Share

chapter 5

last update Last Updated: 2025-11-06 14:24:03

“ก็อีตาบ้านั่นน่ะสิเอม ด่าพี่ซะเสียๆ หายๆ เลย แล้วยังไม่ยอมเคลียร์ หนีหน้าไปซะเฉยๆ บ้าหรือเปล่าก็ไม่รู้” เอ่ยตอบกลับแทบเป็นผรุสวาท ยกสองมือเท้าสะเอวก่อนทาบบนขมับ 

“อุ้ย!!” เฌอเอมร้องอุทาน นัยน์ตาเบิกกว้างเมื่อจำชายที่เดินจากไปอย่างเร็วไวได้ “นั่นมัน...” ยกมือชี้ไปที่ร่างหนาก่อนย้อนกลับมาปิดปากตัวเอง 

“ใคร...เอมรู้จักเหรอ” กัดฟันถาม

เฌอเอมพยักหน้ารับหงึกๆ ส่งยิ้มแหยๆ ให้กับพี่สาวคนบ้านเดียวกัน “ค่ะ รู้จักค่ะ” รับคำเสียงแผ่วเบา

“บอกพี่มาสิ อีตาหมีควายนั่นเป็นใคร” ถามเสียงเข้มดุ แม้พยายามระงับอารมณ์โกรธอย่างที่สุดแล้ว แต่ก็ทำได้อยากเย็นเหลือเกิน ในศีรษะคล้ายยังมีเสียงหวึ่งๆ หวี่ๆ ของแมลงมอดไม้ชอนไชอยู่ 

“ค่ะ...” เฌอเอมหน้าเหวอ เมื่อเจอสรรพนามที่สายน้ำผึ้งเรียกอาจารย์หนุ่มเจ้าเสน่ห์ ซึ่งเจ้าตัวเองก็เคยเอ่ยชมเชยยามเธอเล่าให้ฟังเรื่องนิสิตสาวแต่งกายด้วยเสื้อรัดติ้วจนกระดุมแทบหลุดปลิวใส่หน้าคนอื่น กระโปรงหรือก็สั้นเต่อจนปิดแค่แก้มก้นนิดเดียว จนถูกเตือนหยิกแกมหยอก ที่สาวๆ หลายคนฟังแล้วถึงกับหน้าชา ไม่กล้าใส่กระโปรงสั้นและเสื้อรัดติ้วในวันที่มีวิชาเรียนของอาจารย์หนุ่ม ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าระเบียบ ทุกอย่างต้องออกมาดี ทำรายงานส่งต้องเป็นลายมือตัวเองและตัวบรรจง รวมถึงภาษาคำสะกดพลาดแม้ตัวอักษรเดียวก็ไม่ได้ 

“ว่าไงเอม อีตาหมีควายนั่นเป็นใคร” เอ่ยถามซ้ำ เมื่อเฌอเอมไม่ยอมตอบคำถาม

“เอ่อ...อาจารย์...อาจารย์เอมเองค่ะ” 

“หือ...” 

“ค่ะ อาจารย์คนที่เอมเคยเล่าให้ฟังไงคะ” 

“คนนี้นะ” คล้ายโลกหมุนกลับ นี่เธอไป...โอ๊ย!! อยากจะบ้าตายจริงๆ มึนงงอย่างกะทันหัน ร่างโปร่งบางเซถลาไปแทบติดขอบกระโปรงรถ มือเรียวทาบจับข้างแก้มและขมับ 

“เป็นอะไรคะพี่น้ำผึ้ง ปวดศีรษะอีกแล้วใช่ไหมคะ เอมว่ารีบขึ้นรถดีกว่าค่ะ” เอ่ยด้วยความเป็นห่วง อากาศวันนี้ก็ร้อนเสียเหลือเกิน จนขนาดเธอเคยยืนกลางแดดเปรี้ยงๆ หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน ช่วยแม่ดำนาปักกล้าและเก็บเกี่ยวข้าวในนายามอากาศร้อนจัดมาแล้วยังรู้สึกแสบส่วนที่ถูกแดดเลย 

