บทที่ 4 คนที่เธอกลัว
“มองอะไร อยากโดนควักลูกตาเหรอ” โรสที่กำลังอารมณ์เสียหันไปเอาเรื่องคนขับรถของไฟที่กำลังเปิดประตูรถให้เธอ
ไฟหันไปทางหญิงสาวก่อนจะมองชุดที่เธอใส่ เธอใส่ชุดเดรสเกาะอกสีดำอวดเนินอกขาวส่วนความยาวของกระโปรงก็สั้นจนน่าหวาดเสียว “แต่งแบบนี้ไม่ให้คนมองสิแปลก” เขาพูดเบาๆ กับตัวเอง
“นายไม่ต้องไปแล้ว ไปเอารถฉันมา” เขาสั่งคนขับรถก่อนจะลงจากรถแล้วเดินมาหยุดตรงหน้าเธอ “ไม่นึกว่าจะตรงเวลา” โรสหันไปมองคนพูดด้วยความไม่พอใจ
ความจริงเธอก็ไม่ได้อยากไปกับเขานักหรอก เมื่อตอนบ่ายหลังจากกลับมาจากบ้านของเขาเธอก็ไปฟ้องพ่อของเธอเรื่องที่เขาทำทันที แล้วก็ขอเปลี่ยนคนดูแลแต่พ่อเธอไม่ยอมแล้วก็บอกกับเธอว่าถ้าเธอจะไปไหนต้องให้เขาพาไปเท่านั้น และเธอต้องเชื่อฟังเขา
“เชอะ” เธอสะบัดหน้าหนีเพราะไม่อยากคุยด้วย ไม่นานคนขับรถของเขาก็ขับรถมาจอดก่อนจะเอากุญแจรถมาให้เขา
“ถ้าจะไปก็ขึ้นรถ” เขาพูดเสร็จก็เดินไปขึ้นรถฝั่งคนขับไม่แม้แต่จะแสดงความเป็นสุภาพบุรุษเปิดประตูรถให้เธอด้วยซ้ำ
“แอสตัน มาร์ติน แวนควิชซ่ะด้วย เป็นแค่ทนายแต่มีปัญญาขับรถแพงๆ แบบนี้ด้วย ดูท่านายเองก็คงไม่ใช่ทนายที่ดีสักเท่าไร” เธอหันไปพูดกับเขาหลังจากขึ้นมานั่งบนรถแล้ว เขาไม่ได้ตอบโต้อะไรเธอแต่กลับออกรถด้วยความแรงจนหลังเธอกระแทกกับเบาะที่นั่งจนเจ็บ “นี่นายขับรถให้มันดีๆ หน่อยได้มั้ย อุตส่าห์มีปัญญาขับรถแพงๆ ก็ช่วยขับให้มันเหมือนคนหน่อย”
“ถ้าไม่อยากลงจากรถก็รัดเข็มขัดแล้วนั่งไปเงียบๆ” เขาบอกเธอโดยไม่แม้แต่จะหันไปมอง
ใช้เวลาไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงจุดหมาย โรสเดินตามชายหนุ่มขึ้นมาจนถึงชั้นสองของร้านแล้วเข้าไปในห้องวีไอพีที่เขาจองไว้คุยกับลูกความ
“นายนัดเจอลูกความของนายในที่แบบนี้เหรอ มันดูไม่ใช่สถานที่ที่คนดีๆ เขาจะมาคุยเรื่องงานกันเลย” เธอเดินมานั่งข้างๆ เขาก่อนยื่นหน้าไปคุยกับเขาใกล้ๆ “ให้เดานะลูกความของนายคงเป็นพวกพ่อค้ายา หรือไม่ก็พวกลูกคนรวยโดนคดีใช่มั้ย”
“เธอไม่ไปหาเพื่อนเธอเหรอ นัดกับเพื่อนไว้ไม่ใช่หรือไง” เขาหยิบเมนูขึ้นมาดูเพราะไม่อยากสนใจคนข้างๆ แต่เธอก็ยังไม่ยอมหยุดก่อกวนเขา
“นี่ ฉันถามนายจะไม่ตอบฉันหน่อยเหรอ อีกอย่างตอนนี้เพื่อนของฉันก็ยังไม่มีใครมาสักคน นายคุยกับฉันหน่อยสิ” เธอใช้นิ้วกดเมนูที่เขากำลังดูลง เพื่อให้เขาสนใจเธอวันนี้เธออุตส่าห์แต่งหน้าแต่งตัวจัดเต็มเพราะกะจะมายั่วเขาเต็มที่ แต่เขาก็ยังจะเอาแต่เมินเธออยู่ได้
