บทที่ 4 คนที่เธอกลัว
“มองอะไร อยากโดนควักลูกตาเหรอ” โรสที่กำลังอารมณ์เสียหันไปเอาเรื่องคนขับรถของไฟที่กำลังเปิดประตูรถให้เธอ
ไฟหันไปทางหญิงสาวก่อนจะมองชุดที่เธอใส่ เธอใส่ชุดเดรสเกาะอกสีดำอวดเนินอกขาวส่วนความยาวของกระโปรงก็สั้นจนน่าหวาดเสียว “แต่งแบบนี้ไม่ให้คนมองสิแปลก” เขาพูดเบาๆ กับตัวเอง
“นายไม่ต้องไปแล้ว ไปเอารถฉันมา” เขาสั่งคนขับรถก่อนจะลงจากรถแล้วเดินมาหยุดตรงหน้าเธอ “ไม่นึกว่าจะตรงเวลา” โรสหันไปมองคนพูดด้วยความไม่พอใจ
ความจริงเธอก็ไม่ได้อยากไปกับเขานักหรอก เมื่อตอนบ่ายหลังจากกลับมาจากบ้านของเขาเธอก็ไปฟ้องพ่อของเธอเรื่องที่เขาทำทันที แล้วก็ขอเปลี่ยนคนดูแลแต่พ่อเธอไม่ยอมแล้วก็บอกกับเธอว่าถ้าเธอจะไปไหนต้องให้เขาพาไปเท่านั้น และเธอต้องเชื่อฟังเขา
“เชอะ” เธอสะบัดหน้าหนีเพราะไม่อยากคุยด้วย ไม่นานคนขับรถของเขาก็ขับรถมาจอดก่อนจะเอากุญแจรถมาให้เขา
“ถ้าจะไปก็ขึ้นรถ” เขาพูดเสร็จก็เดินไปขึ้นรถฝั่งคนขับไม่แม้แต่จะแสดงความเป็นสุภาพบุรุษเปิดประตูรถให้เธอด้วยซ้ำ
“แอสตัน มาร์ติน แวนควิชซ่ะด้วย เป็นแค่ทนายแต่มีปัญญาขับรถแพงๆ แบบนี้ด้วย ดูท่านายเองก็คงไม่ใช่ทนายที่ดีสักเท่าไร” เธอหันไปพูดกับเขาหลังจากขึ้นมานั่งบนรถแล้ว เขาไม่ได้ตอบโต้อะไรเธอแต่กลับออกรถด้วยความแรงจนหลังเธอกระแทกกับเบาะที่นั่งจนเจ็บ “นี่นายขับรถให้มันดีๆ หน่อยได้มั้ย อุตส่าห์มีปัญญาขับรถแพงๆ ก็ช่วยขับให้มันเหมือนคนหน่อย”
“ถ้าไม่อยากลงจากรถก็รัดเข็มขัดแล้วนั่งไปเงียบๆ” เขาบอกเธอโดยไม่แม้แต่จะหันไปมอง
ใช้เวลาไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงจุดหมาย โรสเดินตามชายหนุ่มขึ้นมาจนถึงชั้นสองของร้านแล้วเข้าไปในห้องวีไอพีที่เขาจองไว้คุยกับลูกความ
“นายนัดเจอลูกความของนายในที่แบบนี้เหรอ มันดูไม่ใช่สถานที่ที่คนดีๆ เขาจะมาคุยเรื่องงานกันเลย” เธอเดินมานั่งข้างๆ เขาก่อนยื่นหน้าไปคุยกับเขาใกล้ๆ “ให้เดานะลูกความของนายคงเป็นพวกพ่อค้ายา หรือไม่ก็พวกลูกคนรวยโดนคดีใช่มั้ย”
“เธอไม่ไปหาเพื่อนเธอเหรอ นัดกับเพื่อนไว้ไม่ใช่หรือไง” เขาหยิบเมนูขึ้นมาดูเพราะไม่อยากสนใจคนข้างๆ แต่เธอก็ยังไม่ยอมหยุดก่อกวนเขา
“นี่ ฉันถามนายจะไม่ตอบฉันหน่อยเหรอ อีกอย่างตอนนี้เพื่อนของฉันก็ยังไม่มีใครมาสักคน นายคุยกับฉันหน่อยสิ” เธอใช้นิ้วกดเมนูที่เขากำลังดูลง เพื่อให้เขาสนใจเธอวันนี้เธออุตส่าห์แต่งหน้าแต่งตัวจัดเต็มเพราะกะจะมายั่วเขาเต็มที่ แต่เขาก็ยังจะเอาแต่เมินเธออยู่ได้
