แชร์

บทที่ 8

ผู้เขียน: ซินโฟร์เน่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-22 17:20:56

“คนบ้า…”

เสียงหวานยังคงบ่นพึมพำในลำคอ ก่อนจะชำเลืองมองร่างสูงที่ผละตัวออกจากเธอ ก่อนเดินไปหยุดอยู่หน้าเตาอบพร้อมกับจังหวะหัวใจของเธอที่ยังสั่นระรัวไม่หยุด

ติ๊ง!

เสียงเตาอบดังขึ้นและเงียบลงแทบในเวลาเดียวกัน ไอริสค่อย ๆ เปิดเตา ก่อนจะยกถาดขนมที่เพิ่งสุกออกมาวางบนตะแกรงพัก มือเรียวบางสั่นเล็กน้อยขณะยกถาดเอาขนมออกจัดวางอย่างเบามือ

ไอร้อนพร้อมกลิ่นหอมของขนมลอยกรุ่นคลอเคล้ากลิ่นเนยผสมกลิ่นวนิลลาจาง ๆ อบอวลไปทั่วห้อง แต่กลิ่นหอมของเค้กนั้นแทบจะสู้กลิ่นกายของเขาไม่ได้

เธอรู้ดีว่าเขายังยืนอยู่ข้างหลัง ห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าว และความรู้สึกที่ถูกจ้องมองอย่างตั้งใจนั้น… มันทำให้ลมหายใจของเธอติดขัด

“พี่เรียนมาทั้งวัน คงเหนื่อยแล้ว… ขึ้นไปพักเถอะค่ะ”

เธอเอ่ยเบา ๆ โดยไม่หันกลับไปมอง พยายามเบี่ยงสายตาจากเขามาที่ขนมบนตะแกรง แล้วหันไปหยิบวัตถุดิบสำหรับเตรียมทำขนมคืนนี้แทน

“ไม่เหนื่อย”

เสียงทุ้มต่ำตอบกลับมาช้า ๆ พร้อมกับก้าวขยับเข้ามาใกล้อีกนิด และก่อนที่เธอจะทันตั้งตัว ข้อมือบางก็ถูกจับไว้เบา ๆ จากมือของเขา ก่อนจะหมุนตัวเธอให้กลับมาเผชิญหน้าเขา

“สนใจแต่ลูกค้ากับขนม…”

เขากระซิบบอกเบา ๆ ราวกับกำลังน้อยใจ พร้อมยกมืออีกข้างแตะแก้มนุ่มของเธอ ปลายนิ้วไล้เบา ๆ อย่างเชื่องช้า

“สนใจพี่บ้างก็ได้”

“เอ่อ...คือ”

เสียงเธอสั่นพร่า ดวงตาสั่นระริก ใจก็อยากจะถอยหนี แต่ร่างกายกลับไม่ยอมขยับตาม ร่างแกร่งเดินขยับเข้ามาอีกเพียงก้าวเดียว ก่อนจะโน้มใบหน้าตามมาติด ๆ จนแทบจะชนกันอยู่แล้ว

ลมหายใจร้อน ๆ ของเขารินรดแก้มเธอชัดเจน จนน่าหวั่นไหว ไอริสกัดริมฝีปากแน่น ลมหายใจเริ่มติดขัด หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุอก และแล้ว…ริมฝีปากของเขาก็ประทับลงมาบนริมฝีปากบางของเธอ อย่างแนบแน่น ไม่รีบร้อน แต่กลับดูดดื่มและอัดแน่นไปด้วยอารมณ์ที่เขากักเก็บมาตลอดทั้งวัน

คนตัวเล็กสะดุ้งเล็กน้อยด้วยความตกใจ แต่กลับไร้เรี่ยวแรงจะผลักเขาออก เพราะหัวใจของเธอกำลังยอมแพ้ให้กับสัมผัสของเขาอย่างเงียบงัน