“ข้อมูลของลูกความเป็นความลับฉันไม่สามารถบอกเธอได้ แล้วก็เชิญเธอออกไปได้แล้วอีกเดี๋ยวลูกความฉันก็จะมาถึงแล้ว”
“รีบไล่จัง ฉันขออยู่เจอหน้าลูกความของนายหน่อยไม่ได้หรือไง ฉันอยากเห็นตอนนายทำงานได้มั้ย” เธอขยับตัวเข้ามาใกล้เขามากขึ้นจนหน้าอกของเธอเกือบจะชนกับแขนของเขา แต่เขาก็ยังคงเฉยทำเพียงแค่มองเธอด้วยหางตา
“หึ อยากจะอยู่ก็เชิญ ฉันเตือนเธอแล้วนะ” เขาพูดเสร็จก็หันไปสนใจเมนูต่อก่อนจะเรียกพนักงานเข้ามาแล้วสั่งเครื่องดื่ม
เธออดแปลกใจไม่ได้ที่เขายอมเธอง่ายๆ แต่ยังไม่ทันได้ถามให้หายข้องใจประตูห้องวีไอพีที่ทั้งสองอยู่ก็เปิดออกพร้อมกับลูกความของเขาปรากฏตัวขึ้น แล้วเธอก็ได้รู้เหตุผลที่เขายอมให้เธออยู่ด้วยเขาคิดจะแกล้งเธอชัดๆ เพราะลูกความของเขาคือผู้ชายคนเดียวในโลกใบนี้ที่เธอกลัว
“พี่ธาม” โรสเรียกลูกความของเขาเสียงเบาจนเหมือนกระซิบ
“หึ” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอเบาๆ กับท่าทีของเธอที่พยายามหลบสายตาดุที่ลูกความของเขากำลังส่งมาให้เธอ คุณท่านเคยบอกกับเขาว่ามีคนคนหนึ่งที่ทำให้ลูกสาวของท่านกลัวได้ คนคนนั้นก็คือคุณธามหรือหมอธามลูกพี่ลูกน้องของเธอ
“สวัสดีครับหมอธาม สั่งอะไรดีครับ” เขาลุกขึ้นทักทายหมอธามที่เป็นลูกความของเขาก่อนจะยื่นเมนูให้
“ไม่เป็นไร ผมสั่งแล้ว” หมอธามนั่งลงฝั่งตรงข้ามเขา และยังมองคนที่พยายามใช้ตัวเขาเป็นที่หลบภัยด้วยสายตานิ่ง
“ไม่ต้องหลบหรอก หลบยังไงพี่ก็เห็น” พอหมอธามพูดจบหญิงสาวก็หันมายิ้มทักทายหมอธามด้วยท่าทีที่ต่างจากตอนที่อยู่กับเขาอย่างกับเป็นคนละคน “แต่งตัวได้ดีนี่ แต่งแบบนี้สินะถึงได้มีเรื่องตลอด แต่ช่างเถอะตอนนี้เธอเองก็โตแล้วอยากจะแต่งแบบไหนก็เรื่องของเธอ พี่ไม่ยุ่งหรอก แต่ระวังตัวเองหน่อยก็แล้วกัน” หมอธามทั้งดุแหละเตือนหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง
“ค่ะ” โรสตอบรับคำสั้นๆ ก่อนจะพยามดึงกระโปรงแสนสั้นของเธอลงทั้งๆ ที่มันลงมามากกว่านั้นไม่ได้แล้ว
“แล้วคิดไวหรือยังว่ากลับมาแล้วจะทำอะไร หรือจะอยู่เฉยๆ ไปก่อน” ธามยังคงถามน้องสาวของเขาต่อ
“คิดไว้แล้วค่ะ โรสว่าจะเขาไปช่วยคุณพ่อทำงานที่บริษัท แต่คุณพ่ออยากให้โรสพักก่อนอีกสักเดือนค่อยไปเริ่มงานค่ะ” ทันทีที่ได้ยินคำตอบธามก็ขมวดคิ้วก่อนจะถอนหายใจออกมา
