LOGINตอนนี้สายตาของคนในสตูดิโอต่างจ้องมองไปยังผู้เข้าประกวดสามคนสุดท้ายบนเวที เพื่อลุ้นว่าใครจะเป็นสองคนสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบการแข่งขันรายการร้องเพลงชื่อดังระดับประเทศรายการหนึ่ง หัวใจของคนรอลุ้นเต้นแรงมากขึ้น เมื่อทีมงานนำผลโหวตจากผู้ชมทางบ้านมาให้กับพิธีกรที่ยืนอยู่ด้านข้างของเวที โดยบริเวณส่วนกลางของเวทีผู้เข้าประกวดสามคนสุดท้ายยืนจับมือกันอยู่ ด้วยความรู้สึกที่ตื่นเต้นไม่แพ้กัน
ร่างเพรียวระหงถูกยืนขนาบข้างด้วยผู้เข้าแข่งขันชายหญิงฝั่งละคน ซึ่งตอนนี้ภัคธีมาไม่รู้สึกเลยว่าทั้งสองคนเป็นคู่แข่ง เพราะการทำกิจกรรมและอยู่ร่วมบ้านนานเกือบสามเดือน ทำให้เกิดความผูกพันจนกลายเป็นเหมือนเพื่อนกันมากกว่า
หัวใจของภัคธีมาเต้นแรงระทึก เมื่อพิธีกรประกาศว่าผู้เข้ารอบคนแรกคืออินทัช ที่มีคะแนนสูสีกับเธอมาตลอด ซึ่งนั่นหมายความว่า ไม่เธอก็เกวลินต้องเป็นคนตกรอบ แม้จะหวาดหวั่นและลุ้นจนมือเย็นเฉียบ แต่ลึกๆ ภัคธีมาก็อดที่จะเข้าข้างตัวเองไม่ได้ เพราะผลงานสัปดาห์ที่แล้วเธอทำได้ดี และได้รับคำชมจากกรรมการเป็นอย่างมาก รวมถึงคะแนนกลางสัปดาห์ของเธอก็อยู่อันดับสองรองจากอินทัชแบบสูสีสุดๆ ส่วนเกวลินนั้นโดนติติงในเรื่องการแสดงอยู่บ้าง และคะแนนก็มาเป็นอันดับสุดท้ายโดยได้ไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งหากไม่มีอะไรพลิกล็อกคนที่ตกรอบน่าจะเป็นเกวลิน
ชั่วขณะหนึ่ง ความทรงจำเมื่อสามเดือนก่อนแวบเข้ามาในสมองของภัคธีมา หลังจากคืนนั้นที่เธอเห็นคนรักยืนเป็นเจ้าบ่าวเคียงข้างกับผู้หญิงอื่น เช้าวันรุ่งขึ้นเธอก็กลับกรุงเทพฯ ทันที เธอจัดการทำเรื่องดรอปเรียน คืนหอพัก และใช้ความผิดหวังเสียใจเปลี่ยนเป็นพลังผลักดัน เพื่อทำความฝันของตัวเองให้สำเร็จ เพราะความฝันที่เคยวาดไว้สองสิ่ง บัดนี้เหลือแค่สิ่งเดียวแล้ว
ภัคธีมาชำเลืองไปทางเกวลินแวบหนึ่ง เธอไม่อยากให้ตัวเองหรือเกวลินต้องตกรอบเลย เพราะรอบนี้มันหมายถึงอนาคตในการเป็นนักร้อง หากใครได้เป็นสองคนสุดท้าย ทางค่ายเพลงชื่อดังจะเซ็นสัญญาเป็นศิลปินของค่ายทันที ซึ่งมันคงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าและน่าเสียดายมากๆ หากใครคนใดคนหนึ่งต้องพลาดโอกาสที่ดีที่สุดในชีวิตไป
“และชื่อที่ผมจะประกาศต่อไปนี้ คือชื่อผู้ที่ผ่านเข้ารอบเป็นสองคนสุดท้าย ซึ่งจะได้เข้าไปชิงชนะเลิศกับน้องอินทัช ซึ่งเธอคนนั้นได้แก่...”
