Home / โรแมนติก / one secret ดีลแลกรัก / บทที่ 8 เจอหน้าอีกครั้ง

Share

บทที่ 8 เจอหน้าอีกครั้ง

last update Last Updated: 2025-04-13 16:39:47

วันต่อมา

หญิงสาวสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวคู่กับกระโปรงทรงเอสีน้ำเงินเอวสูงยาวเหนือเข่าเล็กน้อย ดูเรียบร้อยเป็นทางการ เธอยืนชะเง้อคอมองไปรอบๆ อยู่บริเวณหน้าบริษัท สลับกับก้มดูนาฬิกาเรือนเก่าไม่ได้มีราคาอะไร เมื่อเห็นว่าใกล้ถึงเวลานัดหมายแล้ว แต่ลูกค้าคนสำคัญก็ยังเดินทางมาไม่ถึง

ครืด ครืด

โทรศัพท์ในมือส่งเสียงดังขึ้น เธอมองเบอร์ที่ปรากฏก่อนจะรับสายด้วยน้ำเสียงสดใสร่าเริง

"สวัสดีค่ะคุณไทเป"

"ครับ...ผมกำลังจะเลี้ยวเข้าบริษัทแล้ว ไม่ทราบว่าจอดรถตรงไหนได้บ้างครับ"

"คุณไทเปสามารถจอดด้านหน้าได้เลยค่ะ...ใช่รถคันสีดำที่เลี้ยวเข้ามาหรือเปล่าคะ" เธอยิ้มไปด้วยขณะร้องถามออกไป เมื่อเห็นรถคันหนึ่งเลี้ยวเข้ามาในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ก็แอบขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะรู้สึกคุ้นตารถคันดังกล่าวแปลกๆ แต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยเห็นจากไหน

"ใช่ครับ"

"คุณไทเปขับเลยประตูหน้าบริษัทไปเล็กน้อยนะคะ จะมีที่จอดรถสำหรับลูกค้าเข้ามาติดต่ออยู่ค่ะ ตอนนี้ทิชายืนรอด้านหน้าแล้วค่ะ"

"โอเคครับ"

อีกฝ่ายรับคำแล้วกดวางสายไป สักครู่รถสปอร์ตสีดำท่าทางราคาแพงคันนั้นก็ขับผ่านทิชาไปยังจุดจอดรถ

หญิงสาวก้มสำรวจการแต่งกายตัวเองอีกครั้งเพื่อความเรียบร้อย ก่อนจะปั้นหน้าเป็นมิตรแล้วรีบเดินไปต้อนรับลูกค้าคนสำคัญของบริษัทด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง

รถสีดำถอยเข้าซองจอดรถเรียบร้อย ซึ่งพนักงานสาวคนขยันก็ยืนรออยู่ด้านหลังตรงฟุตพาท เครื่องยนต์เงียบลงไม่นานประตูบานสวิงก็ถูกเปิดออกมา

เธอฉีกยิ้มกว้างทักทาย ก่อนจะหน้าซีดใจร่วงไปตกลงแทบเท้าเมื่อได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาดุดันของอีกฝ่ายชัดๆ

หัวใจราวกับหยุดเต้นไปชั่วขณะ ริมฝีปากอ้าค้าง คำพูดที่เตรียมมาไม่อาจหลุดออกมาสักคำ มือไม้ที่กำลังจะยกขึ้นไหว้ชะงักกลางอากาศ มือไม้เย็นเฉียบสั่นเล็กน้อยด้วยความตื่นตระหนก

ภาพในค่ำคืนน่าอับอายที่อยากฝังกลบให้มิดเมื่อสองเดือนก่อนวิ่งเข้ามาในหัวสมองอีกครั้ง พวงแก้มเริ่มเห่อร้อนแดงก่ำราวกับลูกมะเขือเทศ เมื่อคิดถึงยามใบหน้านั้นเข้ามาคลอเคลียลอยอยู่เหนือร่าง ขณะหอบกระเส่าครวญครางด้วยความสุขสม

ฆ่าเธอให้ตายตรงนี้เถอะ! เพราะเขาคือคนเดียวกับชายแปลกหน้าที่พรากพรหมจรรย์เธออย่างดิบเถื่อน!

ทิชารีบก้มหน้าหลบสายตาอีกฝ่ายเมื่อเห็นเขาขมวดคิ้วจ้องกลับ พยายามให้ม่านเส้นผมยาวสลวยของตนเองบดบังสายตาคมกริบคู่นั้น หัวใจในโพรงอกค้างซ้ายบีบรัดหนักหน่วงด้วยความแตกตื่น เผลอขบเม้มริมฝีปากเข้าหากันครุ่นคิดหาทางรอดออกไปจากสถานการณ์นี้อย่างไร

"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ..." เสียงทุ้มของคนตัวสูงเอ่ยถามขึ้นมาเมื่อเห็นอาการเลิ่กลั่กของหญิงสาวตรงหน้า

คำพูดนั้นทำให้ทิชาได้สติ แอบคิดในแง่ดีว่าเขาอาจจะจำเธอไม่ได้ เพราะเรื่องราวก็ผ่านมานานแล้ว จึงรีบส่งยิ้มเจื่อนกลบเกลื่อน แต่ก็ยังไม่กล้าเงยหน้ามาพูดคุยกับอีกฝ่ายตรงๆ อยู่ดี

"มะ...มะ...ไม่ค่ะ...มะ...ไม่ได้เป็นอะไร...เอ่อ...ชะ...เชิญคุณไทเปทางนี้"

