นลินนากลับเข้ามาในห้องนอนหลังจากคุยกับป้าสุรีย์อยู่พักใหญ่ หญิงสาวนอนพลิกตัวไปมาบนเตียง เธอพยายามข่มตาให้หลับ แต่ภาพเอกสารที่ไม่ตรงสเปกและคำพูดห้วนๆ ของหัวหน้าก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว เธอรู้สึกเหมือนมีก้อนหินหนักอึ้งทับอยู่ในอก หญิงสาวถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรไปหาเพื่อนสนิท
“นอนหรือยังป่าน”
“ยังเลย เป็นไงบ้างทำงานวันแรกโอเคไหม เจ้านายหล่อหรือเปล่า” ธมนวรรณถามด้วยความอยากรู้
“แหมๆ รีบถามถึงเจ้านายเลยนะ แต่ขอโทษที่คำตอบของฉันต้องทำให้แกผิดหวังนะป่าน เจ้านายของฉันน้ำหนักน่าจะเกินร้อยกิโลได้นะ ยังสนใจอยู่ไหมล่ะ”
“ใครจะสนล่ะ ฉันไม่ได้บลูลี่เรื่องรูปร่างหรอกนะ”
“อือ ฉันรู้ว่าสเปกของแกต้องหล่อขาวตี๋ใช่ไหมล่ะ” นลินนารู้ว่าเพื่อนชอบผู้ชายแบบไหน
“ถูกต้องที่สุด เอาล่ะที่นี่เล่าเรื่องทำงานบ้างสิ เป็นไงบ้างงานหนักไหม”
“ไม่น่ะ วันนี้ก็แค่ศึกษาเอกสารน่ะ มีอะไรมากหรอก” หญิงสาวไม่กล้าเล่าเรื่องที่ตนเองเจอให้เพื่อนฟังเพราะไม่อยากให้เพื่อนเป็นกังวลไปกับตัวเอง
“แล้วเพื่อนร่วมงานล่ะโอเคไหม”
“ก็โอเคนะ ทุกอย่างไปได้ดีเลยล่ะ แล้วแกล่ะป่านไปเริ่มงานที่บริษัทของพ่อหรือยัง”
“ยังเลยตอนนี้กำลังคิดว่าอยากจะเรียนต่อปริญญาโทน่ะ”
“เอาสิ แต่จะเรียนที่เดิมหรือไปเรียนต่างประเทศล่ะ” นลินนาสนับสนุนเพื่อนอย่างเต็มที่
“พ่ออยากให้ไปเรียนที่อังกฤษ”
“ฉันว่ามันดีกับแกมากนะ ถ้าแกจบแล้วไปทำงานที่บริษัทเลยคนอาจจะมองว่าแกก็แค่เด็กจบใหม่ที่ได้เข้าทำงานเพราะพ่อเป็นเจ้าของบริษัท แต่ถ้าแกไปเรียนต่อและได้ทำงานเก็บประสบการณ์จากต่างประเทศเวลากลับมารับตำแหน่งบริหารพนักงานก็คงยอมรับในความสามารถของแก”
“พ่อก็บอกแบบนั้น แต่ถ้าฉันไปเรียนก็คงเหงามาก”
“คนอัธยาศัยดีอย่างแกฉันว่าคงหาเพื่อนที่นั่นได้ไม่ยากและฉันสัญญาเลยว่าจะโทรหาแกบ่อยๆ”
“ฉันจะลองคิดดูอีกทีนะ บางทีอาจเรียนที่เมืองไทยก็ได้”
“ไม่ว่าแกจะเลือกเรียนที่ไหนฉันก็เอาใจช่วยแกเสมอ”
“ขอบใจนะลิน ฉันก็เอาใจช่วยแกเหมือนกันนะ”
นลินนาคุยกับเพื่อนอีกนานเท่าไหร่ก็วางสาย จากนั้นหญิงสาวก็ลุกขึ้นไปหยิบหนังสือนิยายที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงมาอ่าน หวังว่าเรื่องราวในนั้นจะช่วยให้เธอคลายความกังวลและช่วยให้เธอง่วงนอนได้
ขณะที่นลินนากำลังจมดิ่งอยู่กับตัวอักษรแล้วเสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างตัวก็ดังขึ้นมา เธอตกใจเล็กน้อยเพราะไม่ค่อยมีใครโทรหาเธอตอนดึกแบบนี้นอกจากธมนวรรณแต่เธอกับเพื่อนก็เพิ่งคุยกันไปเมื่อครู่
หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูหน้าจอแต่ปรากฏชื่อนั่นเพราะเธอไม่ได้บันทึกไว้ เธอลังเลว่าจะกดรับดีหรือเปล่าแต่เมื่อคิดว่าอาจจะเป็นคนที่บริษัทหญิงสาวก็กดรับทันที
