ฝนยังโปรยปรายอยู่เบื้องนอก เสียงขูดเบา ๆ ของปลายปากกากับกระดาษ
เขาก้มหน้าลง ข้อมือขวาค่อย ๆ ขยับ ปลายปากกาไล้ไปตามเส้นจรด
ตัวอักษรแรก… ลี
ธาราขมวดคิ้วเล็กน้อย
ตัวอักษรถัดมา… ลภัส
เธอเผลอพึมพำชื่อในใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบดวงตาเขาที่กำลังเฝ้ามองปฏิกิริยาเธอ
“คุณ...”
ลีวางปากกาลงอย่างมั่นคง ก่อนจะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้
“ชาโดว์...เป็นชื่อที่คนอื่นสร้างให้ผม” เขาว่าเสียงเบา แต่หนักแน่น “แต่ลี ลภัส เป็นชื่อที่ผมเลือกเอง”
เขาหยุด ก่อนยิ้มมุมปาก จากนั้นพูดต่ออย่างมีแววหยอก
“เลือกแล้วก็ต้องใช้ให้คุ้ม...อย่าเผลอเรียกผมว่าชาโดว์ล่ะ เดี๋ยวผมจะคิดว่าคุณไม่เห็นค่าความพยายามของผม”
ธาราเลิกคิ้ว ก่อนจะหลุดหัวเราะเบา ๆ
“ค่ะ คุณ...ลี”
“อืม...แบบนั้นแหละ” เขายิ้มกว้างขึ้นเหมือนพอใจ
“ครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผมรู้สึกว่า ผมเป็นเจ้าของตัวหนังสือของตัวเองจริง ๆ”
ธาราไม่อาจละสายตาจากเขาได้เลยในวินาทีนั้น ชายหนุ่มตรงหน้าเธอ...ไม่ใช่เงามืดที่เธอเคยไล่ตาม แต่เป็นแสงบางอย่าง ที่กำลังค่อย ๆ เริ่มเรืองขึ้นจากขอบฟ้า
ธารายิ้มกว้างออกมาพร้อมพายมือออก
“ฉันจะรับผิดชอบทั้งคุณและผลงานของคุณเองค่ะลี”
ลีทำท่าเลิกคิ้วก่อนจะยื่นมือให้ไปจับมือของบ.ก.สาว
“รับผิดชอบแล้วอย่าทิ้งกันกลางทางนะครับ” เขากระซิบเสียงต่ำเจือหัวเราะในน้ำเสียง
ธาราเบือนหน้าหนีเล็กน้อย กลบรอยยิ้มไว้ไม่ทัน
“ฝากตัวด้วยนะครับคุณธารา”
“ดาวเหนือ” ดวงดาวที่สว่างไสวอยู่กับที่ ไม่ขยับไปไหน ในอดีตมันถือว่าเป็นเครื่องหมายแห่งการนำทางของนักเดินเรือ…ดวงดาวที่สว่างและอยู่ห่างไกล ไม่นานนักดวงดาวนั้นได้ดับไป หากแต่นักสำรวจที่ยังไม่ละเลิกที่จะค้นหามัน อยากที่จะนำพามันกลับมาอีกครั้ง กระทั่งนักสำรวจคนหนึ่ง. . .ได้พบกับมันเข้าด้วยความบังเอิญ
เขาเต็มใจที่จะโอบกอดและปกป้องมันไว้ เพื่อให้มันได้ส่องแสงสว่างไสวกว่าที่เคยเป็นมา เขายอมทำทุกอย่าง
และยินดีกับมันแม้ว่าเขาจะไม่ได้อะไรตอบแทนจากมันเลยก็ตาม. . . .
ธาราวางต้นฉบับลงอย่างแผ่วเบา ริมฝีปากเธอยกยิ้มจาง ๆ ขณะพึมพำชื่อเรื่องในใจ
“ดาวเหนือ...”
