LOGINเขาคืออสูรร้ายสำหรับเธอ เป็นบุคคที่ไม่น่าเข้าใกล้และควรถอยห่างเป็นที่สุด แต่ทำไมยิ่งถอยหนี เขายิ่งวิ่งเข้าใส่ แถมยังกระโจนร่างเข้าหาราวกับว่าเธอคือสมันเนื้อนุ่มที่น่าลิ้มลอง และไม่มีวันหยุดล่าหากไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ เมื่อโดนรุกหนักและมีเหตุจำเป็นที่ต้องยอมเป็นของเล่นของเขา ลูกแมวน้อยจึงจำยอมและจำใจทอดกายให้เขาเชยชม แต่ยิ่งชิดใกล้ เร่าร้อนด้วยเพลิงเสน่หา ความรู้สึกบางอย่างก็เบ่งบานในใจของทั้งคู่ไม่รู้ตัว
View Moreกรุงโรม ประเทศอิตาลี
ทิพย์ธาราเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อให้ทันเวลาที่อแมนดานางแบบสาวชื่อดัง จะเดินแบบในงานเปิดตัวเครื่องเพชรคอลเลกชันใหม่ เหตุผลที่เธอต้องเร่งรีบขนาดนี้เป็นเพราะว่า รองเท้าที่ทีมงานตระเตรียมไว้ให้อแมนดาเกิดไปไม่ถูกใจนางแบบสาวขึ้นมา อ้างว่าไม่เข้ากับชุดฟินาเล่ ชุดเด่นของงานที่จะสวมใส่ จอมเรื่องมากแห่งวงการนางแบบจึงบอกให้ทิพย์ธารานำรองเท้าที่เพิ่งซื้อใหม่มาให้แทน และต้องมาก่อนเริ่มงานด้วย งานนี้ผู้ได้รับคำสั่งจึงต้องรีบมาให้ทันเวลา
“รอด้วยค่ะ” ทิพย์ธาราร้องบอกเป็นภาษาอิตาเลียน เมื่อประตูลิฟต์กำลังจะปิดลง ร่างบางรีบแทรกเข้าไปในลิฟต์ทันที
“ชั้นไหนครับ” ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้แผงกดหมายเลขชั้นเอ่ยถาม
“สิบเจ็ดค่ะ” ทิพย์ธาราตอบ และเพิ่งรู้ว่าตนอยู่ท่ามกลางชายรูปร่างสูงใหญ่ห้าคน ข่มเธอเสียจนดูตัวเล็กลงไปถนัดตา แต่ละคนแต่งกายด้วยชุดสูทเนื้อดีสีดำ จะมีเพียงบุคคลเดียวที่สวมชุดสูทสีขาว แล้วเขาคือคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของเธอ
ประตูลิฟต์ถูกเปิดออกตามชั้นต่างๆ ตามความต้องการของคนโดยสารลิฟต์ที่ผลัดกันเข้าและออกเมื่อถึงชั้นนั้นๆ ทว่าหลังจากชั้นที่สิบเป็นต้นไป มีแค่คนเข้ามาภายในลิฟต์ ส่งผลให้ลิฟต์ตัวนี้คล้ายกับปลากระป๋องเข้าไปทุกที
ร่างของทิพย์ธาราเริ่มถอยร่นไปทางด้านหลังทีละก้าวเมื่อมีคนเข้ามาในลิฟต์ จนกระทั่งลิฟต์ถูกเปิดออกอีกครั้งเมื่อถึงชั้นที่สิบสาม สตรีวัยสวยใสสามคนเดินเข้ามาภายในลิฟต์ทำให้เธอต้องถอยร่นเข้าไปด้านในเพื่อให้มีพื้นที่สำหรับสามคนนั้น
ทิพย์ธาราหัวใจเต้นรัว เมื่อแผ่นหลังบางสัมผัสเบียดชิดกับแผงอกกว้างของชายที่สวมชุดสูทสีขาว กลิ่นกายบวกกับน้ำหอมของบุรุษด้านหลัง ทำหัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในความรู้สึกของเธอเวลานี้คือชายหนุ่มคนดังกล่าวเป็นคนที่น่าเข้าใกล้ ในขณะเดียวกัน เขาคือคนที่น่าถอยห่างมากที่สุดเช่นกัน
