LOGINหลินซูหนานรู้สึกอ่อนเพลียเล็กน้อยจากการฟื้นตัวอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคใด ๆ นางลุกขึ้นยืนช้า ๆ แล้วเดินไปที่หน้าต่างเพื่อมองสำรวจจวนของตนเอง
เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง นางเห็นลานกว้างที่ถูกตกแต่งอย่างงดงามด้วยโคมไฟสีแดงและสีทองห้อยระย้าตามทางเดิน ทางเดินถูกปูด้วยผ้าไหมสีแดงที่ทอดยาวไปจนถึงทางเข้าจวน สายลมอ่อนๆ พัดผ่านมา ทำให้ดอกกุ้ยฮวาที่บานสะพรั่งอยู่รอบ ๆ ลานส่งกลิ่นหอมอบอวลในอากาศ แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมากระทบกับกลีบดอกไม้ ทำให้สะท้อนออกมาเป็นประกายระยิบระยับ
ภายในลานกว้าง บ่าวรับใช้ต่างกำลังเตรียมงานอย่างขะมักเขม้น บางคนกำลังจัดโต๊ะอาหารที่เต็มไปด้วยของหวานและผลไม้สด บางคนกำลังขนของขวัญที่ถูกห่อด้วยกระดาษสีสันสวยงามมาวางเรียงรายบนโต๊ะยาว บรรยากาศเต็มไปด้วยความรื่นเริง
นอกจากนี้ยังมีการจัดเตรียมเครื่องดนตรีสำหรับบรรเลงเพลงในงานเลี้ยงเย็นวันนี้ เสียงดนตรีที่นุ่มนวลและอ่อนหวานลอยมาเป็นระยะ ทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลายและอบอุ่นยิ่งขึ้น
เสียงหัวเราะและการสนทนากันของคนในจวนดังขึ้นทั่วทุกมุม บ่งบอกถึงความสุขที่กำลังจะมาเยือน
บรรยากาศในจวนสกุลหลินวันนี้เต็มไปด้วยความสดใสและความอบอุ่น ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะถูกจัดเตรียมอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อเฉลิมฉลองวันเกิดของหลินซูหนาน นางสัมผัสได้ถึงความรักและความห่วงใยจากทุกคนในจวน ความสุขและความปลื้มปีติจึงเกิดขึ้นในใจของนางอย่างท่วมท้น
“คุณหนูเจ้าคะ น้ำอุ่นเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว รีบมาอาบน้ำเถิดเจ้าค่ะ” เสียงของเซียงลี่ดังมาจากหลังฉากกั้น ภายในห้องอาบน้ำที่อยู่ภายในเรือน ซึ่งอยู่ติดกับห้องนอนของหญิงสาว
หลินซูหนานได้ยินแล้วก็รู้หน้าที่ของตน วันนี้นางต้องรีบอาบน้ำเตรียมตัวตั้งแต่เช้า เพราะต้องไปคารวะบิดามารดาและยกน้ำชาให้กับพวกท่าน เพื่อเป็นการขอบคุณเนื่องในวันเกิดของนาง ซึ่งตามธรรมเนียมแล้วจะต้องทำทุกปี
ในปีนี้ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษมากนัก เพียงแต่ว่าอายุสิบสามปีเต็มแล้ว ยามนี้นางเป็นผู้ใหญ่กว่าแต่ก่อน เริ่มที่จะมีความคิดความอ่านเป็นของตนเอง ทั้งยังมีสัญญาหมั้นหมายกับองค์รัชทายาทด้วย ดังนั้นนางจะมาทำตัวเป็นเด็กเที่ยวเล่นสนุกสนานเช่นเดิมไม่ได้อีกต่อไป
