INICIAR SESIÓN“ขาเฝือกนี่จะถอดได้เมื่อไรก็ไม่รู้ อีกอย่าง...เงินเก็บของฉันคงจะหมดไปกับค่ารักษาแน่ๆ ที่นี่มันโรงพยาบาลเอกชนนะ”
“คู่กรณีแกล่ะ”
“พยาบาลบอกว่าหนีไปแล้ว”
“เออ! เรามีประกันอุบัติเหตุนี่นา แกก็ใช้ประกันสิบัว”
“จริงด้วย...แต่ต้องสำรองจ่ายก่อนแน่ๆ เลย ที่นี่น่าจะไม่ใช่โรงพยาบาลเครือข่าย เฮ้อ...แบบนี้กว่าจะได้เงินคืนไม่เปิดเทอมพอดีเหรอ ฉันจะเอาเงินที่ไหนจ่ายมัดจำค่าหอพักฝึกงานล่ะฮันนี่” บัวบูชากลัดกลุ้มใจจนปวดหัวจี๊ดขึ้นมาจนต้องกุมศีรษะ
“อย่าเครียดๆ ตอนนี้แกต้องพักผ่อนให้มากๆ จะได้ออกจากโรงพยาบาลเร็วขึ้น” มธุรสว่าก่อนจะกระซิบเสียงแผ่วกันเตียงข้างเคียงได้ยินบทสนทนา “อยู่นานก็เปลืองนะเว้ย”
“จริงด้วย...แต่อดเครียดไม่ได้เลย ฉันจะหาเงินจากที่ไหนให้ได้เยอะๆ เหมือนงานพริตตี้ล่ะฮันนี่ นี่ฉันนั่งคำนวณเงินซ้ำไปซ้ำมาว่ามันต้องพอค่าเทอมแน่ๆ แต่แค่วันนี้วันเดียวก็ขาดเงินไปหลายพันแล้ว” น้ำเสียงยังเต็มไปด้วยความตึงเครียด
“ไหนว่าคุณนทีนัดแกไปเจอผู้อุปการะค่าเทอมคนใหม่ยังไงล่ะ” มธุรสเอ่ยถามด้วยความข้องใจเพราะบัวบูชาขอเปลี่ยนเวรงานมอเตอร์โชว์เป็นช่วงดึกแทนเพื่อไปพบนทีเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะย้ายไปอยู่เชียงใหม่กับภรรยาอย่างถาวร และนทียังใจดีหาผู้อุปการะคนใหม่ให้ด้วย เธอสู้อุตส่าห์ดีใจที่บัวบูชาจะไม่ลำบากจนต้องมีชะตากรรมเดียวกัน
คนถูกถามส่ายหน้าทั้งน้ำตา
“ฉันถูกรถเฉี่ยวก่อนเลยไม่ได้ไปพบใครเลย อีกอย่าง...มือถือก็พังไปแล้ว ฉันไม่ได้เซฟเบอร์เขาไว้และจำไม่ได้ด้วย ป่านนี้เขาคงบินกลับเชียงใหม่ไปแล้วมั้ง ไม่รู้ตกลงฉันมีผู้อุปการะหรือเปล่า ถ้ามีคงจะหยิ่งอย่างที่คิดไว้ตอนแรกไม่ได้แล้ว ยังไงฉันก็ต้องได้เรียน คุณแม่ส่งเสียมาถึงขนาดนี้แล้ว ฉันจะทำให้ท่านผิดหวังไม่ได้เด็ดขาด”
“สรุปว่าตอนนี้แกต้องดิ้นรนทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งๆ ที่ขาเข้าเฝือก!”
