Home / มาเฟีย / กรงปรารถนา / บทที่ 13 คนสำคัญ - 100%

Share

บทที่ 13 คนสำคัญ - 100%

last update Last Updated: 2025-08-05 19:35:13

ชนาธิปไม่ใช่ผู้ชายปากหวาน ไม่ใช่คนที่ใช้คำพูดพร่ำเพรื่อมาเอาใจผู้หญิง เวลาเขาคิดหรือรู้สึกอย่างไรจึงมักแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะด้วยคำพูด หรือการกระทำ

“คุณธิปคะ” เรียกเขาแล้วแต่กลับไม่กล้าเอ่ยต่อ เธอมีคำพูดมากมายที่อยากบอกกับเขา โดยเฉพาะคำว่า ‘รัก’ แต่ไม่มีความกล้าพอที่จะพูดมันออกไป สุดท้ายจึงได้แต่นิ่งเงียบจนปลายสายต้องทวงถามด้วยตัวเอง

“ว่าไง เรียกฉันมีอะไรรึเปล่า”

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่อยากถามคุณธิปว่า...เอ่อ...กลับเร็วกว่านั้นไม่ได้หรือคะ” เป็นครั้งที่สองที่เธอขอร้องให้เขากลับมาเร็วขึ้น แม้จะกังวลอยู่ลึกๆ ว่าเขาจะมองเธอเป็นคนงี่เง่าหรือเปล่า แต่เธอก็คิดถึงเขามากจริงๆ

“ถ้าทำได้ ฉันอยากกลับไปวันนี้ เดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ”

“ถ้าคุณธิปกลับมาแล้วเราไปเที่ยวทะเลกันนะคะ รักจำได้ที่คุณธิปสัญญาเอาไว้ว่าจะพารักไป”

ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่เธอกลายเป็นคนขี้อ้อน เดี๋ยวนี้เธอกล้าเรียกร้องกับเขามากขึ้นทั้งที่เมื่อก่อนจะเอ่ยปากขออะไรแต่ละทียังคิดแล้วคิดอีก

“ได้สิ แต่เธอ

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • กรงปรารถนา   บทที่ 14 เพื่อนชาย - 50%

    ไม่ใช่กลัวว่าสองคนนี้แอบนัดพบกันลับหลัง เพราะมั่นใจว่าต้องรักไม่ได้คิดอะไรกับอีกฝ่าย แต่ที่เธอกังวลก็เพราะเห็นสายตาของชายหนุ่มคนนั้นเวลามองต้องรัก ไม่ใช่แค่ผู้ชายที่แอบหลงรักผู้หญิงคนหนึ่ง แต่คล้ายมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะลงมือทำอะไรสักอย่าง เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่กล้าฟันธงลงไปเรื่องนี้แม้แต่ยุวรรณดาเองก็ยังพลอยรู้สึกไปด้วย“รัก...ฉันว่าแกระวังไอ้บอยไว้ก็ดีนะ ฉันว่ามันมองแกแปลกๆ ว่ะ”เมื่อได้อยู่กันตามลำพังในห้องพัก จึงอดพูดเตือนเพื่อนสนิทไม่ได้ ในขณะที่ต้องรักนั้นได้แต่เลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย“ทำไมล่ะ แปลกยังไงหรือ ฉันเองก็ไม่ได้สนใจเสียด้วยสิ”ตั้งแต่นั่งรถมาด้วยกันจนกระทั่งแวะกินมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารก่อนถึงที่พัก เธอกับอนุวัฒน์แทบไม่ได้ปริปากพูดคุยกันเลย เพราะอีกฝ่ายดูเหมือนพยายามรักษาระยะห่างเอาไว้ในระดับหนึ่ง“ฉันก็บอกไม่ถูกว่ะ รู้แต่ว่ามันแปลกๆ ไปนะ เมื่อก่อนก็รู้ว่ามันชอบแก แต่มันก็ไม่เคยมองแกอย่างนี้”“อย่างนี้ที่ว่าหมายถึงยังไงล่ะ พูดมาให้ชัดๆ สิ ฉันจะได้ลองสังเกตดูบ้าง” ต