“คุณหนู คิดอะไรอยู่หรือเจ้าคะ” เซียงลี่ที่เดินมาถึงข้างหลังของเจ้านายสาวแล้วเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นคุณหนูของตนยังดูเหม่อลอยผิดปกติ
“อ้อ...ไม่มีอะไรหรอกเซียงลี่ ข้าเพียงแต่ครุ่นคิดเรื่องของวันนี้น่ะ ว่าจะต้องทำอะไรบ้างเท่านั้น ข้าว่าข้ารีบไปอาบน้ำก่อนดีกว่า” นางตอบเพื่อเบี่ยงประเด็นไม่ให้สาวใช้คนสนิทถามอะไรไปมากกว่านี้
“ไปเจ้าค่ะ” เซียงลี่ยิ้มรับและเดินนำไปหลังฉากกั้น
หลินซูหนานเดินตามเซียงลี่เข้าไปในห้องอาบน้ำ กลางห้องมีถังน้ำขนาดใหญ่ มีน้ำอุ่นอยู่หนึ่งถัง ซึ่งเต็มไปด้วยดอกไม้ที่ลอยปกคลุมทั่วผิวน้ำ ด้านบนของน้ำอุ่นมีควันสีขาวบางเบา
กลิ่นหอมของเครื่องหอมที่ถูกใส่ไว้ในถังอาบน้ำอบอวลไปทั่วห้อง เครื่องหอมที่ผสมผสานกลิ่นดอกไม้และสมุนไพร ช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลายและทำให้ใจสงบ ช่วยเติมเต็มอากาศในห้องให้รู้สึกเหมือนกับการเดินผ่านสวนดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ
หลินซูหนานก้าวเข้าสู่ถังอาบน้ำช้า ๆ ความอบอุ่นและผ่อนคลายจากการสัมผัสน้ำที่อุ่นพอดีแทรกผ่านเข้ามาในร่างกาย ยามเมื่อปลายนิ้วของนางสัมผัสกับผิวน้ำ ไอน้ำ รวมถึงกลิ่นหอมของเครื่องหอมที่ลอยกรุ่น ก็ทำให้รู้สึกราวกับว่า ทุกความกังวลถูกปล่อยออกไปตามจังหวะการหายใจ
เซียงลี่นั่งอยู่ข้าง ๆ ถังอาบน้ำ พร้อมกับผ้าและอุปกรณ์สำหรับขัดถูตัวหลายอย่าง นางเริ่มต้นด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาด ๆ แล้วถูไปตามเนื้อตัวของหลินซูหนานอย่างระมัดระวัง จากนั้นต่อด้วยการใช้แปรงขนนุ่มขัดถูทีละส่วน ระหว่างที่ปรนนิบัติหลินซูหนานอาบน้ำ นางก็มักจะชวนคุยเพื่อให้ผ่อนคลาย
“ปีนี้ของขวัญที่ส่งมาให้คุณหนูมีมากมายเลยนะเจ้าคะ เห็นฮูหยินบอกว่านับแล้วได้ตั้งหนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดชิ้น” เซียงลี่กล่าวอย่างยิ้มแย้ม ดูแล้วนางเหมือนจะดีใจยิ่งกว่าเจ้าของวันเกิดเสียอีก
ตอนพิเศษ 2.2ฉู่ตงฟางนั่งลงข้างๆ ฉู่สือ โดยพิจารณาความคิดนี้อย่างละเอียด ก่อนจะกล่าวขึ้น “แล้วจะมีวิธีการไหนบ้างที่เจ้าจะใช้ในการคำนวณมูลค่าของสินค้าบนเรือ”“ข้าสามารถแบ่งประเภทสินค้าออกเป็นกลุ่ม ๆ ได้ขอรับ เช่นสินค้าแบบหยกหรืออัญมณี จะมีมูลค่าสูง ในขณะที่สินค้าธรรมดาอย่างอาหารหรือเครื่องใช้ จะมีมูลค่าต่ำกว่า