ปลายลิ้นร้อนกัดเม้มอย่างอ่อนโยน ก่อนจะสอดเรียวลิ้นเข้ามากวาดต้อนความหวานในโพรงปากอ่อนนุ่มอย่างอ้อยอิ่ง

ฝ่ามือหนาจับลงบนเอวคอด แล้วออกแรงบีบขยำเบา ๆ อย่างอดกลั้นความรู้สึก ก่อนจะดึงร่างบางเข้ามาหากัน แนบชิดจนแทบไร้ช่องว่าง เสียงลมหายใจค่อย ๆ สอดประสานไปกับเสียงครางต่ำของคนตัวโต มือบางของเธอกำชายเสื้อเขาแน่นอย่างไม่รู้ตัว

“พี่ซัน…”

เธอหวานครางเรียกชื่อเขาอย่างหลุดปาก ลมหายใจพร่ามัวแทบหลอมรวมไปกับของเขา

“ขอโทษครับ…”

เสียงกระซิบเบาหวิวดังขึ้นตรงซอกคอ ก่อนเขาจะขบเบา ๆ บนผิวเนียนที่หอมหวานเกินห้ามใจ

“แต่พี่หวงเราจริง ๆ”

มืออุ่นร้อนค่อย ๆ สอดเข้าใต้ชายเสื้อผ้ากันเปื้อน สัมผัสไล้แผ่วเบาตามแนวเอวอ่อน จนกระทั่งปลายนิ้วสัมผัสยอดอกที่ชูชัน ราวกับจงใจแตะลงเพื่อสะกดให้ร่างบางสั่นสะท้านให้คล้อยตามไปกับเขา

“พี่ซัน… นี่มันห้องทำขนมนะคะ…”

เสียงเธอแผ่วเบา ลังเลและสั่นพร่า ราวกับกำลังต้านทานความลุกล้ำเส้นที่ใกล้จะเกินเลย

“พี่ไม่ได้จะทำอะไร แค่อยากให้เธอรู้ว่าพี่หวง…และอยากให้รู้ว่าเธอเป็นของพี่”

เขาพึมพำแนบผิวแก้ม ลมหายใจร้อนรดรินไม่ห่าง ไอริสเม้มปากแน่น หัวใจเต้นรัวเหมือนจะระเบิด ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะกลับมาทาบทับเธออีกครั้งอย่างล้ำลึกและเร่าร้อนกว่าเดิม

ทุกการกระทำของเขาเป็นเหมือนยาที่ยังคงกล่อมสติการยั้งคิดของเธอให้จางหายลงไปเรื่อย ๆ ราวกับเขาต้องการฝังร่องรอยความรู้สึกไว้และเธอก็ปล่อยให้เขาทำเช่นนั้นอย่างเต็มใจ

มือบางโอบกอดลำคอเขาแน่นโดยไม่รู้ตัว ขณะที่ผ้ากันเปื้อนหลุดจากบ่าอย่างไร้การควบคุมและปล่อยตัวเองให้ทำตามใจและตามอารมณ์

เป็นเวลาเนิ่นนานกว่าประตูหลังร้านจะเปิดแง้มออกมาอย่างเงียบเชียบ ก่อนร่างบางจะก้าวออกมาช้า ๆ ไอริสสูดหายใจลึกเพื่อรวบรวมสติก่อนกลับสู่โลกความเป็นจริง

มือข้างหนึ่งยังยกขึ้นแตะแก้มตัวเองเบา ๆ ราวกับจะเช็ดไอร้อนที่ยังหลงเหลือ กลิ่นหอมวานิลลายังติดปลายจมูก แต่สิ่งที่ชัดเจนยิ่งกว่าคือกลิ่นอายของเขาที่ยังไม่จางลง

“หายไปนานเชียวนะ คนทำขนม”

เสียงแซวคุ้นหูดังมาจากเคาน์เตอร์ด้านหน้า พิณเพลงยืนกอดอก รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ประดับเต็มใบหน้า

ไอริสชะงักนิดหนึ่ง แต่ยังพยายามเดินต่อโดยไม่สบตา ทว่าก้าวยังไม่ทันพ้น สายตาเพื่อนสาวก็ไล่มองลงมา แล้วเลิกคิ้วขึ้นสูง

