Share

บทที่ 2

last update Dernière mise à jour: 2025-04-13 16:37:51

ทิชานอนกระดิกเท้าอยู่บนโซฟาภายในอะพาร์ตเมนต์ห้องเล็กกะทัดรัด เปิดโทรทัศน์ฟังข่าวไปเรื่อยๆ ขณะมือน้อยก็ไล่ไถ่ดูสตอรีดารานางแบบในประเทศที่ตนติดตามเอาไว้ ทั้งซื้อรถบ้านหรู รีวิวรถแพง ไปกินร้านอาหารชั้นดี ก็ได้แต่อิจฉาตาวาวตามประสา โดยไม่ลืมกดบันทึกร้านเอาไว้ วาดฝันว่าสักวันหนึ่งก็อยากมีชีวิตสุขสบายอย่างคนอื่นบ้าง

แต่ด้วยเงินเดือนแสนน้อยนิด บวกกับปัญหาหนี้สินรัดตัวของทางบ้านก็ได้แต่ปลงตก แล้วเฝ้ามองชีวิตความเป็นอยู่ของคนอื่นด้วยความหวังริบหรี่ต่อไป

"หื้มมมม ไอ้ไข่ปลาคาเวียร์นี่มันรสชาติยังไงเนี่ย กินทีจะได้ขึ้นสวรรค์เลยไหม ทำไมถึงแพงมหาศาลขนาดนี้"

"ฮืออออ ตับห่านนี่เหมือนตับหมูไหมนะ สาธุ~ จ่ายหนี้ที่บ้านเสร็จทิชาจะเก็บเงินขอไปลองกินเป็นบุญปากสักครั้งเถอะ"

ร่างเล็กยกมือขึ้นพนมเหนือหัว สาบนสาบานด้วยท่าทางจริงจัง

ครืด ครืด

ในขณะที่หญิงสาวกำลังเพ้อฝันกับอาหารอร่อยๆ จากรูปภาพของคนอื่นอยู่นั้น โทรศัพท์ในมือก็ส่งเสียงร้องเรียกสติเธอกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง

"ฮัลโหล" เธอรับสายด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายเล็กน้อยเมื่อเห็นชื่อที่แสดงบนหน้าจอ

(ฮืออออ ไอ้ชา~)

"เฮ้ยๆ! เป็นอะไรกิ๊ฟ ร้องไห้ทำไม!" เธอสะดุ้งพรวดลุกขึ้นนั่งตกใจ เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ปานจะขาดใจลอยออกมาจากปลายสาย

(ฉันเลิกกับพี่โจ้แล้ว! ฮืออออ ฉันเสียใจ)

ทิชาถึงกับพ่นลมหายใจออกมา หัวใจที่แล่นขึ้นสูงลดกลับมาอยู่ตำแหน่งเดิม เนื่องจากเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ได้ยินจนชินชาไปเสียแล้ว ร่างเล็กทิ้งตัวนอนบนโซฟาตามเดิมอย่างเกียจคร้าน เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงปลงตก

"เดี๋ยวก็ดีกัน แกเลิกกันรอบที่ล้านแล้วไอ้กิ๊ฟ"

(ไม่โว้ย! รอบนี้ฉันจริงจัง ฉันทนผู้ชายแบบนั้นไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เขาใจร้ายกับฉันมากเลย)

"แล้วรอบนี้มันเรื่องอะไรอีก"

(ก็ฉันซื้อชุดมาใหม่ใช่ไหม แต่พอใส่ไปอวด พี่โจ้ดันพูดออกมาว่าฉันดูอ้วนขึ้น ให้ใส่เสื้อผ้าแบบอื่นดีกว่า)

"ถามจริง...เรื่องแค่นี้?" ทิชาขมวดคิ้วไม่เชื่อหูกับปัญหาเล็กน้อยที่เพื่อนรักเล่าให้ฟัง

(แกเป็นเพื่อนฉันนะโว้ย แกต้องซัปพอร์ตฉันสิ ยิ่งมันเป็นผัวกล้าพูดมาได้ไงว่าฉันอ้วนขึ้น! แม่ง! ใครจะไปสวยไปดีเท่าเมียเก่ามันล่ะ แน่จริงก็กลับไปหามันสิ)

