“งั้นเราก็เอาเอกสารนี่ไปส่งที่คณะวิศวะ วันนี้เลยก็ได้ เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อน”
อิงดาวเสนอทางออกที่คิดว่าที่ดีที่สุด เพื่อนสาวจึงหยุดคร่ำครวญแล้วจับมือของเธอเอาไว้
“อิงดาว เอาเอกสารขอทุนไปส่งที่คณะวิศวะ ให้ฉันหน่อยนะ”
ใหม่ขอร้องพร้อมกับส่งสายตาเป็นประกายมาให้เพื่อนสาว
“ใหม่จะให้ฉันไปคนเดียวเหรอ”
คนถูกไหว้วานโพล่งออกมาด้วยความตกใจ แม้ว่าเธอจะทำงานที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้มาได้สามเดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยเหยียบย่างไปที่ตึกของคณะอื่น ๆ เลย
“นะ ๆ อิงดาวนะ พอดีว่าวันนี้ฉันนัดกับแฟนเอาไว้ตอนหกโมงเย็น นี่มันก็สี่โมงครึ่งเกือบจะห้าโมงเย็นแล้ว เดี๋ยวฉันไปไม่ทันนัด ถ้าไปไม่ทันนัด แฟนฉันต้องโกรธแน่ ๆ เธออยากเห็นเพื่อนอกหักหรือไง นะ ๆ อิงดาวนะ ช่วยฉันหน่อยนะ”
ใหม่เขย่าแขนเพื่อน ส่งสายตาขอร้องให้ดูน่าสงสารที่สุด
“กะ... ก็ได้”
อิงดาวตอบรับเสียงเบา เธอไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว หากปฏิเสธก็คงจะใจดำเกินไปหน่อย แค่เอาเอกสารไปส่งให้ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์เท่านั้นเอง และหากมีโอกาสได้พบกับอาจารย์ธาวินก็จะดี เธอจะได้คืนผ้าเช็ดหน้า และบอกขอบคุณเขาเสียที
“ขอบใจมาก”
ใหม่ยิ้มแฉ่ง พร้อมกับยื่นซองน้ำตาลที่ใส่เอกสารขอทุนฉบับสุดท้ายให้กับอิงดาว
ตึกสำนักงานอธิการบดี ที่อิงดาวทำงานตั้งอยู่ที่ส่วนหน้าของมหาวิทยาลัยแต่คณะวิศวกรรมศาสตร์ตั้งอยู่ที่จุดกึ่งกลางของมหาวิทยาลัย ดังนั้น กว่าเธอจะเดินมาถึงคณะวิศวกรรมศาสตร์ก็เย็นมากแล้ว
ท้องฟ้าส่งเสียงร้องคำรามเป็นระยะ ๆ เมฆสีดำลอยต่ำลงเรื่อย ๆ อิงดาวจึงเร่งฝีเท้ามากขึ้น เพื่อที่จะไปส่งเอกสารให้อาจารย์ได้ทันก่อนที่ฝนจะตกลงมา
“ลุงคะ รู้จักอาจารย์ธาวินไหม”
อิงดาวรีบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่นั่งอยู่หน้าตึก EN 6 หรือ ตึกใหญ่ส่วนกลางของคณะวิศวกรรมศาสตร์
ลุงยามหมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนจะตอบออกมาว่า
“รู้จัก ท่านเป็นรองศาสตราจารย์ และยังเป็น ประธานหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ด้วย ถามทำไม มีธุระอะไรกับท่านรองศาสตราจารย์เหรอหนู”
อิงดาวยิ้มเต็มหน้า พร้อมกับถามขึ้นอีกว่า
“กลับไปหรือยังคะ ลุง”
“โอ๊ย ท่านรองฯ ธาวิน ไม่กลับง่าย ๆ หรอก เห็นกลับเย็นทุกวัน วันนี้ก็ยังไม่เห็นลงมาจากตึกเลย”
ลุง รปภ. หน้าตึก EN 6 กล่าวอย่างภาคภูมิใจที่ตนจำทุกคนในตึกได้ รวมถึงรู้ว่าใครเข้าออกตอนไหนเวลาใด เพราะนั่นเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าตนทำหน้าที่เป็นผู้รักษาความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี
“งั้นดีเลย หนูขอฝากเอกสารขอทุนให้หน่อยนะคะ”
อิงดาวยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้ลุง รปภ.
