เช้าวันต่อมา
เมื่อคืนพี่ชายของเธอกลับดึก เวลาที่จะเจอกันอีกทีก็บนโต๊ะอาหารตามเดิม และจนป่านนี้เธอก็ยังไม่เห็นหน้าพี่ชายของเธอเลย แต่รถก็ยังจอดอยู่ครบที่โรงจอดรถ
“สงสัยเมื่อคืนคงเมาสิท่า ชิ!”
“อาหารเช้ามาแล้วค่ะ คุณอาริส” ป้านีแม่บ้านรีบเอาอาหารขึ้นมาเสิร์ฟ
“ขอแบบนี้อีกสองชุดนะคะป้านี ลูน่ากับโรสจะมากินข้าวเช้าที่บ้านด้วย”
“ได้ค่ะ”
เธอชวนเพื่อนของเธอมากินข้าวเช้าที่บ้าน เพราะไม่อยากจะพูดจาอะไรกับพี่ชายของเธอมาก เดี๋ยวก็ตั้งกฎบ้าบออะไรกับเธอขึ้นมาอีก
“มาแล้วค่ะเพื่อน”
“มาเลยรีบกิน เราต้องเข้ากิจกรรมรับน้องกันแต่เช้า”
ไม่นานป้านีก็เอาอาหารมาเสิร์ฟเพิ่มให้กับคนที่เข้ามาใหม่
“ผมขอแบบนี้ด้วยครับป้านี”
บรู๊คมองจานสเต็กที่สามสาวกำลังกินอยู่ มันทั้งหอมและน่ากินจนเขาต้องสั่งแม่บ้านทำให้เขาเพิ่มอีกจาน
บรู๊คเดินเข้ามานั่งโดยใส่เสื้อช็อปสีแดงสด พร้อมกลิ่นน้ำหอมที่เป็นเอกลักษณ์ และจัดทรงผมด้วยเจลแข็ง อย่างหล่อจนเพื่อนของน้องสาวมองด้วยความตะลึง
“พี่บรู๊คใส่เสื้อช็อปแล้วดูเท่ห์จังเลยนะคะ” โรสพูดขึ้นเหมือนตกอยู่ในภวังค์จนบรู๊คต้องส่งยิ้มหวานไปให้
“เท่ห์บ้าอะไรล่ะ....เลวจะตาย” อาริสกระซิบบอกเพื่อน แต่บรู๊คก็พอจะได้ยิน
“เออ! เลว...พวกเธอก็อย่าเข้าใกล้ไอ้พวกที่ใส่เสื้อช็อปอย่างพี่ด้วยก็แล้วกัน”
“ทำไมล่ะคะ?” โรสถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ก็ทั้งเลว ทั้งยกพวกตีกัน และก็ชอบหักอกผู้หญิงนะสิ ถ้าไม่อยากเสียใจอย่าเข้าใกล้”
บรู๊คพูดนิสัยของเขาออกไปตรงๆ และพยายามเตือนน้องสาวอย่างอ้อมๆ
“เข้าใจที่พี่พูดไหม?”
“เข้าใจค่ะ” เป็นลูน่ากับโรสที่ตอบส่วนน้องสาวของเขาก็ยังนั่งหน้านิ่งออกอาการเฉยๆ
“ยัยอาริส ไม่ได้ยินหรือไง?”