กิ๊ฟเริ่มโวยวายเสียงดังด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ลากโยงเรื่องราวมั่วซั่ว เสียงสะอื้นดังคลอทำให้ทิชาแทบจับใจความไม่ได้

"เออใจเย็น เขาอาจจะเตือนด้วยความหวังดี หรือชุดจะไม่เหมาะกับแกจริงๆ ลองชั่งน้ำหนักดูยังล่ะ ถ้ามันไม่ขึ้นก็ไม่น่าห่วง"

(ฮืออออ แม่งขึ้นมาตั้งห้าโล! เพราะไอ้พี่โจ้คนเดียวเลย พาฉันตระเวนกิน พอแบบนี้มาบอกฉันอ้วน แม่งความผิดฉันที่ไหน! ไม่เอาแล้ว!)

ทิชาถึงกับกุมขมับ ก็ได้แต่ปลอบเพื่อนสาวให้ใจเย็นลง แต่ความโมโหของอีกฝ่ายก็ไม่ได้น้อยลงเลย กิ๊ฟยังยืนยันหนักแน่นคำเดิม ซึ่งทิชาก็มองว่าเธอคงแค่อยากประชดให้แฟนหนุ่มเอาใจเท่านั้น

(แก! แต่งตัวดิ๊ ฉันอยากเมา!) กิ๊ฟโพล่งขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำหญิงสาวที่กำลังนอนเกลือกกลิ้งสบายอารมณ์นิ่วหน้า

"ตอนนี้เนี่ยนะ มันจะสองทุ่มแล้ว"

(นะแก ขอร้อง ออกไปเป็นเพื่อนฉันหน่อย ฉันเฮิร์ต อยากเมาให้ลืมผู้ชายใจร้าย~)

"เฮ้ออออ แล้วฉันจะหมาอีกปะ"

(ไม่โว้ย ครั้งนี้ไม่เอาแล้วจริงๆ จะเดินหน้าหาผู้ชายใหม่ เอาคนที่น่ารัก เข้าใจ แล้วไม่พูดจาทำร้ายจิตใจกันแบบนี้ ฮืออออ)

เสียงสะอื้นร้องไห้ทำทิชาไม่มีทางเลือก สุดท้ายก็ต้องยอมตอบตกลงอีกฝ่ายไปแม้จะรู้บทสรุปของเรื่องราวดีอยู่แล้ว

"ก็ได้ๆ เลิกร้องได้แล้ว เดี๋ยวฉันไปแต่งตัวก่อนแล้วกัน"

(ขอบใจแกมากเลยนะชา แกคือเพื่อนรักที่สุดของฉัน เดี๋ยวฉันส่งชื่อร้านไปให้)

"ย่ะๆๆ แค่นี้แหละ"

ทิชาพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะลุกสะบัดไล่ตัวขี้เกียจออกจากร่าง อุตส่าห์จะใช้เวลาในวันศุกร์หลังเลิกงานพักผ่อนให้เต็มที่ ก็ต้องมีเรื่องให้ออกไปข้างนอกอีกแล้ว

เหตุผลที่ทิชายอมตอบรับคำชวนของเพื่อนก็ไม่ใช่อะไร เพราะทั้งคู่สนิทสนมกันมาตั้งแต่ช่วงมัธยม แม้มหาลัยจะเรียนกันคนละที่ แต่ยังติดต่อหากันเสมอ เมื่อเพื่อนต้องการตัว แม้ขี้เกียจขนาดไหนแต่ทิชาก็เต็มใจออกไปหา

สองชั่วโมงต่อมา

ผับดังใจกลางเมือง

ทิชาสวมเดรสสั้นสีขาวความยาวเหนือเข่าเล็กน้อย แขนตุ๊กตาพองๆ แม้จะไม่ได้โป๊วาบหวิวอะไรมาก แต่ก็ทำให้หญิงสาวดูน่ารักชวนมองไม่น้อย ผมสีน้ำตาลเข้มยาวถึงกลางหลัง บวกกับผมหน้าม้าช่วยทำให้ใบหน้าเธอดูจิ้มลิ้มน่าทะนุถนอมขึ้นอีกเท่าตัว