บัวบูชาฟังแล้วก็ร้าวลึก เธอคิดมาตลอดทั้งชีวิตว่าตัวเองโชคดีกว่าใครๆ ที่คุณแม่ชลธารอุปการะให้ร่ำเรียนหนังสือ ใครจะไปคิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ทั้งๆ ที่กำลังจะเรียนจบรอมร่ออยู่แล้ว ที่ผ่านมาเธอรบกวนคุณแม่ชลธารแค่ค่าเรียนและที่อยู่เท่านั้น ส่วนค่าใช้จ่ายส่วนตัว เธออาศัยเงินที่ได้จากการทำงานพาร์ตไทม์ด้วยไม่อยากถูกใครๆ มองว่างอมืองอเท้า ครั้งนี้เธอคงงอมืองอเท้าอยู่แบบนี้ไม่ได้จริงๆ แม้ขาจะเข้าเฝือกแต่ถึงยังไงก็ต้องหาเงินค่าเทอมมาจ่ายให้ทันเดือนหน้าให้ได้
วันต่อมา นิธิเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานด้วยเรื่องด่วนที่นายหนุ่มสั่งการมาตอนตีสาม!
ร่างหนาหมุนเก้าอี้ผู้บริหารกลับมาเมื่อรับรู้ถึงการเข้ามาของคนที่รอคอย ดวงตาคมกล้าเปล่งประกายจับจ้องลูกน้องหนุ่ม รู้ดีว่านิธิไม่มีวันพลาด อะไรที่เขาอยากรู้ต้องได้รู้เดี๋ยวนั้น หากตอนตีสี่นิธิสามารถไปทำงานตามที่เขาสั่งการได้ เชื่อเหลือเกินว่าลูกน้องหนุ่มคงทำทันทีเพราะเพียงแปดโมงตรงนิธิก็กลับมารายงานผล
“คุณบัวบูชา สิระโรจน์ถูกมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวหน้าร้านกาแฟวันนั้นครับท่านประธาน”
หัวใจดวงโตแกว่งไกว ใบหน้าคมคร้ามดูเคร่งเครียดขึ้นมา ถึงว่าสิ...วันนั้นเธอจึงไม่ได้มาพบเขา นึกว่าจะมีเสี่ยหน้าไหนฉกเธอไปครองซะแล้ว
“อาการเป็นยังไงบ้าง”
“ก็หนักพอควรอยู่ครับ น่าจะต้องอยู่ที่โรงพยาบาลอีกหลายวัน”
“อืม...” เขารับรู้ แต่คนเป็นลูกน้องกลับอยากเอาใจมากกว่านั้น
“ถ้าเธอหายดีผมจะรีบแจ้งให้เธอมาพบท่านประธานนะครับ”
“ดี” แววตาดูพึงพอใจขึ้นมาทันที
“ท่านประธานว่าที่เจ้พอลลี่ไม่ได้ติดต่อมาเป็นเพราะคุณบัวบูชามีเสี่ยเลี้ยงใหม่แล้ว หรือว่ารอท่านประธานมาอุปการะครับ” นิธิเอ่ยถามเพราะข้องใจและหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้
เช่นเดียวกับเกื้อคุณที่หาคำตอบไม่ได้ว่าทำไมเจ้าของโมเดลิ่งพริตตี้
ถึงไม่ติดต่อกลับมาหลังโก่งค่าตัวเด็กในสังกัดเสียสูงลิบลิ่วยิ่งกว่าตัวท็อป เขาไม่อยากให้นิธิเซ้าซี้ใครเพราะฝ่ายนั้นจะเหลิงและยิ่งอัปค่าตัวสาวๆ ทั้งๆ ที่บางคนคุณภาพไม่ถึงขั้น จึงได้รออย่างร้อนใจ จนเมื่อวานที่ได้รู้ว่าเด็กในอุปการะของเขาคือบัวบูชา เกื้อคุณก็พึงพอใจจนทนรอให้ฝ่ายนั้นแล่นมาพบเองไม่ไหวต้องให้นิธิรีบสืบถึงสาเหตุที่เธอมาไม่ได้อย่างเร่งด่วน“เธอนอนโรงพยาบาลอะไร”
“โรงพยาบาลเอกชนครับ”
“หึ! นี่ไงพวกเด็กรักสบาย แกไม่ต้องกังวลไปเลยนิธิ เดี๋ยวเด็กนั่นออกจากโรงพยาบาลเมื่อไรก็แล่นมาหาฉันเองนั่นแหละ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นใจ เพียงเด็กคนนั้นรู้ว่าผู้อุปการะคนใหม่คือเกื้อคุณ พิทักษ์ภากุลก็คงจะรีบแล่นมาทั้งขาเฝือกเป็นแน่
“แต่ว่าคุณบัวบูชาเธอไม่ทราบนะครับว่าผู้อุปการะคือท่านประธาน”
“จริงสิ...ไม่รู้นทีทันได้บอกหรือเปล่า วันนั้นก็ติดต่อไม่ได้ สงสัย
มือถือจะพัง” ชายหนุ่มมีสีหน้าครุ่นคิดราวกับกำลังจะเซ็นอนุมัติงบหลายล้านบาท“งั้นถ้าเธอออกจากโรงพยาบาลแล้วไม่ติดต่อมา ผมจะติดต่อเธอไปนะครับ”
“ทันที...แกติดต่อเธอไปทันทีที่ออกจากโรงพยาบาล” เขาสั่งเสียงเข้ม
“ใจร้อนจัง”
“ว่าไงนะ!”
