“หะ อะไร”
อิงดาวสะดุ้งขึ้น ใบหน้ายังคงแดงแจ๋
“นี่ ! อย่าบอกนะว่าเธอหลงเสน่ห์ อาจารย์สุดฮอต ตัวท๊อปของมหาวิทยาลัยไปเรียบร้อยแล้ว”
ใหม่แซวเพื่อนทันที
“ใคร อาจารย์ตัวท๊อป”
อิงดาวถามขึ้นเพราะเธอไม่รู้จริง ๆ ว่าใคร
“ก็ คนเมื่อกี้ไง อาจารย์ธาวิน”
แววตาของใหม่มีประกายวิบวับยามเมื่อเอ่ยถึงอาจารย์หนุ่ม
“อะไร ๆ กันจ๊ะ สาว ๆ ยืนคุยกันแบบนี้ ไม่ทำงานทำการกันหรือจ๊ะ”
ป้านกเคลื่อนย้ายกายที่อวบอ้วนมาที่โต๊ะลงทะเบียน วันนี้ป้านกแต่งตัวใส่สูท แต่งหน้าทำผม เรียกได้ว่าสวยเป๊ะตั้งแต่ศีรษะจนถึงปลายเท้า เพื่อให้เป็นที่สนใจ เพราะในวันอบรมใหญ่มีอาจารย์มากหน้าหลายตา ซึ่งอาจจะมีโอกาสได้ทำความรู้จักคุ้นเคยจนกระทั่งพัฒนาความสัมพันธ์ไปสู่การสละโสดของเธอได้
“ก็ยัยอิงดาวสิพี่นก หลงเสน่ห์อาจารย์ธาวินเข้าแล้ว นั่นแน่ ๆ”
ใหม่ยังคงล้ออิงดาวไม่หยุด
“ไม่ใช่ค่ะ คือ คือว่า หนูเพิ่งรู้ว่าคนที่ช่วยหนูเมื่อวาน คือ อาจารย์ธาวิน หนูก็แค่คิดว่าจะบอกขอบคุณอาจารย์ธาวินอย่างไรดี ก็เท่านั้นค่ะ”
อิงดาวรีบแก้ตัว
“เอ่อ งั้นก็ดีแล้ว ปลื้มอาจารย์เฉย ๆ นะได้ แต่อย่าคิดจริงจังเชียว เพราะอาจารย์ธาวินเป็นถึงรองศาสตราจารย์ อีกไม่นานก็จะได้เป็นศาสตราจารย์ หล่อ เก่ง รวย ต่อให้พวกเธออยากได้เขาแทบตาย เขาก็ไม่แลพวกเธอหรอกย่ะ นี่พี่เตือนด้วยความหวังดีนะ เห็นว่าเป็นน้อง ๆ ในสำนักงาน เรามันก็แค่ลูกจ้าง จะทำอะไรก็เจียมเนื้อเจียมตัวไว้บ้าง”
พี่นกพูดจีบปากจีบคอสั่งสอนน้อง ๆ ในขณะที่ใหม่แอบเหลือบตามองบนให้กับคำพูดเหล่านั้น ส่วนอิงดาวนั้นได้แค่ยืนฟังเงียบ ๆ หัวใจของเธอมันเหมือนถูกบีบให้เจ็บลึก ๆ อย่างไรไม่รู้ เพียงแค่เจออาจารย์ธาวินได้ไม่นาน แต่เขากลับสร้างความปั่นป่วนในหัวใจของเธอได้มากมายนัก
เมื่อพิธีเปิดการอบรมสิ้นสุดลง การอบรมจึงเริ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ วิทยากรมีเนื้อหาการบรรยายอัดแน่นจึงให้พนักงานโรงแรมเข้ามาเสิร์ฟเบรกในห้องบรรยาย ส่วนใครที่อยากออกไปทำธุระส่วนตัวสามารถเดินออกไปได้
พนักงานโรงแรมทยอยนำพายไก่กับกาแฟมาเสิร์ฟตามเก้าอี้ที่มีคนนั่ง อิงดาวสังเกตว่าที่ตำแหน่งเก้าอี้ของอาจารย์ธาวินว่าง แต่เอกสารอาจารย์ยังอยู่ แสดงว่าอาจารย์อาจออกจากห้องประชุมไปทำธุระเพียง ชั่วครู่เดี๋ยวอาจารย์กลับมา
