พิมพ์รดาเม้มปากตัวเอง เธอรู้ว่าเขาเป็นคนพูดจริงทำจริง ถ้าเธอขัดใจเขา เขาจะทำให้เธอคลานออกจากห้องอย่างที่พูดจริง ๆ
"จะให้ทานข้าวเป็นเพื่อนไม่ใช่เหรอคะ ปล่อยสิคะพิมพ์จะไปทานด้วย" หญิงสาวเเกะมือใหญ่ออกจากแขนตัวเอง แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยอมปล่อย เขาดึงแขนเธอไปนั่งที่เก้าอี้
"อย่าดื้อกับฉัน เพราะฉันไม่ชอบ"
"พิมพ์ก็ไม่เคยขอร้องให้พี่มาชอบนิ่คะ"
"เธอมันโคตรปากดี" ฉลามเสียงกระด้าง ก่อนเดินไปนั่งเก้าอี้ทำงานของตัว เขาจ้องหน้าพิมพ์รดาครู่ใหญ่ ก่อนจะเเกะอาหารที่เขาให้ลูกน้องซื้อมาให้ "จะไม่มีน้ำใจแกะช่วยฉันเลยเหรอ?"
"พี่อยากทานก็แกะเองสิคะ"
"แล้วช่วยฉันมันจะตายหรือไง?" พิมพ์รดาหน้ามุ่ยก่อนจะเปิดกล่องอาหารช่วยเขา "น่ากินไหม?"
"ค่ะ" เธอพยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับหยิบช้อนตักอาหารเข้าปาก อาหารที่เขาซื้อมาเป็นอาหารง่าย กะเพราหมูกรอบราดข้าวไข่ดาว เธอนั่งทานมันอย่างเงียบ ๆ ไม่ปริปากพูดอะไรออกมา จนฉลามต้องพูดขึ้น "เธอกับนนนเป็นอะไรกัน?"
"...." พิมพ์รดาละสายตาจากกล่องอาหาร ช้อนตาขึ้นมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ ปกติเขาไม่เคยใส่ใจเธออยู่แล้ว ตอนนี้กลับแปลก ที่เขาใส่ใจเธอ
"ก็ไม่เป็นไรกันค่ะ ว่าแต่ พี่จะสนใจทำไม?"
"เปล่าสนใจสักหน่อย แค่อยากรู้"
"แสดงว่าพี่สาระแน"
"ปากดี!"
"หึ! เราไม่ได้เป็นอะไรกัน พี่อย่าสาระแนอย่ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของพิมพ์ พิมพ์จะคบกับใครหรือว่าพิมพ์จะเป็นเพื่อนกับใครพี่ก็ไม่มีสิทธิ์ยุ่ง ในเมื่อเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน" เธอกระแทกเสียงแล้วตักอาหารเข้าปาก
"เธอมั่นใจเหรอว่าฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเธอ!"
"ค่ะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน"
"พิมพ์รดาเธอก็รู้ว่าความเป็นจริงมันมากกว่านั้น"
"มากกว่านั้นอะไรกันคะ"
"เรื่องคืนนั้น"
"คืนไหนไม่ทราบ ถ้าจะบอกว่าคืนเคาท์ดาวน์ มันมีอะไรมากกว่านั้น ค่ะ มันมีอะไรมากกว่านั้นจริง ๆ แต่จะมีประโยชน์อะไรล่ะคะก็แค่คนเมาสองคน เหงี่ย.นหาที่ลงไม่ได้แค่นั้นเอง" เธอกระแทกเสียงยิ่งทำให้ฉลามฉุนจัด "เปิดเผยไม่ได้ ความสัมพันธ์โคตรจะเฮงซวย ทุกอย่างเกิดจากความผิดพลาดพี่เองก็น่าจะรู้ดี พิมพ์เองก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอกค่ะ ก็แค่วันไนท์สแตนด์ ไม่เห็นจะต้องใส่ใจอะไรเลย พิมพ์จะวันไนท์สแตนด์กับใครอีกก็ได้ ไม่เห็นต้องแคร์อะไรเลย"
"พิมพ์รดา!"