เหมาะกับเขาจริง ๆ
“ยิ้มอะไรอยู่คนเดียวกันนะ หัวหน้าบ.ก. 1?” เสียงคุ้นเคยของริสา เพื่อนสนิทคนสำคัญดังแทรกขึ้นมา
“ต้นฉบับของชาโดว์น่ะสิ” ธาราตอบทั้งรอยยิ้ม
ใบหน้าริสาแสดงความตกตะลึงทันที “ที่แท้ คนที่โดนกล่าวถึงในโพสต์นั่นคือเธอ!”
เธอว่าแล้วยิ้มเอ็นดู พลางตบแขนธาราเบา ๆ อย่างแสดงความยินดี
ก็อก ก็อก ก็อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ธาราหันมอง ชายวัยกลางคนในชุดสูทสีดำดูผิดแปลกจากปกติ
“วันนี้ไม่ใส่สีน้ำเงินเหรอคะ?” เธอแซวเล็กน้อยพลางลุกขึ้นไปเปิดประตู ริสาตามออกมาอย่างรีบร้อน
“ลุงมาขัดเวลาของพวกเธอรึเปล่าเนี่ย?” เขายิ้มบาง ๆ ขณะมองสองสาวหันมาสบตากันแล้วหัวเราะเบา ๆ
“ไม่เลยค่ะหัวหน้า” ริสารีบตอบ ก่อนขอตัวกลับไปทำงาน ราวกับกลัวจะโดนจับได้ว่าแอบอู้งาน
ชายวัยกลางคนเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจในความกระตือรือร้นของหลานสาว เขาคิดในใจว่า “ขยันผิดปกติแฮะวันนี้...”
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?” ธาราถามเมื่อพาเขาเข้ามานั่งในห้อง
หัวหน้าบริหารไม่ตอบในทันที เขาวางแฟ้มบางลงบนโต๊ะ แล้วพูดอย่างเรียบง่าย
“ตอนนี้สำนักพิมพ์ปล่อยข่าวหนังสือเล่มใหม่ของชาโดว์แล้วนะ”
ธาราชะงักเล็กน้อย เธอเพิ่งตรวจต้นฉบับเสร็จไม่นานนี่เอง
“ทำไมถึงปล่อยเร็วจังคะ?”
“ตอนนี้มีหลายสำนักข่าวจับตาการกลับมาของชาโดว์อยู่ ถ้าเราปล่อยก่อน ก็จะควบคุมทิศทางข่าวได้ดีกว่า”
เธอรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นเปิดหน้าเว็บของสำนักพิมพ์
“การกลับมาของ ชาโดว์...”
ดวงตาเธอเบิกกว้าง ก่อนหันกลับมายื่นต้นฉบับที่เพิ่งตรวจเสร็จให้เขา
“นามปากกา ‘ชาโดว์’ จะไม่มีอีกต่อไปค่ะ”
หัวหน้าบริหารเปิดแฟ้มดู พอเห็นชื่อบนต้นฉบับ ดวงตาเขาก็เบิกกว้างทันที
ลี ลภัส
เขารู้ทันที...ว่าจะต้องเกิดเรื่องแน่
อืดดดด อืดดดด
เสียงโทรศัพท์ของธาราดังสั่นอยู่บนโต๊ะ
เธอหยิบขึ้นมา ชื่อบนหน้าจอคือ
“ลี ลภัส”
เธอถอนหายใจเบา ๆ ขอกับหัวหน้าบริหารออกไปรับสาย
“คุณคิดยังไงกับการกลับมาของชาโดว์?” น้ำเสียงเขาในปลายสายแข็งขึ้นกว่าที่เคย
เขาคงเห็นข่าวเข้าแล้ว…
“ฉันจะรีบสั่งแก้ทันทีค่ะ” เธอตอบกลับรวดเร็ว แต่อารมณ์กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
“อีกสิบนาที มาเจอผมที่บ้าน”
“แต่ฉันยังต้องจัดการกับเรื่องข่าว…”
ขณะที่เธอยังลังเล มือหนาของใครบางคนแตะลงที่ไหล่เธอเบา ๆ
เธอหันไปมอง หัวหน้าบริหารพยักหน้าเชิงอนุญาต
“ไปเถอะ ทางนี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
“20 นาทีค่ะ” ธาราตอบกลับปลายสายอย่างประนีประนอม
ปลายสายเงียบไปแวบนึง ก่อนเสียงขำในลำคอจะดังขึ้น
“อืม...ไม่เกิน 20 นาทีนะ ถ้ามาช้าผมจะนับเป็นเลท แล้วต้องเลี้ยงกาแฟผมหนึ่งแก้ว”
ธาราถอนหายใจเบา ๆ “คุณนี่นะ...”
