Masukเรียวแขนขาวเนียนละเอียดคว้านไปใต้หมอนที่ตัวเองหนุนนอนเพื่อตามหาเครื่องมือสื่อสารที่ยังคงดังต่อเนื่องรบกวนการนอนไม่หยุด
ไอริสฝืนร่างกายที่แสนเหนื่อยล้าราวกับเธอเพิ่งผ่านการวิ่งมาราธอนหลายสิบกิโลออกไป แล้วสไลด์หน้าจอเพื่อรับสายจากปลายทางทั้ง ๆ ที่เธอยังไม่ทันจะลืมตา
“ฮา โหลวววว”
เสียงหวานครางยืดยาวพยายามเค้นเสียงตัวเองผ่านเครื่องมือสื่อสารออกไป ก่อนจะเริ่มขยับร่างกายที่หนักอึ้ง ‘นี่ฉันเมาขนาดนี้เลยเหรอ’
“ไอ้ซันมึงอยู่ไหนแล้ววะ”
“นี่ใครคะ”
“เห้ยๆ เสียงผู้หญิงวะ กูโทรผิดเปล่าวะ”
คนตัวเล็กที่ได้ยินเสียงตอบรับจากปลายสายดังลอดผ่านมาเป็นเสียงของผู้ชาย กำลังโวยวายราวกับกำลังตกใจที่อยู่ดี ๆ ก็มีผู้หญิงมารับสาย ทำให้ร่างบางเริ่มขยี้ตาเพื่อตั้งสติ เดียวนะ!! ถ้าปลายสายเป็นผู้ชายและไม่ใช่เพื่อนของเธอ ถ้างั้นปลายทางโทรหาใครหรือแค่โทรผิด
“โอ๊ยยยยยยยย”
คนตัวเล็กรีบกดวางสายแล้วเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างไว ก่อนจะก้มสำรวจมองตัวเองที่รู้สึกวาบหวิวร่างกายแปลก ๆไหนจะน้ำหนักที่พาดกลางลำตัวจนเธอขยับไม่ได้อีก
ดวงตาก้มโตเริ่มสำรวจสิ่งใกล้ตัว สิ่งแรกที่เธอเห็นคือผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังนอนกอดเธอเอาไว้ แต่ใบหน้าของเขากลับซุกเข้าหาหน้าอกของเธอทั้งที่ยังหลับสนิท
ความหล่อเหลาครบเครื่องของชายแปลกหน้ายังไม่ดึงดูดสายตาเท่ากับร่างแกร่งที่เต็มไปด้วยร่องรอยจากการจิกข่วน ไหนจะรอยคริสมาร์กสีแดงเหล่านั้นอีก
ระหว่างเธอกับเขามีเพียงผ้าห่มผืนเดียวที่ปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าของทั้งสองเอาไว้ ไอริสดึงผ้าขึ้นมาปิดหน้าอก แต่กลับยิ่งชวนให้สถานการณ์ดูหมิ่นเหม่ยิ่งกว่าเดิม เมื่อส่วนล่างของเขาปรากฏชัดใต้ผืนผ้าที่แทบปิดไม่มิด…ราวกับจงใจอวดความสมบูรณ์แบบของเรือนกายไร้อาภรณ์ไม่ต่างจากเธอ
ฝ่ามือเรียวบางตบเข้ากลางหน้าผากของตัวเองเบา ๆ อาการเหนื่อยล้าตามร่างกายและความง่วงซึมที่เคยมีหลายไปในพริบตา หลังจากที่เห็นสภาพยับยู่ยี่บนเตียงพร้อมซากอุปกรณ์ป้องกันนับชิ้นไม่ถ้วน
ไอริสก็รู้ได้ทันทีว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างเธอกับเขา แต่อย่างน้อยเธอก็ยังมั่นใจได้ว่าเขายังป้องกัน