“ปะ...เปล่าครับ ผมร้อนน่ะครับ ขอตัวกลับห้องทำงานตัวเองก่อนนะครับ ห้องผมแอร์เย็นดี” นิธิส่งเสียงหัวเราะกลบเกลื่อน ก่อนจะรีบก้าวยาวๆ ออกจากห้องทำงานกว้างขวางสไตล์มินิมอลไป
“หรือว่าเด็กคนนี้จะเล่นตัว”
เกื้อคุณรำพึงกับตัวเองสีหน้าหงุดหงิด ที่ผ่านมามีแต่ผู้หญิงเข้าหาเขา แทบจะไม่ต้องใช้เงินซื้อตัวเสียด้วยซ้ำ แต่สำหรับ ‘เด็กในอุปการะ’ คนนี้มีแรงดึงดูดชนิดที่ว่าไม่ว่าจะจ่ายเงินเท่าไร เขาต้องได้เธอ!
“น้ำรินอยากได้น้องแล้ว บัวต้องตามใจลูกนะ เนี่ยคืนนี้ใส่ชุดนอนที่ฉันซื้อมาให้ รับรองลูกมาแน่” ประโยคหลังเกื้อคุณแกล้งทำกระซิบกระซาบ จึงถูกประทุษร้ายตีเพียะที่ต้นแขนแรงๆ“ทำไมคะ บัวไม่เร้าใจสำหรับคุณแล้วหรือไงถึงต้องมีตัวช่วย”“ไม่เลยแค่เป็นบัวฉันก็รักและอยากคลอเคลียด้วยตลอดนั่นแหละ แค่อยากสร้างสีสันให้ชีวิตคู่บ้างไงจะได้ตื่นเต้น” เกื้อคุณรีบแก้ ก่อนจะบอกเสียงตลกๆ “ฉันอ่านมาน่ะว่าถ้าเซ็กซ์เร้าใจจะได้ลูกชาย”“จริงเหรอคะ” บัวบูชาตาวาวขึ้นมาทันที เธอเองก็อยากได้ลูกชายไม่แพ้เขา ที่เขาพูดวันนั้นก็เข้าที ให้น้องชายได้ดูแลพี่สาว อีกอย่างบริษัทของเขาก็น่าจะมีลูกชายไว้สืบทอดกิจการ“จริงสิ สนใจไหมล่ะบัวจ๋า”“ก็ได้ค่ะบัวจะยอมใส่ให้ก็ได้ แต่ถ้าไม่ได้ลูกชาย คุณเกื้อโดนทำโทษนอนนอกห้องหนึ่งปี!”“โห! โหดจังเลย” เกื้อคุณแกล้งทำเสียงกลัวไปอย่างนั้นเอง แต่ที่จริงเขาเจ้าเล่ห์จะตายไป “ถ้างั้นผัวจ๋าคนนี้ต้องขอเพิ่มรอบความถี่ในการได้ลูกชายหน่อยนะเพื่อความชัวร์”“คุณเกื้อบ้า พูดอะไรก็ไม่รู้ นี่ถ้าน้ำรินโตแล้วห้ามลามกต่อหน้าลูกเด็ดขาด เข้าใจไหมคะ” บัวบูชาสั่งห้ามเสียงเข้ม ทำเอาอีกคนหงอทีเล่นทีจริง“เข้าใจจ้าเมี
หลังเกื้อคุณหายดีแล้ว บัวบูชากับน้ำรินก็ย้ายสำมะโนครัวมาอยู่ที่กรุงเทพอย่างถาวร เกื้อคุณตัดสินใจซื้อบ้านราคาหลายสิบล้านเพื่อตระเตรียมพื้นที่เอาไว้ให้ลูกๆ ได้วิ่งเล่นกัน เขาปรึกษากับเมียสาวแล้วว่าอยากจะมีลูกมากกว่าสองคน ธุรกิจเคมีภัณฑ์กำลังไปได้สวย อนาคตภายภาคหน้าลูกๆ จะได้เข้ามาช่วยบริหารงาน บัวบูชาเขินอายแต่ฟังหลักการที่เขากล่าวอ้างแล้วก็พยักหน้าเห็นด้วยตามสามีแม้จะมีบ้านหลังใหญ่โต มีเงินทองมากมาย แต่บัวบูชาก็ยังใช้ชีวิตที่เรียบง่าย เธอกลายเป็นแม่บ้านอย่างเต็มตัวและคงเป็นอีกนานเพราะเขาวางแผนมีลูกยาวเหยียดเสียขนาดนั้น ที่จริงเธออยากเข้าไปช่วยสามีทำงานมากกว่า แต่ก็คิดว่าบทบาทหน้าที่แม่ก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ทุกวันนี้เธอจึงดูแลน้ำรินอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง พร้อมกับการปกครองดูแลส่วนของบ้านได้อย่างดีมีเมตตากับคนงานในบ้านเสมอบัวบูชามีของมีค่าแค่สร้อยเพชรจี้ดอกบัวที่เกื้อคุณสวมคืนให้เท่านั้น ไม่เคยใช้ของแบรนด์เนม นอกจากสามีจะซื้อมาให้ ซึ่งสุดท้ายบนเรือนร่างก็เต็มไปด้วยของแบรนด์เนมทั้งตัวอยู่ดีเพราะเขาขนซื้ออะไรไม่รู้มาเยอะแยะทุกวัน แม้เธอจะไม่ออกไปเลือกด้วยตนเอง เขาก็ให้เลขานุการหนุ่มท
บัวบูชาเผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย แม้นิธิจะเข้ามาจัดแจงที่หลับที่นอนให้ ทว่าหญิงสาวกลับปักหลักนั่งเก้าอี้ข้างเตียงไม่ยอมลุกไปไหน จนผล็อยหลับอยู่ตรงนั้นนั่นเอง เมื่อสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาก็รับรู้ได้ถึงสัมผัสแสนอ่อนโยน เธอเงยหน้าขึ้นมองก็น้ำตาไหลอีกครั้งเมื่อเห็นคนป่วยลืมตาแป๋วมองเธออยู่ก่อนแล้ว มือใหญ่ที่เธอคิดว่าจับอยู่ตลอดเวลา บัดนี้กลับกำลังลูบศีรษะเธอไปมา“คุณเกื้อ!”บัวบูชาไม่รอช้า เธอโผเข้ากอดเขาทันที เสียงร้องไห้ฮือๆ ดังลอดออกมาจากริมฝีปากที่พร่ำพูดอะไรฟังไม่ได้ศัพท์ แต่ในความรู้สึกของคนป่วยนั้นช่างอบอุ่นใจ“เป็นอะไร ฉันยังไม่ตายสักหน่อยจะร้องไห้ทำไม”“บัวกลัวคุณเกื้อตาย”“ไม่ตายหรอก ตายไม่ได้ เมียยังไม่ให้อภัยเลย” เขาพูดติดตลกเสียงแหบแห้ง“ถ้าให้อภัยแล้วห้ามตายนะ” เธอพูดเสียงเครือ ยกมือขึ้นปาดน้ำตาป้อยๆ เหมือนเด็กน้อย น่าเอ็นดูในสายตาของเกื้อคุณเป็นที่สุด“สัญญาว่าจะอยู่กับเธอจนแก่เฒ่า” เขายิ้มละมุนบัวบูชาเขินจนเผลอยิ้มหวาน ก่อนจะเบิกตาโตเมื่อนึกขึ้นได้ “หิวน้ำไหมคะ บัวลืมไปเลยมัวแต่ดีใจที่คุณเกื้อฟื้นแล้ว”เกื้อคุณมองหญิงสาวกุลีกุจอไปรินน้ำมาให้ดื่มแล้วก็ชื่นใจตั้งแต่น้ำยังไม
