LOGINบทที่ 1
"โถ่ พี่ก็มาขอโทษน้องรินไงครับ พี่ขอโทษจริง ๆ พี่แค่หงุดหงิดมากไปไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ " คนถูกถามรีบลุกจากเตียงอล้วปรี่เข้ามาจับไหล่ทั้งสองของเธอเบา ๆ อย่างเอาอกเอาใจ เพราะที่อพาร์ตเมนต์นี้ใช้ระบบสแกนนิ้วจึงทำให้ไมเนอร์สามารถเข้าออกได้ตามใจ เขาเลยมานั่งอยู่ในห้องโดยที่เธอไม่ได้อนุญาตได้
"ไม่ได้ตั้งใจงั้นเหรอคะ ไม่ได้ตั้งใจตั้งแต่ตรงไหนคะ ตั้งแต่ตอนรินอมหรือไม่ได้ตั้งใจว่ารินจะเห็น" น้ำเสียงประชดประชันออกมาไม่ขาดสายเธอไม่แม้แต่จะหันไปมองใบหน้าของเขาด้วยซ้ำ เพราะตั้งใจว่าจะตัดขาดกับเขาให้จบวันนี้เลยเกรงว่าหากหันไปมองอาจจะใจอ่อน
"ช่างเถอะค่ะ ให้มันจบแค่นี้เถอะรินรับคำขอโทษพี่ไมค์กลับไปเถอะค่ะ แล้วจากนี้อย่ามาเจอกันอีก" รินลดาพูดเสียงเรียบพร้อมกับลูบครีมแก้มเนียนของตนเอง
"ไม่เอาหรอก แฟนพี่อยู่ที่นี่จะให้พี่ไปไหนล่ะครับ พี่ขอโทษน้า ตบพี่เลยก็ได้พี่จะไม่ทำอีกแล้ว รินครับ"
"ไม่ละค่ะ รินไม่อยากต้องมานั่งทุกข์ใจเพราะให้โอกาสพี่อีก"
ไมเนอร์ที่เห็นว่าครั้งนี้แฟนสาวดูจริงจังมากกว่าทุกครั้งก็กวาดสายตาไปรอบห้องเพื่อหาวิธีพูดโน้วน้าวใจแฟนสาว จนในที่สุดสายตาก็หยุดที่บางอย่างบนตลับแป้งของเธอ แผ่นเล็กเรียวยาวดูอ่อนแอเขาเอื้อมมือไปหยิบมันมาดูช้า ๆ อย่างสงสัย
"หยุดเดี๋ยวนี้นะ อย่ามายุ่งกับของ ๆ ริน" หญิงสาวรีบหันกลับมาแย่งคืนแต่คนด้านหลังกลับหมุนตัวหนีแล้วหยิบมันมาดูให้เต็มตา
"นี่อะไรครับ"
"แผ่นตรวจโควิดไง เอามานะอย่ามายุ่ง ออกไปได้แล้ว" รินลดาตะคอกเสียงใส่แม้ไม่ดังมากแต่ทำให้รู้ว่าเธอไม่พอใจที่เขาแตะต้องของ ๆ เธอก่อนได้รับอนุญาต
"HGC ไม่น่าใช่โควิดนะริน" ไมเนอร์ตอบพลางช้อนสายตามองแฟนสาวที่อยู่ด้านข้างอย่างคาดคั้น
"แล้วยังไง" น้ำเสียงหาเรื่องของรินลดาทำเอาแฟนหนุ่มของเธอแทบกุมขมับ เธอคงยังโกรธเขาเพราะเรื่องเมื่อตอนเย็นอยู่แน่ ๆ แต่อีกไม่นานเธอจะหายโกรธเขาแน่นอน ชายหนุ่มมั่นใจแบบนั้นจึงตั้งใจมาหาเธอหลังจากที่เธอเลิกงาน
"ถ้านี่เป็นของริน รินท้องเหรอ? " ไมเนอร์ถามด้วยน้ำเสียงเหลือเชื่อ แถบตรวจขึ้นขีดสีม่วงสองขีดอย่างชัดเจน เขาเองก็ไม่ใช่คนโง่เพราะฉะนั้นอย่างเดียวที่เป็นไปได้คือเธอท้องและพ่อของลูกเธอก็คือเขาอย่างแน่นอน
"จะบ้าหรือไง รินฉีดยาคุมอยู่ตลอดหรอก" รินลดาตอบด้วยน้ำเสียงเหลือเชื่อไม่แพ้กัน เธอฉีดยาคุมอยู่ทุกเดือนจะเป็นไปได้อย่างไรที่เธอจะท้อง สิ้นประโยคเธอก็แย่งแถบตรวจครรภ์ในมือของเขามาจดจ้องมันอยู่นานจนแน่ใจ
