"เธอคือบรรณาธิการที่ตามหาเขาในแสง... เขาคือนักเขียนที่ซ่อนตัวในเงา... แต่เมื่อทั้งสองพบกัน บทใหม่ของชีวิตกำลังจะเริ่มต้นขึ้น
もっと見るห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ โซฟาหนังสีน้ำตาล และเจ้าเหมียวที่นอนขดตัวอยู่บนตักภายในอบอวลไปด้วยบรรยากาศแปลกๆ ระหว่าง “เขา กับ เธอ”“เรื่องข่าวนามปากกา…”“ฉันจะจัดการโพสชี้แจงนามปากกาใหม่ของคุณเองค่ะ”“ไม่จำเป็นหรอกครับ…ถ้ามันเป็นไปแล้วก็ปล่อยมันเถอะ”สายตาและคำพูดของเขาดูไม่เหมือนจะพูดเล่นแม้แต่น้อย“แต่…” สายตาของฉันเหลือบมองไปที่หน้าของเขา คนตรงหน้าตอนนี้ ใช่คนที่ทำหน้าเจ้าเล่ห์ก่อนหน้าหรอ“ผมคิดดีแล้ว ก็ก่อนหน้านี้คุณเล่นเข้ามากอดผมนี่”มุมปากที่ยกขึ้นข้างเดียว มีเสน่ห์จัง ไม่ใช่สิธารา …ตั้งสติหน่อยอืดดดด อืดดดดเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะความคิด ทว่าหน้าจอนั้นแสดงชื่อ “หัวหน้าบริหาร”“ค่ะ หัวหน้า”“ตอนนี้เรื่องลบโพส คงจะเป็นไปได้ยากแล้วล่ะ คนเริ่มตั้งความสงสัยถึงการกลับมา และตั้งความสงสัยไปถึงข่าวเมื่อ5ปีที่แล้ว”“ถ้าเราโต้ข่าว..”“มีสิทธ์ที่ข่าวจะยิ่งโจมตีกลับมา”“แปลว่าทำอะไรไม่ได้เลยหรอคะ?”“ตอนนี้คงต้องเงียบไปก่อน ฝากขอโทษคุณลีด้วยนะ”“ค่ะเข้าใจแล้ว”หลังสายตัดไป ความคิดตีกันไปหมด ฉันควรจะทำยังไงดีคนที่นั่งอยู่ตรงหน้ากลับยกยิ้มขึ้นมาซะอย่างนั้นนี่เขาตั้งใจจะกวนประสาทกันรึไงนะ“คุ
ฝนยังโปรยปรายอยู่เบื้องนอก เสียงขูดเบา ๆ ของปลายปากกากับกระดาษเขาก้มหน้าลง ข้อมือขวาค่อย ๆ ขยับ ปลายปากกาไล้ไปตามเส้นจรดตัวอักษรแรก… ลีธาราขมวดคิ้วเล็กน้อยตัวอักษรถัดมา… ลภัสเธอเผลอพึมพำชื่อในใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบดวงตาเขาที่กำลังเฝ้ามองปฏิกิริยาเธอ“คุณ...”ลีวางปากกาลงอย่างมั่นคง ก่อนจะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้“ชาโดว์...เป็นชื่อที่คนอื่นสร้างให้ผม” เขาว่าเสียงเบา แต่หนักแน่น “แต่ลี ลภัส เป็นชื่อที่ผมเลือกเอง”เขาหยุด ก่อนยิ้มมุมปาก จากนั้นพูดต่ออย่างมีแววหยอก“เลือกแล้วก็ต้องใช้ให้คุ้ม...อย่าเผลอเรียกผมว่าชาโดว์ล่ะ เดี๋ยวผมจะคิดว่าคุณไม่เห็นค่าความพยายามของผม”ธาราเลิกคิ้ว ก่อนจะหลุดหัวเราะเบา ๆ“ค่ะ คุณ...ลี”“อืม...แบบนั้นแหละ” เขายิ้มกว้างขึ้นเหมือนพอใจ“ครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผมรู้สึกว่า ผมเป็นเจ้าของตัวหนังสือของตัวเองจริง ๆ”ธาราไม่อาจละสายตาจากเขาได้เลยในวินาทีนั้น ชายหนุ่มตรงหน้าเธอ...ไม่ใช่เงามืดที่เธอเคยไล่ตาม แต่เป็นแสงบางอย่าง ที่กำลังค่อย ๆ เริ่มเรืองขึ้นจากขอบฟ้าธารายิ้มกว้างออกมาพร้อมพายมือออก“ฉันจะรับผิดชอบทั้งคุณและผลงานของคุณเองค่ะลี”ลีทำท่าเลิกคิ้วก่อนจะยื่นมือ
