Share

บทที่ 6 คำเตือน

last update Last Updated: 2025-06-19 16:27:52

ธาราเดินเข้าห้องโดยไม่ได้เปิดไฟ

สมุดสีดำในมือถูกวางลงบนโต๊ะข้างประตูเหมือนจะหนักเกินไปสำหรับเธอ

ร่างเธอเดินช้าๆ ไปที่ชั้นวางไม้ใกล้ผนัง ซึ่งมีกรอบรูปหนึ่งตั้งอยู่

มือเธอสั่นเล็กน้อย ขณะยื่นมือไปแตะรูปถ่ายเก่า

ในใจของหญิงสาวสับสนไม่น้อย ทว่าความทรงจำของธาราก็พลันผุดขึ้น

“สาวน้อยของพ่อเปล่งแสงสว่างอยู่เสมอ อย่าทำหน้านิ่วคิ้วขมวดไปเลย พ่อขับรถมาเยี่ยมลูกที่นี่บ่อยๆได้สบายอยู่แล้ว”

นั่นคือครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ ที่ทำให้เธอไม่สามารถกลับไปมองรอยยิ้มนั้นได้อีก

รอยยิ้มของพ่อยังอบอุ่นอยู่ในใจ เธอจึงรู้ว่า ดาวเหนือ ควรที่จะก้าวเดินต่อไป

เธอนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ทันได้เอารูปปกของ”ดาวเหนือ”ให้เจ้าของหนังสือดูด้วยซ้ำ

ทุกอย่างพลันสว่างจ้าขึ้น เธอจะมัวจมอยู่แบบนี้ไม่ได้

ชายคนหนึ่งที่คอยเฝ้ามองเธอ เห็นเธอเป็นดั่งแสงสว่าง

เพราะฉะนั้น เธอเองก็ควรที่จะลุกขึ้นฮึดสู้ไปกับเขาได้แล้ว

เธอเดินตรงเข้าไปภายในห้องนั่งเล่นเล็กๆที่แยกกับห้องนอนเพียงแค่ประตูกระจกกั้น

หญิงสาวฟุบตัวลงบนโซฟาสีขาว

วันหยุดที่ทำให้ร่างกายหนักอึ้ง เหมือนพลังงานของเธอถูกกลืนไปกับมัน

แสงไฟจากด้านนอกของตึกสาดส่องสลัวเข้ามาให้ห้องเล็ก

หญิงสาวเงยหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง พลางพึมพำ

“วันนี้ดาวบนท้องฟ้าสวยจังเลยนะ”

มือข้างหนึ่งหยิบโทรศัพท์ออกมา กดส่งข้อความแนบรูปปกของดาวเหนือไป

ปลายทางคือ ลี หญิงสาวกดส่ง พร้อมข้อความสั้นๆ

“หญิงสาวบนหน้าปก เธอยังคอยตามหาแสงสว่างจากดาวดวงนั้นอยู่นะคะ”

เม็ดฝนโปรยปลายลงมา ในเช้าวันจันทร์ ที่ทุกอย่างเร่งรีบ

กลิ่นของฝนพัดจางพร้อมสายลม ปลายผมของเธอเปียกชื้นเล็กน้อย

ขับให้กลิ่นฝนและกลิ่นแชมพูจางๆ ลอยคลุ้งในอากาศ

ธาราก้าวขาเข้าสู่สำนักพิมพ์ สายตารอบๆตัวจับจ้องมาที่เธอ

ตั้งแต่เป็นบรรณาธิการของลี เธอก็ไม่ได้แปลกใจอะไรมากนัก

ธาราเดินตรงเข้าสู่ห้องทำงาน

เพื่อจัดการเรื่องต้นฉบับที่ได้รับการยืนยันหน้าปกจากลีเรียบร้อยแล้ว

ทว่ามีข้อความบางอย่างเด้งขึ้นในเมลของเธอ

“ฉันเป็นบรรณาธิการที่รับผิดชอบต้นฉบับลำนำแห่งแสงในตอนนั้นนะคะ…

ฉันมีต้นฉบับบางอย่างที่ไม่ได้เผยแพร่ ถ้าคุณต้องการมาเจอฉันที่ร้านกาแฟแถวถนนพระอาทิตย์นะคะ

ฉันจะรออยู่ที่นั่น…”

