาก็เลยงอนไม่พูดด้วยมากกว่า” พัดชาที่เพิ่งรู้เรื่องโวยวายเสียงดังแข่งกับเสียงเพลง และดูเหมือนความคิดนี้จะถูกอกถูกใจอีกสองสาว จนต้องเปล่งเสียงสำทับออกมาพร้อมกันว่า “นั่นสิ”
“เดี๋ยว ฉันเป็นผู้หญิงนะ จะทำแบบนั้นได้ยังไง” คาริสารู้สึกปวดศีรษะขึ้นมาตุบ ๆ
“ก็คิดแบบนี้ไง ถึงได้ยังไม่ลงจากคาน ไม่ได้ดังใจเลย มานี่ เดี๋ยวพวกฉันจะสอนอะไรดี ๆ ให้...”
ระหว่างที่สามสาวกำลังจะสอนวิธีเผด็จศึกศรุตให้คาริสาใหม่ พนักงานต้อนรับก็พาชายหนุ่มสองคนเดินเข้ามาถึงโต๊ะแล้ว แต่พอเห็นว่าไม่มีใครสนใจพวกเขาสักคน หนึ่งในหนุ่มหล่อเหลาปานเทพบุตรก็เดินหน้าเข้ามาข้างโต๊ะ พลางเอ่ยทักทายด้วยเสียงทุ้มนุ่มน่าฟัง “ว่าไงสาว ๆ คุยอะไรกันอยู่ ให้เราคุยด้วยคนสิ”
“อะ...ตายแล้ว...ไม่จริงใช่ไหม มาได้ยังไงเนี่ย” พออลิสหันไปเห็นหน้าคนที่มาชัด ๆ ก็ตื่นเต้นจนลิ้นแทบพันกัน ถึงจะเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้น แต่ตอนนี้คนที่อยู่ตรงหน้าเจิดจรัสไปด้วยรัศมีของพระเอกเบอร์หนึ่งภายใต้ฟ้าเมืองไทย ไม่ใช่แค่หนุ่มน้อยหน้าตาดีที่สุดในชั้นปีอีกแล้ว
“ใครก็ได้ ช่วยดูให้หน่อยว่าฝนตกหรือเปล่า ร้อยวันพันปีพ่อดาราใหญ่ไม่เคยจะว่าง” นุ่มนิ่มทำเป็นมองออกไปทางหน้าต่างร้าน เธอเป็นสไตลิสต์ เจอดารานางแบบบ่อยครั้ง จึงไม่ตื่นตูมตอนเห็นหน้าอธิป
“ยอมรับว่ายุ่งมาก เลยไม่ค่อยมีโอกาสได้มาเจอทุกคน” อธิปให้คำอธิบายที่เรียบง่าย แต่ใครก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นแค่ข้ออ้างแบบส่ง ๆ
“ซุปตาร์ก็งี้ คิวแน่น เออ! จริงสิ...ถ้าให้พูดถึงดารา นี่ยายกะ...” พัดชาพูดยังไม่ทันจบ คาริสาก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน
“นั่นสิ คนเป็นดารานี่ไม่ค่อยจะว่างเลยเนอะ แต่วันนี้เพื่อนมีโอกาสมาดื่มด้วยแล้ว แกก็อย่าบ่นนักเลย”
อธิปหันไปตามเสียง พอเห็นสาวสวยที่เป็นสาเหตุให้เขาต้องถ่อสังขารมาถึงที่นี่ แทนที่จะได้ไปหาคนบางคน ก็รีบเปิดประเด็นอย่างไม่รีรอ “พอดีเป็นช่วงพักกองน่ะ เลยได้โอกาสพาคนบางคนมาเจอเธอพอดี”
“หา...มีคนอยากเจอเราเหรอ” นัยน์ตาสีน้ำตาลกลมโตของคาริสาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“ใช่” อธิปเน้นน้ำเสียงอย่างหนักแน่น
