@วันหยุดสุดสัปดาห์
วันนี้คลินต์พาใบชาไปเดินห้าง ไถ่โทษที่ทิ้งให้เธอนั่งรออยู่ตรงลานจอดรถจนยุงรุมกัดทั้งตัวแดงเถือกไปหมด เขาพยายามขอโทษแล้วทั้งตัวเขาและพี่ชายของเธอ แต่ก็ยังถูกเมินอยู่ดี นี่จึงเป็นวิธีเดียวที่จะสามารถทำให้เธอหายโกรธได้ ( คิดเอาเอง ) ผู้หญิงคงชอบการเที่ยว พาไปกินของอร่อย หรือซื้อของหรูๆ สวยๆ ให้เป็นการไถ่โทษหรือตอบแทน
ณ ห้างหรูระดับไฮเอนด์
ใบชาเพิ่งเคยมาเที่ยวสถานที่แบบนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตเลย ทันทีที่ขาเรียวก้าวเข้ามา เธอก็มองไปรอบๆ ตัวเองด้วยความตื่นเต้น มองดูของประดับที่ตกแต่งประเมินค่าราคาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
"ก่อนอื่นเลย พี่ต้องถามก่อน ว่าเราอยากได้อะไร หรืออยากกินอะไร จะได้พาไปถูก"
"มันมีอะไรบ้าง?"
"ก็มีหมดเลย อยากได้อะไรล่ะ กระเป๋า เสื้อผ้า เครื่องสำอาง รองเท้า หรือจะเป็นพวกเครื่องประดับ"
"แพงไหมคะ?" เธอถามเสียงแผ่วๆ ประหนึ่งว่ากลัวคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน เพราะเงินที่เธอมีติดตัวมามันก็แค่หลักพันด้วยซ้ำ
"หึหึ พี่บอกแล้วไง วันนี้พี่จ่ายเอง อยากได้เท่าไหร่ไม่อั้น เว้นแต่ว่าจะซื้อห้างนี้แหละ พี่คงซื้อให้ไม่ได้"
"โหย~ ทำพูดติดตลกนะ ใครจะซื้อห้างกันเล่า!"
"เดินไปกันเลยไหม"
"ขอดูก่อนนะคะ ยังนึกไม่ออกเลย กะว่าจะมาเดินเล่นแท้ๆ"
"ครับ"
ทั้งสองเดินเคียงข้างกันไป ดูเหมือนคู่รักทั่วไปหากมองเผินๆ เวลาขึ้นบันไดเลื่อนเขาก็ยังคอยดูแลเธออย่างใกล้ชิด เพราะเห็นท่าทีเงอะงะของเธอแล้ว เชื่อเลยว่าเธอไม่เคยมาสถานที่แบบนี้จริงๆ
แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร และก็ไม่แปลกใจเลยด้วย เพราะเธอเป็นเด็กต่างจังหวัด
คลินต์คอยเหลือบตามองหญิงสาวที่เดินอยู่ข้างๆ กัน เธอดูสดใสและดูมีความสุขมากจริงๆ ดูเหมือนคนที่ไม่ได้มีความทุกข์อะไรในใจเลย และพอได้เห็นอย่างนั้นเขาก็เผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
มันเหมือนว่าเขาเองก็รู้สึกอะไรบางอย่างเหมือนกัน...
"พี่คลินต์อยากกินไอศครีมค่ะ"
"สั่งสิ"
"แล้วพี่ล่ะไม่กินหรอ"
"อืม เราสั่งอะไร ก็เผื่อพี่ด้วยอันนึง"
"โอเค..."
ใบชาตอบรับก่อนจะเดินไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าร้านไอศครีม คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมองป้ายเมนูที่อยู่ด้านบน หลายอย่างที่เธออยากกินแต่ก็คงต้องเลือกเอาสักอย่างนึง
"เอาช็อกโกแลตค่ะ ไม่เอาเกล็ดน้ำตาลนะคะ แล้วก็โรยผงถั่วแทน"
"ใบชา...เขาไม่ได้เรียกผงถั่ว เขาเรียกอัลมอนด์" คลินต์เข้ามากระซิบข้างๆ หูเมื่อเห็นว่าพนักงานที่กำลังยืนรับออเดอร์นั้นทำหน้างงๆ เล่นเอาใบชาถึงกับเขินไปเลย
"อ๋อ..นั่นแหละค่ะๆ"
ไม่นานนักไอศครีมที่เธอสั่งก็เรียบร้อย เขาเป็นคนจ่ายเงินส่วนเธอก็เป็นคนรับบิลมา พอได้เห็นยอดท้ายบิลเท่านั้นแหละ เธอถึงกับร้องอุทานออกมาเลย
"หูย!"