เธอก้าวลงจากแท็กซี่มองบรรยากาศภายนอกร้าน เห็นเหล่าหนุ่มสาวรุ่นราวคราวเดียวกันเดินเข้าเดินออกดูคึกคัก แถมขนาดเธออยู่นอกผับยังได้ยินเสียงเพลงดังกระหึ่มออกมาด้วยซ้ำ มีสายตาชายหนุ่มกลัดมันหลายคู่จ้องมองมาทางเธอ ทำให้หญิงสาวอดประหม่าไม่ได้ ยิ่งต้องมายืนบื้ออยู่คนเดียวอีก

มือน้อยล้วงเข้าไปในกระเป๋าถือควานหาโทรศัพท์ขึ้นมากดต่อสายหาเพื่อนตัวดี ซึ่งไม่นานอีกฝ่ายก็รับสายแล้วบอกให้เธอเข้าไปหาที่รอในร้านก่อน ทิชาจึงไม่มีทางเลือก ตีเนียนเดินไปกับกลุ่มวัยรุ่นผู้หญิงเพื่อเข้าไปรอด้านใน

หญิงสาวเลือกนั่งยังเคาน์เตอร์บาร์เครื่องดื่มแทนการไปยืนโดดเดี่ยวอยู่กลางร้าน รอเพื่อนสาวมาถึงก่อนค่อยตกลงกันอีกทีว่าจะย้ายที่หรือไม่

ผับแห่งนี้ถือเป็นผับใหม่ได้รับความสนใจจากนักท่องราตรีมากพอสมควร ภายในกว้างขวาง มีจัดโซนแยกกันเป็นสัดส่วน ทั้งโต๊ะเดี่ยวหน้าเวทีสำหรับกลุ่มวัยรุ่นที่อยากจะดื่มไปเต้นไป ด้านข้างชิดผนังมีโซนโซฟาให้นั่งสบายๆ เหมาะกับคนที่อยากสนุกแต่ก็ยังได้ความเป็นส่วนตัว หรือใครอยากจะปลีกวิเวกหน่อยก็สามารถนั่งตรงบาร์เครื่องดื่มได้

"รับอะไรดีครับ" เสียงของบาร์เทนเดอร์ทักขึ้น ทำให้ทิชาสะดุ้งเล็กน้อย

ชายหนุ่มหน้าใสสวมเครื่องแบบของทางร้านส่งยิ้มละมุนให้ แต่ก็ทำให้สาวน้อยผู้ไม่คุ้นชินกับผู้ชายแปลกหน้านั่งตัวเกร็ง อ้ำๆ อึ้งๆ อยู่สักพัก เพราะเธอเองก็ไม่ค่อยได้มาเที่ยวสถานบันเทิงเช่นนี้เท่าไร

"เอ่อ...สวัสดีครับ ลูกค้าสั่งเครื่องดื่มไหมครับ" เขาถามย้ำ ทำให้หญิงสาวได้สติ ส่งยิ้มเจื่อนแล้วตอบกลับเสียงเบา

"ขอเป็นน้ำส้มแล้วกันค่ะ"

"ครับ"

ทิชานั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ทรงสูงกวาดมองบรรยากาศสนุกสนานไปรอบร้าน เสียงเพลงและผู้คนแน่นขนัดแทบไม่เหลือพื้นที่หายใจ ต่างโยกย้ายไปตามจังหวะดนตรีสนุกสนาน แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกมีอารมณ์ร่วมแต่อย่างใด ยิ่งต้องมานั่งแกร่วตามลำพังด้วยแล้ว ยิ่งไม่รู้จะวางมือวางไม้ไว้ตรงไหนดี

สายตาก็เพียรมองหน้าจอโทรศัพท์เครื่องเก่า ลุ้นว่าเมื่อไหร่เพื่อนสาวจะโทรมาหาเสียที

เวลาดำเนินไปเรื่อยๆ จากสิบนาทีล่วงเลยจนเป็นครึ่งชั่วโมง สุดท้ายทิชาก็เป็นฝ่ายทนไม่ไหวต้องต่อสายหาเพื่อนรักแทน

หัวใจดวงน้อยเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ เมื่อรอสายอยู่นานก็ไม่มีคนรับ จนกระทั่งสายถูกตัดไป แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ กดโทรหาอีกครั้ง รออยู่สักพักในที่สุดกิ๊ฟก็รับสายของเธอ