“ใครอะ” คาริสาถามพลางพยายามยืดคอมองคนที่มากับอธิป แต่จากมุมนี้ ร่างสูงใหญ่ของพระเอกหนุ่มบดบังชายปริศนาที่ยืนอยู่ด้านหลังตนเองเสียมิด แต่เหมือนเจ้าตัวก็ไม่ได้คิดจะให้คนอื่นคาใจนาน จึงก้าวออกมาให้ทุกชีวิตที่นั่งอยู่ตรงนั้นเห็นเต็มตาว่าเขาคือใคร
ทันทีที่คาริสาเห็นใบหน้าคลับคล้ายคลับคลาที่แสนจะคุ้นเคยนั้น ภายในหัวสมองของเธอกลับมีแต่ความว่างเปล่าสีขาวโพลน แม้นักร้องนักดนตรียังทำหน้าที่ขับกล่อมคนภายในร้าน ทว่าสรรพเสียงเหล่านั้นกลับไม่สามารถแทรกผ่านประสาทหูของเธอเข้ามาได้เลยแม้แต่นิดเดียว
“ไง...ริสา ยังจำเราได้ใช่ปะ” แล้วชายหนุ่มก็เป็นฝ่ายทำลายความเงียบระหว่างพวกเขา
“...” คาริสาเพียงกะพริบตาปริบ ๆ
“เรากฤษณ์ไง จำไม่ได้เหรอ หืม...” ไม่พูดเปล่า ชายหนุ่มค้อมกายลง และเพื่อให้หญิงสาวมองเห็นตนเองอย่างถนัดชัดเจน เขาจึงเคลื่อนใบหน้าคมเข้มนั้นเข้าไปอย่างช้า ๆ จนแทบจะชนกับใบหน้าสวยหวาน ชั่วขณะนั้น เขาพบว่าภายในดวงตากลมโตคู่งามของคาริสากำลังสั่นระริก
เยี่ยม! เธอจำเขาได้
“ใช่...เรากลับมาแล้ว” ริมฝีปากบางหยักยกเป็นรอยยิ้มทรงเสน่ห์ สามารถทำให้หญิงสาวที่มองมาหลอมละลายได้ภายในเสี้ยววินาที
“ตอนแรกก็พากันใจหายทั้งกอง ไม่รู้ว่าจะต้องเลื่อนการเปิดกล้องออกไปจนกว่าจะหาคิวดาราคนอื่นได้หรือเปล่า แต่บังเอิญพี่เคนเขา...พอจะเลือกหา ‘ผู้หญิงในสังกัด’ มาแทนได้” ช่างแต่งหน้าของภีรดาว่า“ว้าย! หล่อนอย่าได้พูดแบบนี้ให้คุณเคนได้ยินเลยนะยะ” ช่างแต่งหน้าอาวุโสที่ทนฟังอยู่สักพักแล้วร้องปรามขึ้นมา“ทำไมล่ะ ก็คนนี้เด็กพี่เคนไม่ใช่เหรอ” ช่างแต่งหน้าของภีรดาเลิกคิ้วถาม“เรียกอย่างนั้นไม่ได้ คนนี้ไม่เหมือนที่ผ่าน ๆ มา”“อ้าว! แล้วมันต่างกันยังไงล่ะ” ช่างแต่งหน้าของอธิปชิงถาม“คนนี้ตัวจริง”“หมายความว่ายังไงอะ” คราวนี้ช่างแต่งหน้าขาเมาท์ทั้งสองพูดออกมาพร้อมกัน“ความจริงฉันก็ไม่อยากพูดมาก แต่จะปล่อยให้พวกแกปากเสียใส่คุณกุ๊กกิ๊กเขาไม่ได้ เพราะคนนี้น่ะผ่านการดูตัวแบบเป็นทางการกับคุณเคนเขา ไม่ใช่แค่กิ๊กกั๊กชั่วครั้งชั่วคราว”“อูย...พี่พูดแบบนี้หนูนี่อยากจะเห็นหน้าคนที่ทำให้พี่เคนยอมถอดเขี้ยวเล็บได้จังเลย”“นี่แกไม่รู้จักกุ๊กกิ๊ก กีรติกานต์ นางร้ายดาวรุ่งพุ่งแรงของช่องสี่สิบเหรอ” ช่างแต่งหน้าอาวุโสขมวดคิ้วมอง“หา...คนนั้นน่ะเหรอ ไม่เห็นเท่าไหร่เลย พี่เคนเขาหลงอะไรของเขากัน” ช่างแต่งหน้าของอธิปทำหน้า
อธิปมองดูจอโทรศัพท์ด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ หลายวันที่ผ่านมา นอกจากข้อความตอบกลับแสนธรรมดา กับคำว่าขอโทษนะคะกุ๊กกิ๊กติดงาน ก็ไม่มีสัญญาณที่ดีจากหญิงสาวที่เขาเฝ้าคิดถึงเลยสักนิด หากเป็นผู้หญิงคนอื่น ลองเขาได้ส่งข้อความไปชวนให้ออกไปเที่ยวด้วยกัน สาว ๆ เหล่านั้นก็จะรีบตอบตกลงทันทีที่ผ่านมาเขาเคยตกลงคบหากับหญิงสาวแบบไม่เปิดเผยสถานะอยู่สองสามคน ระหว่างที่ศึกษาดูใจกัน เขากับเธอคนนั้นจะไม่มีความสัมพันธ์กับคนอื่น เรียกได้ว่าทำทุกอย่างเหมือนคนรัก แต่ไม่สามารถเปิดเผยออกสื่อได้ แน่นอนว่าทุกอย่างเกิดขึ้นจากความสมัครใจ แต่ผู้หญิงเหล่านั้นมักอดทนได้เพียงไม่นาน หลังจากความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันไม่เท่าไร ก็ร่ำร้องว่านี่คือรักแท้ อยากให้เขาประกาศเปิดตัวเจ้าหล่อนในฐานะคนรักของซูเปอร์สตาร์ชื่อดังอย่างเป็นทางการทว่านอกจากจะไม่สมหวังแล้ว กระทั่งสถานะคนในความลับก็ยังไม่มีเหลืออธิปตัดความสัมพันธ์กับคนที่พูดไม่รู้เรื่องอย่างไม่เคยอ่อนข้อเนื่องจากไม่เคยทำเรื่องฉาวอย่างข่มขืน หรือล่อลวงแฟนคลับ การออกเดตกับหญิงสาวมากหน้าหลายตาจึงไม่ทำให้ชื่อของพระเอกหนุ่มอย่าง ธรรม์ อธิป ด่างพร้อย อย่างมากก็ถูกนักข่าวเขียนแซวโดยใช
หลังจากมารดาที่หย่าขาดจากบิดาพบรักใหม่กับชาวต่างชาติ แล้วตัดสินใจย้ายไปอยู่ต่างประเทศ บ้านเดี่ยวหลังใหญ่จึงเหลือเพียงคาริสากับแม่บ้านที่บิดาของเธอส่งมาอาศัยอยู่ด้วยกันแค่สองคน พอวันนี้มีคนอื่นมานอนค้างเจ้าตัวจึงค่อนข้างอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะไม่ต้องนอนเหงาเพียงลำพังกีรติกานต์เดินไปยังกรอบรูปที่ผนังด้านหนึ่งในห้องนอนสีหวานของคาริสา ดวงตากลมโตกวาดมองภาพถ่าย เสื้อที่เขียนคำอวยพรไว้จนเต็ม ดอกไม้ซึ่งแห้งไปแล้ว และกระดาษเอสี่ที่จั่วหัวว่า ‘สัญญาแต่งงาน’แม้กระดาษแผ่นนั้นจะเป็นได้แค่สัญญาเด็กเล่น