ดวงตาของโมเสสใช้งานหนักเมื่อต้องทำงานกับความมืด มีเพียงสารเรืองแสงบนชั้นวางที่ทำให้เขาและไอ้โง่ไซฟอนคลำหาทางได้ ทั้งสองต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะในนี้มีของอันตรายเต็มไปหมด หากพลาดแม้เพียงก้าวเดียว ตูม! ไม่จำเป็นต้องบอกลาใครก็เห็นนรกทันที เพราะมันเป็นโรงเก็บระเบิดของโมลต้า
อย่าคิดว่าคนของเดอะเกตจะไม่รู้ว่าพวกมันโยนความผิด สัจจะกระดาษของโมลต้าไม่ต่างกับลมปาก เห็นว่าตัวเองมีกำลังมากกว่าก็ปฏิบัติกับกลุ่มเล็กเหมือนเห็นเป็นลูกไล่ ความล้มเหลวที่นิวโฮปล้วนกลายเป็นความผิดคนอื่นทั้งสิ้น และตอนนี้พวกมันก็พยายามปลุกระดมกลุ่มอื่นให้ร่วมอุดมการณ์ สร้างภาพว่าเดอะเกตเป็นเพียงกลุ่มปฏิวัติที่ล้มเหลว พันธมิตรต่อต้านเอไลโตจะยั่งยืนและสำเร็จได้อย่างไรหากยังแทงข้างหลังกันเอง อย่างไรก็ตาม โมเสสจำต้องกล้ำกลืนยอมรับความจริงที่ว่า เพราะมีโมลต้าและยูเอเอเอ็ม เอไลโตจึงยังแตะพวกเขาไม่ได้
กำลังรบของเดอะเกตมีไม่มากนัก ส่วนใหญ่พวกเขาจึงเน้นทำงานด้านส่งคนหรือไม่ก็สายลับเพื่อเปิดช่องทางให้กลุ่มอื่นลักลอบเข้านิวโฮป แต่แล้วไอ้ไรลีย์ของโมลต้าก็ทำให้ชื่อเสียงของพวกเขามัวหมอง เพราะนอกจากมันจะสามารถลัก
สุดท้ายก็ทิ้งโมเสสลงไปหลังจากปล่อยให้ได้เห็นสภาพของเดอะเกต เจสซี่ไม่ได้ใส่ใจจะมองลงไปด้วยซ้ำ แค่เห็นทะเลเพลิงเบื้องล่างก็พอใจแล้ว ไม่ต้องการเห็นมากกว่านี้ ไม่ได้อยากรู้ว่าเมืองพังทลายขนาดไหน มีใครตายกี่คน พวกมันเคยหลอกให้เจสซี่ฆ่าครอบครัวของตัวเอง ดังนั้นเขาไม่อยากรู้ว่าทำให้ใครตายอีก ศัตรูก็คือศัตรู ระบายความแค้น เอาคืน เขาแค่อยากทำให้ตัวเองรู้สึกผิดน้อยลง อย่างน้อยครอบครัวจะได้รู้ว่าเขาพยายามแล้ว พยายามทำเพื่อพวกเขาแต่มันยากกว่าที่คิด พอร่างโมเสสตกลงไป เจสซี่กลับทิ้งตัวลงนอนบนยานอยู่นาน ปล่อยให้ระบบอัตโนมัติทำงาน ในใจขยะแขยงตัวเองจนถึงขนาดเริ่มข่วนไปตามลำตัว เหตุใดจู่ ๆ จึงรู้สึกว่าผิวเหมือนงูที่ไม่สามารถลอกคราบได้ ผิวของเขามันน่ารังเกียจ อยากจะดึงออกไปจนเหลือแต่โครงกระดูกถ้าหาก...ถ้าหากระเบิดคลังแสงของโมลต้าได้ มันจะสาแก่ใจกว่าไหมเจสซี่อยู่ที่นั่นจนเรียนรู้ว่าอุดมการณ์ของแต่ละกลุ่มไม่เหมือนกัน หากเขาสนับสนุนให้โมเสสระเบิดคลังแสงก็อาจจะได้แก้แค้น แต่ยูเอเอเอ็มที่ไม่ได้คิดจะโจมตีนิวโฮปจะเปลี่ยนใจหรือไม่ เขาพบว่าตัวเองขี้ขลาดเกินไป กลัวว่าเขาจะซ้ำเติมนิวโฮป ท
