Masukแม่พอ.รับนอ.มาเป็นลูกบุญธรรมตั้งแต่นอ.เป็นทารก.พอ.จึงเก.ลียดนอ.มากเพราะคิดว่านอ.มาแย่งความรัก นอ.เกิดมาพร้อมกับตาที่สามเเละมีคาถาไสย์ขาวที่เป็นของเก่าติดตัวมาด้วย วันหนึ่งพอ.ถูกทำของใส่แม่พอ.ขอร้องให้นอ.ช่วยพี่ชาย และนั่นคือครั้งแรกที่ทั้งคู่ได้พบกันอีกครั้งหลังจากที่นอ.ขอแยกตัวออกไปอยู่ที่อื่นถึงสิปปี เมื่อพอ.รู้ว่าคนที่จะมาช่วยเป็นคนที่ตัวเองเกลียดเข้าไส้จึงไม่ยอมให้นอ.ถอนของออกให้. แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหวจึงยอมกลืนน้ำลายตัวเอง แต่ก่อนเขาเกลียด.เธอมากแต่มาตอนนี้เขากลับรักเธอสุดหัวใจ แล้วเมื่อรู้ว่านอ.ต้องจากไป. ตามสัจจะวาจา จึงทำให้ พอ.เสียใจมาก จนร้องไห้ออกมาอย่างหนัก จากนั้นจึงขังตัวเองไว้ในห้อง แต่ในที่สุดก็ทนเสียงร่ำร้องของหัวใจไม่ไหว เขาจำต้องฝืนใจตัวเองเพื่อออกมาร่ำลาและกอดเธอไว้เป็นครั้งสุดท้าย. ก่อนที่เธอจะจากเขาไปตลอดกาล. และนอ.ได้ให้ความหวังกับเขาเอาไว้ว่า "เราจะได้พบกันอีกครั้ง โดยไม่จำเป็นต้องมีคำสัญญา. ต่อเมื่อถึงเวลาของเรา" และสักวัน..ธอกลับมาหาเขาอีกครั้ง.
Lihat lebih banyak“โอ๊ย!!.."
"เสือ!เป็นยังไงบ้างลูก!"
"ผมปวดท้อง...แม่!...ช่วยผมด้วยครับ”
เสียงร้องโอดโอยโวยวายของผู้ชาย ที่กรรวีได้ยินมาจากด้านนอก บอกเลยว่ามันดังมากจนทะลุกำแพงห้องของเธอเข้ามาถึงด้านใน…
เสียงของผู้ชายร้ายกาจคนนั้น...ซึ่งเธอก็ไม่อยากจะได้ยินมันสักเท่าไหร่
เธอกำลังฝันร้ายอยู่ใช่ไหม...ลูกกวาง?
“เสือ”
นั่นคือชื่อของเขา...
จะเป็นจะตายยังไง...เธอก็ไม่อยากจะสนใจ...
ถึงแม้ไม่เห็นหน้าแต่แค่ได้ยินเสียงของเขา ก็ทำเอากรรวีรู้สึกขนลุกขนพอง...
...เป็นอะไรนักหนาถึงได้ร้องโวยวายลั่นบ้านขนาดนั้นกันล่ะ..
ก็นะ...ปกติไม่มีอะไรก็ชอบทำเสียงใหญ่อยู่แล้วเหอะ!
ผ่านมาหลายปี...ความรู้สึกเกลียดที่มีต่อเธอจะเจือจางลงบ้างหรือเปล่า...
กรรวีไม่อยากประจันหน้ากับเขาเลยให้ตาย!..