พนักงานคนแล้วคนเล่าเดินผ่านไป ไม่มีใครวางของว่างไว้ที่โต๊ะอาจารย์ธาวินเลย อิงดาวรู้สึกกังวลใจเพราะของว่างจะถูกเสิร์ฟเพียงรอบเดียว จึงรีบเข้าไปสะกิดพนักงานเสิร์ฟว่า
“น้อง ๆ น้องคะ ตรงนี้มีอาจารย์นั่งอยู่ค่ะ รบกวนวางเบรกไว้ตรงนี้ที่หนึ่งนะคะเดี๋ยวอาจารย์กลับมา”
เมื่อได้ยินดังนั้น พนักงานจึงวางเบรกไว้ให้ และไม่นานนักอาจารย์หนุ่มเจ้าของที่นั่งก็เดินกลับมา อิงดาว อดไม่ได้ที่จะแอบมองอาจารย์อีกครั้ง
อาจารย์ธาวินหยิบขนมเข้าปาก เคี้ยวกร้วม ๆ กัดเพียงสามสี่คำพายไก่ก็หมดลงแล้ว ใบหน้าเรียบตึงนั้น เธอแยกไม่ออกว่าพายไก่อร่อยหรืออาจารย์กำลังหิวขนมในจานจึงหมดลงอย่างรวดเร็ว
อิงดาวแอบยิ้มคนเดียว เธอรู้สึกสุขใจที่ได้ทำอะไรเพื่อเขา เป็นการตอบแทนให้อาจารย์บ้าง และเธอก็หมายมั่นไว้ในใจว่าจะหาโอกาสคืนผ้าเช็ดหน้า และบอกขอบคุณเขาสักครั้ง
..........
“เร็ว ๆ จ้า เด็ก ๆ ช่วยกันขนของขึ้นรถ เดี๋ยวเราจะได้กลับกันแล้ว”
พี่นกยืนเท้าสะเอวชี้ไม้ชี้มือสั่งงานน้อง ๆ ในสำนักงานให้ช่วยกันขนอุปกรณ์ที่นำมาจัดฝึกอบรมพัฒนาทักษะนักวิจัย หลังจากงานอบรมได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว
อิงดาวช่วยเพื่อน ๆ ขนของขึ้นรถอย่างขยันขันแข็ง แม้ว่าจะล่วงเลยเวลาเลิกงานมาเกือบ 1 ชั่วโมงแล้ว แต่เธอก็ยังคงอยู่ช่วยงานอบรม จนเสร็จ
“อิงดาว อาทิตย์หน้าพวกพี่ ๆ จะไปจัดงานนิทรรศการแสดงนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยของเราที่มหาลัยเชียงใหม่ เธอไปช่วยพี่จัดงานด้วยนะ เดี๋ยวพี่รายงานหัวหน้าให้”
พี่มุตาหอบม้วนโปสเตอร์ขนาดใหญ่เข้ามาเดินข้าง ๆ อิงดาวขณะที่เธอกำลังขนของไปที่รถ
แม้รูปร่างของอิงดาวจะผอมบาง แต่คาดไม่ถึงว่าจะมีพละกำลังเหลือเฟือ เธอเห็นสาวน้อยคนนี้ช่วยพี่ ๆ ยกของตั้งแต่ของชิ้นเบา ๆ เช่น ลังกระดาษ ไปจนถึงโต๊ะตัวใหญ่ ๆ
อิงดาวเป็นเด็กใหม่ในสำนักงานที่มีความขยันขันแข็ง และมีความตั้งใจทำงานสูงมาก ดังนั้น เธอจึงชวนหญิงสาวไปช่วยกันจัดงานนิทรรศการที่จังหวัดเชียงใหม่
“ได้ค่ะพี่ตา”
อิงดาวตอบพร้อมกับรอยยิ้มด้วยความเต็มใจ
“ดีมากจ้ะ ถ้าน้อง ๆ ในสำนักงานเป็นเหมือนอิงดาวกันทุกคนก็ดีสินะ งานในสำนักงานคงเสร็จเรียบร้อยทุกงานแน่ ๆ”
อิงดาวระบายยิ้มเต็มหน้าน้อมรับคำชมจากพี่มุตาโดยไม่ได้กล่าวอะไรออกมา
