กรงรักราชาโจร
ตอนที่ 17 (ทาเธียน่า)
“นางคือทาเธียน่า” ริฎวานที่มองแล้วว่าอย่างไรนายเหนือหัวผู้ดื้อรั้นคงไม่ยอม ตนเลยต้องเป็นฝ่ายยอมเอ่ย ในสิ่งที่รับรู้มา ที่ตัดสินใจปิดบังเรื่องนี้ นั่นเพราะอยากให้นายผู้ดื้อรั้น ได้มีความคิดตรองด้วยตัวเอง พยายามเอ่ยเป็นนัยหลายครั้งให้คิดตาม แต่กลับไร้วี่แวว
“ใคร!?” เสียงกร้าวเอ่ยถาม พร้อมกับจดจ้องมองหน้าริฎวานอย่างดุดัน
“ที่ท่านพบเจอเมื่อสักครู่ นางเป็นพี่สาวฝาแฝดของจัสซีเนีย ใช้กลอุบายลวงหลอกใช้ชื่อน้องสาว นางทำเช่นนี้มาหลายคน จนท่านกลายเป็นเหยื่ออีกคน กระผมก็เพิ่งทราบเรื่องราวไม่นานมานี้ และเพิ่งทราบเช่นกันว่านางคือคนรักของฮาดี้บุตรชายของหุ้นส่วนของท่านเชคฮ ทาเธียน่าในตอนนั้นทะเยอทะยานเฉกเช่นเดียวกับพ่อและพี่ชายนาง ต้องการเชิดหน้าชูตา และนางคิดว่าท่านแล้นแค้นยากไร้ จึงคิดตีจากไป และสุดท้ายก็ได้เจอกับฮาดี้จึงตามกันไปอยู่ต่างประเทศ โดยไม่สนใจคำห้ามปรามของบิดา และต่อมาบิดาพร้อมพี่ชายของนางก็ทำการทุจริตยักยอกเงิน จากการธุรกิจที่ร่วมหุ้นกับบริษัท asr อยู่หลายหน จนท้ายที่สุดโดนท่านจุดไฟเผาเพื่อสังเวยความผิดแทนกฎหมาย”
“แล้วทำไมไม่บอก ห๊ะ! เป็นใบ้หรือไงกัน! ปล่อยให้เราเป็นไอ้โง่เง่า โดนสตรีหน้าเงินลวงหลอกเนี่ยนะ!”
คำตอบที่ได้ฟังทำเอาจาห์มาล์ควันแทบออกหู เสียงแข็งกร้าวตะเบ็งลั่นท่ามกลางความมืด ชี้หน้าตำหนิคนสนิทด้วยอารมณ์ขุ่นแค้น ไม่คิดสนว่าใครจะมาได้ยิน ในเมื่อความเกรี้ยวโกรธครอบงำ อารมณ์เลือดร้อนพร้อมปะทุเป็นประกายไฟสุมทรวง การกระทำที่ผิดย้อนแย้งกฎหมาย ใช่ว่าจะไม่กระฉ่อนเข้าหูผู้รักษาบ้านเมือง แต่ทุกการวางแผนนั้นแสนจะรอบคอบแยบยล จนคดีนั้นผันกลายเป็นอุบัติเหตุไป ไม่สามารถสืบเสาะหาต้นตอที่แท้จริง บางคดีก็ต้องยอมด้วยอำนาจเงินที่มากโขยื่นให้
"ประทานอภัยขอรับ...กระผมยอมรับผิด" ได้แต่โค้งหัวยอมรับผิด ทั้งที่ความตั้งใจ อยากให้นายเหนือหัวคิดตรองได้เอง
"ใช่! เจ้าผิด"
ความสุขของเพื่อนเริ่มเลือนหายไป ตั้งแต่ที่คนรักพรากจากอย่างไม่ไยดี แม้ว่าจะเป็นคนเลือดร้อนด้วยอารมณ์ที่มีเป็นนิสัย แต่ก็ไม่เคยมีความคิดมาดร้ายต่อผู้ใด แต่แล้วความเคียดแค้นจากการถูกกระทำ ก็เข้าครอบงำจนยากจะทอดถอน.....ในฐานะเพื่อนวิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าแทบทุกวัน ช่วยผลักดันชี้ทางแห่งความสุขให้แก่เพื่อนที่เขารัก ด้วยความรั้นที่มีเป็นทุนเดิมยากนักที่ริฎวานจะขัดได้ นอกจากปล่อยไปตามสิ่งที่มันจะเกิด แล้วให้เพื่อนได้สัมผัสทุกอย่างด้วยตนเอง บัดนั้นความเชื่อจึงจะบังเกิด