“วอก...บอกให้ลุงหมึกเอารถออก...รีบพาพี่เสือไปส่งโรงพยาบาลก่อนเถอะลูก”
เสียงของมนต์สิงหาผู้เป็นมารดาเอ่ยกับลูกชายคนสุดท้อง ขณะกำลังประคองลูกชายคนโตออกมาจากห้อง และกำลังจะพาเขาลงบันไดไปที่ชั้นล่าง แต่ลูกชายคนโตกลับทรุดตัวลงนั่งอาเจียนอยู่ตรงนั้น
ซึ่งดูจากอาการที่กำลังเป็น...มันน่าจะรุนแรงจนยาสามัญประจำบ้านเอาไม่อยู่แล้วนั่นแหละ
“ผมพาไปเองดีกว่าครับแม่...เวลานี้ลุงหมึกคงยังไม่ตื่น”
หนุมานรีบขันอาสา แล้วพาตัวเองวิ่งลงมาจากชั้นบน
เขาก้าวเท้ายาวๆ ลงบันไดทีละสองขั้นอย่างรีบเร่ง…เมื่อเห็นพี่ชายของตัวเองกำลังเกร็งกับอาการปวดท้องอย่างหนักจนเกินจะทนไหว
เพราะโดยปกติพี่ชายคนนี้ของเขาจะ...อึด...ถึก...ทน...สมกับที่ชื่อมนต์พยัคฆ์เลยนั่นแหละ...แต่ไหงวันนี้ถึงได้กลายเป็นเสือหมดฤทธิ์ไปเสียได้...
กรรวีตัดสินใจตลบผ้าห่มออกจากตัว พลางก้มมองตัวเองในชุดนอน ก่อนเดินไปส่องกระจกแล้วหยิบหวีขึ้นมาสางผมอย่างไม่เร่งรีบเท่าไหร่
จากนั้นจึงเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วคว้าเอาเสื้อคลุมมาสวมทับให้มันดูเรียบร้อย...ก่อนปล่อยลมหายใจแล้วสูดเข้าไปอีกครั้งอย่างต้องการให้กำลังใจกับตัวเองสักพัก จากนั้นจึงตัดสินใจเปิดประตูออกไป
เจ้าของร่างบางชะโงกหน้า พร้อมกับกวาดนัยน์ตากลมโตมองไปทั่วบริเวณนั้น ก่อนชะงักงันเมื่อหันไปปะทะกับดวงตาคู่คม..ของอีกคนเข้าอย่างจัง!
คิ้วเข้มทอดขนานไปบนดวงตาสีรัตติกาล...ที่มีแรงดึงดูดมหาศาล...และมันสามารถสะกดทุกความเคลื่อนไหวให้หยุดอยู่กับที่...
กรรวีเบิกตากว้างเมื่อได้เจอกับสายตาดุ ๆ คู่นั้นเข้าให้ เพราะนัยน์ตาของร่างใหญ่ทำเอาเธอตัวชา..และยืนนิ่งอยู่ท่าเดิม…
หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปี...นั่นเป็นเพราะกรรวีต้องคอยหลบหลีกการเผชิญหน้า และเพื่อตัดปัญหาการเจอกันระหว่างเขาและเธอออกไป อีกทั้งเพื่อความสบายใจของทุกคนในบ้าน ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครเห็นด้วยนักกับข้อนี้...
แต่ขอทีเถอะ!...เพราะแบบนี้มันทำให้กรรวีรู้สึกสบายใจมากกว่าอะไรทั้งนั้น
เจ้าของร่างใหญ่ยังคงเป็นผู้ชายที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีใบหน้าหล่อเข้มคมคาย แบบที่ไม่ติดอะไรสักอย่าง และยังคงมีเสน่ห์กับเพศตรงข้ามอยู่เสมอยกเว้นเธอ
แต่ถึงให้หล่อมากแค่ไหน กรรวีก็ไม่อยากจะเข้าใกล้คนที่ได้ลั่นวาจา ว่าเกลียดเธอนักหนา...
ถึงแม้เวลาจะผ่านมานานหลายปี...แต่ปากของผู้ชายคนนี้ก็ร้ายพอ ๆ กับหน้าตาของตัวเองเลยเหอะ!...