เสียงดนตรีดังแทรกขึ้น พร้อมกับที่พิธีกรเว้นจังหวะการพูดของตัวเอง เพื่อให้คนฟังลุ้นมากกว่าเดิม ซึ่งสำหรับคนที่กำลังรอฟังนั้น ระยะเวลาที่ไม่ถึงนาทีมันช่างยาวนานและบีบคั้นหัวใจเหลือเกิน
“ขอแสดงความยินดีกับ...น้องเกว-เกวลินครับ”
ชื่อนั้นถูกประกาศออกมาอย่างเสียงดังฟังชัด พร้อมๆ กับที่ภัคธีมายืนอึ้งและน้ำตาไหลออกมาอย่างเป็นอัตโนมัติ แม้จะเตรียมใจมาบ้างแต่มันก็ช็อกไปชั่วขณะ เพราะผลมันค่อนข้างจะพลิกล็อกพอสมควร แต่เพียงแค่ครู่เดียว ร่างบางถูกโอบกอดด้วยอ้อมแขนของเกวลินที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ต่อมาก็เป็นอินทัชที่รีบเข้ามากอดปลอบ
พิธีกรปล่อยให้เธอร้องไห้และถูกเพื่อนๆ อีกสองคนกอดอยู่ครู่หนึ่งจึงเดินเข้ามาหา และขอให้พ่อของเธอขึ้นมาบนเวทีเพื่อให้กำลังใจลูกสาว
“ไม่เป็นไรนะลูก แค่นี้ก็เก่งแล้ว”
“ค่ะพ่อ ขิมไม่เป็นไร ขอบคุณพ่อนะคะที่มาให้กำลังใจขิมทุกอาทิตย์เลย” เธอเอ่ยพลางกอดพ่อแน่น ใบหน้าซบลงกับอกที่คอยซับน้ำตาให้เสมอยามที่เธอต้องเจ็บปวด ในเวลาที่เสียใจและผิดหวังเช่นนี้ คนที่เธออยากกอดมากๆ ก็คือพ่อ น้ารส หรือไม่ก็ ‘พี่วิน’ ซึ่งตอนนี้เธอไม่มีสิทธิ์จะคิดหรือโหยหาอ้อมกอดของอดีตคนรักอีกแล้ว ความจริงที่ว่าเขาแต่งงานไปกับผู้หญิงอื่นเสียดแทงขึ้นในหัวอกข้างซ้ายจนใจปวดหนึบ น้ำตาที่ไม่เคยไหลมาตลอดช่วงเวลาที่เข้าแข่งขันจึงหลั่งออกมาจนนองหน้า ในสถานการณ์ที่กำลังเสียใจมากที่สุดในชีวิตอีกครั้งหนึ่ง
“ต้องมาสิลูก หนูเป็นนางฟ้าและลูกสาวคนเดียวของพ่อ พ่อจะไม่มาได้ยังไง น้ารสก็มานะหนูเห็นหรือเปล่า”
“เห็นค่ะ”
“สู้ต่อไปนะลูกสาวพ่อ ถึงหนูจะไม่ชนะการแข่งขัน แต่หนูชนะใจพ่อเสมอ ลูกสาวพ่อเป็นนักสู้ พ่อภูมิใจในตัวหนูมากที่สุด”
“ขิมรักพ่อค่ะ”
ภาพสองคนพ่อลูกที่กอดกันช่างเป็นภาพที่ซาบซึ้งใจ จนหลายคนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ พิธีกรให้พ่อของเธอกล่าวแสดงความรู้สึก จากนั้นก็ให้เธอเอ่ยลาและขอบคุณผู้ชมเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งภัคธีมาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองพูดอะไรออกไปบ้าง รู้แต่ว่าเธอพูดมันออกมาจากความรู้สึกทุกคำ และสิ่งสุดท้ายที่เธอได้รับจากเวทีการประกวดระดับประเทศก็คือ เสียงปรบมืออันกึกก้อง เป็นเสียงปรบมือที่ไม่ได้มีให้สำหรับผู้ชนะ แต่เป็นเสียงการปรบมือให้กำลังใจผู้ตกรอบได้สู้ต่อไป