"บ้าน่า เป็นไปไม่ได้หรอก ฉันจะท้องได้ยังไง" เท้าเล็กเรียวเดินถอยหลังอย่างหมดแรงจนล้มลงบนผ้าปูสีฟ้าขาวของเตียงนุ่มขนาดคิงไซซ์ เธอฉีดมันทุกเดือนจริง ๆ แล้วมันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกันนะ
ในขณะที่รินลดากำลังใจหายเพราะตนเองท้องไมเนอร์ก็ยิ้มกว้างวิ่งเข้ามากอดรัดเธอเอาไว้อย่างดีใจ
"พี่กำลังจะมีลูก พี่กำลังจะเป็นพ่อแล้วริน" พูดจบก็กอดคอก้มลงจูบเบา ๆ ที่ศีรษะของแฟนสาวซึ่งตอนนี้ตกอยู่ในภวังค์
"แต่รินไม่พร้อมและรินไม่อยากอยู่กับพี่อีกต่อไปแล้วค่ะ" น้ำเสียงเฉียบขาดทำเอาคนดีใจหน้าหดเหลือแค่สองนิ้ว เขารักเธอจริง ๆ และอยากจะมีลูกกับเธอ ไมเนอร์นิ่วหน้าก่อนจะนั่งชันเข่าบนพื้นเพื่อคุยกับแฟนสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"ไม่เอาแบบนี้สิครับ รินอยากให้ลูกไม่มีพ่อจริง ๆ หรอ" คนถูกถามไม่เปิดปากตอบเพราะเธอเองก็ไม่มั่นใจว่าตนเองไม่อยากให้ลูกขาดพ่อจริง ๆ ในตอนแรกที่ตั้งใจจะเลิกนั่นคือความจริงแต่พอรู้ว่าท้องทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมด
เธอเองก็เป็นเด็กที่กำพร้าแม่มาตั้งแต่จำความได้จึงโหยหาความรักและครอบครัวที่สมบูรณ์มาตลอด มันคือปมในใจของเธอ
"รินเองก็ขาดแม่มาตั้งแต่เด็ก จำไม่ได้เหรอว่าตัวเองรู้สึกแบบไหน หืม…พี่เองก็ขาดพ่อ เราเองก็ขาดกันคู่เราน่าจะทำมันให้ดีได้นะ" ไมเนอร์พูดจบก็จับมือเธอมากุมเอาไว้ ใจแข็งที่คิดว่าจะเลิกกับเขาตอนนี้เหลวเป๋วไปหมดสิ้น แต่เธอก็ไม่ได้หายโกรธเสียทีเดียวจึงเปิดปากเรื่องเมื่อเย็นวานก่อน
"จะดีได้ยังไงในเมื่อพี่ยังนอกใจรินไปคุยกับคนอื่นอยู่แบบนี้"
"พี่สัญญาครับว่าต่อไปจะไม่ทำอะไรก็ตามที่จะทำให้รินเสียใจ พี่สาบานได้" คนฟังพยักหน้าไม่พูดอะไรส่วนคนพูดก็ดีใจรีบลุกขึ้นสวมกอดแฟนสาวของตนก่อนจะลูบท้องเธอเบา ๆ อย่างรักใคร
รินลดามองการกระทำพลางคิดไปว่าการมีลูกอาจเปลี่ยนนิสัยของไมเนอร์ได้
โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใจกลางเมือง เท้าของคนสองคนพากันเดินไปยังเคาน์เตอร์ของโรงพยาบาลด้วยความตื่นเต้น มือนิ่มถูกเกาะกุมไว้ด้วยฝ่ามือของแฟนหนุ่ม
รินลดาถูกแฟนหนุ่มพามาโรงพยาบาลเพื่อฝากครรภ์ ก้อนเนื้อในอกเต้นเร็วจนกระเป๋าที่ถูกสะพายพาดกลางอกยังสั่นไปด้วย หญิงสาวทั้งกลัวทั้งเกร็ง ต่างกับแฟนหนุ่มของเธอที่ดูชิวจนเหลือเชื่อ หญิงเบนสายตาจากเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ไปยังมือขวาที่ถูกกุมไว้ด้วยฝ่ามืออบอุ่นของแฟนหนุ่ม เธอถึงกับหลุดยิ้มให้กับการกระทำของเขาและเชื่อจนหมดใจว่าเขาอยากมีลูกกับเธอจริง ๆ …