  • กรงปรารถนา   บทที่ 14 เพื่อนชาย - 25%

    รถแท็กซี่เคลื่อนตัวเข้ามาจอดที่ป้ายรถประจำทางหน้ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งตอนเช้าตรู่ หญิงสาวสองคนก้าวลงจากรถพร้อมกระเป๋าเป้คนละใบ จากนั้นก็หันมองซ้ายขวาเพื่อหาบุคคลที่นัดไว้“ไหนเพื่อนเราล่ะรัก” ชนิดาถามคนยืนข้างๆ เพราะไม่เห็นมีคนอื่นยืนอยู่ตรงป้ายรถประจำทางต้องรักกำลังจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทร. ออก แต่เสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้นเสียก่อน“อยู่ตรงไหนกันน่ะยุ้ย” เธอถามคนที่โทร. มาทันทีเมื่อมาถึงแล้วไม่เจอเพื่อนอยู่เลยสักคน“เดินเข้ามาในซอยสิบสองนะแก รถตู้พวกเราจอดอยู่ตรงนั้นแหละ จอดหน้าป้ายรถเมล์ไม่ได้ ตำรวจไล่น่ะ”“โอเคจ้ะ กำลังเดินไป” กดวางสายแล้วจึงหันมาบอกกับคนที่มาด้วยกัน“รถตู้จอดรออยู่ในซอยข้างหน้าค่ะพี่โอ๋ ไปกันเถอะ” ต้องรักเดินนำไปได้ก้าวหนึ่งก็นึกอะไรขึ้นได้ เธอหยุดเดินแล้วหันไปพูดกับหญิงสาวที่พามาด้วย“พี่โอ๋คะ คือว่า...” เห็นต้องรักมีสีหน้าลังเลเหมือนเกรงใจและชั่งใจว่าจะพูดดีหรือไม่ ชนิดาจึงเลิกคิ้วขึ้นเพื่อให้เธอพูดต่อแล้วยืนรอฟัง&ldqu

  • กรงปรารถนา   บทที่ 13 คนสำคัญ - 100%

    ชนาธิปไม่ใช่ผู้ชายปากหวาน ไม่ใช่คนที่ใช้คำพูดพร่ำเพรื่อมาเอาใจผู้หญิง เวลาเขาคิดหรือรู้สึกอย่างไรจึงมักแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะด้วยคำพูด หรือการกระทำ“คุณธิปคะ” เรียกเขาแล้วแต่กลับไม่กล้าเอ่ยต่อ เธอมีคำพูดมากมายที่อยากบอกกับเขา โดยเฉพาะคำว่า ‘รัก’ แต่ไม่มีความกล้าพอที่จะพูดมันออกไป สุดท้ายจึงได้แต่นิ่งเงียบจนปลายสายต้องทวงถามด้วยตัวเอง“ว่าไง เรียกฉันมีอะไรรึเปล่า”“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่อยากถามคุณธิปว่า...เอ่อ...กลับเร็วกว่านั้นไม่ได้หรือคะ” เป็นครั้งที่สองที่เธอขอร้องให้เขากลับมาเร็วขึ้น แม้จะกังวลอยู่ลึกๆ ว่าเขาจะมองเธอเป็นคนงี่เง่าหรือเปล่า แต่เธอก็คิดถึงเขามากจริงๆ“ถ้าทำได้ ฉันอยากกลับไปวันนี้ เดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ”“ถ้าคุณธิปกลับมาแล้วเราไปเที่ยวทะเลกันนะคะ รักจำได้ที่คุณธิปสัญญาเอาไว้ว่าจะพารักไป”ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่เธอกลายเป็นคนขี้อ้อน เดี๋ยวนี้เธอกล้าเรียกร้องกับเขามากขึ้นทั้งที่เมื่อก่อนจะเอ่ยปากขออะไรแต่ละทียังคิดแล้วคิดอีก“ได้สิ แต่เธอ

  • กรงปรารถนา   บทที่ 13 คนสำคัญ - 75%

    ร่างสูงสง่าของชนาธิปเดินเคียงคู่มากับเคธี่ ทั้งสองเข้าไปยังห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมภายใต้สายตาหลายสิบคู่ที่มองมาอย่างสนใจ หลายคนหันไปพูดคุยซุบซิบกันเกี่ยวกับข่าวลือหนาหูเรื่องงานแต่งงานของคนทั้งคู่ที่กำลังจะจัดขึ้นในไม่ช้า ในขณะที่หลายคนไม่ค่อยเห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้ เพราะมีคนไม่น้อยอยากเกี่ยวดองกับนิโคลัสเพื่ออาศัยอิทธิพลของเขา“นายฟังสิทิม ใครเขาก็รู้กันทั้งนั้นเรื่องงานแต่งงานของเรา นายปฏิเสธมันไม่ได้หรอก ยอมรับเถอะ” เคธี่กระซิบกระซาบกับเขาเบาๆ ขณะที่คลี่ยิ้มทักทายบรรดาคู่ค้าอีกกลุ่มหนึ่ง“ผมตัดสินใจแล้ว และผมก็ไม่เปลี่ยนใจ” มุมปากเขายกขึ้นเล็กน้อยระหว่างที่ค้อมศีรษะทักทายผู้ร่วมธุรกิจเหล่านั้น“นายก็น่าจะรู้ว่าฉันปล่อยให้นายตายไม่ได้” หญิงสาวหยุดยืนอยู่กับที่พลางหันหน้ามาเผชิญกับเขาตรงๆ“เพราะนายเป็นเหมือนพี่น้องเพียงคนเดียวที่ฉันมี” แม้ริมฝีปากยังคงยิ้มพราย แต่แววตากลับแฝงความจริงจังในทุกประโยคที่พูดออกไปเมื่อครู่“คุณหนู” ชนาธิปเรียกเธอเสียงแผ่ว รู้ซึ้งถึงความหมา