ร่างบางพยายามเอาแขนของเขาที่พาดกลางลำตัวออก และประคองร่างกายที่ปวดร้าวราวกับเพิ่งโดนรถสิบล้อเหยียบ ก่อนจะก้าวขาลงจากเตียงช้า ๆ พร้อมเก็บรวบเสื้อผ้าของตัวเองบนพื้นขึ้นมาสวมใส่และรีบออกจากห้องไปโดนไม่รอให้เจ้าของห้องที่นอนหลับอยู่ตื่นขึ้นมาเจอ
มหาลัยคิงส์โนแอล
“ไอริส ยัยไอ”
“ห๊ะ!! แกว่าไงนะ”
“แก ไม่สบายหรือเปล่าเป็นอะไรตัวแกร้อน ๆ นะ”
พิณเพลงทาบฝ่ามือลงบนหน้าผากของเพื่อนสนิท ที่กำลังนั่งใจลอย จนเธอต้องเรียกซ้ำอยู่หลายครั้งกว่าเพื่อนของเธอจะตอบรับด้วยความเป็นห่วง
“ฉันเลิกกับวินแล้วนะ”
“ไอ แกโอเคใช่ไหม”
พิณเพลงถามไอริสอีกครั้งด้วยความเป็นห่วงพร้อมดึงเพื่อนสาวมาสวมกอดเพื่อให้กำลังใจ เธอเข้าใจว่าที่เพื่อนของเธอมีอาการเมอลอยแบบนี้เป็นเพราะกำลังเสียใจจากการที่ต้องเลิกรากับแฟนหนุ่มจนเริ่มเจ็บป่วยด้วยพิษไข้
“ฉันโอเคที่เลิกกับวิน...ไม่รู้สิอาจจะเพราะทำใจมาสักระยะแล้วมั้ง”
ไอริสกอดพิณเพลงเอาไว้ ก่อนลอบถอนหายใจเบา ๆ ก็อย่างที่เธอบอกว่ามาวินเริ่มเปลี่ยนไปได้สักระยะ และเธอก็เริ่มระแคะระคายเรื่องนี้มาอยู่บ้าง โดยที่เธอตั้งใจเอาไว้แล้ว ว่าเธอจะยอมเสียน้ำตาให้ผู้ชายแบบนั้นแค่ครั้งเดียว
“ฉันว่าแกไปพักที่ห้องพยาบาลก่อนไหม ฉันจะไปส่งแกเอง”
“อือ”
เพราะร่างกายที่ปวดระบมและเริ่มมีอาการเห่อร้อนตามร่างกายเพราะพิษไข้ ทำให้เธอเลือกจะไปนอนพักที่ห้องพยาบาลตามที่เพื่อนแนะนำ สองสาวพยายามเดินลัดเลาะรอบอาคารตรงไปยังจุดหมาย
แต่เมื่อพวกเธอเปิดประตูห้องพยาบาลเข้าไป เธอกลับรู้สึกก้าวขาไม่ออกจนหยุดยืนตัวแข็งทื่ออยู่หน้าทางเข้า เพราะสายตาเธอกับไปสะดุดเข้ากลับคนตัวโตที่นอนหลับสนิทบนเตียงและมันจะไม่มีอะไรเลย หากเขาไม่ใช่ผู้ชายที่เธอตื่นมาเจอเมื่อเช้า
“แกไหวไหม หน้ามืดหรือเปล่า”
“มะ ไม่เป็นไร ฉันโอเค”
คนตัวเล็กรีบตอบเพื่อนสนิท ก่อนจะเริ่มปรับสีหน้าและลมหายใจให้เป็นปกติ เพราะไม่อยากให้เพื่อนสงสัย แล้วเดินไปในห้องพยาบาล
“แกนอนพักที่นี่ เลิกคลาสฉันจะมารับกลับพร้อมกัน”
“อืม”
หลังจากที่พิณเพลงเธอเดินออกไป ดวงตากลมโตก็แอบจ้องมองไปที่ใบหน้าของคนบนเตียงข้างกัน เรียวนิ้วบางยกขึ้นทาบริมฝีปากตัวเอง อดคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นระหว่างเขากับเธอไม่ได้ ยิ่งตอนเรียวลิ้นหนาสอดแทรกเข้ามาหยอกเย้าในโพรงปากของเธอ มันดูลุ่มหลง อ่อนโยน แล้วเร่าร้อนพอ ๆ กับสัมผัสจากฝ่ามือหนาแสนซุกซนที่บีบเคล้นไปตามร่างกายของเธอจนแดงเถือก