เช้าวันจันทร์ หลังฝนหยุดตกสำนักพิมพ์คนึงนิจกลับมามีชีวิตอีกครั้งท่ามกลางกลิ่นกาแฟลอยคลุ้ง กับเสียงแป้นพิมพ์และโทรศัพท์สลับกันดังไม่ขาดสายธารากำลังจะเดินเข้าห้องประชุม เมื่อเสียงแจ้งเตือนจากมือถือดังขึ้นถี่ผิดปกติข้อความจากไลน์หลายกลุ่ม ทวิตเตอร์ และอีเมลแจ้งเตือนจากระบบติดตามคีย์เวิร์ดแฮชแท็กของสำนักพิมพ์ชื่อเดียวกันทั้งหมด. . .“ชาโดว์”เธอหยุดเท้า พลันขนลุกนิ้วรีบแตะหน้าจอเข้าไปที่แอคเคาท์ทวิตเตอร์ที่ไม่ได้อัปเดตมาเกือบ 5 ปีเต็ม@ShadowWritesและที่นั่น...มีโพสต์ใหม่ ปรากฏขึ้นเพียงหนึ่งข้อความ"ถ้าใครบางคนยังเชื่อว่าคำพูดบนหน้ากระดาษเปลี่ยนโลกได้... ก็จงลองเปลี่ยนใจคนอย่างผมดู"— Shadowข้อความเรียบง่าย ไม่แท็กใคร ไม่ติดแฮชแท็กแต่ธารารู้…เขาหมายถึงเธอ“ลองเล่นกับเขาดูสักหน่อยดีไหมนะ” ธารายิ้มชอบใจภายในห้องประชุมเรียบหรูแต่เปี่ยมด้วยกลิ่นอายของความเก่าแก่ที่คงไว้ซึ่งความขรึม หน้าต่างกระจกสูง แสงแดดยามสายที่กรองผ่านม่านโปร่งขาวบาง สะท้อนลงบนโต๊ะไม้โอ๊คขนาดใหญ่ที่เรียงรายด้วยเอกสาร ปากกา และกาแฟอุ่นๆ ที่ยังมีไอน้ำลอยอยู่จางๆทว่าในใจของธาราตรงข้ามกับบรรยากาศในใจของธาราอยากจะพ
“หากครั้งหนึ่งเคยมีใครส่งผ้าเช็ดหน้าให้คุณในวันที่คุณร้องไห้ แล้วหายไปจากชีวิตเหมือนไม่เคยมีอยู่จริง... คุณจะยังจำเขาได้ไหม หากได้เจอกันอีกครั้ง?” เสียงฝนโปรยเม็ดเบา ๆ สัมผัสหน้าต่างห้องสมุดในบ่ายวันหนึ่ง เธอจำไม่ได้แน่ชัดว่าเรื่องราววันนั้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่ รู้เพียงแค่ความเปียกชื้นจากหยาดน้ำตายังฝังใจ และมือหนึ่งที่ยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้อย่างเงียบงัน ไม่มีคำพูด ไม่มีชื่อ แต่รอยยิ้มนั้นอ่อนโยนราวแสงแรกของฤดูหนาว ...ก่อนที่เขาจะหายไปพร้อมสายฝน “บางครั้งฉันก็คิดไปเองหรือจะเป็นแค่ฝัน…” — เวลาผ่านไปหกปี ‘ธารา’ บรรณาธิการสาวของสำนักพิมพ์คนึงนิจ เดินฝ่าสายฝนเข้าสู่ร้านกาแฟเล็ก ๆ กลางย่านถนนพระอาทิตย์ เธอผละประตูเข้าไปอย่างรีบร้อน กลิ่นของเมล็ดกาแฟที่คั่วกำลังดี ตัดกับกลิ่นของสายฝน เธอชายตามองไปรอบร้าน มุมเคาท์เตอร์ที่เกือบจะอยู่ด้านในสุด มีพื้นที่ว่างให้เธอพอดี เธอสั่งกาแฟและเค้กเดินตรงดิ่งเข้าไป เลื่อนเก้าอี้ออกเบาๆ และหยิบสมุดขึ้นมาหนึ่งเล่ม เธอนั่งลงบรรจงจดบางสิ่ง หญิงสาวเงยหน้าเปรยตามองบรรยากาศรอบๆ สายตาของธาราสะดุดกับหน้าจอโน๊ตบุ๊คของชายหนุ่มริมหน้าต่าง
コメント