เข้าสู่ระบบรถ BMW X6 สีขาวแล่นเข้าไปจอดบริเวณหน้าร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่งในย่านทองหล่ออย่างนิ่มนวล ชายหนุ่มเจ้าของรถสปอร์ตหรูเหลือบสายตาไปยังด้านใน ก่อนหันกลับมามองหญิงสาวที่กำลังปลดเข็มขัดนิรภัยด้วยท่าทางกระตือรือร้น ทั้งที่อีกฝ่ายเพียงแค่มาสังสรรค์กับเพื่อนสมัยเรียน แต่น่าแปลกที่เขากลับรู้สึกไม่สบายใจ เหมือนว่าถ้าวันนี้ปล่อยให้คนน่ารักข้าง ๆ ลงจากรถไป ตนเองจะต้องเสียใจภายหลัง
“ขอบคุณพี่ศรุตที่มาส่งริสานะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ว่าแต่...จะไม่ให้พี่อยู่รอรับจริง ๆ เหรอ”
“ไม่ต้องจริง ๆ ค่ะ”
“จะว่าไป พี่ก็อยากรู้ว่าคอนโดใหม่ของน้องกุ๊กกิ๊กอยู่ที่ไหน ให้พี่ไปส่งดีกว่านะ” เพื่อกำจัดความว้าวุ่นใจอันไร้ที่มา ศรุตคิดว่ามีเพียงการรับคาริสากลับพร้อมกันเท่านั้นที่จะช่วยได้
“ที่แท้ พี่ศรุตก็อยากรู้ว่ายายกุ๊กกิ๊กย้ายไปอยู่ที่ไหนนี่เอง” คาริสาหรี่ตา ทำหน้าเหมือนคนรู้ทัน ศรุตเห็นแบบนี้แล้วแทบจะหงายหลัง เขามั่นใจว่าไม่เคยแสดงอาการคลั่งไคล้ดาราสาวอย่างกีรติกานต์สักหน
“มะ...ไม่ใช่สักหน่อย พี่ก็แค่อยากรู้เอาไว้ เผื่อพรุ่งนี้ริสาอยากได้สารถี พี่จะได้ไปรับถูกต่างหาก”
“ไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิคะ ไม่เห็นต้องตกใจขนาดนั้นเลย” คาริสาหัวเราะร่วนเมื่อเห็นคนร้อนตัว
“...” ศรุต
“งั้น ริสาไปก่อนนะคะ” คาริสาทำท่าจะลงจากรถอีกหน ทำให้ศรุตรู้สึกตัวอีกครั้ง
“เดี๋ยวสิ พี่...พี่ไม่ได้คิดอะไรกับน้องกุ๊กกิ๊กจริง ๆ นะ” เขารู้สึกว่าต้องพูดให้ชัดเจน
“ทราบแล้วค่า...” คาริสาลากเสียงยาวในขณะก้าวลงจากรถ เธอไม่รอให้ศรุตพูดอะไรต่อก็ปิดประตู แล้วยกมือขึ้นบ๊ายบาย
ศรุตได้แต่ถอนหายใจพลางนั่งมองคนตัวเล็กเดินฉับ ๆ เข้าไปทางประตูร้าน ขณะที่ลังเลว่าจะตามเข้าไป หรือรอคาริสากลับออกมา เขาก็ได้รับข้อความจากมารดาพอดี ถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเมื่อเช้าตนเองสัญญาว่าจะกลับไปรับประทานอาหารเย็นด้วย
คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ศรุตคิดก่อนหมุนพวงมาลัย เหยียบคันเร่งจากไปในที่สุด
คาริสาหันกลับไปมองจุดจอดรถเมื่อครู่อีกครั้ง ถึงแม้จะรู้ว่าเขาเป็นห่วงเธอจริง ๆ แต่คนก็อายุยี่สิบแปดเข้าไปแล้ว จะให้พี่ชายมาคอยควบคุมดูแลเหมือนเด็ก ๆ ได้อย่างไร เป็นใครก็ย่อมรู้สึกอึดอัดเป็นธรรมดา
ครั้นมั่นใจว่าศรุตจากไปแล้วจริง ๆ คนตัวเล็กก็เดินเข้าร้านไปอย่างสบายอารมณ์
ทันทีที่เห็นลูกค้าก้าวเข้ามา พนักงานต้อนรับก็ยิ้มร่าเดินเข้าไปทักทายตามธรรมเนียม คาริสาไม่รอให้อีกฝ่ายถามก็เอ่ยขึ้นก่อน “จองไว้แล้วค่ะ ชื่อคุณพัดชา”
