Share

๖ เมารัก

Penulis: Kaowsethong
last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-01 17:03:21

เมารัก

ร่างบางส่องกระจกเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของตัวเองหลังได้รับโทรศัพท์จากบุษบามินตราช่วงเช้าที่ผ่านมาว่าจะมารับเธอไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้าที่ตนเองดูแลร้านเพชรอยู่ มีเรื่องราวมากมายที่ต้องการจะคุยด้วย จอมขวัญก็ตอบรับปากไป ทั้งสองสาวจึงนัดกันเวลาสิบโมงครึ่งที่ห้างดัง

ระหว่างที่เดินออกมาจากห้องเพื่อไปขึ้นรถเมล์ที่ตอนนี้คนก็เยอะพอสมควร สองเท้าเดินไปอย่างไม่เร่งรีบเพราะเธอกะเวลาแล้วว่าอย่างไรก็ไปถึงที่นัดหมายก่อนเวลาอย่างแน่นอน

“สวัสดีค่ะแม่”

“เป็นอย่างไรบ้างขวัญ ไม่ค่อยโทรหาแม่เลยนะ”

ร่างบางอมยิ้มก่อนจะออดอ้อนแม่บอกถึงสาเหตุที่ไม่ค่อยได้โทรไปหา

“ขอโทษนะคะแม่ ขวัญยุ่งมากงานเต็มโต๊ะเลยจริงๆ น้า” เสียงหวานตอบกลับไปจนมารดาที่กำลังนั่งเย็บผ้าอยู่คิดว่าถ้าลูกสาวอยู่ด้วยตอนนี้ต้องกอดเธอเป็นแน่แท้

“จ้า งานเยอะก็อย่าหักโหมนะลูก พักบ้างนะ เดี๋ยวถ้าพ่อกับแม่ว่างจะลงไปหานะ ตาก็บ่นถึงเราตลอดเวลาเลย จนยายต้องปรามบ้าง”

หล่อนหัวเราะออกมาด้วยความขำ ตามักจะเป็นแบบนี้เสมอตั้งแต่สมัยที่เธอมาเรียนมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพแล้ว ตาของเธอมักจะหวงหลานเสมอเพราะหลานสาวออกจะสวยปานนั้น

“ฝากบอกตาด้วยนะคะว่าขวัญคิดถึงมาก แม่คะรถมาแล้ว ขวัญต้องไปแล้ว รักแม่นะคะ” เมื่อได้ยินเสียงมารดาตอบรับก่อนจะกดตัดสายไป รถก็มาจอดเทียบพอดี คนลงมามากพอสมควรทำให้บนรถมีที่นั่งว่าง

จอมขวัญเดินไปนั่งที่นั่งเดียวทันทีก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่าง แม้จะมาเรียนที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ปีหนึ่งจนถึงปีสี่ เธอก็ไม่ชอบบรรยากาศของที่นี่เอาเสียเลย มีทั้งฝุ่นทั้งควัน มองไปทางไหนก็มีแต่ตึกไม่เหมือนที่บ้านของเธอที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้า ที่นาก็มีหนองน้ำใสสะอาดให้เล่น มีผลไม้ปลูกเองเก็บกินได้ทุกเมื่อ เธอชอบการใช้ชีวิตที่สุขสบายแบบนั้นมากกว่าแต่ก็ต้องเลือกมาทำงานที่กรุงเทพฯ เพราะเงินเดือนที่ได้นั้นก็ไม่ใช่น้อย

นั่งคิดไปเรื่อยเปื่อยรถก็มาถึงที่หมายแต่เธอก็ต้องต่อรถไปอีกจนถึงจุดหมายก่อนเวลานัดสิบห้านาที

จอมขวัญเดินดูของไปเรื่อยเพื่อรอให้ถึงเวลานัด จนเมื่อมองนาฬิกาอีกครั้งเข็มยาวก็ชี้ที่เลขห้า เธอจึงใช้เวลาเดินไปหาบุษบามินตราภายในเวลาห้านาทีก็ถึงยังที่นัดพบ พอดีกับที่รุ่นน้องคนสนิทเดินส่งยิ้มมาให้แต่ไกล

“มาตรงเวลาเป๊ะเลยค่ะพี่ขวัญ” รุ่นน้องเอ่ยชมก่อนเชิญให้จอมขวัญเข้าไปภายในร้านอาหารที่นัดกัน เป็นร้านอิตาเลี่ยนชื่อดัง

บุษบามินตรายื่นเมนูให้จอมขวัญเลือกก่อนจะจัดการเลือกของตนเองหลังจากเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้งสองก็พูดคุยกัน

“พี่ขวัญทำงานเป็นอย่างไรบ้างคะ”

“ก็ดีค่ะ ถึงแม้งานจะเยอะแต่ก็สนุกดีทำงานตรงกับสายที่เรียนมา” หล่อนบอกตามที่คิดไว้เพราะมีหลายคนชอบพูดว่าเรียนจบออกมาแล้วทำงานไม่ตรงกับสายที่ตนเองเรียนก็เยอะ

“แล้วเรื่องอื่นละคะ”  

“คะ” คำถามแบบอ้อมๆ ของบุษบามินตราทำให้จอมขวัญงงจนต้องเลิกคิ้วแล้วถามออกมาอีกครั้ง “น้องมินหมายถึงอะไรหรือคะ”

“เอ่อ งั้นมินไม่อ้อมค้อมแล้วนะคะ เรื่องของพี่ขวัญกับพี่วีร์พี่ชายสุดหล่อของมินนี่เป็นอย่างไรคะ ตกลงพี่สองคนคบกันจริงๆ ใช่ไหม”

แววตาซุกซนที่จอมขวัญมองเห็นนั้นทำให้เธอหน้าแดงเมื่อคนตรงหน้าล้อเลียน

“เปล่าค่ะ พี่ไม่ได้คบกับคุณวีร์ เรื่องที่น้องมินได้ยินมาไม่จริงหรอกค่ะ” ปฏิเสธไปอย่างเขินอาย

แต่บุษบามินตราก็ดูออกว่าพี่สาวตรงหน้าคิดกับพี่ชายเธอมากกว่าเจ้านายทั่วไปแน่ แค่มองตาเธอก็รู้แล้ว

“แต่มินว่า”

“อาหารมาพอดีเลยค่ะน้องมิน” โชคเข้าข้างเธอพอดีที่อาหารมาเสิร์ฟ

ทั้งสองจึงเริ่มรับประทานอาหารกันโดยไม่ได้พูดกันสักเท่าไหร่ เมื่อกินอิ่มแล้วบุษบามินตราก็ไม่พลาดที่จะสนทนาที่ค้างไว้ทันทีราวกับงูจ้องเหยื่อเพื่อรอโอกาส

“พี่ขวัญชอบพี่ชายมินใช่ไหมคะ”

คำถามแบบไม่อ้อมค้อมแทบจะทำให้จอมขวัญสำลักน้ำดีที่ตั้งสติทัน จึงรีบส่ายหน้าทันที

“เปล่านะคะ พี่คิดว่าน้องมินคงเข้าใจผิด” แน่นอนว่าเธอโกหกและดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะรู้เพราะดวงตากลมโตจ้องตาเธออย่างค้นหา จอมขวัญจึงเสหลบตามองไปทางอื่น