“ลูกกวาง ตื่นแล้วเหรอ....มาช่วยแม่พยุงพี่เสือลงไปที่ด้านล่างก่อนเถอะลูก”
เสียงของมนต์สิงหา สามารถดึงกรรวีให้ออกมาจากภวังค์ความคิด ก่อนตัดสินใจเดินออกมาประจันหน้ากัน
แต่ทว่าหญิงสาวยังไม่ทันได้เดินไปถึงร่างใหญ่...ก็มีเสียงของอีกฝ่ายตวาดไล่ใส่เธอเสียงดังลั่น...
“ไม่ต้อง!..อย่ามาแตะตัวฉัน...ไป๊!..ยายเด็กขยะ!”
อ้วกก!.
นั่นไง...
กรรวีชะงักค้าง...พลางมองเจ้าของร่างใหญ่ที่ทำนัยต์ตาขุ่นขวางอีกทั้งยังเกรี้ยวกราดใส่ แต่หลังจากนั้นไม่นานอีกฝ่ายก็โก่งคออาเจียนออกมามากมายจนแทบจะหมดใส้หมดพุง จะเหลือก็แค่น้ำย่อยสีเหลืองใสปะปนออกมาในตอนท้ายด้วยเท่านั้น
ปากของมนต์พยัคฆ์คล้ายกับกรรไกร อีกทั้งยังมีนิสัยหยาบคาย ที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสักนิด...
การพัฒนาการทางด้านอารมณ์กับจิตใจ ไม่เคยพัฒนาทั้ง ๆ ที่อายุอานามก็น่าจะย่างเข้าเลขสามไปแล้วละมั้ง
หากเธอยังยืนอยู่ตรงนี้ อาจทำให้มนต์พยัคฆ์มีอาการหนักมากกว่าที่เห็นกันนั่นก็เป็นได้...
คนตัวเล็กกว่าทอดสายตามองเจ้าของร่างหนา ที่นอนแผ่หลาอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า...
หากเธอไม่เห็นแก่พ่อแม่ของเขา ที่รักเธออย่างจริงใจกับความสงบภายในบ้าน..จ้างให้เธอก็ไม่มีวันยอมเขาหรอก...เขาต้องการไล่เธอออกไปให้พ้นหน้า เหมือนกับที่เคยเจอกันทุกครั้งนั่นแหละ…
จนสุดท้ายกรรวีก็พาตัวเองหายหน้าหนีไปจากเขายาวๆ...ส่วนเขาก็ได้ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ นั่นจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ทั้งสองคนไม่เคยได้ประจันหน้ากันอีกเลย
ถามว่าตอนนี้กรรวีรู้สึกกลัวเขาไหม?…
บอกได้เลยว่า…
กลัวสิคะ...อย่าได้ถาม..
แต่ถ้าชั่งน้ำหนักทั้งสองอย่างในตอนนี้ ระหว่างกล้ากับกลัวนะ...ตาชั่งน่าจะเอียงมาทางกลัวมากกว่า...กลัวจนแทบล้มเลยนั่นหละ...
โลกมันกลมนะว่าไหม...เพราะในที่สุดทั้งสองคนก็วนกลับมาเจอกันอีกจนได้..
โบราณว่าไว้...เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้...มันก็ต้องหลบหลีกกันไปมาแบบนี้...
เสือคนละรอบอีกด้วยนี่สิ...เพราะมนต์พยัคฆ์แก่กว่ากรรวีถึงสิบสองปี...
ขุ่นเอาไว้ใน ใสเอาไว้นอก..แม่ชีสอนเธอมาแบบนั้น...
หลวงตาก็เช่นกัน...อภัยทานคือทานสูงสุด..ถึงได้ไม่มีปากมีเสียงเถียงเขาอยู่นี่ไง...
กรรวีคิดว่ากลับบ้านมาในวันนี้คงไม่ได้เจอกันแน่ๆ...แต่สวรรค์ก็ดันกลั่นแกล้งกันอย่างเห็นได้ชัดเจน...