“โต๊ะคุณพัดชา...เป็นโซนผับนะคะ เชิญด้านนี้ค่ะ” พนักงานคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเดินนำคาริสาไปยังที่หมายอย่างคล่องแคล่ว
หลายปีมาแล้วที่พัดชาเป็นตัวตั้งตัวตีในการรวมกลุ่มเพื่อนสนิทมาพบกัน บางครั้งก็มีเพื่อนร่วมห้องสมัยมัธยมคนอื่นมาร่วมแจม และแน่นอนว่าในจำนวนขาจรเหล่านั้น ไม่มีกฤษณ์รวมอยู่ด้วย
ก็แหงละ พ่อคุณอยู่ต่างประเทศนี่นะ
ทันทีที่เห็นร่างระหงคุ้นตาเดินตามหลังพนักงานต้อนรับมา พัดชาก็ยกมือขึ้นโบกรัว ๆ เหมือนกลัวเพื่อนจะมองไม่เห็นตัวเอง ท่าทีแบบนั้นของหล่อนทำให้คาริสาอมยิ้ม
หลังจากเดินตรงเข้าไปนั่งด้านข้างเพื่อนสนิทที่ไม่เจอกันหลายสัปดาห์เรียบร้อยแล้ว คาริสาก็ไม่ลืมหันไปทักทายเพื่อนสาวอีกสองคนที่มาถึงก่อนอย่างอลิสกับนุ่มนิ่ม ระหว่างนั้นพัดชาก็กระแซะเข้ามาแล้วกอดคาริสาแน่น โดยไม่รอให้คนอื่นทักทายกันเสียให้เสร็จก่อน
“แหม! ทำอย่างกับไม่เคยเจอกัน” คาริสาหัวเราะเบา ๆ ให้กับอาการเว่อร์วังของคนที่กอดตัวเองอยู่
“แกเอาแบบเดิมปะ” พัดชาไม่สนใจคำเหน็บแนมของคนตัวนุ่มที่ตนเองกำลังกอดอยู่ แต่กลับถามราวกับรู้ใจแทน แน่นอนว่าพอคาริสาพยักหน้าตอบรับ เธอก็สั่งเครื่องดื่มกับพนักงานอย่างมั่นใจ “ขอพิงค์เลดี้ให้เพื่อนคนสวยของพี่ที่หนึ่งจ้ะ”
“ได้เลยค่ะ” พนักงานรับคำด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แล้วเดินจากไป
ไม่นานนักค็อกเทลสีชมพูหวานสมชื่อก็ถูกเสิร์ฟลงตรงหน้าคาริสา
“มากี่ทีก็กินแต่ไอ้นี่ ไม่คิดจะเปลี่ยนบ้างเลยหรือไงหล่อน” นุ่มนิ่มมองค็อกเทลสีหวานในแก้วของคาริสาแล้วเอ่ยแซว
“ยายริสาเป็นพวกรักแล้วรักเลยย่ะ” พัดชาชิงตอบ
“ถ้าแกกลัวอย่างอื่นไม่อร่อย ก็ลองชิมของฉันก่อนก็ได้ บางทีอาจจะติดใจจนลืมของเดิม” นุ่มนิ่มเลื่อนแก้วเนโกรนีของตัวเองไปทางคาริสา สีหน้าแววตาแฝงนัยบางอย่างที่ทุกคนมองก็รู้ได้
“เฮ้ย! แก ไม่ใช่หรอก” แม้ความจริงอลิสจะรู้สึกเหมือนนุ่มนิ่มอยู่บ้าง แต่ก็ยังช่วยค้าน
“ริสามันอาจจะไม่อยากมีผัวก็ได้ปะ” พัดชารู้สึกว่าเพื่อน ๆ ของเธอเหลวไหลมาก ใครจะไปจริงจังกับสัญญาเด็กเล่นแบบนั้น เดี๋ยวนี้ผู้หญิงสวยและเก่งหลาย ๆ คนก็เลือกจะโสดให้ผู้ชายเสียดาย
“นี่สิบปีเข้าไปแล้ว พวกแกยังไม่ลืมเรื่องนี้อีกเหรอ” คาริสาจิบเครื่องดื่มของตัวเองเบา ๆ สีหน้าไม่ทุกข์ร้อน เพราะโดนแซวบ่อยเหมือนเป็นธรรมเนียม แต่ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ หัวใจของเธอก็ยังคงเต้นผิดจังหวะ
ต้องไม่ใช่แน่ ๆ ริสา ต้องไม่ใช่อยู่แล้ว เสียงในหัวของคาริสาดังขึ้นเหมือนเตือนตนเอง