สำหรับคนแพ้แดดอย่างสายน้ำผึ้ง ที่เจอแดดจัดๆ เมื่อไหร่จะปวดศีรษะถึงขั้นอาเจียน ดวงหน้าเรียวรูปไข่เปลี่ยนแปลงเป็นมีแก้มยุ้ยราวกับเด็กอ้วน ตาบวมคล้ายคนเอาแต่นอนไม่อยากตื่น แต่เพราะไม่หลับเลยทรมานด้วยความเจ็บปวดราวมีลิ่มเหล็กตอกโป้กๆ ที่กระบอกตาทะลุท้ายทอย

“เปล่า...แค่...อือ ใช่ หนักคิ้วมากเลย” ตอนแรกก็เกือบบอกว่าไม่ใช่ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ต้องถูกถาม สู้ยอมรับเป็นการตัดบทดีกว่า “วันนี้อากาศร้อนมาก เรารีบขึ้นรถกันเถอะ เอมต้องไปซื้อเสื้อผ้ากับพี่อีก” 

เมื่อเห็นน้องสาวนอกไส้ยังยืนละล้าละลังอยู่ สายน้ำผึ้งก็ลดกระจกลงพร้อมยื่นหน้าออกมาเล็กน้อย “เอ้า...เร็วๆ เข้าสิเอม ยังไปอีกไกลนะ” 

“ค่ะๆ ไปแล้วค่ะ” เฌอเอมรับคำอย่างขำๆ เล็กน้อย นี่ขนาดว่าอาการปวดศีรษะเล่นงานอยู่นะ สายน้ำผึ้งยังกระฉับกระเฉงว่องไวราวกับคนปกติ กลีบปากอิ่มคลี่ยิ้มจนเห็นฟันขาวสะอาด รีบสาวเท้าเดินไปขึ้นรถอย่างไม่ต้องรอให้ถูกเรียกซ้ำเป็นครั้งที่สองซึ่งจะตามมาพร้อมคำบ่นว่า

“หยุดเลยเอม ห้ามพูดอะไรทั้งสิ้น” เอ่ยห้ามทันที เมื่อคนตัวเล็กก้าวขึ้นมานั่งแล้วหันหน้ามาหาพร้อมกลีบปากรูปกระจับขยับอ้าหมายจะห้ามไม่ให้เธอทำอย่างที่คิดไว้ ‘ไม่จำเป็นต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ก็ได้ ในเมื่อเสื้อผ้าเก่ายังใช้ได้อยู่เลย’ 

เฌอเอมหน้ามุ่ย “ค่ะ” ตอบรับเสียงเบาหวิวอย่างเสียดายเงินในกระเป๋าที่คงต้องหายไปหลายบาทเชียวล่ะ 

สายน้ำผึ้งอมยิ้มหันไปมองสาวน้อยข้างกาย ตอนที่แม่โทรมาเกริ่นอยากให้ช่วยดูแลใครสักคน เธอฟังแล้วทั้งหงุดหงิดและอึดอัดใจ ด้วยชินกับการอยู่คนเดียว แต่เมื่อแม่หว่านล้อมด้วยการสรรหาคำพูดต่างๆ นานา สุดท้ายก็เอ่ยพูดอย่างน้อยใจที่เธอไม่ยอมรับความเป็นห่วง เธอเลยจำต้องรับปากพร้อมตั้งป้อมไม่ชอบหน้าเฌอเอมตั้งแต่ไม่ได้เจอหน้า 

ทว่าเมื่อได้เห็นหญิงสาวและอยู่ด้วยเข้าจริงๆ ความที่อีกฝ่ายค่อนข้างขลาดกลัวไม่มั่นใจในตัวเอง เลยเข้าใจทำไมแม่ถึงอยากให้มาอยู่กับเธอนัก คงเชื่อมั่นในตัวเธอจะดูแลและสามารถช่วยเหลือเปลี่ยนแปลงเฌอเอมให้เป็นคนใหม่ เก่ง กล้าและมาดมั่น อย่างสาวทำงานยุคใหม่ 

ยอมรับจากเคยชินกับการอยู่คนเดียว เมื่อมีคนมาอยู่ด้วยแรกๆ ก็อึดอัดและหงุดหงิดใช่น้อย ยิ่งได้เจอกับนิสัยหัวอ่อน ขี้เกรงอกเกรงใจ อะไรก็ได้ทั้งนั้นทั้งที่ตัวเองกินไม่ได้ ปากเสียงก็ไม่มี ยอมจนกลายเป็นถูกจุดอ่อนให้ถูกคนอื่นเขาเอารัดเอาเปรียบจนคนที่ไม่ยอมใครอย่างเธอถึงกับโกรธกรุ่น เลยตั้งใจดูแลและปรับเปลี่ยนบุคลิกลักษณะเฌอเอมให้กล้าแกร่งและพร้อมสู้คน ไม่ยอมให้ใครเอารัดเอาเปรียบ แม้จะยังไม่ได้ดังใจมากมายอย่างหวัง แต่ก็ถือว่าดีขึ้นเยอะ จนสามารถพาออกงานพบปะผู้คนได้ส่วนหนึ่ง 