หากเป็นเมื่อก่อน..คนเป็นมารดาต้องเอ็ดมนต์พยัคฆ์หากเห็นว่าลูกชายคนโตเกเรใส่ลูกสาวคนเล็กนั่นแหละ แต่ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน คนเป็นมารดาน่าจะต้องห่วงอาการของลูกชาย ที่กำลังเป็นอยู่นี่มากกว่าอะไรทั้งนั้น
“เสือ..ไหวไหมลูก?”
“แม่ครับ...ผม...โอ้ย!”
มนต์พยัคฆ์เอ่ยเรียกมารดาเสียงอ่อน ก่อนอุทานออกมาเสียงดัง ทำเอามนต์สิงหาถึงกับหน้าถอดสี...
เพราะแต่ไหนแต่ไรมาตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่...มนต์พยัคฆ์ไม่เคยเจ็บไข้ได้ป่วยหนัก ๆ เลยสักครั้ง…
มนต์พยัคฆ์ทิ้งหัวลงบนตักของคนเป็นมารดา แต่ทว่าได้ไม่นานนักเขาก็ตะแคงหัวออกจากตัก แล้ว...
“....อ้วกก!”
ออกมาด้วยใบหน้าแดงกล่ำ...และทำท่าหมดแรง
เจ้าของร่างหนานอนอาเจียนอยู่ท่านั้นอย่างต่อเนื่อง...เขาไม่มีแรงแม้จะหาเรื่องเอากับอีกคน หรือปฏิเสธ มือเล็กๆ ขาวๆ ที่ยื่นกระโถนส่งมาให้ ถึงแม้จะรู้ว่าเธอคือใครก็ตามที…
แล้วกรรวีก็พอจะรู้ว่าเสือร้ายอย่างมนต์พยัคฆ์...ชักเริ่มจะหมดฤทธิ์ไปบ้างแล้วนั่นแหละ
แต่ทว่าคิ้วสวยของหญิงสาวกลับเลิกขึ้นสูงเชิงสงสัย เมื่อได้เห็นสิ่งที่ชายหนุ่มอาเจียนออกมาทีหลังนั่น..
มันมี สีดำ ปะปนออกมาด้วย
คุณพระช่วย!
คุณเสือไปทำอีท่าไหน...ถึงได้ถูกคุณไสย์เล่นงานเข้าให้แบบนี้กันหละ..
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยาย SET ที่มีด้วยกันสามเรื่อง พระเอกของทุกเรื่องจะเป็นเพื่อนรักกัน แต่สามารถแยกอ่านได้ค่ะ
1.ต้องมนต์พยัคฆ์ แนวสายมูทั้งเรื่องค่ะ
2.จังหวะรักต้องมนต์ มีมูมาเกี่ยวข้องเล็กน้อย
3.ต้องมนต์ร้ายนายมาเฟีย มีมูเข้ามาเกี่ยวพันด้วยนิดหน่อยค่ะ
23.50 น.“พี่เสือ...” เสียงหวานเรียกหาเขาดังแว่วมาแต่ไกล...“หืม...เธอมาหาพี่อีกเหรอ?”มนต์พยัคฆ์ขานรับกับเอ่ยถามกลับแบบกึ่งหลับกึ่งตื่น“มารับลูกกวางสิคะ...ใกล้ถึงเวลาของเราแล้วค่ะ”“ที่ไหน...จะให้พี่ไปรับเธอได้ที่ไหน?”“พี่เสือรู้ว่าลูกกวางอยู่ที่ไหน?”สิ้นเสียงของกรรวี มนต์พยัคฆ์ก็มาปรากฏตัวอยู่ที่ด้านหน้าของต้นสาละ ที่ด้านบนของต้นมีดอกของมันดอกหนึ่ง กำลังมีแสงสีทองเปล่งประกายระยิบระยับสว่างวาบ ๆ และกำลังจะผละจากกิ่งลอยลงมาอย่างช้า ๆ ก่อนมาหยุดอยู่ตรงหน้าของชายหนุ่ม...