“ข้อมูลของลูกความเป็นความลับฉันไม่สามารถบอกเธอได้ แล้วก็เชิญเธอออกไปได้แล้วอีกเดี๋ยวลูกความฉันก็จะมาถึงแล้ว”
“รีบไล่จัง ฉันขออยู่เจอหน้าลูกความของนายหน่อยไม่ได้หรือไง ฉันอยากเห็นตอนนายทำงานได้มั้ย” เธอขยับตัวเข้ามาใกล้เขามากขึ้นจนหน้าอกของเธอเกือบจะชนกับแขนของเขา แต่เขาก็ยังคงเฉยทำเพียงแค่มองเธอด้วยหางตา
“หึ อยากจะอยู่ก็เชิญ ฉันเตือนเธอแล้วนะ” เขาพูดเสร็จก็หันไปสนใจเมนูต่อก่อนจะเรียกพนักงานเข้ามาแล้วสั่งเครื่องดื่ม
เธออดแปลกใจไม่ได้ที่เขายอมเธอง่ายๆ แต่ยังไม่ทันได้ถามให้หายข้องใจประตูห้องวีไอพีที่ทั้งสองอยู่ก็เปิดออกพร้อมกับลูกความของเขาปรากฏตัวขึ้น แล้วเธอก็ได้รู้เหตุผลที่เขายอมให้เธออยู่ด้วยเขาคิดจะแกล้งเธอชัดๆ เพราะลูกความของเขาคือผู้ชายคนเดียวในโลกใบนี้ที่เธอกลัว
“พี่ธาม” โรสเรียกลูกความของเขาเสียงเบาจนเหมือนกระซิบ
“หึ” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอเบาๆ กับท่าทีของเธอที่พยายามหลบสายตาดุที่ลูกความของเขากำลังส่งมาให้เธอ คุณท่านเคยบอกกับเขาว่ามีคนคนหนึ่งที่ทำให้ลูกสาวของท่านกลัวได้ คนคนนั้นก็คือคุณธามหรือหมอธามลูกพี่ลูกน้องของเธอ
“สวัสดีครับหมอธาม สั่งอะไรดีครับ” เขาลุกขึ้นทักทายหมอธามที่เป็นลูกความของเขาก่อนจะยื่นเมนูให้
“ไม่เป็นไร ผมสั่งแล้ว” หมอธามนั่งลงฝั่งตรงข้ามเขา และยังมองคนที่พยายามใช้ตัวเขาเป็นที่หลบภัยด้วยสายตานิ่ง
“ไม่ต้องหลบหรอก หลบยังไงพี่ก็เห็น” พอหมอธามพูดจบหญิงสาวก็หันมายิ้มทักทายหมอธามด้วยท่าทีที่ต่างจากตอนที่อยู่กับเขาอย่างกับเป็นคนละคน “แต่งตัวได้ดีนี่ แต่งแบบนี้สินะถึงได้มีเรื่องตลอด แต่ช่างเถอะตอนนี้เธอเองก็โตแล้วอยากจะแต่งแบบไหนก็เรื่องของเธอ พี่ไม่ยุ่งหรอก แต่ระวังตัวเองหน่อยก็แล้วกัน” หมอธามทั้งดุแหละเตือนหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง
“ค่ะ” โรสตอบรับคำสั้นๆ ก่อนจะพยามดึงกระโปรงแสนสั้นของเธอลงทั้งๆ ที่มันลงมามากกว่านั้นไม่ได้แล้ว
“แล้วคิดไวหรือยังว่ากลับมาแล้วจะทำอะไร หรือจะอยู่เฉยๆ ไปก่อน” ธามยังคงถามน้องสาวของเขาต่อ
“คิดไว้แล้วค่ะ โรสว่าจะเขาไปช่วยคุณพ่อทำงานที่บริษัท แต่คุณพ่ออยากให้โรสพักก่อนอีกสักเดือนค่อยไปเริ่มงานค่ะ” ทันทีที่ได้ยินคำตอบธามก็ขมวดคิ้วก่อนจะถอนหายใจออกมา
