เปลือกตาของดีแลนหลุบลง เขายังไม่พร้อมที่จะมองไปรอบตัว เขากลัวว่าความโกรธของตนเองจะกลับมาอีก หากเขาเห็นอบเชยตอนนี้
อดัมไหวไหล่ “คุณรู้จักกับเธอ”
“อืม” ดีแลนครางตอบ ก่อนจะรีบลืมตาขึ้นเมื่อ…
“เธอสวยดีนะ ผมคิดว่าเธอคงจะฮอตแน่!!”
เสียงเป่าปาก เสียงโห่ฮาของบรรดาผู้ชายวัยฉกรรจ์ดังขึ้นรอบตัว ดีแลนปรือตาขึ้น เขามองหน้าอดัม ก่อนจะมองตามปลายนิ้วที่ชี้ไปบนเวที
ตูม บรึ้ม!
อารมณ์ที่คงที่ของดีแลนพุ่งสูงลิบ ผิวแก้มของเขาร้อนฉ่า เมื่อมองเห็นอบเชยบนเวทียกสูง ชุดที่หล่อนใส่ก็ยังเป็นชุดเดิม ชุดที่ดีแลนแค่นว่ามันไม่ต่างอะไรกับเศษผ้า แถมตอนนี้...อบเชยกำลังเต้น ลีลาของหล่อนดีแลนได้แต่อ้าปากค้าง ดีแลนไม่เคยรู้ อบเชยมีพื้นฐานเรื่องการเต้น หล่อนไปเรียนมาจากไหน ลีลาหล่อนไม่เบาเลยกับการโยกย้าย ส่ายเอวยั่วสายตาผู้ชาย และผู้ชายที่กำลังยืนมองอยู่ชื่นชอบ เมื่อแต่ละคนที่ยืนแหงนหน้ามอง พากันโห่ร้องแทบทั้งนั้น
นี่อบเชยไปหัดเต้นท่าทางแบบนั้นมาจากไหนวะ?!!
ดีแลนควานหาแก้วบรั่นดีมาดื่มแก้กระหาย เขาอ้าปากค้างนานเกินไปจนคอแห้ง ชายหนุ่มดื่มรวดเดียวจนน้ำสีอำพันไม่เหลือติดที่ก้นแก้ว เขาคว้าขวดบรั่นดีมารินเครื่องดื่มให้ตนเองอีกครั้ง สลับกับมองไปที่จุดกึ่งกลางเวที จุดที่อบเชยอยู่ตรงนั้น และกำลังโยกย้ายส่ายเอวด้วยท่วงท่าน่าเกลียด
แก้วบรั่นดีแทบพลัดหลุดมือ น้ำสีอำพันไหลเปียกหน้าขา จนดีแลนสะดุ้ง!
เขาล้วงผ้าเช็ดหน้ามาเช็ด พร้อมกับสบถงึมงำ “#@#!&^%$” มันไม่น่าเป็นภาษามนุษย์ เพราะอดัมฟังไม่ออก เขาไม่เข้าใจว่าหนุ่มหล่อข้างกายของเขาเป็นอะไร นับตั้งแต่ดีแลนก้าวเข้ามาในสกายล์ฮอลล์คลับแห่งนี้ อดัมลืมไปเลยว่าครั้งหนึ่งผู้ชายคนนี้คล้ายกับหุ่นยนต์ ดีแลนแทบไร้ความรู้สึก สีหน้าหนึ่งเดียวของเขา คือหน้านิ่งๆ ที่ไร้ความรู้สึก แต่ที่เขาเห็นนี่ ดีแลนเป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่ง ที่กำลังโกรธจัด เนื่องจากผู้หญิงคนนั้น ทำให้เขาไม่พอใจ
อดัมอมยิ้ม เขากระดิกมือเรียกบริกร ชายผู้นั่นโน้มตัวฟังเสียงกระซิบ เขาส่ายหน้าปฏิเสธแทบทันที
แต่...ธนบัตรปึกนึงถูกยัดใส่มือ เขาก้มลงมอง คำปฏิเสธเหล่านั้นเลยถูกกลืนเก็บไว้ในใจ เขาคงปฏิเสธไม่ลง เพราะจำนวนธนบัตรเหล่านั้น ต่อให้เขาทำงานทั้งเดือนก็ไม่มีวันได้มากเท่านี้ กับงานง่ายๆ ที่เขาทำได้ และเคยทำมาหลายครั้ง เพียงแต่ไม่มีครั้งไหนที่ได้ค่าจ้างงามเท่าครั้งนี้