บัวบูชารับรู้ได้ทันทีว่าเกิดเรื่องไม่ดีกับเกื้อคุณ เธอรีบฝากลูกเอาไว้กับคุณป้าปานวาดแล้วจองตั๋วเครื่องบินโดยเร็วที่สุด น้ำตาไหลพรากๆ ตลอดเวลาที่ยังไม่รู้ว่าเกื้อคุณเป็นตายร้ายดีอย่างไร เธอโทรหานิธิเป็นระยะๆ ก็พบว่าเขายังไม่ออกจากห้องฉุกเฉินเลยหญิงสาวอยู่ในห้องโดยสารเครื่องบินแล้ว จำใจต้องปิดเครื่องมือสื่อสารด้วยหัวใจที่ปวดร้าว เธอกลัวเหลือเกินว่าระหว่างนั้นนิธิจะโทรศัพท์มารายงานอาการของเกื้อคุณ ได้แต่ทำใจดับอารมณ์ร้อนรุ่มในอกให้สงบลงมือน้อยหยิบรูปถ่ายของเขาขึ้นมาดู น้ำตาไหลนองหน้า ได้แต่หวังว่าเธอไม่ช้าเกินไปสำหรับการตัดสินใจครั้งนี้ บัวบูชาไม่คิดเลยว่าเพียงเสี้ยววินาทีที่เธอปฏิเสธจะบอกสิ่งที่อยากบอกกับเขา เกื้อคุณกลับประสบอุบัติเหตุแบบนี้“คุณเกื้อต้องปลอดภัยนะคะ บัวรักคุณเกื้อ”บัวบูชารีบวิ่งเข้ามาภายในโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ใบหน้าเศร้าหมอง น้ำใสกบดวงตาจนมองเห็นภาพข้างหน้าไม่ชัดเจนเอาเสียเลย เมื่อมาถึงห้องฉุกเฉินก็พบเกื้อคุณถูกเข็นออกมาพอดี เธอรีบปราดเข้าไปหา มองใบหน้าซีดเซียวที่ยังไม่ได้สติอย่างแสนปวดร้าว“คุณพยาบาลคะ คนไข้เป็นยังไงบ้าง”“ปลอดภัยแล้วค่ะ กำลังพาไปห้องพักฟื้นค่ะ”เธ
หลังกลับจากเที่ยวเชียงราย เกื้อคุณก็ได้รับอนุญาตให้เข้ามานอนในห้องเดียวกันได้ โดยเขาเลือกที่จะนอนโซฟาอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว ไม่อยากผลีผลามเพราะหากบัวบูชาเอ่ยปากไล่ เขาคงต้องกลับไปปูที่นอนบนพื้นหน้าห้องดังเดิม ไม่รู้ว่าค่ำคืนนั้นเขาเอาความกล้าหาญมาจากไหน อยากกล้านอนกอดเธออย่างคืนนั้นอีกจัง...