โรส สาวสวยแสนเซ็กซี่แต่นิสัยแสนร้ายกาจ ผู้ที่มีความสามารถในการล่อลวงให้หนุ่มๆหลงรักแล้วหักอด แต่กับเขาที่ไม่ว่าเธอจะยั่วเขาขนาดไหนแต่เขาก็ไม่เคยสนใจเธอ มีแต่ร้ายใส่เธอ ไฟ ทนายหนุ่มที่พ่อของโรสไว้ใจให้ช่วยดูแลหญิงสาว ใครๆก็บอกว่าเขาเป็นคนที่แสนดี แต่กับเธอทำไมเขาถึงได้ใจร้ายนัก
View Moreบทที่ 1 กุหลาบกับไฟ
ณ.ผับหรูใจกลางกรุงปารีสที่ตอนนี้เต็มไปด้วยนักท่องราตรียามค่ำคืน ที่กำลังต่างพากันโยกย้ายร่างกายไปตามจังหวะเพลงที่ดีเจกำลังเปิดอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะบริเวณกลางเวทีที่ดูจะร้อนระอุที่สุด เพราะมีร่างของหญิงสาวที่สุดจะแสนเซ็กซี่ในชุดเกาะอกสีแดงสดกำลังเต้นโยกย้ายด้วยท่าทางที่สุดแสนจะยั่วยวน ทุกการเคลื่อนไหวของเธอเรียกเสียงเฮจากบรรดาหนุ่มสาวที่ต่างพากันส่งเสียงเชียร์เธอได้เป็นอย่างดี
“โรเซ่ โร่เซ่ โรเซ่” ยิ่งเสียงเรียกชื่อเธอดังมากเท่าไร หญิงสาวก็ยิ่งเพิ่มความยั่วยวนมากขึ้นเท่านั้น ทำเอาบรรดาหนุ่มๆ ที่อยู่แถวหน้าแทบจะเลือดกำเดาไหลเพราะความเซ็กซี่ของเธอ
โรส หรือที่ทุกคนเรียกด้วยชื่อโรเซ่ เธอคือหญิงสาวชาวไทยที่มีรูปร่างแสนจะเซ็กซี่ อกเป็นอก เอวเป็นเอว สะโพกเป็นสะโพก ยิ่งรวมกับรูปร่างสูงโปร่งเหมือนนางแบบที่ช่วยส่งเสริมให้เธอดูดียิ่งขึ้น รวมกับหน้าตาที่สวยชนิดที่คนเดินผ่านยังต้องหันมอง ทำให้เธอกลายเป็นจุดสนใจของทั้งชายและหญิงได้ไม่ยาก
“ขอบคุณโรเซ่ที่รักของเรา ที่วันนี้ขึ้นมามอบความสุขให้กับพวกเราทุกคนเป็นการส่งท้ายก่อนที่เธอจะกลับประเทศของเธอ” เป็นเสียงของดีเจที่พูดขึ้นช่วงท้ายเพลงก่อนที่เพลงจะจบลง “ฉันหวังว่าเธอจะคิดถึงพวกเราและกลับมาเยี่ยมพวกเราบ่อยๆ นะ ไม่งั้นพวกเราคงคิดถึงเธอแน่ๆ” โรสได้ยินดีเจพูดแบบนั้นเธอเลยเดินไปหาดีเจคนนั้นก่อนจะแย่งไมค์ของดีเจมาพูด
“อย่ามาโกหก พรุ่งนี้พวกนายก็ลืมฉันแล้ว” คำพูดของโรสเรียกเสียงเฮจากคนในร้านได้เป็นอย่างดี
หลังจากจบเพลงโรสก็ลงจากเวทีมานั่งที่โต๊ะของเธอ ที่มีเพื่อนๆ ของเธอนั่งรออยู่
“เซ็กซี่เป็นบ้า เชื่อมั้ยวันนี้ต้องมีผู้ชายกว่าครึ่งร้านที่อยากพาจะเธอกลับบ้าน” หนึ่งในเพื่อนของโรสพูดขึ้น “แต่พวกนั้นก็ต้องผิดหวังเพราะโรเซ่ของเราไม่เคยสนใจใคร” เพื่อนคนเดิมยังพูดต่อ
“ใช่ ยัยนี่เก่งเรื่องทำให้คนอยากแล้วจากไปเป็นที่สุด ฉันล่ะสงสารคนพวกนั้นจริงๆ” เพื่อนอีกคนของเธอพูด
“ถ้าเธอสงสาร ก็เก็บพวกนั้นกลับไปสิฉันยกให้” โรสพูด
“ที่พวกฉันพาเธอมาก็เพราะแบบนั้นนั่นแหละ”
“นี่พวกเธอเห็นฉันเป็นตัวล่อผู้ชายเหรอ” เธอถามแบบไม่ค่อยใส่ใจ