คนตัวเล็กห่อไหล่เบี่ยงหน้าหลบไปอีกทาง ก้มหน้าเอาไว้ตลอด หวังใช้เรือนผมปิดบังใบหน้าบางส่วน พลางผายมือออกไปยังหน้าบริษัท แต่น้ำเสียงที่หลุดออกมากลับดูสั่นเครือ ตะกุกตะกักแทบฟังไม่ได้ศัพท์ จึงโคตรจะดูผิดปกติและไม่เป็นธรรมชาติเอาเสียเลย

"ครับ" เขาตอบกลับนิ่งๆ อย่างสุภาพ อีกฝ่ายไม่ได้แสดงอาการบ่งบอกแม้แต่น้อยว่าจำเธอได้ หัวใจที่แล่นสูงขึ้นมาแทบติดคอหอยจึงค่อยคลายลงช้าๆ แต่ก็ยังระแวดระวังสุดขีดอยู่ดี

เธอผงกหัวให้เขาอีกครั้ง แล้วรีบก้าวเดินนำทาง แต่มันก็ช่างดูยากลำบากเหลือเกินเมื่อตอนนี้เธอลนลานไปหมด แขนขาสั่นระริกเหมือนจะหมดแรงลงได้ทุกวินาที

จู่ๆ ขนในกายก็ลุกวาบขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ รู้สึกเหมือนถูกสายตาร้อนแรงของชายหนุ่มที่เดินตามหลังมาจ้องเขม็งจนหลังเธอแทบไหม้ แต่ใจที่ปอดแหกก็ไม่กล้าหันกลับดูให้แน่ใจ รีบก้าวยาวๆ ผ่านโถงตึกเพื่อตรงไปยังลิฟต์

ด้วยความรีบร้อนบวกกับอาการประหม่าแบบสุดขีดทำให้อวัยวะในร่างกายไม่ค่อยยอมขยับตามคำสั่ง หัวใจเธอกระตุกวาบเมื่อสะดุดเข้ากับขาตัวเองที่พยายามรีบเร่งเดินจนหน้าเกือบทิ่ม

หมับ!

ทิชาตาเบิกโตหัวใจกระหน่ำเต้นรัว หอบถี่หนักๆ ด้วยความตกใจ เพราะในขณะที่กำลังจะหน้าวัดพื้นหินอ่อนของบริษัท ต้นแขนก็ถูกคว้าเอาไว้ได้ทัน แล้วดึงร่างเธอไปแนบกับแผงอกกว้างมั่นคงดูปลอดภัย ร่างกำยำแน่นหนั่นเต็มไปด้วยมัดกล้ามโอบซ้อนอยู่เบื้องหลัง จนทิชาสามารถสัมผัสได้ถึงความแข็งแรงของเจ้าของ

ตึก ตึก ตึก

"เดินดีๆ ด้วยครับ" เขาเอ่ยเสียงทุ้ม แต่ท่าทางของทั้งสองในตอนนี้มันใกล้ชิดกันเหลือเกิน ลมหายใจร้อนผ่าวอยู่เหนือศีรษะไม่ไกล ส่งผลต่อจังหวะชีพจรและอุณหภูมิในร่างกายคนตัวเล็กเหลือเกิน

"ขะ...ขอบคุณค่ะ" เสียงตะกุกตะกักเอ่ยขึ้น ยังคงหน้าเหวอกับอุบัติเหตุเมื่อครู่ไม่หาย แต่เมื่อไทเปเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว เขาก็ยอมปล่อยร่างเล็กเป็นอิสระ แล้วก้าวถอยหลังออกไปเล็กน้อยเพื่อรักษาระยะห่างอย่างเป็นสุภาพบุรุษ

"...ไม่เดินต่อเหรอครับ นี่ใกล้เวลานัดแล้ว"

"คะ...ค่ะ...ปะ...ไปค่ะ"

ทิชาลนลานแทบทำอะไรไม่ถูก ตอนนี้เธออับอายแทบอยากเอาหน้ามุดแผ่นดินหนี ที่ดันทำเรื่องน่าขายหน้าให้เขาเห็นอีกจนได้ เธอก้มหน้าแทบจะตลอดเวลา เรียวนิ้วสั่นจิ้มไปยังตัวเลขชั้นที่ต้องการ ไม่นานประตูเหล็กก็ปิดลง

ลิฟต์เคลื่อนตัวขึ้นด้านบน แต่ทิชารู้สึกว่าระยะจากชั้นหนึ่งไปสู่ชั้นสี่มันช่างยาวนานนับปี บรรยากาศภายในมันอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก หัวใจเธอยังคงสั่นรัว ยืนเบียดกายแทบจะสิงเข้าไปกับแผงควบคุม

"คุณทิชา"

"คะ!" เธอสะดุ้งวาบยืนหลังตรงทันตาราวกับคนมีความผิดติดตัว เมื่อจู่ๆ ชายหนุ่มผู้เงียบขรึมก็เรียกชื่อเธอขึ้นมากะทันหัน

"คุณกลัวอะไรผมเหรอครับ"

"มะ...ไม่ค่ะ...มะ...ไม่ได้กลัวอะไรคุณไทเปเลยค่ะ"

ทิชาตอบกลับทั้งที่ศีรษะแทบจะติดกับผนังลิฟต์ ไม่ยอมหันมาสบตาคู่สนทนา ยิ่งทำให้ดูมีพิรุธขึ้นเป็นอีกเท่าตัว

"งั้นเหรอครับ..."