“สวัสดีค่ะ” หญิงสาวทักทายเพียงสั้นๆ เพราะอยากจะรู้ว่าปลายสายคือใครก่อนจะพูดอะไรต่อ
“สวัสดีครับ” เสียงที่ดังขึ้นจากปลายสาย ทำให้นลินนาถึงกับนิ่งไปชั่วขณะ หัวใจของเธอเต้นรัวขึ้นมาทันที
“พี่ธีร์เหรอคะ” นลินนาดีใจและแปลกใจที่เขาโทรมาหาเพราะเธอไม่เคยให้เบอร์โทรศัพท์กับเขา
“ใช่ครับ พี่เองลินนอนหรือยังครับ” ธีรกฤษตอบกลับด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
“ยังค่ะ พี่ธีร์เอาเบอร์ลินมาจากไหนคะ” นลินนาถามตรงๆน้ำเสียงยังคงมีแต่ความดีใจ
“ขอมาจากน้าสมรครับ” ธีรกฤษตอบไปตามตรงและกว่าจะเบอร์โทรศัพท์ของเธอเขาก็ต้องคิดหาเหตุผลอยู่นานแต่สุดท้ายก็ยอมบอกน้าสมรไปตามตรงว่าเขาสนใจนลินนาและอยากจะคุยต่อ พอน้าสมรรู้ก็เชียร์เขาอย่างออกหน้าเพราะเธอเองก็ถูกชะตากับนลินนาอยู่มาก
“พี่ธีร์มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ” เธอคิดว่าถ้าไม่ธุระอะไรเขาคงไม่โทรหาเธอในเวลานี้แน่นอน
“ไม่มีธุระหรอกพี่ก็แค่อยากโทรมาถามว่าวันแรกของการทำงานเป็นยังไงบ้าง” ธีรกฤษถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่นและห่วงใย ซึ่งผิดวิสัยจากนักธุรกิจหนุ่มมาดขรึมอย่างเขา ที่ปกติจะให้ความสำคัญกับเรื่องงานมากกว่าเรื่องส่วนตัว
“พี่จำได้เหรอคะว่าวันนี้ลินไปทำงานวันแรก” เธอเล่าให้เขาฟังเมื่อครั้งก่อนตอนที่เขาขับรถมาส่งที่บ้านแต่ไม่คิดว่าเขาจะจำได้เพราะมันเป็นแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น
“พี่จำได้ แล้วทำงานวันแรกเป็นยังไงบ้าง” เขาถามซ้ำอีกครั้ง
นลินนาเงียบไปชั่วขณะ เธอไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี จะบอกความจริงเรื่องที่เจอความผิดปกติในบริษัทดีไหม หรือจะโกหกเหมือนที่โกหกป้าไปแล้ว
“ก็ดีค่ะพี่ธีร์ เพื่อนร่วมงานน่ารัก หัวหน้าก็โอเคเลยค่ะ” หญิงสาวตัดสินใจเลือกที่จะโกหกออกไป น้ำเสียงเธอพยายามทำให้ฟังดูร่าเริงที่สุดเท่าที่จะทำได้
“พี่รู้ว่าวันแรกของการทำงานมันก็อาจจะดูวุ่นๆ หน่อย แต่เชื่อเถอะครับ เดี๋ยวก็ปรับตัวได้” น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนจนนลินนารู้สึกสบายใจที่ได้คุยกับเขา
“ค่ะ ลินก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะคะ” นลินนาตอบรับ ความรู้สึกอึดอัดใจเริ่มเข้ามาเกาะกุมอีกครั้ง แต่เธอก็พยายามสะบัดมันทิ้งไป
“พี่กินคุกกี้ที่ทำมาให้แล้ว”
“เป็นไงบ้างคะอร่อยไหม” เธอถามกลับด้วยความตื่นเต้นและลุ้นกับคำตอบของธีรกฤษ
“อร่อยมากเลยล่ะ น้าสมรก็บอกว่าอร่อย”
“จริงเหรอคะ ถ้างั้นลินจะทำไปให้อีกดีไหม”
“เอาตรงๆ นะพี่เกรงใจเพราะตอนนี้ลินก็ไปเริ่มทำงานแล้ว ถ้ายังต้องทำคุกกี้มาให้พี่ก็คงจะเหนื่อย”
“ก็ทำวันหยุดได้นี่คะ ถ้าลินทำแล้วจะเอาไปให้ที่บ้านนะคะ”
