เช้าวันรุ่งขึ้นนลินนาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่ดีขึ้นเล็กน้อยจากเมื่อวาน เพราะได้คุยกับธีรกฤษเมื่อคืน ถึงแม้ปัญหาเรื่องงานยังคงค้างคาอยู่ในใจ แต่เสียงอบอุ่นของเขาก็ช่วยปลอบประโลมเธอได้มาก
ตลอดทั้งสัปดาห์นลินนาพยายามจดจ่ออยู่กับงานที่ได้รับมอบหมาย เธอพบความผิดปกติในการจัดซื้ออยู่เรื่อยๆ แต่ก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรเพราะคำพูดของคุณมนตรียังคงก้องอยู่ในหู เธอเลือกที่จะทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายไปก่อน และเก็บข้อมูลทุกอย่างที่ผิดปกติไว้ในใจเงียบๆ
เช้าวันเสาร์นลินนาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกตื่นเต้นที่วันนี้เธอจะได้เจอกับธีรกฤษอีกครั้ง หญิงสาวช่วยงานบ้ายป้าสุรีย์จนเสร็จเรียบร้อยก่อนจะตรงดิ่งไปยังห้องครัว หยิบอุปกรณ์และวัตถุดิบทำคุกกี้ออกมาวางเรียงรายบนโต๊ะ
วันนี้นลินนาเธอตั้งใจจะทำคุกกี้ช็อกโกแลตชิพสูตรโปรดของตัวเธอ เพื่อนำไปให้ธีรกฤษตามที่สัญญาไว้ คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อนึกถึงคำพูดของธีรกฤษที่บอกว่าจะมาเอาคุกกี้ที่บ้านของเธอเอง แต่หญิงสาวก็รีบปฏิเสธไปเพราะไม่อยากให้ป้าสุรีย์รู้เรื่องที่ตัวเองเมาจนไม่ได้สติ
นลินนาใช้เวลาอบคุกกี้จนถึงตอนบ่าย กลิ่นหอมของคุกกี้ลอยไปทั่วบ้าน เธอจัดคุกกี้ใส่กล่องด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข การทำขนมเป็นเหมือนการบำบัดจิตใจสำหรับเธอเสมอ
เมื่อคุกกี้เสร็จเรียบร้อยนลินนาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรไปหาธีรกฤษทันที
“สวัสดีค่ะพี่ธีร์ ลินทำคุกกี้เสร็จแล้วนะคะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงสดใส
“โอ้โห เร็วขนาดนั้นเลยเหรอครับ วันนี้พี่ว่างพอดีเลยครับ จะให้พี่ไปรับที่บ้านไหม” ธีรกฤษตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงยินดีที่จะได้เจอเธออีกครั้ง
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ธีร์ เดี๋ยวลินเอาไปให้ที่บ้านพี่ธีร์ดีกว่าค่ะ” เธอไม่ลืมเรื่องที่ไม่อยากให้ป้าสุรีย์รู้เรื่องนี้
“เอางั้นก็ได้ครับ งั้นเจอกันที่บ้านพี่นะครับ”
“ค่ะ” นลินนาตอบรับก่อนจะวางสายไป
นลินนาบอกป้าสุรีย์ว่าจะเอาขนมไปให้เพื่อนที่ทำงานที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก ป้าสุรีย์พยักหน้าเข้าใจไม่ได้ซักไซ้อะไรมากนัก หญิงสาวแต่งตัวด้วยชุดสบายๆ เสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนและรองเท้าผ้าใบพร้อมกับถือกล่องคุกกี้ออกจากบ้านจากนั้นก็เรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่บ้านของธีรกฤษ