“เอาน่าถือว่าช่วยพวกฉันออมแรง พวกฉันจะได้มีแรงไว้ทำกิจกรรมที่มันสนุกๆ ว่าแต่เธอเถอะไม่สนใจทำบ้างเหรอ”
“ไม่” โรสพูดก่อนจะหยิบกระเป๋าเตรียมตัวที่จะกลับ “พวกเธอทำกันไปเถอะไอ้กิจกรรมอย่างว่า ระวังโรคกับระวังท้องด้วยก็แล้วกัน ฉันกลับก่อนนะเหนื่อยแล้ว” พูดจบโรสก็ลุกขึ้นเพื่อกลับห้องปล่อยให้เพื่อนๆของเธอสนุกกันต่อ แต่ระหว่างทางเดินที่จะออกจากร้านก็มีหนุ่มๆ เข้ามาชวนเธอให้ไปต่อตลอดทาง แต่ทุกคนก็ต้องผิดหวังเพราะเธอปฏิเสธไปอย่างไม่ใยดี
วันนี้เพื่อนๆ พาโรสมาเลี้ยงส่งท้ายเพราะพรุ่งนี้เธอต้องกลับประเทศไทยหลังจากที่เรียนจบ เธอถูกพ่อขับไล่ไสส่งมาเรียนที่ฝรั่งเศสตั้งแต่อายุแค่สิบห้า จนตอนนี้เธออายุยี่สิบห้าพร้อมกับจบปริญญาโทเรียบร้อยแล้ว
“ที่บ้านจะเปลี่ยนไปขนาดไหนนะ” เธอคิด เพราะตั้งแต่ที่เธอถูกพ่อส่งมาอยู่ที่นี่เธอก็ไม่เคยได้กลับไปประเทศไทยอีกเลย
ณ.ห้องทำงานห้องหนึ่งในคฤหาสน์หลังใหญ่ใจกลางกรุงเทพเมืองหลวงของประเทศไทย มีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลารูปร่างสูงโปร่งกำลังเดินด้วยจังหวะมั่นคงตรงมาที่โต๊ะทำงานที่มีชายวัยกลางคนกำลังนั่งทำงานอยู่ด้วยสีหน้านิ่งเฉย
“ท่านเรียกผมเหรอครับ” ชายหนุ่มเดินมาหยุดที่หน้าโต๊ะทำงานก่อนจะเอ่ยถามคนที่นั่งอยู่
“ใช่ นั่งก่อนสิฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” ท่านอนุวัตรหรือก็คือท่านที่ชายหนุ่มเอ่อถามบอก ชายหนุ่มจึงนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ทันทีที่ชายหนุ่มนั่งลงท่านก็เริ่มพูดขึ้นทันที
“นายรู้เรื่องที่ลูกสาวฉันจะกลับมาแล้วใช่มั้ย” ท่านอนุวัตรเริ่มเข้าเรื่องทันที
“ทราบแล้วครับ” ชายหนุ่มตอบ เพราะเขาเองก็ทำงานอยู่ที่นี้ต้องเขาออกบ้านหลังนี้บ่อยๆ เขาจะไม่รู้ข่าวเรื่องการกลับมาของลูกสาวท่านอนุวัตรได้ยังไง เพราะหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาคนที่บ้านต่างวิ่งวุ่นเพราะต้องจัดเตรียมห้องสำหรับคุณหนูของบ้านให้วุ่นวายไปหมด
“ฉันอยากให้นายไปเป็นคนดูแลลูกสาวฉัน” ทันทีที่ท่านพูดจบชายหนุ่มก็มองท่านอนุวัตรด้วยสีหน้าสงสัย
ทำไมเขาต้องไปดูลูกสาวของท่านด้วย ไม่ใช่ว่าเธอมีคนดูแลอยู่แล้วหรอกเหรอ เขาเคยได้ยินว่าป้านวนแม่บ้านเก่าแก่ของที่นี่คือคนที่ดูแลลูกสาวของท่านมาตั้งแต่เธอยังเล็กไม่ใช่เหรอ
“นายสงสัยใช่มั้ยว่าทำไมฉันถึงได้ให้นายไปดูแลลูกสาวฉัน” ดูเหมือนท่านอนุวัตรจะอ่านสีหน้าของชายหนุ่มออก
“ครับ ผมเคยได้ยินว่าป้านวนคือคนที่ดูแลคุณหนูมาตั้งแต่เธอยังเด็ก และป้านวนก็ดูดีใจมากที่คุณหนูจะกลับมา” ชายหนุ่มตอบคำถามตามที่เขาเข้าใจ