ทว่า...ศีรษะทุยสะบัดส่ายเล็กน้อย ติดอยู่ที่เฌอเอมหัวอ่อน ไม่มีจริตมารยา ใส่ซื่อจนเป็นเซ่อ ตามเพื่อนไม่ค่อยทันด้วยนิสัยเชื่อคนง่ายเกินไป เพียงเขาพูดดีหน่อยก็คิดว่าเขาดีและจริงใจด้วย จนเธอกังวลวันหนึ่งสิ่งนี้จะนำภัยมาให้ 

สายน้ำผึ้งหยุดคิดมาก คงต้องทำใจ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด กังวลใจคิดมากไปก็รังแต่ปวดหัวเปล่าๆ สู้มีปัญหาแล้วค่อยคิดหาทางแก้ไขอย่างมีสติยั้งคิดดีกว่า อีกทั้งรถก็เคลื่อนมาหยุดหน้าร้านที่หมายตาไว้แล้วด้วย รีบจัดการเรื่องเสื้อผ้าและพาเฌอเอมไปกรอกเอกสารสมัครงานให้เสร็จเรียบร้อยดีกว่า เผื่อว่าดวงดีอย่างที่เธอหวัง ก็อาจได้รับการสัมภาษณ์และได้งานเลย!

“เดี๋ยวเอม อย่าพึ่งไป” 

“คะ” เฌอเอมหยุดชะงัก ยกเท้าที่ยื่นก้าวลงไปเหยียบพื้นแล้วย้อนกลับขึ้นมาบนรถใหม่ ก่อนจะหันศีรษะและเอียงคอมองหน้าคนเรียกอย่างค่อนไปในทางสงสัย “มีอะไรหรือเปล่าคะพี่น้ำผึ้ง” 

“ที่นี่ไม่เหมือนบ้านเรา ยิ่งเอมทำงานวันแรก ต้องตั้งใจฟังสิ่งที่คนเก่าๆ เขาแนะนำนะ มีอะไรไม่รู้ก็ให้ถาม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ให้อดทนและ...ระวังตัวด้วยนะ” 

งง...เฌอเอมบอกกับตัวอย่างนั้น คำพูดสายน้ำผึ้งฟังดูทะแม่งๆ สั่งความอย่างกับเธอไม่ได้เข้าทำงานแต่เป็นการไปออกศึกอย่างนั้นแหละ คิ้วโก่งขมวดมุ่นเข้าหากัน ส่งสายตาเป็นคำถามไปให้คนซึ่งนั่งประจำตำแหน่งคนขับ ซึ่งความจริงแล้ววันนี้ต้องไปติดต่อคุยงานกับลูกค้า แต่กลับขับรถเพื่อมาส่งเธอทำงานวันแรก จนเธอรู้สึกอุ่นใจไม่โดดเดี่ยวอ้างว้าง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กังหันเสน่หา   chapter 107 - จบ