หลังจากรายการจบ รถของทีมงานพาภัคธีมากลับไปยังบ้านพัก เพื่อเก็บของกลับบ้าน โดยยังมีกล้องวิดีโอถ่ายบรรยากาศเก็บไว้ให้ผู้ชมทางบ้านได้ดูในวันรุ่งขึ้น รายการวันนี้ไม่ใช่รายการถ่ายทอดสด แต่เป็นการถ่ายในสตูดิโอล่วงหน้า เพราะไม่ใช่รอบตัดสินหาผู้ชนะเลิศที่ต้องใช้การโหวตสด รายการจึงเลิกเร็วกว่าปกติ แต่กระนั้นตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้ว
ภัคธีมาเข้าไปล้างหน้า เก็บของ และบอกลาเพื่อนๆ อีกสองคน ซึ่งกว่าจะเสร็จก็กินเวลาไปเกือบสองชั่วโมง เธอถึงได้ลากกระเป๋าออกมานอกบ้าน โดยมีคู่จิ้นและเพื่อนที่แข่งขันมาด้วยกันอย่างอินทัชกับเกวลินตามออกมาส่ง ร่างบางอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองบ้านที่อยู่กับเพื่อนๆ ตลอดช่วงการประกวดอย่างอาลัยอาวรณ์ แต่ก็จำต้องตัดใจ เพราะการแข่งขันของเธอมันจบลงแล้ว จบลงพร้อมกับอนาคตและความฝันทางด้านการเป็นนักร้องที่ดับวูบลงเช่นกัน
“เพราะจัง ร้องเพลงกล่อมลูกและร้องให้ผัวด้วยใช่ไหม” เสียงทุ้มเอ่ยถามหลังจากเสียงเพลงสุดไพเราะนั้นเงียบลง แม้เนื้อร้องจะเป็นภาษาอีสานแต่เขาก็ฟังออก“ขี้ตู่ค่ะ ขิมร้องกล่อมลูกต่างหาก”“ผมชอบนะ ชอบความหมายของมัน เพลงนี้ได้มาจากไหนเหรอ ทำไมผมไม่เคยได้ยิน”“เพลงนี้เป็นเพลงที่ดังมากนะคะ คนงานในไร่ก็ฟังประจำ แต่คุณอาจไม่เคยได้ยิน วันก่อนขิมเห็นคลิปในยูทูป มีผู้หญิงคนหนึ่งร้องเพลงนี้กล่อมลูกน่ะค่ะ เนื้อร้องสวยงามและมีความหมายดีมาก ขิมก็เลยเอามาร้องกล่อมตาวินบ้าง”“ตาวินคงชอบ ดูสิหลับปุ๋ยเลย” ศาสตราว่าพลางโน้มหน้าลงใกล้ๆ ลูกและใช้นิ้วเขี่ยแก้มแดงนั้นด้วยสัมผัสอันสุดอ่อนโยนทะนุถนอม หน้าของลูกเขาละม้ายคล้ายเขากับภัคธีมามาก แต่ที่คล้ายที่สุดก็คือคล้ายคนเป็นอาผู้ล่วงลับ ทำให้คนในครอบครัวของเขายิ่งเชื่อว่า ธาวินมาเกิดใหม่เป็นลูกของเขาจริงๆ“คุณกินอะไรมาหรือยังคะ หิวไหมขิมจะได้หาอะไรให้กิน”“ยังไม่ได้กินอะไร หิว...อยากกินขิม” ตาเข้มพราวระยับขณะเงยหน้าขึ้นมองเรียวปากนุ่มสีชมพูระเรื่ออย่างมีความหมาย“กินตะกละแบบนี้ เดี๋ยวก็มีลูกหัวปีท้ายปีหรอกค่ะ” เสียงหวานว่าอุบอิบเพราะสามีเรียกร้องบ่อยเหลือเกิน แต่เธ