เขารู้สึกตื่นเต้น ระคนประหลาดใจ แล้วก็อยากจะร้องไห้ เมื่อดอกไม้ดอกนั้นหายไป แล้วกลายเป็นหญิงสาวที่เขาโหยหามาแสนนาน..และไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้เธอคืนกลับมาอีกครั้ง“ลูกกวาง!”กรรวีโผเข้ากอดร่างสูงที่มัวแต่ยืนอึ้ง แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะกอดร่างเล็กของเธอเอาไว้อย่างแนบแน่นด้วยเช่นกันกอดกันอยู่อย่างนั้น...โดยไม่รู้ว่ามีสายตาอีกสองคู่แอบมองอยู่อย่างตกใจ...จนกระทั่งได้ยินเสียงเรียกของเพื่อนรัก ดังขึ้นมาจากด้านหลัง เพราะทนแอบดูอยู่ต่อไปไม่ไหว...“ไอ้เสือ!...มึงถูกผีต้นไม้นี่หลอกเอาแล้วนะ มันไม่ไช่ลูกกวางของมึงหรอก...”ชนธั
มนต์พยัคฆ์ยืนกอดอก ขณะแหงนคอมองต้นสาละที่มีความสูงราวยี่สิบเมตร ลำต้นที่มีดอกของมันทั้งตูมและผลิบานประดับอยู่ล้อมรอบจนถึงโคนต้น ส่งกลิ่นหอมละมุนชวนหลงไหล..คล้ายกับเชิญชวนให้เดินเข้าไปใกล้“ถ้ามึงคิดจะโค่นทิ้ง งั้นกูขอ”มนต์พยัคฆ์เอี้ยวคอหันมาพูดกับชนธัญ...ที่ยืนมองเขาอยู่ข้างหลัง...ก่อนจะหันกลับไปมองดอกสาละดอกหนึ่งที่มีลักษณะเหมือนกับดอกนั้นที่มันหายไปมนต์พยัคฆ์กำลังจะเอื้อมมือขึ้นไปจับ แต่กิ่งของดอกไม้กลับโน้มลงมาหาเขาซะเอง“เฮ้ย!เล่นกูซะกลางวันเลย สัสเอ้ย!” ชนธัญสบถใส่ ในจังหวะที่ก้าวถอยหลังมาสองสามก้าว เพราะรู้สึกไม่ค่อยจะไว้ใจกับต้นไม้ต้นนี้ที่เขาคิดว่ามันมีผีสิง…ยิ่งเขาต่อต้านมันเท่าไหร่ ดูเหมือนกับต้นไม้ต้นนี้จะรู้ และพยายามโต้กลับมาทุกครั้ง แล้วก็ชอบทำให้เขาเห็นอะไรแปลก ๆ แบบนี้ทุกที“แต่กูชอบ..ไหนมึงบอกจะเล่า..กูรอฟังอยู่...”เมื่อถูกมนต์พยัคฆ์ทวงถาม ชนธัญจึงเริ่มเล่าให้เพื่อนฟังต่อจากนั้นว่า“เมื่อสักสองเดือนก่อน..อยู่ ๆ มันก็โผล่ขึ้นมาเอง โดยใช้ระยะเวลาเจ็ดวันในการเจริญเติบโตเป็นต้นเท่านี้ได้...ขนกูลุกไปยันขนตูด..มึงเชื่อกูมั๊ย!”มนต์พยัคฆ์เลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นรับ อีกคนจึ