แต่เธอเรียนที่นี่มาสักระยะกลับไม่เห็นหรือรู้มาก่อนว่าผู้ชายคนนี้จะเรียนที่เดียวกับเธอ คนตัวเล็กพยายามสลัดภาพในหัวที่ทำเอาเธอรู้สึกร้อนวูบวาบบริเวณท้องน้อยมากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งคิดถึงสาเหตุที่ทำให้เธอเป็นไข้จนต้องมานอนซมแบบนี้ก็ยิ่งรู้สึกใจเต้นระรัว ‘แล้วทำไมแกต้องไปคิดถึงจูบของเขาด้วยละ’
ร่างบางจัดแจงดึงผ้าห่มมาคุมร่างกาย ก่อนจะเลือกพลิกตัวนอนหันหลังให้คนตรงหน้า ยังไงซะเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขาก็เป็นแค่วันไนท์สแตนด์ ที่ผ่านมาแล้วก็จบไปไม่คิดสานต่อให้ใครมารับผิดชอบ เพราะคืนนั้นเธอตั้งใจจะจบลงที่เตียงกับเขาเอง
แต่สุดท้ายความหนักอึ้งของเปลือกตาก็ทำให้เธอหมดแรงฝืนลืมตาอีกต่อไป เปลือกตาของเธอปิดลงพร้อมกับลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ
ดวงตาคมที่ดูเหมือนว่ากำลังหลับสนิทของคนตัวโตลืมตาขึ้นมา พร้อมยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะลุกขึ้นก้าวเดินไปล็อกประตูห้องพยาบาล เพื่อไม่ให้ใครเข้ามารบกวน
ร่างแกร่งเดินมาหยุดยืนอยู่ปลายเตียงที่มีใครบางคนนอนอยู่ ใบหน้าเรียบนิ่งยังคงจ้องมองคนตัวเล็กอยู่แบบนั้นราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างในใจ
ซันจดจำหญิงสาวที่นอนหลับบนเตียงได้ดี เขาเห็นเธอตั้งแต่ตอนเดินถือเค้กเขามาในคลับก็นึกแปลกใจ เพราะเขามาคลับแห่งนี้ค่อนข้างบ่อยแต่กลับไม่เคยเจอคนตัวเล็กสักครั้ง
คนตัวสูงลอบมองร่างบางราวกับเสือร้ายเจอเหยื่อที่พลัดหลงเข้ามา เขายอมรับว่าถูกใจเธอตั้งแต่ได้เห็นครั้งแรก จนไม่อาจละสายตาได้ และดูเหมือนโชคชะตาจะเข้าข้างเขาถึงได้ส่งเนื้อกวางแสนหวานมาให้เขาถึงที่
เมื่อเค้กที่คนตัวเล็กถือเข้ามาเป็นเค้กของแฟนตัวเองสั่งให้ผู้หญิงอีกคน เขาจำได้ว่าตัวเองนั่งมองร่างบางที่ยกเครื่องดื่มคนเดียวเงียบ ๆ เพียงลำพังอยู่นานพอสมควร เห็นแต่งตัวเรียบร้อยน่ารัก ใครจะคิดว่าคอแข็งพอสมควร
ทุกอย่างที่เป็นผู้หญิงคนนี้ช่างขัดกับรูปลักษณ์ภายนอกจริง ๆ ‘เป็นผู้หญิงที่สวย แม้กระทั่งร้องไห้ก็ยังสวย’