“อ้อ ถ้าอย่างนั้นมินคงเข้าใจผิดเอง พี่ขวัญคะ กินเสร็จแล้วช่วยมินไปเลือกซื้อของให้ลูกสาวเพื่อนมินได้ไหมคะ” คำถามแกมขอร้องนั้นทำให้จอมขวัญปฏิเสธไม่ลงเธอตอบรับ

ทั้งสองสาวจึงเดินออกไปด้วยกันทำเอาผู้ชายมองตามแทบเหลียวหลังเพราะบุษบามินตราก็สวยเปรี้ยว ดวงตาเหมือนกับยิ้มตลอดเวลานั้นทำเอาชายหนุ่มหลายคนเพ้อไปเป็นวันทีเดียว หุ่นสูงราวกับนางแบบไม่ดูผอมเกินไปทุกอย่างสมส่วนอย่างลงตัว ส่วนจอมขวัญนั้นก็สวยหวาน ทรวดทรงองค์เอวราวกับสวรรค์ปั้นมา ใบหน้าก็หวานซึ้งตรึงใจทำเอาผู้ชายหลายคนถึงกับเลือกไม่ถูกว่าจะมองใครดี

“เด็กเพิ่งคลอดหรือคะ”

ของในร้านน่ารักทั้งนั้นจนเธอชักอยากจะมีลูกเอง

“ใช่ค่ะ สัปดาห์หนึ่งได้มั้งคะ” บุษบามินตราเลือกถุงมือสีหวานให้หลานได้หลายคู่

“เอ่อ”

บุษบามินตราเลือกซื้อของให้เด็กน้อยได้เสื้อและกางเกงและหมวกไหมพรมถักสีอ่อนแสนน่ารัก ถ้าเธอมีลูกสาวคงได้หมดเงินเป็นกระบุงแน่เพราะเธออาจจะมาเหมาเอาจนหมดร้านก็เป็นได้ เมื่อได้ของที่ต้องการแล้วบุษบามินตราก็ชวนพี่สาวเดินดูของทั่วห้างจนได้ของเยอะเต็มไปหมด

“ดีจังเลย มินไม่ได้เดินแบบนี้มานานมากแล้ว ปกติทำแต่งาน” ทั้งสองมานั่งอยู่ร้านขนมหวาน สั่งน้ำหวานมาคนละแก้วดื่มแก้กระหายก่อนที่บุษบามินตราจะยื่นเสื้อผ้าที่แอบซื้อให้จอมขวัญ

“อะไรคะ”

“เสื้อกับกระโปรงค่ะ มินว่าถ้าพี่ขวัญใส่ต้องสวยมากแน่ๆ เลย”

ด้วยความเกรงใจจอมขวัญว่าจะไม่รับแต่รุ่นน้องก็คะยั้นคะยอเธอจนต้องรับไว้ในที่สุด

“พี่คงต้องกลับแล้ว ขอบคุณน้องมินที่ชวนพี่มาเดินเล่นนะคะ สนุกมากเลย” ลุกขึ้นได้จอมขวัญก็เอ่ยลากับบุษบามินตรา

“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ขวัญกลับอย่างไรคะ”

“พี่ว่าจะขึ้นรถเมล์กลับ”

คำตอบของพี่สาวทำให้บุษบามินตราสงสารเธอจึงบอกว่าจะไปส่งเองแต่พี่สาวคนนี้ก็ขี้เกรงใจจนอีกฝ่ายต้องยอมแต่บอกว่าจะเดินไปส่งที่ข้างล่างซึ่งจอมขวัญก็ไม่ได้ปฏิเสธเพราะถึงจะบอกไปอย่างไรน้องคนนี้ก็ไม่ทำตามอยู่ดี

เดินลงมายังที่รอรถหน้าห้างสรรพสินค้าที่ตอนนี้รถกำลังวิ่งด้วยความเร็วและมีเป็นจำนวนมากบนท้องถนน ผู้คนที่รอรถต่างก็มีกิจกรรมเป็นของตัวเอง บุษบามินตราจึงหันมาคุยกับพี่สาวคนสนิทเพื่อเป็นการรอไฟสัญญาณข้ามถนน

“ครั้งหน้ามาเที่ยวด้วยกันอีกนะคะ” ระหว่างรอข้ามถนนนั่นเองบุษบา มินตราก็บอก

จอมขวัญก็ไม่ปฏิเสธ ยิ้มกลับไปพร้อมพยักหน้าอย่างยินดี ทั้งสองรอสัญญาณไฟด้วยกันแต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อมีคนกระชากกระเป๋าหญิงแก่ที่อยู่ด้านหลังของบุษบามินตราก่อนจะผลักเธอให้พ้นทาง ทำให้ร่างบางเซไปชนกับจอมขวัญที่อยู่ติดริมถนนจนอีกฝ่ายเสียการทรงตัวตกจากฟุตปาธมาพอดีกับที่รถยนต์สี่ประตูวิ่งมาอย่างรวดเร็ว

“พี่ขวัญ!!” บุษบามินตรามองอย่างตกใจ

จอมขวัญเบิกตากว้างเมื่อรถเข้าใกล้เธอมากขึ้นก่อนจะหลับตาลงภาวนาให้เธอรอดพ้นจากความตาย ร่างบางรับรู้ได้ถึงแรงกระแทกที่ได้รับก่อนจะนิ่งไป ใบหน้าหวานหลับตาแน่นแล้วเริ่มรู้สึกตัวว่าไม่เจ็บจึงลืมตาขึ้นเห็นว่ามีคนมาช่วยเธอไว้ได้เสียก่อน

“คุณ เป็นอะไรรึเปล่าครับ” ชายหนุ่มวัยกลางคนนั่นเองที่มาช่วยเธอเอาไว้

หญิงสาวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อคิดว่าตัวเองผ่านพ้นวินาทีชีวิตมา

“ไม่ค่ะ คุณล่ะคะ” มองสำรวจก็ไม่พบว่าเขาเป็นอะไร จอมขวัญเอ่ยขอบคุณชายคนนั้นยิ้มให้แล้วเดินจากไปก่อนที่บุษบามินตราจะเข้ามาดูอาการพร้อมกับไทยมุงที่เริ่มกระจายตัวออกไป

“พี่ขวัญเจ็บหรือเปล่าคะ” ใบหน้าหวานของน้องสาวคนสวยมีน้ำตาไหลลงมาเป็นทาง

“น้องมินร้องไห้ทำไมคะ”

“มินกลัวพี่ขวัญเป็นอะไรไป มินขอโทษนะคะ มินไม่ได้ตั้งใจ มินขอโทษ มินผิดเอง” ยิ่งพูดบุษบามินตราก็ยิ่งร้องไห้ออกมาด้วยความรู้สึกผิด

จอมขวัญลุกขึ้นกอดน้องสาวแล้วปลอบ

“พี่ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ ไม่เป็นอะไรแล้ว” บอกไปอย่างนั้นแต่เมื่อกี้ก็อดกลัวไม่ได้ เหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้ถ้าไม่ได้ผู้ชายคนนั้นช่วยไว้เธอคงไม่ได้มายืนหายใจอยู่แบบนี้เป็นแน่

“เดี๋ยวมินให้คนรถไปส่งพี่ขวัญนะคะ นะ ให้มินไปส่งนะคะ มินเป็นห่วง”