ธาราขมวดคิ้วสีหน้าครุ่นคิด ต้นฉบับบางอย่างที่ไม่ได้เผยแพร่…

แต่ไปอยู่ในมือของบรรณาธิการที่ไม้แม้แต่จะออกมาโต้เรื่องการลอกผลงานของชาโดว์เมื่อ5ปีที่แล้วงั้นหรอ

ธาราสะบัดความคิดในหัวออกชั่วคราว ขณะเสียงเคาะประตูดังขึ้น

“ธารา ถึงเวลาประชุมแล้วนะ ไปกันเถอะเดี๋ยวจะสายเอา”

ริสาเพื่อนสนิทเข้ามาเตือนก่อนการประชุมจะเริ่มในเวลาที่กระชั้นชิด

หญิงสาวพยักหน้าเบาๆ หยิบแฟ้มเอกสารและโน้ตบุ๊กติดมือก่อนจะลุกขึ้นตาม

เสียงฝนยังคงโปรยลงอย่างเงียบงันนอกกระจก เมื่อเธอก้าวเข้าสู่ห้องประชุมกระจกใสด้านใน

พนักงานในทีมบรรณาธิการทยอยเข้ามานั่งประจำที่ บนโต๊ะกลางมีแฟ้มเอกสารของนิยาย ดาวเหนือ และหนังสือเล่มอื่นในไตรมาสเดียวกันวางอยู่

“เราจะเริ่มจากการอัปเดตสถานการณ์โซเชียลค่ะ” หัวหน้าฝ่ายการตลาดเปิดประชุม

สไลด์ปรากฏภาพแคปหน้าจอจากหลายบัญชีผู้ใช้ที่ยังคงพูดถึง “ข่าวการลอกผลงาน”

“เรากำลังอยู่ในช่วงที่ยอดรีแชร์สูงขึ้น แต่ไม่ใช่ในทางบวกนัก ยังมีบางกลุ่มที่ขุดคุ้ยประโยคจากเล่มที่สองของชาโดว์มาเปรียบเทียบกับนักเขียนคนอื่น”

ธารานั่งนิ่ง พลางเปิดสมุดบันทึกเล็กๆ จดบางอย่างลงไป เสียงจากทีมยังคงดังต่อเนื่อง

“แต่ฝั่งแฟนคลับของชาโดว์เริ่มออกมาปกป้อง มีการแชร์ข้อความเก่าของเขาจากเมื่อ5ปีที่แล้วที่ออกมายืนยันว่าไม่ได้ลอกผลงาน และมีการพูดถึงคำว่า “ฉันจะเงยหน้ามองฟ้าที่อยู่ตรงนี้ แม้จะไม่เหลือใครเลยก็ตาม”

จากบทโปรยที่เราปล่อยออกไป ทำให้กลุ่มแฟนคลับของชาโดว์ดูเหมือนจะเห็นใจและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น”

“ขออนุญาตถามค่ะ” เธอยกมือขัดจังหวะ

“ถ้าเราปล่อยดาวเหนือ ในเทศกาลหนังสือโดยมีการจัดแจกลายเซ็นของชาโดว์ในช่วงเช้าของงานวันแรก คิดว่ากระแสข่าวจะเปลี่ยนไปรึป่าวคะ”

ห้องประชุมเงียบชั่วขณะ ก่อนจะมีเสียงกระแอมจากผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร

“อืม เป็นความคิดที่ดีนะ แต่เทศกาลหนังสือใกล้เข้ามามากเกินไปรึป่าว เหลือเวลาเพียงแค่สองอาทิตย์ คุณธาราคิดว่าจะจัดการยังไง”

“ฝ่ายผลิตไม่มีทางผลิตออกมาได้ทันแน่ คิดว่าสำนักพิมพ์เรามีแค่หนังสือที่เธอรับผิดชอบเล่มเดียวรึไง”

เสียงจิกกัดของหัวหน้าบรรณาธิการกองที่2ดังขึ้นตามหลัง จงใจพูดใส่ธาราโดยตรง

สายตาของริสาจิกกัดคืน ทว่ามือของธารายกขึ้นห้ามปราม

“เราได้รับการยืนยันภาพหน้าปกเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่ส่งต่อให้ฝ่ายผลิตเท่านั้นค่ะ”

หัวหน้าฝ่ายบริหารพยักหน้ารับคำ ก่อนหันหน้าไปที่ฝ่ายการตลาด

“งั้นก็เอาตามนี้”

…เวลาในห้องประชุมล่วงเลยไป

งานทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ทว่าเมลนั้นที่ส่งถึงเธอโดยตรงกลับดึงดูดความสนใจให้เธออยากรู้มากขึ้น