เมื่อมาถึงรั้วบ้าน เธอก็ยิ้มเห็นประตูเหล็กดัดขนาดใหญ่เปิดทิ้งไว้ หญิงสาวเธอจึงเดินเข้าไปอย่างช้าๆ แม้ว่าจะเคยมาที่นี่แล้วก็ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่มาก
เธอเห็นธีรกฤษยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ในหน้าบ้าน เขาอยู่ในชุดเสื้อยืดสีครีมและกางเกงขาสั้น เมื่อเขาเห็นนลินนาเดินเข้ามาก็ยิ้มด้วยความดีใจ
“สวัสดีค่ะพี่ธีร์” นลินนาทักทายด้วยน้ำเสียงสดใส
“สวัสดีครับลิน รอแป๊นบะพี่ปิดน้ำก่อน” ธีรกฤษวางสายยางรดน้ำต้นไม้ก่อนจะเดินไปปิดน้ำแล้วเดินตรงมาหานลินนา
“คุกกี้ที่ลินทำมาให้ค่ะ ของพี่กับของน้าสมร”
“ขอบคุณครับ พี่ขอรับแค่ของพี่นะแต่ของน้าสมรเอาไปให้เองเลยตอนนี้น้าสมรอยู่ในครัว พี่ขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อก่อนนะ”
“ค่ะพี่ธีร์”
นลินนาเดินเข้าไปในครัวซึ่งตอนนี้น้าสมรกำลังทำอาหารอยู่อย่างตั้งใจ
“สวัสดีค่ะน้าสมร” หญิงสาวยกมือไว้เหมือนกับทุกครั้ง
“สวัสดีจ้ะหนูลิน” สมรรับไหว้ด้วยแล้วยิ้มตอบเธอรู้สึกว่านลินนาแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นที่เจ้านายพามาที่บ้าน
“ทำอะไรอยู่คะให้ลินช่วยไหม”
“น้ากำลังทำอาหารเย็นค่ะ คุณธีร์สั่งให้น้าทำเผื่อหนูลินด้วย หนูลินไม่ต้องช่วยน้าหรอกค่ะ อีกนิดเดียวก็จะเสร็จแล้ว หนูไปนั่งคุยกับคุณธีร์เถอะนะ”
“ลินทำคุกกี้มาฝากค่ะ วางไว้บนโต๊ะนะคะ”
“ขอบคุณนะคะ” น้าสมรยิ้มกับความมีน้ำใจที่เธอมีให้
เมื่อน้าสมรไม้ใช้ช่วยงานในครัวนลินนาก็เลยเดินกลับมาที่ห้องรับแขกซึ่งตอนนี้ธีรกฤษนั่งรออยู่ก่อนแล้วเขากำลังทานคุกกี้อย่างเอร็ดอร่อย
“หอมมากเลยครับลิน ไม่ต้องลำบากขนาดนี้ก็ได้นะ”
“ไม่ลำบากหรอกค่ะ ลินชอบทำขนมอยู่แล้ว พี่ธีร์ชอบกินคุกกี้แบบนี้เหรอคะ” นลินนาตอบพลางยิ้มกว้าง
“ชอบสิครับ โดยเฉพาะถ้าลินเป็นคนทำ” ธีรกฤษพูดพลางยิ้มกว้างทำให้ใบหน้าหล่อๆ ของเขาดูมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีก
“ลินดีใจที่พี่ธีร์ชอบนะคะ” เธอยิ้มอย่างยินดี
ทั้งสองนั่งคุยกันในห้องรับแขก การพูดคุยดำเนินไปอย่างสนุกสนาน นลินนารู้สึกสบายใจขึ้นมากเมื่อได้คุยกับธีรกฤษ เขาทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและรู้สึกเป็นตัวเอง เธอเล่าเรื่องทั่วไปเกี่ยวกับชีวิตประจำวันให้เขาฟัง แต่ก็ยังคงเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องความไม่ชอบมาพากลที่เจอในที่ทำงานเพราะไม่อยากให้เขากังวลไปด้วย
“พี่ธีร์คะ ลินคงต้องขอตัวกลับก่อนนะคะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเกรงใจ
“ได้ยังไงล่ะ พี่ให้น้าสมรทำกับข้าวเผื่อแล้ว พี่นึกว่าน้าสมรบอกลินแล้วเสียอีก” ธีร์ทำเสียงตกใจเล็กน้อย เขาหันไปมองน้าสมรที่ยืนยิ้มอยู่ไม่ไกล แล้วกลับมามองหน้านลินนาอย่างงงๆ เขาเห็นว่านลินนาเข้าไปคุยกับน้าสมรก็เลยนึกว่าน้าสมรจะชวนเธอแล้ว
“น้าสมรบอกแล้วค่ะ แต่พี่ธีร์ไม่ชวนนี่คะ” นลินนาแอบอมยิ้ม
“ต้องชวนด้วยเหรอ” ธีร์เลิกคิ้วสูงอย่างไม่เข้าใจ
“ก็พี่ธร์เป็นเจ้าของบ้านนี่คะ” เธอมองสีหน้าของเขาแล้วก็หัวเราะ
“งั้นพี่ชวนลินตอนนี้เลยก็แล้วกันนะ อยู่กินข้าวก่อนแล้วขากลับพี่จะไปส่ง ถ้ากลัวพี่เจอป้าพี่ก็จะส่งแค่หน้าบ้านก็ได้ ตกลงไหม” ธีร์รีบชวนเสียงหนักแน่นพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นในใจเขารู้สึกดีใจที่เธออยู่ต่อ
“ตกลงค่ะ” นลินนารับคำอย่างยินดี เธอรู้สึกโล่งใจและมีความสุขอย่างประหลาดที่ได้ใช้เวลาอยู่กับเขานานขึ้นอีกหน่อย
“งั้นไปกินข้าวกันเถอะ” ธีรกฤษเดินนำไปที่โต๊ะอาหาร ซึ่งน้าสมรจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว
กลิ่นหอมของอาหารไทยลอยมาเตะจมูกชวนให้ท้องร้อง ทั้งสองเดินเคียงข้างกันไปที่ห้องอาหาร บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง
ธีรกฤษแอบมองหญิงสาวเป็นระยะ เขารู้สึกถึงความสุขเล็กๆ ที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในใจ ไม่รู้ว่ามื้ออาหารนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาไปในทิศทางไหน แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ธีรกฤษรู้สึกมีความสุขมาก
หลังมื้ออาหารที่แสนอร่อย ธีรกฤษอาสาก็ไปส่งนลินนาที่หน้าบ้านตามที่ได้ตกลงกันไว้ ตลอดทางที่ขับรถธีรกฤษก็ยังคงชวนเธอคุยเรื่องทั่วไปจนกระทั่งมาถึงบ้านของเธอ
“ถึงแล้วครับ” ธีรกฤษบอกเมื่อรถจอดสนิทหน้าบ้านของเธอ
“ขอบคุณมากนะคะพี่ธีร์ที่มาส่ง” นลินนากล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้มหวานซึ้ง
“ไม่เป็นไรครับ ยินดีเสมอ” ธีรกฤษยิ้มตอบ ดวงตาคมกริบมองสบตาเธออย่างอ่อนโยน
“ขับรถดีๆ นะคะ” นลินนายิ้มก่อนจะเปิดประตูรถลงไป
เมื่อเห็นนลินนาเดินเข้าบ้านไปแล้ว ธีรกฤษก็ยังคงจอดรถนิ่งอยู่พักหนึ่ง ดวงตาคมกริบมองไปยังประตูบ้านของเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาอย่างอ่อนโยน