ซึ่งเราจะต้องมีการกำหนดอัตราเทียบเคียงกันด้วย” ฉู่สืออธิบายต่ออย่างเชี่ยวชาญ“ฟังดูดีมีเหตุผลมาก” ฉู่ตงฟางพยักหน้าเห็นด้วยฉู่ตงฟางพิจารณาความคิดของลูกชายก่อนจะถามอย่างจริงจังอีกครั้ง “แล้วเจ้าคิดว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ จะทำให้ลูกค้าพอใจหรือไม่”“ข้าเชื่อว่าหากพวกเราชี้แจงเหตุผลให้ชัดเจน พวกเขาจะเข้าใจและเห็นความสำคัญขอรับ เราต้องทำให้เจ้าของเรือรวมถึงลูกค้าอื่น ๆ รู้ว่าวิธีการนี้จะทำให้เขาได้กำไรมากขึ้น เพราะสินค้าบางอย่างที่มูลค่าไม่สูงมาก พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพง” ฉู่สือกล่าวอย่างมั่นใจ“ดีมาก ถ้าเช่นนั้นพ่อจะให้เจ้าไปอธิบายเรื่องนี้กับเจ้าของเรือและลูกค้าในวันพรุ่งนี้” ฉู่ตงฟางกล่าวพร้อมกับยิ้มอย่างภูมิใจ“ขอรับท่านพ่อ ขอบคุณที่เชื่อมั่นใจตัวลูก” ฉู่สือตอบรับด้วยความตื่นเต้น
ตอนพิเศษ 2.1สิบปีต่อมาฉู่ปิ่งเติบโตเป็นเด็กหนุ่มที่แข็งแกร่งและกล้าหาญที่สุดในเมืองท่าแห่งนี้ ปีนี้เขาอายุสิบสามแล้ว เป็นเด็กหนุ่มที่มีความมุ่งมั่นและขยันขันแข็งในทุกสิ่งที่ทำ โดยเฉพาะในด้านการเรียนและการฝึกวรยุทธ ฉู่ปิ่งเข้าเรียนที่สถานศึกษาของเมืองท่า โดยมีอดีตราชบัณฑิตเจียงจวนหยางเป็นผู้สอน เขาสอนทั้งวิชาการและการต่อสู้ ทำให้ฉู่ปิ่งเก่งทั้งบุ๋นและบู๊ จนได้รับการยอมรับจากอาจารย์และสหายร่วมชั้นในแต่ละปีเวลามีงานเทศกาลประจำเมือง ฉู่ปิ่งมักจะเข้าร่วมการประลอง เขาได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของตนอย่างเต็มที่ ในปีนี้ก็เช่นกัน เขาผ่านรอบสุดท้ายโดยมีคู่ต่อสู้ที่ตัวใหญ่และดุดันชื่อว่าเหอจิ้ง ซึ่งเป็นนักสู้รุ่นพี่ที่มีฝีมืออันดับต้น ๆ ในเมืองท่าท่ามกลางเสียงร้องของผู้คนในงานเทศกาล ฉู่ตงฟาง หลินซูหนาน และน้องสาวน้องชายของฉู่ปิ่ง นั่งอยู่ในที่นั่งที่ดีที่สุด พวกเขามองไปที่ฉู่ปิ่งด้วยความหวังและความภูมิใจในตัวเขา“ฉู่ปิ่ง ตั้งใจสู้ให้ดี” หลินซูหนานตะโกนให้กำลังใจบุตรชาย ขณะที่ฉู่ปิ่งยืนอยู่ในวงล้อมการประลอง“ใช่ แสดงให้พวกเขาเห็นว่าเราคือใคร” ฉู่ตงฟางเอ่ยขึ้นเสียงดังด้วยความตื่นเต้นฉู่ปิ่งม
ตอนพิเศษ 1.2ก่อนที่หมอจะออกจากห้อง ก็แนะนำเกี่ยวกับยาบำรุงครรภ์ที่จำเป็น และหยิบยาออกมาสองเทียบส่งให้ฉู่ตงฟาง พร้อมกับแนะนำว่า “ให้ฮูหยินใช้ยานี้บำรุงร่างกาย ต้องต้มกินวันละสามเวลา หากหมดก็ให้ไปรับยาได้ที่โรงหมอของข้าได้”“ขอบคุณท่านหมอมาก” ฉู่ตงฟางกล่าวขอบคุณอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความสุข เขารับยาจากหมออย่างระมัดระวังเมื่อหมอกลับออกไปแล้ว