ธาราผ่อนลมหายใจเบาๆ ร้านกาแฟที่ถนนพระอาทิตย์ ในวันที่ฝนตก พรางทำให้เธอนึกถึงวันที่เธอพยายามโน้มน้าวลีในวันแรก

หญิงสาวตัดสินใจลองไปเผชิญหน้ากับบุคคลที่ส่งเมลถึงเธอ

หลังการทำงานมาทั้งวัน ภาพตรงหน้าของธาราตอนนี้คือร้านกาแฟถนนพระอาทิตย์

ฝนยังคงโปรยปรายบางเบา หญิงสาวลืมพกร่มมา กลับยืนตากฝนจ้องมองที่หน้าประตู

เธอถอนหายใจเบาๆก่อนผลักประตูเข้าไป

ภายในร้านกลิ่นของกาแฟหอมฟุ้ง สายตาส่องหาว่าใครในร้านที่จะเป็นคนที่ส่งเมลหาเธอ

โต๊ะหนึ่งกลางร้าน มีหญิงสาวผมสั้นนั่งอยู่คนเดียวในชุดกระโปรงสวยงาม

บนโต๊ะมีแก้วลาเต้ร้อนที่เหมือนจะพึ่งมาเสริฟ

โต๊ะมุมซ้ายสุดของร้าน เป็นหญิงสาวผมยาวรวบผมลวกๆ ปลายผมปรกลงมาที่เสื้อยีนส์ เธอสวมแว่นกันแดดประหนึ่งปกปิดบางอย่าง บนโต๊ะมีแก้วกาแฟเย็นที่ดื่มจนเกือบหมด ท่าทีที่ดูประหม่าเล็กน้อย

ธารามั่นใจว่าคือเธอแน่ๆ ขาสองข้างรีบก้าวเดินตรงปลี่เข้าไป ทว่ามีมือคู่หนาสัมผัสเข้าที่ปลายไหล่ข้างหนึ่ง

ทำเอาธาราหยุดชะงักพลางหันกลับไปมอง ชายหนุ่มหน้าตาไม้คุ้นเคยในชุดสูทสีดำ แววตาคมกริบ

มุมปากเขาค่อยๆยกขึ้นก่อนจะพูดอะไรบางอย่าง

“คุณคือบรรณาธิการที่มาเพื่อข้อมูลบางอย่างรึเปล่า”

ธารานึกตะหงิดใจ ข้อความในเมลใช้คำแทนตัวเองว่า ฉัน ลงท้ายว่าค่ะหรือนะคะ แน่นอน

เธอปัดมือนั้นออกเบาๆ คิ้วขมวดเข้าเป็นปม ไม่ใช่ผู้ชายคนนี้ ในใจนึกขึ้น มีคนเล่นไม่ซื่อแล้วแน่ๆ

“คุณคือใครคะ”

หญิงสาวตัดสินใจเอ่ยถามออกไป

“ใจเย็นครับ ผมว่าเราไปนั่งคุยกันดีกว่า”

ปึก…บางอย่างกระแทกเข้าหลังธาราอย่างแรง

หญิงสาวแว่นดำคนนั้นรีบร้อนวิ่งออกจากร้านกาแฟไป

ทำเอาคนที่โดนชนอย่างธาราเซจนเกือบจะล้ม

ธารารีบก้าวขาเพื่อจะวิ่งตามหญิงสาวคนนั้นอย่างไม่รีรอ เธอไม่ได้ติดใจที่หญิงสาวคนนั้นชนเธอเข้า

แต่สิ่งที่ติดอยู่ในใจคือ สาวแว่นดำคนนั้น คือบรรณาธิการที่ส่งเมลหาเธอแน่นอน

มือหนาฉุดดึงข้อมือธาราไว้แน่น พลางเอ่ยขึ้น

“ใจเย็นลงก่อนเถอะครับ คำพูดของเธอคนนั้นไม่มีน้ำหนักพอให้คุณเอาไปโต้ข่าวลือหรอกนะ”

แววตาของธาราเปลี่ยนไปทันที ในใจพลางนึกโมโห ชายตรงหน้าเป็นใครกันแน่

มือที่กำข้อมือไว้แน่น ทำให้ธาราสะบัดมันไม่ออก

ธาราเดินตามชายหนุ่มไปที่โต๊ะหนึ่ง สายตาสะดุดเข้ากับกระดาษโน๊ตเล็กๆที่ติดไว้ขอบโต๊ะของสาวแว่นดำ