"อะไร?" คลินต์ถาม
"ไอติมแถวนี้มันแพงขนาดนี้เลยหรอคะ สองอันเกือบร้อยแน่ะ อยู่บ้านนะ สามสิบบาทเอง"
"มันไม่เหมือนกันไง แถวนี้มันในเมืองนะ แพงก็ไม่แปลก"
"อือ แต่ก็อร่อยดีนะคะ ไม่เคยกินรสชาตินี้เลย"
"ต่อไปสั่งน่ะ อย่าไปบอกเขาว่าผงถั่วนะ มันคืออัลมอนด์"
"คิกคิก....โอเคๆ"
ใบชาทั้งเขินทั้งอายแต่ก็รู้สึกตลกตัวเองในเวลาเดียวกัน ก็คนมันไม่รู้นี่นา ตอนที่อยู่ที่บ้านต่างจังหวัดเขาก็เอาถั่วลิสงคั่วโรยให้ไง ก็เลยนึกว่ามันจะเหมือนกัน
"วันนี้ตั้งใจมาทำอะไรเนี่ย"
"ไม่รู้สิคะ หาของกินมั้ง"
"มีอะไรต้องซื้อเข้าคอนโดไหม"
"อื้อ มีนะคะ ที่นี่มีขายด้วยหรอ"
"ก็บอกแล้วไงว่ามีหมด แต่มันอยู่ชั้นล่าง ขากลับค่อยลงไปซื้อ"
"โอเค..."
"ไม่อยากได้ของที่ผู้หญิงเขาอยากได้บ้างหรอ พี่ซื้อให้ได้นะ"
"อะๆ ซื้อรองเท้าผ้าใบก็ได้ค่ะ คู่เก่ามันจะขาดแล้ว"
"โอเค งั้นก็ตามมา"
คลินต์พาใบชาไปที่ร้านรองเท้าผ้าใบที่เป็นร้านประจำของเขา จากนั้นก็ให้เธอเลือกแบบที่ชอบ และก็นั่งลองอยู่ในร้าน แต่เขาไม่ยอมบอกราคากับเธอเลย เพราะรู้ดีว่าถ้าเขาบอกราคากับเธอไป เธอคงปฏิเสธแน่ๆ ล่ะ
"คู่นี้เท่าไหร่หรอ?"
"เท่าไหร่ก็ช่างเถอะ ซื้อให้ทำไมต้องถาม"
"ก็อยากรู้นี่ ถ้าซื้อของแพงมา พี่เต้ได้บ่นหูชาเลย"
"ลองให้มันบ่นดูสิ จะทุบให้"
"คิกคิก..."
"หัวเราะอะไร ชอบใจหรือไงที่พี่จะทุบพี่ชายตัวเองเนี่ย"
"เปล่าค่ะ แค่ไม่เคยเห็นพี่เป็นแบบนี้มาก่อนเลย"
"ก็ไถ่โทษเรื่องเมื่อวานก่อนนั้นไง"
"ขอบคุณนะคะ"
"เสื้อผ้าล่ะ ไม่อยากได้ใหม่บ้างหรือไง เห็นใส่แต่เสื้อผ้าเดิมๆ"
"ก็อยากได้ค่ะ"
"เดี๋ยวพี่พาไปซื้อ"
หลังจากนั้นคลินต์ก็พาใบชาไปซื้อของหลายอย่างมากๆ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าเสื้อผ้า และของใช้ส่วนตัวบางอย่างสำหรับเธอ หรือแม้กระทั่งเครื่องสำอางเล็กๆ น้อยๆ ทุกอย่างราบรื่นทั้งสองเหมือนคู่รักที่พากันมาเที่ยวตามปกติ
แต่ทุกอย่างกลับพลิกเปลี่ยน เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาขั้นกลางระหว่างคนสองคน เธอสูง ผอมเรียว ผมยาว ตาโต แต่งตัวจัดจ้านแต่ดูดีในแบบที่ใบชาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเทียบได้ เธอเดินเข้ามาทักคลินต์อย่างสนิทสนม แถมยังเอาแขนคล้องเขาไว้ ร่างกายแนบชิดประหนึ่งว่าสนิทสนมกันมากมาย
"คลินต์มาเที่ยวเหมือนกันหรอ ไม่เห็นชวนกันเลยนะ"
"เปล่าน่ะ พาน้องมาซื้อของ"
"อ๋อ...น้องสาวหรอ? แต่คลินต์เป็นลูกคนเดียวนี่นา แล้วน้องสาวมาจากไหน?"