“นายรู้ใช่มั้ยว่าฉันเสียภรรยาไปหลังจากที่เธอคลอดลูกสาวฉันได้ไม่นาน” ชายหนุ่มพยักหน้า ท่านอนุวัตรเคยเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง ภรรยาของท่านเสียชีวิตเพราะว่าท่านป่วยเป็นมะเร็ง ในตอนที่ภรรยาท่านตรวจพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งเป็นตอนที่ท่านตั้งท้องได้ประมาณสามเดือน แต่ท่านไม่ยอมรับการรักษาเพราะท่านกลัวว่าการรักษาจะกระทบเด็กในครรภ์ ท่านจึงรอให้คลอดลูกก่อนถึงค่อยทำการรักษา ถึงแม้หลังจากที่ท่านคลอดคุณหนูแล้วท่านจะรับการรักษาทันทีแต่อาการของท่านก็ทรุดมากแล้วทำให้การรักษาไม่ค่อยได้ผล ท่านจึงเสียงไปหลังจากคลอดคุณหนูได้แค่สามปี
“ถ้างั้นนายก็คงเคยได้ยินความร้ายกาจของลูกสาวฉันมาบ้างใช่มั้ย” ชายหนุ่มพยักหน้าเขาเองก็เคยพอได้ยินวีรกรรมของลูกสาวท่านมาอยู่บ้าง เห็นว่ามีชอบปัญหากับเพื่อนในโรงเรียนจนท่านต้องย้ายโรงเรียนให้จนแทบจะย้ายครบทุกโรงเรียนในกรุงเทพแล้ว สุดท้ายท่านเลยต้องส่งไปเรียนที่ฝรั่งเศส
“เพราะว่าเธอขาดแม่ตั้งแต่เด็กฉันเลยตามใจเธอจนกลายเป็นเด็กนิสัยเสีย อยากได้อะไรก็ต้องได้ อยากทำอะไรก็ต้องทำ ส่วนนวนเองก็รักคุณหนูของเธอมากจนไม่กล้าจะขัดใจ ส่วนคนอื่นก็ไม่มีใครกล้าขัดใจเธอเพราะกลัวความร้ายกาจของเธอ ถ้าฉันยังให้นวนดูแลต่อในอนาคตต้องเกิดปัญหายิ่งกว่านี้แน่ๆ ฉันเลยอยากให้นายช่วยดูแลเธอหน่อย ด้วยนิสัยอย่างนายน่าจะรับมือกับความร้ายกาจของลูกสาวฉันได้ ถือว่าฉันขอร้องก็ได้นะไฟ” ท่านอนุวัตรเรียกชื่อของชายหนุ่ม พร้อมกับมองเขาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง
ชายหนุ่มใช้เวลาคิดอยู่สักพักก่อนจะตอบรับคำขอของท่านอนุวัตร
“ครับ” ชายหนุ่มตอบรับ เดิมที่เขาไม่อยากจะตอบรับหน้าที่นี้สักเท่าไร แต่เพราะท่านเป็นผู้มีพระคุณที่เคยช่วยเขาไว้ถ้าไม่ได้ท่านป่านนี้ไม่รู้ว่าเขากับแม่จะยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า
ชายหนุ่มนึกถึงอดีต เขาในวัยสิบห้าปีได้ถูกตำรวจจับข้อหาทำร้ายร่างกาย โดยคนที่ถูกเขาทำร้ายร่างกายก็คือพ่อเลี้ยงสาระเลวของเขาเอง ในวันนั้นเขากลับบ้านหลังจากที่ทำงานพิเศษหลังเลิกเรียนเสร็จ เขาเห็นแม่กำลังถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายเพราะแม่ของเขาไม่ยอมให้พ่อเลี้ยงเอาเงินเก็บที่เขาเก็บไว้สำหรับค่าเทอมไปกินเหล้าและเล่นการพนัน ไอ้หมอนั้นเลยทั้งทุบทั้งตีแม่ของเขาจนท่านลงไปนอนกองที่พื้นแต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นท่านก็ยังคงกอดกระปุกเงินของเขาไว้แน่นไม่ยอมให้มันเอาไป และภาพนั้นก็ทำให้ความอดทนของเขาที่มีต่อพ่อเลี้ยงหมดลง