โรสรู้สึกอึดอัดจึงพยามหาข้ออ้างเพื่อจะเลี่ยงออกมา “โรสนัดเพื่อนไว้พี่ธามคุยธุระต่อเถอะนะคะ โรสไม่กวนแล้ว” แต่ดูเหมือนความต้องการของเธอจะไม่เป็นผล เพราะคำพูดของทนายหนุ่มที่นั่งข้างๆ เธอ
“จะรีบไปไหน คุณบอกว่านัดเพื่อนไว้สี่ทุ่มไม่ใช่เหรอ นี้พึ่งจะสองทุ่มกว่าเอง ไปนั่งรอคนเดียวจะไม่เหงาเหรอ นั่งรอในห้องนี้ดีกว่าไหนๆ ก็คนกันเองทั้งนั้น” ไฟพูดพร้อมกับส่งยิ้มใจดีให้ แต่โรสมองออกว่าเขาแค่เล่นละคร
ถ้าตอนนี้คนที่นั่งอยู่ในห้องไม่ใช่พี่ธามพี่ชายที่เธอกลัว เธอกล้าเอาหัวเป็นประกันได้เลยว่าเธอต้องเข้าไปทึ่งหัวเขาแน่ๆ แต่เธอทำแบบนั้นไม่ได้เพราะมีสายตาดุจ้องมองอยู่
“ฉันไม่อยากรบกวนนายนะ ไหนนายบอกว่าข้อมูลของลูกความเป็นความลับไม่ใช่เหรอ มันคงจะไม่ดีหรอกถ้าฉันนั่งฟังด้วย” โรสยังพยายามหาข้ออ้างต่อไป
“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ได้มีข้อมูลสำคัญอะไร” ไฟบอกก่อนจะหันไปถามธามที่นั่งอยู่ตรงข้าม “ให้คุณโรสนั่งรอกับพวกเราได้หรือเปล่าครับ”
“อืม” ธามตอบรับหน้านิ่ง
โรสกลับไปนั่งที่เดิมอย่างขัดใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เธอเลยได้แต่กระซิบคำขู่ให้กับคนที่นั่งข้างๆ เธอ “ฝากไว้ก่อนเถอะ”
ไฟกับธามเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับคดีที่เขาทำ โดยคดีที่ธามให้ชายหนุ่มทำคือคดีฟ้องหมิ่นประมาทที่พวกเกรียนคีย์บอกพิมพ์โจมตีแฟนสาวของเขา ถึงคดีจะไม่มีอะไรยากเพราะความผิดก็แทบจะชัดเจนแล้วก็สามารถเจรจาได้ แต่ที่ยากก็คงเป็นตรงที่ธามต้องการให้ฟ้องทุกคนที่ต่อว่าแฟนสาวของเขาในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง ซึ่งมีจำนวนเยอะมากเพราะแฟนของธามเป็นถึงนักร้องดัง
โรสนั่งฟังทั้งสองคนคุยกันด้วยความรู้เบื่อเพราะเธอไม่เข้าใจเรื่องที่พวกเขาคุยกันเลย เธอเลยได้แต่นั่งเร่งในใจขอให้เวลาผ่านไปเร็วๆ แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครเห็นใจเธอเลยเพราะเวลาผ่านไปช้ามาก กว่าที่เธอจะหลุดพ้นจากห้องนั้นได้
“รู้แบบนี้ไม่น่าตามขึ้นไปเลย” เธอบ่นก่อนจะเดินไปร่วมโต๊ะกับเพื่อนๆ ของเธอที่มาถึงแล้ว
“หวัดดีโรเซ่ที่รัก” เพื่อนเธอลุกขึ้นมากอดทักทายเธอทันทีที่เดินมาถึง
“พวกเราคิดถึงมากเลยรู้มั้ย คิดถึงมากถึงขนาดต้องตามมาหาเธอที่เมืองไทยเลย” เพื่อนอีกคนของเธอที่นั่งอยู่พูด