ปีที่สิบหลังจากแฝงตัวกับโมลต้า โมเสสได้กลับบ้านสมใจ ร่างของเขาร่วงหล่นไปในทะเลเพลิง สิ่งสุดท้ายที่มองเห็นคือยานดีเจ็ดศูนย์ห้าลอยหายไปในปุยเมฆเขาไม่ได้ฆ่าไซฟอนแต่การปล่อยให้ตายก็อาจจะคล้ายกันหมอนั่นได้รับบาดเจ็บร้ายแรงกว่าที่คิด แผลที่ขาติดเชื้อ ระหว่างเดินทางออกจากนิวโฮปด้วยเรือดำน้ำของแมคเคน ไม่มียาดีกว่าแอสไพริน มันเป็นเรือดำน้ำลำเล็กสำหรับลำเลียงคงไม่กี่คน อุปกรณ์จึงไม่เยอะ เน้นสื่อสารและป้องกันตัวเพื่อให้ถึงจุดหมาย และอาจเป็นเพราะพวกเขารีบมากจึงไม่ได้เตรียมตัวให้พร้อม ทั้งที่คนเจ็บมักเปรยว่าถ้ามีอุปกรณ์การแพทย์ของพ่อ ก็จะไม่ทรมานเช่นนี้อันที่จริงเจสซี่โกหก เขาเจออุปกรณ์ปฐมพยาบาลที่แมคเคน...พ่อของไซฟอนเก็บไว้ แต่เขาย้ายมันไปที่อื่น พอไซฟอนลากสังขารไปหาจึงไม่พบมันเป็นความตั้งใจของเจสซี่ที่จะประคับประคองอาการของไซฟอนไว้แบบนั้น พยายามทำให้คนเจ็บยังมีสติ แต่ก็ไม่สะดวกขยับไปไหนได้ ดูดข้อมูลให้ได้มากที่สุด เขาเคยคิดจะฆ่าทีเดียว แต่ก็พบว่าชายหนุ่มอายุไม่ได้ห่างจากเจสซี่เท่าไร แถมยังเติบโตในนิวโฮปเหมือนกัน ทว่าพ่อของเขาบอกทุกสิ่งที่เก
อีกคนส่ายหัว ดูเหมือนไม่เข้าใจเช่นกันพลันมือของเขาก็ตบที่หัวชายหนุ่ม “ไอ้เวรไซฟอน แกดูให้ดีหรือเปล่า”“ถึงจะรีบ แต่ไม่พลาดแน่นอน!”ตัวของเขาชาวาบเมื่อทิศทางของขีปนาวุธคือทางเดียวกับที่ยานลำนี้มุ่งไป แต่อย่างไรก็ควรมีสติ เหมือนสมองสั่งร่างกายทันที มือซ้ายจึงเอื้อมมือไปยังแผงควบคุมเพื่อจะติดต่อกับฝั่งเดอะเกต อย่างน้อยหากติดต่อได้ก็จะสกัดทัน พริบตาเดียวความเจ็บปวดแล่นไปถึงกระดูกเสียดขึ้นสมอง เสียงกรีดร้องของโมเสสดังก้องไปทั่วห้องมีดที่ปักอยู่คามือทะลุไปจนถึงแผ่นเหล็กใต้ฝ่ามือ แต่แผงวงจรยังคงทำงานเป็นปกติ เข่าของเขาทรุดลงกับพื้น เหงื่อผุดขึ้นมาเฉียบพลัน“แก...”ชั่วพริบตาเดียวความเจ็บปวดยิ่งกว่าแทรกแซงจนเหมือนร่างกายปรับระบบประสาทให้ชาขึ้นเพื่อทุเลาความเจ็บปวด ไซฟอนดึงมีดออก แต่เพราะความที่ถูกฝึกมาทำให้โมเสสสะกดกลั้นแล้วรวบรวมกำลังหยิบปืนจะยิงสวน แต่ถูกเตะซัดจนล้ม พอกลั้นใจลุกขึ้นก็ถูกเตะอีกที คราวนี้ปืนกระเด็นออกไป“แก...ขาย...”“เปล่า” ไซฟอนเดินอ้อมหิ้วปีกเขาขึ้นมานั่ง
โมเสสยักคอส่งสัญญาณให้เจ้าหนุ่มเตรียมตัว ไซฟอนปลดเซฟปืนแล้วขยับมาด้านหลัง อย่างที่เขาเคยบอก หมอนี่โตที่นิวโฮป และแมคเคนไม่ได้อบรมลูกชายให้เป็นกบฏนักบู๊ แต่เป็นเพียงลูกมือของผู้เป็นพ่อเท่านั้น จิตใจก็ไม่เข้มแข็ง ตอนที่โมเสสสังหารนักบินหญิง เขาก็ถามว่าทำไมต้องทำขนาดนี้ประตูลิฟต์เปิดออก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโมลต้าขยับทันทีเมื่อเห็นคนนอก แต่อาวุธของโมเสสพร้อมอยู่แล้วก็รัวไกออกไปทันที ไม่ถึงสี่วินาทีห้าคนของโมลต้าถูกเก็บ พอดีกับที่ไซฟอนวิ่งตรงไปปิดระบบเตือนผู้บุกรุกไม่ให้ดัง ขณะนั้นเขาเก็บคีย์การ์ดและอาวุธจากศพไปด้วยแผนที่วางและทดลองร่วมเดือนย่อมมีช่องโหว่น้อย หากมันจะไม่สำเร็จก็คงเป็นเพราะเดอะเกตไม่มีทางลืมตาอ้าปากเป็นพันธมิตรแถวหน้าได้ละมั้ง เขาเรียกว่าอะไรนะ โชคชะตา? เหมือนที่ชาวนิวโฮปชอบโทษฝีมือพระเจ้า“โมเสส ถึงเราจะผ่านตรงนี้แต่ด้านในมีคนอีกเพียบ ยังไงระบบก็ต้องทำงาน” ชายหนุ่มเตือนเขาพยักหน้าไปทางศพที่นอนกองอยู่ “แกคิดว่าเดินกลับได้ไหม” จากนั้นส่ายหัว พยายามไม่เสียอารมณ์ “อย่าขี้ขลาด หยิบหน้ากากในกระเป๋าออกมา&rdq