“ก็แค่จะวัดใจคุณนิดหน่อย” เขาพูดติดหัวเราะ
เสียงสายตัดไป ธารารีบคว้ากระเป๋า
...ณ หน้าบ้านของลี ลภัส
ธารายืนหน้าแน่นิ่งอยู่หน้าประตู สูดหายใจลึก เธอไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะเปิดให้ไหม
ก็อก ก็อก ก็อก
เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านในก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออก
เขายืนอยู่ตรงนั้นในเสื้อยืดธรรมดากับกางเกงลำลอง แต่แววตาไม่ธรรมดาเลย
เย็นชา...และนิ่ง
เขาไม่พูดอะไร ไม่ถาม ไม่แม้แต่สบตาเธอตรง ๆ ก่อนจะ...
หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในบ้านทันที ปล่อยให้ประตูเปิดอ้าอยู่อย่างนั้น
ธาราตะลึงไปเล็กน้อย
“คุณลี...ฉันขอโทษเรื่องข่าว ฉันไม่คิดว่าทางสำนักพิมพ์จะ—”
ไม่มีคำตอบ
ลีเดินหายลึกเข้าไปในบ้านอย่างคนไม่ใส่ใจอะไรทั้งนั้น สีหน้าท่าทางเย็นชาอย่างคนที่กำลัง "โกรธแต่ไม่พูด"
ธาราขบเม้มริมฝีปากแน่น
เขาไม่แม้แต่จะหันมาฟังเลยด้วยซ้ำ...
ในวินาทีนั้น เธอก็...
วิ่งเข้าไปคว้าเขาจากด้านหลัง
กอดแน่น
ลีสะดุ้งเล็กน้อย ร่างกายเกร็งขึ้นทันทีเหมือนคนตกใจ ไม่คิดว่าเธอจะกล้าทำอะไรแบบนี้
“อย่าทำแบบนี้สิคะ” เสียงของธาราเบาจนแทบเป็นกระซิบ “มันไม่แฟร์เลยนะ ฉันพยายามอธิบายว่ามันไม่ใช่ความผิดของฉันด้วยซ้ำ”
ลียังไม่หันกลับมา ดวงตาเขานิ่ง แต่ริมใบหูแดงนิด ๆ อย่างห้ามไม่อยู่
“ผม...ไม่ได้หนี” เขาพูดเสียงเรียบ “แค่กำลังจะไปหยิบน้ำให้คนที่น่าจะกำลังหอบ...เพราะวิ่งมากอดผมเฉยเลย”
ธาราถึงกับชะงัก หลงคิดว่าเขาคงจะจมปลักจนไม่ฟังอะไรเธอแล้วแน่ๆ
เธอกลัวว่าเขาจะก้าวเข้าไปในเงาอีกครั้ง เลยเผลอวิ่งเข้าไปรั้งเขาไว้
หน้าธาราแดงขึ้น เธอตั้งสติทันที นี่ฉันกอดเขาเพราะแค่อยากจะรั้งไว้เนี่ยนะ ธารานะธารา
ธารารีบปล่อยมือออกจากชายตรงหน้าอย่างไม่รีรอ
เธอ “ชี้ไปที่โซฟา พยายามหลบสายตาเขา”
ธาราเดินถอยหลังทีละก้าวสั้นๆ
หึ” เสียงในลำคอของชายหนุ่มดังขึ้น
“พอกอดผมเสร็จก็จะชิ่งกันเลยงั้นหรอ”
ธาราทำหน้ามุ่ยทันที
“นี่คุณลีคะ คุณเร่งให้ฉันรีบมา ฉันก็รีบมา มาถึงคุณยังจะไม่ฟังอะไร …มันคือความบังเอิญค่ะ ฉันไม่ได้กอด แค่…คุณหยุดกระทันหัน ฉันเลยตกใจเกือบจะล้ม เลย คว้าคุณเอาไว้เท่านั้น” เสียงของธาราบ่นพึมพัม ทว่าน้ำเสียงนั้นกระตุกกระตักบ้างเล็กน้อย