"โง่เง่าสิ้นดี!" สบถเสียงกร้าวอย่างโมโห พร้อมปล่อยมือจากคอเสื้อริฎวาน
"อากาศหนาวเหน็บ กลับที่พักเถิดขอรับ" ความห่วงฉันท์มิตรยังคงไม่เลือนหาย
"แพศยาเช่นนั้นเราไม่มีวันปล่อยลอยนวลเป็นแน่" แต่จาห์มาล์หาสนใจต่อวาจาของริฎวาน สองมือกำแน่นอย่างโกรธแค้น ดวงตาแดงก่ำด้วยความโมโหร้าย ยิ่งนึกถึงอดีตทีไรยิ่งคับแค้นใจ
"เรื่องราวมันผ่านมานานแล้ว ทิ้งไว้ให้เป็นเพียงอดีตได้ไหมขอรับ กระผมไม่อยากให้ท่านทุกข์ตรมในใจ อดีตท่านก็ไม่ได้เปิดเผยฐานะตนเอง ก็ไม่แปลกที่คนทะเยอทะยานอย่างทาเธียน่าจะผันใจ เมื่อพบกับใครที่ตรงตามอุดมคติที่นางวาดไว้" ริฎวานชี้แนะด้วยความห่วงใย ไม่อยากเห็นเพื่อนรักต้องใจหม่นหมอง ในใจเต็มไปด้วยความแค้นและความเกลียดชัง
"หน้าเงินสิไม่ว่า!" แต่คนที่เจ็บแค้นเหมือนจะไม่โอนอ่อนตามแม้แต่น้อย
"ทว่าน้องสาวฝาแฝดของนางแตกต่างโดยสิ้นเชิง น้อยคนนักจะรู้จัก แฝดผู้น้องไม่ชอบเผยตัวตน จนคนคิดว่าทาเธียน่าเป็นลูกสาวเดียวของบ้าน"
"อะไรก็ช่าง...ฝาแฝดก็ย่อมไม่ต่างกัน เจ้าจะเอาอะไรมามั่นใจในนิสัยเบื้องลึกของคนที่ไม่เคยรู้จัก"
ริฎวานที่เห็นต่างแย้งขึ้นทันทีทันใดในความคิด กอปรกับสิ่งที่เห็นและสัมผัสได้ แต่ผู้เป็นนายของเขานั้นยังตั้งมั่นในความมั่นใจที่มี จนเอ่ยสรรพนามเปลี่ยนไป ริฎวานรู้ดีว่าตอนนี้เขากำลังร้อนดั่งไฟ ที่กำลังลุกโชติช่วงชัชวาล จึงทำได้เพียงถอนลมหายใจเบา ๆ เท่านั้น ครั้นจะพูดต่อมีหวังได้เกิดการปะทะอีกครา
"ท่านจะรับรู้ได้เอง เมื่อได้สนิทสนมคลุกคลี"
"ใครอยากคลุกคลีกับคนพวกนั้นกัน"
คนเอาแต่ใจยังคงมุ่งมั่นต่อไป แม้ริฎวานจะพยายามตะล่อมให้ผ่อนปรน ก็ดูจะไร้ผลคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามโชคชะตา
"กลับเถิดขอรับ ป่านนี้พลสีเลือดจัดการเรียบร้อย จวนใกล้ถึงที่พักแล้ว" ไม่แคล้วส่ายหัวเบา ๆ พลางยกยิ้มอ่อน เมื่อเห็นแววตาของนายเหนือหัวที่ดูพิรุธวอกแวก
"อืม"
----------
"ค่าแรงพวกเจ้าอยู่ที่ริฎวาน"
((ครับ))