แต่กีรติกานต์รู้ดีว่ามันมีอิทธิพลต่อคาริสาอย่างมาก แม้เพื่อนรักจะปฏิเสธมาโดยตลอดว่าไม่ได้รอลูกชายท่านเอกอัครราชทูตอย่าง กฤษณ์ กลับมาสานต่อความสัมพันธ์ในวันวาน แต่ผู้ชายที่พอจะทำให้เธอยอมออกเดตด้วยได้ ก็มักจะมีอะไรคล้ายกับกฤษณ์อยู่อย่างสองอย่างเสมอแต่ถึงจะคิดแบบนั้น กีรติกานต์ก็ไม่เคยย้ำหัวตะปูให้เพื่อนรักรู้สึกแย่ที่ตนเองรอผู้ชายที่ไม่รู้จะกลับมาหรือเปล่าอยู่แบบนี้ เธอได้แต่หวังว่า ศรุต ลูกติดมารดาเลี้ยงของคาริสาจะเลิกปอดแหกแล้วใส่เกียร์เดินหน้าจีบน้องสาวร่วมโลกแบบจริงจังเสียที ไม่รู้ว่าเขาติดอะไร
“ขอบคุณนะคะที่ยังจำได้ แต่พี่เคนไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ เพราะพอคุณพ่อรู้ว่าริสาจะมาดูคอนโดฯ ท่านเลยให้คุณมาตามาดูแลริสาค่ะ”“จะไปยากอะไร ก็ให้เขากลับบ้านไปคนเดียวสิครับ”“ริสาทำแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ เพราะถ้าคุณพ่อรู้เข้าคุณมาตาจะต้องโดนตำหนิ”คนที่อยู่ข้าง ๆ เห็นโอกาสดีจึงรีบผสมโรง “จริงค่ะ พ่อยายริสาดุมาก ดีไม่ดีถ้าท่านสงสัยว่าพี่เคนมาจีบลูกสาวคนเดียวของท่าน อาจจะเกิดปัญหาอะไรก็ได้นะคะ”“อ่า...งั้น ก็ได้ครับ” จีรนนท์ไม่คิดจะมีปัญหากับสปอนเซอร์รายใหญ่ ถ้าเกิดถูกถอดโฆษณาขึ้นมาคงจะแย่ ยังไงกีรติกานต์ก็ไปกับคาริสา ไม่ได้ไปกับผู้ชายคนอื่นเสียหน่อย“ริสาขอตัวก่อนนะคะพี่เคน”“ไว้เจอกันนะคะ” กีรติกานต์บอกลาผู้กำกับหนุ่มอย่างรวดเร็ว ก่อนคว้าข้อมือเพื่อนสาวแล้วพาเธอตรงดิ่งไปทางลานจอดรถของคอนโด“เดี๋ยว นี่แกจะพาฉันไปไหนเนี่ย” คาริสาที่ถูกลากออกมาทางลานจอดรถเอ่ยถาม“ก็ไปขึ้นรถไง” กีรติกานต์ตอบพลางชะเง้อชะแง้หารถของมาตาเลขาของบิดาเพื่อน“แล้วแกรู้เหรอว่ารถพี่มาตาจอดอยู่ตรงไหน”“เอ่อ...ไม่รู้หรอก” กีรติกานต์หยุดฝีเท้า แล้วหันกลับมามองเพื่อนสาวพร้อมรอยยิ้มเจื่อน ๆ“แหม แล้วก็เดินเหมือนรู้เลย” คาริสาหัวเ
