กรงรักราชาโจร
ตอนที่ 16 (ปล้น)
ฟากฝั่งของจาห์มาล์ ในเวลาวิกาลอันมืดสนิท ผ้าคลุมหัวสีดำทมิฬปกปิดใบหน้าแทบมิดชิด เว้นไว้เพียงดวงตาเท่านั้นเพื่อใช้ในการมอง เพ่งพิศมองไปยังตัวบ้านเป้าหมายที่ไม่ได้รู้การณ์ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น กำลังพลที่ตระเตรียมพลเพื่อทำการที่วางไว้ ซุ่มมองความเคลื่อนไหวของเหยื่ออย่างเงียบ ๆ รอเวลาที่เหมาะสมในการปล้น
"เราจะทำการณ์นี้เป็นครั้งสุดท้าย...ในเมื่อเราพบสิ่งที่เราตามหาแล้ว ก็ไม่มีอันจำเป็นต้องทำต่อ" จาห์มาล์ยื่นคำสัตย์ขึ้นมาลอย ๆ ท่ามกลางความเงียบสงัดและมืดมิดในพุ่มไม้ลับตา
"กระผมวิงวอนให้เป็นเช่นนั้นมาแสนนาน...แต่ที่ผ่านมาไม่อาจทัดทานท่านได้ ด้วยความเอาแต่ใจของท่าน" ริฎวานเอ่ยสำทับด้วยความเห็นดีเห็นงาม นึกโล่งใจกับนายเหนือหัวที่คิดจะหยุดสิ่งที่เคยทำ
"นี่ว่าเรารึ?" คนหัวร้อนหันขวับมองหน้าทันที เมื่อริฎวานเอ่ยแซวทีเล่นทีจริง
"ชู่~~ เดี๋ยวมีใครได้ยินครับ" อดที่จะกลั้นขำแทบไม่ได้ กับสีหน้าและท่าทางของนายเหนือหัว ที่แทบอยากบีบคอเขาให้ตาย
"ฝากไว้ก่อนริฎวาน"
"ครับ"
ชี้หน้าอย่างคาดโทษจนริฎวานส่ายหัว ความไม่ยอมคนมีมาแต่ไหนแต่ไร นิสัยเบื้องลึกที่ยากจะเปลี่ยนแปลง ก็คงมีแต่คนอย่างริฎวานกระมังที่ทนได้
คนที่คิดคดต่อผู้อื่น ไม่ต้องให้กฎหมายตัดสิน แต่จะเป็นเขาที่มอบผลของการกระทำตอบแทนให้ สิ่งลับที่ลักลอบทำโดยบิดามารดาไม่ล่วงรู้ ถึงแม้จะรู้ดีว่าเป็นสิ่งที่ผิดก็ยังดื้อรั้นที่จะทำ ด้วยเป้าหมายที่ยังไม่สำเร็จ เลยต้องเดินหน้าต่อ...
เรื่องราวเหล่านี้เป็นเรื่องง่ายนิดเดียวหากคนอย่างบิดาเขาจะจัดการ แต่สิ่งที่ทำเขานั้นมีนัยเป็นตัวแปร เพื่อไม่ให้ไร้ประโยชน์จึงกระทำร่วมกับเป้าหมายที่แท้จริง และเมื่อเดินหน้ามาแล้วก็ยากที่จะถอย นั่นคือสิ่งที่คิดในก่อนหน้า แต่ตอนนี้สิ่งที่รอคอยตระเวนตามหามานาน ได้คืบคลานเดินเข้ามาหาเองแล้ว....
จัสซีเนีย คนที่หักหลังจนเขาเจ็บปวดแทบเสียคน ลวงหลอกจนเขาเกิดความเคียดแค้นฝังใจ ผันกลายเป็นคนโหดร้ายป่าเถื่อนยิ่งกว่าเดิม เมื่อคนที่ปักใจมั่นหนีหายไปกับชายอีกคน พร้อมกับทรัพย์สินจำนวนหนึ่งที่เขาเก็บไว้ ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจเพราะรักเธอ
ตามหาอยู่เนิ่นนานก็ไร้วี่แวว แต่แล้วโชคก็เข้าข้างเมื่อได้นำพาหล่อนมาหาถึงที่....