มือข้างหนึ่งรีบคว้ามันมาเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงอย่างรีบร้อน ทว่ามืออีกข้างยังถูกชายหนุ่มตรงหน้ารั้งเอาไว้อยู่

เขาคลายข้อมือออกเบาๆ ก่อนจะหันกลับมา

“นั่งสิครับ”

ธารานั่งลงตามคำเชิญนั้น ก่อนเอ่ยถาม

“คุณต้องการอะไร”

มุมปากชายหนุ่มยกยิ้มขึ้น

“สั่งกาแฟสักแก้วก่อนสิครับ”

ธาราถอนหายใจ เธอหงุดหงิดกับการต่อล้อต่อเถียงและยืดเวลาของชายตรงหน้า

“มีอะไรก็รีบพูดเถอะค่ะ ฉันรู้ว่าคุณมาแบบไม่หวังดี”

“ถ้าผมหวังร้าย...คุณคิดว่าคุณจะได้นั่งอยู่ตรงนี้เหรอครับ?”

เสียงทุ้มของเขาช่างมั่นใจ และแฝงน้ำเสียงราวกับรู้ทันความคิดเธอทุกอย่าง

ธารานิ่ง ก่อนหยิบแก้วน้ำที่พนักงานเพิ่งนำมาวางมาจิบเรียกสติ เธอไม่ชอบอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกควบคุม และยิ่งไม่ชอบการเสียเปรียบกับคนที่ดูเหมือนรู้ข้อมูลบางอย่างมากกว่าที่ควรรู้

“งั้นก็บอกมาสิ ว่าคุณเป็นใคร”

ชายหนุ่มยกกาแฟขึ้นจิบบ้าง รอยยิ้มบาง ๆ ยังไม่หายจากริมฝีปาก

“ผมเป็นเพียง...ผู้รับสาร”

“จากใคร?” ธาราย้อนถามทันควัน

“คุณเกี่ยวข้องอะไรกับคดีลอกผลงานเมื่อห้าปีก่อน?” ธาราถาม พลางกดอารมณ์ไม่ให้ไหลทะลักออกมา

ชายหนุ่มยักไหล่

“เกี่ยว...และไม่เกี่ยว อยู่ที่ว่าคุณจะเชื่อใน ‘เรื่องที่ถูกเขียนขึ้นมา’ หรือ ‘เรื่องที่ถูกลบออกไป’ มากกว่ากัน”

คำพูดนั้นเหมือนมีอะไรซ่อนอยู่ และนั่นยิ่งทำให้ธารารู้สึกไม่ไว้วางใจ

เธอค่อยๆ ล้วงกระดาษโน้ตที่เก็บมาไว้ในกระเป๋าใต้โต๊ะ กางมันแผ่วเบาขณะยังคงสบตาชายตรงหน้าไว้

บนกระดาษเขียนด้วยลายมือหวัดเร่งรีบว่า:

“อย่าไว้ใจเขา พวกเขาทำให้เรื่องลอกผลงานเกิดขึ้นได้อีกครั้ง”

ธาราเม้มปากแน่น

“คุณรู้เรื่อง ‘ลำนำแห่งแสง’ ด้วยใช่ไหม?” เธอลองเชิง

ชายหนุ่มนิ่งไปเล็กน้อย แต่เพียงแวบเดียว

“คุณรู้จักชื่อผู้เขียนต้นฉบับเล่มนั้นไหมล่ะ”

“ลี ลภัส?” เธอเอ่ยถามขึ้น

“หรือเป็นใครอีกคนที่ไม่มีโอกาสได้เผยแพร่ผลงานเลยล่ะ?”

ชายหนุ่มย้อนถามเสียงเรียบ

ธารารู้สึกเหมือนหัวใจบีบแน่น

ชายหนุ่มโน้มตัวเล็กน้อย แล้วเอ่ยเสียงต่ำ

“ถ้าคุณอยากรู้ว่าชาโดว์เป็นเหยื่อ หรือผู้ล่า…คุณต้องกล้าก้าวข้ามกรอบของสิ่งที่เห็นอยู่”

ก่อนที่ธาราจะทันพูดอะไร เขาก็ลุกขึ้น

“แล้วเราจะได้เจอกันอีก...บรรณาธิการธารา”

เขาเดินจากไป ทิ้งไว้เพียงกลิ่นกาแฟจางๆ และความปั่นป่วนในใจของหญิงสาว

“บางอย่างในน้ำเสียงของเขา...ราวกับรู้ทุกอย่างที่เธอกำลังเผชิญ”