“เหอะ ที่มานี่เพราะคิดถึงฉันจริงเหรอ หรือคิดถึงอะไรกันแน่” เธอถามอย่างรู้ทัน
“ก็คิดถึงเธอด้วย ส่วนเรื่องอย่างอื่นเป็นของแถม”
“เหรอ ไม่ใช่เรื่องอย่างว่าเป็นเรื่องหลักแล้วฉันเป็นของแถมหรอกเหรอ” เธอพูดแขวะเพื่อนๆอย่างตรงๆ
“เรื่องนั้นก็สำคัญแต่ไม่เท่าเธอหรอก เธอเคยเล่าให้พวกเราฟังเรื่องคนดูแลของเธอที่น่ากินคนนั้นจำได้มั้ย เรียกมาหน่อยได้มั้ยพวกเราอยากเห็น” โรสเบ้ปากให้เพื่อนๆ ของเธอทันที เธอคิดไว้แล้วว่าที่เธอถูกชวนมาต้องเป็นเรื่องผู้ชาย
“ข้างบนนั่นไง ที่ยืนข้างๆ พี่ชายฉัน” โรสชี้เป้าจุดที่ชายหนุ่มอยู่ เพื่อนเธอเลยรีบหันไปมองตรงจุดนั้นทันที แล้วก็ต่างกรี๊ดเพราะความหล่อของชายหนุ่ม
“หล่อ หุ่นน่ากินมากถ้าเธอไม่สนยกให้พวกเรานะ” หนึ่งในเพื่อนเธอรีบเอ่ยปากขอทันที
โรสยิ้มให้เพื่อนคนนั้นก่อนจะตอบ “เชิญ ถ้าเธอมีปัญญาทำให้หมอนั่นไปกับเธอได้ก็ตามสบาย”
“ไม่หวงจริงอ่ะ ว่าแต่ฉันสนพี่ชายเธอมากกว่านะหล่อดุดีสเปกเลยแนะนำให้ฉันหน่อยสิ”
“ไม่”
“ทำไมหวงพี่เหรอ“
“เปล่า ฉันแค่ไม่อยากมีพี่สะใภ้แบบเธอ”
ส่วนทางด้านสองหนุ่มที่คุยธุระเสร็จก็เดินออกมายืนที่ระเบียงเพื่อดูการแสดง วันนี้คนที่ทำการแสดงก็คือลาน่านักร้องสาวที่เป็นแฟนสาวของธาม คนที่ธามให้ไฟช่วยทำคดีให้
“คุณลุงให้นายเป็นคนดูแลยัยเด็กแสบนั้นเหรอ” ธามพูดพร้อมกับมองไปที่โต๊ะที่โรสนั่งอยู่กับเพื่อนๆ
ไฟเองก็มองไปที่จุดนั้นเช่นเดียวกัน ”ครับ”
“ดูเหมือนคุณลุงจะโยนงานที่ยากให้นายเลยนะ”
“ก็พอตัวเหมือนกันครับ”
“ยังไงฉันก็ฝากนายด้วยก็แล้วกัน เด็กนั่นถึงจะแสบแต่ก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ก็แค่ชอบเรียกร้องความสนใจมากไปหน่อยแค่นั้น” หมอธามตบไหล่เขาเบาๆ ก่อนจะเดินลงบันไดไปเพื่อไปรับแฟนสาวที่ทำการแสดงจบลง
“ชอบเรียกร้องความสนใจงั้นเหรอท่าจะจริง” ไฟพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะยืนล้วงกระเป๋าแล้วจ้องหญิงสาวที่อยู่ข้างล่างอย่างไม่ละสายตา
ตอนที่ 44 จบเรื่อง และความจริงเรื่องใหม่เสียงคลื่นกระทบฝั่งเบาๆ ดังสม่ำเสมอ บ่งบอกถึงค่ำคืนที่เงียบสงบไม่ต่างจากหัวใจของชาวบ้านทั้งหมู่บ้าน ที่วันนี้เปี่ยมไปด้วยความหวังอีกครั้ง หลังจากที่ไกรสรถูกจับและทุกอย่างเริ่มคลี่คลายไฟนั่งอยู่หน้าเต็นท์ชั่วคราว ที่พวกชาวบ้านใช้เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมหลักฐานและให้คำปรึกษาทางกฎหมาย