“ได้ยินแล้ว” เธอตอบพี่ชายของเธอที่พยายามจะเค้นคำตอบ เธอตอบส่งๆ ไปอย่างนั้นแต่จะทำตามไหมมันก็อีกเรื่องนึงนะ อาริสคิดในใจ
@ตึกวิศวะ
“ไอ้สัส เข้ารับน้องด้วยล่ะพวกมึง” โจอี้เดินมาบอกมาร์ตินกับอีธานที่นั่งเล่นกีต้าร์อยู่ที่โต๊ะม้าหินของตึกคณะวิศวะฯ
“เออ! เดี๋ยวพวกกูตามไป”
“ลูกพี่ครับ ผมเดินไปส่องเด็กคณะนิเทศมา ปีนี้แจ่มๆ ทั้งนั้นเลยครับ”
“จริงเหรอวะ?” โจอี้ที่กำลังจะเดินออกไปถึงขั้นหันหลังกลับมาหาต้นเสียง
คณะนิเทศของมหาลัยเขาขึ้นชื่อเรื่องหน้าตามาก ไม่สวยไม่เก่งจริงๆ คงเข้าที่นี่ไม่ได้ เพราะอาจารย์จะปัดตกตั้งแต่ตอนสอบสัมภาษณ์
“สวยสิครับลูกพี่ อาจารย์คณะนั้นเขาคัดหน้าตาจะตาย”
“ต้องไปดูซะหน่อยแล้วมั้ง” โจอี้พูดขึ้น
“แล้วมึงไม่ไปรับน้องของมึงแล้วเหรอไอ้โจ” อีธานถามเขาอย่างเย้ยหยัน
“ให้พวกไอ้แม็กจัดการไปก่อน เดี๋ยวค่อยตามไป”
เขาทั้ง 4 คน เดินออกจากคณะเพื่อไปส่องสาวตามที่รุ่นน้องของเขารายงานมา ตอนนี้ทั้ง โจอี้ ดิว มาร์ติน อีธาน นั่งอยู่ที่อัฒจันทร์สนามบอลของคณะนิเทศ โดยมีน้องปี 1 มานั่งรวมกลุ่มอยู่กลางสนามบอล
“แม่คุณเอ๊ยอยากไปกลางร่มให้จัง”
“กลางทำไมวะ ไอ้ดิว?”
“ก็แดดออกแล้วไงครับลูกพี่ กลัวผิวน้องเขาจะเสียจัง”
ดิวพูดและมองไปที่สาวสวยที่ยืนรวมกลุ่มอยู่ตรงกลาง
Rrrrrr
“อาริสถึงไหนกันแล้ว รุ่นพี่เรียกรวมตัวแล้วนะ”
เติ้ลเดินเข้ามาที่ลานกิจกรรมรับน้องของคณะ และพยายามมองหาทั้งสามสาว แต่ก็ยังไม่เจอพวกเธอเลย เขารีบโทรหาเพราะรุ่นพี่ประกาศเรียกรวมตัวแล้ว
“รถข้างหน้ามันชนกัน ฉันติดอยู่ก่อนทางเข้ามหาลัยอ่ะ”
“เหรอ! ยังไงก็รีบหน่อยนะ รุ่นพี่เขาเรียกแล้ว”
“เราจะรีบไปเติ้ล ขอบใจมาก”
“ทำไมต้องมาชนกันตอนนี้ก็ไม่รู้” ลูน่าพูดออกมาอย่างหงุดหงิด
เสียงกลองรัว และเสียงโทรโข่งดังเรียกน้องปีหนึ่งให้เข้ามารวมกลุ่มที่ลานกิจกรรม พร้อมเสียงเพลงที่รุ่นพี่ปี 2-4 กำลังร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน มันช่างปลุกเร้าอารมณ์เรียกความตื่นเต้นให้กับรุ่นน้องปีหนึ่งเป็นอย่างดี
“มาค่ะน้องๆ เราจะมาจับสายรหัสกันนะคะ”
เติ้ลชะเง้อมองสามสาว ทั้งที่กิจกรรมรับน้องเริ่มขึ้น แต่ก็ไม่เห็นวี่แววที่เธอจะเดินเข้ามาสักที
“ว่าไงพวกมึง ทำไมถึงมานั่งที่คณะกูได้” เลย์นิเทศปี 4 ที่รู้จักพวกเขาเป็นอย่างดี เดินไปทักพวกเขาที่นั่งอยู่ตรงอัฒจันทร์ใกล้ๆ เขาทักพวกนี้ไปอย่างนั้น เพราะรู้อยู่แล้วว่าพวกมันมาทำไมกัน
“เออ!” อีธานได้แต่พยักหน้าตอบ ส่วนมาร์ตินวางมาดนิ่งยกยิ้มมุมปากเพียงเท่านั้น
“พี่เลย์ รุ่นน้องพี่ปีนี้แจ่มๆ ทั้งนั้นเลยนะครับ”
“ก็แจ่มๆ ทุกปีนั่นแหละ” เลย์นั่งลงข้างๆ และมองไปยังกลุ่มปีหนึ่งที่นั่งกันอยู่ที่สนาม
“พี่ไม่สนใจใครบ้างเหรอครับ” ดิวถามขึ้น
“มองๆ อยู่เหมือนกัน”
“แล้วมึงมานั่งตรงนี้ทำไม ไม่ไปรับน้องของมึงเหรอวะ?” อีธานถามขึ้นอย่างนึกแปลกใจ
“ก็หลานรหัสกูยังไม่มาเลยนะสิ หายไปไหนก็ไม่รู้”
“เร็วๆ พวกแก”
อาริสจอดรถได้ก็รีบสับเท้าวิ่งเข้ามาในลานกิจกรรมรับน้องที่สนามบอลของตึกนิเทศ
แฮ่กๆๆๆ “มาแล้วพวกฉันมาแล้วเติ้ล” อาริสมาถึงก็รีบรายงานตัวกับเติ้ลที่ยืนอยู่ในแถว ก่อนที่ทั้งสองคนจะวิ่งตามมาสมทบ
“เขาจับสายรหัสกันแล้ว”
“เหรอ แล้วพวกฉันล่ะ?”
