Masukศรายุทธกลับถึงบ้านก็เป็นเวลาดึกแล้ว ช่วงนี้เขาเขาไม่เห็นสินีนาถมารอต้อนรับเขากลับบ้านเหมือนอย่างเคยก็รู้สึกสบายใจขึ้น ที่อย่างน้อยก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดใจมากเหมือนอย่างเคย
หลังจากที่สินีนาถพูดเปิดใจกับเขาตอนนั้น เขายอมรับว่ายิ่งอยากกลับบ้านให้น้อยลง เพราะลำบากใจที่จะเจอเธอแล้วต้องคอยทำเหมือนว่าไม่รับรู้อะไร ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าเธอคิดอย่างไร
สินีนาถขออนุญาตให้มีเพื่อนผู้ชายมาหาเธอที่บ้าน นั่นเป็นการดีที่จะทำให้เธอได้เปิดใจให้คนอื่นบ้าง เขายินดีสนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ลึกๆ ในใจอยากให้เธอรีบแต่งงานแล้วย้ายออกไปด้วยซ้ำ เพราะเธอไม่ใช่ญาติของเขาโดยตรง และพ่อแม่ของศรายุทธเองก็เคยเตือนเรื่องนี้กับเขาแล้วว่ามันไม่เหมาะสม
แต่ติดตรงที่ว่าสิริพิชญ์ฝากให้เขาดูแลสินีนาถ เธอถึงยังอยู่ที่นี่ได้ในฐานะน้องสาวของสิริพิชญ์ เพราะศรายุทธไม่อยากเสียคำพูดที่ให้ไว้กับอดีตภรรยาของเขา
“พี่ยุทธเพิ่งมาหรือคะ” สินีนาถถามขึ้นขณะเดินลงบันได
“อืม แล้วนาถลงมาทำอะไรดึกๆ ดื่นๆ” ศรายุทธถามเธอ
“นาถลงมาอุ่นนมดื่มค่ะ พอดีนอนไม่ค่อยหลับ” สินีนาถบอกแล้วยิ้มให้เขา ก่อนจะขอตัวไปที่ห้องครัว
ศรายุทธมองตามแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เธอไม่ได้ตั้งใจมารอเขา สินีนาถแอบยิ้มเธอเข้าใจว่าศรายุทธถอนหายใจเพราะว่าเสียดายเธอ ที่เธอกำลังเริ่มคุยกับอินทัช
*********************
ศรายุทธนั่งอ่านเอกสารอยู่ในห้องของเขาอย่างตั้งใจ บัวบงกชเคาะห้องสามครั้งแล้วเปิดประตูยกถาดกาแฟเข้ามาวางไว้ตามหน้าที่ เขาปรายตามองเธอนิดหนึ่งก็ดูเอกสารต่อไป แล้วบัวบงกชก็หยิบแฟ้มที่อยู่มุมโต๊ะทำงานของเขากลับออกไปด้วย
หลังจากวันนั้นศรายุทธก็ให้คนไปสืบเรื่องของบัวบงกช และกำลังรอให้คนมารายงานเขา ในระหว่างนี้บัวบงกชก็ไม่ได้ขอเงินจากเขาอีก และความสัมพันธ์ของเขาและเธอยังเป็นปกติดีอยู่
สักพักเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีก แล้วศิรินุชก็เข้ามารายงานว่าคนของเขามาขอพบ ศรายุทธพยักหน้าอนุญาต พอคนของเขาเข้ามา เขาก็สั่งให้ล็อกประตูเพื่อไม่ให้ใครเข้ามารบกวน
“ได้เรื่องอะไรบ้าง” ศรายุทธถามคนของเขาด้วยความสนใจ