เขายังจำรสจูบแสนหวานของร่างบางที่พยายามลุกล้ำเข้ามาหาเขาก่อนได้เป็นอย่างดี ยิ่งมารู้ว่าเขาได้เป็นคนแรกของเธอก็ยิ่งรู้สึกแปลกใจที่แฟนแสนห่วยแตกของเธอปล่อยให้ของดีแบบนี้หลุดมือมาได้ไง
ร่างแกร่งเดินอ้อมปลายเตียงมาสอดแทรกตัวเองไปบนเตียงเดียวกันกับเจ้าของร่างบางที่หลับสนิทจนไม่รู้สึกตัว มีเพียงแค่เสียงครางต่ำเบา ๆ ในลำคอ ที่กำลังต่อต้านเพราะถูกรบกวนการนอน
“อื้มมมมม”
“ชูว์”
แขนแกร่งสอดรั้งใต้ลำคอคนตัวเล็ก ก่อนดึงอีกฝ่ายเข้ามาซบอกแกร่ง แล้วลูบหัวอีกฝ่ายช้า ๆ เหมือนต้องการกล่อมให้อีกคนกลับสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง
เมื่อเห็นคนตัวเล็กเริ่มหลับสนิท ซันก็เริ่มได้สติอีกครั้งว่าตัวเองกำลังเผลอทำตัวแปลก ๆ อย่างการเอาตัวเอายัดเยียดไปอยู่บนเตียงอีกฝ่ายเพียงเพราะอยากกอดและคิดถึงกลิ่นหอม ๆ ของร่างบางที่เพิ่งผ่านสมรภูมิรักด้วยกันอย่างร้อนแรง
จากที่ตั้งใจจะจบลงแค่รอบเดียวก็เลยเถิดจนเกือบเช้า ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ทุกอย่างที่เป็นคนอ้อมกอดมันกลับปลุกเร้าอารมณ์ของเขาให้ร้อนรุ่มจนไม่สามารถควบคุมได้ ‘ก็แค่เซ็กซ์ที่เขารู้สึกว่ายังไม่เบื่อเลยอยากได้ซ้ำอีกสักหน่อยก็เท่านั้นก็เหมือนคนอื่น ๆ ไม่ได้มีความหมายอะไร’
ฝ่ามือหนาสอดเข้าไปใต้สาบเสื้อนักศึกษาของคนตัวเล็กก่อนจะวางมือลงบนหน้าอกอวบอิ่มที่ฟูเต็มไม้เต็มแล้วปิดตาลงสู่ห้วงนิทราตามร่างบางที่หลับสนิท
แสงแดดยามสายลอดผ่านผ้าม่านสีเข้ม แทรกเข้ามาเพียงริ้วบาง ๆ ในห้องที่ยังเงียบสงบ สีสันภายในถูกขับเน้นด้วยโทนดำหม่น ราวกับสะท้อนสีของท้องฟ้ายามราตรีไม่มีผิดเรือนร่างเปลือยเปล่าภายใต้ผ้าห่มผืนหนาเริ่มสั่นไหวเล็กน้อย เมื่อไอริสขยับตัวช้า ๆ แต่ความอ่อนล้าของร่างกายยังถ่วงให้เธอจมอยู่กับเตียงมากกว่าจะลุกขึ้น แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าเวลานี้ควรตื่นขึ้นมาได้แล้ว แต่ทุกส่วนของร่างกลับหนักอึ้งจนเกินจะขยับกลิ่นอุ่นคุ้นเคยจากผ้าห่มและหมอนที่รองศีรษะ ล้วนเป็นกลิ่นกายของเขา อบอุ่น ปลอดภัย และดึงรั้งให้เธอหลับใหลต่ออย่างง่ายดาย ความเหนื่อยล้าที่ยังตกค้างจากการถูกเขารังแกซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนไร้เรี่ยวแรง