เขาเข้าไปผลักพ่อเลี้ยงที่กำลังจะยกเท้ากระทืบแม่ของเขาจนมันล้มลงที่พื้น ก่อนที่เขาจะขึ้นคร่อมมันแล้วกระหน่ำมัดใส่จนมันสลบไปแต่เขาก็ยังไม่หยุดต่อยมัน จนกระทั่งตำรวจที่ได้รับแจ้งความจากชาวบริเวณนั้นมาถึงและได้คุมตัวของเขาไป
แม่ของเขากลัวว่าเขาจะติดคุกจึงได้ติดต่อหาเพื่อนของพ่อแท้ๆ ของเขา ซึ่งก็คือท่านอนุวัตร ท่านอนุวัตรรีบมาที่โรงพักที่เขาถูกคุมตัวอยู่ทันที และช่วยเรื่องคดีของเขาโชคดีที่เขายังเป็นเยาวชนอยู่การจัดการอะไรก็เลยค่อนข้างง่าย และท่านยังช่วยจัดการเรื่องพ่อเลี้ยงสาระเลวของเขาให้มันได้รับโทษอีก นอกจากท่านจะช่วยเขาในเรื่องของคดีในวันนั้นยังไม่พอ ท่านยังช่วยส่งเสียให้เขาได้เรียนนังสือให้งานแม่ของเขาทำ ทำให้เขาได้มีที่อยู่ที่ดีๆ จนกระทั่งวันนี้เขาเรียนจบจนสามารถเปิดบริษัททนายความก็ยังคงได้รับการสนับสนุนจากท่านจนบริษัทของเข้าเติบโตขึ้นมาจนอยู่แถวหน้าของประเทศ
“ฉันขอบใจนายมาก แล้วเรื่องที่ฉันให้นายไปจัดการล่ะ ได้เรื่องมั้ย” ท่านอนุวัตรถามถึงเรื่องที่ดินที่ภูเก็ตที่ให้ชายหนุ่มไปจัดการ ถึงแม้ว่าเขาจะมีบริษัทของตัวเองที่ต้องรับผิดชอบแต่เขาก็ยังคงทำงานให้ท่านอนุวัตรอยู่เหมือนเดิม
“เรียบร้อยแล้วครับ ผมส่งเรื่องให้ทนายพัชชาจัดการต่อแล้วครับ“ เขาตอบ
“ดี ขอบใจนายมาก” ท่านอนุวัตรบอก แล้วทั้งสองก็คุยเรื่องงานอื่นๆ กันอีกนาน
ตอนที่ 18 คนใหญ่คนโต“ขอโทษด้วยนะครับที่มาช้า พอดีเสียเวลาที่สนามบินนิดหน่อย” ไฟรีบขอโทษทันทีที่เข้ามาในห้องอาหารที่เขานัดกับไกรสรเจ้าของที่ที่ท่านอนุวัตรสนใจจะซื้อ แต่ในห้องไม่ได้มีแค่ไกรสรแต่ชายวัยกลางคนอีกสองคนนั่งอยู่ด้วย“ไม่เป็นอะไรครับ พวกผมเองก็พึ่งมาถึงได้ไม่นานเหมือนกัน ว่าแต่เดินทางมาเหนื่อยหรือเปล่าครับ” ไกรสรที่ลุกขึ้นมาต้อนรับไฟพูด พร้อมกับยื่นมือมาจับมือทักทายกับชายหนุ่ม“ผมว่าเชิญคุณไฟนั่งก่อนเถอะครับ เดี๋ยวค่อยทักทายกัน” ผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะพูดขึ้น“นั่นสิครับ ผมตื่นเต้นไปหน่อยเลยลืมเชิญนั่งเลย” ไกรสรพูดขึ้นก่อนเขาจะเชิญไฟให้ไปนั่ง ส่วนโรสก็เดินเข้าไปนั่งข้างๆไฟแรกเริ่มไม่มีใครได้ทันสังเกตุหญิงสาวที่มาพร้อมกับทนายหนุ่มเพราะทุกคนให้ความสำคัญแค่กับเขา แล้วต่างก็พากันคิดว่าหญิงสาวที่มาด้วยกับเขาเป็นเพียงผู้ช่วยของเขา แต่พอทุกคนใด้เห็นใบหน้าของหญิงสาวชัดเต็มสองตาพวกเขาถึงกับตกตะลึงในความสวยของเธอ“ผู้ช่วยของคุณไฟนี่สวยจังเลยนะครับ ไม่ทราบว่าหามาจากที่ไหนเหรอ เผื่อพวกผมจะไปหามาบ้าง” ชายวันกลางคนอีกคนพูดขึ้น พร้อมกับมองมาทางหญิงสาวด้วยสายตาที่ทำให้โรสอยากจะควักลูก