“ครอบครัวของคุณบัวแยกทางกันครับ เพิ่งแยกกันอยู่เมื่อหกเดือนก่อนนี้เอง ฝ่ายพ่อหนีไปอยู่บ้านภรรยาใหม่ ส่วนแม่ก็อยู่ที่บ้านแล้วเอาสามีใหม่มาอยู่ด้วย แล้วต่างฝ่ายต่างเกี่ยงที่จะส่งค่าเทอมของคุณบัว ซึ่งล่าสุดฝั่งสามีใหม่ก็ชวนแม่ของเธอไปเล่นการพนันจนต้องเอาบ้านไปเป็นหลักประกันไว้กับเจ้าของบ่อนด้วยเงินหนึ่งแสนบาท ทางเจ้าของบ่อนให้ผ่อนชำระก่อนหกหมื่นและเดือนถัดไปอีกสี่หมื่นบาท แต่คุณบัวหาเงินได้ทันและจ่ายหมดทั้งหนึ่งแสนแล้วได้โฉนดกลับคืนมาแล้วครับ” เขารายงานนายจ้างตามข้อมูลที่ไปสืบหามาได้
“งั้นก็คงไม่มีปัญหาแล้วสินะ” ศรายุทธพูดขึ้นมาอย่างใช้ความคิด
“ผมคิดว่าเป็นปัญหาครับ เพราะการที่คุณบัวหาเงินได้แบบนี้ ทำให้แม่ของเธอได้ใจ คนแถวนั้นบอกว่าเธอเริ่มเข้าบ่อนอีกครั้งโดยการชักจูงของสามีใหม่ครับ ในอนาคตคิดว่าคงเอาบ้านไปค้ำ เพื่อบีบให้คุณบัวหาเงินส่งไปให้อีกแน่นอนครับ” เขาบอกศรายุทธ ศรายุทธยิ้มอย่างพอใจที่ลูกน้องทำงานรอบคอบ
“งั้นติดต่อซื้อบ้านหลังนั้นมาเป็นของฉัน บีบให้แม่ของเธอยอมขายมัน แล้วโอนเป็นชื่อของฉันทันที” ศรายุทธบอก
เขาจะทำให้บ้านหลังนั้นเป็นของเขาโดยสมบูรณ์ อย่างน้อยก็ไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของพวกบ่อนการพนัน และไม่ใช้มารดาของบัวบงกชใช้มันมาบีบบังคับให้บัวบงกชต้องหาเงินส่งให้เธออีกต่อไป
*********************
อินทัชมาหาสินีนาถที่บ้าน เธอเชิญเขาอยู่ทานอาหารเย็นด้วย เพื่อให้แผนการที่ว่าเธอกำลังลองเปิดใจคุยกับคนอื่นนั้นแนบเนียนที่สุด เพื่อแผนการบางอย่างที่เธอคิดจะทำในอีกไม่นานนี้
“คุณนาถลงมือเองหรือเปล่าครับ” เขาถามเธอ
“นาถบอกแล้วไงค่ะทัช ให้เรียกนาถเฉยๆ ก็พอ เรียกเสียห่างเหินเชียว” เธอบอกเขาแล้วยิ้มหวานๆ มัดใจไปหนึ่งที
“ครับนาถ” อินทัชรับปากแล้วยิ้มให้เธอ
“แล้วตกลงว่านาถทำเองหรือเปล่าครับ” เขาถาม
“เปล่าหรอกค่ะ นาถทำกับข้าวไม่เก่ง แค่ไปเป็นลูกมือให้ป้านิ่มเท่านั้นเอง” สินีนาถบอก แล้วมองดูหน้าเฉิ่มๆ ของเขา
ดูอย่างไรเขาก็ไม่มีอะไรที่เทียบศรายุทธได้สักอย่าง ทั้งหน้าตา ความภูมิฐาน รวมถึงเสน่ห์ที่ศรายุทธมี คนอย่างอินทัชก็แค่หมากตัวหนึ่งของเธอเท่านั้น
“แล้วพี่เขยของนาถไม่กลับมาทานข้าวงเย็นด้วยกันหรือครับ” เขาถามเธอ
“ไม่หรอกค่ะ พี่ยุทธทำงานเลิกค่ะ กลับดึกแทบทุกวัน เราแทบไม่เจอกันด้วยซ้ำ นอกจากเวลาทานมื้อเช้าที่นาถจะได้เจอพี่ยุทธบ้าง แต่ก็แค่ไม่ถึงสิบนาที ทานอาหารเช้าเสร็จพี่ยุทธก็รีบไปทำงานต่อ” สินีนาถบอกอินทัช แล้วตักอาหารเอาใจเขา