  • กรงปรารถนา   บทที่ 13 คนสำคัญ - 50%

    ชายหนุ่มหันหลังกลับเพื่อจะเข้าไปยังห้องโถงอีกครั้ง วันนี้ช่วงสายๆ เขาต้องไปคุยกับคู่ค้าทางธุรกิจรายใหม่พร้อมเคธี่ ดูเหมือนมาคราวนี้ นิโคลัสเริ่มให้บุตรสาวเข้ามามีบทบาทเกี่ยวกับธุรกิจในเครือมากยิ่งขึ้น ทั้งที่เมื่อก่อนพยายามกันเคธี่ให้ห่างจากงานเหล่านี้โดยสิ้นเชิง ซึ่งเขาเองก็คาดเดาความคิดของนิโคลัสไม่ได้ว่าฝ่ายนั้นกำลังคิดจะทำอะไร ตอนนี้จึงทำได้เพียงเฝ้ามองดูและวิเคราะห์อยู่เงียบๆ ในใจเท่านั้นระหว่างที่เขากำลังเดินเข้าไปด้านใน เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เขาหยิบมันออกมาจากกระเป๋าเสื้อเชิ้ตแล้วรีบกดรับสายทันทีที่เห็นว่าใครเป็นคนโทร.เข้ามา“ว่าไง!” เขาถามเสียงห้วนอย่างเก็บอาการอยากรู้ไว้แทบไม่อยู่ ซึ่งปลายสายก็ตอบออกมาทันทีโดยเช่นกัน“คนทำคือคุณแพรวา ลูกสาวเจ้าสัวบดินทร์ครับ”คิดไว้แล้วไม่ผิด!ชนาธิปข่มอารมณ์เดือดดาลไว้ในอก สมองคิดถึงบทลงโทษสำหรับคนที่ทำให้คนของเขาต้องบาดเจ็บทันที โชคดีที่แพรวาไม่ใช่ผู้ชาย เขาจึงไม่คิดทำอะไรเธอเพราะไม่ชอบรังแกผู้หญิงชัชวาลเห็นเจ้านายเงียบไปจึงได้แต่รอรับคำสั่งจากอีกฟากโลกอยู่เงียบๆ เ

  • กรงปรารถนา   บทที่ 13 คนสำคัญ - 25%

    ชนาธิปเดินลงบันไดมาด้วยสีหน้าที่ปกปิดความอ่อนเพลียไว้ไม่มิด เมื่อคืนเขานอนไม่ค่อยหลับทั้งที่ร่างกายรู้สึกอ่อนล้า เขาคิดว่าคงเกิดจากอาการเจ็ตแล็กกระมัง เพราะเวลาที่นี่กับประเทศไทยห่างกันถึงสิบชั่วโมงทันทีที่เขามาถึงห้องโถงใหญ่ เอกรัฐที่นั่งรออยู่ก่อนแล้วก็ลุกขึ้นยืนทันที มองสีหน้าอีกฝ่ายก็พอรู้แล้วว่ามีเรื่องด่วนที่ต้องการรายงานให้เขาทราบ“มีอะไร” เขาถามเข้าประเด็นทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาเกริ่น“ต้องรักถูกคนผลักตกบันไดเลื่อนที่ห้างฯ ครับ โชคดีที่อาการไม่เป็นอะไรมาก มีแค่รอยถลอกและฟกช้ำเพราะมีคนช่วยเอาไว้ได้ทันเวลา”เอกรัฐรายงานรวดเดียวจบพร้อมกับสังเกตสีหน้าของเจ้านายไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงอารมณ์ใดๆ แต่นัยน์ตากลับแฝงความมุ่งร้ายทำลายนั้นทำเอาลูกน้องอย่างเขาซึ่งติดตามรับใช้มานานหลายปียังอดกลืนน้ำลายลงคอด้วยความพรั่นพรึงไม่ได้ เพราะแววตาอย่างนี้ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยนัก“ชัชจัดการแล้วใช่ไหม”สายตาคนถามจ้องไปยังลูกน้องตาแทบไม่กะพริบ แม้น้ำเสียงจะไม่แสดงออกถึงความโกรธกรุ่น หรือใส่อารมณ์ แต่ในฐานะที่เป็นมือขวาคนสนิท มีหรือที่จะไม่รู้ว่าพายุลูกนี้กำลังก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ และรอเวลาถล่มราบเป

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status