“เห้อ ถ้าคุณบอกว่ากอดผมเพราะกลัวว่าผมจะหายไปอีก ผมคงจะปล่อยผ่านเรื่องข่าวของสำนักพิมพ์แล้วแท้ๆ”
น้ำเสียงและสีหน้าของลี ทำให้ธาราคิดในใจ ไอ้คนเจ้าเล่ห์นี่ ฉันไม่น่าเป็นห่วงเขาเลย
. . .
ก่อนที่เขาจะเปิดประตู...
ลี ลภัสยืนนิ่งอยู่หลังบานประตูที่ปิดสนิท
มือของเขาวางแนบกับลูกบิด...แต่ยังไม่หมุน
หัวใจเต้นหนักอย่างช้า ๆ
เขาเห็นชื่อของเธอบนหน้าจอ
ได้ยินเสียงของเธอผ่านสาย
แต่สิ่งที่ยังฝังอยู่ในใจเขา...คือคำว่า “ชาโดว์” ที่พาดหัวข่าว
ไม่ใช่ชื่อที่เขาเลือก
เขารู้ดีว่าเธอไม่มีเจตนา
รู้ว่าเรื่องพวกนี้มันเกินการควบคุม
แต่เขาก็อดรู้สึกไม่ได้ เหมือนโดนผลักกลับไปยังเงามืดเดิมที่เพิ่งก้าวออกมา
“...อีกแค่สิบวินาที ถ้าเธอไม่มา ฉันจะไม่เปิด”
เสียงของตัวเองสะท้อนเบา ๆ ในหัว
แต่อีกห้าวินาทีถัดมา...เสียงเคาะก็ดังขึ้น
ลีหลับตา สูดลมหายใจเข้าลึก แล้วค่อย ๆ เปิดประตูบานตรงหน้า
…เช้าวันรุ่งขึ้น มีบางสิ่งปลุกธาราต้องตื่นขึ้น บางอย่างทั้งหนัก และนุ่ม ทับอยู่บนหน้าอกของหญิงสาว ทันทีที่ลืมตาขึ้น สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทำเอาธารายิ้มออกมา เจ้าสีฟ้าแมวอ้วน ขึ้นมานอนทับอก แถมยังส่ายหางไปมา ทำเอาหญิงสาวใจเหลวแอบจุ๊บจมูกสีชมพูไปหนึ่งที แต่กลับทำให้ภาพของเมื่อคืนปรากฏขึ้นแทน ความร้อนไล่จากแก้มขึ้นสู่ปลายหู หญิงสาวกอดเจ้าแมวอ้วนไว้แน่น “แง๊วววววว!” เจ้าของเสียงหูบินลู่ลมไม่พอใจอย่างมาก ธารารีบคลายมือออกทันที เจ้าแมวกระโดดออกไปนั่งปลายเตียงสายตาหันมองที่ประตู ประหนึ่งบอกเป็นนัยว่าได้เวลาลุกแล้ว ทำเอาหญิงสาวหัวเราะออกมา ธาราลุกขึ้นบิดขี้เกียจนิดหน่อยก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นดูเวลา 6:30 ยังเช้าอยู่ เจ้าของบ้านคงจะยังไม่ตื่นหรอกนะ… เธอเอ่ยพูดกับตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นเปิดประตูออกเบา ๆ เจ้าแมวอ้วนเดินดุ่มส่ายหางแทรกตัวออกไปก่อนทันที ธาราชะเง้อมองรอบ ๆ ไม่พบใคร เธอถอนหายใจออกมาประหนึ่งโล่งอก เธอย่องลงไปที่ชั้นล่าง ก้าวขาเหยียบลงบันไดให้เสียงเบาที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถัดจากครัวเป็นห้องซักล้าง เธอจำได้ว่าเธอซักเสื้อผ้าที่เปียกฝนเมื่อวานไว้ก่อนจะนอน สายตาส่องมองรอบตัว ไม