เสียงทุ้มเซ็กซี่ตอบกลับมา เขาเริ่มหย่อนน้ำหนักไปยังขาอีกข้างในท่าทางที่ดูผ่อนคลายขึ้น สองมือสอดล้วงกระเป๋ากางเกง ก่อนจะเอ่ยถามต่อ

"ไม่งั้นทำไมคุณไม่หันมามองหน้าผมเลยครับ...ไม่รู้เหรอว่าแบบนี้มันเสียมารยาทกับลูกค้ามาก"

ทิชาหลับตาปี๋กับคำตำหนิแบบอ้อมๆ ของชายหนุ่ม เร่งสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอดเพื่อรวบรวมความกล้า ก่อนจะใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเส้นผมที่ปรกปิดบังใบหน้าจิ้มลิ้มราวกับยัยเพิ้งไปทัดหู แล้วหันไปฉีกยิ้มหวานให้จนตาหยีด้วยท่าทางที่สดใสเกินปกติ เพื่อย้ำว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรแม้แต่น้อย

"ไม่ค่ะ ทิชาโอเคทุ้กอย่าง ขออภัยด้วยนะคะที่ทำให้คุณไทเปรู้สึกไม่ดี"

"หึ...ถ้าแบบนั้นก็ดีแล้วครับ เพราะเรายังต้องร่วมงานกันอีกสักพักใหญ่เลย"

"ค่ะ!"

เธอฝืนยิ้มตอบกลับท่าทางนอบน้อมแต่หนักแน่น ทั้งที่ภายในหวั่นวิตกสุดขีด เหงื่อเม็ดเย็นผุดขึ้นตามไรผมราวกับอุณหภูมิภายในตู้สี่เหลี่ยมนี้มันสูงกว่าปกติ

ติ๊ง~

ราวกับเสียงสัญญาณช่วยชีวิตเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกยังชั้นเป้าหมาย ทิชาค่อยพอหายใจหายคอได้โล่งขึ้นอีกหน่อย หันไปฝืนส่งยิ้มจนดวงตาคู่กลมสวยหรี่เล็ก พลางผายมือออก

"เชิญค่ะ"

"..."

ไทเปไม่ได้ตอบกลับมา เพียงเดินตามหญิงสาวออกไปตามทางเดิน จนทั้งคู่มาถึงห้องประชุมที่ล้อมด้วยกระจกสีขุ่นครึ่งบาน ทำให้คนด้านนอกด้านในพอมองเห็นกันได้บ้าง แต่ก็ยังคงได้ความเป็นส่วนตัวอยู่เช่นกัน

เธอเปิดประตูให้เขาพร้อมแนะนำทีมงานฝ่ายต่างๆ ที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้

ร่างสูงกระชับเสื้อสูทสีดำ แล้วเดินไปนั่งยังหัวโต๊ะ ท่าทางสง่าผ่าเผยไม่ต่างจากเจ้าของบริษัทมาเอง ท่าทางเรียบเฉยสุขุมทำให้คนอื่นภายในห้องแอบเกร็งขึ้นมา แต่คนที่แทบจะไม่มีสติฟังการประชุมเลยคงหนีไม่พ้นทิชา

สาวหวานเลือกนั่งห่างจากไทเปให้ไกลที่สุด ก้มหน้าก้มตาจดข้อมูลความต้องการเพิ่มเติมของลูกค้าลงในสมุด แทบไม่มีปากมีเสียงปล่อยให้แต่ละฝ่ายอธิบายหน้าที่การทำงานตัวเองไป แต่ก็ยังไม่วายแอบขนลุกเมื่อสายตาร้อนรุ่มคู่นั้นตวัดมองเธอเป็นระยะ

ไม่รู้ว่าเพราะมีความผิดติดตัวจนร้อนรนไปเองหรือเปล่า ถึงได้รู้สึกว่าตนเองถูกจับจ้องบ่อยกว่าปกติ

ได้แต่สวดภาวนาขอความเมตตาต่อสวรรค์อยู่ในใจ ขอให้เขาจำเธอไม่ได้ และลืมเรื่องทุเรศของเธอในคืนนั้นไปให้หมด

"เจ้านายผมอยากได้ภาพมุมสูง ถ่ายวิวจากด้านบนให้มองเห็นท่าเรือทั้งหมดของเรา และการจัดระเบียบสินค้าที่ดูเป็นระบบได้มาตรฐาน...นอกจากนั้นก็อยากได้วิดีโอการขนส่งที่ครอบคลุมทั้งทางเครื่องบิน เรือ และรถ" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นขณะเจ้าตัวยกมือขึ้นประสานบนโต๊ะ ดูหล่อ เท่ สมาร์ตจนสาวคนอื่นในการประชุมเผลอยิ้มด้วยความเคลิบเคลิ้ม

"ได้เลยครับคุณไทเป ทางเรามีโดรนและอุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายทำโฆษณาที่ดีที่สุด คาดว่าจะได้ภาพสวยถูกใจแน่นอนครับ"

"ส่วนวิดีโอที่จะไปทำการตลาด ตามสตอรีบอร์ดที่พวกคุณส่งมาให้ดู ผมได้มีคอมเมนต์กลับไปแล้ว ไม่ทราบว่าคุณทิชาได้แจ้งหรือยัง"

พอได้ยินชื่อตัวเองในบทสนทนา ร่างเล็กก็กระเด้งขึ้นมานั่งหลังตรง แล้วรีบอธิบายเพิ่มต่อทันที พยายามมองเมินสายตาวิบวับของหนุ่มหัวโต๊ะ แล้วกลับมามีสติกับหน้าที่ตรงหน้า