“ก็มันน่าคิดนี่ยะ หล่อรวยแค่ไหนแกก็ไม่เอาสักคน” นุ่มนิ่มเอ่ย
“มันเป็นหน้าที่ที่พี่ต้องปกป้องน้องทิชาอยู่แล้ว” สิ้นคำพูดสุดเท่ บรรดาแฟนคลับที่พยายามจิ้นคนทั้งคู่ก็พิมพ์แซวกันอย่างสนุกสนาน บ้างก็ส่งโดเนทให้เพื่อเป็นการตอกย้ำว่าโอเค ถ้าไอดอลที่พวกเขาชื่นชอบจะคบหากัน“แหมทุกคน พูดอย่างนี้ทิชาก็เขินแย่สิคะ”“ไม่ต้องเขินหรอกครับ คนเยอะแยะ” คิรากรเล่นมุกไปตามเรื่อง โดยไม่รู้เลยว่ากำลังถูกแฟนหมาด ๆ มองอย่างอาฆาตจากด้านหลัง“แหม พี่คินก็ ไม่ปฏิเสธหน่อยเหรอคะ”“น้องทิชาน่ารัก จะให้พี่พูดจาใจร้ายได้ยังไง”“พี่คินก็...” เกมเมอร์สาวทรงโตหัวเราะคิกคัก เหลือบมองคิรากรที่ตั้งหน้าตั้งตายิงซอมบี้ด้วยแววตาหวานเชื่อม แต่ก็ต้องมีอันสะดุ้ง“อุ๊ย! แม่”ปาริมากระแทกถาดใส่อาหารลงตรงที่ว่างบนโต๊ะ แล้วมองหญิงสาวที่น่าจะอ่อนกว่าตนเองหลายปีด้วยแววตาเยียบเย็น คิรากรหันไปมองตามเสียง เห็นแฟนหมาด ๆ ของเขาทำหน้าบอกบุญไม่รับ ทั้งที่ปลุกปลอบตนเองอยู่ในใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ก็ยังรู้สึกเสียวสันหลังวาบอยู่ดี“ทุกคนครับ ในเมื่อวันนี้เราเล่นจบ Ep07 พอดี ผมกับน้องทิชาก็ขอจบไลฟ์สดไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ ไว้พบกันใหม่โอกาสหน้า บายชาวเกมเมอร์” คิรากรรีบพูดปิดรายการ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะ
คิรากรคว้าร่างนุ่มนิ่มเข้ามากอดไว้แนบอก ก่อนก้มลงจูบพวงแก้มของปาริมาหนัก ๆ สูดลมหายใจรับกลิ่นหอมละมุนอย่างเต็มที่ “พูดแบบนี้ปาล์ม…ยอมเป็นเมียพี่แล้วใช่ไหม”“ใจเย็น ๆ พ่อคุณ แค่แฟนก็พอเหอะ” ปาริมาหัวเราะคิกคัก“เอายังไงก็ได้ พี่แล้วแต่ปาล์มเลย”“งั้น ให้เป็นพี่ชายข้างบ้านเหมือนเดิมดีไหมนะ”“ถ้าเป็นแล้วเอาปาล์มได้ พี่ก็ไม่ขัด” คิรากรยักคิ้ว มองเธอด้วยนัยน์ตาพราวระยับ ก่อนก้มลงจุมพิตบนกลีบปากสีหวานของเธอ“เดี๋ยวเถอะ” หญิงสาวที่ตอนแรกคิดจะแกล้งคนอื่น แต่ตอนนี้ตนเองกลับหน้าแดงไปหมด ทำเป็นเสียงเข้มใส่คนตัวโตที่กำลังพรมจูบไปทั่ว ทำเอาเนื้อตัวเธอเริ่มอ่อนระทวย“ว่ายังไงครับ” ชายหนุ่มกระซิบชิดริมหูเธอ“ก็ต้องให้เป็นแฟนอยู่แล้ว แต่ว่านับจากนี้ไปพี่คินเปลี่ยนใจไม่ได้แล้วนะคะ”“ต่อให้ต้องตาย พี่ก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจแน่นอน”ชายหนุ่มค่อย ๆ บรรจงจุมพิตผิวกายขาวระจ่างของอดีตน้องสาวข้างบ้านที่เปลี่ยนมาเป็นแฟนอย่างเป็นทางการ แล้วเริ่มต้นกระบวนการทวนความจำให้ปาริมา ตอกย้ำสัมผัสให้ตราตรึงจนทั่วทุกอณูของเธอหลังจากถูกกระตุ้นความทรงจำไปทุกสัดส่วนปาริมาก็อ่อนเพลียจนลุกแทบไม่ไหว แต่เกมส์เมอร์หนุ่มที่บุกต