โรสรู้สึกอึดอัดจึงพยามหาข้ออ้างเพื่อจะเลี่ยงออกมา “โรสนัดเพื่อนไว้พี่ธามคุยธุระต่อเถอะนะคะ โรสไม่กวนแล้ว” แต่ดูเหมือนความต้องการของเธอจะไม่เป็นผล เพราะคำพูดของทนายหนุ่มที่นั่งข้างๆ เธอ
“จะรีบไปไหน คุณบอกว่านัดเพื่อนไว้สี่ทุ่มไม่ใช่เหรอ นี้พึ่งจะสองทุ่มกว่าเอง ไปนั่งรอคนเดียวจะไม่เหงาเหรอ นั่งรอในห้องนี้ดีกว่าไหนๆ ก็คนกันเองทั้งนั้น” ไฟพูดพร้อมกับส่งยิ้มใจดีให้ แต่โรสมองออกว่าเขาแค่เล่นละคร
ถ้าตอนนี้คนที่นั่งอยู่ในห้องไม่ใช่พี่ธามพี่ชายที่เธอกลัว เธอกล้าเอาหัวเป็นประกันได้เลยว่าเธอต้องเข้าไปทึ่งหัวเขาแน่ๆ แต่เธอทำแบบนั้นไม่ได้เพราะมีสายตาดุจ้องมองอยู่
“ฉันไม่อยากรบกวนนายนะ ไหนนายบอกว่าข้อมูลของลูกความเป็นความลับไม่ใช่เหรอ มันคงจะไม่ดีหรอกถ้าฉันนั่งฟังด้วย” โรสยังพยายามหาข้ออ้างต่อไป
“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ได้มีข้อมูลสำคัญอะไร” ไฟบอกก่อนจะหันไปถามธามที่นั่งอยู่ตรงข้าม “ให้คุณโรสนั่งรอกับพวกเราได้หรือเปล่าครับ”
“อืม” ธามตอบรับหน้านิ่ง
โรสกลับไปนั่งที่เดิมอย่างขัดใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เธอเลยได้แต่กระซิบคำขู่ให้กับคนที่นั่งข้างๆ เธอ “ฝากไว้ก่อนเถอะ”
ไฟกับธามเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับคดีที่เขาทำ โดยคดีที่ธามให้ชายหนุ่มทำคือคดีฟ้องหมิ่นประมาทที่พวกเกรียนคีย์บอกพิมพ์โจมตีแฟนสาวของเขา ถึงคดีจะไม่มีอะไรยากเพราะความผิดก็แทบจะชัดเจนแล้วก็สามารถเจรจาได้ แต่ที่ยากก็คงเป็นตรงที่ธามต้องการให้ฟ้องทุกคนที่ต่อว่าแฟนสาวของเขาในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง ซึ่งมีจำนวนเยอะมากเพราะแฟนของธามเป็นถึงนักร้องดัง
โรสนั่งฟังทั้งสองคนคุยกันด้วยความรู้เบื่อเพราะเธอไม่เข้าใจเรื่องที่พวกเขาคุยกันเลย เธอเลยได้แต่นั่งเร่งในใจขอให้เวลาผ่านไปเร็วๆ แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครเห็นใจเธอเลยเพราะเวลาผ่านไปช้ามาก กว่าที่เธอจะหลุดพ้นจากห้องนั้นได้
“รู้แบบนี้ไม่น่าตามขึ้นไปเลย” เธอบ่นก่อนจะเดินไปร่วมโต๊ะกับเพื่อนๆ ของเธอที่มาถึงแล้ว
“หวัดดีโรเซ่ที่รัก” เพื่อนเธอลุกขึ้นมากอดทักทายเธอทันทีที่เดินมาถึง
“พวกเราคิดถึงมากเลยรู้มั้ย คิดถึงมากถึงขนาดต้องตามมาหาเธอที่เมืองไทยเลย” เพื่อนอีกคนของเธอที่นั่งอยู่พูด
“เหอะ ที่มานี่เพราะคิดถึงฉันจริงเหรอ หรือคิดถึงอะไรกันแน่” เธอถามอย่างรู้ทัน
“ก็คิดถึงเธอด้วย ส่วนเรื่องอย่างอื่นเป็นของแถม”