"พิมพ์อิ่มแล้วค่ะ พิมพ์ขอตัว!" เธอวางกล่องข้าว ที่เพิ่งทานพร่องไปเพียงนิดบนโต๊ะทำงาน
"ฉันไม่อนุญาต!"
"เรื่องของพี่"
"ฉันเคยบอกเธอแล้วไหม ว่าฉันจะไปส่งเธอเอง"
"ไม่จำเป็นหรอกค่ะ เราก็แค่เจ้านายกับลูกน้อง ไม่จำเป็นที่พี่จะมาวุ่นวาย พี่อย่าใส่ใจพนักงานต๊อกต๋อยอย่างพิมพ์เลยค่ะ ต่างคนต่างอยู่ เฉยเมยใส่กันเหมือนที่พี่ทำทุกวันก็ดีแล้ว"
"เธอไม่ต้องมาพล่าม กลับมาทานอาหารที่เหลือ ฉันรู้ว่าเธอยังอิ่ม อย่าให้ฉันต้องหมดความอดทนกับเธอ"
"...." พิมพ์รดาไม่ได้เอ่ยอะไรแต่เดินไปเปิดประตู เธอเดินออกจากห้องไปได้เพียงสองก้าว ร่างเล็กของเธอก็รวบแล้วลากมาเหวี่ยงที่โซฟา
"กรี๊ด พี่ทำบ้าอะไรของพี่" เธอแผดเสียงร้องดังลั่น
"ก็บอกอยู่ใช่ไหมว่าไม่ให้ขัดใจฉัน เธอคงอยากจะเดินสี่ขาออกไปเหมือนที่ฉันขู่เธอเอาไว้ใช่ไหม?"
"พี่ฉลาม ไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้กับพิมพ์!"
"แล้วอยากให้พี่มีสิทธิ์ไหม?" เขาเสียงกระด้าง เขาไปตรึงร่างนุ่มนิ่มกับโซฟา
"มีสิทธิ์อะไรคะ ในเมื่อพิมพ์ไม่ได้เป็นอะไรกับพี่ ปล่อยค่ะพิมพ์จะกลับ"
"ฉันจะไปส่งเอง แต่เธอต้องไปกินข้าวที่เหลือให้หมด"
"พิมพ์อิ่มแล้ว"
"แต่ฉันยังไม่อิ่ม เธอเองก็ยังไม่อิ่มเช่นกัน" ฉลามเอ่ยแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ก่อนจะนั่งทานอาหารของตัวเอง "ถ้าเธอไม่มากิน ก็อย่าหวังจะได้กลับ"
"....." พิมพ์รดาเม้มปาก ปกติเขาไม่พูดมาก วันนี้ชักปากดี เธอลุกขึ้นแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ก่อนจะหยิบช้อนตักอาหารเข้าปาก ที่จริงยังไม่อิ่มหรอก แต่เธออยากกลับ เพราะไม่อยากอยู่กับเขาเพียงสองคน
หลังจากที่ทานอาหารเสร็จฉลามก็ไปส่งพิมพ์รดาตามที่เขาบอก เขามาส่งเธอที่หน้าบ้าน เพราะหญิงสาวเป็นคนบอกเส้นทางมา
"บ้านเช่าเธอโคตรโทรม" เขาเอ่ยเมื่อรถจอดหน้าบ้าน
"โทรมแต่ถูก ประหยัดดี"
"แต่ไม่ปลอดภัย"
"แล้วใครสน" ว่าจบพิมพ์รดาก็เปิดประตูลงจากรถแล้วเดินเข้าบ้าน ฉลามมองตามคนตัวเล็กแสนอวดดีเดินเข้าไปในบ้านโทรมๆ แล้วถอนหายใจออกมาเเรง ๆ ก่อนจะขับรถกลับไปที่บ้านของตัวเอง
หลังจากอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จ ภาพพิมพ์รดากับนนนก็วนอยู่ในหัว นี่เขากำลังเป็นบ้าอะไร ถึงได้เอาแต่คิดเรื่องสองคนนั้น