ฉู่ตงฟางนั่งอยู่ข้างหลินซูหนานด้วยความรักและเอาใจใส่ นางยังคงนอนอยู่บนเตียงในสภาพร่างกายที่อ่อนเพลีย ทว่าภายใต้สีหน้าที่ซีดขาวนั้น กลับมีความรู้สึกดีใจอยู่เต็มเปี่ยม“ซูหนาน ข้าตื่นเต้นและดีใจมากที่เราจะมีเจ้าก้อนแป้งกันแล้ว” เขากล่าวด้วยเสียงแผ่วเบาและอ่อนหวานหลินซูหนานยิ้มอย่างหวานละมุน “ข้าก็รู้สึกดีใจเหมือนกันครอบครัวของพวกเราจะสมบูรณ์แล้วนะเจ้าคะ” นางกล่าวอย่างมีความสุข“ต่อจากนี้ไป ข้าจะดูแลเจ้าตลอดเวลา เจ้าจะต้องพักผ่อนมากๆ ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องลำบาก ส่วนเรื่องขายของข้า จะสั่งให้คนมาช่วย” ฉู่ตงฟางก้มลงมองนางอย่างรักใคร่“เจ้าค่ะ” หลินซูหนานตอบอย่างไม่มีปัญหาเพราะนางก็อยากรักษาตนเองให้ดีที่สุดเพื่อเจ้าก่อนแป้ง“พักผ่อนเถอะ ข้าจะอยู่ก
ตอนพิเศษ 1.1หลังจากที่ฉู่ตงฟางและหลินซูหนานได้ล่องเรือเที่ยวไปตามเมืองต่าง ๆ จนพอใจแล้ว สุดท้ายทั้งคู่ก็ตัดสินใจปักหลักที่เมืองท่าแห่งหนึ่ง เมืองนี้มีทิวทัศน์ที่สวยงาม พร้อมด้วยท่าเรือที่คึกคัก ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบและสวยงามของแม่น้ำสายใหญ่ จึงทำให้ทั้งสองรู้สึกว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะสมในการสร้างชีวิตใหม่ฉู่ตงฟางและหลินซูหนานเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยการเปิดร้านค้าเล็ก ๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากท่าเรือ ร้านค้าของพวกเขาได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม มีบรรยากาศอบอุ่นที่ดึงดูดลูกค้า ทั้งสองจัดทำสินค้าหลากหลาย ตั้งแต่อาหาร ไปจนถึงสินค้าหัตถกรรมที่สวยงาม โดยเฉพาะสินค้าที่หลินซูหนานทำด้วยมือซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้ร้านของทั้งสองมีชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว โดยตั้งร้านค้าชื่อซูหนานนอกจากการขายสินค้าแล้ว ฉู่ตงฟางยังให้บริการคุ้มภัยทางเรือแก่พ่อค้าและนักเดินทางที่ต้องการขนส่งสินค้าไปยังเมืองต่าง ๆ โดยตั้งชื่อสำนักคุ้มภัยซูหนานฉู่ตงฟางมีลูกน้องที่มีวรยุทธสูงส่งมากมายที่ลาออกจากการเป็นองครักษ์เพื่อมาติดตามเขา และเขาเองก็มีความสามารถในการจัดการที่ดีเยี่ยม ทำให้ลูกค้าต่างไว้ใจสำนักคุ้มภัยซูหนานของนายท่า