"คุณแม่ดูนี่สิครับ น้องมีหัวใจมีแขนขาแล้วนะครับ เดี๋ยวเรามาฟังเสียงหัวใจน้องกันสักหน่อยดีกว่าเนาะ" คุณหมอพูดขณะที่ใช้เครื่องอัลตร้าซาวด์ถูไปมาบนหน้าท้องแบนราบ เจลใสสีฟ้าบนหน้าท้องทำเอาเธอขนลุกไปหมด ตื่นเต้นก็ตื่นเต้น กลัวก็กลัว
ตึก ๆ ตึก ๆ ตึก ๆ
เสียงหัวใจที่เต้นเกือบ 140 ครั้งต่อนาทีดังทั่วห้องทันทีที่คุณหมอเปิดเครื่อง คนที่นอนอยู่ถึงกับน้ำตาซึมเมื่อได้ยินเสียง ความปิติคับแน่นในอกพลางโกรธตนเองในครั้งแรกที่ในหัวมีความคิดที่จะเอาออกแวบเข้ามา
"แล้วต้องทำยังไงต่อครับหมอ" ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นพร้อมกุมมือแฟนสาวที่นอนอยู่เตียงอัลตร้าซาวด์ไว้แน่น ราวกับต้องการจะบอกว่าเขาอยู่ตรงนี้ไม่ต้องกลัวอะไร
รินลดายกนิ้วขึ้นปาดเอาหยดน้ำตาที่หางตาออก ก่อนจะเงยหน้ามองคุณหมอหนุ่มที่กำลังดึงรูปอัลตร้าซาวด์จากเครื่องอยู่
"ตอนนี้น้องประมาณ 8 สัปดาห์แล้วนะครับ หลังจากนี้คุณแม่อาจจะมีอาการแพ้ท้องมากขึ้นหรืออาจจะไม่มีเลยก็ได้ แต่ต้องระวังอาการเลือดออกหากมีเลือดออกไม่ว่าเยอะหรือน้อยต้องรีบมาโรงพยาบาลทันทีนะครับ" คุณหมอบอกขณะที่ใช้เดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน โดยมีพยาบาลสาวเช็ดเจลอัลตร้าซาวด์ออกจากหน้าท้องของเธอ
"แล้วต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษมั้ยครับคุณหมอ" เสียงทุ้มของไมเนอร์ถามขึ้นขณะช่วยพยุงแฟนสาวลุกนั่ง แล้วพาเดินไปนั่งบนเก้าอี้ตรงหน้าหมอที่กำลังนั่งเขียนบางอย่างอยู่บนโต๊ะ
"หากคุณแม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนให้ทานชาขิงหรือน้ำขิงอุ่น ๆ ดูนะครับ ทานอาหาทีละน้อยแต่ทานให้บ่อยขึ้นจะดีกว่าเพราะคุณแม่อาจจะเป็นกรดไหลย้อนได้ ที่สำคัญงดดื่มแอลกอฮอล์ ของดิบ ทานอาหารให้ครบห้าหมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ"
5"ดูเหมือนว่าน้องจะไม่กลับหัวเลยนะครับ กระดูกเชิงกรานก็ดูเล็กไป คุณแม่อาจจะต้องผ่าตัดคลอด" คำพูดของคุณหมอทำคนท้องเป็นกังวลอย่างมาก เธอตั้งใจว่าจะคลอดเองเพราะกลัวการผ่าตัดคลอดจะทำให้ต้องพักฟื้นนานกว่าการคลอดเองหญิงสาวผ่อนลมหายใจแห่งความเป็นกังวลจนหมอสังเกตเห็น