เหล่าพลพรรคยืนเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ รอต้อนรับผู้เป็นนาย หลังจากทำหน้าที่จบสิ้น เสียงเข้มเอื้อนเอ่ยกล่าวขาน ก่อนจะเดินมุ่งไป ด้วยมาดนิ่งขรึมเข้ากระโจมในเวลาเช้ามืด มีเพียงเหล่าคนทำครัวและเวรยามเท่านั้นที่เริ่มตื่นมาทำหน้าที่
"ท่านครับ"
"เราอยากพักผ่อน อย่าให้ใครกวนใจเราในยามนี้"
สีหน้าที่ไม่สู้ดี ทำเอาริฎวานนึกห่วงอาทร การเรียกขานที่ไร้การมองแม้เพียงเสี้ยวสายตา จาห์มาล์ทำเพียงเดินผ่านหน้าไปเท่านั้น
สองเท้าย่างกรายเดินผ่านประตูเข้ามาในกระโจม สายตาบรรจบเข้ากับจัสซีเนียที่นอนนิ่งบนโซฟาตัวยาว และมีสาวใช้นอนอยู่เบื้องล่าง ทั้งสองนางไม่รู้สึกตัวสักนิด ว่ามีคนกำลังจับจ้องมองอยู่
"อื้อ...จะนอน" เสียงอู้อี้ในลำคออย่างนึกรำคาญ เมื่อจาห์มาล์ใช้เท้าเขี่ยซัลมาหวังปลุกให้ลุกตื่น "อุ๊ย!...นายท่าน"
"ออกไป" เเม้น้ำเสียงสั่งการจะแผ่วเบา แต่ก็แสนจะน่าเกรงขาม จนซัลมานั้นรีบลุก หอบเครื่องนอนกรูออกไปทันที
ความมืดที่มีเพียงแสงรำไรจากด้านนอกสาดส่องเข้ามา เรือนร่างอรชรที่นอนนิ่ง ดวงหน้าที่เห็นไม่ชัดเจน แต่กลับทำเอาคนร่างสูงมองแทบไม่วางตา ยิ่งย้อนนึกหวนคืนวันในสิ่งที่กระทำไปอย่างขาดสติไตร่ตรอง ความรู้สึกผิดเริ่มผุดขึ้นในใจ แต่ความปากแข็งไม่อาจยอมรับได้ต่อหน้าคนสนิท
"เราไม่รู้" เสียงเพรียกในใจ ในจังหวะที่ช้อนตัวคนนอนหลับขึ้นแนบอก ก่อนจะนำพาไปแล้ววางบนเตียงอย่างเบามือ หยิบห่มผ้าผืนหนาคลุมกายของหล่อน จากนั้นจึงหย่อนก้นนั่งเก้าอี้จ้องมองคนที่นอนนิ่งสนิทบนเตียงอย่างรู้สึกผิด "ขอโทษด้วย"
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 15(ภาพจำตลอดกาล)ถึงวันเวลาบุตรคนที่สองของจาห์มาล์ถือกำเนิด นับเป็นความยินดีปรีดาที่ได้มาซึ่งบุตรชาย พระโอรสตัวน้อยที่เค้าโครงใบหน้าค่อนไปทางมารดา ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดีทุกประการ และองค์หญิงจัสทีน่าก็ช่างแสนจะเห่อน้องชายที่เพิ่งคลอดได้ไม่ถึงเดือน"ฮะมีสเรามีน้องแล้วนะ น้องของเราน่ารักเหมือนเราเลย" องค์หญิงจัสทีน่าว่าขึ้นอย่างอวดอ้าง ในขณะที่กำลังนั่งเล่นในสวน มีอัยนูนที่นอนนิ่งอยู่ข้างกาย อีกทั้งยังมีพี่เลี้ยงคอยดูแลปรนนิบัติในทุกย่างก้าว "เราตั้งชื่อน้องชายเองด้วยนะ ให้ชื่อว่าจาห์เนีย""ขอรับ...