หญิงสาวเดินออกจากร้านกาแฟ ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายไม่หยุด แสงไฟข้างทางสะท้อนกับละอองน้ำราวกับม่านบางของภาพฝันที่ถูกฉายผ่านม่านน้ำตา

เสียงฝีเท้าเปียกชื้นไปกับพื้นซีเมนต์ขรุขระ ทุกย่างก้าวเหมือนจมลึกลงไปในความคิดที่ยังปะติดปะต่อไม่สมบูรณ์

"อย่าไว้ใจเขา..." คำเตือนในโน้ตยังคงก้องอยู่ในหัว เธอหอบลมหายใจพลางกอดอกตัวเองไว้แน่น

ปิ๊บบบบ!

เสียงแตรรถเบรกความคิดของเธอลง รถยนต์สีดำคันหรูคันหนึ่งแล่นมาจอดเทียบริมทาง ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อเชิ้ตแขนพับและแจ็คเก็ตผ้าหนาหลุดออกจากประตูรถ พร้อมฝ่าฝนลงมา

“ธารา!” น้ำเสียงนั้นไม่ดังนัก แต่เปี่ยมด้วยความกังวล

เธอหันขวับไปตามเสียง และเบิกตากว้างเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเป็น ลี ลภัส ที่ยืนอยู่ตรงหน้า

ชายหนุ่มรีบก้าวเข้ามา มือข้างหนึ่งยกขึ้นบังสายฝน อีกข้างคว้าข้อมือของเธอไว้แน่น

“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงมาเดินตากฝนอยู่คนเดียวแบบนี้” เขาโน้มตัวลงเล็กน้อย สายตาวูบไหวคล้ายอ่านความเหนื่อยล้าของเธอได้ทั้งหมด

ธาราเบือนหน้าหนีเล็กน้อย พยายามฝืนยิ้มแม้ริมฝีปากจะสั่น

“เอ่อ... แค่งานเยอะน่ะ ฉันเลยออกมาเดิน...ล้างหัวตัวเองนิดหน่อย” เสียงเธอเบาเหมือนกลัวคำโกหกจะดังเกินไป

“ล้างหัว...ด้วยฝน?” ลีย่นคิ้วแล้วถอดเสื้อแจ็คเก็ตของตัวเองออกอย่างไม่ลังเล คลุมลงบนหัวไหล่ของเธอ

“ขึ้นรถก่อน เดี๋ยวไม่สบายเอา” เขาพูดพลางจูงเธอไปที่รถ

ธาราปล่อยให้เขานำทางโดยไม่ขัดขืน ความอบอุ่นจากเนื้อผ้าและไออุ่นจากร่างเขาที่อยู่ใกล้ทำให้ใจของเธออ่อนลงเล็กน้อย

ประตูรถปิดลง ชายหนุ่มข้างๆเอี้ยวตัวลงมา มือสัมผัสเข้าที่เสื้อแจ็คเก็ตที่คลุมอยู่บนไหล่ของธารา หญิงสาวตกใจเล็กน้อย พลางกดสายตาลงต่ำ ใบหน้าของเขาเข้ามาใกล้จนปลายจมูของเราแตะกัน สายตาเบนขึ้นมองชายตรงหน้า ทว่าสายตาของเขาก็จ้องมองเข้ามาเช่นกัน ภายในรถที่เงียบงัน มีเพียงเสียงหัวใจที่เต้นแรงไม่เป็นจังหวะของทั้งคู่

และในจังหวะที่เธอกำลังจะขยับตัวออก

เขาก็พูดขึ้นเบาๆ เพียงคำเดียว... ที่ทำให้ใจของธาราสั่นกว่าเดิม

“อยู่ตรงนี้... อีกสักพักได้ไหม”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Where the North Star Shines... ภายใต้แสงดาวเหนือ   บทที่ 7 สัมผัสแรก