“เหรอ ไม่ใช่เรื่องอย่างว่าเป็นเรื่องหลักแล้วฉันเป็นของแถมหรอกเหรอ” เธอพูดแขวะเพื่อนๆอย่างตรงๆ
“เรื่องนั้นก็สำคัญแต่ไม่เท่าเธอหรอก เธอเคยเล่าให้พวกเราฟังเรื่องคนดูแลของเธอที่น่ากินคนนั้นจำได้มั้ย เรียกมาหน่อยได้มั้ยพวกเราอยากเห็น” โรสเบ้ปากให้เพื่อนๆ ของเธอทันที เธอคิดไว้แล้วว่าที่เธอถูกชวนมาต้องเป็นเรื่องผู้ชาย
“ข้างบนนั่นไง ที่ยืนข้างๆ พี่ชายฉัน” โรสชี้เป้าจุดที่ชายหนุ่มอยู่ เพื่อนเธอเลยรีบหันไปมองตรงจุดนั้นทันที แล้วก็ต่างกรี๊ดเพราะความหล่อของชายหนุ่ม
“หล่อ หุ่นน่ากินมากถ้าเธอไม่สนยกให้พวกเรานะ” หนึ่งในเพื่อนเธอรีบเอ่ยปากขอทันที
โรสยิ้มให้เพื่อนคนนั้นก่อนจะตอบ “เชิญ ถ้าเธอมีปัญญาทำให้หมอนั่นไปกับเธอได้ก็ตามสบาย”
“ไม่หวงจริงอ่ะ ว่าแต่ฉันสนพี่ชายเธอมากกว่านะหล่อดุดีสเปกเลยแนะนำให้ฉันหน่อยสิ”
“ไม่”
“ทำไมหวงพี่เหรอ“
“เปล่า ฉันแค่ไม่อยากมีพี่สะใภ้แบบเธอ”
ส่วนทางด้านสองหนุ่มที่คุยธุระเสร็จก็เดินออกมายืนที่ระเบียงเพื่อดูการแสดง วันนี้คนที่ทำการแสดงก็คือลาน่านักร้องสาวที่เป็นแฟนสาวของธาม คนที่ธามให้ไฟช่วยทำคดีให้
“คุณลุงให้นายเป็นคนดูแลยัยเด็กแสบนั้นเหรอ” ธามพูดพร้อมกับมองไปที่โต๊ะที่โรสนั่งอยู่กับเพื่อนๆ
ไฟเองก็มองไปที่จุดนั้นเช่นเดียวกัน ”ครับ”
“ดูเหมือนคุณลุงจะโยนงานที่ยากให้นายเลยนะ”
“ก็พอตัวเหมือนกันครับ”
“ยังไงฉันก็ฝากนายด้วยก็แล้วกัน เด็กนั่นถึงจะแสบแต่ก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ก็แค่ชอบเรียกร้องความสนใจมากไปหน่อยแค่นั้น” หมอธามตบไหล่เขาเบาๆ ก่อนจะเดินลงบันไดไปเพื่อไปรับแฟนสาวที่ทำการแสดงจบลง
“ชอบเรียกร้องความสนใจงั้นเหรอท่าจะจริง” ไฟพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะยืนล้วงกระเป๋าแล้วจ้องหญิงสาวที่อยู่ข้างล่างอย่างไม่ละสายตา
ตอนที่ 57เรื่องที่เธอไม่รู้แสงแดดยามบ่ายทอดผ่านหน้าต่างกระจกบานสูงในห้องรับรองของบ้าน บ้านพ่อของเธอ และบ้านของเธอก่อนที่เธอจะไปอยู่กับไฟโรสยืนนิ่งอยู่หน้าประตูไม้บานใหญ่ หัวใจเธอเต้นแรงเหมือนในวันนั้น…วันที่เธอร้องไห้สุดเสียง แต่ไม่มีใครเชื่อ ไม่มีใครปกป้องเธอมือเรียวกำแน่นอยู่ข้างตัวขณะที่ไฟเดินมายืนข้าง ๆ เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ส่งสายตาอุ่น ๆ ให้เธอ เหมือนจะบอกกับเธอว่า “เธอไม่ได้อยู่คนเดียว”เธอสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดแล้วเคาะประตู“เข้ามาได้เลย” เสียงของอนุวัตรดังลอดออกมา