อดัมดื่มต่อ เขาจับตามองดีแลนตลอดเวลา...ท่าทางของดีแลนเหมือนคนสติหลุด เพียงแต่เขายังควบคุมตัวเองไว้ได้ แต่คงอีกไม่นานหรอก
อบเชยพยายามไม่มองเลยไปยังจุดที่ใครคนหนึ่งนั่งอยู่ สายตาของเขาเหมือนตาของเสือร้าย แววตานั่นทำให้ความมั่นใจของเธอลดทอนลง หญิงสาวพยายามทำหน้าที่ตนเองให้ดีที่สุด เมื่อเธอทำงานหาเงินสุจริต แม้จะน่าอายไปสักนิด กับการอยู่ท่ามกลางวงล้อมของเสือหิว เสียงโห่ฮานั่นไม่ทำให้กำลังใจของเธอหมดลง เท่ากับ...สายตาของคน คนเดียว
ท่ามกลางผู้คนเป็นร้อย เสียงเพลงก็ดังอื้ออึ้งจนหูแทบดับ อบเชยมองเห็นแค่คน คนเดียว
สายตาของเขาเหมือนใบมีดที่กรีดลงบนผิวเนื้อเธอ ดีแลนคงไม่รู้ อบเชยไม่เคยอาย ไม่ว่าจะถูกคนรอบตัวดูแคลนมากแค่ไหน เธอมีความอดทน และต้องพยายามทนให้ได้ แต่เพียงเพราะได้พบเจอกับเขา สายตาของเขากรีดเนื้อเธอเป็นริ้วๆ เลือดในกายไหลชโลม และหากดีแลนยังไม่กลับออกไป ความอดทนของอบเชยคงหมดลงเช่นกัน
เธออยากกลับบ้าน กลับไปนอนร้องไห้เสียให้สาสม
นับจากนี้ไป ความเกลียดชังของเขา คงเพิ่มขึ้น จนเธอไม่อาจลบล้างได้
อบเชยฝืนเต้นต่อ เธอฝืนแม้กระทั่งยิ้ม ตามธรรมดาการเต้นคือสิ่งเดียวที่ทำให้อบเชยรู้สึกดีขึ้น เธอกลายเป็นจุดสนใจจากคนรอบตัว เมื่อสิ่งเดียวที่เธอทำได้ดี คือการปลดปล่อยตัวเองไปกับเสียงเพลง ความสนุกทุกครั้งที่เคยมี ยามได้ยักย้าย ส่ายร่างไปตามทำนองเพลง วันนี้เพียงเพราะดีแลนนั่งอยู่ตรงนั้น อบเชยแทบจะขยับร่างกายไม่ออก แต่หากเพราะมันคืองาน เธอเลยจำเป็นต้องฝืน เต้นตามที่เคยเต้น ไม่มีอารมณ์ร่วมเหมือนทุกครั้ง
ดีแลนกัดฟัดกรอดๆ เขากำแก้วคริสตัสเนื้อดีแทบจะแตกคามือ สายตาคมดุพุ่งตรงไปกลางเวที พร้อมกับเสียงคำรามในลำคอที่ดังเพิ่มขึ้น
บริกรคนเดิมย้อนกลับมา เขายัดซองพลาสติกใสใส่มือของอดัม
ชายหนุ่มอมยิ้ม เขาโบกมือไล่ ชายผู้นั้นจึงถอยออกไปยืนด้านข้างเงียบๆ
ยาเม็ดเล็กๆ แต่อนุภาพของมันร้ายแรงยิ่งนัก อดัมถือโอกาสหย่อนใส่ในแก้วเหล้าของดีแลน เขาหรี่ตามองชายหนุ่มข้างกายดื่มเครื่องดื่มผสมยาบางอย่าง ด้วยแววตาเต้นระริก ดีแลนจะต้องขอบคุณเขา หากเขาฟื้นขึ้นมาในตอนเช้าพร้อมกับของขวัญที่เขาน่าจถูกใจ นี่เป็นของขวัญชิ้นแรกที่อดัมอยากมอบให้ เพื่อช่วยทำให้ดีแลนหายจากความพลุ่งพล่านตอนนี้
เสือผู้หญิงอย่างอดัมรู้ดี ระหว่างหญิง-ชายสองคนนี่ มีอะไรซุกอยู่ในใจแน่ๆ
เขาจะเป็นกามเทพ ช่วยกระเทาะความลับนั่นออกมาเอง
ดีแลนดื่มจัด เขาไม่ได้คุยงานกับอดัมสักคำ และอดัมก็ไม่ได้ท้วง เขาจับตามองจนกระทั่ง...ดีแลนเมาจนครองสติไม่อยู่...