    “ถามจริง คุณแน่ใจได้ยังไงว่าฉันจะตกลง แล้วเกิดไม่...แม่คุณไม่หน้าแตกหรือไง” แต่แม่เธอนะหรือที่จะปฏิเสธ มีแต่จะรีบจับเธอใส่พานยกให้แม่ภาสวรโดยเร็วนะสิ ก็อยากจะให้เธอแต่งงานมีสามีเป็นตัวเป็นจนถึงกับเคยเปรยให้เธอได้ยินอยู่ว่า ถ้ามีใครสักคนกล้าหาญมาขอเธอไปเป็นศรีภรรยาละก็...จะยกให้พร้อมกับทองสักสองสามบาท ไหนจะที่ทางอีกล่ะภาสวรส่ายศีรษะ เขามั่นใจเลว่าพ่อกับแม่จะทำสำเร็จเช่นตัวเขาเองที่ต้องสำเร็จด้วยเช่นกัน“ไม่เลย เพราะผึ้งไม่มีทางหนีมือฉันพ้น ถ้า...ป่อง” ชายหนุ่มยิ้มนัยน์ตาวาวระยับขณะสองมือวาดท้องโตขึ้นพร้อมใบหน้ารอยยิ้มละมุนละไม นัยน์ตาเข้มดุวามวาวเป็นประกายแฝงความเจ้าเล่ห์เอาไว้เต็มพิกัด ที่คนเห็นถึงกับหนาวจับขั้วหัวใจ “ผึ้งจะยอมอาย ไม่แต่งงานกับฉันได้หรือ” “ป่องเองสิยะ ไม่ย่ะ ฉันไม่ป่อง” “มีสิทธิ์เลือกหรือจ๊ะผึ้งจ๋า...ฉันปล่อยเชื้อไว้เต็มที่ทุกครั้งที่เราปั่มปั๊มกัน ใครจะไปรู้ ตอนนี้ผึ้งอาจมีผึ้งตัวเล็กๆ ซุกอยู่ในท้องแล้วก็ได้ แต่ถ้าผึ้งยังไม่มั่นใจ เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันซ้ำให้นะจ๊ะเมียจ๋า” ภาสวรช้อนร่างนุ่มนิ่มขึ้นไปวางบนเตียงนอนพร้อมปลดเปลื้องเสื้อผ้าจากสองกายหลุดออกไปอย่างเร็วแทบเป

  • กังหันเสน่หา   chapter 106

    “ความจริงผึ้งควรดีใจนะที่เกิดเหตุการณ์นั้น เพราะทำให้ฉันมั่นใจในความรู้สึกของตัวเอง” ไม่เข้าใจ ศีรษะทุยเอียงเล็กน้อย ไอ้ที่เขาพูดมาหมายความว่ายังไงภาสวรยกมือขึ้นลูบท้ายทอยอย่างเขินๆ “ฉันแค่อยากมั่นใจ สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเรา ไม่ใช่แค่ความผูกพันทางกาย แต่เป็นสายใยเชื่อมใจสองดวง เชื่อมคนสองคนให้ร่วมจับมือฝ่าฟันปัญหาและอุปสรรค เติมเต็มความสุขพร้อมสร้างสุขด้วยกันตลอดจวบจนแก่เฒ่า” สายน้ำผึ้งไม่รู้เลยว่าตอนนี้หัวใจของเธอเริ่มละลายจากการกระทำและคำพูดที่จริงใจและเปี่ยมด้วยรักที่หัวใจรับรู้“ฉันขอโทษที่ฟังความเพียงข้างเดียว แล้วปรักปรำและทำร้ายเธออย่างไม่น่าอภัย ฉันรู้ว่าทำใจลืมยากกับการถูกข่มเหงร่างกายโดยไม่ยินยอม ฉันไม่เถียงที่ส่วนหนึ่งคืออยากลบล้างความรู้สึกผิดที่เกาะกุมใจ แต่ที่มากกว่านั้นคืออยากเติมความรู้สึกผูกพันและรักใคร่ระหว่างกัน พร้อมอยู่ดูแลกันด้วยรักไปตลอดตราบจนชั่วชีวิต” ภาสวรดันร่างเพรียวพาลงไปยืนบนพื้น ขณะที่เขาทรุดกายคุกเข่า “ทำอะไรน่ะคุณภาส” พยายามดึงเอาร่างใหญ่ให้ลุกขึ้น แต่กลับสู้แรงเขาไม่ได้และยังถูกจับมือเอาไว้“ก่อนที่ฉันจะดูแลเธอไปตลอดชีวิตได้ก็ต้อง... บอกรักและขอแ