    “อยู่ตรงนี้... อีกสักพักได้ไหม”หลังจากประโยคนั้น ตอนนี้ธารานั่งอยู่ภายในห้องนั่งเล่นในบ้านของลีสติยังคงเลื่อนรอย ประโยคที่อยากให้อยู่ตรงนี้อีกสักพัก ยังเกาะกินใจของหญิงสาวพรึบ…ผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กถูกวางลงบนหัวของธาราเบาๆ“ไปอาบน้ำเถอะ ห้องนอนแขกเดินขึ้นบันไดจะอยู่ซ้ายมือสุดทางเดิน”“เอ่อ ขอบคุณค่ะ”“เดี๋ยวผมเอาเสื้อผ้าไปวางไว้ให้”ธาราพยักหน้ารับคำ พลางเดินขึ้นไปตามทางที่ลีบอกเธอเปิดประตูห้องนั้นออกช้าๆ กลิ่นน้ำหอมปรับอากาศลอยฟุ้งอ่อนๆกลิ่นหวานละมุนเหมือนวนิลา ตัดกับกลิ่นเปียกชื้นจากตัวของเธอหญิงสาวยิ้มออกมาเบาๆ “กลิ่นหวานจางๆ ไม่สมกับเป็นเขาเลย”เสียงน้ำไหลผ่านท่อในห้องน้ำแขก มีของที่จำเป็นเรียงรายอยู่ครบธาราพลางแปลกใจ ของพวกนี้กลับเหมือนของใหม่ที่ไม่เคยมีใครใช้มาก่อนก๊อก ก๊อก ก๊อก… เสียงเคาะดังขึ้นหลังประตูห้องน้ำอีกฝั่ง“ผมวางเสื้อผ้าไว้ที่เตียงนะครับ เสร็จแล้วคุณค่อยลงมาข้างล่างนะ”หลังเสียงนั้นจางออกไปในใจธารากลับสั่นระรัวขึ้น มันอบอุ่นแปลกๆธาราอาบน้ำเสร็จเธอเดินออกมาพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กปลายเตียงมีเสื้อยืดสีเทากับกางเกงผ้าสบายๆเธอใส่เสื้อผ้าเสร็จก็พลันหลุดหัวเราะเบาๆ

  • Where the North Star Shines... ภายใต้แสงดาวเหนือ   บทที่ 6 คำเตือน

    ธาราเดินเข้าห้องโดยไม่ได้เปิดไฟสมุดสีดำในมือถูกวางลงบนโต๊ะข้างประตูเหมือนจะหนักเกินไปสำหรับเธอร่างเธอเดินช้าๆ ไปที่ชั้นวางไม้ใกล้ผนัง ซึ่งมีกรอบรูปหนึ่งตั้งอยู่มือเธอสั่นเล็กน้อย ขณะยื่นมือไปแตะรูปถ่ายเก่าในใจของหญิงสาวสับสนไม่น้อย ทว่าความทรงจำของธาราก็พลันผุดขึ้น“สาวน้อยของพ่อเปล่งแสงสว่างอยู่เสมอ อย่าทำหน้านิ่วคิ้วขมวดไปเลย พ่อขับรถมาเยี่ยมลูกที่นี่บ่อยๆได้สบายอยู่แล้ว”นั่นคือครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ ที่ทำให้เธอไม่สามารถกลับไปมองรอยยิ้มนั้นได้อีกรอยยิ้มของพ่อยังอบอุ่นอยู่ในใจ เธอจึงรู้ว่า ดาวเหนือ ควรที่จะก้าวเดินต่อไปเธอนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ทันได้เอารูปปกของ”ดาวเหนือ”ให้เจ้าของหนังสือดูด้วยซ้ำทุกอย่างพลันสว่างจ้าขึ้น เธอจะมัวจมอยู่แบบนี้ไม่ได้ชายคนหนึ่งที่คอยเฝ้ามองเธอ เห็นเธอเป็นดั่งแสงสว่างเพราะฉะนั้น เธอเองก็ควรที่จะลุกขึ้นฮึดสู้ไปกับเขาได้แล้วเธอเดินตรงเข้าไปภายในห้องนั่งเล่นเล็กๆที่แยกกับห้องนอนเพียงแค่ประตูกระจกกั้นหญิงสาวฟุบตัวลงบนโซฟาสีขาววันหยุดที่ทำให้ร่างกายหนักอึ้ง เหมือนพลังงานของเธอถูกกลืนไปกับมันแสงไฟจากด้านนอกของตึกสาดส่องสลัวเข้ามาให้ห้องเล

