ตอนที่ 13 เพราะฝนทำให้คนเหงา
@คอนโด
ร่างบางก้มๆเงยข้างเตียงก่อนจะรื้อหาใต้พรม แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเจอสร้อยข้อมือเจ้าปัญหา แต่พอจะกลับเข้าไปหาในห้องน้ำอีกครั้งก็ต้องชะงักหันมาหาเข้าของห้องที่ยืนกอดอกพิงประตูอยู่
“หาเจอไหม”
“ไม่เจอค่ะ” รมย์รวินท์ส่ายหน้าไปมาก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเตียง ตามหาจนทั่วทุกที่ซ้ำสองรอบก็ยังหาไม่เจอ
“มากินข้าวก่อนพี่จัดโต๊ะเสร็จแล้ว พอกินเสร็จเดี๋ยวพี่จะช่วยหาอีกที”
“ขอหาในห้องน้ำอีกรอบก่อนได้ไหมคะ”
“ไม่ได้”
“เห้อ” เธอถอนหายใจด้วยความหนักใจก่อนจะเดินตามร่างสูงที่เดินเข้ามากุมมือพาเดินออกมาที่โต๊ะกินข้าว ที่แปลกตาไปกว่าทุกครั้งเพราะมีอาหารจากโรงแรมชื่อดัง พร้อมกุหลาบช่อใหญ่วางไว้บนโต๊ะส่งกลิ่นหอมฟุ้งผสมผสานไปกับกลิ่นเทียนหอมที่ประดับตามมุมต่างๆ
“ต้องขนาดนี้เลยเหรอคะ”
“ตอนที่เราหาสร้อยอยู่พี่สั่งอาหารมาไว้ให้ ส่วนอันนี้พี่ก็สั่งเพิ่มมาให้ เห็นเราดูเครียดๆ”
“ขอบคุณนะคะ”
รมย์รวินท์นั่งลงบนเก้าอี้ที่เขาขยับให้ก่อนที่เขาจะรินไวน์ให้แล้วกลับไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“เล่นใหญ่มาก”
“ไม่อยากให้เราเครียด ทานเลยเสร็จแล้วพี่มีของขวัญให้ด้วยนะ”
รมย์รวินท์พยักหน้ารับก่อนจะใช้มีดค่อยๆหั่นสเต็กเนื้อวากิวเป็นชิ้นพอดีคำแล้วส่งเข้าปาก รสชาติแสนอร่อยแทบลืมเรื่องราวเครียดๆก่อนหน้านี้ไปจนหมดสิ้น
“อร่อยไหม”
“อร่อยมากค่ะ”
“งั้นก็ทานเยอะๆ” กรภัคอมยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นเด็กน้อยถูกใจอาหารที่เขาเลือกไว้ให้
มือหนายกแก้วไวน์ขึ้นจิบเล็กน้อยก่อนจะวางลงไว้ที่เดิม เมื่อเห็นเธอจัดการอาหารตรงหน้าเรียบร้อยเขาจึงพูดขึ้น “อยากได้ของขวัญหรือยัง”
“โรแมนติกนะเนี่ย” รมย์รวินท์เอ่ยแซวพร้อมกับยกยิ้มจนตาเป็นประกาย
“พิเศษเฉพาะเราคนเดียวนั่นแหละ” กรภัคส่งกล่องของขวัญสีขาวที่มีโลโก้สีทองแบรนด์ดังติดเด่นหรามือบางจึงหยุดชะงัก
“ไม่รับได้ไหมคะ”
“มาขนาดนี้แล้ว รับเถอะ พี่ตั้งใจซื้อให้”
“เนื่องในอะไรคะ”
“อยากให้”
“สายเปย์เสียด้วย”
“ทุกอย่างที่พี่ทำก็เพื่อเราคนเดียวนั่นแหละ”
รมย์รวินท์ค่อยๆดึงกระเป๋าออกจากถุงผ้าก็แทบกรี๊ด นี่มันรุ่นที่เธอกำลังตามหาอยู่นี่นา
“พี่เกมส์รู้ได้ไงคะว่าหนูตามหารุ่นนี้อยู่”
“พี่ใช้ญาณทิพย์” กรภัคพูดเสียงทะเล้น “แล้วชอบไหม”
“ชอบมาก หนูตามหาทั่วห้างในกรุงเทพแล้วก็ไม่มีเลย เกือบถอดใจแล้วนะเนี่ย” รมย์รวินท์เอ่ยบอกพร้อมกับสะพายกระเป๋าขึ้นสะพายไหล่ก่อนจะเอามากอดไว้แนบอกด้วยความดีใจ
“ไม่ดูข้างในหน่อยเหรอ” กรภัคเอ่ยท้วงเมื่อเห็นเธอกำลังเก็บใส่กล่องอย่าประณีต
“ไม่ค่ะ”
“ดูหน่อยเหอะนะ”
แม้จะสงสัยกับท่าทางของเขา แต่เธอก็ยอมเปิดประเป๋าใบใหม่เห็นกล่องกำมะหยี่สีแดงจึงหยิบขึ้นมาเปิดดู
“พี่เกมส์” เสียงหวานอุทานเรียกชื่อคนตรงหน้าเสียงดัง
“สร้อยข้อมือที่เราหาอยู่ไง”
“ขอบคุณนะคะ” รมย์รวินท์วางกระเป๋าแล้ววิ่งไปกอดอีกฝ่ายไว้แน่นด้วยความดีใจอย่างลืมตัว
“ทำหายอีกนะ พี่อยากให้เรากอดพี่อีก”
“ไอ้พี่เกมส์ ไอ้บ้า” รมย์รวินท์บอกเสียงแผ่วก่อนจะคลายอ้อมกอดแล้วเดินกลับมานั่งที่เดิม
“ทำไมไม่บอก ปล่อยให้หนูหาจนลมแทบจับ”
“มันขาดพี่เลยเอาไปให้ที่ร้านทองทำให้ใหม่ ความจริงพี่จะคืนนานแล้วแต่ลืม”
“อยากโกรธนะ แต่โกรธไม่ลง”
“หึๆ ยื่นมือมาเดี๋ยวพี่ใส่ให้”
รมย์รวินท์ยอมทำตามอย่างว่าง่ายยื่นมือไปตรงหน้าเขา ส่วนเขาก็ค่อยๆบรรจงใส่ให้เธอ ก่อนที่จะ
จุ๊ฟ!
“พี่เกมส์”
“ค่าจ้างใส่ให้”
“เจ้าเล่ห์”
“พาหนูกลับไปส่งที่ห้องด้วย”
“ฝนยังไม่หยุดตกเลย” ผมเอ่ยบอกพร้อมกับหันไปทางหน้าต่างบานใหญ่ที่ยังมีสายฝนสาดเข้ามาจนกระจกขึ้นเป็นไอน้ำ
“รถพี่ก็ไม่ได้เปิดประทุนนี่คะพี่เกมส์”
“แต่รถติด กว่าจะไปถึงคอนโดเราก็ดึกพอดี ไปอาบน้ำนอนไป”
“ห้ามทำอะไรหนูนะ”
“อื้อ ถ้าเราไม่สะกิดพี่ก่อนอะนะ”
“ใครจะไปสะกิดกันเล่า” แก้มใสพองลมงอนๆก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องเพื่อจัดการธุระส่วนตัว พอเดินออกมาก็เจอเจ้าของห้องนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงแล้ว
“ไม่ใส่เสื้อนอนอีกแล้ว ไม่กลัวปอดบวมหรอพี่เกมส์”
“อึดอัด ปกติพี่ก็ใส่แบบนี้นอนประจำนะ แต่ถ้าเราไม่ให้พี่ใส่อะไรนอนเลยก็ได้นะ แบบนั้นพี่ยิ่งถนัดเลย”
“ไม่ต้องมาเจ้าเล่ห์ใส่เลย”
“งั้นมานอนได้แล้ว”
รมย์รวินท์ยืนลังเลเมื่อเห็นเขาตบเตียงเบาๆแต่แววตานี่มันเสือร้ายหิวเหยื่อชัดๆ จะรอดปลอดภัยไหมหนอ กอบัว
“มานอนเร็วๆ พี่ไม่ทำอะไรหรอก ถ้าเราไม่ยินยอม”
“พี่เกมส์!”
“หึๆ แต่ถ้าเราดื้อพี่จะ...”
“โอเคๆ นอนแล้วค่ะ” เธอยอมทิ้งตัวนอนเมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ อย่างไม่น่าไว้ใจ เธอจึงขยับนอนชิดขอบเตียง
“ขยับมานอนดีๆ เดี๋ยวตกเตียง”
“ไม่ค่ะ แบบนี้ หนูนอนสบายดี”
กรภัคส่ายหน้ายิ้มขำก่อนจะรั้งเอวบางดึงเข้ามากอดจนแผ่นหลังบางเบียดชิดแผ่นอกกำยำ ใบหน้าหล่อเหลาซุกที่ซอกคอหอมกรุ่นที่เขาชื่นชอบ มันเป็นกลิ่นกายหอม หวานๆ แต่ทุกครั้งที่ได้กลิ่นเจ้ายักษ์ก็ชอบยืนตรงผิดเวลาทุกที
“พี่เกมส์”
“หืม”
“ขยับถอยไปหน่อยได้ไหม แบบนี้หนูว่ามันอันตรายเกินไป” เมื่อรู้สึกได้ว่ามีอะไรดันสะโพกกลมกลึงอยู่
“ขอได้ป่ะ”
“พี่เกมส์” ทันทีที่ได้ยินคำขอที่ดังใกล้ใบหู รมย์รวินท์ถึงกับพลิกกายหันมาเผชิญหน้าพร้อมกับยกมือตีที่แขนกำยำเต็มแรง ใบหน้าสวยเห่อแดงไปกับคำพูดของเขา
เพียะ!
“พูดบ้าอะไรของพี่เนี่ย”
“ก็พี่คิดถึงกอบัวอะ”
“อดทนไปค่ะ”
“ดูสิฟ้าฝนก็เป็นใจขนาดนี้ ยิ่งฝนตกก็ยิ่งเหงา”
“พี่เหงาแต่หนูไม่ได้...อื้อ”
ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อถูกจูบจนคนที่ไม่ทันตั้งตัวเผลออ้าปากท้วงก็เหมือนเปิดโอกาสให้เขาสอดลิ้นร้อนเข้ามาเกี่ยวตวัดลิ้นเล็กยอกเย้าพลางดูดจนเกิดเสียงลามกในลำคอ
“อื้อ อืม”
ในเวลาเดียวกันมือหนาสอดเข้ามาภายใต้เสื้อชุดนอนลูบไล้ไปตามผิวเนียนนุ่ม บีบขย้ำเอวบางแล้วเลื่อนลงมาที่เนินกลางกาย ปลายนิ้วแหวกไปตามรอยแยกบดขยี้เกสรแผ่วเบาแล้วสอดเข้าไปในเนื้อนุ่ม แต่ทว่า...
ครืด ครืด ครืด
“อ๊ะ อือ”
เสียงหวานครางแผ่ว หน้าท้องแบนราบขมวดเกร็งไปด้วยความเสียวซ่าน ท่อนขาเรียวอ้ากว้างให้นิ้วเรียวขยับเข้าออกได้ง่ายขึ้น ยิ่งขยับเร็วมากขึ้นเท่าไร ความเสียวซ่านก็ยิ่งแล่นไปทั่วร่างกาย
“ซี๊ด พี่เกมส์ พี่เกมส์ อื้ม”
ปลายจมูกโด่งซุกไซ้ลำคอระหง ขบเม้มไปตามผิวเนียนจนขึ้นรอยสีกุหลาบก่อนจะอ้าปากครอบครองปลายยอดสีหวานดูดดุนจนร่างบางสั่นสะท้าน
“อื้อ พี่เกมส์ อ๊ะๆ อืม”
ยิ่งเสียงหวานครางเรียกชื่อมากเท่าไรปลายนิ้วก็ยิ่งขยับเร็วขึ้น จนเจ้ายักษ์ที่บดอยู่ตรงท่อนขาเรียวปวดหนึบ ก่อนที่ทุกอย่างเป็นอันต้องสะดุดเมื่อปลายสายโทรเข้ามาไม่หยุด
ครืด ครืด ครืด
“พี่เกมส์ รับโทรศัพท์ก่อนไหมคะ”
“ใครแม่งโทรมาเวลานี้วะ” กรภัคสบถออกมาอย่างหัวเสียเขาจะได้กินเด็กน้อยที่อุตส่าห์หลอกล่อให้มาจนติดกับดักได้เกือบจะสมใจอยู่แล้วเชียว คนยิ่งอดยากปากแห้งมานานอยู่ พอเห็นชื่อปลายสายความหงุดหงิดก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