"ในจุดที่ปรับแก้ อยากให้ทางทีมครีเอทีฟช่วยสร้างสรรค์ให้ดูน่าสนใจและดูเป็นทางการมากกว่าเดิม ถ้าอยากได้ฟุตเทจระบบการทำงานภายในบริษัทเพิ่มเติมก็สามารถเสนอได้เลย ส่วนระยะเวลาของวิดีโอสั้นที่จะใส่บนเว็บไซต์ขอไม่ให้เกินสองนาที เพื่อไม่ให้ดูน่าเบื่อ ส่วนวิดีโอพรีเซนต์ไม่อยากให้เกินหกนาที แต่ต้องมีข้อมูลทุกอย่างครบถ้วน...ทั้งหมดนี้ ทิชาได้มีการส่งเมลกลับไปให้แต่ละฝ่ายแล้วค่ะ"

ท่าทางกระฉับกระเฉงดูเป็นการเป็นงานขึ้นมาทำให้สายตาหนุ่มที่นั่งหัวโต๊ะอ่อนลง เอนพิงเก้าอี้ตัวใหญ่ท่าทางผ่อนคลายขึ้น

นึกพอใจกับการทำงานที่ดูเป็นมืออาชีพของทุกคน

การประชุมดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น เมื่อลูกค้ามีจุดประสงค์ชัดเจน แต่ละฝ่ายก็สามารถปรับแก้ไขได้รวดเร็ว จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาเกือบสองชั่วโมง หลังจากสรุปนัดหมายส่งแผนการทำงานเรียบร้อยไทเปก็ขอตัวกลับก่อน

และก็ต้องเป็นหน้าที่ของทิชา AE คนสวยต้องไปส่งลูกค้ากลับ

ทั้งที่การประชุมในวันนี้แทบไร้ข้อติดขัด แต่อะไรบางอย่างกลับทำให้หญิงสาวรู้สึกหมดเรี่ยวแรงเหนื่อยล้ากว่าปกติ ยิ่งต้องมาปั้นหน้าใสซื่อไม่รู้เรื่องรู้ราว ตอบคำถามของชายหนุ่มที่ช่วงชิงพรหมจรรย์เธอเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันช่างสิ้นเปลืองพลังงานขึ้นอีกหลายเท่า

เธอก้มหน้าต่ำ ก้าวตามท่อนขายาวๆ ของลูกค้าสุดหล่อออกไปด้านนอกยังจุดจอดรถ ตลอดทางทั้งคู่ไม่ได้พูดคุยอะไรกันสักคำ นับว่าเป็นโชคดีเพราะทิชาคงได้หลุดแสดงอาการเลิ่กลั่กออกไป จนเขาสงสัยแน่ แต่โชคก็ไม่อยู่กับสาวน้อยดวงกุดนานนัก

เพราะในขณะที่กำลังจะได้โล่งใจเมื่อเห็นชายหนุ่มเปิดประตูรถหรูเตรียมจะก้าวขึ้น แต่แล้วเขาก็ชะงักหันกลับมามองเธอด้วยสายตายากจะอธิบาย ทำร่างน้อยเกร็งเครียดขึ้นมาอย่างระแวดระวัง

"คุณทิชา..."

"คะ!"

"เบอร์คุณแอดไลน์ได้เลยใช่ไหม ผมจะได้เมมเอาไว้...คิดว่าจะสะดวกกว่าเวลาคอมเมนต์งานกลับไป"

"มันก็ใช่ค่ะ...แต่ทิชาว่าส่งเมลมาจะสะดวกกลับทุกฝ่ายมากกว่านะคะ"

คนตัวเล็กพยายามบ่ายเบี่ยงตอบเสียงแผ่วเบา ความตั้งใจเดิมคือจะออกห่างไทเปให้มากที่สุด ก่อนที่เรื่องราวไม่น่าจดจำจะถูกขุดขึ้นมา แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่คิดเช่นเดียวกัน

"เอาเป็นว่าผมจะแอดไปก็แล้วกัน...ขอบคุณสำหรับวันนี้ครับ งานดูคืบหน้าไปมากทีเดียว"

"เอ่อ...ค่ะ ยินดีค่ะ"

คิ้วบางขมวดแทบชนกันเมื่อเขาเหมือนจะไม่ฟังคำปฏิเสธเมื่อครู่ แล้วเปลี่ยนเรื่องไปก่อน แต่เธอก็ต้องตอบกลับพร้อมก้มโค้งตัวให้อีกฝ่ายเล็กน้อยตามมารยาท จึงไม่ทันเห็นรอยยิ้มขบขันบนมุมปากหนุ่มเคร่งขรึมให้กับท่าทางลุกลี้ลุกลนของเธอ

ไทเปหมุนตัวกลับแล้วก้าวขึ้นรถขับออกไป ทิ้งให้สาวน้อยยืนทึ้งหัวตัวเองตามลำพัง

"เฮ้ออออ~ ชีวิตอีทิชานี่มันซวยซ้ำซวยซ้อนไปถึงไหนวะเนี่ย!"

ทิชาร้องโวยวายออกมาระบายความตึงเครียดที่เผชิญมาทั้งวันเมื่อได้อยู่คนเดียว มือน้อยขยี้ขยุ้มเส้นผมสีน้ำตาลเข้มจนยุ่งฟู แต่ก็ไม่อาจช่วยบรรเทาความหวั่นวิตกได้เลย

"โอ๊ย~ ทำไมโลกถึงได้กลมขนาดนี้ นี่เจ้ากรรมนายเวรจะเกลียดอะไรทิชานักหนาคะ!"