ตอนที่ 17 ฉันเล่นเป็นแค่บทนางร้าย“นี่เลิกมองมือถือแล้วเดินดีๆ ได้มั้ย” เสียงของไฟที่บอกกับหญิงสาวที่เอาแต่ก้มหน้ามองมือถือไม่สนใจสิ่งรอบข้าง จนเกือบจะชนเข้ากับคนที่เดินสวนไปมาในสนามบิน“นี่นายโทรถามคุณวีอะไรนั่นของนายให้ฉันหน่อยสิ ฉันติดต่อสิไม่ได้เลย” โรสไม่สนใจที่ชายหนุ่มเอ่ยเตือนแต่เธอกลับสั่งให้เขาช่วยติดต่อไปหาวีให้แทน“เธอเลิกสนใจเรื่องอื่นแล้วรีบเดินได้มั้ย เธออย่าลืมว่าเรายังมีนัด” ไฟไม่ทำตามที่โรสบอกแต่เขากลับเร่งให้เธอเดินเร็วๆ เพราะตอนนี้รถจอดรอพวกเขาที่หน้าประตูนานแล้ว“นายอย่าดึงสิ” โรสโวยวายเพราะไฟจับแขนเธอก่อนจะออกแรงดึงให้เธอเดินตามเขาไป “ขึ้นรถ” ไฟดันตัวของโรสให้ขึ้นไปบนรถที่คนขับเปิดประตูรอไว้ ก่อนที่เขาจะตามขึ้นมานั่งข้างๆเธอ“โอ๊ย นายจะรีบร้อนอะไร มีใครตามฆ่าหรือไง” “แล้วที่ต้องรีบเพราะใคร ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเดินชักช้าอืดอาดจนฉันต้องลาก” ไฟบ่นอย่างหัวเสีย เพราะว่าเช้านี้ทั้งสองมีนัทสำคัญ แต่เพราะหญิงสาวชักช้าลีลาทำให้เขาเสียเวลาไปพอสมควร “ไปช้านิดช้าหน่อยก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร” โรสพูดด้วยท่าทางไม่จริงจัง เลยโดนไฟดุอีกรอบ“นี่มันคือการทำงานจริงๆ นะ ไม่ใช่การ
ตอนที่ 16 เป็นห่วงคนอื่นก็เป็น“เพื่อนใครนะ ยัยนี่ยังมีเพื่อนอยู่เหรอ ไหนว่าเลิกคบไปหมดแล้ว” โรสถามด้วยความสงสัย เพราะสิเคยบอกกับเธอว่าตอนนี้เธอไม่มีใครแล้วเพราะเพื่อนของเธอชอบเอาเธอไปนินทา เธอเลยเลิกคบกับคนพวกนั้นไปหมอแล้ว“มีสิ เพราะคนที่แนะนำให้คุณสิฟ้องก็คือคุณวี” ไฟบอก ก่อนที่เขาจะก้มมองโทรศัพท์ที่เสียงเตือนข้อความดังขึ้น “เดี๋ยวฉันมาคุณวีมาถึงแล้วฉันจะออกไปรับหน่อย เธออยู่กับคุณสิก็อย่าก่อเรื่องเข้าใจมั้ย” ไฟบอกก่อนที่เขาจะลุกออกไปด้วยท่าทางรีบร้อน“แค่นี้ก็ต้องออกไปรับ เดินมาเองไม่เป็นหรือไง” โรสบ่นตามหลังแต่ไฟไม่ได้ยินเพราะเขาเดินออกไปไกลแล้ว ก่อนจะหันมาโวยวายใส่คนเมาที่ยังร้องไห้กับไหล่เธอไม่หยุด“นี่เธอก็เลิกเอาหน้ามาถูกฉันได้แล้ว ชุดฉันเลอะเครื่องสำอางเธอหมดแล้วเนี่ย” โรสดุแต่ไม่จริงจังเท่าไร เธอเอื้อมมือไปลูบหลังคนที่ร้องไห้กับไหล่เธออย่างอ่อนโยนทำไมเธอจะไม่เข้าใจว่าการที่ถูกคนที่รักและไว้ใจหักหลังมันเจ็บปวดแค่ไหน เพราะในอดีตเธอเองก็เคยตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ต่างจากสิสักเท่าไร เธอถึงได้เข้าใจและเพราะเหตุผลนี้ทำให้เธอกับสิสนิทกันได้รวดเร็วโรสมองสิที่ร้องไห้อย่างเงียบๆ เพร