แล้วจาห์เนียแปลว่าอะไรหรือองค์หญิง" ฮะมีสในวัยเก้าขวบตอบรับอย่างเห็นตาม เขาไม่เคยขัดในสิ่งที่องค์หญิงจัสทีน่าปรารถนา ตามด้วยย้อนถามในพระนามขององค์ชาย"แปลเหรอ? เราก็ไม่รู้เหมือนกัน คิกคิก" องค์หญิงตัวน้อยพูดเจื้อยแจ้ว ทำเอาพี่เลี้ยงที่นั่งฟังถึงกับอมยิ้ม ชอบใจในจินตนาการที่เดียงสาของจัสทีน่า"อ้าว""ก็เราเอาชื่อท่านแม่กับท่านพ่อบวกกัน บวกเหมือนเลขที่โรงเรียนไงครูสอนมา อยากให้มันเยอะต้องบวก มีจาห์เนียมาเพิ่มก็ต้องเป็นบวก...เอ๊ะ! หรือจะบวกกันให้หมดเลยเป็น จัสซีมาล์จาห์เน
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 14(สัตว์เลี้ยงขององค์หญิง)"ท่านแม่ขา" เสียงเจื้อยแจ้วขององค์หญิงตัวน้อยที่นอนหนุนขาของมารดาเอ่ยถาม หันหน้าเข้าหาท้องกลมใหญ่ที่ใกล้คลอด มือป้อม ๆ ขององค์หญิงจัสทีน่า ลูบคลำด้วยความแผ่วเบา"ว่าอย่างไรคะองค์หญิงของแม่" ผู้เป็นมารดาที่นั่งเอนหลังพิงกับหัวเตียง มือหนึ่งลูบหัวเพื่อขับกล่อมบุตรสาว ขานรับเมื่อองค์หญิงจัสทีน่าพร่ำเรียก"เมื่อไหร่น้องจะออกมาเล่นเป็นเพื่อนลูกคะ" จินตนาการด้วยการเฝ้ารอน้องที่อยู่ในท้องของมารดา"อยากเจอหน้าน้องแล้วเหรอคะ" ผู้เป็นมารดาเอ่ยถามด้วยความเอ็นดู"อยากเจอแล้วค่ะ" องค์หญิงจัสทีน่าให้คำตอบ พร้อมกับกดปลายจมูกเล็กเชิดรั้นสัมผัสลงท้องกลมของมารดา มีการขยับเคลื่อนไหวของทารกน้อยในครรภ์ เหมือนกับตอบรับพี่สาวที่เฝ้ารออยู่ด้านนอก"รออีกหน่อยนะคะ อีกไม่กี่วันน้องก็จะมาแล้ว องค์หญิงจะเลี้ยงน้องช่วยแม่ไหมคะ" ผู้เป็นมารดาให้คำตอบ จากนั้นจึงเอ่ยถามอย่างลองเชิงบุตรสาวที่ยังไร้เดียงสา"ต้องเลี้ยงค่ะท่านแม่ ลูกรักน้อง พี่น้องต้องรักกันค่ะ ท่านปู่กับท่านย่าบอกแบบนี้" คำสั่งสอนของปู่กับย่า องค์หญิงจัสทีน่าจดจำได้ดี ครั้นเข้าเฝ้าทีไรต้องได้สิ่งที่มีประ
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 13(วุ่นทั้งวัง)วันเวลาล่วงใหญ่ผ่านไป การใช้ชีวิตคู่ก็ชื่นมื่นสุขสม ทุกอย่างดำเนินไปตามเจตนารมณ์ของคนทั้งสอง ลูกน้อยที่เคยอยู่ในท้อง ออกมาท่องโลกกว้างมาจนอายุครบสี่ปีและยังมีทารกน้อยในท้องอีกหนึ่งคนที่จวนจะคลอดในอีกไม่กี่วันข้างหน้าองค์หญิงตัวน้อยเป็นที่รักของทุกคน ความสดใสเจื้อยแจ้วเดียงสา ทำให้ราชวังที่เงียบเหงามีสีสันสดใส และวุ่นวายในเวลาเดียวกัน“จัสทีน่า! องค์หญิงอยู่ไหนลูก” เสียงของบิดาตะโกนเรียกขาน