“ให้พี่ไปเอาที่บ้านก็ได้นะ” เขาอยากหาโอกาสได้ใกล้ชิดกับนลินนาและคิดว่าการเข้าไปในบ้านของเธอจะทำให้ได้รู้จักกับเธอมากขึ้น
“ไม่ได้นะคะ” หญิงสาวรีบห้าม
“ทำไมล่ะ มีอะไรหรือเปล่า”
“ลินไม่อยากให้พี่ธีร์เจอกับป้าของลิน”
“บอกได้ไหมว่าเพราะอะไร”
“ป้าไม่รู้เรื่องที่ลินเมาแล้วไปนอนที่เบาะหลังรถของพี่ธีร์ค่ะ”
“พี่เข้าใจแล้ว เรื่องนั้นมันเป็นความลับใช่ไหม”
“ค่ะ มีแค่ลิน พี่ธีร์และน้าสมรที่รู้เรื่อง”
“พี่ขอโทษนะลิน” เมื่อเธอบอกว่าเป็นความลับเขาก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันทีเพราะเผลอไปเล่าเรื่องนั้นให้เพื่อนสนิทฟังไปแล้ว
“ขอโทษเรื่องอะไรคะ”
“ก็พี่เล่าเรื่องลินให้เพื่อนฟังไปแล้วสองคน แต่ลินมั่นใจได้เลยว่าเพื่อนพี่ไม่เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟังแน่” ธีรกฤษรีบบอกเพื่ออยากให้นลินนาสบายใจ
“น่าอายมากใช่ไหมคะเพื่อนพี่ก็คงหัวเราะกันสนุกไปเลยใช่ไหม” เธอรู้สึกผิดหวังที่เขาเอาเรื่องน่าอายของเธอไปเล่าให้คนอื่นฟัง
“ไม่เลย เพื่อนพี่เข้าใจดี คนเราเวลาเมาก็ทำอะไรไปโดยที่มีรู้ตัว แค่ขึ้นรถผิดคันมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เพื่อนพี่มันยังเคยเมาแล้วบอกให้แท็กซี่ไปส่งที่บ้านของแฟนเก่าทั้งที่เลิกกันมาหลายเดือนแล้ว"
“พี่ธีร์กำลังพูดให้ลินสบายใจใช่ไหม”
“พี่พูดจริงไม่เชื่อลองมาถามเพื่อนพี่เองสิ แล้วลินจะรู้ว่าเรื่องที่ลินทำนั้นมันไม่ได้น่าอายเลย”
“ลินจะเชื่อพี่ก็ได้ค่ะ”
“พี่กวนเวลาลินมานานแล้วแต่ก่อนจะวางพี่ว่าจะถามอะไรอีกอย่าง”
“ถามอะไรคะ”
“ลินทำงานแผนกอะไรครับ” เขาถามกลับมาเข้าเรื่องงานอีกครั้ง
“แผนกจัดซื้อค่ะ ดูแลเรื่องเอกสารการสั่งซื้อประสานงานกับซัพพลายเออร์ค่ะ” เธอตอบสั้นๆ ไม่ได้ลงรายละเอียดลึกถึงความผิดปกติที่เธอเจอ
“ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยได้ก็บอกนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ
“ขอบคุณมากนะคะพี่ธีร์” เธอรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกที่ธีรกฤษยังคงเป็นห่วงและพร้อมที่จะช่วยเหลือเธอ
นลินนารู้สึกสบายใจขึ้นอย่างประหลาดเมื่อได้คุยกับธีรกฤษ เขามีบุคลิกที่แตกต่างจากที่เธอคิดไว้มาก จากที่ดูเป็นคนเย็นชาและเคร่งขรึม แต่เมื่อได้คุยกันจริงๆ เขากลับเป็นคนอบอุ่นและมีอารมณ์ขันเล็กน้อย
“งั้นพี่ไม่กวนลินแล้วนะครับ พักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้จะได้มีแรงไปทำงาน”
“ค่ะพี่ธีร์ ขอบคุณมากนะคะที่โทรมา” นลินนาตอบด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลายขึ้นมาก
“ไม่เป็นไรครับ ฝันดีนะครับลิน” ธีรกฤษกล่าวลา
“ฝันดีค่ะพี่ธีร์” นลินนากล่าวตอบก่อนที่ธีรกฤษจะวางสายไป