“ทำไมหนูไม่ขึ้นไปเอาให้ท่านรองฯ ธาวินเองล่ะ ห้องพักอาจารย์อยู่ที่ชั้นสี่ นี่เอง”
“หนูเกรงว่าจะสวนทางกับอาจารย์ค่ะ เดี๋ยวจะคาดกันไปมาเปล่า ๆ แต่ถ้าฝากไว้ที่ลุง ลุงนั่งหน้าตึกยังไงก็ต้องเจออาจารย์ที่เข้าออกภายในอาคารนี้ ไม่มีทางคาดกันแน่ ๆ ค่ะ”
“จริงด้วยสิ ได้ เดี๋ยวลุงจะเก็บเอาไว้ให้ท่านรองฯ ธาวินแล้วกัน”
ลุง รปภ. พยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยกับเหตุผลของเธอ
“รบกวน ลุงเอาให้อาจารย์วันนี้เลยนะคะ เพราะเป็นเอกสารสำคัญที่อาจารย์จะต้องส่งด่วนในวันพรุ่งนี้ค่ะ”
อิงดาวกำชับพร้อมกับยื่นซองสีน้ำตาลให้ลุง รปภ. จากนั้น ก็รีบขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เพราะเธอจะต้องเดินกลับไปหน้ามหาวิทยาลัย เพื่อรอขึ้นรถเมล์ไปยังตลาดสด ดังนั้น จึงต้องรีบเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยจะได้ไม่ปวดท้องขึ้นมาระหว่างทาง
หลังจากที่อิงดาวหายลับเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่บริเวณชั้นหนึ่งของตึก EN 6 ไม่นานนักร่างสูงสง่าก็ปรากฏตัวขึ้น เขาแต่งกายด้วยชุดสุภาพ กลีบของเสื้อเชิ้ตยังคงเรียบกริบ เนกไทสีชมพูเข้มยังคงผูกเรียบร้อยในตำแหน่งเดิม ข้างกายเขามีอาจารย์สาวสวยคนหนึ่งในชุดเดรสสีหวาน พร้อมกับกระเป๋าคล้องบนบ่าราคาเรือนแสน
ทั้งคู่เดินคุยกันออกมาจากลิฟต์ ใบหน้าเบิกบาน จนกระทั่ง ลุง รปภ. ส่งเสียงเรียก ทั้งคู่จึงหยุดบทสนทนาอันแสนสุขนั้น
“ท่านรองฯ ธาวิน ครับ”
คนถูกเรียกจึงหยุดฝีเท้าลงที่หน้าโต๊ะ รปภ. จากนั้นสายตาคมกริบภายใต้กรอบแว่นสีดำก็มองมายังคนที่เรียก ใบหน้านิ่งสนิทดุจแผ่นผานั้นทำให้คนถูกเรียกต้องรีบเอ่ยธุระออกมาโดยด่วนว่า
“มีคนฝากเอกสารไว้ให้ท่านครับ”
ลุง รปภ. ยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้รองศาสตราจารย์อย่าง นอบน้อม แม้คนตรงหน้าจะอายุน้อยกว่า แต่บุคลิกเงียบขรึม และตำแหน่งของอีกฝ่ายทำให้เขารู้สึกยำเกรง อาจารย์หนุ่มยื่นมือออกไปรับซองสีน้ำตาลโดยไม่ได้เอ่ยอะไร จากนั้น เขาก็เปิดดูเอกสาร เมื่อเห็นเอกสารดวงตาของเขาก็มีประกายวาววับขึ้น
“เอกสารอะไรหรือคะ ทำไมดูอาจารย์ธาวินตื่นเต้นจัง”