ตอนที่ 15 ออกเที่ยวกลางคืน“จะออกไปไหน” เสียงของไฟดังขึ้นที่ทางเดินบนชั้นสอง เพราะเขาเห็นหญิงสาวที่ตอนนี้เธอน่าจะพักผ่อนอยู่ในห้องนอนของเธอที่กำลังออกมาจากห้องนอนในชุดที่ใครได้เห็นก็ต้องรู้ว่าเธอกำลังจะออกไปเที่ยวข้างนอก“แล้วนายละ ทำไมถึงยังอยู่ที่บ้านฉัน” โรสไม่ตอบตอบคำถามของไฟแต่เธอเลือกที่จะถามเขากลับไปแทน ถึงแม้เธอจะรู้ว่าที่เขายังอยู่ที่บ้านของเธอในเวลานี้เป็นเพราะว่าเขาทำงานกับพ่อของเธอ เพราะทางที่เขาเดินมาคือห้องทำงานของพ่อเธอ“เธอยังไม่ตอบคำถามฉัน” ไฟเองก็ไม่ตอบคำถามของเธอแต่กลับทวงคำตอบของคำถามเดิม“แล้วที่นายถามเป็นเพราะว่าอยากรู้เอง หรือว่าเพราะหน้าที่ที่พ่อฉันสั่งให้นายดูแลฉัน” โรสพูดกวนอารมณ์ของไฟ“ก็ถ้าไม่ใช่เพราะคำสั่งของพ่อเธอ เธอคิดว่าฉันอยากจะยุ่งกับเธอหรือเปล่าละ”โรสชักสีหน้าโกรธทันทีที่ได้ยินคำพูดของไฟ เธอกำคอเสื้อของไฟก่อนจะกระชากเข้าหาตัวแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธอย่างที่สุด จนไฟเองก็ยังแปลกใจ“ถ้างั้นก็ไปหาพ่อของฉันกัน แล้วบอกไปเลยว่านายขอยกเลิกการดูแลฉันเพราะนายไม่อยากดูแลคนที่นายรังเกียจ หรือว่าถ้านายไม่กล้าพูดเพราะกลัวพ่อฉันจะดูนายไม่ดี ฉันพูดเองก็ได้นะว่าต
ตอนที่ 14 เตรียมตัวไปภูเก็ต“ฉันไม่ไป” โรสปฏิเสธสิรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ แต่สิก็ยังคงคะยั้นคะยอให้โรสออกไปเที่ยวกับเธอ“ไปนะ ถ้าเธอไม่ไปฉันก็ต้องไปคนเดียวนะสิ” สิขอร้องด้วยเสียงที่ฟังดูน่าสงสาร“ไม่” แต่โรสก็ยังคงยืนยันหนักแน่นว่าเธอจะไม่ออกไปกับสิในคืนนี้หลังจากเหตุการณ์ที่โรสเมาอาละวาดแล้วไปนอนบ้านสิวันนั้น ทั้งสองคนก็ดูเหมือนจะสนิทกันมากขึ้น สองสาวเพื่อนต่างวัยมักจะชวนกันไปออกเที่ยวหรือหากินของอร่อยๆด้วยกันอยู่เสมอ อย่าเช่นวันนี้ที่สิโทรมาชวนโรสให้ออกไปเที่ยวกลางคืนด้วยกัน“นี่ เวลาเธอชวนฉันไม่เคยปฏิเสธเลยนะ แต่ทีเวลาฉันชวนเธอกลับปฏิเสธไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอ” สิตำหนิด้วยน้ำเสียงที่ตัดพ้อ“ฉันไปไม่ได้จริงๆ พรุ่งนี้ฉันต้องเดินทางไปภูเก็ต และต้องออกเดินทางแต่เช้า” โรสตอบ “อีกอย่างฉันต้องไปกับคุณทนายของเธอ ไม่อยากตื่นสายให้หมอนั่นมาว่าได้หรอกนะ” “เธอไปเที่ยวเหรอกับคุณไฟเหรอ แล้วไปนานขนาดไหน” สิถามด้วนน้ำเสียงตื่นเต้น“ไปเที่ยวอะไรละ ไปทำงานนะสิ แล้วก็ไปประมาณหนึ่งอาทิตย์มั้ง” โรสตอบ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาจู่ๆพ่อของเธอก็สั่งให้เธอไปภูเก็ตกับไฟ เพราะพ่อเธออยากให้เธอไปเรียนรู้ก