ทำให้เธอแทบไม่เหลือพลังจะฝืนลุกขึ้นมาสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ใช่ครั้งแรกของเรา แต่กลับต่างจากครั้งไหน ๆ ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีแรงผลักดันจากความอยากเอาชนะ มีเพียงแค่เขาและเธอ ที่ปล่อยให้สัมผัสนำพาความต้องการไป จนลืมทุกอย่างรอบตัวเธอจดจำได้ทุกอย่างที่เป็นเขา ทั้งน้ำเสียง แรงกอด จังหวะหายใจ เสียงแหบพร่าที่กระซิบใกล้ข้างหู และมือของเขาที่โอบรั้งเธอไว้แน่นจนเหมือนจะหลอมละลายเข้าไปด้วยกัน เพราะครั้งนี้เธอเต็มใจไ
ไอริสเงยหน้าสูดลมหายใจเข้าปอดช้า ๆ อย่างเหนื่อยหอบ เขายังคงกดแนบแก่นกายอยู่ในตัวเธอ ไม่ผละออก ไม่แม้แต่จะขยับถอย มือหนารั้งสะโพกเธอไว้แน่น หวงแหนราวกับยังไม่อยากปล่อยสัมผัสอุ่นร้อนให้หลุดจากอ้อมแขนไปไหน เพื่อซึมซับความรู้สึกของกันและกัน“หนูกำลังตัวสั่น”เสียงเขาทุ้มต่ำ พึมพำชิดข้างแก้ม ลมหายใจของเขาก็หอบเหนื่อยไม่ต่างจากเธอ ไอริสเม้มปากแน่น แก้มเห่อร้อนแดงจัด ขาทั้งสองข้างยังโอบรอบสะโพกเขาโดยไม่รู้ตัวร่างกายเธอเบาหวิวเหมือนไม่ได้อยู่กับพื้นอีกต่อไป แต่ก่อนที่เธอจะพูดอะไร เขาก็ขยับสะโพกออก พร้อมหยิบกล่องอุปกรณ์ป้องกันขึ้นมาวางบนโต๊ะ แล้วจัดการแกะเปลี่ยนอันใหม่เอามาสวมลงไปอีกครั้ง“พี่ซันพอแล้ว”“แน่ใจเหรอครับ ว่าหนูไม่อยากให้พี่ทำต่อ”เสียงแหบทุ้มต่ำกับลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดใบหูอย่างคลอเคลีย แต่แฝงแรงปรารถนาอย่างชัดเจน ไม่ใช่คำถามที่ต้องการคำตอบ แต่เป็นคำถามที่บ่งบอกว่าเขายังไม่อยากหยุดไอริสได้แต่เบี่ยงหน้าหลบด้วยความเขินอาย ก่อนจะสัมผัสได้ถึงแก่นกายที่เสียดสีกับร่องรักของเธออีกครั้งคนตัวโตค่อย ๆ ขยับสะโพกเพื่อถูไถ่แท่งเอ็นร้อนให้เส้นเลือดปูดโปนและรอยหยักสัมผัสไปกับความเปียกแฉะภา
“พะ พี่ซัน”เสียงหวานของไอริสหลุดลอยออกมาอย่างแผ่วเบา เธอพยายามตั้งสติไม่ให้หลงเผลอไผลไปกับสัมผัสของเขาที่กำลังยั่วเย้าอารมณ์ของเธอให้เตลิดไปไกล แต่เธอกลับถูกต้อนให้ตกลงไปในห้วงราคะของเขาด้วยไออุ่นร้อนจากลมหายใจที่เป่ารดวนเวียนอยู่ข้างแก้มร่างสูงยังคงยืนอยู่ตรงหน้าบดเบียดร่างกายส่วนล่างของเขาให้แนบชิดคลอเคลียไปกับเรือนร่างของเธอจนได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากลมหายใจของเขา มือหนายังคงวนเวียนอยู่บนบริเวณต้นขา ไม่ได้เคลื่อนไหวไปไหนไกล แต่กลับลูบไล้เนิบช้า เฉียดใกล้รอยแยกเนินเนื้อนุ่มที่เริ่มเปียกแฉะคนตัวสูงกดจูบเบา ๆ บนเนินไหล่ ก่อนจะลากริมฝีปากลงต่ำอย่างเชื่องช้าจนถึงเนินอกแล้วใช้ปลายจมูกไล้ขึ้นมาที่ลำคออีกครั้ง เขากดจูบริมฝีปากซ้ำ ๆ ราวกับตั้งใจจะทิ้งร่องรอยเอาไว้ทุกจุดที่เลื่อนผ่าน“อืมมมม”เสียงหวานของเธอเริ่มสั่นไหว พร้อมกับร่างกายที่สั่นระริก เมื่อเขาเลื่อนมือขึ้นจากต้นขา ค่อย ๆ สอดเข้าใต้ชายกระโปรงที่ขยับเลิกขึ้นจากตอนถูกอุ้มขึ้นมาบนโต๊ะ ร่างบางสะดุ้งตัวเล็กน้อย เมื่อฝ่ามือร้อนแนบเข้ากับผิวเปลือยเปล่าใต้ลูกไม้บางตัวนั้น“พี่ซัน อย่า…”เสียงเธอเบาหวิว พยายามร้องห้ามอย่างติด ๆ ขัด ๆ แต่แว
“แก ๆ ดูนี่สิ!”พิณเพลงยื่นมือถือมาตรงหน้าไอริส หน้าจอแสดงภาพของนักแสดงชายจากซีรีส์จีนย้อนยุคที่กำลังโด่งดังในช่วงนี้ “โอ๊ย หล่ออะแก!”เสียงไอริสกรี๊ดออกเบา ๆ อย่างลืมตัว ดวงตากลมโตเป็นประกายระยิบ ขณะที่รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นบนใบหน้า“ดูหุ่นสิ! โอ้โห…ซิกแพคแน่นมาก กล้ามแขนก็แบบ…แน่นสุด!”เธอพึมพำออกมาเบา ๆ อย่างลืมตัว แขนเล็ก ๆ เอื้อมไปเกาะเพื่อนสนิทด้วยท่าทีเคอะเขินไม่ต่างกัน“ไอ…ดูนี่สิ เขามีตารางบินมาไทยวันนี้นะ”“จริงเหรอ!?”สายตาไอริสกวาดมองไปรอบร้าน พอเห็นว่าวันนี้ลูกค้าไม่ได้เยอะมาก สินค้าก็เตรียมไว้พร้อมแล้ว เธอก็รีบคว้าแขนเพื่อนสนิทอย่างพิณเพลงให้ลุกไปด้วยกันทันที“เดี๋ยวไอ จะไปไหน”“ไปหาสามีทิพย์! ตั้งแต่เปิดร้านมายังไม่ได้หยุดเลย ไปเป็นเพื่อนไอหน่อยนะ ” ร่างบางเกาะแขนเพื่อนแน่น เอาหน้าซบไหล่พร้อมส่งสายตาออดอ้อนสุดฤทธิ์“ไม่ได้”ไอริสที่ได้ยินคำปฏิเสธก็เริ่มทำหน้าเหงาหงอยขึ้นมาทันที ก่อนจะเดินคอตกกลับไปที่ร้าน เพราะเพื่อนสนิทไม่ยอมไปด้วย หากแต่จะให้เธอไปเองคนเดียวก็ไม่กล้า“ไม่ได้...จะไปหน้าสด ชุดไม่สวยแบบนี้ไม่ได้”เธอหันกลับทันควัน พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นชั้