หลังจากที่ช่วยกันขนของกลับสำนักงานเรียบร้อยแล้ว ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน ส่วนอิงดาวนั้น เธอเดินลัดเลาะมาตามถนนซีเมนต์ภายในมหาวิทยาลัยเพื่อไปขึ้นรถเมล์ที่หน้ามหาวิทยาลัย
สองเท้าย่ำไปบนฟุตบาทอย่างเร่งรีบ เพราะแสงอาทิตย์ลดน้อยลงเรื่อย ๆ แต่แล้วสายตาของเธอก็เหลือบเห็นก้อนสีดำครึ่งวงกลมก้อนหนึ่งกลางถนน รถวิ่งผ่านไปผ่านอย่างน่าหวาดเสียวจนเกือบจะเหยียบก้อนสีดำนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า
บางสิ่งบางอย่างดึงดูดสายตาอิงดาวให้เพ่งมองก้อนสีดำคล้ายกับก้อนหินครึ่งวงกลมนั้นดี ๆ แล้วเธอก็พบว่า ความจริงแล้วก้อนหินสีดำนั้น เป็นกระดองเต่า ด้านบนเหมือนจะยุบลง และเห็นของเหลวสีแดงไหลอาบลงมา
เธอจึงตระหนักได้ว่ามันเป็นเต่าที่ถูกรถเหยียบแน่ ๆ หญิงสาวจึงมองซ้ายแลขวาเมื่อเห็นว่าถนนไม่มีรถวิ่งมาแล้ว เธอจึงรีบวิ่งเข้าไปอุ้มเจ้าเต่าโชคร้ายตัวนั้นขึ้นมา น้ำหนักของมันประมาณ 1 กิโลกรัม ด้านบนกระดองของมันยุบลงแล้วแตกออกจวนจะแยกออกจากกันเป็นสองซีกคล้ายกับแตงโมผ่าครึ่ง ขาทั้งสี่ข้างของมันตะเกียกตะกายอย่างแสนเจ็บปวดทรมาน อิงดาวจึงลูบที่กระดองของมันเบา ๆ พร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า
“เจ้าเต่าน้อย เจ็บมากหรือเปล่า ทำใจดี ๆ ไว้นะ เดี๋ยวฉันจะพาแกไปหาหมอเอง”
เสียงอ่อนโยนน่าฟังของอิงดาวกำลังปลอบโยนเต่าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อเธอพูดจบ เจ้าเต่าโชคร้ายตัวนั้น ก็มีทีท่าสงบลง หดขาทั้งสี่ข้างเข้าในกระดองราวกับว่ามันเข้าใจในสิ่งที่เธอพูด
สองเท้าของอิงดาวเปลี่ยนทิศทางตรงไปยังคลินิกสัตว์ของมหาวิทยาลัยทันที แทนการมุ่งหน้าไปยังป้ายรถเมล์
ความจริงที่ซ่อนไว้ 8ฉันอาจจะเป็นผู้หญิงคนเดียวในโลกที่ Unlucky in love , Unlucky in gameเมื่อถึงรอบการประเมินเพื่อเลื่อนตำแหน่งจากพนักงานมหาวิทยาลัยระดับฝึกหัดเป็นระดับปฏิบัติการหากผ่านจะมีฐานเงินเดือนที่สูงขึ้น และมีความก้าวหน้าในสายงานอาชีพมากขึ้นปรากฏว่าฉันถูกประเมินว่า “ไม่ผ่าน” ซึ่งหัวหน้าสำนักงาน (พี่ณี) และท่านรองฯ ให้เหตุผลกับฉันว่า...เพราะเธอไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ (คงจะเป็นเมื่อครั้งที่ฉันรั้นจะจัดอบรมนอกมหาวิทยาลัย) มาสาย และบ่นลงเฟสบุ๊คเหตุผลแต่ละข้อที่กล่าวมา ทำให้ฉันหัวเราะทั้งน้ำตาการเลื่อนขั้นขึ้นเงินเดือนไม่ได้ดูที่ผลงานหรืองานที่พัฒนาขึ้น แต่วัดกันที่เหตุผลส่วนบุคคลของคนบางกลุ่ม จนบางครั้ง ฉันรู้สึกหมดแรงกับการทำงานตั้งใจทำงานเพื่ออะไร พัฒนางานไปเพื่ออะไรทำงานให้เสร็จเรียบร้อยเพื่ออะไรเพราะทำไปเงินเดือนก็ไม่ขึ้น ตำแหน่งก็ไม่ได้ สู้เอาแรงกายแรงใจไปนั่งเลียแข้งเลียขาเจ้านายดีกว่าไหมสุดท้าย....ฉันก็ต้องยอมรับกับผลการประเมินที่ไม่เป็นธรรมแต่จะให้เปลี่ยนตนเองเป็นคนเลียแข้งเลียขา หรือเช้าชามเย็นชามก็ไม่ไหวเพราะสิ่งที่ฉันยึดมั่นอยูในใจเสมอมา คือค่าของคนอยู
ความบังเอิญครั้งที่ 4วันนั้น ฉันจัดประชุมคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์กว่าการประชุมจะสิ้นสุดลง ก็กินเวลาจวนเจียนจะบ่ายข้าวเที่ยงยังไม่ตกถึงท้อง น้ำย่อยในกระเพาะมันร่ำร้องให้ฉันพาตนเองไปทานข้าวที่โรงอาหารกลางเมื่อกินข้าวเสร็จก็ลุกขึ้นเพื่อเอาจานไปวางไว้ที่อ่างสำหรับเตรียมล้างนึกไม่ถึงเลยว่าจะเจออาจารย์ A กำลังนั่งทานข้าวอยู่ที่ด้านหลังเขานั่งหันหลังให้ฉันแม้หัวใจมันร่ำร้องอยากจะเข้าไปทักแต่สถานะที่เป็นอยู่ทำให้ฉันต้องข่มใจ แล้วเดินผ่านอาจารย์ไปฉันเดินออกจากโรงอาหารไปด้วยหัวใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวรู้สึกว่ายังไม่พร้อมที่จะขึ้นสำนักงาน จึงแวะที่ร้านกาแฟก่อนระหว่างที่นั่งรอกาแฟนั้น นึกไม่ถึงเลยว่าอาจารย์ A จะมาที่ร้านกาแฟเหมือนกันอาจารย์ A เปิดประตูเข้ามา ใบหน้าเรียบเฉย มองฉันแค่แวบเดียวแล้วมองผ่านเลย เหมือนคนไม่เคยรู้จักกันฉันกลืนก้อนแข็ง ๆ ลงคอในเมื่อเขาไม่อยากรู้จัก เราก็จะไม่ทักเขาให้ต้องระคายเคืองใจเมื่อได้กาแฟแล้ว ฉันก็รีบเดินออกจากร้านทันทีและสิ่งที่ทำให้ฉันตัดใจไม่ได้สักที คือผลจากแผนการที่วางเอาไว้ตั้งแต่ต้นที่ฉันเที่ยวไปประกาศปาว ๆ ว่างานอะไรที่เกี่ยวข้องก
ความจริงที่ซ่อนไว้ 7ยิ่งคุยกัน.....ระยะห่างระหว่างเรายิ่งสั้นลงเรื่อย ๆไม่รู้ทำไม...