"ไอ้กิ๊ฟ แกอยู่ไหนเนี่ย ฉันนั่งรออยู่ในร้านเป็นชาติแล้ว" มือเล็กยกขึ้นป้องมือถือ ได้โอกาสก็เปิดปากโวยวายขึ้นมาทันที เธอตะโกนแข่งกับเสียงเพลงในร้าน และพยายามเงี่ยหูฟังเสียงตอบจากปลายสาย

(ชา~ แก ฉันขอโทษ)

"หมายความว่ายังไง"

เพื่อนรักพูดเพียงแค่นี้ แต่คนที่รู้จักกันมานานก็รู้สึกได้ถึงลางร้ายกำลังย่างกรายเข้ามา

(ก็ไอ้พี่โจ้น่ะสิ มันมาดักรอฉันหน้าบ้าน ไม่ยอมให้ฉันออกไปหา)

"สรุปคือดีกันแล้วสินะ"

(ฮืออออ ชาอย่าโกรธ เขาเอาดอกไม้มาง้อ แถมจะพาไปเลี้ยงขนมร้านที่อยากไป ฉันเลยใจอ่อน)

"แกเนี่ยนะ~ ฉันมารอเกือบชั่วโมงสุดท้ายก็มาเบี้ยวกันนาทีสุดท้าย" ร่างเล็กพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ระบายความเซ็ง แต่ก็ไม่ได้นึกโกรธอะไรอีกฝ่าย แค่เคืองๆ เล็กน้อยถึงปานกลาง

(ขอโทษจริงๆ เดี๋ยวรอบหน้าเลี้ยงข้าวด้วย!)

"เออๆ เอาเถอะ ดีกันก็ดีแล้ว รอบหน้าอย่าลากฉันออกมานั่งโง่เป็นหมาอีกนะโว้ย"

(หมาที่ไหนนนน~ แกคือเพื่อนรักที่สุดของฉันเลยนะ!)

"ย่ะ! แค่นี้แหละ ฉันจะได้กลับบ้านนอนสักที"

(ถึงบ้านแล้วโทรบอกด้วยนะแก ขอโทษอีกทีที่ทำให้เสียเวลาไปด้วย)

ทั้งคู่ร่ำลากันอีกเล็กน้อยก็วางสายไป ทิชาจึงยื่นค่าเครื่องดื่มส่งให้บาร์เทนเดอร์ ด้วยที่ดื่มน้ำส้มไปสองแก้วติดและนั่งรออยู่เกือบชั่วโมง ท้องน้อยก็เริ่มปวดเบา ตั้งใจว่าจะแวะไปเข้าห้องน้ำก่อนแล้วค่อยออกไปเรียกรถกลับบ้าน

มือบางกระชับกระเป๋าสะพายบนไหล่แน่น เบียดเสียดกับกลุ่มคนที่กระโดดโลดเต้นตามจังหวะมันๆ ของดนตรี เพื่อฝ่าฟันให้ไปจนถึงประตูห้องน้ำที่สุดมุมร้าน แต่แล้วก็มีมือปริศนาฉุดแขนเธอเอาไว้ก่อน

"น้องงง~ น่ารักจังเลยครับ สนใจมานั่งกับพวกพี่ไหม"

"มะ...ไม่ค่ะ...ช่วยปล่อยมือด้วยค่ะ"

หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวด้วยความตกใจ พยายามบิดมือให้หลุดจากการจับกุม แต่อีกฝ่ายก็บีบแน่นขึ้นราวกับคีมเหล็กจนเธอรู้สึกเจ็บ ทิชาเริ่มหน้าซีด กวาดสายตามองชายหนุ่มสี่ห้าคนในโต๊ะที่ดูมึนเมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ด้วยความแตกตื่น

ขนในกายลุกซู่กับสายตาโลมเลียที่จ้องร่างเธออย่างจาบจ้วง พยายามมองซ้ายขวาเพื่อหาคนช่วย

"ไม่ต้องกลัวไปนะครับ พี่แค่อยากรู้จักน้องเฉยๆ เอง มาสนุกกับพวกพี่ดีกว่า"