อเล็สซานโดร ดิมาร์ชีมองทิพย์ธาราผ่านแว่นตาสีชาเข้มที่สวมใส่ตั้งแต่เธอเดินเข้ามาภายในลิฟต์ รูปร่างบอบบาง ใบหน้าสวยหวานทำให้เขารู้สึกหัวใจสั่นแปลกๆ อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน แล้วยิ่งเรียวปากอวบอิ่มที่เคลือบด้วยลิปสติกสีนู้ดเปล่งประกายน่าสัมผัสเหลือเกิน จนเขาอยากจะนำริมฝีปากทาบทับและบดจูบให้หนำใจ อยากจะพิสูจน์นักว่าริมฝีปากที่เขาอยากลิ้มลองมีรสชาติอร่อยลิ้นมากแค่ไหน บวกรวมกับกลิ่นกายสาวที่โชยเข้ามาในโพรงจมูก เป็นความหอมที่ไม่ได้มาจากน้ำหอมชั้นเลิศ แต่มาจากเนื้อกายสาวโดยธรรมชาติ หอมกรุ่นด้วยกลิ่นแป้งกระป๋องบางเบา และที่น่าแปลกก็คือกลิ่นกายของเธอนั้น ปลุกเร้าความปรารถนาของเขาให้กระพือได้อย่างไม่ยากเย็น ซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ใบหน้าคมเข้มโน้มต่ำลงมาจนกระทั่งปลายจมูกโด่งสูดดมเรือนผมหอมกรุ่นกลิ่นแชมพูของเธอ จากนั้นเลื่อนลงไปที่ท้ายทอยและต้นคอระหงอย่างย่ามใจ
ทิพย์ธาราตัวแข็งดุจท่อนไม้ เมื่อลมหายใจอุ่นๆ ของชายหนุ่มตัวโตกระทบกับต้นคอของตน หัวใจของสาวน้อยแรกแย้มเต้นเร็วแรงจนแทบจะกระเด็นออกมาจากร่างกาย หญิงสาวพยายามเบี่ยงตัวหนีสัมผัสของชายแปลกหน้า หากแต่อุ้งมือหนาจับบ่าของเธอไว้มั่นอย่างถือสิทธิ์ บังคับไม่ให้สาวร่างเล็กขยับกายหนีได้ ลูกแมวน้อยทั้งกลัวและตื่นเต้นในคราเดียวกัน
“ตึ๊ง” เสียงลิฟต์ที่เดินทางมาถึงชั้นที่สิบเจ็ดดังขึ้น แล้วมันเหมือนเสียงระฆังช่วยชีวิตของทิพย์ธารา และพอประตูลิฟต์เปิดออกคนที่อยู่ในลิฟต์สองคนก็ก้าวเดินออกไป ทิพย์ธาราได้โอกาสจึงสะบัดตัวอย่างแรง ก่อนจะวิ่งออกไปจากลิฟต์ทันที โดยไม่หันหลังกลับมามองหน้าชายคนนั้นอีกเลย
“เราต้องได้พบกันอีกแน่สาวน้อย”
อเล็สซานโดร ดิมาร์ชี มาเฟียชื่อดังจากเกาะซิซิลี มองร่างที่วิ่งหนีไปด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา เขาอยากได้อะไรแล้วต้องได้ ไม่มีคำว่า ไม่ ในพจนานุกรมของเขาโดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง
ร่างสูงใหญ่เคลื่อนกายออกจากตัวลิฟต์ชั้นเดียวกับเธอ โดยมีลูกน้องคู่ใจเดินตามหลังมา เพื่อเข้าไปในงานเปิดตัวเครื่องเพชรคอลเลกชันใหม่ในฐานะเจ้าของงาน