“เอ๋? ตรงคอนั่น ไปโดนถาดขนมร้อน ๆ มาเหรอ แดงเชียว” เธอรีบยกมือแตะลำคออย่างตกใจ พร้อมกับใบหน้าที่แดงจัดราวกับกำลังโดนจับพิรุธกลางร้าน

“พะ-พิณเพลง! อย่าพูดเสียงดังสิ”

พิณเพลงหัวเราะคิกคัก ก่อนจะกระซิบแผ่ว ๆ

“แค่เสียงเบาก็ไม่ช่วยหรอก รอยมันแดงขนาดนั้น ใครไม่ตาบอดก็มองออกว่ารอยอะไร”

“ไอไม่ได้ตั้งใจ”

เธอพึมพำเสียงเบา แววตาหวั่นไหวและหลบตาอย่างพ่ายแพ้

“แน่ล่ะ ไอไม่ตั้งใจ… แต่พี่ซันน่ะ ตั้งใจแน่นอน”

พิณเพลงกลั้วหัวเราะ รอยยิ้มเอ่ยแซวฉายชัดในแววตา

“คนเราจะเผลอไม่ตั้งใจได้ก็ต่อเมื่อใจมันไปไกลกว่าคำว่าอดทนแล้วล่ะมั้ง”

“พิณเพลง”

ไอริสเสียงอ่อน พยายามเดินหนีเข้าหลังเคาน์เตอร์ แต่เพื่อนสาวก็ยังตามติดไม่ลดละ

“โอเค ๆ ไม่แซวแล้วก็ได้”

“…”

“แค่ขอเตือนไว้นิด ถ้าจะทำเค้กคราวหน้า ก็อย่าปล่อยให้เค้กไหม้เพราะคนข้างหลังก็แล้วกันนะ”

พิณเพลงยกมือทำท่าล้อเลียน พร้อมเสียงหัวเราะแผ่วเบาหลุดออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

เธอก้มหน้าก้มตาเช็ดเคาน์เตอร์กลบเกลื่อน ทั้งที่หัวใจยังเต้นไม่เป็นจังหวะอยู่ดี และในขณะที่เธอกำลังพยายามเรียกสติตัวเองกลับมา ประตูหลังร้านก็เปิดออกอีกครั้ง พร้อมร่างสูงของชายหนุ่มเจ้าของรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม

ไอริสขึงตาใส่คนตัวโตทันที ที่เห็นเขาเดินออกมา พร้อมกับชี้ที่คอ ราวกับคาดโทษที่เขาทำรอยเอาไว้ให้เธอรู้สึกอับอาย

“ขอโทษเห็นหอมน่ากินเหมือนกัน เลยคิดว่าขนม”

ซันเอ่ยกลั้วหัวเราะ สีหน้าดูสบายใจและอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด เขาก้าวเข้ามาใกล้ พลางเหลือบตามองเธอที่ยังหน้าแดงไม่เลิก จนพิณเพลงที่ยืนอยู่ไม่ไกลหันไปมองเขาแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์

“อ๋อ… งั้นคราวหน้าพิณจะจำไว้ ถ้าหาพี่หายไปกับไอริสแบบสองต่อสองอีก แปลว่าเพื่อนพิณอาจจะโดนพี่จับกินเพราะคิดว่าเป็นขนม”

เสียงหัวเราะของทั้งคู่ดังพอให้ไอริสร้อนวาบไปถึงใบหู เธอได้แต่หลบตา ยกมือปิดหน้าเล็กน้อย แต่ในใจกลับอุ่นร้อน…ไม่ต่างจากกลิ่นเค้กที่ยังหอมฟุ้งอยู่ทั่วร้าน
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • กรุ่นรักไอริส   บทที่ 65

