/ มาเฟีย / กรงปรารถนา / บทที่ 3 สูญเสีย - 100%

공유

บทที่ 3 สูญเสีย - 100%

last update 최신 업데이트: 2025-07-15 13:00:34

“ไปคุยกันที่บ้านเอ็งดีกว่า” พูดจบก็เดินนำหน้าหญิงสาวไปอย่างเชื่องช้า ต้องรักจึงเดินไปข้างๆ พร้อมกับชะลอฝีเท้าให้ช้าลงตามไปด้วย

ยายสาเป็นคนแก่คนหนึ่งที่คนในซอยมักไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าไรนัก อาศัยอยู่เพียงลำพังในบ้านเช่าใกล้วัด นานๆ จึงจะมีลูกหลานมาเยี่ยมมาหาสักครั้ง ซึ่งเธอเองก็ไม่ค่อยเข้าใจลูกหลานของยายสานักว่ากำลังคิดอะไรกันอยู่ ถึงได้ปล่อยปละละเลยให้คนชราที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงอยู่เพียงลำพังได้

“ยายมีของมาคืนให้เอ็งน่ะ”

เมื่อเข้ามาในบ้าน หญิงชราก็นั่งลงที่เก้าอี้แล้วรูดซิปล้วงหยิบเอาถุงกำมะหยี่สีแดงออกมาจากกระเป๋าเสื้อคอกระเช้าพลางยื่นให้หญิงสาวตรงหน้า

ต้องรักเอื้อมมือไปรับมา คิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างงุนงงสงสัย เห็นยายสาพยักพเยิดให้เธอเปิดถุงออกดูจึงได้รู้ว่าสิ่งที่อยู่ด้านในคือแหวนทองประดับด้วยทับทิมสีแดงเม็ดเดี่ยวๆ ไม่ใหญ่มากนัก แต่มันกลับทำให้หญิงสาวน้ำตารื้นขึ้นมาทันที เพราะจำได้ดีว่าแหวนวงนี้มีความสำคัญกับมารดามากเพียงใด

“นังจง แม่เอ็งน่ะเอามาฝากยายไว้ตั้งนานแล้ว เพราะขืนเอาเก็บไว้ที่บ้านไอ้หลกมันคงขโมยไปขายเอาเงินไปเล่นในบ่อนหมด พอจงมันสิ้นบุญไปยายก็เลยเอามาคืนให้เอ็ง”

ยายสาพูดขึ้นเพราะคิดว่าต้องรักน่าจะจำแหวนของมารดาได้ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองหญิงชราด้วยน้ำตากบตาก่อนจะค่อยๆ ยกมือขึ้นไหว้อย่างซาบซึ้งในน้ำใจ

“ขอบคุณมากจ้ะยาย ขอบคุณที่เอามาคืนให้รัก”

“งั้นยายกลับบ้านก่อนนะ เอ็งก็พักผ่อนเสียเถอะเดี๋ยวจะไม่สบายไปเสียก่อน มะรืนนี้ก็วันเผาแม่เอ็งแล้วไม่ใช่รึ”

พูดพลางค่อยๆ ยันกายลุกขึ้นจากเก้าอี้ ต้องรักจึงรีบเข้าไปช่วยพยุง ใบหน้าเหี่ยวย่นยู่ลงเพราะอาการปวดหัวเข่าจึงยืนตั้งหลักนิ่งๆ สักพักก่อนจะค่อยๆ ก้าวเดินอย่างเชื่องช้าโดยมีหญิงสาวเจ้าของบ้านเดินไปส่งที่หน้าประตู

หลังจากปิดล็อกประตูบ้านเรียบร้อยแล้ว ต้องรักก็หยิบแหวนที่อยู่ในถุงกำมะหยี่สีแดงนั้นมาดูอีกครั้งหนึ่ง น้ำตาไหลรินรดลงบนพวงแก้มอีกครั้งพร้อมกับเสียงสะอื้นแผ่วเบา ยิ่งคิดถึงเรื่องราวความเป็นมาของแหวนวงนี้ที่มารดาเคยถ่ายทอดให้ฟังเมื่อหลายปีก่อนก็ยิ่งเจ็บแน่นในอกเพราะความคิดถึง ความอาลัยอาวรณ์ยังคงท่วมท้นในความรู้สึก