บ่ายวันเสาร์นลินนาเริ่มทำอาหารเย็นด้วยความตั้งใจเพราะวันนี้หญิงสาวเชิญธีรกฤษมาทานอาหารที่บ้าน“ดูหลานสาวของป้าจะตั้งใจทำกับข้าวมากๆ เลยนะ ตกลงคบกันเป็นแฟนแล้วใช่ไหม” ป้าสุรีย์เห็นหญิงสาวตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารแล้วดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ“ยังหรอกค่ะป้า แต่เราก็คุยกันเรื่อยๆ” เธอเองก็อยากให้ทุกอย่างมันชัดเจนแต่เมื่อผู้ชายไม่พูดเธอก็ไม่กล้าจะถาม บางที่ความรู้สึกของธีรกฤษที่มีต่อเธออาจจะน้อยกว่าความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขา แต่นลินนาก็ทำใจไว้ระดับหนึ่งแล้วว่าเธอกับเขาอาจจะคบกันไปเรื่อยๆ ไม่ต้องมีสถานะแต่มีแค่กันและกันก็น่าจะมีความสุขมากพอแล้ว“แล้วลินคิดยังไงกับเขาล่ะ ชอบเขาใช่ไหม”“ค่ะป้าสุ แต่เราสองคนไม่เคยคุยกันถึงสถานะ”“แล้วถ้าคบกันไปเรื่อยๆ แล้วเขาไม่ขอเป็นแฟนสักทีจะไม่เสียเวลาเหรอ”“ไม่หรอกค่ะป้า การมีเขาในตอนนี้ลินก็มีความสุขแล้วค่ะ ถ้าวันหนึ่งจะไม่ได้คบกันต่อก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” เธอพูดเพื่อให้ป้าสุรีย์สบายใจ“ที่ป้าถามไม่ได้จะกดดันอะไรหรอกนะ ป้าก็แค่เป็นห่วงลินอายุยังน้อยมีโอกาสเจอคนอีกเยอะ ถ้าให้เวลาเขาเต็มที่แล้วเขายังไม่คิดจะพูดถึงเรื่องขอเป็นแฟนก็ควรถอยออกมา”“ค่ะป้า ลินคิดว่าจะให้เวล
หลังจากกลับจากสมุยนลินนากับธีรกฤษก็ยังคงติดต่อกันอยู่ตลอด ชายหนุ่มไม่ได้ปล่อยให้เรื่องทุจริตในบริษัทของชัยวัฒน์ผ่านไปง่ายๆ เขาตั้งใจจะช่วยนลินนาและเปิดโปงความจริงให้ได้ตลอดหนึ่งสัปดาห์นลินนาใช้ความพยายามอย่างมากในการรวบรวมหลักฐาน หญิงสาวแอบถ่ายรูปเอกสารที่ผิดปกติ บันทึกข้อมูลการสั่งซื้อที่น่าสงสัย และรวบรวมข้อมูลอื่นๆ ที่สามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันการทุจริตได้ เธอต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้คุณมนตรีหรือใครในแผนกจับได้เธอจะส่งข้อมูลทั้งหมดธีรกฤษเมื่อได้หลักฐานมามากพอแล้วธีรกฤษก็นัดเจอกับชัยวัฒน์เพื่อนสนิทของเขาที่ออฟฟิศของชัยวัฒน์เอง บรรยากาศในห้องทำงานของชัยวัฒน์ดูเคร่งเครียดกว่าปกติธีรกฤษนั่งลงตรงข้ามกับชัยวัฒน์ใบหน้าของเขาดูจริงจังและเย็นชาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน“มีอะไรหรือเปล่าวะธีร์ ดูเครียดๆ” ชัยวัฒน์ถามด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อน“นายดูนี่” ธีรกฤษไม่ตอบอะไรเขาวางแท็บเล็ตลงบนโต๊ะ เลื่อนไปตรงหน้าชัยวัฒน์ชัยวัฒน์หยิบแท็บเล็ตขึ้นมาดู ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นภาพถ่ายเอกสารต่างๆ ที่ธีรกฤษรวบรวมมา มันคือหลักฐานการทุจริตในบริษัทของเขาเอง ชัยวัฒน์อ
สายของอีกวันนลินนาลืมตาตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดอบอุ่นของธีรกฤษ เมื่อคืนกว่าเขาจะยอมให้เธอได้พักก็ผ่านนานจนเธอร้องขอ ความรู้สึกสุขสมเมื่อคืนยังติดอยู่ในความทรงจำที่เร่าร้อนและแสนหวาน เธอพลิกตัวหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังหลับใหลอย่างสงบ แววตาของเธอมองเขาด้วยความอ่อนโยนและอบอุ่นนลินนาค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงอย่างเงียบเชียบ ไม่ต้องการรบกวนการนอนของธีรกฤษ เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ จัดการธุระส่วนตัวแล้วออกมาสวมชุดเดรสสายเดี่ยวสีขาวสบายๆ ผมยาวถูกรวบขึ้นอย่างหลวมๆ เผยให้เห็นต้นคอระหง เธอเดินออกมาริมระเบียงสูดและมองวิวทะเลสีครามที่ทอดยาวออกไปสุดลูกหูลูกตาไม่นานนักธีรกฤษก็เดินออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นสบายๆ เขาเดินตรงเข้ามาโอบกอดนลินนาจากด้านหลังซบหน้าลงกับไหล่ของเธออย่างออดอ้อน“ตื่นเช้าจังเลยนะครับลิน” เขาพูดเสียงแหบพร่าจากการเพิ่งตื่นนอน“เช้าที่ไหนคะ นี่มันสิบโมแล้วค่ะ อากาศดีมากเลยนะคะ” นลินนาตอบพลางซบตัวพิงกับอกแกร่งของเขาทั้งสองคนยืนกอดกันอยู่อย่างนั้นพักใหญ่ ปล่อยให้สายลมทะเลพัดผ่าน ก่อนที่ธีรกฤษจะชวนเธอไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของรีสอร์ตตลอดทั้งวันทั้งสองคนใช้เวลาอยู่ที่ร
ธีรกฤษจูบลงไปบนไรผมที่ชื้นไปด้วยเหงื่อ ก่อนที่ปากร้อนจะลากไปบนลำตัวของหญิงสาวด้วยความลุ่มหลง ชายหนุ่มดันเรียวขาให้กว้างขึ้น ตาคมมองดอกไม้สีสวยที่ฉ่ำเยิ้มแล้วกดความเป็นชายลากขึ้นลงจนส่วนปลายชุ่มไปด้วยน้ำหวาน“อื้อ...พี่ธีร์”หญิงสาวส่ายสะโพกเข้าหาอย่างลืมตัว ร่างกายของเธอร้อนรุ่มความต้องการฉายชัดในแววตาอย่างปิดไม่มิด เพราะความต้องการที่มากล้น แต่นั่นก็ทำให้ธีรกฤษพอใจเป็นอย่างมากที่ผู้หญิงของเขาเร่าร้อนแบบนี้“ไม่เกร็งนะแล้วลินจะมีแต่ความสุข”พูดจบชายหนุ่มก็จูบลงมาอีกครั้งขณะที่ท่อนเอ็นร้อนกดเข้าหาความอ่อนนุ่มทีละนิด ธีรกฤษกัดกรามแน่นเมื่อเขาโดนความคับแน่นของนลินนาตอดรัดตั้งแต่เข้าได้เพียงครึ่งทางครั้งนี้เขาไม่ได้เตรียมถุงยางอนามัยมา และมันก็ทำให้เขารู้ว่าการสอดใส่แบบไม่ป้องกันมันเพิ่มความเสียวมากแค่ไหน ธีรกฤษไม่กลัวเรื่องโรคติดต่อเพราะรู้ว่านลินนามีแค่เขาคนเดียว ส่วนเรื่องท้องก็ไม่ปัญหาเพราะเธอบอกเขาเองว่าอีกไม่กี่วันรอบเดือนก็จะมาทุกอย่างมันเลยลงตัวไปหมด“อื้อ...พี่ธีร์...”“อีกนิดคนเก่ง ของลินแน่นมาก”ในที่สุดธีรกฤษก็พาตัวตนเข้าไปจนลึกสุดความยาว เขาพ่นลมหายใจออกทางปากเพื่อระบายความเ