อดัมกระดิกนิ้วเรียกบริกรคนเดิม
ไอ้หนุ่มนั่นรีบถลาเขามารับคำสั่ง พร้อมกับรีบตะครุบธนบัตรปึกใหญ่กว่าเดิมที่อดัมยื่นให้
“หาห้องให้ที และจัดการตามที่สั่งด้วยนะ”
บริกรมีสีหน้าหนักใจ แต่เมื่อคำนวณคร่าวๆ กับจำนวนเงินที่ได้ มันคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม
“ปล่อยๆ ผมไม่เมา!” ดีแลนปรือเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นมอง เขาพยายามขืนตัวไว้ เมื่อมีใครบางคนพยายามพาเขาไปที่อื่น
“คุณเมาแล้วน่าดีแลน ไปนอนเถอะ ผมจัดห้องให้แล้ว” เสียงของอดัมเหมือนอยู่ไกลแสนไกล เสียงนั่นลอยห่างไป และเขาก็ถูกใครบางคนประคองออกมาจากที่เดิม
ดีแลนฝืนมองไปที่เวที แต่ณ. จุดนั้นว่างเปล่า...อบเชยไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว ชายหนุ่มถอนใจแรงๆ แล้วจึงยินยอมให้คนไม่รู้จักพาไปที่ไหนสักที่
ชายหนุ่มทิ้งตัวนอนแผ่ เขาเริ่มดึงทึ้งเสื้อผ้าบนร่างกาย เนื้อตัวร้อนผ่าวและคันยุบยับ ดีแลนนอนกระส่ายกระสับ เขาพลิกตัวไปมา ไม่ว่าจะยังไงก็ข่มตาหลับไม่ลง ความรู้สึกหวามไหวที่เกิดขึ้นทวีเพิ่มขึ้นจนแทบจะกระอัก เสื้อสูทถูกถอดเป็นตัวแรก ตามด้วยกางเกง แม้กระทั่งถุงเท้า บนร่างกายของเขาเหลือแค่ชั้นในสีขาวตัวเดียว ความเย็นของอากาศช่วยทำให้ดีแลนสงบลง เขานอนหายใจแรงๆ แต่ยังไม่หลับ...เหมือนกำลังรออะไรบางอย่าง บางอย่างที่เขาแอบเก็บไว้ในใจมาเกือบสี่ปี...