เห็นอีกฝ่ายกังวลแบบนั้นเธอก็ไม่ขัดเพราะตัวเองก็กลัวอยู่เหมือนกัน ทั้งสองเดินขึ้นไปบนห้างสรรพสินค้าก่อนที่บุษบามินตราจะสั่งให้คนขับรถของเธอไปส่งจอมขวัญที่หอพักของหญิงสาว

“พี่ขวัญถ้าถึงบ้านแล้วโทรหามินนะคะ มินจะได้สบายใจ”

ร่างบางพยักหน้าตอบรับแล้วขึ้นรถไปโดยมีน้องสาวคนสวยยืนมองตามจนรถขับออกไปไกล เธอจึงเดินเช็ดน้ำตาขึ้นไปบนห้างสรรพสินค้าอย่างสบายใจขึ้นมากกว่าเมื่อกี้

มาถึงห้องของตนเองจอมขวัญก็ยังไม่หายขวัญเสียจากเรื่องเมื่อไม่      กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา เธอยังคงกลัวเพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ถ้าไม่มีใครมาช่วย ชีวิตของเธอในชาตินี้คงจบแต่เพียงเท่านี้

ร่างบางนอนลงที่เตียงจากความเหนื่อยทั้งกายและใจ ถ้าตอนนี้อยู่บ้านคงมีแม่ให้กอดแต่เธออยู่คนเดียวก็คงต้องกอดตัวเอง ใบหน้าหวานหลับพริ้มก่อนที่ลมหายใจจะสม่ำเสมอบ่งบอกให้รู้ว่าตอนนี้เธอได้เข้าสู่ห้วงนิทราเป็นอันเรียบร้อยแล้ว

บานประตูเลื่อนถูกเปิดออกอย่างแผ่วเบา เสียงฝีเท้าที่แทบจะไร้น้ำหนักทำให้คนเพิ่งหลับไม่รู้สึกตัว ช่วงบ่ายของวันเสาร์ไม่ค่อยมีคนอยู่หอพักเท่าไรเพราะไปทำงานกันเป็นส่วนมากแม้จะเป็นวันหยุดก็ตาม อันตรายคืบคลานเข้ามาใกล้แต่ดูทีท่าว่าหล่อนจะไม่รู้สึกตัวสักนิด

ดวงตาแข็งกระด้างมองไปที่ร่างซึ่งนอนหลับใหลด้วยแววตามาดร้าย มือหยิบมีดขึ้นมาระหว่างที่เดินเข้าไปใกล้คนที่อยู่บนเตียง

ริมฝีปากแสยะยิ้มในระหว่างที่เงื้อมีดขึ้นสูงเหนือศีรษะเตรียมที่จะแทงคนที่กำลังอยู่ในห้วงนิทราแต่แล้วกลับมีแรงมายื้อไว้เสียก่อน หันกลับไปก็พบชายหนุ่มร่างสูงที่มาจับมีดไว้แล้วพยายามบิดข้อมือของคนร้ายเพื่อให้มีดหลุด

“ปล่อย” เสียงที่เปล่งออกมาทำให้ข้อสงสัยของชนวีร์ชัดเจนว่าคนในชุดสีดำเป็นผู้หญิงและดูเหมือนว่าจะมีทักษะในทางด้านการต่อสู้ดีเสียด้วยเพราะหลังจากที่เขาทำมีดหล่นลง อีกฝ่ายก็โต้กลับด้วยการจับแขนเขาแล้วขัดขาไปด้านหลังเกือบเสียหลักล้มเหมือนกัน ดีที่แก้ได้เขาผลักอีกฝ่ายบ้างแต่ดูเหมือนจะโต้กลับได้ดีเกินคาดและนั้นทำให้เขาพลาดปล่อยมันลงไปทางระเบียงได้อย่างเฉียดฉิว

“บ้าฉิบ!” มองตามไปไม่เห็นแม้แต่เงาของคนร้ายเขาหัวเสียพอสมควรที่เรื่องราวเป็นแบบนี้ อันที่จริงวันนี้คิดว่าจะพาคนที่นอนบนเตียงไปเดินดูของด้วยกัน เผอิญเห็นคนปีนเข้ามาที่ระเบียงเขาเลยรีบมาช่วยได้ทันท่วงทีไม่เช่นนั้นแล้วป่านนี้คนที่นอนหลับคงได้กลายเป็นศพ

“จอมขวัญ ขวัญ ตื่น” เขาเดินเข้าไปปลุกแต่ดูท่าว่าร่างบางจะไม่ยอมตื่นเพราะปัดมือเขาออกแล้วพลิกตัวไปอีกทางหนึ่งราวกับว่าเขารบกวนการนอนของเธอ “ตื่นได้แล้ว”

“อือ ขอเวลาอีกหน่อยนะคะ” สะลึมสะลือพูดแล้วนอนต่อ

ร่างสูงเริ่มหงุดหงิดเมื่อดูแล้วอีกฝ่ายไม่มีทีท่าว่าจะตื่นทั้งๆ ที่เมื่อกี้มีคนจะเข้ามาทำร้ายเธอแท้ๆ 

..ทำไมไม่ดูแลตัวเองบ้างเขาคิดแล้วก็หงุดหงิด ถ้าเธอเป็นอะไรมาคนอื่นจะเป็นอย่างไร

คิดแล้วเข้าก็ชะงัก

..เขาเป็นห่วงเธอหรือคำตอบในหัวตอบว่าไม่ แต่ทำไมความรู้สึกเหมือน กับขัดแย้ง

ชนวีร์สลัดความคิดนั้นออก เสียงโทรศัพท์มือถือมาช่วยให้เขาออกจากความคิดที่ไม่อยากยอมรับเมื่อดูเบอร์ที่โทรเข้ามาก็ตัดสินใจรับ

“ว่าไงคุณวิไล” เลขาของเขานั่นเอง

“คุณวีร์คะ ดิฉันติดต่อขอซื้อที่ทางปายให้แล้วนะคะ เขายื่นคำขาดให้คุณไปคุยเองเพราะจะได้รู้รายละเอียดไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ขายค่ะ”

..น่าโมโหเสียจริง

ร่างสูงจุปากอย่างไม่พอใจแต่ก็ตอบตกลงไปเพราะไม่มีทางเลือกมาก ที่ดินที่เขาอยากได้มันสวยและเหมาะที่จะสร้างบ้านพักหลังเล็กไว้พักผ่อนเพื่อคลายเครียด อีกอย่างคือที่แห่งนั้นน้องทรายบอกว่าอยากได้ เขาจะซื้อเก็บไว้ให้คนที่รัก

ชนวีร์เดินไปเปิดทีวีเพื่อปลุกให้คนที่หลับใหลตื่นและดูเหมือนว่าจะได้ผลเพราะจอมขวัญลืมตาแล้วก็ตกใจลุกนั่งมองเขาตาโตสลับกับมองไปที่ทีวีและระเบียงที่ตอนนี้ประตูเปิดไว้ แทบสิ้นสติว่าเขามาได้อย่างไรแต่นั่นไม่ใช่ข้อสงสัยหลักเพราะเขาก็เคยขึ้นอยู่แล้ว แต่ประเด็นคือเขามาทำไม!