อินทัชยิ้มกริ่มด้วยความปลาบปลื้มใจ เขาไม่คิดว่าสินีนาถที่เขาแอบมองมาตลอดที่เรียนด้วยกัน วันนี้จะตักอาหารให้เขา และกำลังคุยกับเขาอย่างเป็นกันเองแบบนี้
“งั้นถ้านาถไม่ว่า ผมคงต้องขอมาทานข้าวเช้ากับนาถได้หรือเปล่า จะได้มาแนะนำตัวกับพี่เขยคุณด้วย” เขาถามสินีนาถ กังวลว่าเธอจะลำบากใจที่เขารุกเธอแบบนี้
“ยินดีค่ะ” สินีนาถบอกแล้วยิ้มหวานๆ แสร้งทำเป็นว่าเอียงอายให้เขานั้นประทับใจ
“งั้นพรุ่งนี้ผมจะมาทานข้าวเช้าด้วยนะครับ” เขาบอกเธอ สินีนาถพยักหน้ารับแล้วใช้จังหวะที่อินทัชเผลอยิ้มมุมปากอย่างพอใจ
*********************
หลังจากที่บทรักของศรายุทธและบัวบงกชสิ้นสุดลง เขาก็รีบใส่เสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวกลับเหมือนอย่างเคย บัวบงกชลุกเดินไปกอดเขาเอาไว้แล้วอ้อนเขาให้คืนวันเสาร์นอนค้างกับเธอ
“ฉันขอคิดดูก่อนนะ” ศรายุทธบอก ค่อนข้างแปลกใจที่บัวบงกชขอเขาอย่างนี้ ปกติเธอไม่เคยอ้อนให้เขาต้องนอนค้างกับเธอเลยสักครั้ง
“นะคะ บัวอยากนอนกอดคุณ บัวคงฝันดีมากๆ แน่นอนเลย ถ้าได้นอนกอดคุณทั้งคืน ตั้งแต่อยู่กับคุณมา คุณเพิ่งค้างกับบัวแค่ครั้งเดียวเองนะคะ” บัวบงกชบอก แล้วอ้อนเขาต่อ ทำให้ศรายุทธอดคิดไม่ได้ว่า เธอกำลังจะขอเงินก้อนใหญ่จากเขาอีกหรือเปล่า
“ก็ได้” ศรายุทธรับปากแล้วจูบหน้าผากเธอ เขาพยายามไม่คิดกับเธอไปมากกว่าคู่นอน แต่นานวันเข้ากลับผูกพันกับเธอมากขึ้นจนบางครั้งก็ติดกับดักลูกอ้อนนั้นทั้งๆ ที่ห้ามใจแล้ว
“ขอบคุณนะคะ” บัวบงกชบอกแล้วเดินไปส่งเข้าที่ประตู ก่อนจะกลับมานอนที่เตียงด้วยรอยยิ้ม
เธอรู้ว่าตอนนี้เธอเองรู้สึกดีกับเขามาก อยากอยู่ใกล้เขา อยากเอาใจเขา อยากทำให้เขามีความสุข จนถามตัวเองว่ามันคือความรักหรือเปล่า แต่ก็ไม่สามารถตอบหัวใจของตัวเองได้ เลยคิดไปว่ามันอาจเป็นแค่ความผูกพันที่เกิดจากเรื่องบนเตียงเท่านั้นที่ทำให้เธอรู้สึกดีๆ กับเขาอย่างนี้
“ถ้าวันหนึ่งบัวรักคุณขึ้นมา แล้วถึงเวลาที่ต้องไป อย่างน้อยบัวก็ไม่เสียใจที่ได้อยู่กับคุณ” บัวบงกชพึมพำออกมาแล้วยิ้มอย่างเขินอายที่ตัวเองพูดอะไรซึ้งๆ อย่างนั้นออกไป ทั้งๆ ที่พอถึงเวลานั้นเธอจะทำได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ
*********************
ศรายุทธกลับถึงบ้านก็เป็นเวลาดึกแล้ว ช่วงนี้เขาเขาไม่เห็นสินีนาถมารอต้อนรับเขากลับบ้านเหมือนอย่างเคยก็รู้สึกสบายใจขึ้น ที่อย่างน้อยก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดใจมากเหมือนอย่างเคยหลังจากที่สินีนาถพูดเปิดใจกับเขาตอนนั้น เขายอมรับว่ายิ่งอยากกลับบ้านให้น้อยลง เพราะลำบากใจที่จะเจอเธอแล้วต้องคอยทำเหมือนว่าไม่รับรู้อะไร ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าเธอคิดอย่างไรสินีนาถขออนุญาตให้มีเพื่อนผู้ชายมาหาเธอที่บ้าน นั่นเป็นการดีที่จะทำให้เธอได้เปิดใจให้คนอื่นบ้าง เขายินดีสนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ลึกๆ ในใจอยากให้เธอรีบแต่งงานแล้วย้ายออกไปด้วยซ้ำ เพราะเธอไม่ใช่ญาติของเขาโดยตรง และพ่อแม่ของศรายุทธเองก็เคยเตือนเรื่องนี้กับเขาแล้วว่ามันไม่เหมาะสมแต่ติดตรงที่ว่าสิริพิชญ์ฝากให้เขาดูแลสินีนาถ เธอถึงยังอยู่ที่นี่ได้ในฐานะน้องสาวของสิริพิชญ์ เพราะศรายุทธไม่อยากเสียคำพูดที่ให้ไว้กับอดีตภรรยาของเขา“พี่ยุทธเพิ่งมาหรือคะ” สินีนาถถามขึ้นขณะเดินลงบันได“อืม แล้วนาถลงมาทำอะไรดึกๆ ดื่นๆ” ศรายุทธถามเธอ“นาถลงมาอุ่นนมดื่มค่ะ พอดีนอนไม่ค่อยหลับ” สินีนาถบอกแล้วยิ้มให้เขา ก่อนจะขอตัวไปที่ห้องครัวศรายุทธมองตามแล้วถอนหายใจอย
บัวบงกชที่นอนคิดมากทั้งคืนเพราะศรายุทธไม่พอใจเธอก็มาทำงานตามปกติ เธอหันซ้ายหันขวากลัวว่าจะเจอผู้ชายคนนั้นอีก เพราะศิรินุชบอกว่าเธอให้ฝ่ายบุคคลแจ้งเตือนเขาไปแล้วว่าไม่ให้ทำเรื่องอย่างนั้นอีก บัวบงกชเลยกลัวว่าเขาจะโกรธแล้วยิ่งหาเรื่องเธอบัวบงกชก้าวเข้าไปในลิฟต์ ประตูกำลังจะปิดแต่ก็มีมือมาขวางเอาไว้ก่อน ประตูเลยเปิดออกอีกครั้ง เป็นชายหนุ่มคนเมื่อวานอย่างที่เธอกลัว“พี่ไปด้วยคนสิครับ” เขาบอกแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และดูไม่เป็นมิตรสำหรับบัวบงกชเขากดปิดลิฟต์แล้วก็มีมือใครบางคนมาขวางเอาไว้อีกรอบ เป็นศรายุทธที่ขวางประตูลิฟต์นั้น เขาไม่อยากเชื่อว่าเขาจะมาแอบดักรอเธอขึ้นลิฟต์ และพอเจอพนักงานหนุ่มจอมตื้อแอบรอเธออยู่ก่อนหน้านี้ เขาก็ยิ่งแทบทนไม่ไหว แต่ถ้าจะรังแกพนักงานตัวเล็กๆ ก็คงดูไม่ดีอย่างที่บัวบงกชบอก เขาเลยต้องอดทนและทำตัวให้นิ่ง“ผมไปด้วยคนสิ” เขาพูดเสียงเรียบ แล้วก้าวเข้าไปในลิฟต์บัวบงกชดีใจที่อย่างน้อยก็มีศรายุทธอยู่ในลิฟต์ด้วย ถึงจะกังวลเรื่องที่เขากำลังโกรธเธออยู่ แต่ก็อุ่นใจที่เขาอยู่ตรงนี้“วันนี้ท่านประธานมาเช้าจังเลยนะคะ” บัวบงกชพูดกับเขา“พอดีอยากลองเข้างานเช้าดู เผื่อว่าจะได้เห็