“พวกพี่เขาจับกันแล้วแต่ไม่รู้พวกเธอได้พี่คนไหน ต้องลองถามดูนะ”
“สามคนนั้นหรือเปล่าครับ หลานรหัสพี่เลย์” ดิวชี้ไปทางคนที่วิ่งมาใหม่
“หึ! มาสายต้องโดนทำโทษ” เลย์พูดทิ้งท้ายก่อนที่จะลุกเดินไปหากลุ่มน้องที่พึ่งเข้ามา
“พี่ครับโคตรสวยเลย เบาๆ นะครับ”
มาร์ตินหันไปมองหญิงสาวสามคนนั้น แต่ก็คุ้นหน้ากับ 1 ในนั้น
“สวยจริงๆ อย่างที่มึงพูดเลยไอ้ดิว กูชอบ” อีธานรีบตอบ
มาร์ตินมองหน้าอีธาน และก็แอบคิด หวังว่าคนที่เพื่อนรักของเขาสนใจคงจะไม่ใช่เมียเด็กของไอ้บรู๊คนะ?
“มึงชอบใครวะ?” เขาแกล้งถาม
“ผมดำยาวถึงกลางหลังคนนั้น”
มาร์ตินนึกโล่งอกที่เพื่อนรักไม่ได้สนใจเมียเด็กของคู่อรินั่น เพราะผมของแม่นั่นแค่เลยบ่ามานิด และก็ออกสีน้ำตาลเข้ม ดีแล้วที่ไม่ไปกินของเหลือจากไอ้บรู๊คมัน
ยัยถั่วงอกนั่นทำไมมาเรียนที่คณะนี้ได้วะ สวยงั้นเหรอ? มาร์ตินได้แต่คิดในใจ
ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาเห็นเธอเป็นเพียงแค่เด็กกะโปโลที่ไอ้บรู๊คมาตามที่คลับของเขาในคืนนั้น
“มึงไม่สนใจสักหน่อยเหรอ? น้องคนนั้นโคตรแจ่ม” อีธานชี้ไปทางยัยถั่วงอกที่เขากำลังนึกถึง
“กูไม่อยากมีเรื่องกับไอ้บรู๊ค ไม่อยากแดกซ้ำมันอีกแล้ว” มาร์ตินกระซิบบอก
“ทำไมวะ?”
“ก็ยัยนั่นมันเป็นเด็กไอ้บรู๊ค วันนั้นมันพึ่งมาตามที่คลับกู”
“อ้าวเหรอวะ!!!” อีธานตกใจเล็กน้อยในสิ่งที่เพื่อนรักบอก ก็โลกมันช่างกลมจริงๆ ที่พวกเขายังต้องวนเวียนอยู่กับคนของคู่อริอย่างไอ้บรู๊ค
….