“ไม่ต้องทำท่าขนาดนั้นก็ได้ ฉันไม่ได้ทำมิดีมิร้ายเธอหรอก” ร่างสูงเอ่ยตอบเมื่อเห็นเธอทำท่ากลัว

“แล้วคุณวีร์ ขึ้นมาทำไม” เหมือนหาเสียงตัวเองเพิ่งเจอเธอเลยถามออกไป

“ฉันจะชวนเธอไปเดินเล่นแต่พอดีเห็นโจรขึ้นมาบนห้องเธอ” จากคำบอกเล่านั้นทำให้เธอยิ่งตกใจขึ้นไปอีก ดวงตากลมโตเบิกกว้างจนลูกตาแทบถลนออกมา

“ว่าอย่างไรนะคะ! โจร คุณหมายถึงอะไร”

เรียกได้ว่าเธอแทบจะถลามาหาเขาได้เลย หญิงสาวซึ่งลุกจากเตียงด้วยใบหน้าตื่น

“มีคนขึ้นมาจะทำร้ายเธอ ดีที่ฉันมาเห็นทันและช่วยเธอไว้ได้ ไม่อย่างนั้นป่านนี้เธอก็คงได้ไปเข้าเฝ้ายมบาลแล้ว”

พอเขาพูดจบขาเธอก็อ่อนแรง จอมขวัญนั่งลงที่พื้นราวกับคนหมดแรงเดินมาเป็นร้อยกว่ากิโลเมตร ใจดวงน้อยเต้นระรัวไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายกับเธอแบบนี้

“ทำไม” เอ่ยได้เพียงเท่านั้นร่างบางก็ร้องไห้ออกมา ทำไมช่วงนี้เธอถึงเจอแต่เรื่องราวแบบนี้เหมือนมีคนจะมาเอาชีวิตเธอตลอดเวลา

..ช่วงเช้าก็เกือบโดนรถชน ช่วงบ่ายก็มีคนร้ายเข้ามาทำร้ายเธอ

“ร้องไห้ทำไม” แล้วเธอก็ได้สัมผัสกับอ้อมกอดที่โหยหา ร่างสูงนั่งลงโอบคนตัวเล็กไว้ในอ้อมกอด น้ำตายังคงไหลลงมาไม่ขาดสายด้วยความกลัว

..เกิดเรื่องร้ายขนาดนี้ขึ้นกับเธอได้อย่างไร เธอไปทำอะไรให้ใครอย่างนั้นหรือ

“ไม่ต้องกลัวนะ ฉันอยู่ตรงนี้” เธอยังคงสะอื้นอยู่ในอกกว้างโดยที่ไม่ได้เงยหน้ามามองคนพูดเลยสักนิด แววตาที่เรียบสนิทของเขาไม่บ่งบอกความรู้สึกราวกับว่าสงสารแต่ก็ไม่มากพอที่จะให้เขาเห็นใจ คำพูดที่ดูหวานหูก็เป็นเพียงแค่ลมปากที่เปล่งออกมาไม่ใช่ออกมาจากใจ

กว่าที่ร่างบางจะสงบก็ใช้เวลานานพอสมควร พอรู้ตัวว่าอยู่ในอ้อมกอดเขานานแล้วจอมขวัญจึงค่อยๆ ผละออกแล้วเช็ดน้ำตา รู้สึกกระดากอายที่กอดเขาเสียนาน

“ขอโทษนะคะ เสื้อคุณเปื้อนหมด”

ชนวีร์ก้มลงมองเสื้อตัวเองที่เปื้อนน้ำตาของเธอเป็นวงกว้าง

“ช่างเถอะ เดี๋ยวก็แห้ง ตอนนี้เธอควรไปอาบน้ำและเตรียมเสื้อผ้าสักสามถึงสี่ชุดเพราะฉันจะพาเธอไปพักที่ปาย ให้เวลาสิบห้านาทีฉันจะลงไปรอข้างล่าง” ไม่รอให้อีกฝ่ายถามอะไรเขาก็เดินออกไประเบียงปีนลงไปด้านล่างทันทีโดยที่พยายามไม่ให้คนเห็น

จอมขวัญที่ยังคงนั่งงงหลังจากที่เขาออกไปก็เริ่มวิ่งวุ่นเตรียมของก่อนลงไปหาเขาข้างล่างใช้เวลาเพียงสิบนาทีเท่านั้น ร่างบางหอบจนตัวโยนด้วยความเร่งรีบ

“ไปกันเถอะ เดี๋ยวไม่ทันเครื่อง” โทรศัพท์ให้เลขาจัดการจองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว เมื่อจอมขวัญขึ้นนั่งบนรถเขาก็ออกด้วยความเร็วทันที

รถช่วงนี้ไม่ติดมากเลยใช้เวลาไม่นานก็ถึงสนามบินที่มีคนพลุกพล่านพอสมควรโดยเฉพาะทัวร์ต่างๆ

“จับมือฉันไว้จะได้ไม่หลง” คนเยอะร่างสูงจึงหันมาบอก มือหนาจับมือบางไว้ในขณะที่เดินเพื่อไปเช็กอิน

จอมขวัญมองมือของเขาที่จับเธอไว้ด้วยหัวใจพองโต เขาเป็นอีกคนที่ทำให้เธอประหลาดใจ เมื่อก่อนร้ายกับเธอเสียจนต้องเก็บไปร้องไห้ทุกคืนแต่ตอนนี้หรือก็ดีแสนดีจนเธอคิดว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในความฝันหรือเปล่า

หลังจากเช็กอินแล้วโหลดกระเป๋า ทั้งสองก็เข้าเกทไปทันที ใช้เวลาไม่นานก็ได้ขึ้นเครื่อง จุดหมายคือเชียงใหม่ก่อนจะต่อรถไปที่ปาย ทั้งหมดใช้เวลาหลายชั่วโมงจนจอมขวัญอ่อนล้าหลับไปตลอดทางโดยที่ชนวีร์บอกว่าเขาจะดูแลเธอเอง

“ถึงแล้ว” เมื่อถึงยังที่หมายร่างสูงก็ปลุกคนข้างกายที่หลับซบไหล่เขาอยู่

จอมขวัญงัวเงียขึ้นมาดูบรรยากาศโดยรอบผ่านกระจกก็ตาโตทันทีเพราะมันสวยมาก แม้จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นและเป็นหน้าฝนก็ตามบรรยากาศโดยรอบที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ทำให้เธอรู้สึกสดชื่นขึ้นทันที ทั้งสองลงจากรถแล้วเดินไปเช่ารถมอเตอร์ไซค์

“คุณวีร์ขับเป็นแน่นะคะ” เธอถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจเมื่อเขาบอกว่าจะขับ ดีที่สัมภาระของทั้งสองมีไม่มากนักเลยไม่ลำบากในการขน

“เป็นสิ ฉันขับเก่งนะ” ว่าแล้วก็ขึ้นรถมอเตอร์ไซค์สตาร์ทให้เธอดูทันที

จอมขวัญมองอย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจขึ้นซ้อนเขาไปยังหมู่บ้านที่ชนวีร์ต้องไปติดต่อขอซื้อที่นั่นเอง ขับมาได้สักพักจอมขวัญก็มองบรรยากาศแล้วสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด

ปายเป็นเมืองเล็กที่น่าอยู่ทั้งสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิต  มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาบ้างแต่ดูเหมือนจะกลมกลืนไปกับชาวบ้านในพื้นที่และผู้คนในประเทศที่มาท่องเที่ยว

ขับมาได้ไกลพอสมควรก็ถึงหมู่บ้านที่เขาจะต้องการจะมา คือหมู่บ้านทุ่งบาง เป็นหมู่บ้านที่อนุรักษ์ธรรมชาติมีคนหลากหลายชาติพันธุ์อาศัยอยู่ร่วมกันโดยส่วนมากเป็นคนไทยและมีบางบ้านเป็นชาวกะเหรี่ยง ที่เขาเลือกหมู่บ้านนี้เพราะว่ามีต้นไม้และลำธารตรงที่ที่เขาต้องการพอดี

ชนวีร์ขับเข้ามาภายในหมู่บ้านก็เจอป้อมสำหรับตรวจคนเข้าในด่านแรก เขาเจรจาอยู่นานก่อนที่เจ้าของที่จะเดินมาหาจึงได้เข้าไปภายในที่ตอนนี้เป็นเวลาดึกพอสมควร

“คุณน่าจะรอพรุ่งนี้ค่อยมา ขับรถมอเตอร์ไซค์ตอนกลางคืนมันอันตราย” เจ้าของที่บอกด้วยความหวังดี ขึ้นเรือนมาเขาก็หาน้ำมาเสิร์ฟแขก

นายฮุงเป็นชาวบ้านทุ่งบางที่เกิดและโตที่นี่และคิดว่าจะตายที่นี่ด้วย อันที่จริงเขาก็ไม่ได้อยากขายที่แต่พอดีว่ามีความจำเป็นที่ต้องใช้เงินเลยต้องขายแม้จะเสียดายมากแค่ไหนก็ตาม

“ผมรอไม่ไหวเลยมาก่อน” ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาแต่ติดนิ่งขรึมทำให้อีกฝ่ายดูเหมือนจะเกร็งอยู่บ้าง

จอมขวัญรู้ดีจึงยิ้มให้เจ้าของบ้าน

“แล้วนี่คุณกับเมียจะพักไหนล่ะ” คำถามที่ทำเอาทั้งสองมองหน้ากันทันที

“คือไม่ใช่”

“ไม่รู้เหมือนกัน คุณมีที่ให้ผมพักไหม” จอมขวัญกำลังจะปฏิเสธข้อกล่าวหานั้นแต่ชนวีร์กลับแทรกขึ้นมาก่อนทำเอาเธอต้องหันไปมองค้อนเขาแล้วตีที่แขนเบาๆ ไปหนึ่งที

“พักบ้านน้องสาวผมก็ได้ มันไม่อยู่ เชิญทางนี้เลย” นายฮุงเดินนำทั้งสองไปที่บ้านอีกหลังที่อยู่ติดกัน

บ้านพักของคนในชุมชนนี้เป็นบ้านไม้ที่มีชั้นเดียวยกสูงขึ้นจากพื้นดินประมาณสองเมตรบริเวณโดยรอบปลูกต้นไม้ไว้มีบางบ้านปลูกฝิ่นไว้ด้วย

“อยู่ได้ตามสบายเลยนะ พักผ่อนกันก่อนพรุ่งนี้ค่อยมาคุยกันเรื่องที่ดิน ที่นอนปูนอนได้เลย อ้อ คุณชนวีร์ใช่ไหม” เขาถาม

ร่างสูงก็พยักหน้า

“ผมฮุง คืนนี้ถ้าไม่ง่วงก็มากินเหล้ากับพวกผมได้ ถัดไปอีกสองบ้าน” ว่าจบก็ตบไหล่หนาก่อนเดินออกไปปล่อยให้หนึ่งหญิงหนึ่งชายอยู่ด้วยกัน

จอมขวัญมีท่าทีกระอักกระอ่วนเพราะไม่เคยอยู่กับเขาสองคนในที่แบบนี้ แถมคืนนี้ยังต้องนอนด้วยกันอีกต่างหาก

ทั้งสองเดินสำรวจบ้านที่มีลานสำหรับดูทีวี รับประทานอาหารและทำกิจกรรมต่างๆ มีห้องนอนสองห้องซึ่งทั้งสองก็ไม่กล้าเข้าไปนอนจึงเลือกที่จะนอนตรงลานกว้าง ดีที่นายฮุงเอาที่นอนออกมาไว้ให้แล้วทั้งสองจึงช่วยกันปู

“คุณอาบน้ำนอนไปเลยนะ ผมจะออกไปพูดกับชาวบ้านเสียหน่อย เดี๋ยวกลับมา” หลังจากปูที่นอนเสร็จเขาก็บอกกับเธอ

จอมขวัญพยักหน้าแม้จะไม่อยากให้เขาไปเพราะเธอกลัวก็ตามแต่ก็ไม่กล้าขัด

“คุณวีร์คะ รอขวัญอาบน้ำเสร็จก่อนได้ไหม ขวัญกลัว” เห็นเขาจะเดินออกไปเลยรีบบอก

ร่างสูงหันกลับมาแล้วพยักหน้าเดินมานั่งรอให้จอมขวัญไปอาบน้ำที่ห้องน้ำด้านนอก

“คุณมาเฝ้าหน้าห้องน้ำด้วยสิคะ”

ถ้าเป็นเวลาปกติเขาคงอาละวาดไปแล้วแต่นี่เขาต้องทำนิ่งเข้าไว้ ชนวีร์จึงเดินตามร่างบางออกไปที่ห้องน้ำซึ่งก่อด้วยอิฐธรรมดา มุงด้วยสังกะสี พอเข้ามาก็เจอกับตุ่มแต่ดีที่มีเครื่องทำน้ำอุ่นทำให้เธอไม่ต้องเผชิญกับน้ำเย็น จอมขวัญจัดการอาบน้ำโดยใช้เวลาไม่นานก็เสร็จ เธอออกมาด้วยชุดนอนเสื้อแขนยาวกางเกงขายาว

“เสร็จแล้วค่ะ”

ชนวีร์มองชุดนอนเธอแล้วขำแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเดินนำเธอเข้ามาในบ้าน จอมขวัญบอกขอบคุณเขา ชายหนุ่มจึงเดินออกไปข้างนอกปล่อยหญิงสาวไว้ในบ้านคนเดียว เธอลอบถอนหายใจออกมาเพราะอยู่ใกล้เขาใจเธอเต้นรัวราวกับไม่เป็นตัวของตัวเอง

..เขามีอิทธิพลกับหัวใจของเธอมากเกินไปแล้ว

วงเหล้าในชนบทเช่นนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ชาวบ้านผู้ชายต่างเล่าเรื่องราวของบ้านตัวเองให้กันฟังเหมือนแชร์ความรู้สึกแม้ว่าจะมีผู้ร่วมวงเป็นคนนอกก็ตาม

ชนวีร์นั่งกินเหล้าไปโดยไม่พูดอะไรเขาเพียงแค่ฟังเรื่องที่ตนเองไม่รู้เท่านั้น มีบางคนเล่าเรื่องตลกก็เป็นที่เฮฮากันไป นั่งกินเหล้าจนหมดไปหลายไหและดูเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเป็นเช้าวันใหม่จึงแยกย้ายกันกลับบ้าน ชนวีร์ที่นั่งกินเยอะกว่าใครเพื่อนก็เดินเซกลับมาพร้อมกับนายฮุง พอถึงเรือนก็แยกย้ายกันกลับ