  • กังหันเสน่หา   chapter 105

    “บางครั้งคนเราก็ทำอะไรที่ไม่ชอบลงไปจากความเข้าใจผิดของตัวเอง ฉันเป็นหนึ่งในนั้น ที่ยังดื้อดึงดันลุยไปข้างหน้าอย่างไม่สนใจสิ่งใด” ขนาดรู้ว่าไม่ใช่ เขาก็ยังไม่ยอมหยุด...“คุณจะพูดยังไงก็ได้ เพราะคุณเป็นฝ่ายได้เปรียบ” ให้เขาพูดดีและจริงใจแค่ไหน ทว่าความเลวร้ายที่เกิดขึ้นใช่ว่าจะลบเลือนได้เพียงแค่คำพูดไม่กี่คำ เพราะทุกการกระทำของเขา คือลิ่มเหล็กตอกย้ำความเจ็บช้ำและปวดร้าวฝังตรึงอยู่ในใจมิรู้คลาย “ปล่อยฉันเถอะคุณภาส ถ้าคุณรักฉันอย่างที่พูด ช่วยปล่อยฉันไปเถอะ ปล่อยให้ฉันไปมีชีวิตของฉัน” สายน้ำผึ้งอ้อนวอนเสียงสั่นพร่าและแหบเครือ“ไม่!!” ภาสวรผวากอดสายน้ำผึ้งเต็มรัก แค่เธอจากมาไม่กี่วันเขารู้สึกคล้ายรอบกายว่างเปล่า มองไปทางไหนก็ล้วนแล้วแต่มืดมนจนมองแทบไม่เห็นทาง “ไม่! ไม่มีวันที่ฉันจะปล่อยเธอไป” เขารัดร่างนุ่มนิ่มแนบอก “แม้ต้องบังคับให้เธออยู่ด้วย...ฉันก็จะทำ!” อยากผลักไส แต่เรี่ยวแรงกลับแห้งเหือดหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ เธอจึงได้แต่อยู่ในอ้อมกอดที่ช่วยไล่ความหนาวเหน็บออกไปจนหมดสิ้น แต่สายน้ำผึ้งก็ยังพยายามเรียกเอาคำพูดและการกระทำของภาสวรที่ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงไร้ค่า ไร้ศักดิ์ศรีขึ้นมากลบ “

  • กังหันเสน่หา   chapter 104

    ภาสวรคลี่ยิ้มปากกว้าง “คุณเลยหวังใช้มือผมจัดการสั่งสอนสายน้ำผึ้งว่างั้นเถอะ” เจสันหัวเราะกลั้วคอ “ผมเอาคืนเล็กน้อย แต่คุณได้ประโยชน์เต็มๆ แล้วอย่างนี้จะตกลงรับข้อเสนอผมไหมล่ะ” ถ้าเขาไม่รับก็ต้องใช้เวลาควานหาตัวสายน้ำผึ้งที่ยังทำตัวดำดินมุดอยู่ในรูอีกนาน ในเมื่อมีคนพาตัวเธอมาเสิร์ฟให้ถึงมือ มีหรือจะไม่เอา“แล้วคุณมีแผนการยังไงบ้าง” ภาสวรเอ่ยถามและรับฟังด้วยใบหน้ายิ้มระรื่น แม้ต้องอดทนที่ต้องมองสายน้ำผึ้งอยู่ไกลๆ แต่เพื่อวันแห่งความสุขเขาจำต้องยอมอดกลั้นที่เธอรู้สึกคล้ายถูกมองและถูกตามเมื่อสองสามวันก่อน...ก็เป็นอีตาหมีควายนี่น่ะสินะ แต่แปลกในเมื่อเขาเจอเธอแล้วทำไมถึงได้ไม่จับตัวไว้ตั้งแต่วันนั้นละ เชื่อได้หรือว่าเขาปล่อยเธอให้ลอยนวลโดยไม่ลากเข้าห้องแล้วขย้ำขยี้ให้แหลกละเอียดยิ่งกว่าแก้วที่ถูกตกลงบนพื้นแล้วถูกรถทับซ้ำอีกครั้ง ภาสวรยิ้ม “ถูกแล้วผึ้ง ฉันตามติดแต่ยอมอดทนตามที่เจสันแนะนำ เพราะกลัวเธอหนีไปอีกครั้งจนหาไม่เจอ รู้ไหมฉัน...หงุดหงิดแทบเป็นบ้าที่ต้องทำอย่างนั้น” เขาหงุดหงิดแทบเป็นบ้าเลยจริงๆ แต่ช่วงเวลาที่ห่างหายไม่ได้อยู่ใกล้กันก็มีส่วนดีด้วยเหมือนกัน เพราะทำให้เขาล่วงรู้ความ