บทส่งท้าย ความสุขที่ต้องการ 1.2การสนทนานี้จบลงด้วยความเข้าใจและความรักที่มีต่อกัน ทั้งสองคนลุกขึ้นยืนและโบกมือให้กัน เป็นการกล่าวลาอย่างอบอุ่น ก่อนที่ฉู่ตงฟางจะเดินออกจากห้องทรงพระอักษร ไปสู่วิถีชีวิตใหม่ของเขา ขณะที่ฮ่องเต้ยืนอยู่ในห้องนั้น ด้วยรู้สึกถึงความรับผิดชอบที่ต้องเผชิญในอนาคตหลังจากที่ฉู่ตงฟางและหลินซูหนานออกเดินทางไปท่องเที่ยว ทั้งสองก็ล่องเรือไปตามแม่น้ำที่สวยงาม โดยที่แรกที่ทั้งสองคนมุ่งไปเป็นเทือกเขาหมินซาน ที่นี่เป็นสถานที่ที่หลินซูหนานตั้งใจอยากมาเยี่ยมชมมานาน ด้วยความงดงามของธรรมชาติที่รายล้อมด้วยภูเขาเขียวขจีและดอกไม้ที่บานสะพรั่งเมื่อทั้งคู่มาถึงเทือกเขาหมินซาน ทิวทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ทำให้หลินซูหนานอดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาด้วยความดีใจ ฉู่ตงฟางมองดูนางด้วยความรัก เขาจับมือของนางขึ้นมาจับแล้วกล่าวอย่างหยอกล้อว่า“ดูสิ สถานที่นี้สวยงามไม่แพ้เจ้าเลย”“ท่านพี่ ข้าชอบที่นี่มากจริงๆ” หลินซูหนานกล่าวด้วยเสียงสดใส ยามนี้นางไม่เรียกเขาตำแหน่งอ๋องอีกแล้ว“ข้าดีใจที่เห็นเจ้ามีความสุข” ฉู่ตงฟางกล่าวด้วยรอยยิ้มทั้งสองใช้เวลาหลายวันในการเดินชมธรรมชาติ โดยฉู่ตงฟางพานางไปเก็บดอกไม้ท
บทส่งท้าย ความสุขที่ต้องการ 1.1 หนึ่งปีผ่านไปการเมืองในราชสำนักกลับมาสงบเงียบไร้ซึ่งเกลียวคลื่นใต้น้ำ ขุนนางทุกฝ่ายเริ่มเห็นพ้องต้องกัน และต่างรวมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินฮ่องเต้ต้าเฟยได้แต่งตั้งฮองเฮาคู่กาย ฮองเฮาผู้นี้เป็นญาติห่าง ๆ ของหลินซูหนาน ในช่วงเวลานี้บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุขย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน ในวันที่อากาศสดใส ฮ่องเต้ต้าเฟยได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมชาวบ้านด้วยพระองค์เอง โดยมีราชครูหลินเจิ้งหานตามเสด็จไปด้วยในฐานะพระอาจารย์ของฮ่องเต้ พวกเขาเดินทางไปยังหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งนาเขียวขจี ความงดงามของธรรมชาติทำให้ฮ่องเต้รู้สึกสดชื่น หลังจากที่ตรากตรำกับราชกิจอยู่ในวังมานานระหว่างที่พระองค์กำลังชมทัศนียภาพอยู่นั้น สายพระเนตรของพระองค์ก็ไปสะดุดกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่กลางทุ่งนานั้น ใบหน้าของนางสวยงามราวกับภาพวาด ผมยาวสลวยถูกลมพัดปลิวไสว ดวงตาส่องประกายมีชีวิตชีวา รอยยิ้มอ่อนหวานของนาง ดึงดูดใจพระองค์เป็นอย่างมากหญิงสาวผู้นี้กำลังช่วยชาวบ้านจัดการพืชผลที่เก็บได้ ในมือมีสมุดบัญชีอยู่หนึ่งเล่ม ซึ่งนางกำลังก้มหน้าก้มตาจดรายการพืชผลของช