เมื่อบุตรสาวตัวน้อยไม่รู้ว่าแอบหนีไปเล่นซุกซนที่ไหน“คิก คิก” เสียงหัวเราะชอบใจเมื่อคนที่อยู่บนต้นไม้ มองไปเห็นบิดากำลังเดินตรงมา สายตาก็กวาดมองหา ทว่าก็ไม่เจอคนที่หลบซ่อน มันทำให้หล่อนชอบใจ“องค์หญิงเพคะ องค์หญิง” เสียงของพี่เลี้ยงตะโกนเรียกหา ทว่าจัสทีน่าองค์หญิงตัวน้อยก็ไม่ยักจะขานรับ“จัสทีน่า” เสียงมารดาแว่วดังตามมา ความวุ่นวายในวังมีไม่หยุดหย่อน สีสันที่ทำเอาเหล่านางในถึงกับเหนื่อยหอบได้ทุกวี่วัน ก็องค์หญิงตัวน้อยชอบแอบหนีไปเล่นเพียงลำพัง แล้วให้คนไล่ตามหา เหมือนกับว่าหนูน้อยชอบใจที่ได้กลั่นแกล้งปั่นหัวผู้คน“ท่านพ่อเดินมาทางนี้แล้ว จะเห็นเราไหมนะ” จัสท
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 12(ยอมป้ะล่ะ?)หลังจากสร้างความสบายใจให้กับจัสซีเนียเสร็จสิ้น จาห์มาล์ก็กลับเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัว เพื่อสะสางสิ่งที่ต้องทำ เตรียมพร้อมสำหรับการที่จะพาจัสซีเนียไปพักผ่อนตามคำบัญชาของมารดา ที่ห่วงลูกสะใภ้หนักหนา ทว่ากับมีบางอย่างให้ฉุกคิดขึ้นมาในหัว"ส่งมาหยาเรียบร้อยใช่ไหม?" เขาเอ่ยถามเมื่อรับรู้ถึงการเข้ามาในห้องของริฎวาน"ขอรับ" ตอบรับด้วยน้ำเสียงสุขุม"ได้ไปดูทาเธียน่าบ้างหรือไม่" มันคือสิ่งที่ฉุกคิดขึ้นมาได้เลยเอ่ยถาม ตั้งแต่วันที่เขาสำเร็จโทษของทาเธียน่า ก็ไม่มีทีท่าจะไปพบหน้าหล่อนอีกเลย ได้แต่ถามไถ่จากริฎวานเท่านั้น เป็นครั้งคราวที่นึกถึง"กระผมเพิ่งแวะไปเยี่ยมตอนไปส่งคุณมาหยาขอรับ" ริฎวานให้คำตอบ"นางเป็นอย่างไรบ้าง" จาห์มาล์ยืนมือไขว้หลัง ทอดสายตามองออกไปยังทัศนียภาพเบื้องหน้าอย่างไร้เป้าหมาย ครุ่นคิดถึงเรื่องราวในอดีตที่พบเจอมา ดั่งกับว่าเป็นนิยายปลำปลา ไม่เคยคิดว่าชีวิตหนึ่งจะต้องมาเจอสิ่งเหล่านี้ ไม่เคยคิดว่าจะต้องพบกับความเจ็บปวดและมีปมในใจ ทั้งที่เกิดมาพร้อมศักดินาที่สูงส่งในเชื้อพระวงศ์ คิดแล้วก็ตลกสิ้นดี"เหมือนเดิมขอรับ เซื่องซึม ไม่พูดไม่จาและ