เขายังคงสวมผ้าพันแผลที่แขน แม้หมอจะสั่งให้พัก แต่เขากลับเลือกจะใช้เวลาช่วยชาวบ้านยื่นเรื่องฟ้องเพื่อเอาที่ดินคืน“คุณไฟครับ นี่คือรายชื่อเจ้าของที่ดินที่พร้อมจะฟ้องในรอบแรกครับ” ชาวบ้านคนหนึ่งยื่นแฟ้มมาให้ด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม“ดีมากครับ เดี๋ยวผมจะจัดเรียงตามลำดับและแนบคำร้องไว้ให้ทุกคนในวันพรุ่งนี้” ไฟตอบกลับอย่างใจเย็น“ยืนยันตามราคานี้อีกครั้งนะคะ” โรสพูดกับผู้ใหญ่ทองคำ ตัวแทนกลุ่มชาวบ้านที่มาเจรจาในวันนี้ “ฉันจะซื้อที่พวกคุณในราคาที่มากกว่าตลาดกลางร้อยละห้าสิบ…เพราะมันควรค่ากับชีวิตของทุกคนที่ปกป้องมันไว้”ผู้ใหญ่ทองคำยิ้มออกมาอย่างซาบซึ้ง เขาไม่คิดว่าสาวสวยจากกรุงเทพฯ ที่ดูภายนอกเหมือนจะเป็นนักธุรกิจเย็นชา จะพูดคำพูดแบบนี้กับเขา“หนูโรส…ขอบใจแทนทุกคนในหมู่บ้า
ตอนที่ 43 รอยแผลและคำว่ารักเสียงฝีเท้าของไฟดังอย่างสม่ำเสมอขณะที่เขาเดินออกจากห้องพักของโรงแรมในเช้าวันถัดมา ใบหน้าของเขานิ่งขรึม ทว่าแววตากลับแฝงไปด้วยความแน่วแน่ เขาสวมเสื้อเกราะใต้เสื้อเชิ้ตเรียบหรู สูทสีน้ำเงินเข้มคลุมทับ ข้างในกระเป๋าเอกสารคือหลักฐานสำคัญที่จะใช้ยื่นฟ้องไกรสรโดยมีธามและแดเนียลเดินเคียงข้าง ลูกน้องของเฟร็ดเดอริกแฝงตัวอยู่รอบบริเวณอย่างแนบเนียน ความเงียบที่ปกคลุมไม่ได้ทำให้ความระแวดระวังของใครลดลง“ระวังตัวด้วย สายบอกว่ามันมาแล้ว”แดเนียลบอก หลังจากที่เขาอ่านข้อความที่ส่งมาในมือถือ สายที่เขาบอกก็คือคนของเฟร็ดเดอริค ที่เขาใช้ให้ไปสืบเรื่องมือปืนการจะจับมือปืนสำหรับเฟร็ดไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเขารู้ตัวมือปืนอยู่แล้ว แต่ไฟต้องการให้มือปืนลงมือ เพราะจะได้มีหลักฐานแน่นหนาพอที่จะจับไกรศรชนิดที่ดิ้นไม่หลุด“ถ้ายัยโรสรู้ว่านายวางแผนแบบนี้ นายได้ถูกด่าแน่”ธามพูดอย่างรู้นิสัยน้องสาวของเขา“ครับ ผมก็คิวว่าน่าจะเป็นแบบนั้น”ไฟตอบ ริมฝีปากเขายกยิ้มขึ้นน้อย ๆ พอพูดถึงโรส เมื่อเช้าโรสจะตามเธอมาให้ได้ แต่ถูกกรห้ามไว้ กรบอกกับหญิงสาวว่าถ้าไม่รออยู่ที่ห้อง เขาจะพาเธอกลับกรุงเทพต่อ