"ไอ้ชั่วนั่นมันคิดคดบิดาเรา มันสมควรได้รับกรรมที่เราจะมอบให้...ไม่ต้องรอให้เวรกรรมตามทัน แต่เรานี่แหละจะสนองมันเอง" สายตาเข้มดุเพ่งพิศอย่างมุ่งมั่นด้วยความเจ็บใจ อยากจัดการคนร้ายให้สาสม
"ที่จริงท่านไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ มือของท่านไม่ควรแปดเปื้อนเช่นนี้"
"เราอยากจัดการมันด้วยตนเอง...กล้าดียังไงคดโกงธุรกิจครอบครัวของเรา"
"กำลังพลพร้อม รอเพียงคำสั่งจากท่านเท่านั้นครับ"
"ตอนนี้ยังไม่เหมาะ รอดึกอีกสักประเดี๋ยว"
"ครับ"
การปรึกษาเจรจาพูดคุย แต่สายตาเพ่งพิศจับจ้องไปยังเรือนเป้าหมาย เหล่าคนที่อาศัยเริ่มเข้านอนพักผ่อน เนื่องจากเวลาดึกมากแล้ว แต่ก็ยังมีใครคนหนึ่งที่เดินเวียนวนอยู่ระเบียง ดวงไฟส่งแสงสลัวให้เห็นเพียงเงาที่ไม่ค่อยชัดเจน
"ไอ้นั่นมันกำลังจะไปไหน?" ความสงสัยก่อเกิดแก่จาห์มาล์ เมื่อเห็นความเคลื่อนไหวของชายคนหนึ่ง
"นั่นน่าจะเป็นบุตรชายของหุ้นส่วนท่านเชคฮ ที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศช่วยงานได้ไม่นาน...ว่าแต่จะออกไปไหนในเวลาวิกาลเช่นนี้" ริฎวานที่สืบเสาะข้อมูลอย่างถี่ถ้วน ออกความเห็นแก่นายเหนือหัว สายตาก็จ้องมองอย่างจับสังเกต
"เราจะตามมันไป....คนที่อยู่ที่นี่จงฟังเรา หากเมื่อใดที่ไฟในเรือนมืดสนิท ให้รออีกสามสิบนาที จากนั้นก็ทำการปล้นทันที เอามาเพียงที่มันคดโกงคนอื่นมาโดยประมาณก็เพียงพอราว 2,369,743 เดอร์แฮม(AED) แล้วไม่ต้องรีรอให้นานเกินไป รีบจัดการกระจายให้ชาวบ้านแถบยากไร้ทางชายแดนทันที และการณ์นี้จงเงียบที่สุด ห้ามปลิดชีวิตผู้ใด เอาเพียงเงินเท่านั้น เราให้เวลาพวกเจ้าเพียงสิบนาที เรียบร้อยแล้วก็เจอกันยังที่พัก...แยกย้ายได้!" เสียงอันน่าเกรงขามออกคำสั่งอย่างหนักแน่น เหล่าพลฝีมือดีที่ได้รับการฝึกฝนจนเก่งกาจ ทำภารกิจสำเร็จทุกครา จึงมั่นใจว่าอย่างไรก็สำเร็จเป็นแน่แท้ "ไปกับเราริฎวาน"
"ครับ"
เมื่อสั่งการเสร็จสิ้นจาห์มาล์และริฎวาน สืบเท้าเดินสะกดรอยตามชายผู้นั้นอย่างเงียบ ๆ ทางเดินที่มืดรำไรมีแสงไฟสลัวสาดส่องแสงสีนวล ไม่ได้ยากมากนักกับการมองเห็น
“มีบ้านอีกหลังอย่างนั้นรึ?” ความฉงนใจทำให้เปล่งวาจาออกไปลอย ๆ