ทุกครั้งที่จบการสนทนาในแชทบล็อกเราต้องนั่งอมยิ้มคนเดียวแล้วในหัวก็จะมีเรื่องของเขาวนเวียนอยู่ในหัวทันทีที่เริ่มรู้สึกรัก ฉันก็เริ่มรู้สึกเจ็บปวดอกหักทันทีที่รัก เพราะรู้ดีแก่ใจว่า รักครั้งนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ฉันตั้งใจขุดหลุมล่อหลอกอาจารย์ให้ตกลงไปเพื่อใช้อาจารย์เป็นเครื่องมือในการแก้แค้นหัวหน้ากลับกลายเป็นฉันที่ตกลงไปในหลุมเสียเองจนอยากที่จะปีนขึ้นไปในขณะที่ฉันเริ่มรู้ตัวว่าหลงรักอาจารย์จนยากจะตัดใจอาจารย์ก็เริ่มรู้ตัวว่าถูกฉันตามจีบการสนทนากันในแชทจึงเริ่มน้อยลง อาจารย์ A ถามคำตอบคำจนฉันเริ่มรู้ถึงการรักษาระยะห่างของเขาฉันจึงพยายามตัดใจจากเขา เพราะเข้าใจดีว่า ผู้ชายที่เพียบพร้อมทุกอย่าง ไม่มีทางมองผู้หญิงระดับต่ำกว่าแน่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา การศึกษา หรือฐานะดังนั้น ฉันจึงห้ามใจไม่ทักแชทไปอีก และหักดิบโดยการเลิกเป็นเพื่อนกับเขาทาง F******k เพื่อที่จะไม่ต้องรับรู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับเขาอีกแต่ดูเหมือนฟ้าจะยังคงสนุกกับการทรมานหัวใจของฉันยิ่งอยากตัดใจ ก็ยิ่งให้ฉันต้องบังเอิญ
จนกระทั่งรถวิ่งผ่านสวนป่าข้างหนองน้ำ...“ ด้านซ้ายมือ... จะเห็นเครื่องออกกำลังกาย... สำหรับออกกำลังกายตอนเย็นๆ รอบหนองน้ำเป็นทางวิ่ง เขาเรียกกันว่า.... หนอง... หนอง....”อาจารย์ A หันมาสบตาฉันเพื่อขอความช่วยเหลือ...“หนองอิเจมค่ะ”ฉันตอบทันทีอย่างรู้งาน“ทำไมถึงชื่อ หนองอิเจมหรือครับ”วิทยากรสงสัย.......และแล้วอาจารย์ A ก็ได้รับอีก 1 หน้าที่ นั่นคือ นักเล่าประวัติศาสตร์หนองอิเจมของมหาวิทยาลัยจนกระทั่งในที่สุดรถก็เลี้ยวเข้าตึกสำนักงานอธิการบดีที่รถอาจารย์ A จอดไว้เครื่องมือแก้แค้นหัวหน้ากำลังจะลงจากรถแล้ว !ฉันเหลือบมองกระเป๋าอาจารย์ A ที่วางอยู่บนเบาะข้าง ๆสวรรค์ช่างเข้าข้างนัก !ฉันจึงถือกระเป๋าใบนั้นขึ้นมา ในขณะที่อาจารย์ A กำลังไหว้ลาวิทยากร แล้วเปิดประตูลงจากรถ“อาจารย์คะ กระเป๋าค่ะ !”ฉันตะโกนเรียกอาจารย์ พร้อมกับชูกระเป๋าให้ดู“อ๋อ... ขอบคุณครับ”ฉันยื่นกระเป๋าให้.....มือหนึ่งจับด้านข้าง.... อีกมือสอดไว้ใต้กระเป๋าอย่างจงใจ...อาจารย์ A ยื่นมือมารับกระเป๋า...มือนุ่มๆ ยาวเรียวของเขาประกบกับมือเล็ก ๆ ที่ฉันจงใจสอดไว้ใต้กระเป๋าหนังใบโต...Yes !เป็นไปตามแผน !... ฉันลิงโลดในใจ