“น้องที่มาใหม่มาทางนี้เลยครับ” เลย์ทำเสียงเข้ม ทำให้สามสาวถึงขั้นสะดุ้ง
“ซวยแล้ว!!!” โรสหลับตาปี๋
“เชิญเดินออกมาข้างหน้าเลยครับ”
“ขอโทษค่ะ พอดีรถ....” ลูน่าพยายามอธิบาย แต่ก็เหมือนรุ่นพี่สายโหดของเธอไม่คิดจะฟัง
“รหัส 761 รหัสใครครับ”
“หนูเองค่ะ” อาริสรีบยกมือ
“เอาแล้วไง ยัยถั่วงอก โดนไอ้เลย์จัดหนักแน่ๆ” มาร์ตินยกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ
ตอนนี้ทั้ง 3 รู้แล้วว่าสายรหัสของตัวเองคือใคร
“เอาปากกาสีกับจานแป้งมา” เลย์ถามอุปกรณ์ที่เตรียมพร้อมสำหรับทำโทษเบาๆ ในวันนี้
“พี่จะให้พวกเธอวาดรูปหัวใจ ดาว พระจันทร์ แล้วก็หนวดแมวนะ”
“สบายมากค่ะ แค่นี้เอง” อาริสรีบตอบ
“แต่ไม่ได้วาดบนกระดาษนะ”
“ที่ไหนค่ะ”
“บนหน้า”
“หน้า?”
“และก็ไม่ได้ให้ใช้มือ พวกเธอต้องใช้ปากเท่านั้น และต้องทำในเวลาที่กำหนดตอนนี้ไม่ครบคู่ มีเพื่อนคนไหนอาสาจะมาช่วย 3 คนนี้ไหม?”
“ผมครับ” เติ้ลลุกขึ้นยืนและตอบอย่างไม่ลังเล
“อ้าว....เจอฮีโร่แล้ว ตบมือให้เพื่อนหน่อย”
เติ้ลลุกออกมาจากแถวพร้อมเสียงปรบมือ และเสียงกลองรัวดังระงม
“พี่มีเวลาให้ 15 วิ เขียนให้ครบตามที่บอก”
ตอนนี้ทั้ง 4 คน อมปากกาอยู่ในปาก...อาริสจับคู่กับเติ้ล ส่วนลูน่าก็คู่กับโรส
ปรี๊ดดดดด
เสียงนกหวีดดังส่งสัญญาณให้เริ่มเกมส์ ท่ามกลางเสียงร้องเสียงปรบมือเชียร์ของเพื่อนพี่น้องในคณะ
“หมดเวลา” ใบหน้าของทั้ง 4 คน เต็มไปด้วยรอยขีดเขียนอย่างไร้ทิศทาง
“มาดูครับ ได้รูปทรงตามที่พี่บอกไปไหม?”
ใบหน้าสวยมีรอยขีดของปากกาที่ใช้สำหรับเขียนใบหน้า แต่ก็ไม่ได้ลดความสวยน่ารักของพวกเธอลงไปได้เลยสักนิด รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเพื่อนๆ ดังกันอย่างสนุกสนาน
เติ้ลเอาปากกาออกจากปากอาริส และปัดผมที่ปิดหน้าของเธอให้
“ว้าวววววว จิ้นเลยๆ” เสียงเชียร์ของเพื่อนๆ ดังขึ้นที่เห็นเติ้ลดูแลอาริสเป็นพิเศษ
สายตาคมจ้องมองไปยังทั้งคู่ตาเขม็ง โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว
“โห...ไอ้เวรนั่นมันทำคะแนนอยู่หรือเปล่าวะลูกพี่” ดิวหันไปถามโจอี้อย่างนึกโมโห
“หึ! ได้โดนผัวมันกระทืบตายนะสิ!”
“น้องเขามีผัวแล้วเหรอครับลูกพี่?”
“เออดิ!” มาร์ตินตอบ
“อาริสเข้าไปนั่งได้ยังคะ?”
“ยัง! คู่ของน้องยังเขียนรูปไม่ครบ เอาจานแป้งมา”
“เป่าหาหนังยางจนกว่าจะเจอ?”
“ห๊ะ”
“ช่วยกันเป่า ทั้งคู่”
“เริ่ม”
ตอนนี้แป้งฟุ้งไปทั่ว เพราะแรงเป่าจากเขาทั้งสองคน เธอและเติ้ลมีใบหน้าที่ขาวโพรน
“เจอแล้ว อาริสเจอหนังยางแล้ว” อาริสดีใจก่อนที่จะหันมองคนที่อยู่ด้านหน้าและต้องหัวเราะออกมาเสียงดัง
“เติ้ล 555” เธอชี้ไปที่หน้าของเติ้ล และหัวเราะใส่เขาอีกครั้ง
“เธอก็เหมือนกันนั่นแหละ” เติ้ลหยิบมือถือถ่ายรูปเธอ และส่งให้เธอดู
“อุ๊ย!!!!”
