EP.5
หลังจากที่รามิลได้ส่งคนไปติดตามเลขรถทะเบียนคันนั้น ฟาร์มลูกน้องคนสนิทได้คอยโทรรายงานความเคลื่อนไหว ถึงได้ทราบว่าอคิราห์ พาขวัญพิชชาไปที่บ้านเดี่ยวแห่งหนึ่งย่านชานเมือง รูปภาพถูกส่งเข้าเครื่องมือสื่อสาร รามิลรีบกดเปิดดู มีภาพขวัญพิชชา อคิราห์ และเด็กผู้หญิงน่าจะเป็นแค่เด็กประถมนั่งอยู่ด้วยกัน
จากในภาพ เขาคาดว่าขวัญพิชชากำลังนั่งสอนการบ้านให้กับเด็กหญิงคนนั้น ไอ้อคิราห์ก็นั่งอยู่ด้วยกัน ยิ่งมองก็ยิ่งหมั่นไส้ ทำไมมันเหมือนภาพครอบครัวนัก
“หรือเธออยากเป็นเมียน้อยมัน มาเบล” รามิลเอ่ยน้ำเสียงค่อนขอดอย่างดูถูก ริมฝีปากหนายิ้มร้ายมองภาพนั้นแล้ววางเครื่องมือสื่อสารลง หยิบเบียร์กระป๋องที่ตั้งอยู่บนโต๊ะตรงหน้ามาดื่มให้ชื่นใจ
รามิลควงกระป๋องไปมาซ้ำ ๆ นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่เขาแม่งโคตรเจ็บและผิดหวัง แววตาคมดุลุกวาวอย่างน่ากลัว ซดเบียร์ดื่มจนหมดแล้วบีบกระป๋องที่อยู่ในมือจนไม่เป็นรูปเป็นร่าง แล้วเขวี้ยงมันลงบนพื้นอย่างระบายอารมณ์
“มึงมันมีอะไรดีนักวะ” รามิลตวาดลั่นเมื่อเริ่มคุมสติไม่อยู่ ความครุกรุ่นในใจที่ติดมาตลอดสิบปี เขาไม่เคยลืมมัน
รามิลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากำชับลูกน้องอีกครั้ง ให้คอยติดตามความเคลื่อนไหวสองคนนั่น ได้เรื่องยังไงให้รีบรายงานทันที
“หรือมึงกับณิลินเลิกกัน ?” ยิ่งไม่น่าเป็นไปได้ ในเมื่อสองคนนั้นยังคงอยู่ด้วยกันอย่างสุขสบายดี
ภายในบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ มีขวัญพิชชา อคิราห์ และเด็กสาวอีกคนหนึ่ง เด็กคนนี้เธอชื่อนาเดีย เป็นลูกสาวบุญธรรมของอคิราห์
“คุณครูมาเบลคะ”
“ว่ายังไงคะ” ระหว่างที่ขวัญพิชชากำลังเก็บอุปกรณ์การสอน เสียงเรียกของเด็กสาวทำให้เธอต้องหันไปขานรับด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“อยู่ทานข้าวที่บ้านก่อนสิคะ”
“เอ่อ...”