อาจารย์สาวหุ่นเพรียว ที่ยืนกอดอกมองดูเขา ถามขึ้นอย่างแปลกใจ ที่เห็นชายหนุ่มดูจะดีใจจนแทบจะเก็บอาการเอาไว้ไม่ได้
“อ่อ เอกสารขอทุนวิจัยฉบับสุดท้ายที่ผมคิดว่าทำหายไปนะครับ ผมหามันทั้งบ่ายก็ไม่พบ สงสัยผมลืมไว้ที่ไหนสักแห่ง แล้วมีคนเอามาฝากไว้ให้ ดีจริง ๆ พรุ่งนี้จะได้รีบส่งให้กับทางแหล่งทุน”
อาจารย์หนุ่มหันไปอธิบายให้หญิงสาวฟัง พร้อมกับระบายยิ้มซึ่งหาดูได้ยากมาก เพราะหล่อนเป็นคนที่เขากำลังจะสานสัมพันธ์เป็นพิเศษ เขาจึงต้องปฏิบัติกับหล่อนพิเศษกว่าคนอื่น จากนั้นเขาจึงเอ่ยกับลุงว่า
“ขอบคุณคุณลุงมากครับ”
“ด้วยความยินดีครับ”
ลุง รปภ. ยกฝ่ามือขวาจรดที่หางคิ้ว คล้ายกับท่าทางขึงขังของตำรวจ อาจารย์หนุ่มจึงพยักหน้าให้ลุงอีกครั้ง ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกไปจากตึก
“ดูท่าฝนกำลังจะตกแล้วเรารีบไปกันเถอะครับ”
อาจารย์หนุ่มแหงนหน้ามองท้องฟ้า เมฆสีดำก้อนใหญ่แผ่ ปกคลุมทั่วทุกทิศทาง ในขณะที่สาวเท้ามุ่งสู่โรงรถที่อยู่ข้างตึก EN 6
“จริงด้วยค่ะ ถ้าฝนตก รถอาจจะติด เกดต้องไปถึงคลินิกให้ทันก่อนหกโมงเย็นด้วยค่ะ”
หมอเกด หรือแพทย์หญิงเกศรา ปิยะมงคล ตั้งใจไม่เอารถมาเพื่อที่จะได้ขอติดรถเขาไปลงที่คลินิก เธอรู้จักอาจารย์ธาวินเมื่อสองเดือนที่แล้วในงานประชุมวิชาการ เพราะงานวิจัยที่เขาจะทำเกี่ยวข้องกับด้านการแพทย์ เพื่อพัฒนาอุปกรณ์จำแนกเชื้อโรคด้วยเทคนิคประจุไฟฟ้า จึงทำให้เขาและเธอได้มีโอกาสพูดคุยและร่วมงานวิจัยกัน
ความจริงที่ซ่อนไว้ 8ฉันอาจจะเป็นผู้หญิงคนเดียวในโลกที่ Unlucky in love , Unlucky in gameเมื่อถึงรอบการประเมินเพื่อเลื่อนตำแหน่งจากพนักงานมหาวิทยาลัยระดับฝึกหัดเป็นระดับปฏิบัติการหากผ่านจะมีฐานเงินเดือนที่สูงขึ้น และมีความก้าวหน้าในสายงานอาชีพมากขึ้นปรากฏว่าฉันถูกประเมินว่า “ไม่ผ่าน” ซึ่งหัวหน้าสำนักงาน (พี่ณี) และท่านรองฯ ให้เหตุผลกับฉันว่า...เพราะเธอไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ (คงจะเป็นเมื่อครั้งที่ฉันรั้นจะจัดอบรมนอกมหาวิทยาลัย) มาสาย และบ่นลงเฟสบุ๊คเหตุผลแต่ละข้อที่กล่าวมา ทำให้ฉันหัวเราะทั้งน้ำตาการเลื่อนขั้นขึ้นเงินเดือนไม่ได้ดูที่ผลงานหรืองานที่พัฒนาขึ้น แต่วัดกันที่เหตุผลส่วนบุคคลของคนบางกลุ่ม จนบางครั้ง ฉันรู้สึกหมดแรงกับการทำงานตั้งใจทำงานเพื่ออะไร พัฒนางานไปเพื่ออะไรทำงานให้เสร็จเรียบร้อยเพื่ออะไรเพราะทำไปเงินเดือนก็ไม่ขึ้น ตำแหน่งก็ไม่ได้ สู้เอาแรงกายแรงใจไปนั่งเลียแข้งเลียขาเจ้านายดีกว่าไหมสุดท้าย....