“คงเป็นบ้านของบุตรชายนายหุ้นส่วนท่านเชคฮนั่นแหละครับ จากที่สืบมาเห็นว่าแต่งงานมีครอบครัวแล้วระหว่างอยู่ต่างประเทศ” ริฎวานให้คำตอบ เพื่อคลายความสงสัยแก่นายเหนือหัว
“คดโกงจนมั่งมีสินะ” จาห์มาล์ยกยิ้มมุมปากดั่งสมเพช เม็ดเงินที่ได้มาสร้างความมั่งคั่ง แต่ช่างน่าเวทนานัก เพราะมันมาจากความเลวทรามฉ้อโกง แต่ยังคงหน้าหนาภาคภูมิใจในสิ่งที่มี “เราไม่ปล่อยมันไว้แน่”
“เอาอย่างไรต่อดีครับ” ริฎวานถามความเห็น
“นายเข้าไปตัดไฟบ้านนี้ทั้งหลัง รอจังหวะพร้อมกับบ้านใหญ่ แล้วเราจะเข้าไปจัดการทันที”
“ครับ”
“แยกย้ายได้”
จาห์มาล์ออกคำสั่งตามประสบการณ์ที่เคยทำ จากนั้นก็เริ่มปฏิบัติการตามหน้าที่ของแต่ละคน รอจังหวะของการชิงปล้นของเหล่าบริวาร
แสงสว่างจากดวงไฟของบ้านหลังใหญ่เริ่มดับลงเกือบทุกดวง ทิ้งจังหวะเวลาให้พอเหมาะกับการพักผ่อนสนิทในยามวิกาลของเหล่าผู้คน
เงาตะคุ่มของกลุ่มคนย่องเบาดุจแมวทราย ไร้เสียงสืบเท้าดังเล็ดลอดให้ได้ยิน เหล่าบริวารฝีมือดีเตรียมพร้อมสำหรับการชิงทรัพย์ได้เริ่มขึ้น รวมไปถึงฝั่งของจาห์มาล์และริฎวานเช่นกัน อาศัยแสงจันทร์สาดทอแสงรำไรช่วยในการมอง
ปั่ก! อึก! ด้ามปืนกระแทกเข้ากับท้ายทอยของเป้าหมายจนสลบ ร่างกายสูงฟุบลงกับพื้นแข็งทันที ด้วยฝีมือของจาห์มาล์ที่เก่งกาจด้านการต่อสู้
“เรียบร้อยครับ” ริฎวานที่ตามมาสมทบ ลากคนที่ถูกทำร้ายหลบซ่อนในมุมลับตา
“อืม...ค้นให้ทั่ว”
(“ฮาดี้คะ”)
เสียงเรียกที่มาพร้อมกับเเสงเทียน ทำให้จาห์มาล์และริฎวานรีบหาที่หลบซ่อนในมุมมืด
(“ที่รัก...คุณอยู่ไหนคะ ไฟดับฉันกลัวค่ะ ฮาดี้”) เสียงสืบเท้าลงบันได เริ่มดังมาใกล้นั่นทำให้คนที่ลักลอบเข้ามาต้องลีบตัวให้เล็กที่สุด พลางคอยมองตามเงาเสียงนั้นที่บ่งบอกว่าเป็นหญิง
“เสียงนี่?” จาห์มาล์ที่แสนจะคุ้นหูกับน้ำเสียงนี้ ฉงนใจเพียงลำพัง แต่ยังไม่ได้มั่นใจว่าจะใช่คนในความคิดหรือไม่
สองเท้าเปลือยเปล่าค่อย ๆ เดินลงบันไดมา จากนั้นก็เริ่มเดินมุ่งหน้าไปยังตู้ไฟ พร้อมสอดส่องสายตาหาคนรักในความมืดสลัว ที่หล่อนพร่ำเพรียกหาแต่ว่าไร้การโต้ตอบ หล่อนไม่แม้แต่จะสังเกตว่ามีใครด่อมมองไม่ละสายตา เพราะว่ามีความหวาดกลัวครอบงำ
“จัสซีเนีย!”