หมอหันไปเขียนบางอย่างในชาร์ตคนไข้ก่อนจะหันกลับมาคุยกับว่าที่คุณแม่"กลัวเหรอครับ""ค่อนข้างค่ะ""ไม่ต้องกลัวไปหรอกครับ จริง ๆ มันไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น คุณแม่นอนนิ่ง ๆ แค่หนึ่งวัน ๆ ต่อมาก็ลุกเดินได้แล้วครับ""ค่ะ คุณหมอแล้วรินต้องทำอะไรเป็นพิเศษอีกมั้ย" คนเป็นกังวลถามหมอด้วยน้ำเสียงตื่น ๆ เธอกังวลจนคิดอะไรไม่ออกตั้งแต่รู้ว่าตนเองอาจจะต้องผ่าคลอด ซึ่งเป็นการคลอดที่เธอกลัวเอามาก ๆ"ไม่มีครับ คุณแม่แค่เตรียมตัวให้พร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ กินแต่อาหารที่มีประโยชน์ก็พอเพราะทางโรงพยาบาลเตรียมไว้ให้หมดครับ" คุณหมอตอบก่อนจะหันมายิ้มอบอุ่นให้กำลังใจว่าที่คุณแม่ ก่อนจะหยิบใบอัลตร้าซาวด์สองใบให้เธอ"แล้วจะต้องผ่าวันไหนเหรอคะ""คุณแม่ดูตามตารางนี้ได้เลยครับ สีแดงแปรว่ามีคิว สีเขียวว่างสามารถจองคิวได้ครับ" หมอหนุ่มว่าพลางใช้นิ้วชี้ไล่ช่องว่าง
4"ริน พี่ซื้อสเต็กปลามาฝาก" น้ำเสียงทุ้มต่ำของพี่สามีดังขึ้นจากอีกฝั่งของเคาน์เตอร์ครัว เขาไปพบลูกค้าที่ร้านสเต็กชื่อดัง แล้วนึกถึงน้องสะใภ้ขึ้นมาจึงสั่งสเต็กแบบกลับบ้านมาให้เธอ"ขอบคุณค่ะ รินกำลังจะทำอะไรกินพอดี พี่เมจกินด้วยกันมั้ยคะ""พี่ไปคุยงานที่ร้านสเต็กเลยกินกับลูกค้ามาแล้ว นึกขึ้นได้ว่าคนท้องต้องทานโปรตีนเยอะ ๆ แต่จะสั่งสเต็กเนื้อก็กลัวจะย่อยยากเลยสั่งสเต็กปลามาให้" คนพูดวางถุงอาหารลงบนเคาน์เตอร์ก่อนจะเดินอ้อมไปล้างมือตรงอ่างล้างจาน ล้างเสร็จก็หันไปมองรอบห้องเพื่อหาน้องชายตัวดีของตนเอง"ไอ้ไมค์ยังไม่กลับเหรอ""ยังเลยค่ะ เห็นบอกว่ามีนัดต่อ" รินลดาพูดจบก็หยิบกล่องอาหารมาแกะดูด้วยสีหน้าซึม ๆ เล็กน้อย"มา พี่กินเป็นเพื่อน" เสียงนุ่มทุ้มพูดพลางยกจานสเต็กที่รินลดาจัดไว้เดินไปที่โต๊ะ แล้วนั่งกินอาหารเป็นเพื่อนคนท้อง"แล้วนี่จะคลอดเดือนไหนล่ะ""น่าจะเกือบสิ้นปีเลยค่ะ" พูดจบก็นั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเจ้าของห้อง โชคดีที่เป็นสเต็กปลาเพราะช่วงนี้เธอรู้สึกว่าตนเองท้องผูกจากการตั้งครรภ์ ยิ่งทานเนื้อมากเธอก็ยิ่งท้องผูกไม่ว่าจะทานผักอย่างไรก็ยังมีอาการท้องผูกอยู่เสมอ"แล้วนี่ต้องผ่าหรือคล