“โกรธผมเหรอ ไม่ดีใจเหรอที่เรากำลังจะมีลูกด้วยกัน ทำไมไม่ยิ้มเลย” “ดีใจค่ะ แค่เจ็บใจที่เสียรู้คนเจ้าเล่ห์” “บอกแล้วไงว่าที่ทำไปทุกอย่างก็เพราะรักและอยากให้เราสองคนได้อยู่ด้วยกันในฐานะสามีภรรยาตลอดไป” “แล้วหลังจากนี้จะมีเล่ห์เหลี่ยมอะไรกับขิมอีกหรือเปล่าคะ” “อาจจะ แต่จะเอาไว้ใช้เฉพาะเวลาที่คุณงอนหรือโกรธผมมากๆ แล้วผมง้อไม่สำเร็จ” “คุณนี่นะ...” ภัคธีมามองค้อนแต่ก็ไม่ได้โกรธอะไรจริงจัง หลังจากผ่านความสงสัยมาได้ ตอนนี้ความรู้สึกตื้นตันของการได้เป็นแม่มันกำลังเอ่อล้นขึ้นมาเต็มหัวใจ ลูกของเธอน่าจะเกิดไล่ๆ กับลูกของจันทริกา และลูกๆ ก็น่าจะเป็นเพื่อนกันเหมือนรุ่นพ่อรุ่นแม่อีกเจ็ดเดือนต่อมา...เด็กชายหน้าตาน่ารักน่าชังอยู่ในอ้อมแขนของผู้เป็นแม่ ปากเล็กๆ ของทายาทหมื่นล้านกำลังดูดนมอุ่นๆ จากอกมารดาจนอิ่ม ก่อนจะหลับปุ๋ยอย่างมีความสุข โดยมีพ่อกับย่านั่งมองภาพนั้นด้วยสายตาอ่อนโยน เด็กน้อยมีชื่อจริงว่า ‘มาวิน’ และชื่อเล่นว่า ‘วิน’ โดยแม่เลี้ยงแสงหล้าเป็นคนตั้งให้ เพราะภัคธีมาเคยเล่าให้ฟังว่าเธอฝันถึงธาวินก่อนจะทราบว่าตัวเองตั้งท้องในเช้าต่อมา ศาสตราและภัคธีมาเ
ร่างสูงลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างดีใจจนออกนอกหน้า เมื่อหมอเจ้าของไข้ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทเข้ามาบอกว่า อาการของเขาไม่มีอะไรน่าวิตก และอนุญาตให้กลับบ้านได้ ตาคมจ้องใบหน้าหวานๆ ของคนที่กำลังช่วยติดกระดุมเสื้อให้อย่างรักใคร่สุดหัวใจ พลางคิดว่าวันนี้ตัวเองจะเกงานแล้วนอนกอดเมียอยู่ที่บ้านทั้งวัน ซึ่งหวังว่าภัคธีมาจะยอมตามใจเขา“มองอะไรคะ” เสียงหวานเอ่ยถามเมื่อเงยหน้าขึ้นแล้วพบว่าสามีจ้องมองอย่างไม่วางตา“มองเมียน่ะสิ อิจฉาตัวเองสุดๆ เพราะตอนนี้คงไม่มีใครมีความสุขเท่าผม”“มีสิคะ ก็ขิมไง”“งั้นขอดูหน้าคนมีความสุขชัดๆ หน่อยซิ”มือใหญ่เอื้อมไปเชยคางมนขึ้น สบประสานสายตากันอย่างหวานซึ้ง ก่อนที่เรียวปากหยักจะค่อยๆ โน้มต่ำลงมาเพื่อหวังจะประกบจูบปากนุ่มๆ ให้สมรัก ทว่าภัคธีมากลับเบี่ยงหน้าหลบ ปากและจมูกโด่งจึงพลาดไปโดนแก้มแทน“ไม่เอาค่ะ...