ทิพย์ธาราก้าวเดินไปยังห้องส่วนตัวของนางแบบสาวที่ทางเจ้าของงานจัดเตรียมไว้ให้ด้วยขาอันสั่นเทาเพราะเธอยังไม่ลืมช่วงนาทีระทึกใจสดๆ ร้อนๆ ที่ผ่านมา แต่พอเข้ามาในห้องดังกล่าวแล้วยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ คนที่อยู่ในห้องก็ระเบิดความไม่พอใจทันที
“ทาร่าทำไมมาช้าจัง อีกไม่กี่นาทีงานจะเริ่มแล้วนะ”
อแมนดาวีนใส่ทิพย์ธาราตามประสาคนเอาแต่ใจ
“ตอนที่อแมนดาโทรมาสั่งให้เอาของมาให้ทาร่าอยู่ที่บ้านน่ะ กว่าจะไปเอาของที่อพาร์ตเมนต์ของคุณ แล้วกว่าจะมาถึงที่นี่ก็ต้องใช้เวลาหน่อยสิคะ” ทิพย์ธาราตอบขณะที่ส่งของให้อแมนดา
“อืมๆ ฉันลืมไป” เสียงของนางแบบสาวอ่อนลง “แล้วนี่หน้าตาซีดเชียวไม่สบายหรือเปล่า”
อแมนดาถามด้วยความเป็นห่วง ภายนอกคนอาจจะมองว่านางแบบสาวเป็นคนขี้วีน เรื่องมาก เอาแต่ใจตัวเอง แต่อแมนดาก็คอยช่วยเหลือครอบครัวทิพย์ธารามาตลอด
การช่วยเหลือของอแมนดาเกิดขึ้นเมื่อสี่ปีก่อน หลังจากพ่อเลี้ยงและมารดาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ทำให้ทิพย์ธาราเคว้งคว้างเหมือนลอยอยู่กลางอากาศไร้หลักยึดและพึ่งพิง เพราะมองไปทางใดล้วนแล้วแต่มืดมิด ครอบครัวของพ่อเลี้ยงไม่ชอบมารดาและเธอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงขับไล่เธอและน้องออกจากบ้าน เงินที่มีติดตัวอยู่ไม่มากนัก แต่มากพอที่จะหาห้องเช่าเล็กๆ อยู่อาศัยกันได้สามคนพี่น้อง
ทิพย์ธาราทำงานทุกอย่างเพื่อให้ตัวเธอและน้องอยู่รอด ตั้งใจไว้ว่าจะเก็บเงินสักก้อนเพื่อเป็นค่าตั๋วเครื่องบินกลับเมืองไทย ถิ่นฐานบ้านเกิดที่อบอุ่นมากกว่าอยู่ต่างแดน และที่ทิพย์ธาราได้มาทำงานเป็นสาวใช้ของนางแบบสาวเป็นเพราะอแมนดาต้องการสาวใช้คนใหม่ เข้ามาทำหน้าที่แทนคนเก่าที่ไม่สามารถทนกับนิสัยของเธอได้ โดยบอกผ่านมาเรียเจ้าของร้านเสื้อชื่อดังให้หาให้ และบังเอิญเหลือเกินที่ทิพย์ธาราทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดที่นั่น ทิพย์ธาราจึงสมัครเป็นสาวใช้คนใหม่ของอแมนดาทันที
Chapter 70อเล็สซานโดรเดินเข้ามาในห้องเวลาประมาณสี่ทุมเศษ ชายหนุ่มปรายตามองกระเป๋าเดินทางที่ถูกวางไว้ที่หน้าตู้เสื้อผ้า มองเลยผ่านไปที่เตียงกว้าง ใจของเขาหายวาบ เมื่อไม่เห็นร่างของทิพย์ธาราอยู่บนเตียง เท้าหนากำลังจะก้าวออกไปจากห้อง เพื่อไปที่ห้องของเดชดวง หากแต่บานประตูห้องน้ำถูกเปิดออกเสียก่อน