3"พี่ไมค์ รินเจ็บขาอะ" เสียงหวานใสพูดขึ้นขณะกำลังเดินเข้าไปภายในห้างสรรพสินค้า ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากโรงพยาบาลเอกชลมากนัก หลังพบหมอประจำตัวเสร็จ รินลดาก็ชวนสามีมาที่ห้างเพื่อซื้อของเตรียมคลอดต่าง ๆ ให้เจ้าเด็กจิ๋วในท้องได้ยินแบบนั้นไมเนอร์จึงรีบวิ่งกลับไปที่รถแล้วยกวีลแชร์ลงมาเพื่อให้ภรรยาสาวนั่งตอนซื้อของ"สบายขึ้นหรือยังครับ""ขอบคุณค่ะ" รินลดาตอบพร้อมขยับตัวให้นั่งสบายมากขึ้น พอเห็นเธอนั่งเรียบร้อยเขาก็เข็นรถไปโซนของใช้แม่และเด็ก ที่อยู่ชั้นสองของห้าง"พี่ไมค์ดูตื่นเต้นจังเลยนะคะ""ก็ต้องตื่นเต้นสิครับ มีลูกกับคนที่รัก นี่ลูกของเราเลยนะ" คนเป็นสามีพูดอย่างอ่อนโยนก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวภรรยาบนวีลแชร์ เธอยิ้มออกมาด้วยความดีใจพลางนึกถึงก่อนหน้านี้ที่ทั้งคู่เกือบเลิกกัน ลูกของเธอเกิดมาเพื่อเป็นโซ่คล้องใจจริง ๆ หญิงสาวลูบท้องที่นูนออกมาจนเห็นได้ชัดว่ากำลังตั้งครรภ์"ริน นี่รินใช่มั้ย" เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากปากชายหนุ่มด้านข้างที่ไมค์เพิ่งเข็นวีลแชร์ผ่านมา หนุ่มแว่นรีบเดินตรงเข้าทักคนที่นั่งอยู่บนวีลแชร์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม คนถูกทักขมวดคิ้วหน่อย ๆ ก่อนจะยิ้มให้ชายตรงหน้าแล้วเอ่ยทักเขา"พี่การใช
2รถเก๋งซีดานสีดำหยุดลงหน้าร้านข้างทางร้านหนึ่งไม่ใหญ่ไม่เล็กแต่สำหรับไมเนอร์มันดูเล็กและไม่สะอาดเอามาก ๆ เขาไม่ชอบร้านข้างทางพวกนี้เอาเสียเลย"จอดทำไมคะ" เสียงใสถามขึ้นทันทีที่รถหยุดลงด้วยความสงสัยเธอคบกับเขามาเกือบปี น้อยครั้งที่แฟนหนุ่มของเธอจะยอมไปนั่งร้านข้างทางกับเธอ"หาอะไรให้เจ้าจิ๋วในท้องรินกินไง พี่จำได้ว่ารินชอบกินราดหน้าร้านนี้" ไมเนอร์พูดจบก็เปิดประตูลงไปแล้วเดินอ้อมไปเปิดประตูให้แฟนสาวตนเอง "ริน ๆ" เปิดประตูห้องได้รินลดาก็ทำท่าพะอืดพะอมแล้วพุ่งตัวไปที่ห้องน้ำ ครู่เดียวอาหารที่กินเข้าไปก็ออกมา ฝ่ามืออบอุ่นวางลงบนแผ่นหลังของรินลดาลูบไปมาด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะหันไปดึงกระดาษทิชชูด้านหลังมาเช็ดปากให้เธอซึ่งตอนนี้นั่งหมดสภาพพิงแขนเขาอยู่"อา…ทำไมจู่ ๆ ก็เวียนหัว คลื่นไส้แบบนี้ล่ะเนี่ย" รินลดาพึมพำพร้อมกับยกมือขึ้นมาลูบหน้าตนเอง ตอนนั่งกินข้าวที่ร้านเธอก็ยังปกติดีอยู่แท้ ๆ แต่พอถึงห้องดันเวียนหัวขึ้นมาซะเฉย ๆชายหนุ่มหันไปกดชักโครกให้แล้วช้อนตัวเธอขึ้นมาแนบอกจากนั้นจึงพาเธอไปวางไว้ที่เตียง"เดี๋ยวพี่เอายาให้กิน รินก็พักผ่อนซะตอนเย็นพี่จะพาไปเจอคุณแม่" "แต่ตอนเย็นรินต้องไปทำง