ชายหนุ่มได้ฟังก็หลับตาลงทันที ลุ้นว่าวันนี้ความสัมพันธ์ของเขากับเธอจะทะยานไปได้ถึงขั้นไหนหลังจากได้รับจูบเป็นรางวัล กีรติกานต์มองใบหน้าคร้ามคมกับรอยยิ้มที่มุมปากของเขาแล้วถอนหายใจ ก่อนประทับริมฝีปากลงตรงแก้มของเขาซ้ายทีขวาที“ขอบคุณนะคะ”“พี่ก็ขอบคุณน้องกุ๊กกิ๊กเหมือนกันครับ” แม้จะเสียดาย แต่สายตาของจีรนนท์ก็ยังเต็มไปด้วยความลึกซึ้ง เขาไม่เคยจริงจังกับใครเท่านี้มาก่อน เพื่อเธอเขาถึงกับเลิกรากับหญิงสาวทุกคนในสังกัด และพยายามทำตัวเป็นสุภาพบุรุษให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ “หวังว่าคราวหน้าจะไม่ใช่แค่หอมแก้มนะ”ใบหน้าหวานเผยรอยยิ้มบางเบา ไม่มีคำตอบรับหรือปฏิเสธออกจากริมฝีปากอิ่มจีรนนท์เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเพื่อนรักบิดา เขากับเธอพบกันครั้งแรกหลังจากตกลงดูตัว แน่นอนว่าชายหนุ่มดีกรีผู้กำกับฝีมือเยี่ยมมีเสน่ห์ร้อนแรงมากจริง ๆ ส่วนเธอเองก็สวยเซ็กซี่จนเขาตะลึง และเพื่อไม่ให้บิดามารดาจับพวกเขาไปดูตัวกับใครอีก จีรนนท์ที่ถูกใจกีรติกานต์ตั้งแต่แรกเห็น จึงเสนอให้พวกเขาลองบอกกับทางครอบครัวว่าจะลองศึกษานิสัยใจคอกันดูก่อน ตอนนั้นกีรติกานต์เห็นด้วยกับเขายิ่งเวลาผ่านไปผู้กำกับหนุ่มชักจะรุกหนักขึ้นเ
[ช่วงบ่ายนางจะแถลงข่าวแล้ว พี่เคนผู้กำกับต้องหาคนมาแทน เห็นบอกจะประกาศเปิดตัวดาราที่มารับบทแทนวันฟิตติ้งเลยน่ะ ตอนนี้ทีมงานคงวุ่นวายไปหมด ในเมื่อเรื่องมันสุดวิสัยจริง ๆ ธรรม์อย่าหัวเสียเลยนะ]“วันไหนครับ” อธิปพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย แต่มันก็ช่วยไม่ได้นี่นะ ทีมงานเองก็คงเซ็งไม่แพ้กัน[อีกห้าวัน ส่วนสถานที่ก็โรงถ่ายเดิมนั่นแหละ]“โอเคครับ” พอรู้ว่าวันพักผ่อนของตนเองถูกเบียดเบียนเพียงวันเดียว เขาเลยไม่ค่อยหงุดหงิดเท่าไร[พี่รู้อยู่แล้วว่าธรรม์เป็นคนมีเหตุผล เจอกันหกโมงเช้านะ เดี๋ยวพี่ไปรับ บายจ้ะ]“บายครับพี่เมนี่”พูดจบอธิปก็โยนโทรศัพท์ไปที่โต๊ะหัวเตียง ขณะนั้นเองเขาถึงเห็นว่ามีกระดาษโน้ตที่เกือบถูกกองซองถุงยางอนามัยกลบวางอยู่ด้วยมือหนารีบคว้ากระดาษแผ่นน้อยมาอ่านอย่างรวดเร็วฉันมีธุระต้องขอตัวกลับก่อน เห็นคุณหลับอยู่เลยไม่อยากปลุก มีอะไรก็ติดต่อมาแล้วกันนะคะ KookKik01อธิปคว้าโทรศัพท์กลับมาอีกครั้ง แล้วจัดการแสกนหาไอดีไลน์ของเธอ ฉับพลันรอยยิ้มบางเบาสลักลงบนใบหน้าคม ความมั่นใจในเสน่ห์เหลือร้ายของตนเองถูกกู้กลับมาอีกครั้ง ดาราหนุ่มไม่เชื่อว่าเธอไม่อยากสานต่อเรื่องเมื่อคืน เพียงแต่เ