ประตูถูกเปิดออกโดยที่หญิงสาวร่างบางนอนหลับไม่ได้สติ ตอนแรกเธอกะว่าจะรอเขาแต่รอไม่ไหวจึงผล็อยหลับไปเสียก่อน ร่างสูงก้าวเข้ามาด้วยความเมาเขานอนลงข้างเธอก่อนจะกอดร่างกายที่หอมกรุ่นแถมยังอุ่นไว้

“อื้อ คุณวีร์มาแล้วหรือคะ” จอมขวัญงัวเงียถาม

“หอมจัง” แต่ร่างสูงกลับไม่ตอบเขาหอมที่แก้มนุ่มทำเอาหล่อนตื่นเต็มตาทันที

ร่างบางเริ่มดิ้นเมื่ออีกฝ่ายกอดรัดตนเองแน่นขึ้นแต่ดูท่าว่าแรงดิ้นของเธอจะเป็นเพียงแรงมดเท่านั้นเพราะเขาแทบจะไม่สะเทือนเลยด้วยซ้ำ

“อยากกิน” ว่าแล้วปากหนาก็พรมจูบไปทั่วใบหน้าหวานแม้ว่าอีกคนจะหลบเพียงใดก็ตาม

“คุณวีร์อย่านะคะ คุณวีร์นี่ขวัญเอง คุณวีร์ได้ยินขวัญไหมคะ”

เหมือนจะไม่ได้สติเพราะชนวีร์ไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงแค่จูบไปทั่วใบหน้าหวานก่อนจะปิดปากเธอด้วยริมฝีปากของเขาเอง ตาโตเบิกกว้างขึ้นมือน้อยทุบเข้าที่อกเขาพยายามบอกให้อีกฝ่ายปล่อย แต่เมื่อนานไปรสจูบที่หวานสะท้านทรวงทำให้แรงของเธอที่มีเริ่มอ่อนล้า

“อือ”

แล้วก็หลงเคลิบเคลิ้มไปกับจูบที่เร้าร้อนนั้น ไม่รู้ว่าตอนไหนที่มือของเขาสอดเข้ามาภายในเสื้อแขนยาวตัวบางของเธอ แต่ตอนนี้มือหนากำลังเอื้อมไปข้างหลังเพื่อปลดบราที่เธอสวมใส่โดยที่เจ้าของแทบจะไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด

“คุณวีร์” เสียงหวานเอ่ยสั่นๆ เธอไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำเมื่อถูกอารมณ์พิศวาสเข้าครอบงำ เหล้าที่เขากินเข้าไปเหมือนมันจะไหลเข้ามาในตัวเธอด้วยเพราะรู้สึกมึนเมาเหลือเกิน

บราเซียร์สีหวานหลุดออกจากร่างกายไป ชนวีร์จูบลงมาที่ลำคอระหงแล้วจับเต้างามทั้งสองข้าง ร่างบางแอ่นอกให้เขาสัมผัสด้วยความเสียวก่อนที่ชนวีร์จะถอดเสื้อของเธอออกทันทีด้วยความเร็ว รูปร่างสมส่วนปรากฏแก่สายตาของเสือหนุ่ม เขามองอย่างตกตะลึงเพราะมันช่างสวยและเย้ายวนเหลือเกิน หน้าท้องแบนราบที่ไม่มีไขมันส่วนเกินและดอกบัวคู่งามที่ซ่อนรูปเสียจนไม่น่าเชื่อแถมปทุมถันสีอ่อนนั้นอีก ราวกับเขาอยู่บนสรวงสวรรค์

“สวยเหลือเกิน” พูดจบริมฝีปากหนาก็ครอบครองยอดสีอ่อนที่ชูชันท้าสายตาเขา รสชาติมันช่างหวานล้ำ

ใบหน้าหวานบิดเหยเกเมื่อพบกับความเสียวซ่าน เสียงครางดังออกมาเป็นระยะเมื่อชายหนุ่มดูดและใช้มือขยี้ปทุมถันอีกข้าง

ชนวีร์ผละออกมาถอดกางเกงของเธอออกพร้อมกับชั้นในแล้วพบกับความงดงามที่เขาแทบจะบรรยายออกมาไม่ได้ ร่างบางช่างงดงามเสียจริงจนเขาอดใจไม่ไหว ชายหนุ่มพรมจูบที่ข้อเท้าไล่ขึ้นมาที่กลีบกุหลาบ เขาจูบมันแผ่วเบา แล้วเลื่อนขึ้นไปที่หน้าท้องในขณะที่มือยังคงเคล้าคลึงสองเต้าอย่างขยันขันแข็งก่อนที่ริมฝีปากหนาจะฉกเข้าครอบครองปากบางไว้

“ถอดเสื้อให้ฉัน” เขาสั่งเสียงพร่าและเธอก็ทำตามทันที ร่างหนาตอนนี้เหลือแต่ท่อนล่างและเขาก็จัดการเองโดยใช้เวลาไม่นานเพราะอารมณ์ร้อนพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ

จอมขวัญมองดูแก่นกายใหญ่ด้วยความตกใจก่อนจะรีบหันหน้าหนีทันทีเมื่อเขาเคลื่อนตัวเข้ามา

“อ่า คุณวีร์” ร่างบางครางออกมาอย่างเสียวซ่าน อารมณ์ของเธอตอนนี้ต้องการปลดปล่อยออก

แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะยังคงลีลาเมื่อเขาเคลื่อนตัวลงไปใช้ลิ้นกับดอกกุหลาบกลีบหวานอยู่ ลิ้นหนาคลี่กลีบออกก่อนเลียที่จุดเสียวทำเอาเสียงหวานครางออกมาแทบไม่เป็นศัพท์

“อือ อ่า”

ชนวีร์มองอย่างหยามใจก่อนจะใช้มือทั้งสองบี้ปทุมถันไม่เลิก เขาพรมจูบไปทั่วก่อนที่จะลุกนั่งนำร่างบางมาไว้บนตัก ขาบางเกี่ยวเอวเขาไว้แน่นแล้วกอดคอ

“ไม่มีถุงยางเลย ขอสดแล้วกันนะ” เขาเอ่ยขึ้นก่อนจะค่อยๆ แทรกแก่นกายที่ใหญ่โตเข้าไปในกลีบกุหลาบอย่างทุลักทุเลเพราะเธอไม่เคยผ่านการรุกรานมาก่อน

“จะ เจ็บ” หล่อนบอกเขา

ชนวีร์ค่อยๆ เข้าไปพยายามกัดฟันทนเมื่ออารมณ์ถึงจุดสูงสุด จนในที่สุดเขาก็เข้าไปสุดจนได้ ร่างสูงแช่ค้างไว้ก่อนจะเริ่มขยับกายเข้าจังหวะ โดยที่มีคนที่ไม่ประสีประสาให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่

เสียงครางของทั้งสองดังไปทั่วบ้านก่อนที่น้ำสีขุ่นจะถูกปล่อยออกมา

“ขออีกรอบนะ” ไม่รอให้เธอพูดอะไรเขาก็ประกบปากเธอไว้ทันทีก่อนจะเริ่มบรรเลงบทเพลงรักขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

โดยมีแค่จอมขวัญที่หลงคิดไปเองว่ามันเกิดขึ้นเพราะความรักแต่สำหรับชนวีร์นั้นมันก็แค่เซ็กส์ที่เกิดจากความใคร่เท่านั้นเอง!!