"ขอร้องละค่ะ ปล่อยหนูเถอะ เพื่อนหนูรออยู่" ทิชาลนลานรีบแต่งเรื่องโกหกออกไป หวังว่าคำกล่าวอ้างจะทำให้ชายกลุ่มนี้ปล่อยเธอ แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อพวกเขาหน้าหนากว่านั้น

"อย่าพูดแบบนั้นเลยน่า พี่สนใจหนูนะ ขอเบอร์ให้พี่หน่อยสิครับ" ชายร่างสูงที่กุมมือเธอเลียริมฝีปากท่าทางหยาบโลนจนทิชาสะอิดสะเอียน อาการหวาดกลัวต่อเพศตรงข้ามกลับมาอีกครั้ง มือน้อยสั่นเทา หน้าแทบไร้สีเลือดเม็ดเหงื่อผุดขึ้นตามไรผม

"ขอโทษค่ะ หนูให้ไม่ได้ ปล่อยหนูเถอะพี่อย่าทำแบบนี้"

ขอบตาเธอร้อนผ่าวด้วยความกลัว คนอื่นในร้านต่างก็กำลังสนุกสนานอยู่กับดนตรีและฤทธิ์แอลกอฮอล์ แถมในร้านยังมืดสลัวทำให้ไม่มีใครให้ความสนใจหญิงสาวผู้กำลังตกที่นั่งลำบากสักคน

"โอ๋ๆๆๆ ไม่ร้องนะครับ เอางี้ ถ้าน้องยอมดื่มเหล้ากับพี่แก้วหนึ่ง พวกพี่จะปล่อยไป ดีไหมเอ่ย"

ชายอีกคนโผล่หน้ามาช่วยต่อรอง พร้อมยื่นแก้วเหล้าสีอำพันมาทางเธอ ร่างเล็กมองแก้วตรงหน้าสลับกับใบหน้าหื่นกระหายของคนบนโต๊ะด้วยความลังเล

"แค่ดื่มใช่ไหม แล้วจะปล่อยหนูไป" เธอถามย้ำเสียงสั่น

"ใช่ สัญญาเลยครับ...เอ๊ย ไอ้โอใจเย็น ปล่อยมือน้องเขาก่อน ดูสิกลัวตัวสั่นหมดแล้ว"

ชายคนนั้นหันไปบอกเพื่อน แต่ทุกคนในโต๊ะกลับหัวเราะกันสนุกสนานไม่ได้มีความรู้สึกผิดแม้แต่น้อย พอมือบางเป็นอิสระทิชาก็ค่อยหายใจหายคอได้คล่องขึ้นเล็กน้อย ชายคนเดิมแสยะยิ้มกว้างด้วยท่าทางเป็นมิตรเกินเหตุพร้อมส่งแก้วเหล้ามาให้เธอ แถมส่งสายตากดดันให้เธอยอมรับมันไปดื่ม

ด้วยเพราะใจอยากจะออกไปให้พ้นจากสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้เต็มทน ทำให้สุดท้ายทิชาตัดสินใจเอื้อมมือไปรับแก้ว แล้วยกกระดกดื่มจนหมดภายในรวดเดียว เพื่อจบปัญหาให้พวกเขาเลิกตอแยกับเธอเสียที ก่อนจะรีบส่งแก้วคืนพวกเขาไป

ยังดีที่กลุ่มชายดังกล่าวไม่ได้เซ้าซี้หรือหาเรื่องรั้งตัวเธอต่อ จึงรีบก้าวฉับๆ ตรงไปทางห้องน้ำ ก่อนจะนั่งตั้งสติอยู่บนโถชักโครก หัวใจที่สั่นระรัวเริ่มกลับมาเป็นปกติ พยายามสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ แล้วเรื่องน่ากลุ้มใจต่อมาก็ผุดเข้ามาในหัว ว่าเธอจะออกจากห้องน้ำอย่างไรไม่ให้ต้องเผชิญหน้ากับชายกลุ่มนั้นอีก!
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • one secret ดีลแลกรัก   บทที่ 135