ฉันก็ต้องยอมรับกับผลการประเมินที่ไม่เป็นธรรมแต่จะให้เปลี่ยนตนเองเป็นคนเลียแข้งเลียขา หรือเช้าชามเย็นชามก็ไม่ไหวเพราะสิ่งที่ฉันยึดมั่นอยูในใจเสมอมา คือค่าของคนอยู
ความบังเอิญครั้งที่ 4วันนั้น ฉันจัดประชุมคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์กว่าการประชุมจะสิ้นสุดลง ก็กินเวลาจวนเจียนจะบ่ายข้าวเที่ยงยังไม่ตกถึงท้อง น้ำย่อยในกระเพาะมันร่ำร้องให้ฉันพาตนเองไปทานข้าวที่โรงอาหารกลางเมื่อกินข้าวเสร็จก็ลุกขึ้นเพื่อเอาจานไปวางไว้ที่อ่างสำหรับเตรียมล้างนึกไม่ถึงเลยว่าจะเจออาจารย์ A กำลังนั่งทานข้าวอยู่ที่ด้านหลังเขานั่งหันหลังให้ฉันแม้หัวใจมันร่ำร้องอยากจะเข้าไปทักแต่สถานะที่เป็นอยู่ทำให้ฉันต้องข่มใจ แล้วเดินผ่านอาจารย์ไปฉันเดินออกจากโรงอาหารไปด้วยหัวใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวรู้สึกว่ายังไม่พร้อมที่จะขึ้นสำนักงาน จึงแวะที่ร้านกาแฟก่อนระหว่างที่นั่งรอกาแฟนั้น นึกไม่ถึงเลยว่าอาจารย์ A จะมาที่ร้านกาแฟเหมือนกันอาจารย์ A เปิดประตูเข้ามา ใบหน้าเรียบเฉย มองฉันแค่แวบเดียวแล้วมองผ่านเลย เหมือนคนไม่เคยรู้จักกันฉันกลืนก้อนแข็ง ๆ ลงคอในเมื่อเขาไม่อยากรู้จัก เราก็จะไม่ทักเขาให้ต้องระคายเคืองใจเมื่อได้กาแฟแล้ว ฉันก็รีบเดินออกจากร้านทันทีและสิ่งที่ทำให้ฉันตัดใจไม่ได้สักที คือผลจากแผนการที่วางเอาไว้ตั้งแต่ต้นที่ฉันเที่ยวไปประกาศปาว ๆ ว่างานอะไรที่เกี่ยวข้องก
ความจริงที่ซ่อนไว้ 7ยิ่งคุยกัน.....ระยะห่างระหว่างเรายิ่งสั้นลงเรื่อย ๆไม่รู้ทำไม...ทุกครั้งที่จบการสนทนาในแชทบล็อกเราต้องนั่งอมยิ้มคนเดียวแล้วในหัวก็จะมีเรื่องของเขาวนเวียนอยู่ในหัวทันทีที่เริ่มรู้สึกรัก ฉันก็เริ่มรู้สึกเจ็บปวดอกหักทันทีที่รัก เพราะรู้ดีแก่ใจว่า รักครั้งนี้ไม่มีทางเป็นไปได้ฉันตั้งใจขุดหลุมล่อหลอกอาจารย์ให้ตกลงไปเพื่อใช้อาจารย์เป็นเครื่องมือในการแก้แค้นหัวหน้ากลับกลายเป็นฉันที่ตกลงไปในหลุมเสียเองจนอยากที่จะปีนขึ้นไปในขณะที่ฉันเริ่มรู้ตัวว่าหลงรักอาจารย์จนยากจะตัดใจอาจารย์ก็เริ่มรู้ตัวว่าถูกฉันตามจีบการสนทนากันในแชทจึงเริ่มน้อยลง