  • กังหันเสน่หา   chapter 103

    เธอพกความช้ำชอกรวดร้าวกับขาดรอนและน้ำตากลับบ้าน ที่เพียงย่างเท้าเหยียบลงไปบนพื้น แข้งขาก็อ่อนแรง แต่จำต้องกัดฟันพาเรือนกายอ่อนระโหยโรยแรงก้าวเดินเข้าไปภายใน เพื่อเก็บเสื้อผ้าและข้าวของที่จำเป็น รีบเดินทางออกจากบ้าน หาเช่าที่พักใช้เป็นที่หลบภัยชั่วคราว ก่อนภาสวรรู้ตัวและตามล่าเอาตัวกลับไปทรมานให้ตกนรกทั้งเป็นจนไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด หลบหนีรอดอุ้งมือมาได้ตั้งหลายวัน จนตอนนี้เคลียร์งานเสร็จเรียบร้อยและจะเดินทางกลับบ้านก่อนต่อด้วยเดินทางไปหางานทำยังดินแดนที่ได้ขึ้นชื่อว่าไข่มุกแห่งอันดามัน ซึ่งเธอได้โทรติดต่อสอบถามบ้างแล้ว แต่ใครจะคาดคิดเล่าภาสวรดักรอเหมือนกับรู้ล่วงหน้าอย่างนั้นแหละ แม้หวาดหวั่นกริ่งเกรงจากรัศมีสายตาของคนตัวใหญ่ จนใบหน้าขาวนวลผุดผ่องค่อนไปทางซีดเผือด ทว่าสายน้ำผึ้งก็ยังเชิดขึ้นสูง ไม่ยอมมองพ่อหมีควายตัวโคร่งที่ยืนสอดมือเข้าในกระเป๋ากางเกง ใบหน้าเข้มกรุ้มกริ่ม สายตาคู่นั้นฉายแวววามวาวที่เธอคุ้นเคย และรีบสาวเท้าเป็นวิ่งเดินเลี่ยงไปที่ลิฟต์ซึ่งเปิดพอ“อะไรกันสายน้ำผึ้ง เจอหน้าผัวเก่าทั้งที นอกจากไม่ถามไถ่ไม่เจอกันหลายวัน คิดถึงกันบ้างไหม แล้วเป็นไงบ้างสบายดีหรือเปล่า ยังคิดห

  • กังหันเสน่หา   chapter 102

    “ถ้าพี่สรไม่รังเกียจ...หนูเอมจะยอมปวารณาตัวเป็นทาส...รัก” แม้เป็นเสียงกระซิบ แต่ก็ดังเข้าไปถึงหัวใจเจสันจนเขาต้องจดจำคำนี้ไม่มีวันลืม “ทาสเสน่หา...ทาสรักของพี่สรตลอดไปค่ะ” “ถ้าอย่างนั้นเราต้องรีบบอกแม่หนูเอม แล้วไปจดทะเบียนกันนะ” เขาอยากมั่นใจ แค่สายใจสายสัมพันธ์สวาทผูกรัดเธอไว้ไม่พอ ยังต้องใช้ฐานะทางกฎหมายและสังคมมัดเธอไว้อีกชั้น ผู้หญิงดีๆ มีความอดทน ทำให้เขารู้สึกประหนึ่งได้พบลาภก้อนใหญ่ มีค่าดังราวกับเพชรในโคลนตม อย่างนี้มีหรือที่เขาจะปล่อยทิ้งไปได้นะ เป็นอย่างนั้นนะ...โง่บรมแล้วล่ะ “แล้วพี่สรจะบอกรักหนูเอมทุกๆ วันใช่ไหมคะ” ก็แหม...คำรักหวานๆ เธออยากฟังซ้ำหลายๆ ครั้งนี่น่า“ไม่ล่ะ คำนี้ถ้าพูดทุกวัน เดี๋ยวจะไม่มีความหมาย คล้ายไม่จริงใจมากกว่า ไว้ใช้ในโอกาสสำคัญๆ ดีกว่านะ แต่ไม่ต้องห่วงนะ” เขารีบบอกดักคอไว้ก่อน เพราะไม่อยากเห็นหน้าเศร้าๆ จากคนตัวเล็ก “ความรักไม่จำเป็นต้องเอ่ยพูด แต่แสดงออกทางความรู้สึก...ที่หนูเอมลืมไปเลย ฉันเอ่ยบอกรักครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่” “ค่ะ...หนูเอมจะรอดู” เฌอเอมทาบมือบนท่อนแขนกำยำ เอนกายอิงอกกว้าง อบอุ่นวาบไปทั้งร่างกายและหัวใจ หลังจากบอกมารดาเป็นที่เรียบร้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status