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • กลซ่อนรัก   ตอนพิเศษ ...รักวุ่นๆ ของหนุ่มตัวอ้วน

    ตอนพิเศษ...รักวุ่นๆ ของหนุ่มตัวอ้วนเด็กหญิงตัวน้อยกำลังร้องไห้งอแงเพราะโดนพี่ชายคนกลางแกล้ง แขนเล็กพยายามจะตีพี่ชายแต่อีกฝ่ายก็ทำท่ายึกยักจะโดนก็ไม่โดนพอเธอเอามือออกพี่ชายก็เข้ามาใกล้“กาง กาง ฮือ” ยังพูดเป็นประโยคไม่ได้แต่เธอก็พยายามจะสื่อสารออกมา“ตากลางแกล้งอะไรน้องอีกล่ะลูก” คุณแม่คนสวยเดินเข้ามาหาลูกสาวคนเล็กในห้องที่เต็มไปด้วยของเล่นของเด็กน้อย อันที่จริงเธอกับสามีซื้อให้ลูกไม่ได้เยอะขนาดนี้ แต่เป็นของพี่ๆ ที่ตกทอดมาสู่น้อง และบริษัทคู่ค้าของสามีก็ขยันส่งของมาดีเหลือเกินจนห้องเต็มไปด้วยของเล่นเด็กแทบไม่มีที่จะเดินแล้ว“เปล่านะครับแม่ กลางแค่มาหยอกน้องเอง น้องจะหัวเราะอารมณ์ดีไง” เด็กแสบยิ้มประจบมารดาหลังจากที่เธออุ้มลูกสาวพลางลูบหลังปลอบจนเด็กน้อยคลายความหงุดหงิดที่พี่ชายมากวน“แม่ ตี ตีกาง” ยายน้องหรือคุณหนูลูกจัน จันทนิภา กิจขจรไพศาลเด็กหญิงวัยสองขวบที่เพิ่งจะพูดได้ไม่กี่คำบอกแม่ให้ทำโทษพี่ชายตัวเอง“ตีหรือคะ พี่กลางแกล้งหนูใช่ไหม” คุณแม่หันมาถามซึ่งสาวน้อยก็พยักหน้าทันที“อะไรกัน พี่ไม่ได้แกล้งน้องสักหน่อย”“เดี๋ยวเถอะตากลาง แม่จะไม่ทำขนมให้ลูกกินนะครับ”ได้ยินแม่ขู่แบบนั้น

  • กลซ่อนรัก   บทส่งท้าย

    บทส่งท้ายหลังจากผ่านเรื่องร้ายต่างๆ มา ชนวีร์ก็ได้เข้าไปขอขมาครอบครัว จอมขวัญอย่างเป็นทางการเมื่อเขาหายจากอาการบาดเจ็บพอที่จะเดินเหินสะดวกแล้ว พร้อมทั้งยังพูดเรื่องแต่งงานกับเธออีกด้วยแต่ครอบครัวจิดากุลบอกว่าทางบ้านถือเรื่องแต่งงานทั้งที่ยังท้องว่าจะทำให้เลิกกันจึงบอกให้รอลูกออกมาเสียก่อนค่อยจัดงานแต่ง ซึ่งก็มีทั้งที่บ้านของฝ่ายหญิงก่อนจะมาฉลองที่บ้านฝ่ายชายด้วยเช่นกัน“ขวัญเป็นอย่างไรบ้างครับ” ร่างสูงวิ่งกระหืดกระหอบมา หลังจากประชุมเสร็จ ใบหน้าคมเข้มมีเหงื่อผุดขึ้นเต็มเพราะวิ่งขึ้นบันไดมา รอลิฟต์ก็แสนจะช้าไม่ทันใจคุณพ่อมือใหม่ตอนนี้ครอบครัวจอมขวัญรอหน้าห้องคลอดมีทั้งพ่อตูมตาม แม่ยิ้ม ยายขิม ตาเม่นและกองทัพซึ่งลาหยุดเพื่อมาดูหน้าหลานคนแรกโดยเฉพาะ“ไม่รู้เหมือนกัน รอนานแล้วยังไม่ออกมาเลย” แม่ยิ้มตอบด้วยความกังวล“น้ำไหมพี่” กองทัพเอ่ยทักก่อนยื่นน้ำเปล่าให้ชนวีร์เขารับแล้วกรอกเข้าปากทันทีด้วยความเหนื่อยอีกทั้งตื่นเต้นด้วยว่าลูกจะออกมาหน้าตาอย่างไร แข็งแรงไหม จะหน้าเหมือนพ่อหรือเหมือนแม่ ตอนจอมขวัญท้องเขาดูแลไม่ห่างซื้อหนังสือมาอ่านโดยเฉพาะรอบรู้มากกว่าคุณแม่เสียอีก“ขอบใจมาก” เขาต

  • กลซ่อนรัก   ๒๕ จากนี้และตลอดไป

    ๒๕จากนี้และตลอดไปการเดินทางไปกลับระหว่างกรุงเทพฯ กับขอนแก่นของชนวีร์ทำให้เขาเมื่อยล้ากว่าที่คิดมากนัก เขานั่งเครื่องบินบ้างและให้คนขับรถให้บ้างสลับกันไปงานที่บริษัทก็หนัก บางครั้งก็ต้องบินไปต่างประเทศเพื่อติดต่องานกับลูกค้า เหลืออีกเพียงแค่หนึ่งสัปดาห์เท่านั้นก็จะครบสามเดือน แต่ทำไมเขาถึงได้รู้สึกว่ามันนานเหลือเกินอาจจะเป็นเพราะว่าเขาต้องทำงานหลายอย่างก็เป็นได้วันนี้ชนวีร์เคลียร์งานทุกอย่างแล้วขับรถมาขอนแก่นเพียงลำพังไม่ได้ให้ลูกน้องตามมา“สวัสดีครับ” เขาแวะเข้ามาที่บ้านผู้ใหญ่บ้านเพื่อทักทายสวัสดีก่อน เป็นแบบนี้ทุกครั้งก่อนจะกลับไปอยู่ที่กระท่อมโล่งซึ่งตอนนี้เขาก็เริ่มชินกับมันเสียแล้ว ลมธรรมชาติเย็นสดชื่นเสียยิ่งกว่าเครื่องปรับอากาศเสียอีก“มาเสียค่ำเชียว กินข้าวกินปลาหรือยัง” แม่ยิ้มเอ่ยถามเพราะตอนนี้ครอบครัวของนางกำลังจะรับประทานอาหารจอมขวัญที่ถือข้าวมาก็หันมามองเขาสักครู่ก่อนเดินเลี่ยงไปทางอื่น ชนวีร์มองหน้าหล่อนแล้วก็ชื่นใจ แค่เห็นเท่านี้เขาก็พอใจมากแล้ว“ยังเลยครับ” กะจะพูดต่อว่าขอฝากท้องด้วยแต่พ่อตูมตามก็เดินมามองตาขวางเสียก่อน“งั้นเอ็งก็มากินด้วยกัน จะได้รีบกลับไปอาบน้ำ