"เย็นนี้หนูจะรีบไปทำบุญให้เลยค่า แต่ช่วยปล่อยหนูไปทีเถิดดดด~"

มือน้อยยกขึ้นพนมขึ้นพ้นศีรษะ พึมพำบนบานออกมาเพียงคนเดียวราวกับคนเสียสติ จนยามที่ยืนเฝ้าหน้าตึกหันมามองท่าทางตลกๆ นั้นด้วยความมึนงง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • one secret ดีลแลกรัก   ตอนพิเศษ 7 อดีตของไทเปและอนาคตของทั้งคู่ (จบ)

    ห้องนอนเก่ากะทัดรัดของทิชาเรียบง่ายแบบมากๆ มีเพียงฟูกวางบนพื้นเลย แล้วก็มีตู้เสื้อผ้าหลังเก่า กับโต๊ะกระจกตั้งพื้นเอาไว้นั่งแต่งตัวแต่งหน้า แค่นี้ก็แทบจะไม่เหลือช่องวางให้เดินไปมาเท่าไร หลังจากมารดามาช่วยเก็บข้าวเก็บของในห้องดูสะอาดสะอ้านไม่ขายหน้าแฟนหนุ่มแล้ว ร่างเล็กนอนกลิ้งบนฟูกด้วยท่าทางกระสับกระส่ายเล็กน้อยประตูไม้ถูกเปิดเข้ามา เสียงเอี๊ยดอ๊าดทำให้คนบนเตียงรีบกระเด้งขึ้นมานั่งคุกเข่าลุกลี้ลุกลน ดวงตากลมสวยวาวระยับเผลอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เมื่อไทเปปรากฏตัวด้วยผ้าขาวม้าผืนบางห่อหุ้มส่วนล่างเอาไว้ ท่อนบนเปลือยเปล่า บนไหล่กว้างยังมีผ้าเช็ดตัวผืนเล็กพาดไว้"จ้องอะไรครับเด็กหื่น" ร่างสูงกระตุกยิ้มถามเมื่อแฟนสาวจ้องซิกซ์แพ็กเขาตาแทบถลนทิชาสะดุ้งตัวเล็กน้อยเมื่อถูกจับได้ แล้วรีบเบือนหน้าหนี แม้จะเคยเห็นแฟนหนุ่มเปลือยกายมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ใจบอบบางเธอก็ตื่นเต้นทุกทีกับความเซ็กซี่ร้อนแรงปรอทแทบพังของเขา"คุณไทเปอ่า ทำไมเดินโทงเทงในสภาพแบบนี้กลางบ้านทิชาเล่า" เจ้าของบ้านหน้ามุ่ยตำหนิอย่างไม่จริงจัง"ก็กระเป๋าเสื้อผ้าผมอยู่ในห้องนี่ครับ หนูนั่นแหละลืมหยิบไปให้"ทิชาทำปากยื่นแต่ก็ไม่ได้เถี

  • one secret ดีลแลกรัก   ตอนพิเศษ 6 เปิดตัวแฟนและการสู่ขอ

    เพนต์เฮาส์โอนิกซ์ร่างสูงโปร่งของมือขวาคนสนิทโอนิกซ์ก้าวเข้ามายังอาคารที่พักอาศัยของเหล่าลูกน้องมาเฟีย เนื่องจากเจ้านายเขารักความเป็นส่วนตัวมาก จึงได้ซื้อคอนโดใหญ่สูงแปดชั้นเอาไว้ทั้งตึกแล้วทำการรีโนเวตปรับแต่งให้เหมาะกับรองรับลูกน้องชายฉกรรจ์เกือบร้อย ภายในมีส่วนกลาง สวนหย่อม ฟิตเนส สระว่ายน้ำ โรงอาหาร ครบครันไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกไม่ต่างจากคอนโดหรูทั่วไป ถือว่าเป็นสวัสดิการให้ลูกน้องทุกคน ส่วนชั้นบนสุดของตึกโอนิกซ์เลือกมันเป็นที่พักอาศัยส่วนตัว และทำการดัดแปลงทั้งชั้นเป็นเพนต์เฮาส์ขนาดใหญ่หากเป็นยามปกติไทเปจะเดินเข้าเดินออกก็ไม่ใช่เรื่องแปลก จะมีลูกน้องทักทายเป็นระยะ แต่วันนี้ทุกสายตาของเหล่าชายฉกรรจ์หน้าโหดต่างพุ่งมองมาที่คนสนิทเจ้านายเป็นตาเดียว ขมวดคิ้วหรี่มองข้าวของพะรุงพะรังเต็มวงแขนของเขาด้วยความสับสนงงงวย แต่เพราะไทเปถือเป็นระดับหัวหน้าทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าไปไถ่ถามความผิดปกตินี้ชายหนุ่มเดินมุ่งตรงไปยังลิฟต์ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากพยายามยื่นมือไปสแกนนิ้วและกดรหัสด้วยท่าทางทุลักทุเล ประตูลิฟต์ก็เปิดออก ท่อนขายาวไม่รอช้าที่จะก้าวเข้าไป กดหมายเลขชั้นเป้าหมายประตูลิ

  • one secret ดีลแลกรัก   ตอนพิเศษ 5 เบื่อเลี้ยงแมว มาเลี้ยงลูกไหม?