“มะ…ไม่เอาค่ะ” เธอเบี่ยงศีรษะหลบใบหน้าหล่อเหลาที่เคลื่อนเขามาใกล้ มือทั้งสองก็ยันอกเขาเอาไว้สุดแรง ตอนแรกยังกลัวอยู่ว่าถ้าเขาใช้กำลังตนเองจะทำอย่างไร แต่ชายหนุ่มที่กำลังตั้งท่าจะช่วยทวนความจำให้กลับหยุดการรุกราน พอเธอหันมามองเขาตรง ๆ ก็พบว่ารอยยิ้มยั่วล้อที่มีเมื่อครู่จางหายไปแล้ว เหลือเพียงสีหน้าเคร่งขรึมอย่างที่เคย ซึ่งทำให้เธอรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก เลยรู้สึกว่าต้องอธิบายอะไรบ้าง “คือว่าปาล์ม เจ็บ…ตรงนั้น”“แน่ใจเหรอ ว่าแค่นั้น”“…” ปาริมากลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าควรจะพูดถึงความกังวลของตนเองออกไปดีหรือเปล่า“มีอะไรก็พูดมาตามตรง” เขาทำเสียงเข้ม“คือว่า…เรื่องเมื่อคืน”“พี่จะรับผิดชอบทุกอย่าง ปาล์มสบายใจได้” ได้ยินแค่นั้นเขาก็ชิงตอบ เพราะคิดว่าเธอกังวลเรื่องนี้“พี่คินคะ ปาล์มว่า…” ปาริมาอึกอัก ถึงคิรากรจะพูดในสิ่งที่ตนเองอยากฟัง แต่เธอกลับรู้สึกไม่สบายใจ ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจว่าจะไม่นำเรื่องนี้มาเป็นเหตุผลสำหรับผูกมัดผู้ชาย เธอไม่อยากให้เขานึกดูถูก “ปาล์มไม่คิดว่าพี่คินต้องรับผิดชอบอะไร”“ว่าไงนะ” หัวคิ้วของเขาขมวดมุ่นจนแทบจะพันกัน“ถ้าเมื่อคืนนี้ค
คิรากรมองใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยความสุขสมของเธออย่างภาคภูมิ เขาทำให้เธอเสร็จสมไปถึงสามครั้ง ตอนนี้ช่องสวาทจึงตอดรัดตัวตนของเขาแน่นหนึบ ชายหนุ่มจึงอดกระแทกร่องรักแรง ๆ ไม่ได้ สะโพกสอบออกแรงสอดเสยลำกายอย่างต่อเนื่อง เข้าสุดออกสุด จนปาริมาไม่อาจนอนนิ่งเฉยอยู่ได้ เธอเด้งสะโพกรับทุกจังหวะที่เขาถาโถมเข้าหาอย่างไม่ยอมแพ้ความเสียวกระสันพุ่งทะยานถึงขีดสุด และแล้วชายหนุ่มก็ปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นเข้มทุกหยาดหยดสู่ช่องทางสวาทของเธอ“ปาล์ม อ่า...” พี่ชายข้างบ้านที่กำลังจะเป็นเพียงอดีตสูดปากร้องครางเรียกชื่อปาริมาอย่างอดไม่ไหว เขาไม่คิดเลยว่าการได้ร่วมรักกับคนที่ใจปรารถนาจะสร้างความสุขสมได้มากมายขนาดนี้คิรากรยิ้มกริ่ม มองหญิงสาวที่นอนระทดระทวยอยู่ใต้ร่างเขาด้วยแววตารักใคร่ ยอมรับว่าตอนนี้ตนเองติดเนื้อพึงใจหลงใหลเธอจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว ชายหนุ่มก้มลงจูบริมฝีปากอิ่มอย่างอ่อนหวาน ถ่ายทอดความรู้สึกลึกซึ้งที่อัดแน่นมานานให้เธออย่างเต็มที่จนกระทั่งความเหนื่อยล้าผ่านพ้นไป คิรากรที่กำลังเต็มตื้นกับความหวานฉ่ำของปาริมา ก็พร้อมจะเริ่มต้นบทรักบทใหม่กับเธออีกครั้ง และอีกครั้งปาริมามัวเมาไปกับจังหวะที่เขาปรนเปร