  • กลซ่อนรัก   ๒๔ บทพิสูจน์

    ๒๔บทพิสูจน์วันต่อมาชนวีร์ก็ยังกลับมาที่หน้าบ้านเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้แปลกที่เขาได้ถูกเชิญให้เข้ามาภายในบ้านหลังนี้ดวงตาเรียวสำรวจรอบบ้านที่ถูกตกแต่งไว้อย่างน่ารัก มีรูปครอบครัววางไว้บ้างในบางมุม เขาดูรูปจอมขวัญตอนเด็กแล้วก็ต้องยิ้มออกมาเมื่อคิดว่า..ผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนแปลงตัวเองไปมากเพียงใดเพื่อเขา แล้วต่อจากนี้ไปเขาจะตอบแทนด้วยการดูแลเธอไปตลอดชีวิตเอง“นั่งลงสิ จะยืนอีกนานไหม” ตาเม่นพูดเสียงเข้มแม้จะไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้จอมขวัญขอตัวออกไปข้างนอกเพราะไม่อยากทนที่จะเห็นหน้าเขาในบ้านของตัวเอง ตอนนี้จึงมีตาเม่น ยายขิม พ่อตูมตาม แม่ยิ้ม แล้วก็กองทัพเท่านั้น“สวัสดีครับ” เขานั่งลงบนโซฟาแล้วยกมือไหว้ด้วยความนอบน้อมแต่บุรุษสองคนกลับไม่ยอมรับจนเขาอดหน้าเสียไม่ได้“สวัสดีนะครับ ผมกองทัพน้องชายของพี่ขวัญ” ลูกชายคนเดียวของบ้านแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงที่ไม่มีความเป็นมิตรอยู่ในนั้นเลย..แน่นอนละถ้าไม่เห็นว่าพี่สาวของเขารักผู้ชายคนนี้มากขนาดไหนคงไม่มีวันที่เขาจะยอมยกจอมขวัญให้หรอก“ครับ ผมชนวีร์” เขาเอ่ยแนะนำตัวบ้างก่อนที่พ่อตูมตามจะเอ่ยขึ้นมา“เอาละ ที่ผมยอมให้คุณเข้ามาไม่ได้มาจากความเต็มใจเลย”

  • กลซ่อนรัก   ๒๓ จนกว่าเธอจะใจอ่อน

    ๒๓จนกว่าเธอจะใจอ่อน“พ่อทำแบบนี้ได้ยังไง” เสียงแม่ยิ้มเอ่ยถามสามีตนเองด้วยความผิดหวังหลังจากเพื่อนบ้านมาถามไถ่ถึงเรื่องผู้ใหญ่บ้านสามีของนางเอาปืนยิงชายหนุ่มตัวสูง เธอเดาได้ทันทีว่าคนที่กล่าวถึงเป็นใครก่อนจะตามมาถามสามีถึงในไร่“ทำอะไรแม่” กำลังคุมคนงานอยู่ก็ต้องหันมาถามภรรยาที่รักว่าเกิดอะไรขึ้น“พ่อยิงคุณชนวีร์ใช่ไหม” ถามเสียงเครียดแต่พ่อตูมตามกลับไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร“แค่ถากไม่โดนหรอก” ตอบมาอย่างไม่ยี่หระต่อสิ่งที่ตนเองทำแม้ว่าจริงๆ แล้วจะรู้สึกผิดอยู่บ้างแต่ด้วยทิฐิที่มีมากจึงทำเป็นนิ่งเฉย“แล้วถ้าเขาฟ้องพ่อจนติดคุกติดตารางขึ้นมา จะทำยังไง ทำไมไม่คิดบ้างนะ หัวมีแต่ขี้เลื่อยหรือไง” ยิ่งพูดยิ่งอารมณ์เสียกับสามี..ปกติเป็นคนอ่อนโยนแท้ๆ แต่ทว่ามาคราวนี้กลับมุทะลุจนคนเป็นเมียตามแทบไม่ทัน เข้าใจแล้วก็วันนี้ว่าเหนือพ่อของตนเองยังสามีที่หวงลูกสาวมากขนาดไหน“พ่อขอโทษจ้ะแม่”“คนที่พ่อควรขอโทษไม่ใช่แม่ ไปขอโทษคุณวีร์เขานู่น” ว่าจบก็ไม่ฟังคำตอบอะไรอีกแม่ยิ้มเดินออกมาจากสวนขับมอเตอร์ไซค์ออกไปทันทีปล่อยผู้ใหญ่บ้านมองตามตาละห้อย..ทะเลาะกับเมียไม่เว้นวันจริงๆ ไอ้ตูมตามเอ๊ย“ไม่มีทางหรอก” ว่าแ

  • กลซ่อนรัก   ๒๒ ลูกเขยไม่ซ่าเพราะพ่อตาสุดโหด

    ๒๒ลูกเขยไม่ซ่าเพราะพ่อตาสุดโหดร่างหนาบนเตียงเริ่มขยับ ทำให้คนที่เฝ้าหันไปมองด้วยความสนใจทันที ตาเรียวยาวค่อยๆ ปรือมองบริเวณโดยรอบก่อนจะเห็นคนที่นั่งเฝ้าก็อดถอนหายใจไม่ได้..ไม่เคยได้ญาติดีกันเลยแต่คราวนี้ทำไมคนที่เฝ้าเขาดันเป็นลูกน้องที่แอบหลงรักเมียเขาไปเสียนี่“หมอบอกว่าให้คุณพักผ่อนให้พอ ฉีดยาให้แล้วเพราะคุณเป็นไข้ อ่อนเพลีย”สองหนุ่มมองหน้ากันนิ่งราวกับจะหยั่งเชิงกันและกันเป็นปนิธิที่ถอนหายใจออกมาเสียก่อน เขาลุกออกไปทิ้งไว้เพียงชนวีร์ที่มองตามก่อนจะเริ่มสังเกตโดยรอบว่าที่นี่เป็นเพียงสถานีอนามัยเล็กๆ มีที่นอนเหมือนห้องพยาบาลที่โรงเรียน มีเพียงม่านกั้นเตียง เตียงก็เล็กประมาณสามฟุต อยากจะลุกขึ้นแต่ร่างกายกลับล้าไปหมดเลยทำได้เพียงแค่นั่งพิงหัวเตียง มองด้านข้างก็เห็นน้ำเปล่าเขาจึงดื่มเข้าไปด้วยความกระหาย“ที่ผมมาหาขวัญวันนี้ก็กะว่าจะเอาของสำคัญมาให้เขา แต่ผมคิดว่าคนที่ควรจะได้มันน่าจะเป็นคุณ” สมุดเล่มหนึ่งถูกวางไว้ตรงหน้าตักชนวีร์“ขอให้หายเร็วๆ นะครับท่านประธาน แล้วเจอกันที่ทำงาน” ร่างสูงกล่าวจบก็หันหลังจะเดินออกไปแต่กลับคิดอะไรบางอย่างออกมาได้ “ขวัญเขารักคุณมากนะ ถ้าคุณได้โอกาสจากเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status