ต่อให้เกลียดแค่ไหน...ยังไงก็ต้องรัก...สุดท้ายก็ต้องจาก...ในที่สุดเวลาที่มนต์พยัคฆ์รู้สึกกลัวก็เดินทางมาถึง…ชายหนุ่มนั่งกุมมือของหญิงสาวอันเป็นที่รัก ไม่จากไปไหนเลยนานเป็นเวลาหลายชั่วโมง รวมไปถึงทุกคนที่พร้อมใจมารวมตัวกันอยู่ภายในห้องของกรรวี ที่ตอนนี้ดูแคบไปถนัดหญิงสาวนอนเหยียดยาวอยู่บนที่นอนนุ่ม สีหน้าดูดีขึ้นหลังจากที่พูดคุยเข้าใจกันดีแล้วทุกอย่าง รวมไปถึงการจากไปของเธอที่ใกล้จะถึงเวลาอีกในไม่กี่นาทีข้างหน้า...การจุติเป็นมนุษย์ของกรรวีไม่ได้ผ่านครรภ์ของมารดา แต่เกิดจากการสร้างกายหยาบของมนุษย์ขึ้นมา ด้วยมนตราชั้นสูงของผู้ที่มีฤทธิ์มาก...แล้วฝังดวงจิตของเธอเข้าไปไว้ในนั้น...เธอจึงไม่มีพ่อแม่...และไม่เคยถูกใครนำมาทิ้ง…มันเป็นความตั้งใจของเธอเองทั้งสิ้น...การจากไปก็เช่นกัน...มนต์พยัคฆ์ฟุบหน้าลงร้องไห้กับที่นอน เมื่อร่างบางที่เขากำลังกุมมืออยู่เริ่มสลายหายไปจนหมด และตรงตามเวลาที่เธอได้บอกเอาไว้ เหลือเพียงดอกไม้ดอกเดียวที่เธอให้เขาได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก ดอกไม้ประจำตัวของเธอ ที่มีสีชมพูอมเหลืองหรือแดง ด้านในสีม่วงอ่อนอมชมพู มีกลิ่นหอมมาก...หอมอบอวลไปทั่วห้อง ดอกไม้ที่มีเขาเป็นเจ
วาสุกรีเข้าไปรับร่างบางทันที ที่เห็นเธอก้าวเท้าออกมาจากห้องพระ ในสภาพอ่อนแรง ใบหน้าน่ารักปราศจากสีเลือด หน้าผากมนเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ บ่งบอกว่าหญิงสาวเหมือนจะไม่ไหวแต่ก็ยังฝืนใจเอ่ยกับพี่ชายทั้งสองคนด้วยน้ำเสียงพร่าเครือ“คนพวกนั้นคงไม่มารบกวนครอบครัวของเราแล้วนะคะ”“ลูกกวางไม่ต้องพูดอะไรแล้วนะ พี่จะเราไปพัก”หนุมานเอ่ยออกมาอย่างตะหนก เพราะเคยเห็นอาการของน้องสาวมีสภาพเดียวกันกับที่เขาเคยเห็นเธอที่บ้านโบราณในคืนนั้น…“ลูกกวางอยากไปหาพี่เสือ...พาลูกกวางไปหาพี่เสือนะคะ”วาสุกรีมองสบตากับหนุมาน ก่อนเลื่อนสายตามามองหน้าน้องสาว ที่กำลังมองเขาอยู่ก่อนแล้ว“ไอ้เสือมันสั่งไว้ว่าไม่อยากจะเจอเรา มันจะไม่ออกมาจากห้องถ้าลูกกวางยังอยู่ ”คำพูดตรง ๆ ที่ออกมาจากปากของวาสุกรีทำร้ายจิตใจกรรวีอย่างที่สุด...มนต์พยัคฆ์ไม่อยากเห็นหน้าเธอ ถึงแม้จะรู้ว่า...นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเขาและเธออย่างงั้นเหรอ?แรงสั่นไหวของน้องสาวในอ้อมแขน...บอกเขาได้ว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่ มันทำให้คนเป็นพี่ชายรู้สึกปวดหัวใจแทน แอบไปรักกันลึกซึ้งขนาดนี้โดยที่ไม่มีใครรู้ แล้วจู่ ๆ ก็มารับรู้เรื่องราวของทั้งคู่เอาตอนที่ต้อง
Ulasan-ulasan