ตอนที่ 42 แผนการและคำว่ารักบรรยากาศภายในห้องนอนเต็มไปด้วยความตึงเครียด หลังจากที่ไฟพาโรสเข้ามาในห้องนอนที่ว่าง เขาก็ไม่พูดอะไร แต่กลับเดินไปนั่งที่ปลายเตียง แล้วถอนหายใจออกมา"เธอมาที่นี่ทำไม โรส" เขาถามเสียงต่ำ โรสยืนหลังตรงก่อนจะตอบคำถาม "ก็มาตามนายไง ใครใช้ให้นายหนีมาหลังจากทำเรื่องพวกนั้นเสร็จ” โรสตอบอย่างกวนๆ“ไม่ตลกโรส ฉันเขียนโน๊ตไว้แล้วไม่ใช่เหรอ เธอไม่เห็นหรือไง” ไฟถาม “ไอ้กระดาษแผ่นนั้นของนายนะเหรอ เห็นสิ” โรสตอบ “แต่ต่อให้เห็นแล้วยังไง ฉันต้องทำตามด้วยเหรอ” “โรส ฉันไม่ได้ล้อเล่น ฉันไม่อยากให้เธอมา เพราะว่าที่นี่มันอันตราย” ไฟบอกอย่างโมโห กับความดื้อของหญิงสาว“ใช่ นายก็รู้นี่ว่ามันอันตราย ถ้ารู้ว่ามันอันตรายแล้วนายจะมาทำมัย” โรสเองก็ถามอย่างโมโหเหมือนกัน ไฟถอนหายใจ ดวงตาอ่อนลงเล็กน้อยเมื่อเห็นแววตาดื้อรั้นของเธอที่เต็มไปด้วยความห่วงใย "เธอรู้ไหม ว่าฉันไม่เคยกลัวอะไรเท่ากับ กลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไปอีกแล้ว"โรสเดินเข้าไปหาไฟ แล้วจับมือเขาไว้แน่นก่อนจะพูดความในใจของเธอออกมา "แล้วนายคิดว่าฉันไม่กลัวหรือไง ถ้าฉันต้องนั่งรอฟังข่าวนายอยู่ที่กรุงเทพ ฉันคงจะบ้าตายเพร
ตอนที่ 41 นายกล้าทิ้งฉันเหรอแสงแดดยามเช้าลอดผ่านม่านโปร่งบาง โรสพลิกตัวบนเตียงกว้างอย่างงัวเงีย มือของเธอควานหาความอบอุ่นของร่างที่แบบชิดกับเธอเมื่อคืน แต่แล้วเธอก็ต้องลืมตาขึ้นทันทีเมื่อรู้สึกว่าด้านข้างของเตียงว่างเปล่า"ไฟ" เธอเรียกเสียงเบา ลุกขึ้นนั่งแล้วกวาดสายตาไปทั่วห้อง แต่ไม่มีแม้เงาของชายหนุ่มที่เมื่อคืนนอนอยู่ข้างเธอโรสลุกขึ้นเพื่อจะแต่งตัวเพราะเธอคิดว่าเขาน่าจะอยู่ที่ข้างนอก แต่ก็พบเสื้อผ้าที่ถูกจัดไว้อย่างเรียบร้อย พร้อมกับกระดาษโน้ตแผ่นเล็กวางอยู่ด้านบน"ขอโทษที่ออกไปก่อน เรื่องที่ภูเก็ตฉันจะจัดการเอง เธอรอฟังข่าวอยู่ที่นี่" ไฟโรสยืนนิ่งหลังจากที่อ่านข้อความในจดหมายจบ มือของเธอกำกระดาษแน่นด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งตกใจ ไม่พอใจ และ...เป็นห่วง“หมอนั่นทำอะไร คิดว่าแค่ทิ้งจดหมายไว้แล้วฉันก็จะนั่งรอเฉยๆงั้นเหรอ บ้าไปแล้ว" เธอสบถเบาๆ ก่อนจะรีบแต่งตัวอย่างรวดเร็วแต่เมื่อเดินออกมาถึงห้องรับแขก โรสก็ต้องชะงักกับภาพที่เห็นตรงหน้า หมอกร หรือพี่กร ญาติผู้พี่ของเธอที่เธอเคารพ กำลังนั่งไขว่ห้างอ่านหนังสืออยู่บนโซฟา จิบกาแฟอย่างสบายใจ"พี่กร" โรสเรียกด้วยเสียงแผ่วเบา “ทำไมพี่ถึง