หญิงสาวสัมผัสได้ถึงความห่วงใยที่เขามีให้ เธอรู้สึกดีอย่างประหลาด การได้คุยกับเขาทำให้ความเครียดที่สะสมมาทั้งวันคลายลงไปได้บ้าง แม้ปัญหาเรื่องงานยังคงอยู่ แต่การได้คุยกับธีรกฤษก็ทำให้เธอรู้สึกว่าอย่างน้อย เธอก็ยังมีใครบางคนที่คอยห่วงใยอยู่
บ่ายวันเสาร์นลินนาเริ่มทำอาหารเย็นด้วยความตั้งใจเพราะวันนี้หญิงสาวเชิญธีรกฤษมาทานอาหารที่บ้าน“ดูหลานสาวของป้าจะตั้งใจทำกับข้าวมากๆ เลยนะ ตกลงคบกันเป็นแฟนแล้วใช่ไหม” ป้าสุรีย์เห็นหญิงสาวตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารแล้วดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ“ยังหรอกค่ะป้า แต่เราก็คุยกันเรื่อยๆ” เธอเองก็อยากให้ทุกอย่างมันชัดเจนแต่เมื่อผู้ชายไม่พูดเธอก็ไม่กล้าจะถาม บางที่ความรู้สึกของธีรกฤษที่มีต่อเธออาจจะน้อยกว่าความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขา แต่นลินนาก็ทำใจไว้ระดับหนึ่งแล้วว่าเธอกับเขาอาจจะคบกันไปเรื่อยๆ ไม่ต้องมีสถานะแต่มีแค่กันและกันก็น่าจะมีความสุขมากพอแล้ว“แล้วลินคิดยังไงกับเขาล่ะ ชอบเขาใช่ไหม”“ค่ะป้าสุ แต่เราสองคนไม่เคยคุยกันถึงสถานะ”“แล้วถ้าคบกันไปเรื่อยๆ แล้วเขาไม่ขอเป็นแฟนสักทีจะไม่เสียเวลาเหรอ”“ไม่หรอกค่ะป้า การมีเขาในตอนนี้ลินก็มีความสุขแล้วค่ะ ถ้าวันหนึ่งจะไม่ได้คบกันต่อก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” เธอพูดเพื่อให้ป้าสุรีย์สบายใจ“ที่ป้าถามไม่ได้จะกดดันอะไรหรอกนะ ป้าก็แค่เป็นห่วงลินอายุยังน้อยมีโอกาสเจอคนอีกเยอะ ถ้าให้เวลาเขาเต็มที่แล้วเขายังไม่คิดจะพูดถึงเรื่องขอเป็นแฟนก็ควรถอยออกมา”“ค่ะป้า ลินคิดว่าจะให้เวล
หลังจากกลับจากสมุยนลินนากับธีรกฤษก็ยังคงติดต่อกันอยู่ตลอด ชายหนุ่มไม่ได้ปล่อยให้เรื่องทุจริตในบริษัทของชัยวัฒน์ผ่านไปง่ายๆ เขาตั้งใจจะช่วยนลินนาและเปิดโปงความจริงให้ได้ตลอดหนึ่งสัปดาห์นลินนาใช้ความพยายามอย่างมากในการรวบรวมหลักฐาน หญิงสาวแอบถ่ายรูปเอกสารที่ผิดปกติ บันทึกข้อมูลการสั่งซื้อที่น่าสงสัย และรวบรวมข้อมูลอื่นๆ ที่สามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันการทุจริตได้ เธอต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้คุณมนตรีหรือใครในแผนกจับได้เธอจะส่งข้อมูลทั้งหมดธีรกฤษเมื่อได้หลักฐานมามากพอแล้วธีรกฤษก็นัดเจอกับชัยวัฒน์เพื่อนสนิทของเขาที่ออฟฟิศของชัยวัฒน์เอง บรรยากาศในห้องทำงานของชัยวัฒน์ดูเคร่งเครียดกว่าปกติธีรกฤษนั่งลงตรงข้ามกับชัยวัฒน์ใบหน้าของเขาดูจริงจังและเย็นชาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน“มีอะไรหรือเปล่าวะธีร์ ดูเครียดๆ” ชัยวัฒน์ถามด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อน“นายดูนี่” ธีรกฤษไม่ตอบอะไรเขาวางแท็บเล็ตลงบนโต๊ะ เลื่อนไปตรงหน้าชัยวัฒน์ชัยวัฒน์หยิบแท็บเล็ตขึ้นมาดู ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นภาพถ่ายเอกสารต่างๆ ที่ธีรกฤษรวบรวมมา มันคือหลักฐานการทุจริตในบริษัทของเขาเอง ชัยวัฒน์อ
สายของอีกวันนลินนาลืมตาตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดอบอุ่นของธีรกฤษ เมื่อคืนกว่าเขาจะยอมให้เธอได้พักก็ผ่านนานจนเธอร้องขอ ความรู้สึกสุขสมเมื่อคืนยังติดอยู่ในความทรงจำที่เร่าร้อนและแสนหวาน เธอพลิกตัวหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังหลับใหลอย่างสงบ แววตาของเธอมองเขาด้วยความอ่อนโยนและอบอุ่นนลินนาค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงอย่างเงียบเชียบ ไม่ต้องการรบกวนการนอนของธีรกฤษ เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ จัดการธุระส่วนตัวแล้วออกมาสวมชุดเดรสสายเดี่ยวสีขาวสบายๆ ผมยาวถูกรวบขึ้นอย่างหลวมๆ เผยให้เห็นต้นคอระหง เธอเดินออกมาริมระเบียงสูดและมองวิวทะเลสีครามที่ทอดยาวออกไปสุดลูกหูลูกตาไม่นานนักธีรกฤษก็เดินออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นสบายๆ เขาเดินตรงเข้ามาโอบกอดนลินนาจากด้านหลังซบหน้าลงกับไหล่ของเธออย่างออดอ้อน“ตื่นเช้าจังเลยนะครับลิน” เขาพูดเสียงแหบพร่าจากการเพิ่งตื่นนอน“เช้าที่ไหนคะ นี่มันสิบโมแล้วค่ะ อากาศดีมากเลยนะคะ” นลินนาตอบพลางซบตัวพิงกับอกแกร่งของเขาทั้งสองคนยืนกอดกันอยู่อย่างนั้นพักใหญ่ ปล่อยให้สายลมทะเลพัดผ่าน ก่อนที่ธีรกฤษจะชวนเธอไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของรีสอร์ตตลอดทั้งวันทั้งสองคนใช้เวลาอยู่ที่ร
ธีรกฤษจูบลงไปบนไรผมที่ชื้นไปด้วยเหงื่อ ก่อนที่ปากร้อนจะลากไปบนลำตัวของหญิงสาวด้วยความลุ่มหลง ชายหนุ่มดันเรียวขาให้กว้างขึ้น ตาคมมองดอกไม้สีสวยที่ฉ่ำเยิ้มแล้วกดความเป็นชายลากขึ้นลงจนส่วนปลายชุ่มไปด้วยน้ำหวาน“อื้อ...พี่ธีร์”หญิงสาวส่ายสะโพกเข้าหาอย่างลืมตัว ร่างกายของเธอร้อนรุ่มความต้องการฉายชัดในแววตาอย่างปิดไม่มิด เพราะความต้องการที่มากล้น แต่นั่นก็ทำให้ธีรกฤษพอใจเป็นอย่างมากที่ผู้หญิงของเขาเร่าร้อนแบบนี้“ไม่เกร็งนะแล้วลินจะมีแต่ความสุข”พูดจบชายหนุ่มก็จูบลงมาอีกครั้งขณะที่ท่อนเอ็นร้อนกดเข้าหาความอ่อนนุ่มทีละนิด ธีรกฤษกัดกรามแน่นเมื่อเขาโดนความคับแน่นของนลินนาตอดรัดตั้งแต่เข้าได้เพียงครึ่งทางครั้งนี้เขาไม่ได้เตรียมถุงยางอนามัยมา และมันก็ทำให้เขารู้ว่าการสอดใส่แบบไม่ป้องกันมันเพิ่มความเสียวมากแค่ไหน ธีรกฤษไม่กลัวเรื่องโรคติดต่อเพราะรู้ว่านลินนามีแค่เขาคนเดียว ส่วนเรื่องท้องก็ไม่ปัญหาเพราะเธอบอกเขาเองว่าอีกไม่กี่วันรอบเดือนก็จะมาทุกอย่างมันเลยลงตัวไปหมด“อื้อ...พี่ธีร์...”“อีกนิดคนเก่ง ของลินแน่นมาก”ในที่สุดธีรกฤษก็พาตัวตนเข้าไปจนลึกสุดความยาว เขาพ่นลมหายใจออกทางปากเพื่อระบายความเ