    วันเสาร์ในที่สุดทิชากับไทเปก็มีวันหยุดที่ตรงกันสักที และเนื่องจากของใช้หลายอย่างสำหรับลูกสาวตัวสีส้มที่กำลังโตเป็นสาวทยอยพร่องไปเยอะ ทั้งขนม อาหารเปียก ทรายแมว ทำให้เธอควงแขนแฟนมาเดินห้างเพื่อเลือกซื้อของพร้อมกันตลอดระยะเวลาที่คบกับไทเปเธอมีความสุขมาก มากแบบตะโกน เขาทำหน้าที่แฟนได้ดีเยี่ยมไม่มีขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย ทั้งคู่ไม่เคยทะเลาะกันเลยสักครั้ง เนื่องจากไทเปโตกว่าและเป็นคนใจเย็น ทั้งคู่จะพูดคุยกันด้วยเหตุผลมากกว่าใช้อารมณ์ แถมช่วงหลังเขาก็สามารถแวะมาหาได้ทุกสัปดาห์อีกด้วย ทำให้เธอไม่ต้องทนเหงาคุยผ่านโทรศัพท์เหมือนช่วงแรกที่คบหากันในวันหยุดทั้งคู่จะช่วยกันทำอาหาร เล่นกับเจ้าฮันนี่ บางครั้งก็นอนดูซีรีส์หนังสืบสวนบ้าง ไม่ก็หนังสยองขวัญแบบที่ทิชาชอบ แล้วก็จะเป็นเธอที่มักจะซุกกล้ามอกแน่นเอาไว้ตลอดเรื่องเพราะกลัวผีโผล่มา ก่อนจะปิดท้ายวันด้วยเซ็กซ์ร้อนแรงถึงใจหนุ่มสาวคู่รักเดินกุมประสานฝ่ามือเคียงคู่กัน มุมปากบางประดับยิ้มเอาไว้ตลอด ดวงตากลมเปล่งประกายระยิบระยับจากความสุขที่อัดแน่นในอก"ลูกสาวคุณไทเปนับวันยิ่งร้ายกับทิชา คุณต้องดุมันบ้างนะคะ""มันแกล้งอะไรหนูครับ""มันเมินทิชาหนักมา

  • one secret ดีลแลกรัก   ตอนพิเศษ 4 มาเยี่ยมเพื่อนแต่ได้หลัวกลับบ้าน

    หลายเดือนต่อมาวันนี้แก๊งเพื่อนชะนีของอันดามันพร้อมใจกันแวะมาหาคุณแม่ยังสาวที่ตั้งครรภ์ลูกแฝด ดูท่าเจ้าบ่าวของเธอจะน้ำยาดีกว่าที่ถูกปรามาสจากกลุ่มเพื่อน แต่เพราะเรื่องนี้นี่เองทำให้คุณแม่ป้ายแดงอารมณ์สวิงเหวี่ยงขึ้นลงเหลือเกิน จนเพื่อนๆ เป็นห่วงต้องมาหาพูดคุยเพื่อให้เพื่อนรักหายเหงาบ้างสามสาวหนึ่งหนุ่มยืนจับจ้องคฤหาสน์หลังยักษ์ของเพื่อน แม้จะเคยมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็อดตื่นตะลึงกับความหรูหราอลังการของมันไม่ได้สักที"แมลงวันจะบินเข้าปากแล้วอีจ๋า ไปเร็ว กูร้อน" เดซี่หันมาแว้ดเรียกสติสาวเป๋อหนึ่งเดียวในกลุ่ม เธอจึงยอมละความสนใจจากสวนสวยข้างบ้านแล้วหอบหิ้วกระเช้าของฝากเดินตามเพื่อนที่เหลือเข้าไปในตัวบ้าน"ไงค่าคุณแม่~ หน้าตาอิ่มเอิบเชียว" ณชาเอ่ยปากทักหญิงสาวเจ้าของบ้านซึ่งกำลังทำหน้าบูดบึ้งไม่สบอารมณ์อยู่กลางห้องรับแขก ย้อนแย้งกับคำแซวสิ้นเชิง"ช้ามากอีพวกนี้ บอกจะมาถึงสิบเอ็ดโมง นี่ปาไปบ่ายโมงแล้วนะ!""โทษอีจ๋ามันจ้า รอบนี้เป็นนางที่ลำไย ขับรถออกมาครึ่งทางเพิ่งนึกได้ว่าลืมมือถือ กูต้องวนรถกลับไปบ้านนางอีก" เดซี่รีบหันมาโยนความผิดให้เพื่อนสาวสุดเปิ่น ซึ่งครั้งนี้เธอก็เถียงกลับไม่ยอมแพ้เช่