  • Where the North Star Shines... ภายใต้แสงดาวเหนือ   บทที่ 5 บันทึกใต้เงา

    “การกลับมาของชาโดว์งั้นหรอ…ไปจัดการซะ”ภายในห้องทำงานหรู ม่านใหญ่ปิดทึบจนแสงสว่างภายนอกไม่สามารถลอดผ่านชายวัยกลางคนในชุดสูทสีดำเอ่ยขึ้น สายตาดุดัน มุมปากกลับแสยะยิ้มขึ้นชายมุมห้องพยักหน้ารับคำสั่งและเดินจากไปเงียบๆเสียงแผ่วเบาในเงามืดยังไม่ทันจางหายเช้าวันใหม่ก็ได้เริ่มต้นขึ้น พร้อมแสงแดดที่ไม่รู้เลยว่าเงาใดซ่อนอยู่…เช้าวันเสาร์ แสงแดดสาดส่องผ่านม่านโปร่ง ภายในห้องสีขาวดูโล่งสบายตาเสียงนกร้องอยู่ไกลๆคล้ายจะบอกว่าทุกอย่างกำลังเริ่มต้นได้ดีธารายืดแขนเหนือศีรษะ บิดขี้เกียจเบาๆก่อนจะหันไปดูนาฬิกาข้างเตียง เก้าโมงกว่าแล้วมือคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาไถหน้าจอด้วยความเคยชิน สายตากลับสะดุดแฮชแท็กที่กำลังร้อนแรง#SHADOW@KanungNijPress“ดาวเหนือ” โดย Shadow[ลี ลภัส]“แม้ว่าดวงดาวจะอยู่ไกลเกินเอื้อม แต่หากมันคือสิ่งที่ทำให้เรายังเชื่อในแสง…ฉันจะเงยหน้ามองฟ้าที่อยู่ตรงนี้ แม้จะไม่เหลือใครเลยก็ตาม” _Shadowเตรียมพบกับ “ดาวเหนือ” เร็วๆนี้ ที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ#ดาวเหนือ #Shadow #คนึงนิจ_@lighter.1 : เดี๋ยวก่อนนะ…ลีลภัสงั้นหรอ@shadow_fc : บ้าไปแล้ว! นี่มันชาโดว์@tay_77 : ไม่มีการอ

  • Where the North Star Shines... ภายใต้แสงดาวเหนือ   บทที่ 4 ร่มคันเล็กกลางสายฝน

    ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ โซฟาหนังสีน้ำตาล และเจ้าเหมียวที่นอนขดตัวอยู่บนตักภายในอบอวลไปด้วยบรรยากาศแปลกๆ ระหว่าง “เขา กับ เธอ”“เรื่องข่าวนามปากกา…”“ฉันจะจัดการโพสชี้แจงนามปากกาใหม่ของคุณเองค่ะ”“ไม่จำเป็นหรอกครับ…ถ้ามันเป็นไปแล้วก็ปล่อยมันเถอะ”สายตาและคำพูดของเขาดูไม่เหมือนจะพูดเล่นแม้แต่น้อย“แต่…” สายตาของฉันเหลือบมองไปที่หน้าของเขา คนตรงหน้าตอนนี้ ใช่คนที่ทำหน้าเจ้าเล่ห์ก่อนหน้าหรอ“ผมคิดดีแล้ว ก็ก่อนหน้านี้คุณเล่นเข้ามากอดผมนี่”มุมปากที่ยกขึ้นข้างเดียว มีเสน่ห์จัง ไม่ใช่สิธารา …ตั้งสติหน่อยอืดดดด อืดดดดเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะความคิด ทว่าหน้าจอนั้นแสดงชื่อ “หัวหน้าบริหาร”“ค่ะ หัวหน้า”“ตอนนี้เรื่องลบโพส คงจะเป็นไปได้ยากแล้วล่ะ คนเริ่มตั้งความสงสัยถึงการกลับมา และตั้งความสงสัยไปถึงข่าวเมื่อ5ปีที่แล้ว”“ถ้าเราโต้ข่าว..”“มีสิทธ์ที่ข่าวจะยิ่งโจมตีกลับมา”“แปลว่าทำอะไรไม่ได้เลยหรอคะ?”“ตอนนี้คงต้องเงียบไปก่อน ฝากขอโทษคุณลีด้วยนะ”“ค่ะเข้าใจแล้ว”หลังสายตัดไป ความคิดตีกันไปหมด ฉันควรจะทำยังไงดีคนที่นั่งอยู่ตรงหน้ากลับยกยิ้มขึ้นมาซะอย่างนั้นนี่เขาตั้งใจจะกวนประสาทกันรึไงนะ“คุ