จากในห้องเมื่อโรสเปิดประตูเข้าไป เธอเห็นชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานเงย เขาหน้าขึ้นทันทีที่เห็นลูกสาว เขาอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นยืนช้า ๆ“โรส…” เขาเรียกเธอด้วยน้ำเสียงดีใจ“พ่อมีเรื่องที่ยังไม่ได้เล่าให้หนูฟังใช่ไหม?” โรสเอ่ยขึ้นทันที น้ำเสียงไม่ได้แข็งกร้าว แต่ก็ไม่ได้อ่อนโยนไฟยืนอยู่ข้างหลัง เขาไม่ก้าวล้ำ แต่ยังอยู่ในตำแหน่งที่ให้เธอรู้ว่าเขาอยู่ไม่ไปไหนอนุวัตรถอนหายใจ เขาพยักหน้าช้า ๆ ก่อนจะผายมือเชิญให้เธอนั่งลง“พ่อจะเล่าทุกอย่างให้ฟัง…ทุกอย่างที่ควรจะพูดตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน”เงียบงันครู่
ตอนที่ 56ความจริงที่เธอควรจะรู้บริษัทของอนุวัตร ห้องทำงานส่วนตัวเสียงนาฬิกาติดผนังเดินอย่างช้า ๆ ในห้องทำงานที่ตกแต่งเรียบหรู ไฟนั่งตรงข้ามกับอนุวัตรด้วยสีหน้าครุ่นคิด หลังจากเขาได้รับข้อความด่วนเรียกตัวให้มาที่บริษัทโดยทันที“คุณเรียกผมมาเพราะมีเรื่องด่วน มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?” ไฟเปิดบทสนทนาทันทีอนุวัตรไม่ได้ตอบในทันที เขานิ่งเงียบอยู่อึดใจ ราวกับกำลังเรียบเรียงคำพูดในใจ ก่อนจะเลื่อนแฟ้มเอกสารบางอย่างมาตรงหน้าไฟ“ทศ…ออกจากคุกแล้ว” น้ำเสียงของเขาหนักแน่นแต่แฝงด้วยความกังวลอย่างชัดเจนไฟชะงัก หัวใจเต้นแรงขึ้นทันทีเมื่อได้ยินชื่อที่เขาเพิ่งรับรู้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับโรสในอดีต“ผมรู้แล้วครับ ลูกน้องผมรายงานมาเมื่อเช้า และ…เขาหายตัวไปพร้อมกับพงศ์”“ใช่ ฉันก็เพิ่งได้รับรายงานเหมือนกัน” อนุวัตรตอบพลางพิงเก้าอี้ มองไฟด้วยสายตานิ่งลึก“ผมจะดูแลโรสให้ดีครับ” ไฟรีบพูดทันที ดวงตาแน่วแน่ “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะไม่ให้ใครเข้าใกล้เธออีก โดยเฉพาะคนอย่างทศ”“โรสรู้ไหม?” อนุวัตรถามขึ้นเสียงเรียบ“เรื่องที่ทศออกจากคุกหรือครับ?” ไฟเลิกคิ้ว “ไม่ครับ ผมยังไม่ได้บอก เธอยังไม่รู้ว่าเขา…เคยติดคุก
ตอนที่ 55อดีตกำลังกลับมาโรสนั่งนิ่งอยู่บนตักของไฟ แผ่นหลังเธอแนบกับอกเขา อ้อมแขนอบอุ่นโอบล้อมรอบเอวเธอไว้แน่นหนา ราวกับกลัวว่าเธอจะหายไปจากตรงนั้นเธอเคยชอบความเงียบแบบนี้ของเขา…มันให้ความรู้สึกปลอดภัย แต่วันนี้มันต่างออกไป เพราะความเงียบของเขามันมาพร้อมความกดดันที่เธอสัมผัสได้“ไฟ…” โรสเอ่ยเรียกเขาเบา ๆ ขณะวางมือบนต้นแขนของเขาอย่างแผ่วเบา“หืม?” เขาขานรับแต่ไม่ขยับเธอหันมามองแค่ครึ่งหน้า สบตากับดวงตาคมเข้มที่ตอนนี้หม่นลงราวกับซ่อนบางอย่างไว้ในเงาลึก“ที่นายดูเงียบ ๆ ตั้งแต่เดินออกมาจากห้องประชุม…เรื่องที่นายกังวลใช่เรื่องฉันหรือเปล่า” โรสพูดเบา ๆ ริมฝีปากยกยิ้มจาง ๆ เธอไม่รู้ว่าตอนนี้เขากำลังกังวลเรื่องอะไรเกี่ยวกับ เธอ แต่เธอมั่นใจ ว่ามันเป้นเรื่องเธอแน่ๆแต่ไฟก็ยังนิ่ง เขาไม่ได้ตอบปฏิเสธ…แต่ก็ไม่ได้ยอมรับ เขาเพียงแค่ก้มหน้าลงแนบไหล่เธอเหมือนเดิม“แต่ไม่เป็นไร” โรสพูดต่อ “ฉันจะไม่ถาม…ถ้านายยังไม่พร้อมจะพูด”เธอเลื่อนมือขึ้นไปลูบเรือนผมเขาเบา ๆ ด้วยจังหวะที่สม่ำเสมอ อย่างเข้าใจเขา“แค่รู้ไว้ว่าฉันอยู่ตรงนี้ ถ้านายอยากพูดเมื่อไหร่ ฉันก็จะรับฟัง…และฉันก็จะไม่กลัว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้
ตอนที่ 54 ข่าวร้ายหลังจากโรสตั้งใจทำอาหารเช้าให้ไฟ เธอเห็นรอยยิ้มละมุนบนใบหน้าของเขาขณะกิน มันทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงกว่าทุกเช้า การได้เห็นเขากินของที่เธอทำ มันมีความสุขมากกว่าที่เธอคิดไว้เยอะ…หลังจากนั้น ทั้งสองก็ออกจากบ้านด้วยกัน มุ่งตรงไปยังสำนักงานทนายความของไฟ สถานที่ที่โรสเริ่มคุ้นเคยจนรู้จักมุมโซฟา มุมกาแฟ และแม้แต่เสียงของพนักงานในแต่ละแผนกโรสทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาหนังสีดำสนิทตามปกติ มือถือในมือเปิดหน้าแอปฯ ช็อปปิ้งออนไลน์ เธอพลิกดูนั่นนี่อย่างเพลิน ๆ ขณะขาเรียวไขว่ห้างเบา ๆ อย่างเคยชินไฟนั่งทำงานอยู่ไม่ไกล แต่อยู่ในตำแหน่งที่มองเธอได้ชัดเจน เขาเริ่มรู้สึกชินตาที่เห็นเธอนั่งอยู่ที่ตรงนั้นในทุกวันแต่ไม่นานนัก ลูกน้องคนสนิทของไฟก็เดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับแฟ้มในมือ สีหน้าเขาดูจริงจังอย่างชัดเจน“คุณไฟครับ มีเรื่องสำคัญต้องแจ้งครับ”ไฟละสายตาจากเอกสารตรงหน้า แล้วเหลือบมองไปยังโรสที่กำลังนั่งหัวเราะกับคลิปวิดีโอแมวในโทรศัพท์ หญิงสาวดูสบายใจจนเขาไม่อยากรบกวน“ไปคุยที่ห้องประชุม” เขาบอกกับลูกน้องเบา ๆลูกน้องเขาพยักหน้ารับก่อนจะเดินนำออกไป ไฟลุกขึ้นจากโต๊ะ แต่ก่อนจะก้าวออกจากห้องไ