ตอนที่ 13 ทำไมถึงได้ทน“โอ๊ย” โรสยกมือขึ้นกุมหัวด้วยความปวด ทำไม่มันถึงได้ปวดขนาดนี้นะเธอพยายามนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแต่ก็จำไม่ค่อยได้ จำได้แค่ช่วงที่มาถึงบ้านของสิ แล้วสิก็สั่งให้เธอไปอาบน้ำก่อนจะนอน แล้วหลังจากอาบน้ำเสร็จเธอก็หลับเป็นตาย“กี่โมงแล้วเนี่ย” โรสหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาก่อนจะเห็นสายที่ไม่ได้รับสิบกว่าสาย และข้อความที่ไม่ได้อ่านอีกหลายสิบข้อความซึ้งทั้งหมดมาจากคนๆเดียวคือผู้ชายที่เธอเกลียดขี้หน้าที่สุดนั่นคือไฟโรสลุกขึ้นจากที่นอนทั้งๆที่ยังปวดหัวก่อนจะเดินไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำแล้วเดินลงมาหาสิที่ข้างล่าง“ตื่นแล้วเหรอ กำลังคิดอยู่เลยว่าจะเรียกรถโรงพยาบาลหรือปอเต็กตึ๊งดีไม่รู้ว่านอนหรือตาย” สิทักขึ้นมาทันทีที่เห็นโรสเดินลงมาด้วยสภาพอิดโรย“เอา กินซะจะได้หายแฮงค์” สิเดินไปหยิบเครื่องดื่มแก้แฮงค์ในตู้เย็นก่อนจะเอามายื่นให้คนที่ยังมีอาการเมาค้าง“ขอบใจ” โรสหยิบรับเครื่องดื่มจากสิก่อนจะกระดกเข้าปากรวดเดียวจนหมดขวด เธอรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยแต่ยังคงปวดหัวอยู่ดี“มีอะไรกินบ้างมั้ย” โรสหันไปถามสิ เพราะตอนนี้ท้องของเธอกำลังร้องประท้วงเพราะความหิว“ไม่มี” สิตอบ โรสเลยหันไปมองสิอ
ตอนที่ 12 เมาแล้วอาละวาด“เอามาอีก” เสียงโรสสั่งบาร์เทนเดอร์ให้ชงเหล้าให้เธอ “เอาเข้มๆเลยนะ”“พอแล้วไม่ต้องดื่มแล้ว เธอเมาแล้วเนี่ย” สิเอ่ยห้าม ก่อนเธอจะหันไปบอกบาร์เทนเดอร์ “ไม่ต้องแล้วน้อง” “ไม่ ฉันจะดื่มอีก เอามา” แต่คนเมาที่คิดว่าตัวเองยังไม่เมายังคงโวยวายไม่หยุด“ไม่เมาอะไรนั่งจนจะไม่อยู่แล้วเนี่ย” สิบ่น พร้อมกับประคองคนเมาให้ลุกขึ้น“ทำไมวันนี้ฉันต้องมาดูแลคนเมาด้วยเนี่ย ยัยนี่มีเรื่องกลุ้มใจอะไรถึงได้เอาแต่ซดเหล้าเป็นน้ำแบบนี้ คนที่มันต้องเมาต้องเป็นเธอสิ เพราะเธอถูกสามีนอกใจจนต้องขึ้นโรงขึ้นศานวันนี้อยู่ๆเธอก็ได้รับโทรศัพท์จากยัยคุณหนูนางร้ายสั่งให้ไปรับเธอที่บ้าน ก่อนจะให้เธอพาผับ พอมาถึงยัยคุณหนูนี่ก็ไม่พูดอะไรเอาแต่สั่งเครื่องดื่ม แล้วดื่มเอาดื่มเอาจนเมาขนาดนี้“ไม่ฉันไม่เมา ฉันจะกินต่อ” โรสยังคงโวยวายเสียงดังจนคนที่นั่งข้างๆ ต่างหันมามองเป็นตาเดียว เรื่องที่คนเมาอาละวาดเป็นเรื่องที่พบเห็นได้เป็นปกติตามสถานที่ท่องเที่ยว แต่การที่เห็นที่เมาที่สวยและเซ็กซี่ขนาดนี้เป็นเรื่องที่ไม่ได้พบเห็นกันง่ายๆ และยิ่งเป็นผับหรูแล้วด้วย นับว่าเห็นได้น้อยมากเพราะฉะนั้นทั