"น้องสาวไอ้เต้มัน มันไม่ว่าง ก็เลยต้องพามาแทน"
"อ้อ...หวัดดีจ้ะ"
"ค่ะ สวัสดีค่ะ"
ใบชาไม่ได้อยากทักทายเลย แต่ก็จำใจต้องตอบกลับตามมารยาทเพราะอีกฝ่ายนั้นทักทายมาก่อนแล้ว
"คลินต์วันนี้เรานัดเจอกันได้ไหม"
"ไม่ได้ไม่ว่าง มีงานต้องทำ"
"ฮือ...แต่เราคิดถึงคลินต์มากเลยนะ เรายังมีอะไรอีกตั้งหลายอย่างที่...ต้องทำด้วยกัน"
หน้าอกที่เบียดกับแขนของเขา...คำพูดที่หวานเยิ้ม...สายตาที่ส่งยั่วไม่หยุด
และที่สำคัญคลินต์ไม่ปฏิเสธเลยสักคำ
ใบชาได้แต่นิ่ง หัวใจเหมือนโดนบีบแน่น พูดไม่ออกแม้แต่คำว่า "อึดอัด"
เธอยิ้มเจื่อน ข่มใจเดินตามทั้งคู่ที่ดูสนิทสนมกันราวกับเธอเป็นแค่เงาตามหลัง เธอดูเหมือนกลายเป็นคนไม่มีตัวตนไปเลยซะงั้น
จนกระทั่ง...
ทั้งสองกลับถึงคอนโด คลินต์หิ้วถุงขนมถุงเสื้อผ้ารองเท้าที่ซื้อมาขึ้นลิฟต์ให้ใบชาอย่างที่ควรจะทำตามแบบลูกผู้ชาย แต่เธอกลับรู้สึกว่าวันนี้มันแปลกกว่าทุกวัน รู้สึกเหมือนกับว่าเขาเหมือนไม่ใช่พี่คลินต์ที่เธอรู้จักเลย
ไม่นานนักทั้งคู่ก็เข้ามาในคอนโด ปกติมันควรจะมีการพูดคุยหยอกล้อกันแล้ว แต่นี่มันเงียบผิดปกติ เงียบจนเธอไม่อยากจะอึดอัดต่อไปแบบนี้แล้ว
"พี่คลินต์" ใบชาเรียกเสียงแผ่ว
"หืม?" เขาหันมาเลิกคิ้วมอง
"ผู้หญิงคนนั้น เป็นใครหรอ?" น้ำเสียงเธอนิ่ง แต่ในใจสั่นจนแทบยืนไม่อยู่แล้ว
คลินต์เงียบไปนิดหนึ่ง เหมือนไม่ได้คาดว่าจะถูกถาม แต่เขาก็ไม่ได้มีทีท่าตกใจอะไร
"อ๋อ...เพื่อนเก่าสมัยเรียนมัธยม เจอบ่อยตอนไปเที่ยวห้างน่ะ"
"อืม..." เธอพยักหน้าเบาๆ แล้วฝืนยิ้ม "พี่ดูสนิทกับเขาจังเลย"
"ก็รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมแล้ว ถามทำไมหรอ"
"เปล่า...แค่ถามดูเฉยๆ" ใบชาทำได้แค่ส่ายหน้าแล้วก็หันหลังกลับเข้าห้อง ปิดประตูเบาๆ เหมือนทุกอย่างไม่ได้เกิดขึ้น
แต่ภายใต้ความเงียบหัวใจใบชารู้ดี 'ว่าเธอเจ็บ' และในฐานะผู้หญิงด้วยกันเธอรู้ดีว่าสายตานั้นมันไม่ใช่สายตาของเพื่อนที่มองกัน
สองเดือนต่อมา ณ บ้านไร่เรือนหอของคลินต์"อึก อ้วกก !!" เสียงอาเจียนโอกอากของคลินต์ดังจากด้านบนลงมาที่ด้านล่าง แม่บ้านที่ได้ยินก็ถึงกับพากันยิ้มหัวเราะ เพราะคลินต์เป็นแบบนี้มาสักพักแล้ว ซึ่งก็เป็นอาการแพ้ท้องแทนใบชาตามระเบียบนั่นแหละตอนนี้ใบชากำลังท้อง สมใจอยากคนเป็นพ่อแล้วล่ะ และเขาก็ต้องแบกรับหน้าที่แพ้ท้องแทนภรรยาด้วย"ไหวไหมคะพี่คลินต์ เอาน้ำกลั้วปากก่อนนะ""อืม..."