เดี๋ยวมีคนเข้ามาเห็น”“เมียใครนะหวงตัวจริง คอยดูนะถึงบ้านเมื่อไหร่จะจับฟัดให้สมกับที่ปล่อยให้อด”“แน่ใจนะคะว่าแข็งแรงดีแล้ว”“เอาไว้พิสูจน์กันตอนกลับถึงบ้านนะที่รัก แล้วคุณจะรู้ว่าผมทั้ง ‘แข็ง’ ทั้ง ‘แรง’ ดีมากเชียวละ” เขากระซิบหยอกเย้าและเคลียจมูกไปตามแก้มใส“เมื่อคื
“จำได้สิคะ จำมาตลอดเพราะเหตุการณ์วันนั้นมันคือจุดเริ่มต้นของความรักที่ขิมมีให้พี่วิน”“แล้วถ้าคนที่ปลอบคุณวันนั้นเป็นผมล่ะ มันจะเป็นจุดเริ่มต้นของความรักที่คุณมีต่อผมหรือเปล่า”“หมายความว่ายังไงเหรอคะ”“ทั้งวันนั้นและวันที่รุ้งรวียิงคุณ ผมกับไอ้วินล้วนแต่ใจตรงกัน คืออยากเข้าไปปลอบและปกป้องคุณ แต่ไอ้วินมันไวกว่าผม ผมจึงได้แต่เฝ้ามองอยู่เงียบๆ”“ขิมนึกว่าคุณรังเกียจขิมที่ขิมเป็นเพียงลูกสาวของลูกจ้างเสียอีก”“เปล่าเลย ไม่เคยเกลียดหรือรังเกียจ เพียงแต่รู้ตัวว่าไม่มีสิทธิ์รัก จึงต้องทำตัวให้คุณเกลียด แต่ถึงขนาดนั้นผมก็ไม่เคยรักใครได้เลย ได้แต่แอบรักแฟนน้องและเฝ้ามองอย่างคนไม่มีสิทธิ์ คุณพูดถูกว่าผมเลว ตอนที่ไอ้วินมันนอกใจคุณ ผมก็เลือกที่จะเฉย ไม่เอ่ยเตือนสติน้อง ทั้งที่ผมรู้ดีว่าคุณต้องเสียใจมาก แต่ให้ตายเถอะขิม ผมแม่งดีใจแทบบ้า เลยต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ครอบครองคุณ แม้ไม่รู้ว่าจะเอาชนะใจคุณได้หรือเปล่าก็ตาม ขอโทษที่เห็นแก่ตัวจนทำลายความฝันของคุณ แต่ที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะรักและอยากดูแล รวมทั้งอยากเก็บคุณไว้ชื่นชมคนเดียวด้วย”“แล้วทำไมไม่บอกขิมดีๆ แต่แรกล่ะคะ”“ก็พยายามจะบอกหลายครั้ง แต่คุ
“ถ้าผมต่อยปากหมอปากหมาจะเสียค่าปรับเท่าไหร่ครับ” ศาสตราตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสุภาพทว่าข่มขู่และเอาเรื่องเต็มที่ จนปราณต์ต้องยักไหล่และหัวเราะเบาๆ“ผมพูดความจริงครับพ่อเลี้ยง อย่าเพิ่งมีอาการหมัดหรือตีนลั่นแทรกซ้อน ไม่งั้นผมอาจจะส่งเข้าไปตรวจสุขภาพจิตด้วย”“แกรู้ป่ะปราณต์ว่าแกควรไปเป็นหมอเกาหลีและเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ‘จอมวอนตีน’”“เป็นชื่อที่เพราะดี ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับพ่อเลี้ยงศาสตรา แต่คนที่คู่ควรกับชื่อนี้คือแกมากกว่าว่ะ” หมอกับคนไข้สัพยอกกันไปมาราวกับเรื่องเจ็บไม่ใช่เรื่องใหญ่แล้วในตอนนี้ ทว่าภัคธีมายังรู้สึกเป็นกังวล“เอ่อ...หมอปราณต์คะ ถ้าขิมจะขอให้พ่อเลี้ยงแอดมิทสักคืนจะได้ไหมคะ” เสียงหวานเอ่ยแทรกขัดการหยอกเย้าระหว่างเพื่อนสนิทสองคน“ถ้าคุณขิมไม่สบายใจ อยากจะให้ไอ้กริชมันแอดมิทเพื่อดูอาการสักคืนก็ได้นะครับ” ปราณต์หันไปตอบภรรยาของเพื่อน แต่น้ำเสียงเวลาที่พูดฟังดูเป็นการเป็นงานและสุภาพราวกับเป็นคนละคนกับที่พูดกับศาสตรา“ถ้าอย่างนั้นขิมขอแอดมิทนะคะ”“ได้ครับ”“ไม่นะขิม ผมไม่อยากนอนโรงพยาบาล” ศาสตรารีบขัดเมื่อภรรยากับเพื่อนของเขาที่เป็นหมอตกลงกันเสร็จสรรพแบบไม่ถามเขาเลย“นอนเถอะนะค
ศาสตราจูงมือเล็กไปนั่งที่เนินหญ้าเตี้ยๆ ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมลำธาร โดยมีร่างใหญ่นั่งลงแนบข้าง และอ้อมแขนของเขาก็ตวัดกอดร่างบางไปแนบชิด“แน่ใจเหรอคะว่าจะไม่มีใคร”“แน่ใจสิ”“ขิมหิวข้าวนะคะ”“แต่ผมหิวคุณ ตามใจผมนะที่รัก เสร็จแล้วเดี๋ยวจะพากลับไปกินข้าว” เสียงทุ้มกระซิบเว้าวอน ก่อนจะทาบริมฝีปากลงประกบปากสีหวานแล้วบดจูบอย่างเร่าร้อนหิวกระหาย ราวกับไม่ได้จูบเธอมาเป็นแรมเดือน ทั้งๆ ที่เมื่อคืนเขาจูบเธอแทบจะทั้งคืน แต่กระนั้นภัคธีมาก็ต้านทานความปรารถนาของเขาและของตัวเองไม่ได้ สุดท้ายน้ำพริกหนุ่มของจันทริกาจึงถูกวางไว้ที่หลังรถตลอดบ่าย เพราะเจ้าของไร่กับภรรยาสาวอิ่มเอมด้วยรสเสน่หาจนไม่มีใครหิวข้าวเมื่อคืนนี้งานแต่งงานของจันทริกากับรังสิมันต์ผ่านไปอย่างอบอุ่นและหวานชื่น ภัคธีมารู้สึกดีใจกับน้องสาวผู้น่ารักอย่างจันทริกามาก ที่นับแต่จากนี้ไปจะมีดวงตะวันอันแสนอบอุ่นคอยปกป้องดูแล เพราะจันทริกาเป็นน้องสาวที่มีชะตากรรมชีวิตน่าสงสารมาก ในงานเธอยังได้มีโอกาสเจอกับธรินดาน้องสาวที่สนิทกันมากอีกคนในตอนเรียนมัธยม นอกจากนั้นยังได้พบกับนัสรินภรรยาของหมอปราณต์ที่เคยมาบ้านเดชาธรแล้วครั้งหนึ่ง แต่ตอนนั้นยังไม่มีโอ