“บัวจ๋า”“อย่าเรียกแบบนี้เลยค่ะ บัวขนลุก”“อยากหวานกับเมียบ้าง”“บัวว่าไม่เหมาะหรอกค่ะ” เธอยิ้มแหยๆ ก่อนจะหันกลับไปพับเสื้อผ้าลูกลงตะกร้าอย่างตั้งใจ น้ำรินหลับปุ๋ยไปแล้วจึงเป็นเวลาที่เธอจะทำโน่นทำนี่ให้ลูกต่อ“เหมาะสิ...ต่อไปมีลูกอีกคนก็ต้องเรียกแม่จ๋าแล้ว ตอนนี้เลยเรียกบัวจ๋าไปก่อน”“คุณเกื้อ!”เขาดึงมือเล็กมากดจูบให้ชื่นใจ ทอดสายตามองเธออย่างเชื่อมหวาน บัวบูชาหายใจไม่ทั่วท้อง ท่าทางของเขาไม่ได้คุกคามจนน่ารังเกียจ แต่กลับทำให้หัวใจสั่นไหวเกินควบคุม เธอกลัวใจตัวเองเหลือเกิน“ฉันอยากมีลูกอีกสักคน ไว้เป็นเพื่อนกับน้ำริน” เขาว่าเสียงจริงจัง ก่อนนึกจินตนาการไปไกล “หรือถ้าเป็นน้องชายก็จะได้คอยดูแลปกป้องพี่สาว ดีไหม”“ตอนนี้บัวยังไม่พร้อมค่ะ” เธออ้อมแอ้มตอบพลางเสหลบสายตาเขา“ไม่เป็นไร ฉันจะรอจนกว่าบัวจ
รวงข้าวยิ้มเจ้าเล่ห์ มองซ้ายมองขวา ก่อนจะป้องปากกระซิบ “ถ้าอยากให้เหมือนน้องบัวก็มีเพิ่มอีกคนสิคะ”“คุณรวงข้าว!”“เมื่อคืนข้าวได้คุยกับพี่เกื้อเรื่องน้องบัว...พี่เกื้อเองก็อยากมีลูกกับน้องบัวอีกนะคะ ติดที่ว่ายังง้อไม่สำเร็จ”“นี่คุณเกื้อเล่าทุกอย่างให้คุณรวงข้าวฟังหมดเลยเหรอคะ” บัวบูชาหน้าเสีย เหลือบสายตาไปมองเขาที่จูงมือหนูเนตรดาวเดินออกไปทางอื่น ไหนว่าพาเธอกับลูกมาเที่ยว ทำไมไปดูแลลูกคนอื่นเสียอย่างนั้นล่ะ“พี่เกื้อกลุ้มใจน่ะค่ะ เลยมาปรึกษาข้าว”บัวบูชารู้สึกอาย เธอเสหลบสายตาแล้วอุ้มหนูน้ำรินขึ้นมาไว้บนท่อนแขน ตัดสินใจหันหลังให้เพื่อสะกดกลั้นความอายที่ผสมผสานกับความโกรธ เขาจงใจประจานเธอกับคนรักเก่าอย่างนั้นหรือ“น้องบัวเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” รวงข้าวอ้อมมายืนด้านหน้า“เปล่าค่ะ คุณรวงข้าวไปเดินเล่นกับคุณเกื้อเถอะค่ะ บัวจะเดินเล่นกับลูกแถวนี้”“อ๋อ! หนูดาวติดพี่เกื้อน่ะค่ะ” รวงข้าวเริ่มเข้าใจว่าอีกฝ่ายหึงสามีกับเธอจึงเริ่มต้นอธิบาย “สมัยก่อนข้าวกับพี่เกื้อสนิทกันมากเพราะคุณเหนือให้พี่เกื้อมาดูแลข้าวแทน หนูดาวเลยเจอหน้าพี่เกื้อมากกว่าพ่อตัวเองเสียอีก ข้าวเป็นเมียเก็บคุณเหนือมาก่อนค่ะ”“คะ