ชายหนุ่มจึงหันมาตามทิศทางของเสียงเปิดประตูทันที“นึกว่าจะหนีไปนอนที่ห้องรอซซี่เสียอีก” อเล็สซานโดรอยากจะตบปากของตัวเองนักที่พูดประโยคแดกดันนี้ออกไป หญิงสาวระบายลมหายใจเพียงนิด ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเขา คิดว่าการที่เราจะจากใครสักคนน่าจะจากกันด้วยดี จะได้เก็บความทรงจำครั้งสุดท้ายไว้ในใจ เธอจึงเดินเลี่ยงไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบชุดนอนไปสวมใส่ที่ห้องแต่งตัว แต่ถูกร่างหนาของเขาขวางไว้“เดี๋ยวสิ รู้หรือเปล่าว่าวันนี้ผลตรวจออกมาว่ายังไง” ทิพย์ธาราเงยหน้ามองคนถาม เขาจะมาถามเธอทำไมทั้งๆ ที่รู้คำตอบนั้นดีอยู่แล้ว“รู้ค่ะ อแมนดาบอกทาร่าแล้ว วันนี้คุณสองคนก็ไปเลี้ยงฉลองครอบครัวใหม่ไม่ใช่เหรอ” หญิงสาวอดที่จะประชดเขาไม่ได้“หึงเหรอ” เขาถามยิ้มๆ เมื่อเห็นแววตาของเธอ ได้ยินน้ำเสียงที่ประชดประชันของลูกแมวน้อย
Chapter 69“ได้ ฉันจะไปจากที่นี่ พรุ่งนี้คุณซานโดรจะไปต่างประเทศ ฉันจะไปหาห้องเช่า ฉันจะไม่ให้เขาพบหรือเจอฉันอีกเลยตลอดทั้งชีวิต ฉันสัญญา” อแมนดาลุกขึ้นทันทีที่ได้ยินคำสัญญาจากศัตรูหัวใจ ใบหน้าสวยเฉี่ยวเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่สดใส เมื่อแผนการขั้นที่หนึ่งสำเร็จ“ฉันขอบใจเธอมากนะ แต่เธออย่าบอกใครเรื่องที่ฉันมาขอร้องเธอในวันนี้นะ” อแมนดากำชับ“รู้แล้ว ฉันจะไม่บอกใคร” ทิพย์ธารารับคำทั้งน้ำตา การสนทนาทุกอย่างจบสิ้นลงเมื่อร่างของบุคคลที่สาม ก้าวเข้ามาภายในห้องครัว“คุณอแมนดาครับ คุณซานโดรรออยู่ที่รถครับ” โรแบร์โตเดินเข้ามาหานางแบบสาวที่ห้องครัว หลังจากที่ปล่อยให้เจ้านายหนุ่มรอที่รถนานพอสมควร“ไปก่อนนะทาร่า เดี๋ยวคุณซานโดรจะคอยนาน” อแมนดาแย้มยิ้มให้คนที่อยู่ในครัว หมุนตัวเดินเฉิดฉายตรงไปที่รถยนต์คันงามที่จอดคอยอยู่ โรแบร์โตหันไปมองทิพย์ธาราที่มีน้ำตาไหลรินลงมาเป็นทาง เขาไม่รู้ว่าอแมนดามาพูดอะไรให้หญิงสาวที่แสนดีคนนี้เสียใจ ไม่เข้าใจเจ้านายของตัวเองเลยว่าเหตุใดเห็นก้อนกรวดดีกว่าเพชรเม็ดงาม แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไรเจ้านายหนุ่มของเขามีเหตุผลกับการกระทำนั้นเสมอหลังจากรับประทานอาหารเย็นสามคนพี่น้อ