แหวนวงนี้ บิดาของเธอเก็บหอมรอมริบอยู่นานกว่าจะเดินเข้าร้านทองเพื่อซื้อเป็นของขวัญให้มารดา ท่านทั้งสองทำงานเป็นลูกจ้างรายวันในโรงงานด้วยกันทั้งคู่ จึงได้มารักและตกลงใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันโดยไม่มีงานแต่งงานใดๆ เกิดขึ้นทั้งสิ้น บิดาของเธอจึงอยากจะใช้แหวนวงนี้เป็นสิ่งแทนใจแทนความรักที่ท่านมีให้มารดาของเธอ

ต้องรักยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อหวนคิดไปถึงความทรงจำในวัยเยาว์ จำได้ว่าตอนนั้นครอบครัวมีความสุขตามอัตภาพ ถึงแม้ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนคนอื่นเขา แต่ก็ไม่ได้อดอยากถึงขนาดว่าอดมื้อกินมื้อ บิดามารดาของเธอเป็นคนสมถะ ขยัน และอดออม จนกระทั่งสามารถเก็บเงินซื้อรถเข็นขายก๋วยเตี๋ยวได้ ท่านทั้งสองลาออกจากโรงงานมาขายของเต็มตัว ทุกอย่างดูเหมือนจะเริ่มดีขึ้น แต่ครอบครัวเธอก็เดินมาถึงจุดเลวร้ายในที่สุด

ตอนนั้นเธอเพิ่งเข้าเรียนประถมหนึ่ง ขณะเดินกลับจากโรงเรียนมาที่บ้านก็ได้รู้ข่าวจากชาวบ้านที่อยู่ละแวกเดียวกันว่าบิดาของเธอถูกลูกหลงจากการที่เด็กช่างกลยิงกัน เธอจึงนั่งรอมารดาอยู่ที่บ้านจนกระทั่งเห็นท่านกลับมาจากโรงพยาบาลพร้อมกับข่าวร้ายที่ว่า บิดาของเธอสิ้นลมแล้ว...

ต้องรักบรรจงสวมแหวนอันเป็นอนุสรณ์ความรักของพ่อกับแม่ลงบนนิ้วนางข้างขวาของตัวเองพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลหยดลงบนหลังมือ แต่จู่ๆ หญิงสาวก็เงยหน้าขึ้นเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“จริงสิ...สร้อยข้อมือ”

ร่างเล็กรีบวิ่งขึ้นไปยังห้องนอนบนชั้นสองทันที เห็นแหวนแล้วเธอก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีของต่างหน้าของบิดาอยู่อีกหนึ่งอย่าง นั่นก็คือสร้อยข้อมือเส้นเล็กๆ สองเส้นที่ท่านเคยซื้อไว้ให้เพื่อรับขวัญตอนเธอลืมตาดูโลก ซึ่งทั้งสองเส้นนั้นมารดายังคงเก็บเอาไว้ให้เธออย่างดี เพราะมันเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เป็นของต่างหน้าของบิดาที่ได้ให้เธอเอาไว้

หญิงสาวพุ่งไปที่หัวเตียงฝั่งที่มารดาเคยนอนอยู่ทันที จากนั้นจึงเปิดลิ้นชักเล็กๆ ออกมาดูแต่กลับไม่พบสิ่งที่ต้องการหา มีเพียงยาประจำตัวของมารดา ทว่าไม่ปรากฏตลับวงกลมสีแดงสำหรับบรรจุสร้อยเลยแม้แต่เงา