ตลอดระยะที่บัวบงกชมาฝึกงานที่บริษัทของศรายุทธ ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่มีใครสนใจเธอเลย แต่เพราะเธอทำงานอยู่หน้าห้องของศรายุทธจึงไม่มีใครกล้าแวะเวียนเข้ามาจีบ เพราะชั้นที่บัวบงกชอยู่นั้นมีแต่ระดับผู้บริหารนั่งอยู่ทั้งนั้นดังนั้นเวลาที่บัวบงกชเดินเข้ามาในบริษัทและกำลังขึ้นลิฟต์เท่านั้นที่เป็นนาทีทองของคนที่สนใจเธอ“สวัสดีครับ” เสียงทักทายดังขึ้นขณะที่บัวบงกชอยู่ในลิฟต์กับเขาเพียงลำพัง“สวัสดีค่ะ” บัวบงกชตอบกลับและยิ้มให้ตามมารยาท เธอไม่เคยสังเกตเลยว่าชายหนุ่มนั้นแอบสนใจตั้งแต่วันแรกที่เธอมาทำงานแล้ว“ชื่อน้องบัวใช่หรือเปล่าครับ” เขาถามเธอ“ค่ะ” บัวบงกชตอบตามมารยาท ในใจลุ้นอยากให้ประตูลิฟต์รีบเปิดเพราะไม่อยากสนทนากับเขานานๆ เกรงว่าศรายุทธรู้แล้วจะไม่พอใจเธอเข้าตอนนี้ทางบ้านของเธอกำลังเดือดร้อนหนัก จากที่เคยคิดว่าจะไม่ขอเงินจากเขา แต่ว่าก็ไม่สามารถทำได้แล้วในตอนนี้ และเธอต้องทำตัวดีให้มากๆ ไม่ให้เขาต้องไม่พอใจเธอ“น้องบัวมีแฟนหรือยังครับ” เขาถามเธอตรงๆ เป็นนัยให้รู้ว่าอยากจะจีบเธอ“มีแล้วค่ะ” บัวบงกชโกหกออกไป ประตูลิฟต์เปิดออกชั้นที่ชายคนนั้นกด แต่เขาก็กดปิดประตู ไม่สนใจว่าจะเข้าทำงานทันเวลาหร
บัวกงกชมารายงานตัวกับฝ่ายบุคคลของเลิศประจักษ์กรุ๊ปแล้วถูกส่งตัวให้ไปหาเลขานุการของศรายุทธศิรินุชคือสาวใหญ่วัยสี่สิบห้าปีที่เป็นเลขานุการของศรายุทธที่ทำงานกับเขามาตั้งแต่บิดาของเขายังไม่วางมือจากตำแหน่งประธานบริหารศิรินุชพอใจที่บัวบงกชใส่กระโปรงนักศึกษาที่ไม่รัดรูปและยาวคลุมเข่า ซึ่งหาได้ยากในสมัยนี้ เธอสอนวิธีจัดตารางงาน วิธีการดูตารางเวลานัดหมาย และขั้นตอนการนำเอกสารไปให้ศรายุทธเซ็น รวมถึงวิธีชงกาแฟให้ศรายุทธด้วยว่าเขาดื่มกาแฟประเภทไหน และควรเสิร์ฟเวลาไหนบ้าง“ท่านประธานปกติจะเข้างานไม่เกินเก้าโมงเช้า กาแฟถ้วยแรกเสิร์ฟตอนสิบเอ็ดโมง บ่ายสอง กับสี่โมงเย็นตามลำดับ” ศิรินุชอธิบายกับบัวบงกช เธอพยักหน้าเรียนรู้งานได้อย่างรวดเร็วศรายุทธเดินเข้ามาพร้อมกับผู้ติดตามอีกสองคน เขามองหน้าบัวบงกชด้วยสีหน้าที่ดูเคร่งขรึมและเป็นทางการกว่าปกติ แล้วพยักหน้าทักทายศิรินุชเบาๆ ก่อนจะเข้าห้องไปกับผู้ติดตาม เพื่อคุยธุระของเขาศิรินุชรอจนผู้ติดตามของศรายุทธออกมาจากห้อง เธอก็เคาะห้องสามที ก่อนจะเปิดประตูพาบัวบงกชไปแนะนำตัว“ท่านประธานคะ นี่บัวบงกช เป็นเด็กฝึกงานที่จะมาฝึกงานในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาค่ะ ดิฉันจะใ