บทที่ 1"โถ่ พี่ก็มาขอโทษน้องรินไงครับ พี่ขอโทษจริง ๆ พี่แค่หงุดหงิดมากไปไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ " คนถูกถามรีบลุกจากเตียงอล้วปรี่เข้ามาจับไหล่ทั้งสองของเธอเบา ๆ อย่างเอาอกเอาใจ เพราะที่อพาร์ตเมนต์นี้ใช้ระบบสแกนนิ้วจึงทำให้ไมเนอร์สามารถเข้าออกได้ตามใจ เขาเลยมานั่งอยู่ในห้องโดยที่เธอไม่ได้อนุญาตได้"ไม่ได้ตั้งใจงั้นเหรอคะ ไม่ได้ตั้งใจตั้งแต่ตรงไหนคะ ตั้งแต่ตอนรินอมหรือไม่ได้ตั้งใจว่ารินจะเห็น" น้ำเสียงประชดประชันออกมาไม่ขาดสายเธอไม่แม้แต่จะหันไปมองใบหน้าของเขาด้วยซ้ำ เพราะตั้งใจว่าจะตัดขาดกับเขาให้จบวันนี้เลยเกรงว่าหากหันไปมองอาจจะใจอ่อน"ช่างเถอะค่ะ ให้มันจบแค่นี้เถอะรินรับคำขอโทษพี่ไมค์กลับไปเถอะค่ะ แล้วจากนี้อย่ามาเจอกันอีก" รินลดาพูดเสียงเรียบพร้อมกับลูบครีมแก้มเนียนของตนเอง"ไม่เอาหรอก แฟนพี่อยู่ที่นี่จะให้พี่ไปไหนล่ะครับ พี่ขอโทษน้า ตบพี่เลยก็ได้พี่จะไม่ทำอีกแล้ว รินครับ""ไม่ละค่ะ รินไม่อยากต้องมานั่งทุกข์ใจเพราะให้โอกาสพี่อีก"ไมเนอร์ที่เห็นว่าครั้งนี้แฟนสาวดูจริงจังมากกว่าทุกครั้งก็กวาดสายตาไปรอบห้องเพื่อหาวิธีพูดโน้วน้าวใจแฟนสาว จนในที่สุดสายตาก็หยุดที่บางอย่างบนตลับแป้งของเธอ แผ่น
บทนำ"พี่ไมค์ คุยกับใครน่ะ" หญิงสาวร่างเปลือยเปล่าที่เพิ่งเงยหน้าขึ้นมากล่าวด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียวไม่พอใจ ขณะที่เธอกำลังทำบางสิ่งบางอย่างให้เขาอยู่พลันสายตาก็ไปสบเข้ากับภาพกระจกทางด้านหลังของเขา คนตรงหน้าเธอกำลังแช็ตกับใครบางคนอยู่แต่เธอเห็นเพียงสติ๊กเกอร์รูปหัวใจในกระจกเพราะไม่ทันอ่านเธอลุกขึ้นมากระชากโทรศัพท์มือถือออกจากมือของเขา ก่อนจะเลื่อนแช็ตเพื่อดูข้อความก่อนหน้า'คิดถึงนะครับ' ข้อความก่อนที่สติ๊กเกอร์รูปหัวใจจะถูกส่งไปคนที่นั่งอยู่บนเตียงในตอนแรกรีบลุกขึ้นมาแย่งมือถือของตนเองทันทีที่ถูกแย่งไป เขาดึงโทรศัพท์ไปถือเอาไว้ก่อนจะหันมาเอาเรื่องเธอที่กล้ายุ่งกับของๆ เขาชายหนุ่มที่ร่างกายไร้เสื้อผ้าปกปิดยืนมองเธอด้วยสีหน้าโมโห พร้อมผลักไหล่เปลือยเปล่าของฝ่ายตรงข้ามอย่างแรงจนเธอล้มลงกับพื้น"เป็นบ้าอะไรถึงมายุ่งกับของ ๆ กู""พี่ไมค์" หญิงสาวหันมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า แววตาเจ็บปวดถูกส่งผ่านม่านน้ำตาออกมา เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะโมโหแค่เพราะเธอแย่งโทรศัพท์ของเขามาดู หนำซ้ำยังขึ้นกูมึงกับเธอทั้งที่ยามปกติไม่เคยพูด"แล้วถ้าไม่มีอะไรพี่จะหวงมันถึงขนาดนี้หรือไง" รินลดาพูดทั้งน้ำตาพลางยันตนเองให้ล