ต้องรักจัดการรื้อหาทั้งหัวเตียงแต่ก็ไม่พบจนกระทั่งถอดใจ ปกติเธอชอบหยิบมันขึ้นมาดูเล่นเสมอ ยังเคยคิดเลยว่าสักวันหนึ่งเมื่อเธอมีลูก เธอจะให้ลูกใส่สร้อยข้อมือทั้งสองเส้นนี้ แต่มาพักหลังเธอไม่ค่อยได้สนใจมันเท่าไร จึงไม่รู้ว่ามันไม่ได้อยู่ที่เดิมแล้ว

พลันหญิงสาวนึกไปถึงคำบอกเล่าของนวล

‘รู้สึกป้าจะได้ยินไอ้หลกมันทะเลาะกับแม่เอ็งนะ เหมือนมันจะเอาอะไรสักอย่างแล้วแม่เอ็งไม่ยอมให้น่ะ’

ต้องรักได้แต่กำมือแน่นด้วยความโกรธ ตั้งแต่มารดาเสียชีวิตจนกระทั่งสวดศพไปแล้วสามวัน ดิลกก็ยังไม่โผล่มาให้เห็นหน้าเลยแม้แต่น้อย จากที่เกลียดอยู่แล้วพอได้เพิ่มความโกรธแค้นเข้าไปด้วย ความรู้สึกจึงยิ่งทบทวี แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากคอยแช่งชักหักกระดูกคนชั่วไปวันๆ เท่านั้น

ดึกสงัดคืนนั้น บ้านแต่ละหลังต่างปิดประตูเพื่อพักผ่อนบ้านใครบ้านมัน จึงไม่มีใครเห็นร่างตะคุ่มๆ ของใครคนหนึ่งที่กำลังไขประตูหน้าบ้านของต้องรักอย่างเงียบเชียบ เมื่อเปิดประตูได้แล้วร่างนั้นก็ค่อยๆ ก้าวขาเข้าไปด้านในก่อนจะปิดประตูไว้ตามเดิม ร่างนั้นอาศัยความเคยชินที่มีเดินตรงดิ่งไปยังบันไดบ้าน จดฝีเท้าก้าวขึ้นชั้นบนราวกับย่องจนกระทั่งมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องนอนของต้องรัก

มือใหญ่จับลูกบิดหมุนอย่างแผ่วเบา จากนั้นจึงเดินเข้าไปด้านใน แสงไฟจากริมถนนช่วยให้มองเห็นหญิงสาวที่นอนหลับสนิทได้อย่างชัดเจน ร่างนั้นค่อยๆ เดินไปทรุดตัวลงนั่งที่ริมเตียงพร้อมกับกวาดตามองเรือนร่างตรงหน้าด้วยแววตาหื่นกระหาย ก่อนที่มือนั้นจะยกขึ้นมาปิดปากของหญิงสาวไว้แน่นเพื่อป้องกันเสียงร้อง

ต้องรักสะดุ้งตื่นขึ้นเมื่อรู้สึกว่าถูกใครบางคนใช้มือปิดปากไว้เสียแน่น ครั้นพอสายตาจับภาพตรงหน้าได้ และรับรู้ว่าเป็นใคร หญิงสาวก็เบิกตาโพลงพร้อมกับออกแรงดิ้นเต็มกำลัง

ไอ้ดิลก!

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • กรงปรารถนา   บทที่ 4 ในอุ้งมืออุ่น - 35%

