EP.2
[ มาเบล ] ขวัญพิชชา วรภิรมย์ อายุ 23 ปี เธอเป็นคุณครูสอนภาษาอังกฤษ และเป็นเด็กกำพร้าของมูลนิธิแห่งนี้
ขวัญพิชชา ได้ทุนการศึกษาจากเมธัสจนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยรัฐบาลอันดับหนึ่งของประเทศ คณะอักษรศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษ
หญิงสาวผูกพันกับสถานที่แห่งนี้มาก อยากทำคุณประโยชน์ให้กับองค์กรที่เธอเติบโตมาแต่เล็ก จึงได้มาเป็นครูสอนให้กับเด็ก ๆ ในมูลนิธิ
นามสกุลที่เธอใช้เป็นนามสกุลกลางของมูลนิธิ เนื่องด้วยตอนเกิด พ่อแม่แท้ ๆ เธอไม่ได้ทิ้งประวัติอะไรไว้ให้ ทางมูลนิธิจึงเป็นคนตั้งชื่อเธอขึ้นมาใหม่
การเรียนการสอนเป็นอันต้องหยุดชะงัก เมื่อชายหนุ่มเอ่ยขึ้นแทรกในระหว่างที่เธอตัั้งใจสอนหนังสือให้กับเด็ก ๆ
“คุณ...”
“เคนโซ ลูกชายเมธัส”
“สวัสดีค่ะ” ขวัญพิชชายกมือไหว้อย่างสุภาพ เผยยิ้มแรกออกมาส่งให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านหลังได้เชยชม
เป็นการเจอกันครั้งแรกของทั้งสองคน เธอทราบว่าท่านเมธัสมีลูกชาย แต่ไม่เคยเห็นหน้าคร่าตาเลยสักครั้ง จนได้เจอกันในวันนี้
เขาดูดีมาก ๆ
จวบกระทั่งเสียงเรียกชื่อเธอทางฝั่งซ้าย กวักมือให้ขวัญพิชชาเดินเข้ามาหาท่านเมธัส และกล่าวแนะนำตัว
“สวัสดีค่ะท่าน”
“ขอบใจหนูมากที่เข้ามาเป็นหนึ่งในบุคลากรของที่นี่”
“เพราะที่นี่คือบ้านหลังแรกของเบลค่ะ”
“อืม ฉันไม่รบกวนแล้ว” เมธัสกล่าวลา ชำเลืองมองไปยังไอ้เด็กโข่งที่นั่งอยู่หลังห้อง
“ออกมา”
“ไม่ออก”
“ไม่เป็นไรค่ะท่าน ให้คุณ...เขานั่งในห้องก่อนก็ได้ ขอแค่ไม่รบกวนการสอนก็พอค่ะ”
“ได้ยินแล้วนะครับ” รามิลส่งยิ้มร้ายให้ผู้เป็นพ่อคลั่ง
“ก็ได้” เสียงทุ้มของเมธัสมีร่องรอยสะกดอารมณ์กลั้น จำต้องยอมถอยให้ หันไปสั่งบอดี้การ์ดคุมลูกชายทุกการเคลื่อนไหว
“อย่าหลงกลมัน” เมธัสทิ้งท้ายคำพูดให้ขวัญพิชชาเก็บไปคิด หญิงสาวก้มหน้ารับคำสั่งอย่างงุนงง ชำเลืองมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่หลังห้อง
ขวัญพิชชาหลุบสายตาลง ก้มคำนับผู้ใหญ่ทุกคนที่เดินผ่านห้องเรียนของเธอ
ธิติมาภรรยาเมธัส หยุดยืนอยู่ตรงหน้าวัญพิชชา สายตาของสาววัยกลางคนมองขวัญพิชชาตั้งแต่หัวจรดเท้า คนถูกมองก็รู้สึกประหม่า เหมือนกำลังถูกคนตรงหน้าดูถูกเธอด้วยสายตา แล้วเดินตามเมธัสไป
เมื่อบุคลากรทุกคนรวมถึงมาเฟียใหญ่ได้เดินออกไปจากพื้นที่ตรงนี้ ขวัญพิชชาจึงเริ่มการเรียนการสอนต่อในทันที
“เอาล่ะค่ะ เรามาเริ่มต่อกันที่คำศัพท์นี้นะคะ...”
สุ้มเสียงอ่อนหวาน ทั้งใบหน้าและกิริยาที่งดงาม สะกดสายตามาเฟียหนุ่มจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของคุณครูสาว
ขวัญพิชชามีรูปหน้าสวยราวกับรูปวาด ดูมีเสน่ห์ สง่างาม และน่าค้นหา
“อยากมองเธอให้ลึกกว่านี้ ฉันต้องทำยังไง” พึมพำเสียงเบา จินตนาการเรื่องสิบแปดบวกจับเธอกดอยู่ใต้ร่าง ถอดพันธนาการบนเรือนร่างทุกชิ้น คงจะสวยงามไม่น้อย
“นายคิดอะไรอยู่ครับ” ฟาร์ม ลูกน้องคนสนิทนั่งอยู่ข้างนาย เห็นแววตาคมขึ้นประกาย แคล้วไม่พ้นเรื่องพรรค์นั้น
นายเขาโคตรหมกมุ่น
“เชื่อฟังพ่อกูมากกว่ากูที่เป็นเจ้านายมึงสินะ”
“นายใหญ่มีอำนาจกว่านาย...”