อาจารย์ A ถามคำตอบคำจนฉันเริ่มรู้ถึงการรักษาระยะห่างของเขาฉันจึงพยายามตัดใจจากเขา เพราะเข้าใจดีว่า ผู้ชายที่เพียบพร้อมทุกอย่าง ไม่มีทางมองผู้หญิงระดับต่ำกว่าแน่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา การศึกษา หรือฐานะดังนั้น ฉันจึงห้ามใจไม่ทักแชทไปอีก และหักดิบโดยการเลิกเป็นเพื่อนกับเขาทาง F******k เพื่อที่จะไม่ต้องรับรู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับเขาอีกแต่ดูเหมือนฟ้าจะยังคงสนุกกับการทรมานหัวใจของฉันยิ่งอยากตัดใจ ก็ยิ่งให้ฉันต้องบังเอิญ
จนกระทั่งรถวิ่งผ่านสวนป่าข้างหนองน้ำ...“ ด้านซ้ายมือ... จะเห็นเครื่องออกกำลังกาย... สำหรับออกกำลังกายตอนเย็นๆ รอบหนองน้ำเป็นทางวิ่ง เขาเรียกกันว่า.... หนอง... หนอง....”อาจารย์ A หันมาสบตาฉันเพื่อขอความช่วยเหลือ...“หนองอิเจมค่ะ”ฉันตอบทันทีอย่างรู้งาน“ทำไมถึงชื่อ หนองอิเจมหรือครับ”วิทยากรสงสัย.......และแล้วอาจารย์ A ก็ได้รับอีก 1 หน้าที่ นั่นคือ นักเล่าประวัติศาสตร์หนองอิเจมของมหาวิทยาลัยจนกระทั่งในที่สุดรถก็เลี้ยวเข้าตึกสำนักงานอธิการบดีที่รถอาจารย์ A จอดไว้เครื่องมือแก้แค้นหัวหน้ากำลังจะลงจากรถแล้ว !ฉันเหลือบมองกระเป๋าอาจารย์ A ที่วางอยู่บนเบาะข้าง ๆสวรรค์ช่างเข้าข้างนัก !ฉันจึงถือกระเป๋าใบนั้นขึ้นมา ในขณะที่อาจารย์ A กำลังไหว้ลาวิทยากร แล้วเปิดประตูลงจากรถ“อาจารย์คะ กระเป๋าค่ะ !”ฉันตะโกนเรียกอาจารย์ พร้อมกับชูกระเป๋าให้ดู“อ๋อ... ขอบคุณครับ”ฉันยื่นกระเป๋าให้.....มือหนึ่งจับด้านข้าง.... อีกมือสอดไว้ใต้กระเป๋าอย่างจงใจ...อาจารย์ A ยื่นมือมารับกระเป๋า...มือนุ่มๆ ยาวเรียวของเขาประกบกับมือเล็ก ๆ ที่ฉันจงใจสอดไว้ใต้กระเป๋าหนังใบโต...Yes !เป็นไปตามแผน !... ฉันลิงโลดในใจ