    ต้องรักพยายามจะยันกายลุกขึ้นนั่ง ทว่ามือของดิลกก็เลื่อนขึ้นมาตรึงข้อมือไว้ทั้งสองข้าง หญิงสาวจึงก่นด่าพร้อมทั้งข่มขู่ด้วยความแค้นเคือง“ไอ้หลก แกฆ่าแม่ฉัน ฉันจะเอาแกเข้าคุกให้ได้ ไอ้เลว!”“กูไม่ได้ฆ่าแม่มึง นังจงมันตกบันไดลงมาเอง”ดิลกรีบแก้ต่างให้ตัวเอง ก่อนจะพูดบางอย่างที่ต้องรักได้ฟังก็ยิ่งโกรธแค้นเป็นร้อยเท่าพันทวี“กะอีแค่ทองเส้นเท่าหนวดกุ้ง แม่มึงจะหวงไว้ทำไมนักหนา กูแค่ขอยืมไปหมุนหน่อยเดียวแต่มันไม่ยอมให้ กูก็ต้องขโมยเอาสิ แม่มึงวิ่งตามกูจะเอาคืนแล้วพลาดตกบันไดมาเองไม่เกี่ยวกับกูสักหน่อย”“ไอ้ชาติชั่ว! ปล่อยนะ ไอ้ทุเรศ! ปล่อยฉัน” ต้องรักดิ้นรนสุดแรงเท่าที่ตัวเองจะมี ปากก็ร้องด่าทอดิลก พ่อเลี้ยงไปด้วย“ปล่อยก็โง่แล้ว กูเล็งมึงมาตั้งนาน ตอนแม่มึงอยู่กูทำอะไรไม่ได้เพราะติดคำสาบานที่ให้ไว้กับแม่มึง แต่ตอนนี้แม่มึงมันก็ตายไปแล้ว ยอมๆ กูไปเถอะน่ากูรู้ว่ามึงเองก็ไม่ได้สดซิงอะไรนักหรอกทำงานกลางคืนอย่างนั้นน่ะ”ถ้อยคำต่ำทรามที่พ่นออกมาจากปากของดิลกทำเอาหญิงสาวแ

  • กรงปรารถนา   บทที่ 3 สูญเสีย - 100%

    “ไปคุยกันที่บ้านเอ็งดีกว่า” พูดจบก็เดินนำหน้าหญิงสาวไปอย่างเชื่องช้า ต้องรักจึงเดินไปข้างๆ พร้อมกับชะลอฝีเท้าให้ช้าลงตามไปด้วยยายสาเป็นคนแก่คนหนึ่งที่คนในซอยมักไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าไรนัก อาศัยอยู่เพียงลำพังในบ้านเช่าใกล้วัด นานๆ จึงจะมีลูกหลานมาเยี่ยมมาหาสักครั้ง ซึ่งเธอเองก็ไม่ค่อยเข้าใจลูกหลานของยายสานักว่ากำลังคิดอะไรกันอยู่ ถึงได้ปล่อยปละละเลยให้คนชราที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงอยู่เพียงลำพังได้“ยายมีของมาคืนให้เอ็งน่ะ”เมื่อเข้ามาในบ้าน หญิงชราก็นั่งลงที่เก้าอี้แล้วรูดซิปล้วงหยิบเอาถุงกำมะหยี่สีแดงออกมาจากกระเป๋าเสื้อคอกระเช้าพลางยื่นให้หญิงสาวตรงหน้าต้องรักเอื้อมมือไปรับมา คิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างงุนงงสงสัย เห็นยายสาพยักพเยิดให้เธอเปิดถุงออกดูจึงได้รู้ว่าสิ่งที่อยู่ด้านในคือแหวนทองประดับด้วยทับทิมสีแดงเม็ดเดี่ยวๆ ไม่ใหญ่มากนัก แต่มันกลับทำให้หญิงสาวน้ำตารื้นขึ้นมาทันที เพราะจำได้ดีว่าแหวนวงนี้มีความสำคัญกับมารดามากเพียงใด“นังจง แม่เอ็งน่ะเอามาฝากยายไว้ตั้งนานแล้ว เพราะขืนเอาเก็บไว้ที่บ้านไอ้หลกมันคงขโมยไปขายเอาเงิ