    "อื้ออออ~"หญิงสาวเม้มปากแน่นครางลึกในลำคอกับความสุขสมที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง ร่องเล็กกระตุกถี่ๆ พร้อมน้ำใสพรั่งพรูออกมาจนเลอะเตียงไทเปกระตุกยิ้มร้ายในความมืด ก่อนจะโน้มใบหน้าหล่อเหลามีเสน่ห์ดึงดูดมหาศาลเข้าใกล้ พร้อมจุมพิตอ่อนโยนบนหน้าผากเนียนใสของเธอ"เสียวดีไหมครับเมียจ๋า""อึก...เสียวมากค่ะ..." ร่

  • one secret ดีลแลกรัก   บทที่ 134

    "ลูกน้องคุณวิคเตอร์น่ะเหรอคะ""อื้อ...ผมเจอมันบ่อยเวลาไปแข่ง ไม่รู้ไปคุยกันยังไงมันถึงได้แนะนำว่าเพื่อนเจ้านายมันกำลังรับสมัครลูกน้อง ผมดูหน่วยก้านดีหัวไว น่าจะลองไปสมัครดู ทำเงินได้เยอะกว่าอยู่กับพวกเสี่ยปล่อยเงินกู้ เลยลองไปตามคำแนะนำ บอกเลยตอนนั้นก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก...แต่นั่นเหมือนเป็นจุดเปลี่

  • one secret ดีลแลกรัก   บทที่ 133

    ห้องนอนเก่ากะทัดรัดของทิชาเรียบง่ายแบบมากๆ มีเพียงฟูกวางบนพื้นเลย แล้วก็มีตู้เสื้อผ้าหลังเก่า กับโต๊ะกระจกตั้งพื้นเอาไว้นั่งแต่งตัวแต่งหน้า แค่นี้ก็แทบจะไม่เหลือช่องวางให้เดินไปมาเท่าไร หลังจากมารดามาช่วยเก็บข้าวเก็บของในห้องดูสะอาดสะอ้านไม่ขายหน้าแฟนหนุ่มแล้ว ร่างเล็กนอนกลิ้งบนฟูกด้วยท่าทางกระสับกร

  • one secret ดีลแลกรัก   บทที่ 132

    "คะ...คือ...รถพี่ชายเท่มากเลยครับ พี่สอนผมขับได้ไหม""ไอ้ทาม!" ทิชาที่นั่งข้างแฟนหนุ่มขัดขึ้นทันที รู้สึกขายหน้าเหลือเกินที่น้องชายทำตัวแบบนี้"ไม่เป็นไร" ไทเปหันไปตบหลังมือแฟนสาวให้ใจเย็น แล้วหันไปตอบเด็กหนุ่มที่ตอนนี้หน้าเจื่อนลงไปแล้วหลังจากถูกสายตาตำหนิของบิดามารดาจ้องเขม็ง "ถ้าอยากลองตอนนี้ พี่

  • one secret ดีลแลกรัก   บทที่ 131

    "มะ...แม่คะ...นี่คุณไทเปค่ะ แฟนหนูเอง""สวัสดีครับ" ชายหนุ่มยกมือขึ้นไหว้อย่างสุภาพใบหน้าหล่อเหลาและความนอบน้อมเรียกคะแนนจากหญิงวัยกลางคนได้มากทีเดียว แม้ตอนแรกเธอจะตกตะลึงเช่นกันที่ลูกสาวพาแฟนมาให้รู้จัก แต่เห็นท่าทางลูกสาวมีความสุขเธอก็สบายใจไม่ได้นึกหวงอะไรมาก"ไหว้พระเถอะลูก ไปๆ เดินทางกันมาเหน

  • one secret ดีลแลกรัก   บทที่ 130

    "ไม่ต้องห่วงครับ ไอ้ตะวันมันรักสัตว์"ครืด ครืด ครืดสิ้นคำพูดเสียงโทรศัพท์ของไทเปก็แผดเสียงร้องไม่หยุด เขาพ่นลมหายใจออกมาเมื่อเห็นชื่อของตะวันโทรเข้ามา แต่ก็ยอมตัดสินใจกดรับสาย"ฮะ..."(ไอ้เหี้ยไทเป! มึงแม่งมารับลูกสาวมึงกลับไปเลยนะ มันจะแดกหัวกูแล้ว!)ยังไม่ทันเอ่ยจบประโยคน้ำเสียงฉุนเฉียวของอีกฝ่า

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status