“อยู่ตรงนี้... อีกสักพักได้ไหม”หลังจากประโยคนั้น ตอนนี้ธารานั่งอยู่ภายในห้องนั่งเล่นในบ้านของลีสติยังคงเลื่อนรอย ประโยคที่อยากให้อยู่ตรงนี้อีกสักพัก ยังเกาะกินใจของหญิงสาวพรึบ…ผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กถูกวางลงบนหัวของธาราเบาๆ“ไปอาบน้ำเถอะ ห้องนอนแขกเดินขึ้นบันไดจะอยู่ซ้ายมือสุดทางเดิน”“เอ่อ ขอบคุณค่ะ”“เดี๋ยวผมเอาเสื้อผ้าไปวางไว้ให้”ธาราพยักหน้ารับคำ พลางเดินขึ้นไปตามทางที่ลีบอกเธอเปิดประตูห้องนั้นออกช้าๆ กลิ่นน้ำหอมปรับอากาศลอยฟุ้งอ่อนๆกลิ่นหวานละมุนเหมือนวนิลา ตัดกับกลิ่นเปียกชื้นจากตัวของเธอหญิงสาวยิ้มออกมาเบาๆ “กลิ่นหวานจางๆ ไม่สมกับเป็นเขาเลย”เสียงน้ำไหลผ่านท่อในห้องน้ำแขก มีของที่จำเป็นเรียงรายอยู่ครบธาราพลางแปลกใจ ของพวกนี้กลับเหมือนของใหม่ที่ไม่เคยมีใครใช้มาก่อนก๊อก ก๊อก ก๊อก… เสียงเคาะดังขึ้นหลังประตูห้องน้ำอีกฝั่ง“ผมวางเสื้อผ้าไว้ที่เตียงนะครับ เสร็จแล้วคุณค่อยลงมาข้างล่างนะ”หลังเสียงนั้นจางออกไปในใจธารากลับสั่นระรัวขึ้น มันอบอุ่นแปลกๆธาราอาบน้ำเสร็จเธอเดินออกมาพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กปลายเตียงมีเสื้อยืดสีเทากับกางเกงผ้าสบายๆเธอใส่เสื้อผ้าเสร็จก็พลันหลุดหัวเราะเบาๆ
ธาราเดินเข้าห้องโดยไม่ได้เปิดไฟสมุดสีดำในมือถูกวางลงบนโต๊ะข้างประตูเหมือนจะหนักเกินไปสำหรับเธอร่างเธอเดินช้าๆ ไปที่ชั้นวางไม้ใกล้ผนัง ซึ่งมีกรอบรูปหนึ่งตั้งอยู่มือเธอสั่นเล็กน้อย ขณะยื่นมือไปแตะรูปถ่ายเก่าในใจของหญิงสาวสับสนไม่น้อย ทว่าความทรงจำของธาราก็พลันผุดขึ้น“สาวน้อยของพ่อเปล่งแสงสว่างอยู่เสมอ อย่าทำหน้านิ่วคิ้วขมวดไปเลย พ่อขับรถมาเยี่ยมลูกที่นี่บ่อยๆได้สบายอยู่แล้ว”นั่นคือครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ ที่ทำให้เธอไม่สามารถกลับไปมองรอยยิ้มนั้นได้อีกรอยยิ้มของพ่อยังอบอุ่นอยู่ในใจ เธอจึงรู้ว่า ดาวเหนือ ควรที่จะก้าวเดินต่อไปเธอนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ทันได้เอารูปปกของ”ดาวเหนือ”ให้เจ้าของหนังสือดูด้วยซ้ำทุกอย่างพลันสว่างจ้าขึ้น เธอจะมัวจมอยู่แบบนี้ไม่ได้ชายคนหนึ่งที่คอยเฝ้ามองเธอ เห็นเธอเป็นดั่งแสงสว่างเพราะฉะนั้น เธอเองก็ควรที่จะลุกขึ้นฮึดสู้ไปกับเขาได้แล้วเธอเดินตรงเข้าไปภายในห้องนั่งเล่นเล็กๆที่แยกกับห้องนอนเพียงแค่ประตูกระจกกั้นหญิงสาวฟุบตัวลงบนโซฟาสีขาววันหยุดที่ทำให้ร่างกายหนักอึ้ง เหมือนพลังงานของเธอถูกกลืนไปกับมันแสงไฟจากด้านนอกของตึกสาดส่องสลัวเข้ามาให้ห้องเล
“การกลับมาของชาโดว์งั้นหรอ…ไปจัดการซะ”ภายในห้องทำงานหรู ม่านใหญ่ปิดทึบจนแสงสว่างภายนอกไม่สามารถลอดผ่านชายวัยกลางคนในชุดสูทสีดำเอ่ยขึ้น สายตาดุดัน มุมปากกลับแสยะยิ้มขึ้นชายมุมห้องพยักหน้ารับคำสั่งและเดินจากไปเงียบๆเสียงแผ่วเบาในเงามืดยังไม่ทันจางหายเช้าวันใหม่ก็ได้เริ่มต้นขึ้น พร้อมแสงแดดที่ไม่รู้เลยว่าเงาใดซ่อนอยู่…เช้าวันเสาร์ แสงแดดสาดส่องผ่านม่านโปร่ง ภายในห้องสีขาวดูโล่งสบายตาเสียงนกร้องอยู่ไกลๆคล้ายจะบอกว่าทุกอย่างกำลังเริ่มต้นได้ดีธารายืดแขนเหนือศีรษะ บิดขี้เกียจเบาๆก่อนจะหันไปดูนาฬิกาข้างเตียง เก้าโมงกว่าแล้วมือคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาไถหน้าจอด้วยความเคยชิน สายตากลับสะดุดแฮชแท็กที่กำลังร้อนแรง#SHADOW@KanungNijPress“ดาวเหนือ” โดย Shadow[ลี ลภัส]“แม้ว่าดวงดาวจะอยู่ไกลเกินเอื้อม แต่หากมันคือสิ่งที่ทำให้เรายังเชื่อในแสง…ฉันจะเงยหน้ามองฟ้าที่อยู่ตรงนี้ แม้จะไม่เหลือใครเลยก็ตาม” _Shadowเตรียมพบกับ “ดาวเหนือ” เร็วๆนี้ ที่ร้านหนังสือทั่วประเทศ#ดาวเหนือ #Shadow #คนึงนิจ_@lighter.1 : เดี๋ยวก่อนนะ…ลีลภัสงั้นหรอ@shadow_fc : บ้าไปแล้ว! นี่มันชาโดว์@tay_77 : ไม่มีการอ
ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ โซฟาหนังสีน้ำตาล และเจ้าเหมียวที่นอนขดตัวอยู่บนตักภายในอบอวลไปด้วยบรรยากาศแปลกๆ ระหว่าง “เขา กับ เธอ”“เรื่องข่าวนามปากกา…”“ฉันจะจัดการโพสชี้แจงนามปากกาใหม่ของคุณเองค่ะ”“ไม่จำเป็นหรอกครับ…ถ้ามันเป็นไปแล้วก็ปล่อยมันเถอะ”สายตาและคำพูดของเขาดูไม่เหมือนจะพูดเล่นแม้แต่น้อย“แต่…” สายตาของฉันเหลือบมองไปที่หน้าของเขา