ตอนที่ 11 วัว ควาย และหมา “ป้านวนขา...” โรสเดินเข้ามาในครัวก่อนจะเรียกป้านวนเสียงหวาน เธอกอดเอวใหญ่ของป้านวนก่อนจะวางคางที่ไหล่ของแม่บ้านอย่างออดอ้อน “มีอะไรหรือเปล่าค่ะ วันนี้คุณหนูของป้าถึงได้ตื่นเช้าแล้วก็อารมณ์ดีเป็นพิเศษเลย หรือมีเรื่องอะไรดีๆคะ” ป้านวนถามเพราะเห็นว่าวันนี้หญิงสาวอารมณ์ดีจนผิดสังเกตุ “ไม่มีอะไรค่ะ ที่โรสอารมณ์ดีน่าจะเป็นเพราะเมื่อคืนโรสนอนหลับเต็มอิ่มแล้วก็นอนฝันดีด้วยมั้งค่ะ” โรสตอบ เมื่อคืนเธอหลับเต็มอิ่มเช้านี้จึงรู้สึกตื่นมาแล้วสดชื่นและอารมณ์ดีเป็นพิเศษ “ดีแล้วค่ะ ป้าชอบที่เห็นหนูอารมณ์ดีแบบนี้ทุกวัน วันนี้คุณหนูอยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ ป้าจะทำให้กิน” ป้านวนถาม “ไม่ค่ะ โรสขอน้ำส้มแก้วเดียวพอ เมื่อวานกินเยอะมาก ตอนนี้ยังอืดท้องอยู่เลยค่ะ” โรสบอกก่อนเธอจะเดินออกมารอที่โต๊ะทานข้าว เธอไม่ได้โกหกเมื่อวานที่เธอออกไปกับสิเธอกินเยอะจริงๆ สิแนะนำอาหารให้เธอกินเยอะมาก “ก็กินน้อยแบบนี้นะสิถึงได้ไม่มีแรง โดนผลักนิดผลักหน่อยถึงได้จะล้ม” โรสหน้าตึงขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเสียงของคนที่กำลังเดินมาที่
ตอนที่ 10 นางร้ายที่น่าสงสาร“คุณหนูไม่ออกไปไหนบ้างเหรอคะ ป้าเห็นคุณหนูอยู่แต่ที่บ้านนี่จะเป็นอาทิตย์แล้วนะคะหลังจากที่ออกไปกับคุณทนายครั้งนั้น” ป้านวนถามขณะยกจานผลไม้มาให้เธอที่กำลังนั่งอ่านนิตยาสารอยู่ข้างสระน้ำ“แล้วป้าจะให้โรสไปไหนล่ะคะ” โรสถามกลับจะว่าไปนี่มันก็อาทิตย์หนึ่งแล้วสินะที่เธอออกไปข้างนอกกับหมอนั่น แล้วหลังจากวันนั้นเธอก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย เขาเองก็ไม่ได้ชวนเธอไปไหนด้วยอีกสงสัยจะเข็ด“ก็ไปเที่ยวเล่นเหมือนคนอื่นๆไงคะ ออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนๆ ไม่ก็ไปช๊อปปิ้ง ป้าเห็นคุณหนูอยู่แต่บ้านป้ากลัวคุณหนูเบื่อค่ะ” ป้านวนพูดด้วยความเป็นห่วง“ป้าพูดยังกับโรสมีเพื่อนอย่างงั้น” โรสตอบป้านวนยิ้มๆ เธอไปเรียนที่ต่างประเทศตั้งหลายปีจะมีเพื่อนที่ไทยได้ยังไง เพราะตอนที่เรียนอยู่ที่ประเทศไทยเธอก็ย้ายโรงเรียนบ่อยจนไม่สนิทกับใครเลย ส่วนเพื่อนเธอที่เจอกันครั้งนั้นก็กลับประเทศไปหมดแล้ว“คุณหนูไม่มีเพื่อนเลยเหรอคะ” ป้านวนถามเสียงเบา อย่างรู้สึกสงสาร“ค่ะ ไม่มีเลย” โรสยังคงตอบคำถามป้านวนด้วยรอยยิ้ม สำหรับเธอไม่มีเพื่อนก็ไม่เห็นเป็นอะไรเพราะ แต่เดี๋ยวนะจะว่าเธอไม่มีเพื่อนก็ไม่ถูก เธอยังมีเพื่อนอยู
Comments