“นะครับ นี่ก็เย็นแล้ว อยู่ทานข้าวกันก่อน แล้วเดี๋ยวผมไปส่งคุณเหมือนเดิม” อคิราห์เห็นเธออึกอัก จึงได้ทักและกล่าวชวน ความจริงเขาเป็นคนแอบกระซิบลูกสาวให้ชวนคุณครูคนสวยอยู่ทานข้าวด้วยกันที่บ้าน
“ไม่ต้องเกรงใจกันหรอกนะคะคุณครู ถ่อมาตั้งไกลจากในเมือง กว่าจะกลับถึงบ้าน กว่าจะได้ทานข้าว ฝ่ารถติดอีก ทานเสียที่นี่เลยจะดีกว่านะคะ” เสียงของหญิงสาวอีกคน เอ่ยสำทับชวนคุณครูสาวทานข้าวด้วยกัน เธอคือพี่สาวอคิราห์ และเป็นแม่ของนาเดีย ชื่อนิรา
“ก็ได้ค่ะ งั้นเบลไม่เกรงใจแล้วนะคะ”
“เย้ จะได้ทานข้าวกับคุณครูแล้ว” นาเดียร้องดีใจสุดเสียง โผเข้ากอดขวัญพิชชาแน่น
“ดีใจอะไรขนาดนั้นคะนาเดีย” ขวัญพิชชาถามเสียงหวาน จับเด็กน้อยออกจากกอด มองใบหน้าที่แสนจะน่ารักของนักเรียนตัวน้อย
“นาเดียอยากอยู่กับคุณครูคนสวยนี่คะ ใช่ไหมคะปะป๊า” นาเดียหันไปหาพ่อบุญธรรม พลางส่งยิ้มหวาน ๆ ให้ เพราะอยากได้คำชมจากคุณพ่อว่าเธอนั้นเก่ง ทำตามที่คุณพ่อว่าได้สำเร็จ ทั้งที่จริงแล้ว เป็นเพราะเขาและพี่สาวที่ช่วยกันกล่อมขวัญพิชชา ไม่ให้รีบชิ่งกลับบ้านไปเสียก่อน
“เยี่ยม” อคิราห์ยกนิ้วโป้งสองข้างเป็นรางวัลให้กับเด็กน้อย พลางชำเลืองมองขวัญพิชชาและรีบชวนเธอไปที่โต๊ะอาหารเพื่อทานข้าว
ยังไม่ทันจะได้ตักอาหารขึ้นมาทาน เสียงโทรศัพท์จากเครื่องมือสื่อสารของอคิราห์ก็ร้องขึ้น แสงไฟจากหน้าจอปรากฏชื่อของคนคนหนึ่ง อคิราห์หลบชื่อปริศนาเข้าหาตัวแล้วลุกออกจากเก้าอี้เพื่อไปรับสาย
“ว่า”
[ จะกลับหรือยัง ]
“ยัง พี่นิราชวนทานข้าวที่บ้าน”
[ ไหนนายบอกจะกลับมาทานที่บ้านไง ลินเตรียมอาหารที่นายชอบไว้ตั้งหลายอย่าง ]
“ลินทานไปก่อนเลย”
[ ได้ยังไงอ่ะ นายจะปล่อยให้ลินทานคนเดียวงั้นเหรอ ]
“ไว้พรุ่งนี้เราก็ทานด้วยกัน”
[ นายโกหก กี่ครั้งแล้วล่ะที่พูดแบบนี้ แต่แล้วก็รักษาสัญญาไม่ได้ ลินขอสั่งให้นายกลับมาเดี๋ยวนี้ ]
“นายต้องทานข้าวกับลูก”
[ ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ จะแคร์อะไรนัก ]
“ลิน มันจะมากไปแล้วนะ” ใบหน้าหล่ออึมครึม ณิลิน แฟนสาว เริ่มจะปากคอเราะร้าย เธอไม่พอใจที่อคิราห์ไม่กลับมาทานข้าวที่บ้าน แต่กลับอ้างว่าต้องอยู่ทานข้าวกับลูกสาว แล้วเธอที่เป็นแฟนเขาล่ะ เขาจะทิ้งเธอให้ทานข้าวคนเดียวได้ยังไง
[ ยังไงนายก็ต้องกลับมาหาลิน ]
“ทานข้าวไปคนเดียวก็แล้วกัน นายไม่กลับ”
[ นาย... ]
อคิราห์กดตัดสายทิ้งทันที ยืนปรับอารมณ์อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกลับเข้าไปในบ้าน ก็เห็นพี่สาวยืนอยู่ข้างหลัง
“ลินเหรอ”
“ครับ”
“พี่รู้นะว่านายคิดยังไงกับครูเบล แต่นายมีภรรยาแล้วนะ ลืมไปหรือเปล่า”
“ผมไม่ลืม แต่ช่วงนี้ลิน...”