"แม่ง! ทำไมกูต้องมาคิดถึงเรื่องของเธอวะ!" เขาสบถแล้วล้มตัวนอน กว่าจะหลับลง ภาพของพิมพ์รดาก็วนเวียนอยู่ในหัว จนยากที่จะสลัดมันออกไปได้
วันต่อมาฉลามลุกขึ้นแต่เช้าแล้วออกไปวิ่ง เขาชอบวิ่งออกกำลังกายมาก เวลาที่เหงื่อออกเขารู้สึกว่ามันโล่งสบาย พอวิ่งจนถึงเจ็ดโมงครึ่ง เขาก็มาอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานที่บริษัท
"ปริม"
"คะคุณฉลาม"
"ถ้าพิมพ์รดามาแล้วให้ไปพบฉันที่ห้อง"
"ค่ะ"
ผ่านไปอีกสามชั่วโมง ฉลามมองนาฬิกาที่ข้อมือซึ่งตอนนี้มันบ่งบอกแล้วว่าเป็นเวลา 9:00 น แต่ทว่าคนตัวเล็กที่เขารอ กลับยังไม่มา เขากำมือแน่นก่อนจะเปิดประตูบานหนา เป็นจังหวะเดียวกันกับที่หญิงสาววิ่งเข้ามาในสภาพหัวฟูดูไม่ได้ ส่วนนนนสภาพก็ไม่ต่างกัน
เขาบดกรามเล็กน้อย พยายามข่มอารมณ์สุดฤทธิ์ ความไม่พอใจถาโถมเข้ามา จนเขาเองก็ไม่เข้าใจ ว่าเพราะอะไรเขาถึงรู้สึกโกรธขนาดนี้
"ขอโทษที่มาสายค่ะ"
"เข้าไปคุยกับฉันข้างใน!" เขากระแทกเสียงใส่ พิมพ์รดาได้แต่เดินตามเขาไปอย่างเงียบ ๆ
เขาคงจะโกรธที่เธอมาสาย ที่มาสายก็เพราะรถของนนนเสีย ทำให้เธอต้องนั่งวินมอเตอร์ไซค์มา หนำซ้ำรถเกิดอุบัติเหตุขวางทาง วินมอเตอร์ไซค์จึงพาเธอมาทางลัด กว่าจะมาถึงก็สายมาก
"ขอโทษนะคะที่มาสาย พอดีรถคุณนนเสีย..." เธอพูดไม่ทันจบเขาก็โพล่งขึ้น
"รถมันเสียเลยทำให้มาช้า หรือเพราะเธอไปอ้าขาให้มันเอามา ถึงได้มาไม่ถึงบริษัทสักที!"
"พี่ฉลาม!"
"คุณปู่คุณย่ามารับเราด้วย" ตะวันจับขอบวงกบประตูมองคุณปู่คุณย่าที่ยืนรอ"ไหน หูย จริงด้วย" จันทร์ฉายเอ่ยอย่างตื่นเต้น พอคุณครูปล่อยไม่กลับบ้านได้เด็กๆทั้งสองก็วิ่งเข้าไปหาคุณปู่คุณย่าเลย อลิซสวมกอดหลานสาวด้วยความรักส่วนตะวันก็สวมกอดโนอาห์ถึงแม้ว่าจะเป็นการเจอกันครั้งแรกระหว่างโนอาห์กับหลานๆ แต่อลิซก็เปิดรูปหลานๆให้เขาดูทุกวัน ส่วนตะวันกับจันทร์ฉายฉลามก็เป็นคนเปิดรูปคุณปู่คุณย่าและเครือญาติให้ดู ทำให้เด็กๆจำทุกคนได้เป็นอย่างดี"ตัวหอมจังเลย" อลิซจุมพิตที่แก้มนุ่มๆ"คุณครูทาแป้งให้ค่ะ" จันทร์ฉายยิ้ม"อึบ ขอปู่อุ้มหน่อยครับ" โนอาห์อุ้มหลานชายแล้วจุมพิตแก้มนุ่มนิ่ม จากนั้นก็จุมพิตตามมือ ยิ่งสูดดมก็ยิ่งชื่นใจ"ปู่ทำแบบนี้ตะวันจักจี้นะครับ""ก็ตัวหลานมันหอมนี่ครับ ปะๆ กลับบ้านกัน""ครับ" ตะวันยิ้ม ส่วนพิมพ์รดากับฉลามมองลูกๆอย่างเอ็นดู พิมพ์รดามีความสุขมาก ตระกูลนี้เป็นตระกูลที่ดีรักลูกรักหลาน ผิดว่าตามผิด ถูกก็ว่าตามถูก ไม่เข้าข้างลำเอียงเลย"เด็กๆดูมีความสุขกันมากเลยนะพิมพ์""ใช่ค่ะ พวกเขามีความสุขมากๆ ตั้งแต่พี่มาอยู่กับพวกเขา ตะวันกับจันทร์ฉายมีความสุขมากกว่าเดิมจริงๆค่ะ""พี่เองก็มีความ
"วันนี้พ่อจะไปส่ง""เย้ๆ" เด็กๆต่างร้องกันเสียงดังเพราะดีใจที่มีพ่อเหมือนคนอื่นๆ"วันนี้เราจะนั่งรถคันนั้นไป" ฉลามชี้ไปที่รุ่นหรูรุ่นใหม่คันที่เขาให้ลูกน้องขับมาที่บ้าน"หูย ตะวันอยากนั่งใจจะขาดแล้วครับ รถพ่อฉลามสวยเหมือนรถของญาดาเลยครับ""ใช่ค่ะ พ่อฉลามรวยเหมือนพ่อญาดาไหมคะ?" จันทร์ฉายเอ่ยถาม ฉลามมองบุตรสาวด้วยความเอ็นดู และยีผมนุ่มเบาๆ"ที่จริง...." ฉลามเว้นวรรคหันไปมองพิมพ์รดาที่อมยิ้มอยู่ "ที่จริงพ่อรวยกว่าพ่อญาดาอีก""ว้าวๆ" จันทร์ฉายกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ"พี่ก็พูดเกินไปค่ะ" พิมพ์รดาหัวเราะเบาๆ แล้วหยิบนมสองกล่องใส่กระเป๋าให้ลูกทั้งสอง"พี่พูดจริง""ไม่จริงสักหน่อย""จริงครับ สมบัติปู่กับตาเยอะ" ฉลามยิ้มแล้วหันมามองลูกๆต่อ พอแต่งตัวให้ลูกเสร็จเขาก็จับมือเด็กๆไปขึ้นรถหรู โดยที่มีพิมพ์รดาขึ้นไปนั่งด้วยเด็กๆร้องเพลงบนรถ พิมพ์รดาได้แต่มองลูกที่ร้องเพลงอย่างมีความสุขเขาเข้ามาเป็นความสุขของลูกๆ เด็กๆรักเขามาก ขนาดเพิ่งรู้ว่ามีพ่อยังรักเขาขนาดนี้ ถ้าเขาตามใจทุกอย่างพวกเขาคงจะติดพ่อยิ่งกว่าอะไร ซึ่งพิมพ์รดาเองก็จะไม่ปล่อยให้ฉลามตามใจลูกมากเกินไป เธอจะต้องปรามเพราะไม่อยากให้ลูกๆต้องนิส
ร่างหนาถูกวางลงบนที่นอนนุ่ม พิมพ์รดารีบหาผ้าชุบน้ำเช็ดตามเนื้อตัวให้ เมื่อกายร้อนสัมผัสกับความเย็น ฉลามถึงกับสั่นเป็นเจ้าเข้า ขดกายซุกหน้ากับหมอนนุ่ม"อื้อ""อยู่เฉยๆ""พี่หนาว""เช็ดตัวจะได้หายไข้""พี่หนาว" ฉลามขดหายแน่นกว่าเดิม พิมพ์รดาเช็ดตัวให้อย่างยากลำบาก แต่ก็เช็ดจนแล้วเสร็จ เธอลุกขึ้นไปเเล้วเดินไปเปิดตู้ยา หยิบยามาให้เขาทาน"พิมพ์..." เขาเอ่ยเสียงพร่า ไม่ได้ลืมตาขึ้นมามอง พิมพ์รดามองอยู่นานก่อนจะเดินออกไป "พะ...พิมพ์""คุณพ่อนอนแล้วเหรอคุณแม่""ค่ะ คุณพ่อนอนแล้ว""คุณพ่อจะได้นอนในบ้านกับพวกเราใช่ไหมคะ? จันทร์ฉายอยากให้พ่อ""ไม่ได้ค่ะพ่อไม่สบายเดี๋ยวหนูติดไข้ด้วย""แต่จันทร์ฉายอยากกอดพ่อ ให้จันทร์ฉายเข้าไปนะคะ""...." พิมพ์รดาไม่ได้ตอบบุตรสาว แต่เดินไปหยิบขวดน้ำ"ให้พ่อกลับมาอยู่กลับเรานะแม่" ตะวันเอ่ย"พ่อก็อยู่ทุกวันนิ่คะ" เธอเฉไฉ แม่จะรู้ในสิ่งที่เด็กน้อยบอกก็ตาม"อยู่กันแบบครอบครัวครับ พ่อแม่ลูก""ใครสอนให้หนูพูดแบบนี้""ไม่มีใครสอน แต่ตะวันอยากมีพ่อเหมือนคนอื่น""จันทร์ฉายก็อยากมี""ไปๆ เข้าไปนอนได้แล้ว""แม่ครับ""อย่าอิดออดตะวัน""ตะวันอยากมีพ่อเหมือนคนอื่น" เด็กน้อยเบ้
พิมพ์รดาปั่นผ้าให้ลูกเสร็จก็ยกมาตากที่หน้าบ้าน ฉลามวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาพิมพ์รดาแล้วสวมกอดร่างเล็กแน่น"อะไรของพี่เนี่ย" มือเล็กพยายามผลักร่างหนาให้พ้นกาย "พี่ตัวเหม็นขนาดนี้ยังจะมากอดอีก""พี่ดีใจ""มันก็ไม่เกี่ยวกับพิมพ์นิ่คะ" เธอผลักร่างหนาออกแล้วยกตระกร้าฉลามรีบแย่งมาถือเอง "พี่ฉลามอย่ากวนค่ะ""พี่ตากให้เอง พิมพ์จะได้ไม่ต้องเหนื่อย""ไม่เป็นไรค่ะ พิมพ์ทำเองได้""พี่อยากช่วย" ชายหนุ่มจับชุดนักเรียนของบุตรสาวขึ้นมาแล้วยิ้ม เขาดีใจจนหุบยิ้มไม่อยู่เมื่อได้รู้ว่าจันทร์ฉายเป็นลูกสาวของเขา "ขอบคุณนะ""...." พิมพ์รดาเม้มปากเล็กน้อย ไม่เข้าใจในสิ่งที่คนตรงหน้าจะสื่อ เขาจะขอบคุณทำไม ในเมื่อเธอยังไม่ได้ทำอะไรให้เขาต้องมาขอบอกขอบใจเลย "ขอบใจอะไร?""ขอบใจที่พิมพ์ให้กำเนิดลูกที่น่ารักอีกคน ขอบคุณที่มั่นคงเสมอมา""ลูกพี่มีแค่ตะวันคนเดียว ส่วนจันทร์ฉายลูกพิมพ์กับผัวใหม่""พี่รู้ความจริงหมดแล้ว พิมพ์ไม่เคยมีใครนอกจากพี่" ฉลามยิ้ม"หึ ถ้ายังไงว่าพิมพ์ไม่เคยมีใครเข้ามา ที่จริงพิมพ์มีผัวมาหลายคนแล้ว""พี่ไม่เชื่อหรอก" ฉลามยกเสื้อขึ้นสะบัด จากนั้นก็ตากทำไปเรื่อยไปจนกระทั่งหมดตระกร้า ต่อให้พิมพ์รดาบ