  • one secret ดีลแลกรัก   ตอนพิเศษ 3 เรื่องหน้าแตกและการเจรจากับคนหน้ามึน

    จ๊ะจ๋ารู้สึกตัวขึ้นมาในเช้าของวันต่อมา เธอนอนตัวแข็งทื่อไม่กล้ากระดุกกระดิกแม้แต่น้อยเมื่อร่างเปลือยเปล่าของตัวเองถูกกอดโดยน้องชายเพื่อนรักที่อยู่ในสภาพโป๊เปลือยไม่ต่างกัน ท่อนรักลำใหญ่เหมือนจะตื่นก่อนเจ้าของร่าง มันเบียดชิดแก้มก้นเนียนของเธอแนบชิด ทำพวงแก้มใสเห่อร้อนด้วยความกระดากอาย'แกทำอะไรลงไป๊!'นี่คือสิ่งที่แวบเข้ามาในหัวสาวเปิ่นเป็นคำแรก จากตั้งใจจะคว้าเพื่อนเจ้าบ่าวสักคน กลับสติหลุดขอให้น้องชายเจ้าสาวช่วยเปิดซิงให้ซะงั้น แถมเขายังยินดีช่วยแบบจัดหนักจัดเต็มให้ซะเธอตาพร่าเลยทีเดียว เรื่องนี้จะโทษใครไม่ได้นอกจากความคันของตัวเองล้วนๆ"เฮ้ออออ~"หญิงสาวพ่นลมหายใจยาวระบายความอึดอัดในโพรงอก คิดไม่ตกว่าควรทำยังไงกับเหตุการณ์น่าละอายนี้ดี แล้วก็เหมือนเสียงของเธอจะไปปลุกให้ชายหนุ่มตื่น เขาส่งเสียงงึมงำในลำคอเบาๆ พร้อมยืดแขนบิดกายขับไล่ความเมื่อยล้าดวงตาคู่เล็กเบิกกว้าง สองมือกุมประสานบีบผ้าห่มเหนืออกไว้แน่น หัวใจกระหน่ำเต้นแรงขึ้นและแรงขึ้นเมื่อรับรู้ว่าอีกฝ่ายตื่นเต็มตาแล้ว แถมอาวุธร้ายเขาก็ไม่เลิกเสียดสีสะโพกเธอสักที ใบหน้าหวานเหยเกก้มศีรษะงุดอยากจะตีเนียนแกล้งตายไปซะเลย แต่อีกฝ่ายก

  • one secret ดีลแลกรัก   ตอนพิเศษ 2 เปิดประสบการณ์ให้สาวเป๋อ

    ปลายนิ้วเรียวลากขึ้นลงไปตามรอยแยกสีแดงระเรื่อ สาวที่ตื่นเต้นก็ยิ่งเกร็งร่างกายอัตโนมัติ ปากทางคับแคบที่ไม่เคยมีสิ่งใดแทรกผ่านขมิบรัดแน่นกว่าเดิม ทำให้พีพีต้องโน้มกายลงมาปลุกเร้าอารมณ์สาวให้ผ่อนคลายเพลิดเพลินไปกับรสสวาทเสียก่อนลิ้นร้ายตวัดดูดดึงจุกสีหวาน จ๊ะจ๋าถึงกับผวาเฮือกแอ่นกายดิ้นพล่านกับอาการแปลกประหลาดวูบไหวชวนใจสั่น ยิ่งพีพีละเลงยอดอกอ่อนไหวเร็วเท่าไร ร่างกายก็เหมือนจะหมดเรี่ยวแรงลงทุกขณะ เธอหอบครางระบายความรู้สึกเลื่อนมือลูบไล้ไปตามแผ่นหลังชายด้านบนอย่างโหยหา แต่ในตอนที่กำลังจดจ่อกับความสุขสันต์ด้านบน พีพีก็ใช้จังหวะนั้นดันนิ้วหยาบลึกเข้ามาในกาย"อ๊ะ!...เจ็บ...อื้อ...พะ...พอแล้ว...อ๊าาา""อย่าเกร็ง ถ้าไม่ขยายก่อนจะเจ็บกว่านี้...ซี้ดดดด นี่เคยช่วยตัวเองบ้างไหมเนี่ย ทำไมมันแน่นขนาดนี้"จ๊ะจ๋าไม่ตอบเป็นคำพูด แต่ใบหน้าแดงระเรื่อส่ายสะบัดไปมา ไม่แน่ใจว่าเป็นคำตอบหรือว่าเธอเจ็บปวดกันแน่พีพีใช้มือใหญ่กอบกุมหน้าอกขนาดเกินตัวของรุ่นพี่เอาไว้ บีบขยำเคล้นคลึงความนุ่มนิ่มหยุ่นมือไปมา พลางลากเรียวลิ้นวนรอบฐานสีอ่อนและสะกิดเลียยอดอกแผ่วเบา นิ้วกลางยาวก็ขยับเข้าออกเชื่องช้าอย่างยากลำบาก เน

  • one secret ดีลแลกรัก   ตอนพิเศษ 1 คำขอของสาวเป๋อ

    (พีพี x จ๊ะจ๋า)คืนวันแต่งงานของอันดามัน ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะตีหนึ่งแล้ว บรรดาแขกและเพื่อนฝูงที่มาร่วมงานต่างทยอยเดินทางกลับกันเกือบหมด หลงเหลือแต่เพียงกลุ่มเพื่อนที่ยังนั่งติดลม คุยกันไม่เลิก แม้เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะหายตัวไปตั้งแต่งานยังไม่เลิกก็ตาม ทำให้คนเป็นน้องชายอย่าง 'พีพี' ต้องรับหน้าที่ส่งแขกกลับไฟในห้องจัดเลี้ยงถูกเปิดสว่าง พนักงานช่วยกันทยอยเดินเก็บโต๊ะและจานอาหารในส่วนของโต๊ะที่แขกกลับไปหมดแล้ว ในขณะที่ร่างสูงเดินสำรวจตรวจเช็กความเรียบร้อยก็เหลือบไปเห็นเพื่อนของพี่สาวนั่งร้องห่มร้องไห้อยู่ที่สุดปลายห้อง โดยมีเพื่อนชายใจหญิงกลอกสายตาเบะปากปลอบใจ"อ้าวพวกพี่ยังไม่กลับห้องกันอีกเหรอ" พีพีร้องทัก พลางหันซ้ายหันขวามองไปรอบห้องเมื่อเห็นทั้งคู่ยังนั่งอยู่ตามลำพัง โดยไร้วี่แววสองสาวที่เหลือในกลุ่ม"อีจ๋าน่ะสิ เมาแล้วเป็นบ้าเป็นบอ! ลำไยนัก พี่จะลุกไปเข้าห้องน้ำ ชีก็ไม่ปล่อย" เดซี่หนุ่มหน้าใสยู่ปาก พลางพเยิดหน้าไปดูสภาพเพื่อนสุดเป๋ออีกคนในกลุ่ม"ฮืออออ กูเศร้าาา~ มึงอย่าทิ้งกูให้อยู่คนเดียวเด้~"ใบหน้าสาวสวยตาชั้นเดียวเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ทำให้เครื่องสำอางไหลเยิ้มแทบดูไม่ได้ เธอคร่ำครว