“มาถ่ายรูปคู่กันหน่อย”
“จิ้นเลยๆ” เพื่อนๆ ส่งเสียงเชียร์อีกครั้ง จนเติ้ลออกอาการเขิน
การกระทำของทั้งคู่อยู่ในสายตาคมที่กำลังจ้องมองอย่างเย้ยหยัน
“เข้าไปนั่งที่ได้แล้วครับ”
ตอนนี้กิจกรรมรับน้องก็เริ่มอย่างเป็นทางการ ต่างคนต่างมาแนะนำตัวและทำความรู้จักกันมากขึ้น
ระหว่างเดินไปที่ลิฟต์ เขาแกล้งโอบเอวเธอตลอดจนเธอรู้สึกอึดอัด มันไม่ดีแน่ถ้ามีผู้ใหญ่เดินผ่านมาเห็น จะหาว่าเธอใจง่ายพึ่งได้กับเขา และเดินออกมาจากห้อง “ปล่อยอาริสได้แล้ว เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า” “ทำไมเธอกลัวใครเข้าใจผิดอย่างนั้นเหรอ?” “มันไม่ใช่แบบนั้น เราใส่ชุดนักศึกษากันทั้งคู่นะคะ มันไม่เหมาะ” เขาปล่อยกอดออกยักคิ้วให้กับยัยหน้าเก๋หัวโบราณ เขาเดินมาส่งเธอขึ้นรถ ก่อนที่ตัวเองจะเดินกลับไปขึ้นรถสปอร์ตที่อีธานจอดรอไว้ก่อนแล้ว “ยังไงมึง...ได้ไหม?” อีธานเอ่ยแซว “กูแค่จะแกล้งเธอเท่านั้น” มาร์ตินยิ้มร้ายออกมา มาร์ตินกับอีธานตรงไปที่คลับ ส่วนอาริสขึ้นรถได้ก็รีบเร่งกลับบ้านทันที เช้าวันต่อมา วันนี้พวกรุ่นพี่เรียกรวมตัว เพราะจะมีประกาศไปรับน้องนอกสถานที่ “น้องๆ คะ วันพรุ่งนี้เราต้องเดินทางไปรับน้องกันที่ต่างจังหวัด แต่เรามีคณะที่เราจับฉลากได้ไปกับพวกเขาด้วยนะคะ นั่นก็คือ คณะสถาปัตย์” “เฮ้อ...โล่งอกไปที” อาริสถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ ดีที่มันไม่ใช่คณะของคนที่เธออยากจะหนี หลังจากเลิกเรียน มาร์ตินกับอีธา
มาร์ตินรีบเดินเข้ามาที่คณะเพื่อที่จะพรีเซนต์งานตามที่อาจารย์สั่ง “ส่งเธอเรียบร้อยแล้วเหรอวะ?” อีธานกระซิปถาม “เออ” “เธอจะไม่ปากโป้งใช่ไหม?” “กูบอกเธอไปแล้ว” “เชื่อใจได้แค่ไหนวะมึง...ถ้าเธอบอกไอ้บรู๊คเราจะเกมส์กันนะเว้ย” มาร์ตินได้แต่ครุ่นคิดตอนลงจากรถเธอแค่สัญญากับเขาไว้เท่านั้น เขาเห็นใบหน้าไร้เดียงสาของเธอแล้วก็เกิดอาการใจอ่อนนึกว่าไม่มีพิษมีภัยอะไร ลืมนึกถึงคู่อริที่เป็นพี่ชายของเธอไปซะอย่างนั้น เขาคงต้องทำอะไรบางอย่างกับเธอซะแล้วสิ Rrrrr เธอหยิบมือถือที่สั่นเพราะมีข้อความเข้ามาหลายข้อความขึ้นมาเปิดดู มันมีข้อความแปลกๆ ของใครไม่รู้เข้ามาหาเธอ “เลิกเรียนมาหาพี่ที่คณะ” เป็นข้อความที่เพิ่มเพื่อนมาใหม่เธอยังไม่ได้กดรับ ในไลน์ รูปคุ้นๆ จนเธอต้องขยายดู “พี่มาร์ติน...เขามีไลน์ของฉันได้ไง?” เธอบ่นพึมพำ พรางนึกถึงข้อความเชิงบังคับแต่มาเฟียอย่างเขาไม่ยากที่จะหาไลน์ของฉันได้ “วันนี้อาริสต้องกลับบ้าน” เธอส่งข้อความตอบกลับ “อย่าให้ฉันต้องไปหาเธอที่คณะ” เธอเปิดอ่านข้อความชวนขน