"พิมพ์" ไพฑูรย์ปั่นจักรยานคู่ใจพร้อมกับถือถุงอาหารมาด้วย ก่อนจะจอดจักรยานไว้ข้างโอ่งแล้วผลุนผลันเดินไปที่แคร่ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาก็คงจะมาบ้านพิมพ์รดาทุกวัน เพราะบิดาของเธอชอบชวนเขาดื่มเหล้า พ่อพันเลิกเหล้าถาวร ไพฑูรย์ก็ไม่ค่อยได้มา"มีอะไร?""แม่ให้เอาลาบเทามาฝาก""หูยของชอบกูเลย""ชอบก็กินเยอะๆ""อื้อ กินด้วยกันนะ สันนี้ก็ลาบไก่บ้านกับผัดผัก""กูกินข้าวแล้ว""กินแล้วก็กินอีกได้""กินบ่อยเดี๋ยวก็อ้วน""อ้วนไม่เป็นไร อ้วนเป็นเพื่อนกู""อีห่า ใครจะอยากอ้วน""ไม่รู้แหละอย่าเพิ่งมาถกเถียงกันเรื่องอ้วนไม่อ้วน วันนี้มึงต้องอยู่กินข้าวกับกู รีบเข้าไปเอาถ้วยชามออกมาใส่ข้าวใส่อาหารช่วยกูได้แล้ว""หูยอิห่า ได้ทีรีบใช้กูเลยนะมึง""เออ รีบช่วยกูเลย""เออๆ" ฉลามรีบตามเข้าไป ผู้ชายที่มาหาพิมพ์รดากอดคอหยอกล้อ ชายหนุ่มข่มอารมณ์ไม่อยากจะเข้าไปกระชากไอ้บ้านั่น แล้วกระทืบให้จมดิน กล้าดีอย่างไรมากอดคอเมียของเขา'หรือจะเป็นพ่อของจันทร์ฉาย'ความคิดบางอย่างแว๊บเข้ามาในหัว ฉลามเม้มปากข่มความรู้สึก ต่อให้เป็นผัวใหม่เขาก็ไม่สน ในเมื่อเขาอยากได้เธอคืนเขาต้องได้"เดี๋ยวพี่ช่วยเอง พิมพ์ช่วยยกมันเรียงให้พี่หน่อยนะ
"เอ้าคุณ มานั่งทำอะไรอยู่ที่นี่" น้ำเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้น เป็นชายมีอายุสะพายอะไรสักอย่างอยู่ทางด้านหลัง ท่านถอดมันวางลงแล้วเดินไปล้างหน้าล้างตาที่โอ่งน้ำ ไม่ไกลจากที่เขากางเต็นท์"ผมมาหาพิมพ์รดาครับ" ชายเอ่ยตอบพร้อมกับทำหน้างงเล็กน้อย เขารู้จักชายคนนี้ดีว่าเป็นใคร เพราะข้อมูลที่ลูกน้องส่งมาให้"แล้วทำไมไม่เข้าบ้านล่ะ พิมพ์น่าจะอยู่ในบ้านกับเพื่อน""เอ่อ ... ผมกลัวเพื่อนพิมพ์จะไล่ตะเพิดออกมา""....." พันมองหน้าชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนจะเดินไปยกถังฉีดยาไปวางไว้อีกฝั่ง "เข้าไปกินข้าวกินปลาข้างในไหม?""ไม่เป็นไรครับ" เขาปฏิเสธ ตอนนี้ยังไม่อยากจะเข้าไป เข้าไปตอนนี้ก็โดนเตวิลไล่ตะเพิดออกมาน่ะสิ เขาไม่อยากเสี่ยงกับคนอารมณ์ร้ายอย่างเควิล รายนั่นถ้าได้โกรธเกลียดแล้ว อารมณ์ร้ายยิ่งกว่าอะไร ไม่เสี่ยงจะดีกว่า เขาจะรอเวลาให้เควิลกับปรรณพัชร์กลับไป เวลานั่นแหละ เขาจะรุกจนกว่าพิมพ์รดาจะยอมใจอ่อน"แล้วมากางเต็นท์อะไรข้างนอกล่ะ""ผมโดนเควิลตะเพิดออกมา""ทำไมเขาถึงทำแบบนั้นล่ะ""เพราะผมทำผิดต่อพิมพ์อย่างไม่น่าให้อภัย""...." พันนิ่งไปนานก่อนจะเพ่งมองหน้าของฉลาม มิน่าตอนที่เขาเจอถึงได้รู้สึกคุ้นหน้า ที่แท้ก