“คนบ้า…”เสียงหวานยังคงบ่นพึมพำในลำคอ ก่อนจะชำเลืองมองร่างสูงที่ผละตัวออกจากเธอ ก่อนเดินไปหยุดอยู่หน้าเตาอบพร้อมกับจังหวะหัวใจของเธอที่ยังสั่นระรัวไม่หยุดติ๊ง!เสียงเตาอบดังขึ้นและเงียบลงแทบในเวลาเดียวกัน ไอริสค่อย ๆ เปิดเตา ก่อนจะยกถาดขนมที่เพิ่งสุกออกมาวางบนตะแกรงพัก มือเรียวบางสั่นเล็กน้อยขณะยกถาดเอาขนมออกจัดวางอย่างเบามือไอร้อนพร้อมกลิ่นหอมของขนมลอยกรุ่นคลอเคล้ากลิ่นเนยผสมกลิ่นวนิลลาจาง ๆ อบอวลไปทั่วห้อง แต่กลิ่นหอมของเค้กนั้นแทบจะสู้กลิ่นกายของเขาไม่ได้ เธอรู้ดีว่าเขายังยืนอยู่ข้างหลัง ห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าว และความรู้สึกที่ถูกจ้องมองอย่างตั้งใจนั้น… มันทำให้ลมหายใจของเธอติดขัด“พี่เรียนมาทั้งวัน คงเหนื่อยแล้ว… ขึ้นไปพักเถอะค่ะ”เธอเอ่ยเบา ๆ โดยไม่หันกลับไปมอง พยายามเบี่ยงสายตาจากเขามาที่ขนมบนตะแกรง แล้วหันไปหยิบวัตถุดิบสำหรับเตรียมทำขนมคืนนี้แทน“ไม่เหนื่อย”เสียงทุ้มต่ำตอบกลับมาช้า ๆ พร้อมกับก้าวขยับเข้ามาใกล้อีกนิด และก่อนที่เธอจะทันตั้งตัว ข้อมือบางก็ถูกจับไว้เบา ๆ จากมือของเขา ก่อนจะหมุนตัวเธอให้กลับมาเผชิญหน้าเขา“สนใจแต่ลูกค้ากับขนม…”เขากระซิบบอกเบา ๆ ราวกับกำลังน้อย
เช้าวันต่อมาแสงแดดยามเช้าสาดลอดผ่านกระจกหน้าร้านเข้ามาอย่างอบอุ่น กลิ่นขนมอบใหม่จากเตา หอมตลบอบอวลไปทั่วทั้งร้านไอริสยืนอยู่หน้าตู้เค้ก ตรวจความเรียบร้อยภายในร้านเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะฝากร้านกับพี่ ๆ พนักงานซึ่งเป็นคนเก่าที่เคยช่วยดูแลร้านระหว่างที่เธอไปเรียนเป็นโชคดีของเธอที่ร้านอยู่แค่หลักตึกคณะ สามารถเดินไปได้และใช้เวลาแค่ไม่กี่นาที แต่ยังไม่ทันได้หยิบกระเป๋าและของใช้ส่วนตัว ก็เห็นเงาของร่างสูงมายืนอยู่ไม่ไกลซันยืนอยู่ในชุดนักศึกษาวิศวะ เสื้อยืดสีขาวพับแขนลวก ๆ ทับด้วยช็อปที่พาดไว้บนไหล่ กับทรงผมที่ยุ่งนิดหน่อยตามสไตล์คนเพิ่งตื่น แต่กลับดูดีจนเธอรู้สึกหมั่นไส้“จะไปเรียนใช่ไหม เดี๋ยวพี่เดินไปส่ง”เสียงทุ้มต่ำของคนตัวโตบอกเธอเสียงเรียบ เขาพูดง่าย ๆ เหมือนแค่ชวนไปซื้อข้าวหน้าปากซอย โดยไม่ถามเธอเลยสักคำว่าจะยอมให้เขาไปส่งไหม“ร้านอยู่ใกล้แค่หลังตึก ไม่ต้องลำบากหรอกค่ะ”เธอถอนหายใจเบา ๆ ใครจะอยากให้เขาไปส่งกันเล่า เมื่อวานหลังจากจัดร้านเรียบร้อย พิณเพลงก็ไม่วายเอาแต่พูดถึงเขากับเพื่อน ๆ หนุ่มวิศวะคนดังของมหา’ลัย ที่เห็นจากกลุ่มเพื่อนที่มาด้วยกันก็ต้องยอมรับว่าทั้งหล่อ ทั้งดูดีแบบก