“อย่าเอาลินมาอ้างเลย กับครูเบลนายอาจจะแค่อารมณ์ชั่ววูบก็ได้ เธอสวยมาก กิริยาก็งาม พูดจาอ่อนหวาน พี่เองยังชอบเลยขนาดว่าเป็นผู้หญิงด้วยกัน นับประสาอะไรกับผู้ชายอย่างนาย” นิรารู้ทันความคิดของน้องชาย ตั้งแต่ขวัญพิชชามาเป็นคุณครูสอนพิเศษให้กับนาเดีย อคิราห์เจอเธอที่บ้าน และอาสาคอยเทียวรับเทียวส่ง ในวันที่นาเดียมีเรียนพิเศษกับขวัญพิชชา
ในหนึ่งสัปดาห์ ขวัญพิชชาจะมาสอนพิเศษให้กับนาเดียสัปดาห์ละ 3 วัน วันธรรมดาหนึ่งวันก็คือวันศุกร์หลังเลิกเรียน รวมไปถึงเสาร์ อาทิตย์
โดยเฉพาะวันศุกร์ หลังจากขวัญพิชชาสอนหนังสือให้กับเด็ก ๆ ที่มูลนิธิเสร็จ ก็จะเดินทางมาสอนพิเศษให้กับนาเดียต่อในทันที
โรงเรียนที่นาเดียเรียนในวันศุกร์ ตารางเรียนของเด็กประถมศึกษาชั้นปีที่สอง จะมีชั่วโมงเรียนถึงแค่เที่ยงตรง เวลาที่เหลือก็จะเป็นเวลาของขวัญพิชชาที่จะเริ่มสอนในช่วงบ่ายสองเป็นต้นไป จนถึงเวลาห้าโมงเย็น จะมีก็วันนี้ที่เธอถูกนักเรียนให้อยู่ลากยาวมาจนถึงหกโมงเพราะอยากเล่นกับเธอ
“ก็คนมันชอบไปแล้ว”
“แล้วที่คบมา 10 ปีลินไม่มีความหมายสำหรับนายเลยหรือยังไง”
“เคยมี ผมเคยรักลินมาก”
“แล้วเพราะอะไร ที่ทำให้นายเป็นแบบนี้”
“พี่ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของผม”
“นายทำแบบนี้ลับหลังลิน คิดว่ามันดีนักเหรอ ในเมื่อลินยังเป็นภรรยาของนาย”
“เป็นได้ก็เลิกได้”
“แต่ครูเบลเธอไม่รู้เรื่องด้วย แล้วถ้าลินรู้เข้านายจะทำยังไง”
นิราเป็นห่วงในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ อีกอย่างขวัญพิชชาเธอก็ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย นิรากลัวว่าถ้าเรื่องแดงเข้า คนที่แย่ที่สุดคงเป็นขวัญพิชชาแน่นอน
รามิลเดินทางมายังคลับหรู สถานบันเทิงใจกลางเมืองกรุง รวมความสนุกทุกอย่่างไว้ที่แห่งนี้ ไม่ว่าจะดนตรีสด หรือแม้แต่พริตตี้ และห้องลับวีวีไอพีที่อยู่ทั้งชั้นใต้ดิน และชั้นบนสุดของตึก
อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวมมั่วสุม ใครที่อยากใช้บริการกับสาว ๆ ก็ต้องแลกกับเงินจำนวนห้าหลักขึ้นไป โดยชั้นบนสุดจะเปิดเป็นอาบอบนวด และยังมีของจำพวกสารเสพติดต่าง ๆ ส่วนชั้นใต้ดินก็เป็นแหล่งรวมนักผีพนัน เรียกว่ารวมเหล่าคนดัง ทั้งดารา และนักการเมืองต่างก็อยู่ที่นี่กันทั้งสิ้น
รามิลนั่งอยู่ในห้องทำงาน พร้อมกับสาวสวยอีกหนึ่งคน เธอยืนโชว์ลวดลายอันเย้ายวนสุดเซ็กซี่ด้วยชุดบิกินี่สีแดงต่อหน้าเจ้าของคลับ
ในขณะที่รามิลกำลังดื่มด่ำกับความสวยตรงหน้า เสียงโทรศัพท์เขามันร้องดัง รามิลจำต้องละสายตาจากหญิงสาวก้มมองเครื่องมือสื่อสาร แล้วหยิบขึ้นมาเพื่อกดรับสาย
“ว่ายังไง”
[ ผู้ชายคนนั้นพาเธอไปส่งที่อะพาร์ตเมนต์ครับ อยู่ไม่ไกลจากคลับ ]
“งั้นเหรอ” ริมฝีปากหยักบิดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ในทันทีแล้ววางสาย
“เธอจะไปไหนก็ไป”
“คุณเคนเพิ่งจะเรียกใช้เองนะคะ ทำไมรีบไล่จังล่ะ” หญิงสาวเดินนวยนาดหย่อนสะโพกลงบนหน้าขาเจ้านาย
“ฉันมีธุระ”
“ธุระอะไรจะสำคัญไปกว่า...”
เอาละเนื้อเรื่องเข้มข้นอีกแล้ว
ขอคอมเมนต์ดป็นกำลังใจให้กันหน่อยน๊า 💜