  • Where the North Star Shines... ภายใต้แสงดาวเหนือ   บทที่ 3 ดาวเหนือ

    ฝนยังโปรยปรายอยู่เบื้องนอก เสียงขูดเบา ๆ ของปลายปากกากับกระดาษเขาก้มหน้าลง ข้อมือขวาค่อย ๆ ขยับ ปลายปากกาไล้ไปตามเส้นจรดตัวอักษรแรก… ลีธาราขมวดคิ้วเล็กน้อยตัวอักษรถัดมา… ลภัสเธอเผลอพึมพำชื่อในใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบดวงตาเขาที่กำลังเฝ้ามองปฏิกิริยาเธอ“คุณ...”ลีวางปากกาลงอย่างมั่นคง ก่อนจะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้“ชาโดว์...เป็นชื่อที่คนอื่นสร้างให้ผม” เขาว่าเสียงเบา แต่หนักแน่น “แต่ลี ลภัส เป็นชื่อที่ผมเลือกเอง”เขาหยุด ก่อนยิ้มมุมปาก จากนั้นพูดต่ออย่างมีแววหยอก“เลือกแล้วก็ต้องใช้ให้คุ้ม...อย่าเผลอเรียกผมว่าชาโดว์ล่ะ เดี๋ยวผมจะคิดว่าคุณไม่เห็นค่าความพยายามของผม”ธาราเลิกคิ้ว ก่อนจะหลุดหัวเราะเบา ๆ“ค่ะ คุณ...ลี”“อืม...แบบนั้นแหละ” เขายิ้มกว้างขึ้นเหมือนพอใจ“ครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผมรู้สึกว่า ผมเป็นเจ้าของตัวหนังสือของตัวเองจริง ๆ”ธาราไม่อาจละสายตาจากเขาได้เลยในวินาทีนั้น ชายหนุ่มตรงหน้าเธอ...ไม่ใช่เงามืดที่เธอเคยไล่ตาม แต่เป็นแสงบางอย่าง ที่กำลังค่อย ๆ เริ่มเรืองขึ้นจากขอบฟ้าธารายิ้มกว้างออกมาพร้อมพายมือออก“ฉันจะรับผิดชอบทั้งคุณและผลงานของคุณเองค่ะลี”ลีทำท่าเลิกคิ้วก่อนจะยื่นมือ

  • Where the North Star Shines... ภายใต้แสงดาวเหนือ   บทที่ 2 บานประตูเปิดออก

    เช้าวันจันทร์ หลังฝนหยุดตกสำนักพิมพ์คนึงนิจกลับมามีชีวิตอีกครั้งท่ามกลางกลิ่นกาแฟลอยคลุ้ง กับเสียงแป้นพิมพ์และโทรศัพท์สลับกันดังไม่ขาดสายธารากำลังจะเดินเข้าห้องประชุม เมื่อเสียงแจ้งเตือนจากมือถือดังขึ้นถี่ผิดปกติข้อความจากไลน์หลายกลุ่ม ทวิตเตอร์ และอีเมลแจ้งเตือนจากระบบติดตามคีย์เวิร์ดแฮชแท็กของสำนักพิมพ์ชื่อเดียวกันทั้งหมด. . .“ชาโดว์”เธอหยุดเท้า พลันขนลุกนิ้วรีบแตะหน้าจอเข้าไปที่แอคเคาท์ทวิตเตอร์ที่ไม่ได้อัปเดตมาเกือบ 5 ปีเต็ม@ShadowWritesและที่นั่น...มีโพสต์ใหม่ ปรากฏขึ้นเพียงหนึ่งข้อความ"ถ้าใครบางคนยังเชื่อว่าคำพูดบนหน้ากระดาษเปลี่ยนโลกได้... ก็จงลองเปลี่ยนใจคนอย่างผมดู"— Shadowข้อความเรียบง่าย ไม่แท็กใคร ไม่ติดแฮชแท็กแต่ธารารู้…เขาหมายถึงเธอ“ลองเล่นกับเขาดูสักหน่อยดีไหมนะ” ธารายิ้มชอบใจภายในห้องประชุมเรียบหรูแต่เปี่ยมด้วยกลิ่นอายของความเก่าแก่ที่คงไว้ซึ่งความขรึม หน้าต่างกระจกสูง แสงแดดยามสายที่กรองผ่านม่านโปร่งขาวบาง สะท้อนลงบนโต๊ะไม้โอ๊คขนาดใหญ่ที่เรียงรายด้วยเอกสาร ปากกา และกาแฟอุ่นๆ ที่ยังมีไอน้ำลอยอยู่จางๆทว่าในใจของธาราตรงข้ามกับบรรยากาศในใจของธาราอยากจะพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status