จากคนที่แข็งแรงหน้าตาดูสดใสอยู่ทุกวัน ตอนนี้กลับหมดเรี่ยวแรงพร้อมกับใบหน้าที่ซีดเซียวไร้สีเลือดฝาด เขามีอาการเหมือนกับผู้หญิงแพ้ท้องทั่วไปเลย กินอะไรไม่ได้ เช้ามาก็อ้วกแตก มึนหัว ได้กลิ่นอาหารคืออาเจียนออกมาจากหมดไส้หมดพุง"กินยาก่อนนะคะ""ไม่เอา พี่ไม่อยากกิน มันจะอ้วก"อย่าว่าแต่อาหารหรือยาเลย แค่น้ำเปล่าๆ กินเข้าไปเขาก็ยังรู้สึกคลื่นไส้อยากจะอาเจียนออกมาให้ได้"จะได้ดีขึ้นไงคะ""ไม่เอา พี่อยู่แบบนี้ดีกว่า เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น" คลินต์ปฏิเสธอย่างหนักแน่นด้วยสภาพที่ไร้เรี่ยวแรงของตัวเองก๊อกๆๆ "คุณคลินต์ คุณชา น้ำหวานๆ มาแล้วค่ะ" แม่บ้านเดินเข้ามาพร้อมกับน้ำหวานเย็นๆ หวังจะให้คลินต์ได้จิบเบาๆ พอชื่นใจ"กินสักหน่อยนะพี่ค
#เช้าวันต่อมา เสียงเคาะประตูดังขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ ตามด้วยเสียงเรียกของเด็กน้อยที่ดังอ้าวอยู่ตรงหน้าประตูห้อง ทำให้คลินต์ที่กำลังนอนกอดภรรยาสาวสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมา ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างระมัดระวังไปเปิดประตู "พ่อครับ มะตื่นแล้ว แม่ล่ะครับตื่นหรือยัง?" เด็กน้อยเอ่ยถามพร้อมกับชะโงกหน้าไปมองข้างใน "จุ๊ๆ เมื่อวานแม่เหนื่อยมากเลย ให้แม่นอนพักก่อนนะครับ" คลินต์เอามือจ่อปากตัวเองพร้อมกับบอกให้ลูกชายเงียบเสียงลง "อ้าวเหรอครับ""มะลงไปกินข้าวกับคุณปู่คุณย่าก่อนนะครับ""ก็ได้ครับ" "เก่งมากเลยครับลูกพ่อ" หลังจากที่จัดการกับเจ้าลูกชายตัวแสบเสร็จเรียบร้อยแล้วคลินต์ก็กลับเข้ามาในห้อง ก่อนจะค่อยๆ ขึ้นไปนอนข้างๆ ใบชาตามเดิม แต่เขาไม่ได้นอนหลับ เขานอนมองใบชาที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ พร้อมกับนึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่เพิ่งจะจัดหนักกันกว่าจะได้นอนก็เกือบรุ่งสางแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งมีความสุข นึกว่าตัวเองจะไม่ได้ลงเอยแบบนี้ซะแล้วสิ "อือ....พี่คลินต์กี่โมงแล้วคะเนี่ย""ยังเช้าอยู่เลย นอนต่อเถอะ ไม่ต้องห่วงลูกหรอก เขาอยู่กับปู่กับย่า" "อือ..." ใบชาหลับไปอีกครั้งด้วยความเพลีย กว่าจะตื่นขึ้นมาอีกทีก็