ตอนที่ 53เริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่วุ่นวายแสงแดดยามเช้าส่องลอดผ้าม่านบางในห้องนอนของไฟ โรสค่อย ๆ ขยับตัวลุกจากเตียงอย่างเงียบเชียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ วันนี้เธอตื่นเช้ากว่าไฟ เพราะมีภารกิจเล็ก ๆ อยู่ในใจปกติแม่ของไฟจะเป็นคนลงมือทำอาหารเช้าให้ทุกคนในบ้านเสมอ แต่ช่วงนี้ท่านไม่อยู่ไปไฟบอกว่าท่านไปปฏิบัติธรรมที่ไหนสักที่นี่แหละ ไฟจึงรับหน้าที่นั้นแทนมาตลอดแต่เมื่อวานเขาดูเหนื่อยเหลือเกินทั้งสีหน้า ท่าทาง และแววตาที่โรสจำได้ไม่ลืม…แววตาที่แบกบางอย่างไว้เงียบ ๆ จนเธอเองยังรู้สึกหนักอึ้งไปด้วยเพราะแบบนั้น วันนี้…เธออยากทำอะไรให้เขาสักหน่อย แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ อย่างการทำอาหารเช้าเธอเดินลงบันไดไปอย่างเบามือ เปิดไฟห้องครัวอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหยิบผ้ากันเปื้อนของแม่ไฟขึ้นมาสวม“โอเค…เริ่มจากของง่ายที่สุด” โรสพึมพำกับตัวเอง พลางหยิบเบคอนกับไข่ออกมาวางบนเคาน์เตอร์ที่ผ่านมาเธอฝึกฝีมือการเข้าครัวมาบ้างแล้วจากแม่ของไฟ ถึงจะยังทำอาหารเก่งไม่ได้ แต่อย่างน้อย…เธอก็ทอดไข่ดาวกับเบคอนได้แล้วไฟในเตาถูกจุดขึ้น เบคอนถูกวางลงบนกระทะตามด้วยเสียงฉ่าร้อน ๆ ที่ดังทันที กลิ่นหอมเริ่มลอยตลบไปทั่วห้องครัว โรสตั้ง
ตอนที่ 52 ความสงบก่อนพายุลูกใหญ่ที่บริษัทของอนุวัตร ไฟเข้ามาตามปกติเพื่อรายงานความคืบหน้าของงานให้เขาฟังในห้องทำงานที่เงียบและเต็มไปด้วยแสงแดดอ่อนที่ส่องผ่านกระจกบานใหญ่ ไฟนั่งลงตรงข้ามผู้เป็นเจ้านายและในอีกสถานะหนึ่ง…คือพ่อของผู้หญิงที่เขารักหลังจากรายงานเรื่องเอกสาร การประชุม และความคืบหน้าในคดีต่าง ๆ ที่ภูเก็ตเสร็จเรียบร้อย อนุวัตรก็เอนตัวพิงพนักเก้าอี้ แล้วถอนหายใจอย่างหนัก“แล้วโรสล่ะ…ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง” เขาถามเสียงเบา น้ำเสียงนั้นเจือด้วยความห่วงใยที่แฝงอยู่ใต้ความเงียบมานานไฟมองเขานิ่ง ๆ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงมั่นคง“เธอสบายดีครับ”อนุวัตรพยักหน้าเบา ๆ แววตาที่เคยแข็งกร้าวกลับดูอ่อนแรงลงชั่วขณะ“ช่วยดูแลเธอด้วยนะไฟ…ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันขอแค่นั้น”“ผมจะดูแลเธอให้ดีที่สุดครับ” ไฟตอบหนักแน่น “ไม่ใช่เพราะคุณขอ…แต่เพราะเธอคือคนที่ผมรัก”คำตอบนั้นทำให้อนุวัตรเงียบไปอึดใจ ก่อนจะพยักหน้าอย่างช้า ๆ ราวกับคำพูดนั้นเป็นทั้งคำสัญญาและการยอมรับกลาย ๆไฟมองเขาอีกครั้ง ก่อนจะถามออกไปตรง ๆ“คุณไม่คิดจะคุยกับเธอบ้างเหรอครับ?”อนุวัตรชะงักเล็กน้อย ดวงตาไหววูบ“ฉันอยากคุย…แต่ไม่รู้จะเริ่มจ