เมื่อเดินคุยกันได้พักใหญ่ นลินนาและธีรกฤษก็กลับเข้ามายังบ้านพัก ทั้งสองคนแยกย้ายกันไปอาบน้ำเพื่อชำระล้างความเหนียวเหนอะหนะจากน้ำทะเล นลินนาออกมาจากห้องน้ำในชุดนอนผ้าไหมเนื้อนุ่มสีชมพูอ่อนที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ผมยาวสลวยถูกปล่อยให้ทิ้งตัวลงมาเคลียไหล่ เผยให้เห็นผิวขาวเนียนละเอียด ธีรกฤษออกมาในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำสีเข้ม เปิดเผยแผงอกกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ คิ้วเรียวเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าชุดนอนของเธอช่างบางเบาเสียเหลือเกิน เขาไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเป็นห่วงดี“ไปนั่งข้างนอกกันไหม” ธีรกฤษผายมือไปยังเก้าอี้ริมสระว่ายน้ำที่จัดไว้อย่างสวยงาม มีโต๊ะเตี้ยๆ วางอยู่ตรงกลาง พร้อมขวดไวน์แดงและแก้วไวน์สองใบนลินนาเดินไปนั่งลงข้างเขา สายตาจับจ้องไปยังสระว่ายน้ำส่วนตัวที่ทอดยาวออกไปจรดผืนทะเลเบื้องหน้า แสงจันทร์กระทบผิวน้ำระยิบระยับสวยงามรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในความฝัน“ดื่มไวน์สักหน่อยไหม” ธีรกฤษรินไวน์แดงลงในแก้ว แล้วยื่นให้นลินนานลินนารับแก้วไวน์มาถือไว้ก่อนจะยกจิบเล็กน้อย รสชาติไวน์ที่นุ่มนวลช่วยให้เธอผ่อนคลายมากขึ้น“คืนนี้ดาวสวยจังเลยนะคะ” นลินนาเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงด
สองสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ความสัมพันธ์ของนลินนาและธีรกฤษยังคงดำเนินแบบไร้สถานะแต่กลับเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเข้าใจกันมากขึ้นเรื่อยๆธีรกฤษยังคงโทรศัพท์หานลินนาทุกคืน ชวนไปทานข้าว ดูหนัง หรือแม้แต่เดินเล่นในสวนสาธารณะ บ่อยครั้งที่เขาจะมาส่งเธอที่บ้านและแววตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของเขาก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวและเริ่มรู้สึกกับเขามากกว่าคนรู้จักคืนนี้ก็เหมือนกันกับทุกคืนที่ธีรกฤษโทรศัพท์มาหาเธอหลังจากที่เขาเคลียร์งานทุกอย่างเสร็จแล้ว“ขอโทษนะวันนี้พี่โทรมาดึกเลย”“งานยุ่งเหรอคะ”“ครับ พี่ต้องรีบเคลียร์งานให้เสร็จก่อนหยุดยาว อีกสองวันก็จะถึงวันหยุดแล้วลินให้คำตอบพี่ได้หรือยังล่ะว่าจะไปเที่ยวทะเลกับพี่หรือเปล่า”“เราจะไปกันที่ไหนคะ แล้วต้องค้างด้วยหรือเปล่า”“พี่ว่าจะค้างสองคืนนะ”“ถ้าลินตอบตกลงตอนนี้เราจะหาที่พักทันไหมคะ”“ทันสิ แล้วลินอยากไปที่ไหนล่ะ”“แล้วพี่ธีร์ล่ะคะอยากไปที่ไหน”“พี่ให้ลินเลือกว่าจะไปที่ไหนระหว่าสมัยหรือภูเก็ต” ที่เขาให้ตัวเธอเลือกสองที่เพราะเขามีคนรู้จักเป็นเจ้ารองรีสอร์ตที่นั่นและคงจะมีห้องพักให้เขาแม้ว่าจะเป็นหยุดยาวก็ตาม“พี่จะจองที่พักได้แน่นะคะ” หญิงสาวยัง