และแล้วค่ำคืนที่คลินต์รอคอยก็มาถึง หลังจากที่งานเลี้ยงของงานแต่งเล็กๆ นั้นจบลง แขกในงานก็พากันกลับบ้านพักของตัวเอง เพราะพรุ่งนี้มีงานที่ต้องทำ ใบชาเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ แต่แล้วเธอก็ต้องชะงักเพราะกลิ่นบางอย่างในห้องนอน และด้วยท่าทางของคลินต์มันก็ทำให้เธออดถามไม่ได้จริงๆ "พี่ฉีดน้ำหอมเหรอคะ กลิ่นฉุนเชียว" "เหม็นเหรอ?" คลินต์ดีดตัวลุกขึ้นด้วยความร้อนใจ สีหน้าของเขาดูตกใจมากจริงๆ "เปล่าค่ะ ไม่ได้เหม็น แค่ปกติมันไม่มี..." มันไม่ได้เหม็นฉุนขนาดนั้น และไม่เชิงเป็นกลิ่นน้ำหอมที่เรามักจะฉีดใส่ตัวเอง แต่มันเป็นกลิ่นหอมเย็นๆ ที่ได้กลิ่นแล้วรู้สึกสดชื่น "แม่ให้มาน่ะ บอกว่ามันช่วยทำให้เราผ่อนคลาย" "อ๋อ..." "พี่พร้อมแล้วนะ" "....." ใบชามองเงียบๆ เธอสังเกตเห็นตั้งแต่ออกมาจากห้องน้ำแล้วล่ะ ห้องถูกจัดใหม่พร้อมด้วยแสงไฟโทนอุ่น แถมด้วยกลิ่นน้ำหอมอบอวลอยู่อีก "มามะ มาหาพี่ที่เตียงหน่อยครับ ปุปุ ~ " คลินต์เอามือตบที่เตียงนอนเป็นจังหวะ พร้อมกับส่งสายตายั่วยวน แต่แทนที่ใบชาจะเดินไปตามคำขอ เธอกลับยืนยิ้มแล้วหัวเราะเบาๆ ออกมา "ชา อย่ามาแกล้งพี่นะ ให้พี่รอกลางคืน พี่ก็รอแล้วนี่ไ
และแล้วก็มาถึงวันที่คลินต์และใบชาได้แต่งงานกัน งานถูกจัดขึ้นแบบเรียบง่ายตามความต้องการของใบชา ณ กลางไร่องุ่นถูกจัดแต่งให้เป็นซุ้มเล็กๆ และประดับประดาไปด้วยดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมและมีความหมายในงานแต่งพื้นที่รอบๆ ก็มีโต๊ะสำหรับรองรับแขกที่มีไม่เท่าไหร่ ส่วนมากก็เป็นคนงานของที่นี่ ใบชาไม่มีญาติผู้ใหญ่ที่จะต้องมางาน พวกญาติๆ ที่เคยอยู่ด้วยสมัยเด็กๆ เธอไม่อยากไปยุ่งกับใครแล้ว กลัวว่าจะเข้ามาทำให้ครอบครัวที่มีความสุขตอนนี้ของเธอต้องลำบากทางฝั่งของคลินต์ก็มีพ่อแม่ของเขาและคุณอาที่เป็นเจ้าของไร่ตัวจริงที่นี่ ครั้งแรกเลยที่ใบชาได้เห็นหน้าตาของเจ้าของไร่เมื่อถึงเวลาใบชาก็เดินมาพร้อมกับพี่ชาย ญาติผู้ใหญ่คนเดียวของเธอ ด้วยชุดเดรสสีขาวสะอาด กระโปรงพลิ้วแต่ไม่รุ่มร่าม สวยเข้ากับรูปร่างของเธอพอดี ทรงผมถูกม้วนเก็บครึ่งศีรษะแบบเรียบร้อย และประดับด้วยดอกไม้สวยๆ ดูเข้ากับใบหน้าแสนหวานของเธอด้านหน้าคือเจ้าบ่าวที่ใส่ชุดสูทหล่อเหลากับลูกชายที่ยืนอยู่ข้างๆ กัน คลินต์กำลังยิ้มให้กับเจ้าสาวแสนสวยของเขา จนกระทั่งเธอเดินเข้ามาถึง"แม่สวยมากเลยครับ""ขอบคุณครับ เราก็หล่อมากเลยนะ สูทตัวนี้หล่อมาก""ขอบคุณครับ"ค