    บ้านสวนคาเฟ่ไอริสแสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านม่านไม้เลื้อยที่เกาะระแนงด้านหน้า เสียงลมพัดผ่านใบไม้ดังแผ่วเบาอย่างอ่อนโยน กลิ่นหอมของกาแฟคั่วสดผสมกับกลิ่นวานิลลาอ่อน ๆ ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศเหมือนทุกเช้าที่ผ่านมาร่างเล็กในเดรสผ้าฝ้ายสีขาวบางเบานั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ไม้ เธอลูบหน้าท้องกลมเบา ๆ อย่างเผลอไผล ก

  • กรุ่นรักไอริส   บทที่ 64

    ซันมองเข้าไปในดวงตาสวยคู่นั้นก็จะเลื่อนมือข้างหนึ่งมาตรึงข้อมือเรียวของเธอไว้เหนือศีรษะ กดแผ่นหลังบางแนบกับผนังเย็น ก่อนจะโน้มตัวลงมาประกบริมฝีปากอย่างร้อนแรงเรียวลิ้นหนาสอดเข้ามาหยอกล้อในโพรงปากนุ่มราวกับหลงใหลในรสหวานที่ไม่มีวันพอ รสจูบของเขาอ่อนโยนแต่ก็เร่าร้อนราวกับไฟฝ่ามือร้อนผ่าวลูบไล้ไปตามร

  • กรุ่นรักไอริส   บทที่ 63

    Dragon Clubภายใต้แสงไฟสลัวและเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่ม “Dragon Club” ยังคงคึกคักไม่ต่างจากทุกคืน ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาใช้บริการกันแน่นขนัด ทั้งบนฟลอร์และรอบบาร์เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเร่าร้อนและแอลกอฮอล์ที่ลอยคลุ้งในอากาศบนโซฟาหนังริมกระจกบานใหญ่ ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีเข้มที่ปลดกระดุมไว้เพียงครึ่งเผย

  • กรุ่นรักไอริส   บทที่ 62

    หลังจากช่วงเวลาแห่งความปีติยินดีผ่านไปเพียงไม่นาน ซันเอ่ยกับ ไอริสเบา ๆ“ไปบ้านสวนกันนะ พี่มีอะไรจะให้”เขาไม่รอให้เธอถามอะไรอีก มือหนาเลื่อนมากุมมือเล็ก ๆ นั้นไว้ ก่อนจะพาไปขึ้นรถ แล้วขับรถพาเธอมาจนถึงบ้านสวน ในบ่ายที่แสงแดดกำลังนวลพอดีแต่เมื่อรถเลี้ยวมาถึงทางเข้า เธอกลับต้องเบิกตากว้างด้วยความตก

  • กรุ่นรักไอริส   บทที่ 61

    สองปีต่อมาเสียงประกาศชื่อบัณฑิตดังก้องอยู่ภายในหอประชุมใหญ่ บรรดานักศึกษาในชุดครุยสีดำขลิบทองทยอยเดินขึ้นเวทีตามลำดับรายชื่อ หนึ่งในนั้นคือหญิงสาวร่างบางเจ้าของดวงตากลมโตที่ในวันนี้ดูโดดเด่นไม่แพ้ใครผมยาวสลวยถูกรวบขึ้นอย่างเรียบร้อย ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบา ทว่าเปล่งประกาย ใต้ครุยสถาปั

  • กรุ่นรักไอริส   บทที่ 60

    มือเรียวบางเริ่มบีบครีมกะทิมะพร้าวเป็นวงกลมบนเนื้อเค้กให้สูงขึ้นเล็กน้อย โดยเว้นพื้นที่ตรงกลางเอาไว้ราดซอสตะโก้เผือกที่เตรียมแล้ว จากนั้นก็บีบครีมกะทิลงไปอีกชั้นตามด้วยเนื้อเค้กที่แบ่งไว้ ก่อนจะบาดครีมกะทิมะพร้าวสีขาวละมุนรอบเนื้อเค้กให้เรียบ ตกแต่งหน้าเค้กด้วยซอสตะโก้เผือก ปิดท้ายด้วยการนำเอาไข่แดง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status