ความจริงที่ซ่อนไว้ 5และแล้ววันอบรมก็มาถึง !ฉันต้องดีดตัวเองลุกจากที่นอนตั้งแต่ไก่โห่ !แล้วแจ้นไปรับวิทยากรที่สนามบิน !….ส่วนอีกทีมหนึ่งฝากให้น้องนก กับพี่เกด คอยต้อนและรับเหล่าอาจารย์ ที่เข้าร่วมอบรมให้ขึ้นรถบัส แล้วไปสมทบกันที่ รีสอร์ต The best orchid….เริ่มต้นการอบรม เป็นไปอย่างสวยงาม ผู้เข้าร่วมอบรมต่างประทับใจวิทยากรกันยกใหญ่...ทึ่งกับความคิดที่ไม่เหมือนใครทึ่งกับแนวทางการก้าวสู่ “ตำแหน่งศาสตราจารย์” ที่อายุยังน้อยและทึ่งกับฉันที่สามารถขุดค้นศาสตราจารย์ท่านนี้มาได้น้อง ๆ พี่ทีมงานที่มาช่วยจัดอบรมต่างรู้กันดีว่า ฉันกำลังวางแผนจีบอาจารย์ A เพื่อแก้แค้นหัวหน้า ดังนั้น ทุกคนต่างสนับสนุนช่วยเหลือฉันอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็น ช่วยถ่ายรูปอาจารย์ A เอาไว้แทบจะทุกช็อตในระหว่างที่นั่งอบรมกันในห้องประชุมนั้นอาจารย์ A ขอน้ำดื่มเพิ่ม พี่เกดก็มาสะกิดฉันให้ยกน้ำดื่มไปเสิร์ฟอาจารย์แม้กระทั่งตอนพักเที่ยง....ฉันแอบชำเลืองมองไปที่โต๊ะอาหารที่กลุ่มอาจารย์คณะวิศวะฯ นั่งอยู่ เมื่อเห็นว่า กลุ่มอาจารย์กำลังลุกออกจากโต๊ะฉันจึงรวบช้อน รีบกลืนข้าวที่ยังเคี้ยวไม่ละเอียดให้ลงคอ แล้วตามด้วยน้ำ“หนู
ความจริงที่ซ่อนไว้ 41 สัปดาห์ผ่านไป !อาจารย์ท่านอื่นๆ สมัครมาเกือบจะเต็มจำนวนที่เปิดรับแล้วอาจารย์ A ยังไม่ตอบรับมาเลย >เอาไงดี ๆ -ฉันกระวนกระวายในใจ“พี่เกด !” (นามสมมุติ)ฉันร้องเสียงหลง... ทันทีที่เห็นพี่เกดเดินเข้ามาในออฟฟิศ....ยังเช้าตรู่ ทั้งออฟฟิศมีแค่ฉันกับพี่เกด ดังนั้น ฉันจึงโหวกเหวกได้ตามใจ“แวะ ๆ แวะ โต๊ะหนูก่อน”ฉันลากพี่เกดมาที่โต๊ะ“พี่เกด หนูจะเชิญอาจารย์ A ไปอบรมกับหนูแบบเนียน ๆ”“หือ....”พี่เกดลากเสียง ตาวาว เพราะไม่มีใคร ไม่รู้จักความฮอต ของอาจารย์ผู้นั้น“หนูอยากจะทำความรู้จักกับอาจารย์ A ค่ะ”ฉันรีบบอกความต้องการของตนเองไปอย่างตรงไปตรงมา เพราะตอนนี้ความอยากแก้แค้น และเอาคืน มันมีมากกว่าความรู้สึกกระดากอาย“เอาจริง”“จริงแท้ แน่นอน”“เปลี่ยนเป้าหมายใหม่เถอะ ! เขาเป็นถึงตัวท๊อปของคณะวิศวะเลยนะ ! เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์เลยนะคะ”พี่เกดพูดพร้อมกับจะขยับตัวลุกขึ้น แต่คนมือไวคว้าหมับ รั้งไว้“ไม่เปลี่ยนใจค่ะ ! ให้หนูลองดูสักตั้งนะคะ”วินาทีนี้ ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนความตั้งใจของฉันได้ !สุดที่รักของหัวหน้าใช่ไหม ! คอยดู ! แล้วฉันจะสอยลงมาอยู่ในกำมือ