เช้าวันต่อมา 07:10 น. ตั้งแต่เมื่อคืนฉันนอนอึดอัดมาตลอดคืน ก็คนบ้าที่เอาแต่ใจทำเรื่องอย่างว่ากับฉันเสร็จก็มานอนกอดฉันเอาไว้แน่น เขาบอกว่าไม่มีแรงกลับห้องของเขา “ปล่อยได้แล้วมันอึดอัด” เสียงหวานพยายามบอกกับคนที่หลับตาพริ้ม เธอมองไปที่ปลายคางของคนกรอบหน้าคม สันจมูกสูงโด่ง “อื้ม....” เขาบิดขี้เกียด และหรี่ตามองฉัน “วันนี้อาริสต้องไปมหาลัยนะ” “ก็ไปอาบน้ำ” เขาพูดพร้อมปล่อยกอดออก “อาริสไม่มีชุดนักศึกษา” “เดี๋ยวหาให้” ฉันดีดตัวออกมาจากผ้านวม พยายามตั้งสติยืนอยู่ที่ปลายเตียงสักพัก ก่อนที่จะเดินไปห้องน้ำ ที่ฉันต้องตั้งหลักอยู่นานเพราะว่าตรงน้องสาวของฉันมันบวมและแสบมากจนก้าวขาเดินไม่ออก ฉันพยายามเดินให้เป็นปกติ เพราะเขากำลังจ้องมองมาที่ฉัน ฉันเข้าไปสำรวจตัวเองในห้องน้ำ ที่ต้นคอของฉันมันมีรอยแดง อยู่สองจุด ก็เมื่อคืนเขาทำมันเอาไว้นะสิ ฉันอาบน้ำเสร็จก็ออกมาในชุดกระโจมอก นั่งเป่าผมอยู่ตรงโต๊ะเครื่องแป้ง เพราะไม่มีเสื้อผ้าและชุดชั้นในที่จะใส่ หวังว่าแม่บ้านของเขาน่าจะเอาชุดอะไรมาให้ฉันใส่ไปก่อน และเขาคงแวะพาฉันซื้อช
ก่อนที่จะไปที่ลูธคลับ อีธานขับพามาร์ติน มาที่คาสิโนหรู เพื่อมาคุยเรื่องหนี้พนันของเสี่ยปืน “ไงมึง?” เมื่อสุชาติเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานที่มีเจ้านายของเขานั่งรออยู่อีธานก็ยิงคำถามกับสุชาติทันที “มันนิ่งครับนาย และมันเหมือนจะให้เอาลูกสาวมันมาขัดดอกให้นายจริงๆ” “เงินสิบล้าน มันไม่ยอมเสีย แต่อยากเสียลูกสาวอย่างนั้นเหรอวะ?” มาร์ตินพูดส่อแววตาโกรธ เขาไม่นึกเลยว่าคนที่รักลูกสาวอย่างเสี่ยปืนจะทำได้ขนาดนี้ “แล้วมึงจะเอามั๊ยลูกเสี่ยปืน” อีธานกระซิบถาม “เอากี่ครั้งถึงจะหมดหนี้วะ?” “ก็เอาไปตลอด...ดูท่าทางเสี่ยปืนอยากได้มึงเป็นลูกเขยนะ อีกอย่างลูกสาวเสี่ยแม่งก็โคตรสวย มึงไม่สนหน่อยเหรอวะ?” “หึ!” มาร์ตินหัวเราะในลำคอเขาไม่เคยปฏิเสธสาวสวยที่เข้าหา กับชอบทำเรื่องอย่างว่าซะด้วยซ้ำ และคืนนั้นเขาเกือบจะได้ลูกสาวเสี่ยปืนอยู่แล้วเชียว แต่ดันไปนึกถึงหน้ายัยเด็กนั่น คนที่เขาเปิดซิงไปเมื่อคืนนะสิ เธอทำให้เขาหมดอารมณ์ไปซะดื้อๆ “มึงลองไปเจรจากับมันอีกที ถ้ากูไม่ต้องการลูกสาวมัน มันจะใช้หนี้ให้กูได้เมื่อไร? ได้ข่าวว่าที่ดินมันเยอะไม่ใช่