อบเชยผวาเยือก หลังสิ้นเสียงหวานหวาม ดีแลนแนบเรียวปากร้อนผ่าว เขาบดจูบเบาๆ พยายามที่จะยั้งความรุ่มร้อนในกายเอาไว้ เพราะถึงตนเองกับอบเชยจะผ่านจุดอันตรายกันมาแล้ว แต่ตอนนั้นเขาเมา และจำอะไรไม่ได้เลย ดีแลนไม่รู้ว่าความปรารถนาที่เขายัดเหยียดให้อบเชยจะมากน้อยแค่ไหน เขาอยากจะมอบสิ่งดีๆ ให้ และลบล้างความทรงจำแย่ๆ ความใคร่คือความปรารถนาที่ล้นอก แต่สำหรับดีแลน เขาอยากมอบแต่สิ่งสวยงามให้อบเชย ครั้งนี้เขาจึงอยากแก้ตัวสอนบทรักที่เกิดจากความรัก ไม่ใช่ตัณหา ราคะเท่านั้น ให้อบเชยได้รู้จัก“ขา คุณดี...ชะ เชย”หญิงสาวขานรับเสียงแผ่วปร่า เธอรู้สึกเหมือนใจจะขาด ลมหายใจสะดุด และรู้สึกปั่นป่วนทรมาน“ฉันจะทำให้เชยมีความสุข เรามาล้างความทรงจำเก่าๆ และมีความสุขไปพร้อมกันนะเชย”ดีแลนกระซิบตอบ เขาพรมจุมพิตทั่วแผ่นท้อง ก่อนจะค่อยๆ กระถดตัวลงต่ำ จุดมุ่งหมายคือปลายทางสวรรค์ที่จะช่วยปลดเปลื้องความทรมานให้กับตนเองและอบเชยอบเชยพยักหน้ารับรู้ เธอสูดลมหายใจลึกๆ พยายามทำตัวสบายๆ เธอไม่มีอะไรให้หวาดกลัว เมื่อเธอกับดีแลน มีสิทธิ์ทำแบบนี้ได้ ในฐานะสามี ภ
เพราะเธอกับดีแลนคงเหมือนคนแปลกหน้า หากบังเอิญย้อนกลับมาเจอกันอีกครั้งต่อให้เธอจงรักภักดีกับเขาแค่ไหน เธอก็คงเป็นได้แค่เศษฝุ่นในสายตาของเขา ไม่มีทางเป็นตัวเป็นตนได้เหมือนตอนนี้ หากตอนนั้นเธอฟูมฟาย และแพร่งพรายความลับในใจให้มารดารู้เข้าดีแลนยกมือกรีดรอยน้ำตาที่เอ่อซึมขึ้นมาให้ เขาโน้มตัวจูบซับรอยน้ำตานั่นอีกที ด้วยความอ่อนโยนที่มี หรือเท่าที่ตนเองจะแสดงออกให้คนตัวเล็กได้รู้หัวไหล่บอบบางสั่นระริก อบเชยคงพยายามกลั้นความเสียใจไว้“ฉันขอโทษ บางครั้งผู้ชายก็ขี้ขลาดเกินกว่าจะยอมรับความจริง”ชายหนุ่มกล่าวปลอบขวัญ ทั้งอบเชยและเขา ยังเด็กมากในตอนนั้น เขาโตกว่าก็จริง แต่หากทำอะไรบุ่มบ่ามลงไป วันนี้คงไม่ได้กอดอบเชยไว้แนบอกเช่นนี้ ในวันที่เขาโตพอที่จะรับผิดชอบชีวิตของอบเชยได้ ดีแลนอดทนมากแค่ไหน อบเชยไม่มีวันเข้าใจ“เชยปวดใจทุกครั้ง ทุกครั้งที่สายตาของคุณดี มีแววตาเกลียดเชยเช่นนั้น”ณ.วันนั้น อบเชยชาด้าน ความรักที่มีต่อมารดา คือสิ่งยึดเหนี่ยวเดียวที่ทำให้อบเชยฝืนยิ้มและประคองตัวเองผ่านวันอันเลวร้ายนั่นมาจนได้&ldquo
“เชยไม่สวย ไม่เซ็กซี่ เหมือนที่คุณดีตั้งความหวังไว้เหรอคะ?” หางเสียงสั่นพร่า ที่เข้าใจมาตลอด ดีแลนชอบที่เธอเป็นเธอ แต่เวลานี้เขากำลังเปรียบเทียบเธอกับใคร คู่ควงเก่าๆ ของเขาอย่างนั้นเหรอ? “โอ้ย!! ไม่ใช่อย่างนั้น” ดีแลนรีบกระโจนลงจากเก้าอี้ เดินมาหยุดข้างอบเชย เขาทรุดนั่งบนส้นเท้า เงยหน้ามองหญิงสาวตรงหน้า “ฉันเคยฝันไว้หน่ะ แต่ไม่ได้อย่างฝันก็ช่างมันเถอะ ขอแค่มีเชย ฉันก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว” มันคือความฝันตามประสาผู้ชาย นอนกอดกับคนรู้ใจบนเตียงนุ่มๆ ในบรรยากาศหวานๆ หลังพิธีวิวาห์ “เชยอาจจะดีไม่พอ เหมือนที่คุณดีต้องการนะคะ” ความน้อยใจทำให้อบเชยตัดพ้อต่อ เธอพยายามดึงมือของตัวเอง ออกจากอุ้งมือของอีกฝ่าย “ไปกันใหญ่แล้ว ฉันจะทำให้เชยรู้
หลังพูดออกมา คำพูดเหล่านั้นคือนายเรา ผลสะท้อนของคนกลับกลอก จะไม่มีคนรอบตัวฟังเขาอีก แม้บทสุดท้ายเขาจะพูดความจริง เพราะความเคลือบแคลงฝังอยู่ในความทรงจำเสียแล้ว พูดผิดเพียงครั้งเดียว ก็ลบล้างความเชื่อมั่นของเจ้าของคำพูด ตลอดชีวิต คราใดที่เขาพลาด คนเหล่านั้นก็จะนำคำพูดที่เขาเคยออกปากไว้มาทับถม... “เชยเชื่อคุณดีค่ะ” อบเชยฝืนยิ้ม คนตรงหน้าคือคนที่ตนเองฝากชีวิต หากเธอปล่อยให้ความระแวงเกาะกุมตั้งแต่นาทีแรกของการเริ่มต้น จากนี้ไปคงหาความสุขไม่ได้ สู้ปล่อยอดีตทิ้งไว้เบื้องหลัง ก้าวไปข้างหน้าจับมือคนของเราไว้แน่นๆ อุปสรรคไม่ได้มีแค่นี้ นี่เพิ่งเป็นการเริ่ม ถนนที่เธอกับดีแลนเดิน ยังอีกยาวไกล มือเรียวเล็กสอดวางบนอุ้งมือหนา อบเชยเงยหน้าขึ้นและยิ้มให้ 
“เพราะพ่อ...คือพ่อแกไงอาตี๋” เดวิดตอบแบบไม่ขยายความ ท่านรู้ อบเชยไม่มีทางทำให้บุตรชายของท่านเจ็บตัว หล่อนบูชาดีแลนยิ่งกว่าเทวดาเสียอีก “อบเชย ถ้าลูกแม่ดื้อนัก บอกแม่ก็ได้นะ เดี๋ยวแม่จัดการให้เอง” ปรารถนาพูดสอด ตอนที่บรรจงหลั่งน้ำเย็นชื่นลงบนปลายนิ้วมือของอบเชย “โห!” เสียงครางท้วงดังเบาๆ จากผู้ชายตัวใหญ่ใบหน้าขาวดั่งไข่ปลอก “ทำไม...มีปัญหาเหรอไงดีแลน ลูกหน่ะ ไม่มีใครกล้าขัดใจหรอกนอกจากแม่” นางเปรยเสียงกระซิบ ก่อนจะหลั่งน้ำสังข์บนปลายนิ้วของดีแลน “ไม่มีใครรักผมเลย!” ชายหนุ่มครางเสียงออดๆ เหมือนมอดกัดไม้ผุๆ “เอ่อ...เชยรักคุณดีค่ะ เชยไม่ตีคุณดีแน่” อบเชยกระซิบเสียงอุบอิบ ผิวแก้มร้อนฉ่า&
บทที่20.วันที่ความรักสุกงอมเวลาเคลื่อนมาถึงฤกษ์ดีช่วงเช้า ดีแลนก็ต้องออกไปตั้งขบวนแห่ขันหมากตามประเพณี เขาได้เจอมารดาที่นั่น รวมทั้งบิดาด้วย แต่ก็ยังไม่เห็นอบเชย “แม่อะ ผมเลยไม่ได้เห็นอบเชยเป็นคนแรกเลย” ดีแลนบ่นพึมพำ ตอนที่เดินผ่านประตูบ้านหวังเข้ามา “เดี๋ยวก็ได้เห็นแล้ว อบเชยไม่หนีไปไหนหรอกน่า” ปรารถนากระซิบดุ เริ่มระอากับความรักออกนอกหน้าของบุตรชายเหลือเกิน เดวิดได้แต่หัวเราะ ท่านส่ายหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เมื่อท่านพอจะเข้าใจความคิดของดีแลน สมัยหนุ่ม ท่านเองก็เป็นแบบนี้ ดีแลนใจเต้นตึกตัก เขายืดคอสูงๆ พยายามมองหาอบเชย หญิงหนึ่งเดียวในดวงใจ ณรงค์เดินอยู่ข้างๆ มีอดัม