Chapter 68ทิพย์ธาราตื่นขึ้นมาอีกทีเกือบห้าโมงเย็น หญิงสาวรีบก้าวลงจากเตียงเพื่อไปทำอาหารเย็นให้ทุกคนรับประทาน พอเธอก้าวเท้าออกมาจากห้อง ภาพของอเล็สซานโดรและอแมนดาเดินออกมาจากห้องส่วนตัวของนางแบบสาว ทั้งสองเดินคุยกันเลยผ่านร่างของเธอไป โดยไม่มีใครสนใจหรือถามไถ่เลยสักคน ทิพย์ธารารอให้ทั้งสองเดินลงไปถึงชั้นล่างก่อน จากนั้นเธอจึงเดินตามลงไป“ขอโทษที่นะคะวันนี้ลงมาช้าหน่อย” หญิงสาวก้าวเข้าในห้องครัว มือนุ่มเอื้อมมาหยิบผ้ากันเปื้อนสีขาวขึ้นมาสวม กำลังเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อหยิบอาหารสดมาปรุงแต่งเป็นอาหาร หากแต่เสียงของอาเธอร์ทำให้มือบางชะงักลงทันที“วันนี้คุณซานโดรกับคุณอแมนดาไม่รับประทานอาหารเย็นที่นี่ครับ ท่านทั้งสองจะไปทานอาหารที่โรงแรม” มือที่กำลังเอื้อมไปจับประตูตู้เย็นสั่นเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจเปิดบานประตูตู้เย็นตามเดิม หยิบผักและเนื้อสัตว์สองสามอย่างออกมา“ค่ะ ทาร่าจะทำอาหารให้เฉพาะเราสามคนพี่น้องก็แล้วกัน ขอบคุณนะคะที่บอกจะได้ไม่ต้องทำเยอะเสียของหมด” มือบางที่จับมีดอยู่สั่นเช่นเดียวกับน้ำเสียงที่สั่นไม่แพ้กัน อาเธอร์มองหญิงสาวร่างเล็กด้วยความรู้สึกสงสาร ไม่ทราบถึงเหตุผลที่เจ้านายหนุ่
Chapter 67“ยินดีด้วยนะ แล้วเธอจะทำอย่างไรต่อไปล่ะ” ปลายสายปากไม่ตรงกับใจ ต้องการให้ผลตรวจออกมาตรงกันข้ามมากกว่า อดแปลกใจเรื่องที่อเล็สซานโดรระหองระแหงกันไม่ได้ เพราะเห็นท่าทางของชายหนุ่มยามที่แสดงออกกับสาวชาวไทยแล้ว ไม่ต้องมีใครบอกก็รู้ว่าเขารักผู้หญิงคนนี้มากเพียงใด“กำจัดนังทาร่าน่ะสิ พรุ่งนี้ซานโดรจะไปอเมริกาหนึ่งอาทิตย์ มันเป็นโอกาสของเราที่จะจัดการกับนังทาร่าได้อย่างสะดวก” อเล็สซานโดรต้องเดินทางไปอเมริกาเพื่อเจรจาเรื่องธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาล จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเดินทางไปด้วยตัวเอง เพราะไม่มีใครตัดสินใจแทนได้ มันจึงเป็นโอกาสทองและโอกาสเดียวของอแมนดาที่จะจัดการกับทิพย์ธารา“เธอมีแผนหรือยัง” อีกฝ่ายถาม“ยังเลย แล้วเธอล่ะ”“พอมีแต่ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือเปล่า เอาเป็นว่าเรารอให้ซานโดรไปต่างประเทศก่อนดีกว่า แล้วค่อยคิดหาทาง” เจนนิเฟอร์ออกความเห็น“ก็ดีเหมือนกัน แค่นี้นะมีข่าวอะไรคืบหน้าแล้วจะโทรไปบอก”“อืม บายจ้ะ” เจนนิเฟอร์ตัดสายทิ้ง โยนโทรศัพท์ลงไปที่เตียงอย่างหงุดหงิด“ใครทำให้อารมณ์เสียจ๊ะคนสวย เดี๋ยวฉันจะทำให้อารมณ์ดีเองนะ” ฟิลิปโปลุกขึ้นนั่ง สวมกอดเจนนิเฟอร์ทางด้านหลัง มือใหญ่กอ