“ไอ้ฟาร์ม” รามิลแหกปากลั่นเรียกชื่อลูกน้องคนสนิท เมื่อมันพูดยั่วให้เขาต้องโมโห
“ฉันบอกว่ายังไงคะ” คุณครูสาวส่งเสียงห้ามปรามคนหลังห้อง สีหน้าเคร่งขรึมและจริงจังของเธอถูกส่งผ่านไปถึงมาเฟียหนุ่มอย่างไม่มีความเกรงกลัว
และนี่เป็นการเตือนครั้งที่หนึ่ง ถ้ามีอีกครั้งเธอคงต้องเชิญลูกชายเมธัสออกจากห้อง เมื่อพูดกันไม่รู้เรื่อง
รามิลลดความเกรี้ยวกราดบนใบหน้า นั่งกอดอกมองขวัญพิชชาอย่างไร้เชิง เมื่อเห็นว่าทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติ ขวัญพิชชาจึงทำการสอนนักเรียนต่อไป
รามิลชักไม่สนุกที่จะอยู่ตรงนี้ เธอคนสวยมองไม่เบื่อก็จริง แต่ต้องนั่งร่วมห้องกับเด็กบ้าน ๆ พวกนี้แล้วมันอึดอัด
ชายหนุ่มตัดสินใจลุกขึ้นเดินออกจากห้องด้วยกิริยาไร้มารยาท นึกจะเข้าก็เข้า นึกจะออกก็ออก ขวัญพิชชามองตามร่างสูง เขาเดินผ่านหน้าห้องแล้วหยุดยืนตรงที่ประตู
“สอนเสร็จขึ้นไปเจอฉันข้างบน” รามิลออกคำสั่งขวัญพิชชาอย่างเอาแต่ใจ
“...” ขวัญพิชชาไม่ยอมตอบ
“ตอบฉันสิ” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยคาดคั้น หัวคิ้วหนาขยับเข้าหากันมองอีกฝ่ายที่ไม่ปริปา
“...ค่ะ”
ร่างสูงเดินหายไปพร้อมกับลูกน้องคนสนิท ขวัญพิชชาเก็บความสงสัยกลับเข้าไป จำต้องสอนเด็ก ๆ ต่อให้จบ
ขวัญพิชชาอ่านคำศัพท์บนกระดานให้นักเรียนอ่านตาม กระทั่งหมดเวลา เธอจึงสั่งการบ้านแล้วเก็บอุปกรณ์การเรียนการสอนไปยังสำนักงาน
สอนเสร็จขึ้นไปเจอฉันข้างบน
ดวงตาหวานแหงนมองนาฬิกาบนผนัง ตอนนี้เป็นเวลาสิบเอ็ดโมงตรง
“ทำไมต้องให้ไปเจอ” เขาสั่งเอาไว้ ไม่สิบังคับเธอเสียด้วยซ้ำ ขวัญพิชชานั่งขบริมฝีปากครุ่นคิด ในระหว่างตัดสินใจมีมือสะกิดเรียกเธอทางไหล่ขวา ใบหน้าหวานหันไปมอง
“คุณเคนโซให้พี่มาตาม”
“...”
“อ้อ คุณเคนโซบอกว่าให้ไปเจอที่ห้องท่านประธาน อยู่ชั้นไหนรู้ใช่ไหม”
“...ค่ะ”
ขวัญพิชชาเดินออกจาปประตูสำนักงาน แล้วกดลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นสิบเก้า เป็นชั้นที่สูงที่สุด
“ห้องประธาน” ทวนคำพูดกับตัวเอง พลันมีคำถามอยู่ในใจ เมื่อประตูลิฟต์ถูกเปิดในชั้นที่เธอมาเยือน ขวัญพิชชาเริ่มหวาดระแวง แลหันซ้ายขวา และเดินตรงไปทางซ้าย ห้องประธานจะอยู่ทางขวามือ
เมธัส พัฒนาวรวงศ์ เป็นชื่อของประธานใหญ่ติดอยู่หน้าห้อง ขวัญพิชชาเคาะประตูรอคนด้านในอนุญาต
“เข้ามา” รามิลเอ่ยสั่ง วางแฟ้มเอกสารที่กำลังถืออยู่ในมือลงบนโต๊ะ เขาส่งเสียงอนุญาตพลางกดรีโมทเพื่อเปิดประตูต้อนรับให้กับสาวสวยที่ยืนอยู่ด้านนอก
ร่างบอบบางก้าวเท้าช้า ๆ เห็นมาเฟียหนุ่มนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน เธอยืนอยู่ไม่ไกลจากประตู เผื่อเกิดอะไรไม่ชอบมาพากลจะได้วิ่งออกทัน
“เรียกเบลมาพบมีอะไรหรือเปล่าคะ”
คนถูกถามประดับยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนตอบ
“มาเป็นผู้หญิงของฉัน”