  • one secret ดีลแลกรัก   บทที่ 53 ทบทวนความทรงจำ (ตอนจบ)

    แล้วช่วงเวลาที่ทิชาเฝ้ารอคอยก็มาถึง เมื่อถึงรอบที่ไทเปต้องลงแข่ง แม้วันนี้เขาจะบอกว่าเป็นแค่รอบคัดตัวไม่จริงจังมาก แต่ก็ทำหญิงสาวที่ไม่เคยร่วมงานแบบนี้มาก่อนตื่นเต้นไม่หายชายหนุ่มสวมชุดนักแข่งเต็มตัว ส่งเสริมให้ใบหน้าหล่อเหลาคมคายมีเสน่ห์ดึงดูดอีกเป็นเท่าด้วย ทิชาตรงเข้าไปงอแงงุ้งงิ้งแฟนหนุ่มไม่เลิก กำชับเขาครั้งแล้วครั้งเล่าให้ระวังตัวให้ดี ห้ามทำเธอหัวใจวายตายเด็ดขาด ท่ามกลางสายตาเอ็นดูปนอิจฉาของทุกคนในพิต ไม่แปลกใจเลยทำไมไทเปจึงมอบหัวใจให้สาวน่ารักคนนี้ได้ ก็เธอดูสดใสน่าทะนุถนอมแบบสุดๆ นี่เองดวงตาดำสนิทที่เคยแข็งกร้าวอ่อนโยนทุกครั้งเมื่อได้มองหน้าคนรัก เขาโน้มตัวลงกดริมฝีปากแนบชิดหน้าผากมนแผ่วเบาอ่อนโยน การกระทำเปิดเผยโจ่งแจ้งนี้ส่งผลให้ใบหน้าทิชาร้อนผ่าว เขินตัวม้วนแทบไม่กล้ามองหน้าคนอื่นในห้องเลย ยิ่งมีเสียงโห่แซวของบรรดาชายหนุ่ม ทิชาก็แทบอยากจะสิงร่างไทเปซะเลย"ไม่ต้องห่วงครับ เตรียมเสียงกรี๊ดตอนผมเข้าเส้นชัยได้เลย""คุณไทเปอ่า~ ทำแบบนี้ทิชาอายนะคะ" ร่างเล็กอมลมเอาไว้ในปากแสร้งสีหน้าบึ้งกลบเกลื่อนความอาย แต่มันยิ่งทำให้ดูน่ามันเขี้ยวกว่าเดิมเสียอย่างงั้นปลายนิ้วสากบีบปลายจมูก

  • one secret ดีลแลกรัก   บทที่ 52 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

    ไทเปจูงมือพาเธอเลี้ยวไปยังพิตนักแข่งห้องหนึ่ง ภายในมีฉกรรจ์หลายคนทั้งที่คุ้นหน้าและไม่เคยเห็นบ้าง"เหยดดดด~ วันนี้พาเมียมาเปิดตัวซะด้วย" ภูผาทักขึ้นเป็นคนแรกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น พลางส่งยิ้มกว้างที่ดูเจ้าชู้กะลิ้มกะเหลี่ยตามนิสัยให้หญิงสาวด้านหลังเพื่อน ทำให้ไทเปตีหน้าขรึมส่งสายตาห้ามปรามเพื่อน"มาแปลกจริงๆ สวัสดีครับคุณทิชา ผมรันเวย์ที่ทำงานให้คุณวิคเตอร์ คงพอจำได้ใช่ไหม"ชายร่างกำยำผิวเข้มผงกหัวให้พร้อมส่งยิ้มเป็นมิตร เขากำลังเช็กเครื่องยนต์ของรถสีขาวอยู่ ซึ่งทิชาก็พยักหน้ากลับ ทักทายตามมารยาท"ค่ะ จำได้ค่ะ"พอภูผาเปิดหัวข้อมาว่าเธอคือแฟนสาวของไทเป ก็ทำให้ทีมช่างหลายคนหันมามองเธอด้วยความสนใจปนแปลกใจไม่น้อย ไม่คิดว่าหนุ่มพูดน้อย มาดนิ่งจะแอบซุกสาวเอาไว้ เมื่อมีผู้ชายจ้องมองก็เริ่มทำให้ทิชาเกิดอาการประหม่าลนลานขึ้นมาอีกครั้ง มือเย็นเฉียบบีบมือแฟนหนุ่มเอาไว้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ แทบจะฟุบใบหน้าเข้าหาแผ่นหลังกว้างเพื่อหลบสายตาแปลกๆ ของทุกคน"เลิกจ้องกันได้แล้ว แฟนกูกลัวแล้วนั่น" เขาเอ่ยปรามบรรดาชายหนุ่มทั้งหลายในห้อง แล้วจูงข้อมือเล็กพาไปนั่งบริเวณโซฟาอีกฟากพิตนักแข่งนี้เต็มไปด้วยอุ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status