#เวลาผ่านไป หลังจากวันนั้นฉันย้ายมาอยู่ที่บ้านของพี่คลินต์ และเราก็ใช้ชีวิตอยู่ดั่งเช่นสามีภรรยาทั่วไป อยู่ในครอบครัวที่เล็กๆ แต่มีความสุขและอบอุ่นมาก ส่วนบ้านหลังนั้นพี่เต้ก็อยู่คนเดียวโดยปริยาย แต่ฉันก็แอบคิดนะว่ารายนั้นก็น่าจะหาแฟนสักคนจะได้มาอยู่ด้วยกันจะได้ไม่เหงา แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงยังครองโสดอยู่จนปัจจุบันนี้ฉันเริ่มปรับตัวให้คุ้นชินกับคำว่าครอบครัว แต่ก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองเหมือนเดิม ฉันทำงานอยู่ที่บริษัทนึง มะโซวก็เข้าโรงเรียนอนุบาล พี่คลินต์ก็ทำงานเป็นผู้ดูแลไร่นี้ และก็ทำงานที่บริษัทของตัวเองบ้าง เราต่างก็มีหน้าที่ของกันและกันพี่คลินต์อยากให้ฉันลาออกจากงานแล้วคอยดูแลบ้าน แต่ที่นี่ก็มีแม่บ้านคอยทำอะไรหมดทุกอย่างอยู่แล้ว ฉันอยากทำงานอยากมีเงินเก็บเป็นของตัวเองโดยที่เงินนั้นไม่ได้มาจากการที่พี่คลินต์เป็นคนให้ อยากทำงานเก็บเงินเอาไว้ในส่วนของตัวเองครึ่งนึง อีกครึ่งหนึ่งก็เก็บเอาไว้ให้มะโซวเป็นค่าเล่าเรียนของเขา ถึงตอนนี้ฉันจะไม่ต้องลำบากแล้วก็เถอะ เพราะมีพี่คลินต์จัดการทุกอย่าง แต่ฉันก็ยังอยากทำสิ่งที่ตัวเองตั้งมั่นเอาไว้ให้มันสำเร็จตอนนี้เรามีลูกและมะโซวก็เหมือนเชือกสานร
เย็นวันหนึ่งหลังเลิกงาน ขณะที่สองพ่อลูกกำลังจอดรถรอใบชาเลิกงานอยู่ที่หน้าบริษัทพนักงานคนอื่นๆ ก็เริ่มพากันทยอยออกมาเมื่อถึงเวลาเลิกงาน ไม่นานนักใบชาเดินออกมา"พ่อครับ แม่มาแล้วอยู่นั่น" มะโซวลูกชายตัวน้อยเอ่ยขึ้นพร้อมกับชี้ออกไปยังเบื้องหน้า ตรงกลุ่มพนักงานที่กำลังพากันเดินออกมามีผู้เป็นแม่ของตัวเองกำลังเดินออกมาอยู่ด้วย"ไปรับแม่กันป่ะ""ครับ"คลินต์กับลูกชายพากันจูงมือเดินตรงไปหาใบชาที่กำลังเดินออกมา แต่ยังไม่ทันที่จะได้เดินไปถึงตัวของใบชา ก็มีพนักงานผู้ชายคนนึงเข้ามาสะกิดเธอจากด้านหลังและคุยด้วยต่อหน้าต่อตาเลยนะนั่น!ไม่รู้ว่ากำลังคุยอะไรกันแต่เห็นแค่นี้ก็หงุดหงิดจนลมออกหูแล้ว"ใบชาครับ""???""ถ้าผมจะขอไลน์ จะว่าอะไรไหมครับ เผื่อเอาไว้คุยกัน""ว่าครับ ขอไม่ได้" คลินต์พูดแทรกเข้าไป เพราะรีบเดินเข้าไปจนได้ยินการสนทนาพอดี"แล้วคุณเป็นใครครับ มาเกี่ยวอะไรด้วย""เกี่ยวสิครับ เพราะผมเป็นสามี""ส่วนมะก็เป็นลูกครับ คนนี้แม่ของมะเอง คุณลุงห้ามยุ่งนะครับ" มะโซวพูดขึ้นอย่างเด็กรู้ทัน ก่อนจะยิ้มกว้างให้คนตรงหน้าที่เข้ามาขายขนมจีบแม่ของตนเอง"เอ่อ จริงเหรอครับใบชา?""ค่ะ นี่ลูกฉันเอง"เธอยอมร