“ท่านครับ”
เมื่อแสงเทียนสาดส่องกระทบใบหน้าของเจ้าของเสียง ทำเอาจาห์มาล์ที่ลอบมองต้องตกใจ ใบหน้าที่คุ้นเคยและละม้ายคล้ายอีกคนในอดีต ที่แทบเป็นคนเดียวกันกับคนที่ถูกขังอยู่ตอนนี้ ทำให้เขาเผลอสบถออกมาอย่างแปลกใจ ทำให้ริฎวานต้องรีบจับแขนรั้งไว้เพื่อย้ำเตือนสติ อีกนัยนึกเกรี้ยวโกรธจนแทบอยากกระโจนใส่ แล้วปาดคอหล่อนให้ตายลงตรงหน้าดั่งความแค้นที่มันสุมในอกมานานแสนนาน
(“ฮาดี้....ที่รักคะ”) หล่อนยังคงเพรียกหากคนรักดังเดิม โดยไม่รู้เลยว่ามีคนมองตลอดเวลา
“เราต้องออกจากที่นี่ครับ”
“ดูนายไม่สะทกสะท้ายเอาเสียเลย...รู้อะไรแล้วไม่บอกเราใช่ไหมริฎวาน”
เสียงพูดกระซิบกระซาบ ความใคร่รู้ของอีกคนก็มีมาก แทบอยากจะออกไปประจันหน้าให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ถูกริฎวานทัดทานไว้ แววตาที่เผลอไผลทำให้จาห์มาล์ต้องออกปากถามทันที มันมีอะไรที่เจ้าตัวไม่รู้อีกหรือไม่
(“นั่นใคร? ฮาดี้เหรอคะ?”)
เงาดำวิ่งฝ่าความมืดจากด้านหลังของหญิงสาว ทำเอาหล่อนรีบหันหน้ามาทันที แต่ก็ไม่พบเจอผู้ใด เลือกเปล่งเสียงเรียกคนรักตามความคิด เพราะไม่ได้คิดไกลว่าจะมีใครอื่นกล้าย่างกรายเข้ามา
“มันยังไงกันแน่ริฎวาน!” เมื่อหลุดออกมาไกลจากบ้านเรือน จาห์มาล์รีบกระโจนกระชากคอเสื้อของริฎวานทันทีด้วยความอารมณ์ร้อน แววตาดุเปล่งรัศมีอันน่ากลัว จ้องมองริฎวานด้วยความโมโห
“ที่นี่ไม่เหมาะสมที่จะเล่า” ไม่แม้จะปัดป้องมือของผู้เป็นนายออกจากตัว ใจเย็นค่อยเจรจาเพราะรู้นิสัยนายเหนือหัวดี
“เห็นเราเขลามากนักหรือไง ทำไมไม่ยอมปริปากบอกอะไรสักอย่าง” คนโมโหยังคงไม่ยอมปรน กำหมัดแน่นจนมือสั่นเทา ง้างออกสุดแขนดั่งพร้อมปะทะใส่ใบหน้าของริฎวาน
“เราต้องกลับที่พักเสียก่อน” ยังคงพูดดีเฉกเช่นดังเดิม แต่กับอีกคนนั้นแทบลุกเป็นไฟ
ผั๊วะ ตุบ! เมื่อไม่ได้ดั่งใจ ถูกปฏิเสธในความใคร่รู้ หมัดหนักสาดปะทะใส่ใบหน้าของริฎวานเต็มแรง จนหน้าหันร่างกายเซถลาแทบล้มลง แต่ยังคงทรงตัวให้ยืนมั่นต่อหน้าผู้เป็นนาย ไร้เสียงโอดครวญในความเจ็บปวด แม้จะเจ็บชาตรงใบหน้าและมุมปากก็ตาม
“เราอยากรู้เรื่องราวนังแพศยาตอนนี้! และเดี๋ยวนี้!”