เมื่อเดินคุยกันได้พักใหญ่ นลินนาและธีรกฤษก็กลับเข้ามายังบ้านพัก ทั้งสองคนแยกย้ายกันไปอาบน้ำเพื่อชำระล้างความเหนียวเหนอะหนะจากน้ำทะเล นลินนาออกมาจากห้องน้ำในชุดนอนผ้าไหมเนื้อนุ่มสีชมพูอ่อนที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ผมยาวสลวยถูกปล่อยให้ทิ้งตัวลงมาเคลียไหล่ เผยให้เห็นผิวขาวเนียนละเอียด ธีรกฤษออกมาในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำสีเข้ม เปิดเผยแผงอกกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ คิ้วเรียวเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าชุดนอนของเธอช่างบางเบาเสียเหลือเกิน เขาไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเป็นห่วงดี“ไปนั่งข้างนอกกันไหม” ธีรกฤษผายมือไปยังเก้าอี้ริมสระว่ายน้ำที่จัดไว้อย่างสวยงาม มีโต๊ะเตี้ยๆ วางอยู่ตรงกลาง พร้อมขวดไวน์แดงและแก้วไวน์สองใบนลินนาเดินไปนั่งลงข้างเขา สายตาจับจ้องไปยังสระว่ายน้ำส่วนตัวที่ทอดยาวออกไปจรดผืนทะเลเบื้องหน้า แสงจันทร์กระทบผิวน้ำระยิบระยับสวยงามรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในความฝัน“ดื่มไวน์สักหน่อยไหม” ธีรกฤษรินไวน์แดงลงในแก้ว แล้วยื่นให้นลินนานลินนารับแก้วไวน์มาถือไว้ก่อนจะยกจิบเล็กน้อย รสชาติไวน์ที่นุ่มนวลช่วยให้เธอผ่อนคลายมากขึ้น“คืนนี้ดาวสวยจังเลยนะคะ” นลินนาเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงด
สองสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ความสัมพันธ์ของนลินนาและธีรกฤษยังคงดำเนินแบบไร้สถานะแต่กลับเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเข้าใจกันมากขึ้นเรื่อยๆธีรกฤษยังคงโทรศัพท์หานลินนาทุกคืน ชวนไปทานข้าว ดูหนัง หรือแม้แต่เดินเล่นในสวนสาธารณะ บ่อยครั้งที่เขาจะมาส่งเธอที่บ้านและแววตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของเขาก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวและเริ่มรู้สึกกับเขามากกว่าคนรู้จักคืนนี้ก็เหมือนกันกับทุกคืนที่ธีรกฤษโทรศัพท์มาหาเธอหลังจากที่เขาเคลียร์งานทุกอย่างเสร็จแล้ว“ขอโทษนะวันนี้พี่โทรมาดึกเลย”“งานยุ่งเหรอคะ”“ครับ พี่ต้องรีบเคลียร์งานให้เสร็จก่อนหยุดยาว อีกสองวันก็จะถึงวันหยุดแล้วลินให้คำตอบพี่ได้หรือยังล่ะว่าจะไปเที่ยวทะเลกับพี่หรือเปล่า”“เราจะไปกันที่ไหนคะ แล้วต้องค้างด้วยหรือเปล่า”“พี่ว่าจะค้างสองคืนนะ”“ถ้าลินตอบตกลงตอนนี้เราจะหาที่พักทันไหมคะ”“ทันสิ แล้วลินอยากไปที่ไหนล่ะ”“แล้วพี่ธีร์ล่ะคะอยากไปที่ไหน”“พี่ให้ลินเลือกว่าจะไปที่ไหนระหว่าสมัยหรือภูเก็ต” ที่เขาให้ตัวเธอเลือกสองที่เพราะเขามีคนรู้จักเป็นเจ้ารองรีสอร์ตที่นั่นและคงจะมีห้องพักให้เขาแม้ว่าจะเป็นหยุดยาวก็ตาม“พี่จะจองที่พักได้แน่นะคะ” หญิงสาวยัง