ดวงตาของโมเสสใช้งานหนักเมื่อต้องทำงานกับความมืด มีเพียงสารเรืองแสงบนชั้นวางที่ทำให้เขาและไอ้โง่ไซฟอนคลำหาทางได้ ทั้งสองต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะในนี้มีของอันตรายเต็มไปหมด หากพลาดแม้เพียงก้าวเดียว ตูม! ไม่จำเป็นต้องบอกลาใครก็เห็นนรกทันที เพราะมันเป็นโรงเก็บระเบิดของโมลต้าอย่าคิดว่าคนของเดอะเกตจะไม่รู้ว่าพวกมันโยนความผิด สัจจะกระดาษของโมลต้าไม่ต่างกับลมปาก เห็นว่าตัวเองมีกำลังมากกว่าก็ปฏิบัติกับกลุ่มเล็กเหมือนเห็นเป็นลูกไล่ ความล้มเหลวที่นิวโฮปล้วนกลายเป็นความผิดคนอื่นทั้งสิ้น และตอนนี้พวกมันก็พยายามปลุกระดมกลุ่มอื่นให้ร่วมอุดมการณ์ สร้างภาพว่าเดอะเกตเป็นเพียงกลุ่มปฏิวัติที่ล้มเหลว พันธมิตรต่อต้านเอไลโตจะยั่งยืนและสำเร็จได้อย่างไรหากยังแทงข้างหลังกันเอง อย่างไรก็ตาม โมเสสจำต้องกล้ำกลืนยอมรับความจริงที่ว่า เพราะมีโมลต้าและยูเอเอเอ็ม เอไลโตจึงยังแตะพวกเขาไม่ได้กำลังรบของเดอะเกตมีไม่มากนัก ส่วนใหญ่พวกเขาจึงเน้นทำงานด้านส่งคนหรือไม่ก็สายลับเพื่อเปิดช่องทางให้กลุ่มอื่นลักลอบเข้านิวโฮป แต่แล้วไอ้ไรลีย์ของโมลต้าก็ทำให้ชื่อเสียงของพวกเขามัวหมอง เพราะนอกจากมันจะสามารถลัก
พวกเขาทำให้นึกถึงเจสซี่ พี่ชายก็บ้าวิดีโอเกม สะสมของเล่นฮีโร่ต่าง ๆ อ่านการ์ตูน แอบดื่มเหล้า ลองสูบบุหรี่ แต่สุดท้ายอเล็กซิสสั่นหัวแล้วกางหนังสือพิมพ์ออก เธอตามสถานการณ์ในนิวโฮปไม่ทัน เมื่อก่อนจะอ่านทุกคอลัมน์เพื่อหาความรู้ชิงทุน แต่ถ้าก่อนเวลานี้ก็จะพุ่งไปอ่านที่หน้าดาราทันที หากเจอสัมภาษณ์หรือข่าวศิลปินที่ชอบก็จะตัดเก็บไว้ เมื่อเปิดไปหน้าสองก็อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับการขอเงินเยียวยาความเสียหาย ขอบเวลาที่กำหนดครอบคลุมไปถึงปีหน้านู่น เธออ่านแล้วเจ็บปวดในใจจริงสิ ถ้าเจสซี่ยังอยู่ เขาก็ต้องทำเรื่องเหมือนกันนี่นาบางทีพรุ่งนี้เธออาจจะได้รู้ว่าพี่ชายอยู่ที่ไหนกันแน่“จริงสิ อเล็กซ์ นายได้ติดต่อที่บ้านบ้างหรือเปล่า” เธอถามขึ้นพอดีกับที่ชายหนุ่มร้องโอดโอยเพราะแพ้เรมีไม่เป็นท่า เขาคลานขึ้นมานั่งบนโซฟา ปล่อยให้อาคุสะเล่นแทน พอเห็นร่างสูงโย่งปีนขึ้นมาแล้ววางศีรษะลงกับตัก หญิงสาวก็ยิ้มขำขันกับท่าทางขี้อ้อนแบบนี้“เธอจะโอเคหรือ แล้วก็หมอนั่น” อเล็กซ์ถามเสียเบา“ทำไมจะไม่โอเค/คิดอะไรเยอะแยะ”อาคุสะหันมาขมวดคิ