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 15(ภาพจำตลอดกาล)ถึงวันเวลาบุตรคนที่สองของจาห์มาล์ถือกำเนิด นับเป็นความยินดีปรีดาที่ได้มาซึ่งบุตรชาย พระโอรสตัวน้อยที่เค้าโครงใบหน้าค่อนไปทางมารดา ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดีทุกประการ และองค์หญิงจัสทีน่าก็ช่างแสนจะเห่อน้องชายที่เพิ่งคลอดได้ไม่ถึงเดือน"ฮะมีสเรามีน้องแล้วนะ น้องของเราน่ารักเหมือนเราเลย" องค์หญิงจัสทีน่าว่าขึ้นอย่างอวดอ้าง ในขณะที่กำลังนั่งเล่นในสวน มีอัยนูนที่นอนนิ่งอยู่ข้างกาย อีกทั้งยังมีพี่เลี้ยงคอยดูแลปรนนิบัติในทุกย่างก้าว "เราตั้งชื่อน้องชายเองด้วยนะ ให้ชื่อว่าจาห์เนีย""ขอรับ...แล้วจาห์เนียแปลว่าอะไรหรือองค์หญิง" ฮะมีสในวัยเก้าขวบตอบรับอย่างเห็นตาม เขาไม่เคยขัดในสิ่งที่องค์หญิงจัสทีน่าปรารถนา ตามด้วยย้อนถามในพระนามขององค์ชาย"แปลเหรอ? เราก็ไม่รู้เหมือนกัน คิกคิก" องค์หญิงตัวน้อยพูดเจื้อยแจ้ว ทำเอาพี่เลี้ยงที่นั่งฟังถึงกับอมยิ้ม ชอบใจในจินตนาการที่เดียงสาของจัสทีน่า"อ้าว""ก็เราเอาชื่อท่านแม่กับท่านพ่อบวกกัน บวกเหมือนเลขที่โรงเรียนไงครูสอนมา อยากให้มันเยอะต้องบวก มีจาห์เนียมาเพิ่มก็ต้องเป็นบวก...เอ๊ะ! หรือจะบวกกันให้หมดเลยเป็น จัสซีมาล์จาห์เน
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 14(สัตว์เลี้ยงขององค์หญิง)"ท่านแม่ขา" เสียงเจื้อยแจ้วขององค์หญิงตัวน้อยที่นอนหนุนขาของมารดาเอ่ยถาม หันหน้าเข้าหาท้องกลมใหญ่ที่ใกล้คลอด มือป้อม ๆ ขององค์หญิงจัสทีน่า ลูบคลำด้วยความแผ่วเบา"ว่าอย่างไรคะองค์หญิงของแม่" ผู้เป็นมารดาที่นั่งเอนหลังพิงกับหัวเตียง มือหนึ่งลูบหัวเพื่อขับกล่อมบุตรสาว ขานรับเมื่อองค์หญิงจัสทีน่าพร่ำเรียก"เมื่อไหร่น้องจะออกมาเล่นเป็นเพื่อนลูกคะ" จินตนาการด้วยการเฝ้ารอน้องที่อยู่ในท้องของมารดา"อยากเจอหน้าน้องแล้วเหรอคะ" ผู้เป็นมารดาเอ่ยถามด้วยความเอ็นดู"อยากเจอแล้วค่ะ" องค์หญิงจัสทีน่าให้คำตอบ พร้อมกับกดปลายจมูกเล็กเชิดรั้นสัมผัสลงท้องกลมของมารดา มีการขยับเคลื่อนไหวของทารกน้อยในครรภ์ เหมือนกับตอบรับพี่สาวที่เฝ้ารออยู่ด้านนอก"รออีกหน่อยนะคะ อีกไม่กี่วันน้องก็จะมาแล้ว องค์หญิงจะเลี้ยงน้องช่วยแม่ไหมคะ" ผู้เป็นมารดาให้คำตอบ จากนั้นจึงเอ่ยถามอย่างลองเชิงบุตรสาวที่ยังไร้เดียงสา"ต้องเลี้ยงค่ะท่านแม่ ลูกรักน้อง พี่น้องต้องรักกันค่ะ ท่านปู่กับท่านย่าบอกแบบนี้" คำสั่งสอนของปู่กับย่า องค์หญิงจัสทีน่าจดจำได้ดี ครั้นเข้าเฝ้าทีไรต้องได้สิ่งที่มีประ