“เดี๋ยวพี่จะพิสูจน์ให้ดู ว่าพี่ต้องการปาล์มมากแค่ไหน ดีไหม” เขาเอ่ยเสียงหนักแน่น พร้อมส่งท่อนลำไปยังช่องทางรักของเธอตื้น ๆ เขาทำซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น รอจนกระทั่งหญิงสาวผ่อนคลายจากความแตกตื่น แล้วค่อยกดจนส่วนหัวหยักบานเข้าสู่กายเธอจนมิด“ฮึก...พิสูจน์แบบนี้ก็ได้เหรอ”คิรากรเพียงหัวเราะหึ ๆ ในลำคอ แล้วตั้งหน้าตั้งตาพิสูจน์คำพูดของตนเองต่อด้วยการดันลำเอ็นยาวใหญ่เข้าไปในถ้ำสวาทให้ลึกขึ้น แต่เส้นทางรักที่ยังไม่เคยถูกใครบุกเบิกมาก่อนทั้งคับแน่นและตอดรัดเสียจนตัวตนของเขารวดร้าวไปหมด“พี่คิน ปาล์มเจ็บ” หญิงสาวร้องประท้วงในขณะที่ความใหญ่โตค่อย ๆ แทรกลึกเข้ามา“อย่าเกร็ง เดี๋ยวพอมันเข้าไปสุดก็หายเจ็บแล้ว”“ไม่ไหว พี่คินเอามันออกไปก่อนได้ไหม”“ไม่ได้...เอาออกไม่ได้แล้ว”“เมื่อไหร่มันจะเข้าหมดอะ ปาล์มเจ็บ” หญิงสาวที่ถูกแท่งเพลิงอันเขื่องจู่โจมเริ่มดิ้น ทำให้ร่องสวาทยิ่งตอดรัดจนคิรากรรู้สึกเจ็บเหมือนกัน แต่ความเสียดเสียวมีมากกว่า และถ้าเขาหยุดทุกอย่างลงตอนนี้ ก็จะยิ่งเป็นการสร้างความทรงจำอันเลวร้ายเกี่ยวกับประสบการณ์ครั้งแรกให้ปาริมาให้ตายเขาก็จะไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้นเด็ดขาด!เกมเมอร์หนุ่มไม่อ
“อร่อยปะ” เขาถามพลางยักคิ้วให้เธออย่างกวน ๆ แต่มือทั้งสองข้างเริ่มสาละวน กับการบีบคลึงหน้าอกคัพบีของเธออย่างมันเขี้ยว“ไอ้พี่คินบ้า!” เธอสบถ เนื่องจากไม่รู้สึกเลยว่าตัวเองอร่อย“เดี๋ยวเถอะ เป็นเด็กเป็นเล็กหยาบคายกับพี่ได้เหรอ” เขาส่งเสียงดุพร้อมกับใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้บี้ยอดอกสาวแล้วดึงแรง ๆ เป็นการลงโทษที่เธอพูดไม่เพราะ “อือ...ปาล์มขอโทษค่ะ อ๊า...” ปาริมาสะดุ้ง แอ่นอกจนตัวโค้งไปตามแรงดึงของเขา“ดีมาก...เด็กดี” คิรากรค่อย ๆ ลูบศีรษะของปาริมาเหมือนที่เคยทำ แต่ดวงตาที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนาทำเอาคนมองสะท้านไปทั้งกาย“พี่คิน ปาล์มกลัว มันจะเจ็บมากไหมอ่ะ” เธออ่านนิยายมาหลายเรื่อง และทุกครั้งที่นางเอกถูกเปิดซิง เช้ามาเหล่านักเขียนทั้งหลายก็มักจะบรรยายว่านางเอกได้รับบาดเจ็บตรงน้องสาว และที่แน่ ๆ มันต้องมีเลือดออก“ไม่ต้องกลัว แค่ทำตามที่พี่บอก รับรองว่าปาล์มจะสุขจนลืมเจ็บไปเลย”“แต่...แต่ว่า...ไอ้นั่นของพี่คิน เหมือนจะใหญ่มากเลยนะคะ” เธอไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่าจะรับท่อนเอ็นที่เต้นตุบ ๆ อยู่บนหน้าท้องของเธอไหว ขนาดตอนนี้มันยังไม่เข้าไป ก็พาดยาวมาจนเกือบจะเลยสะดืออยู่รอมร่อ “ปาล์ม...จะฉีกไหม” ‘ฉีก