ความจริงที่ซ่อนไว้ 5และแล้ววันอบรมก็มาถึง !ฉันต้องดีดตัวเองลุกจากที่นอนตั้งแต่ไก่โห่ !แล้วแจ้นไปรับวิทยากรที่สนามบิน !….ส่วนอีกทีมหนึ่งฝากให้น้องนก กับพี่เกด คอยต้อนและรับเหล่าอาจารย์ ที่เข้าร่วมอบรมให้ขึ้นรถบัส แล้วไปสมทบกันที่ รีสอร์ต The best orchid….เริ่มต้นการอบรม เป็นไปอย่างสวยงาม ผู้เข้าร่วมอบรมต่างประทับใจวิทยากรกันยกใหญ่...ทึ่งกับความคิดที่ไม่เหมือนใครทึ่งกับแนวทางการก้าวสู่ “ตำแหน่งศาสตราจารย์” ที่อายุยังน้อยและทึ่งกับฉันที่สามารถขุดค้นศาสตราจารย์ท่านนี้มาได้น้อง ๆ พี่ทีมงานที่มาช่วยจัดอบรมต่างรู้กันดีว่า ฉันกำลังวางแผนจีบอาจารย์ A เพื่อแก้แค้นหัวหน้า ดังนั้น ทุกคนต่างสนับสนุนช่วยเหลือฉันอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็น ช่วยถ่ายรูปอาจารย์ A เอาไว้แทบจะทุกช็อตในระหว่างที่นั่งอบรมกันในห้องประชุมนั้นอาจารย์ A ขอน้ำดื่มเพิ่ม พี่เกดก็มาสะกิดฉันให้ยกน้ำดื่มไปเสิร์ฟอาจารย์แม้กระทั่งตอนพักเที่ยง....ฉันแอบชำเลืองมองไปที่โต๊ะอาหารที่กลุ่มอาจารย์คณะวิศวะฯ นั่งอยู่ เมื่อเห็นว่า กลุ่มอาจารย์กำลังลุกออกจากโต๊ะฉันจึงรวบช้อน รีบกลืนข้าวที่ยังเคี้ยวไม่ละเอียดให้ลงคอ แล้วตามด้วยน้ำ“หนู
ความจริงที่ซ่อนไว้ 41 สัปดาห์ผ่านไป !อาจารย์ท่านอื่นๆ สมัครมาเกือบจะเต็มจำนวนที่เปิดรับแล้วอาจารย์ A ยังไม่ตอบรับมาเลย >เอาไงดี ๆ -ฉันกระวนกระวายในใจ“พี่เกด !” (นามสมมุติ)ฉันร้องเสียงหลง... ทันทีที่เห็นพี่เกดเดินเข้ามาในออฟฟิศ....ยังเช้าตรู่ ทั้งออฟฟิศมีแค่ฉันกับพี่เกด ดังนั้น ฉันจึงโหวกเหวกได้ตามใจ“แวะ ๆ แวะ โต๊ะหนูก่อน”ฉันลากพี่เกดมาที่โต๊ะ“พี่เกด หนูจะเชิญอาจารย์ A ไปอบรมกับหนูแบบเนียน ๆ”“หือ....”พี่เกดลากเสียง ตาวาว เพราะไม่มีใคร ไม่รู้จักความฮอต ของอาจารย์ผู้นั้น“หนูอยากจะทำความรู้จักกับอาจารย์ A ค่ะ”ฉันรีบบอกความต้องการของตนเองไปอย่างตรงไปตรงมา เพราะตอนนี้ความอยากแก้แค้น และเอาคืน มันมีมากกว่าความรู้สึกกระดากอาย“เอาจริง”“จริงแท้ แน่นอน”“เปลี่ยนเป้าหมายใหม่เถอะ ! เขาเป็นถึงตัวท๊อปของคณะวิศวะเลยนะ ! เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์เลยนะคะ”พี่เกดพูดพร้อมกับจะขยับตัวลุกขึ้น แต่คนมือไวคว้าหมับ รั้งไว้“ไม่เปลี่ยนใจค่ะ ! ให้หนูลองดูสักตั้งนะคะ”วินาทีนี้ ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนความตั้งใจของฉันได้ !สุดที่รักของหัวหน้าใช่ไหม ! คอยดู ! แล้วฉันจะสอยลงมาอยู่ในกำมือ