บนโต๊ะอาหารคนเดียวที่อาริสจะสนธนาโต้ตอบด้วยก็คือแม่นม เธอไม่แม้นแต่จะอยากมองหน้าคนที่ป่าเถื่อนกับเธอเมื่อคืนเอาซะเลย ในใจตอนนี้มีแต่ความโกรธและเกลียด แววตาที่เธอมองเขาเปลี่ยนไป ไม่ละมุนเหมือนแต่ก่อน “เดี๋ยวแม่ไปดูเด็กๆ ในครัวก่อนนะอีธาน คุณมาร์ติน” “ครับแม่” ทั้งคู่ประสานเสียงกันตอบ เธอถึงขั้นหงอยที่เห็นแม่นมเดินออกไปจากโต๊ะอาหาร หลังจากที่ทานเข้าเสร็จ แม่นมก็เข้าไปทำหน้าที่ของตัวเอง บนโต๊ะอาหารตอนนี้เหลือเพียงเธอกับมาร์ติน และอีธานที่ยังนั่งอยู่ “วันนี้กูต้องทำอะไรบ้างวะ?” มาร์ตินหันไปถามเพื่อนรักที่ควบหน้าที่เลขาจำเป็น “ว่างช่วงเช้า...แต่ตอนเย็นก็คงต้องเข้าไปที่คลับตามเดิม” “แล้วเรื่องหนี้ของเสี่ยปืนมันมาเคลียร์ยังวะ?” “เดี๋ยวกูโทรไปหาไอ้ชาติก่อน” อีธานปลีกตัวลุกออกไปโทรศัพท์ทันที ทิ้งทั้งคู่ให้นั่งอยู่บนโต๊ะอาหาร “จะปล่อยฉันกับบ้านได้หรือยัง?” เธอถามเสียงห้วนให้กับคนที่นั่งเล่นแต่มือถือ ทำให้หางคิ้วเขากระตุก แต่เขาก็เปลี่ยนมาทำเมินไม่สนใจในคำพูดของเธอ “หูหนวกเหรอ หึ?” สายตาคมหันมอ
เซ็กครั้งแรกของเธอ เขาทำมันนานเกินไปแล้วนะ เพราะตอนนี้แสงแดดยามเช้าได้ส่องลอดเข้ามาทางหน้าต่าง แต่เขาก็ยังไม่คิดจะหยุด ปัก ปัก ปัก เสียงที่เปล่งเรียกชื่อเขาดังมาหลายต่อหลายครั้งจนนับครั้งไม่ถ้วนและครั้งนี้ก็เหมือนกัน “กรี๊ดดดดด” เสียงกรี๊ดดังลั่นบ้าน จนมาร์ตินต้องเอามือปิดปากบาง เพราะมันเป็นเวลาเช้าตรู่ เขากลัวแม่นมกับอีธานจะเดินมาได้ยิน “เสร็จแล้ว?” คิ้วหนาเลิกขึ้นถามคนใต้ร่าง และผ่อนจังหวะเอวให้เบาลง “...” หญิงสาวได้แต่นิ่งเธอเงียบเพราะไม่เข้าใจที่เขาถาม ก็ที่เขาทำครั้งนี้มันครั้งแรกของเธอนะสิ จะให้เธอตอบยังไงล่ะ! คนอ่อนประสบการณ์ หรือจะสู้คนเจนจัดอย่างเขาได้ น้ำตาเธอไหลคลอมาที่หางตาทั้งสองข้าง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ “เธอเสร็จแต่ฉันยัง” “ห๊ะ! ว๊าย...” เขาอุ้มร่างบางขึ้น ในท่าเหมือนลิงอุ้มแตง และเสียบท่อนเอ็นขนาด 60+ของเขาเข้าไปอีกครั้ง “พอแล้ว...ฉันไม่ไหวแล้ว” สวบ! อ่ะ..อ๊า..อ้าส์ เสียงห้ามเหมือนเสียงยุ เขาไม่ฟังที่เธอร้องห้ามเลยสักนิด ท่านี้ทำเธอจุกขึ้นมาอีกครั้ง เพราะมันเข้าไปลึกมาก ม