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 13(วุ่นทั้งวัง)วันเวลาล่วงใหญ่ผ่านไป การใช้ชีวิตคู่ก็ชื่นมื่นสุขสม ทุกอย่างดำเนินไปตามเจตนารมณ์ของคนทั้งสอง ลูกน้อยที่เคยอยู่ในท้อง ออกมาท่องโลกกว้างมาจนอายุครบสี่ปีและยังมีทารกน้อยในท้องอีกหนึ่งคนที่จวนจะคลอดในอีกไม่กี่วันข้างหน้าองค์หญิงตัวน้อยเป็นที่รักของทุกคน ความสดใสเจื้อยแจ้วเดียงสา ทำให้ราชวังที่เงียบเหงามีสีสันสดใส และวุ่นวายในเวลาเดียวกัน“จัสทีน่า! องค์หญิงอยู่ไหนลูก” เสียงของบิดาตะโกนเรียกขาน เมื่อบุตรสาวตัวน้อยไม่รู้ว่าแอบหนีไปเล่นซุกซนที่ไหน“คิก คิก” เสียงหัวเราะชอบใจเมื่อคนที่อยู่บนต้นไม้ มองไปเห็นบิดากำลังเดินตรงมา สายตาก็กวาดมองหา ทว่าก็ไม่เจอคนที่หลบซ่อน มันทำให้หล่อนชอบใจ“องค์หญิงเพคะ องค์หญิง” เสียงของพี่เลี้ยงตะโกนเรียกหา ทว่าจัสทีน่าองค์หญิงตัวน้อยก็ไม่ยักจะขานรับ“จัสทีน่า” เสียงมารดาแว่วดังตามมา ความวุ่นวายในวังมีไม่หยุดหย่อน สีสันที่ทำเอาเหล่านางในถึงกับเหนื่อยหอบได้ทุกวี่วัน ก็องค์หญิงตัวน้อยชอบแอบหนีไปเล่นเพียงลำพัง แล้วให้คนไล่ตามหา เหมือนกับว่าหนูน้อยชอบใจที่ได้กลั่นแกล้งปั่นหัวผู้คน“ท่านพ่อเดินมาทางนี้แล้ว จะเห็นเราไหมนะ” จัสท
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 12(ยอมป้ะล่ะ?)หลังจากสร้างความสบายใจให้กับจัสซีเนียเสร็จสิ้น จาห์มาล์ก็กลับเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัว เพื่อสะสางสิ่งที่ต้องทำ เตรียมพร้อมสำหรับการที่จะพาจัสซีเนียไปพักผ่อนตามคำบัญชาของมารดา ที่ห่วงลูกสะใภ้หนักหนา ทว่ากับมีบางอย่างให้ฉุกคิดขึ้นมาในหัว"ส่งมาหยาเรียบร้อยใช่ไหม?" เขาเอ่ยถามเมื่อรับรู้ถึงการเข้ามาในห้องของริฎวาน"ขอรับ" ตอบรับด้วยน้ำเสียงสุขุม"ได้ไปดูทาเธียน่าบ้างหรือไม่" มันคือสิ่งที่ฉุกคิดขึ้นมาได้เลยเอ่ยถาม ตั้งแต่วันที่เขาสำเร็จโทษของทาเธียน่า ก็ไม่มีทีท่าจะไปพบหน้าหล่อนอีกเลย ได้แต่ถามไถ่จากริฎวานเท่านั้น เป็นครั้งคราวที่นึกถึง"กระผมเพิ่งแวะไปเยี่ยมตอนไปส่งคุณมาหยาขอรับ" ริฎวานให้คำตอบ"นางเป็นอย่างไรบ้าง" จาห์มาล์ยืนมือไขว้หลัง ทอดสายตามองออกไปยังทัศนียภาพเบื้องหน้าอย่างไร้เป้าหมาย ครุ่นคิดถึงเรื่องราวในอดีตที่พบเจอมา ดั่งกับว่าเป็นนิยายปลำปลา ไม่เคยคิดว่าชีวิตหนึ่งจะต้องมาเจอสิ่งเหล่านี้ ไม่เคยคิดว่าจะต้องพบกับความเจ็บปวดและมีปมในใจ ทั้งที่เกิดมาพร้อมศักดินาที่สูงส่งในเชื้อพระวงศ์ คิดแล้วก็ตลกสิ้นดี"เหมือนเดิมขอรับ เซื่องซึม ไม่พูดไม่จาและ