คนตรงหน้าตอนนี้ ใช่คนที่ทำหน้าเจ้าเล่ห์ก่อนหน้าหรอ“ผมคิดดีแล้ว ก็ก่อนหน้านี้คุณเล่นเข้ามากอดผมนี่”มุมปากที่ยกขึ้นข้างเดียว มีเสน่ห์จัง ไม่ใช่สิธารา …ตั้งสติหน่อยอืดดดด อืดดดดเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะความคิด ทว่าหน้าจอนั้นแสดงชื่อ “หัวหน้าบริหาร”“ค่ะ หัวหน้า”“ตอนนี้เรื่องลบโพส คงจะเป็นไปได้ยากแล้วล่ะ คนเริ่มตั้งความสงสัยถึงการกลับมา และตั้งความสงสัยไปถึงข่าวเมื่อ5ปีที่แล้ว”“ถ้าเราโต้ข่าว..”“มีสิทธ์ที่ข่าวจะยิ่งโจมตีกลับมา”“แปลว่าทำอะไรไม่ได้เลยหรอคะ?”“ตอนนี้คงต้องเงียบไปก่อน ฝากขอโทษคุณลีด้วยนะ”“ค่ะเข้าใจแล้ว”หลังสายตัดไป ความคิดตีกันไปหมด ฉันควรจะทำยังไงดีคนที่นั่งอยู่ตรงหน้ากลับยกยิ้มขึ้นมาซะอย่างนั้นนี่เขาตั้งใจจะกวนประสาทกันรึไงนะ“คุ
ฝนยังโปรยปรายอยู่เบื้องนอก เสียงขูดเบา ๆ ของปลายปากกากับกระดาษเขาก้มหน้าลง ข้อมือขวาค่อย ๆ ขยับ ปลายปากกาไล้ไปตามเส้นจรดตัวอักษรแรก… ลีธาราขมวดคิ้วเล็กน้อยตัวอักษรถัดมา… ลภัสเธอเผลอพึมพำชื่อในใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบดวงตาเขาที่กำลังเฝ้ามองปฏิกิริยาเธอ“คุณ...”ลีวางปากกาลงอย่างมั่นคง ก่อนจะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้“ชาโดว์...เป็นชื่อที่คนอื่นสร้างให้ผม” เขาว่าเสียงเบา แต่หนักแน่น “แต่ลี ลภัส เป็นชื่อที่ผมเลือกเอง”เขาหยุด ก่อนยิ้มมุมปาก จากนั้นพูดต่ออย่างมีแววหยอก“เลือกแล้วก็ต้องใช้ให้คุ้ม...อย่าเผลอเรียกผมว่าชาโดว์ล่ะ เดี๋ยวผมจะคิดว่าคุณไม่เห็นค่าความพยายามของผม”ธาราเลิกคิ้ว ก่อนจะหลุดหัวเราะเบา ๆ“ค่ะ คุณ...ลี”“อืม...แบบนั้นแหละ” เขายิ้มกว้างขึ้นเหมือนพอใจ“ครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผมรู้สึกว่า ผมเป็นเจ้าของตัวหนังสือของตัวเองจริง ๆ”ธาราไม่อาจละสายตาจากเขาได้เลยในวินาทีนั้น ชายหนุ่มตรงหน้าเธอ...ไม่ใช่เงามืดที่เธอเคยไล่ตาม แต่เป็นแสงบางอย่าง ที่กำลังค่อย ๆ เริ่มเรืองขึ้นจากขอบฟ้าธารายิ้มกว้างออกมาพร้อมพายมือออก“ฉันจะรับผิดชอบทั้งคุณและผลงานของคุณเองค่ะลี”ลีทำท่าเลิกคิ้วก่อนจะยื่นมือ