ศรายุทธมองสินีนาถที่นั่งพิงหัวเตียง เอาผ้าห่มปิดหน้าด้วยความเขินอาย แล้วกำลังนึกหาคำพูดอะไรสักอย่างในสถานการณ์อย่างนี้“ดีขึ้นหรือยัง” เขาถามเธอ“ค่ะ ดีขึ้นแล้ว” เธอตอบเขาเสียงเบา แกล้งหลบตาเขาด้วยความเขินอาย“เมื่อกี๊นาถคงเพ้อเพราะพิษไข้ งั้นคืนนี้เดี๋ยวพี่ให้คนมานอนเป็นเพื่อนนะ เผื่อเกิดอะไรขึ้นจะได้พาไปหาหมอทัน” ศรายุทธบอกด้วยความห่วงใย“แล้วนาถตกบันได้ด้วยนี่ เป็นอะไรมากหรือเปล่า” ศรายุทธถามต่อเมื่อเห็นว่าสินีนาถไม่ได้พูดอะไร“นาถตกบันได้ด้วยหรือคะ แต่ว่าไม่ได้เจ็บตรงไหนเลย คงไม่เป็นอะไรมั้งคะ” สินีนาถบอกยังไม่เลิกทำน้ำเสียงว่าเธอเขินอายเขา“งั้นพี่ไปตามเด็กมาอยู่เป็นเพื่อนนะ” ศรายุทธบอกแล้วทำท่าจะลุกออกไป“พี่ยุทธคะ ไหนๆ เรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว พี่ยุทธคงรู้แล้วว่านาถคิดอย่างไรกับพี่ยุทธ” สินีนาถเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น หลังจากที่ศรายุทธพยายามที่จะไม่พูดถึงมันเขานิ่งเงียบไป แล้วนั่งลงที่เดิม เพื่อฟังสิ่งที่สินีนาถจะพูด“นาถรักพี่ยุทธค่ะ รักมานานแล้ว และนาถก็บอกตรงๆ เลยนะคะ ว่านาถอยากให้พี่ยุทธรักนาถตอบบ้าง นาถอยากดูแลพี่ยุทธเหมือที่พี่พิชญ์ดูแล อยากทำให้พี่ยุทธมีความสุขเหมือนที่พี่พิชญ์
ศรายุทธให้คนที่ไว้ใจได้เอารถไปส่งให้บัวบงกชที่บ้าน เขาสั่งให้เรื่องนี้เป็นความลับสูงสุดไม่ให้คนของเขาบอกเรื่องบัวบงกชให้ใครรู้ โดยเฉพาะสินีนาถเพราะไม่อยากให้เธอคิดมากและเป็นกังวล เพราะจิตใจผู้หญิงยากที่จะเข้าใจอาจนำพาเรื่องร้ายมาในภายหลังได้ บัวบงกชรับรถจากคนของศรายุทธมาเธอก็ยิ่งรู้สึกติดหนี้บุญคุณเขามากขึ้นเรื่อยๆ คิดว่ายิ่งเอากับเขามากเท่าไร เธอก็จะหลุดจากเขาได้ยากขึ้นเท่านั้น เธอจึงตั้งใจว่าจะขอเขาเท่าที่ต้องใช้จ่ายจริงๆ และไม่ฟุ่มเฟือย เพื่อตอนที่เธอไปจากเขาจะได้ไม่รู้สึกผิดมากนัก ถึงจะใช้ร่างกายเข้าแลก แต่ความสุขสบายที่เธอได้รับนั้นมันมากเกินกว่าคนที่ตัดสินใจทำอาชีพอย่างเธอจะได้รับ บัวบงกชขับรถไปที่มหาวิทยาลัยแล้วจอดไว้ที่คณะอื่นเพราะไม่อยากให้เพื่อนเห็น เธอทำเรื่องยื่นฝึกงานที่บริษัทของศรายุทธตามที่เขาบอก โดยมีเพื่อนบางคนเห็นเธอลงชื่อบริษัทเลิศประจักษ์เป็นอันดับแรกต่างก็เตือนเธอว่าที่นี่ไม่รับนักศึกษาฝึกงาน เพราะงานที่นั่นมีความลับสูง เสี่ยงให้คนภายนอกล่วงรู้ข้อมูลไม่ได้ บัวบงกชอ่านหนังสือติวสอบกับเพื่อนๆ จนถึงช่วงเวลาบ่ายแก่ๆ เธอก็ขอตัวกลับเพราะไม่มีเรียนต่อ แล้วเดินแยกไปขึ




![นางบำเรอ [5P]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)