  • กรงปรารถนา   บทที่ 3 สูญเสีย - 75%

    ร่างผอมบางของจงรักถูกลุงเพิ่มอุ้มพาไปยังเบาะรถสามล้ออย่างทุลักทุเล โดยมีต้องรักและนวลตามขึ้นไปนั่งอยู่บนพื้นด้วย จากนั้นรถก็มุ่งไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันทีเวลาผ่านไปนานเท่าไรก็สุดรู้เพราะต้องรักไม่ได้สนใจ ตอนนี้สายตาของหญิงสาวจ้องเขม็งไปยังประตูห้องฉุกเฉินที่มารดาเข้าไปอยู่ในนั้นได้พักใหญ่แล้ว การรอคอยช่างแสนทรมาน ยิ่งยาวนานก็ยิ่งรู้สึกราวกับหัวใจถูกบีบอัดให้เล็กลงเรื่อยๆ จนเหมือนจะหายใจไม่ออก“รักเอ๊ย...แม่เอ็งถึงมือหมอแล้ว เอ็งไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ”นวลที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เดินเข้ามาบีบหัวไหล่เบาๆ อย่างปลุกปลอบ ต้องรักหันมามองครู่หนึ่งก่อนน้ำตาที่สู้อุตส่าห์กักเก็บไว้จะไหลทะลักออกมาจากหน่วยตาอีกครั้ง“รักไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น รักกลับมาจากทำงานก็เห็นแม่นอนอยู่หน้าบันไดแล้ว” ต้องรักพูดปนสะอื้น ในขณะที่นวลนั้นทำท่านึกอะไรบางอย่าง“รู้สึกป้าจะได้ยินไอ้หลกมันทะเลาะกับแม่เอ็งนะ เหมือนมันจะเอาอะไรสักอย่างแล้วแม่เอ็งไม่ยอมให้น่ะ ป้าเองก็ไม่ได้สนใจเพราะเห็นทะเลาะกันเกือบทุกวันอยู่แล้ว”ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรกันต

  • กรงปรารถนา   บทที่ 3 สูญเสีย - 50%

    ต้องรักเดินเกาะกลุ่มกับเพื่อนพนักงานออกมาจากอาคารเพื่อกลับบ้านดังเช่นทุกวัน นัยน์ตาคู่สวยชะเง้อมองไปยังที่จอดรถทางฝั่งของผู้บริหารอย่างลืมตัว รถยุโรปคันหรูที่เธอเคยนั่งยังคงจอดนิ่งอยู่ที่เดิม อันเป็นการบอกว่าเขาคนนั้นยังไม่ได้ออกจากที่นี่ อยากหยุดยืนเพื่อรอส่งตอนที่รถของเขาแล่นผ่าน แต่ก็เกรงว่าหากทำอย่างนั้นเขาจะมองว่าเธอกำลังทอดสะพานให้เขา คิดได้ดังนั้นจึงตัดสินใจเดินตามกลุ่มเพื่อนออกไปทว่ายังไม่ทันเดินพ้นเขตลานจอดรถดี รถคันที่ต้องรักมองดูอยู่เมื่อครู่ก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวแล่นผ่านหน้าของทุกคนไป ต้องรักมองไปยังกระจกของที่นั่งตอนหลังพร้อมกับคลี่ยิ้มให้ มองผิวเผินอาจจะดูเหมือนว่าเธอกำลังยิ้มให้เงาของตัวเองที่สะท้อนกลับมา แต่ใครเลยจะรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเธอกำลังยิ้มให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่เบาะหลังนั้นต่างหาก“รัก!”ได้ยินเสียงของใครคนหนึ่งเรียกมาจากด้านหลัง แต่เจ้าของชื่อไม่ได้หันกลับไปเพราะมัวแต่มองส่งรถคนนั้นจนกระทั่งลับสายตา พร้อมกับที่ผู้ตะโกนเรียกมาหยุดรถมอเตอร์ไซค์อยู่ข้างๆ“รักขึ้นรถเราเถอะ เดี๋ยวเราไปส่ง”อน