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 11(อธิบาย)"เธอ!""พระชายา"จัสซีเนียที่เดินมาหวังจะเข้าพบพระสวามี บรรจบพบเข้ากับมาหยาพอดิบพอดี กับที่หล่อนนั้นเปิดประตูออกมา มาหยาฉีกยิ้มให้แล้วโค้งตัวทำความเคารพ แต่กับจัสซีเนียหล่อนคิ้วขมวดชนกัน งุนงงกับการที่มาหยาเดินออกมาจากห้องทำงานของพระสวามีในยามนี้เพี๊ยะ! ไม่ทันจะได้ถามหาความจริง สิ่งที่เห็นทำให้จัสซีเนียเลือดขึ้นหน้า ปรี่ประชิดตัวมาหยาแล้วกระแทกฝ่ามือใส่จนใบหน้าสวยของมาหยาหันไปตามแรง ทำเอาคนสนิทที่เดินประกบหลังมาถึงกับเบิกตากว้างตกใจ ไม่คิดว่าพระชายาที่กำลังอารมณ์ดี จะมีความโมโหรุนแรงเช่นนี้เพียงชั่วพริบตาเดียว มันทำให้พวกหล่อนตั้งหลักไม่ทัน"ท่านพี่!" และสิ่งที่ทำให้ตะลึงยิ่งกว่านั้น คือจาห์มาล์เปิดประตูออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน มันทำให้หัวใจของจัสซีเนียวูบไหว คาดหวังว่าพระสวามีคงไม่ตลบหลังหล่อนใช่ไหม? ภาพที่เห็นทำให้คิดไกล ดวงตาสั่นไหวด้วยความหวาดหวั่น กระนั้นก็ย่างสามขุมเข้าหาจาห์มาล์ที่ยืนทำหน้างุนงง"โอ๊ย ๆ น้องใจเย็น ฟังพี่ก่อน...จัส จัส พี่เจ็บ ท้องอยู่นะ" แต่ต้องร้องโอดครวญด้วยความเจ็บแสบ จนเรียกชื่อของจัสซเนียเพียงพยางค์เดียว เมื่อหล่อนฟาดฝ่ามื
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 10(ทางแยก)"คิดจะกำจัดฉันเหรอ มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก กว่าจะได้เข้ามาในนี้ไม่ใช่ง่าย ๆ ฉันต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ" มาหยาที่เผลอมาได้ยิน สิ่งที่พระนางเอื้อนเอ่ยทำให้มาหยากำมือแน่นด้วยความแค้นใจเรื่องราวที่องค์รัชทายาทบาดหมางกับพระชายานับว่าเป็นข่าวดีไม่น้อยที่จาห์มาล์พูดระบายตอนเมา เพราะมันทำให้หล่อนตะล่อมจาห์มาล์ได้ง่ายขึ้น จนเขายอมพาหล่อนเข้ามาในวัง นานทีเขาจะไปหาที่ฮาเร็ม หล่อนจะทิ้งโอกาสไปได้อย่างไรความว้าวุ่นก่อเกิดทำให้มาหยาถึงกับนั่งไม่ติดที่ เดินวนอย่างใช้ความคิด เพื่อหาทางได้อยู่ในวังต่อ เดินคิดทวนอยู่นานหลายนาที ความคิดมาดร้ายจึงบังเกิด"ฮึ! พระชายาคงไม่ถือสาหรอกมั้งที่จะใช้สามีร่วมกัน เพราะที่ผ่านมาองค์รัชทายาทก็เคยร่วมเตียงกับหม่อมฉันนะเพคะ" มาหยาที่มีความคิดมาดร้ายในหัว หล่อนยืนพร่ำคนเดียวในห้องนอนรับรอง มโนภาพใบหน้าของพระชายาด้วยความปรีดา หากว่าได้เห็นในสิ่งที่จะผูกมัดให้ตนได้อยู่ต่อก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูทำให้มาหยาสะดุ้งตัวหลุดจากภวังค์ความคิด ไม่สบอารมณ์เมื่อมันเป็นการรบกวนสิ่งที่จินตนาการไว้อย่างสวยหรู"มีอะไรคะ" มาหยาเปิดประตูออกมา แล้