ตอนที่ 40 ลงโทษเด็กดื้อ NCเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงในที่สุดรถของเธอก็จอดนิ่งในอาคารจอดรถแห่งหนึ่งโรสเงยหน้าจากกองเอกสารก่อนจะเปิดประตูเพื่อลงจากรถ แต่ประตูฝั่งของเธอก็ถูกเปิดออกก่อนที่มือของเธอจะถึงที่จับประตูเธอเงยหน้ามองคนที่เปิดประตูให้เธอก่อนจะแสดงสีหน้าตกใจออกมา เพราะคิดไม่ถึงว่าคนที่เปิดประตูให้เธอจะเป็นเขา“ไฟ” โรสเรียกชื่อของชายหนุ่มด้วยความตกใจชายหนุ่มไม่พูดอะไร เขาก้มลงอุ้มเธอขึ้นพาดบ่าก่อนจะเดินเข้าไปในตัวอาคารทันทีโรสที่พึ่งได้สติเธอมองสำรวจรอบๆ นี่มันไม่ใช่สนามบิน แต่มันเหมือนคอนโดมากกว่า“นี่นายจะทำบ้าอะไร ปล่อยฉันลงนะ” โรสดิ้นพร้อมกับโวยวาย แต่ไฟก็ไม่สนใจยังคงอุ้มเธอขึ้นคอนโดต่อไปทันทีที่เข้ามาในห้องเขาก็โยนเธอลงกับโซฟาอย่างไม่เบา สีหน้าเขาเรียบนิ่งแต่ดวงตานั้นเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธอย่างเห็นได้ชัด“นายทำบ้าอะไร” โรสโวยวายขึ้นมาทันที เธอดันตัวลุกขึ้นยื่นก่อนจะเดินมาเผชิญหน้ากับเขา“ฉันเคยบอกเธอแล้วนะ ว่าห้ามไปภูเก็ตคนเดียว ทำไมเธอถึงไม่ฟัง” ไฟพูดเสียงดังเกือบเป็นตะคอกตอนที่แดเนียลสามีของเฟย่าส่งข้อความมาหาเขาบอกว่าโรสขอไปพบเฟย่า เขารู้สึกใจหายกลัวว่าเธอจะทำอะไรบ้าๆ ถ้า
ตอนที่ 39 ผู้ทรงอิทธิพลตัวจริงรถยนต์คันหรูแล่นไปบนถนนโดยมีโรสนั่งอยู่ที่เบาะหลัง ในมือของเธอถือแฟ้มเอกสาร เธออ่านทวนเอกสารในมืออบย่างตั้งใจ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับแผนการใหม่ที่กำลังจะเริ่มขึ้นในภูเก็ตด้วยตัวเองคนเดียวหลังจากทะเลาะกับไฟในบ้านของเขาวันนั้นนี่ก็ผ่านมาแล้วเกือบหนึ่งอาทิตย์ ที่เธอกับเขาไม่ได้ติดต่อกันเลย เขาไม่ติดต่อมาเธอก็ไม่ติดต่อไป ต่างคนเหมือยต่างหายไปจากชีวิตของกันและกัน แม้กระทั่งเรื่องที่เธอกำลังจะทำวันนี้เธอก็ตัดสินใจเองโดยไม่ได้ปรึกษาเขาวันนี้โรสกำลังไปหาเฟย่า เพื่อนสนิทของริลดาและลาน่า ซึ่งเป็นภรรยาของพี่ธามกับพี่กรพี่ชายทั้งสองของเธอเธอ เพื่อขอความช่วยเหลือในการจัดการกับพวกไกรสร เพราะในภูเก็ตคนที่ได้ชื่อว่าทรงอิทธิพลอย่างแท้จริงคก็คือ พี่น้องริชแมน และวันนี้เธอก็มีนัดกับริชแมนคนน้องนั่นก็คือเฟย่า ความจริงเธออยากเจอคนพี่นะ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เธอจะเจอกับคนนั้นได้ต่อให้จะขอให้พี่ชายเธอช่วยก็ตาม“คุณเฟย่ารออยู่ข้างในค่ะ” เสียงของเลขาที่เปิดประตูให้บอกกับโรส โรสเดินเข้าไปในห้องทำงานของเฟย่า เธอมองสำรวจภายในห้องของเฟย่าที่ตกแต่งด้วยโทนสีขาวสบายตา ภายใ