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 11(อธิบาย)"เธอ!""พระชายา"จัสซีเนียที่เดินมาหวังจะเข้าพบพระสวามี บรรจบพบเข้ากับมาหยาพอดิบพอดี กับที่หล่อนนั้นเปิดประตูออกมา มาหยาฉีกยิ้มให้แล้วโค้งตัวทำความเคารพ แต่กับจัสซีเนียหล่อนคิ้วขมวดชนกัน งุนงงกับการที่มาหยาเดินออกมาจากห้องทำงานของพระสวามีในยามนี้เพี๊ยะ! ไม่ทันจะได้ถามหาความจริง สิ่งที่เห็นทำให้จัสซีเนียเลือดขึ้นหน้า ปรี่ประชิดตัวมาหยาแล้วกระแทกฝ่ามือใส่จนใบหน้าสวยของมาหยาหันไปตามแรง ทำเอาคนสนิทที่เดินประกบหลังมาถึงกับเบิกตากว้างตกใจ ไม่คิดว่าพระชายาที่กำลังอารมณ์ดี จะมีความโมโหรุนแรงเช่นนี้เพียงชั่วพริบตาเดียว มันทำให้พวกหล่อนตั้งหลักไม่ทัน"ท่านพี่!" และสิ่งที่ทำให้ตะลึงยิ่งกว่านั้น คือจาห์มาล์เปิดประตูออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน มันทำให้หัวใจของจัสซีเนียวูบไหว คาดหวังว่าพระสวามีคงไม่ตลบหลังหล่อนใช่ไหม? ภาพที่เห็นทำให้คิดไกล ดวงตาสั่นไหวด้วยความหวาดหวั่น กระนั้นก็ย่างสามขุมเข้าหาจาห์มาล์ที่ยืนทำหน้างุนงง"โอ๊ย ๆ น้องใจเย็น ฟังพี่ก่อน...จัส จัส พี่เจ็บ ท้องอยู่นะ" แต่ต้องร้องโอดครวญด้วยความเจ็บแสบ จนเรียกชื่อของจัสซเนียเพียงพยางค์เดียว เมื่อหล่อนฟาดฝ่ามื
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 10(ทางแยก)"คิดจะกำจัดฉันเหรอ มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก กว่าจะได้เข้ามาในนี้ไม่ใช่ง่าย ๆ ฉันต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ" มาหยาที่เผลอมาได้ยิน สิ่งที่พระนางเอื้อนเอ่ยทำให้มาหยากำมือแน่นด้วยความแค้นใจเรื่องราวที่องค์รัชทายาทบาดหมางกับพระชายานับว่าเป็นข่าวดีไม่น้อยที่จาห์มาล์พูดระบายตอนเมา เพราะมันทำให้หล่อนตะล่อมจาห์มาล์ได้ง่ายขึ้น จนเขายอมพาหล่อนเข้ามาในวัง นานทีเขาจะไปหาที่ฮาเร็ม หล่อนจะทิ้งโอกาสไปได้อย่างไรความว้าวุ่นก่อเกิดทำให้มาหยาถึงกับนั่งไม่ติดที่ เดินวนอย่างใช้ความคิด เพื่อหาทางได้อยู่ในวังต่อ เดินคิดทวนอยู่นานหลายนาที ความคิดมาดร้ายจึงบังเกิด"ฮึ! พระชายาคงไม่ถือสาหรอกมั้งที่จะใช้สามีร่วมกัน เพราะที่ผ่านมาองค์รัชทายาทก็เคยร่วมเตียงกับหม่อมฉันนะเพคะ" มาหยาที่มีความคิดมาดร้ายในหัว หล่อนยืนพร่ำคนเดียวในห้องนอนรับรอง มโนภาพใบหน้าของพระชายาด้วยความปรีดา หากว่าได้เห็นในสิ่งที่จะผูกมัดให้ตนได้อยู่ต่อก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูทำให้มาหยาสะดุ้งตัวหลุดจากภวังค์ความคิด ไม่สบอารมณ์เมื่อมันเป็นการรบกวนสิ่งที่จินตนาการไว้อย่างสวยหรู"มีอะไรคะ" มาหยาเปิดประตูออกมา แล้