  • กรงปรารถนา   บทที่ 8 เด็กเสี่ย - 100%

    “ไม่เป็นไรหรอกบอย รักกลับเองดีกว่า อีกอย่างนะ ทางไปบ้านบอยกับบ้านรักมันคนละทางกันเลยนะ บอยไม่ต้องไปส่งเราหรอก”ต้องรักรีบปฏิเสธออกมาทันทีพร้อมกับยกแขนของยุวรรณดาขึ้นมาดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือของเพื่อน“จะสี่โมงแล้วเดี๋ยวเรากลับบ้านก่อนดีกว่า พรุ่งนี้เจอกันนะ บาย”เมื่อเห็นว่าอีกสิบนาทีจะบ่ายสี่โมง ต้องรักจึงรีบตัดบทแล้วหาทางเลี่ยงออกมาทันที เพราะกลัวว่าอนุวัฒน์จะดึงดันขอไปส่งบ้านให้ได้ เพื่อนชายคนนี้คิดกับตนอย่างไรใช่ว่าเธอจะไม่รู้ แม้ว่าเขาจะดีและมีน้ำใจกับเธอมากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่สามารถคิดกับเขาเกินเพื่อนได้จริงๆเดินห่างเพื่อนออกมาได้ไม่เท่าไร โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋าก็สั่นเตือนขึ้นมาว่ามีคนโทร.เข้า ต้องรักเอามือควานหาโดยไม่หยุดเดิน เมื่อเจอแล้วก็กดรับสายทันที โดยไม่ต้องดูชื่อเพราะรู้ว่าใครโทร.มา“ค่ะ รักกำลังจะถึงหน้ามอแล้วค่ะคุณธิป...ได้ค่ะ”หลังจากวางสาย ร่างเล็กก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปทางหน้ามหาวิทยาลัย ยิ่งเขาบอกว่ากำลังจอดรถรออยู่ หญิงสาวก็ยิ่งลนลานรีบไปให้ถึงโดยเร็วที่สุดเพราะไม่อยากให้เขารอนาน จึง

  • กรงปรารถนา   บทที่ 3 สูญเสีย - 25%

    ต้องรักตื่นนอนประมาณสิบเอ็ดโมงครึ่ง รู้สึกว่าอาการปวดตึงที่ข้อเท้าเริ่มดีขึ้นมาก อาจเป็นเพราะเมื่อตอนเช้ามืดที่ผ่านมาเธอได้เล่าให้มารดาฟังว่าเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนเล็กน้อยจนข้อเท้าแพลง ท่านจึงนวดจับเส้นให้จนสามารถเดินลงน้ำหนักได้เต็มเท้ามากขึ้นหญิงสาวจัดการทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ เสร็จเรียบร้อยก็เดินลงไปชั้นล่าง ได้ยินเสียงตำน้ำพริกอยู่ในครัวจึงเดินเข้าไปดูเผื่อมีอะไรที่พอช่วยได้บ้าง“มีอะไรให้ช่วยไหมแม่”ร่างเล็กเดินเข้าไปยืนเมียงมองที่โต๊ะเล็กข้างเตาแก๊สปิกนิก เห็นมีไข่ไก่วางไว้ในชามใบเล็กสองฟอง มีต้นหอมที่ยังไม่ได้ซอยวางอยู่บนเขียง เธอจึงเดินเข้าไปจัดการต่อให้ทันที“งั้นรักเจียวไข่เองนะ” พูดพลางลงมือหั่นต้นหอมสำหรับใส่ไข่เจียว พอดีกับที่มารดาตำน้ำพริกเสร็จจึงหันมาถามบุตรสาวอย่างเอาใจใส่ เพราะเห็นเวลาเพิ่งจะเที่ยงเท่านั้น เท่ากับว่าต้องรักเพิ่งนอนไปได้แค่ห้าชั่วโมง“นอนอิ่มแล้วเหรอลูก น่าจะนอนอีกสักหน่อยไหนๆ ก็หยุดเรียนแล้ว”“ไม่ไหวละจ้ะแม่ ท้องร้องโครกครากเลยต้องลงมาหาอะไรกินนี่แหละ อีกอย่างนะ วันนี้รักจะไปแถวที่ทำงานเร็วกว่าเดิมสักหน่อย ว่าจะลองไปเดินดูห้องเช่าหรืออพาร์ตเมนต์แถว

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status