“มึงมีอะไรไอ้ธันย์”
“มึงมาผับด่วนเลย”
“กูไม่ไป แล้ววันนี้กูก็ไม่ได้นัดด้วย แค่นี้นะ กูไม่ว่าง” ผมตัดสายก่อนจะวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง แล้วทิ้งตัวนอนลงบนเตียงก่อนจะจับเจ้ายักษ์ตัวใหญ่กดไว้เพื่อพยายามควบคุมความปรารถนาของตัวเองให้อยู่ในระดับปกติ แล้วนอนกอดร่างบางเอาไว้
“นอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ต่อเหรอคะ”
“โดนปลุกแล้วมาล่มกลางคันแบบนี้ พี่จะยิ่งกินดุนะ พี่กลัวเราตื่นไปเรียนไม่ไหว”
“แต่ว่า...เจ้ายักษ์ของพี่มัน”
“หึๆ นอนได้แล้ว เด็กดี” กรภัคที่รู้ว่าเธอจะพูดอะไรเขาจึงพูดแทรกขึ้นมาแล้วลูบกลุ่มผมนุ่มด้วยความเอ็นดู ไอ้อยากก็อยากแต่เขารู้ตัวเองดี
“ไม่ทรมานเหรอคะ” รมย์รวินท์เอ่ยถามเสียงขำน้อยๆแล้วยกยิ้มออกมาท่ามกลางความมืด ในใจก็แอบเป็นห่วงเจ้ายักษ์ที่ถูกปลุกจนไม่ยอมหลับยอมนอน
“นิดหน่อย แต่พี่ทนได้ เพราะถ้าพี่ขย้ำเราจริงๆ พรุ่งนี้ไปเรียนสายแน่ๆ”
“ก็อย่ากินดุนักสิคะ”
“พูดแบบนี้หมายความว่าไง” กรภัคผงกหัวขึ้นมองคนตัวเล็กกว่าในอ้อมกอดตาเป็นประกายแพรวพราว
“ก็ตามนั้น”
“พี่เอาจริงนะ”
“อื้อ”
ปากหยักได้รูปประกบจูบลงมาอีกครั้งและครั้งนี้เต็มไปด้วยความเร้าร้อนและเรียกร้องจนเธอคล้อยตามอย่างง่ายดาย
แม้อากาศภายนอกจะเย็นจนหนาวเหน็บ แต่บทรักแสนเร้าร้อนกำลังเริ่มต้นแผดเผาสองร่างจนร้อนรุ่มเหงื่อชโลมกาย
ตอนที่ 43 คู่หมั้นสามเดือนต่อมา@บ้านเพชรปกรณ์บ้านทรงไทยประยุกต์สองชั้นหลังใหญ่ผสานไปกับสไตล์โมเดิร์น อย่างลงตัว ผนังข้างนอกตกแต่งด้วยโทนสีขาวสลับกับโทนสีน้ำตาล ให้บรรยากาศที่อบอุ่น บริเวณหน้าบ้านปลูกดอกไม้ประดับที่ออกดอกชูช่ออวดความสวยบานสะพรั่งราวกับต้อนรับแขกผู้มาเยือนในวันสำคัญของลูกสาวเพียงคนเดียวของเจ้าของสวนทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพิธีหมั้นถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายมีเพียงแขก ญาติและเพื่อนสนิทเท่านั้นแต่งานก็ถูกจัดขึ้นอย่างสมเกรียติ สมหน้าสมตาทั้งสองฝ่าย เมื่อเศรษฐีนีเจ้าของตลาดวัฒนาขนเงิน ขนทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ แหวนเพชรสิบกระรัตและที่ดินมาหมั้นว่าที่สะใภ้ในอนาคตให้กับลูกชายเพียงคนเดียว“ว่าที่คู่หมั้นมาแล้วค่ะ” ตังเมและพราวฟ้าเอ่ยบอกขณะพา รมย์รวินท์อยู่ในชุดเดรสคอวีขาวผ้าชีฟองอัดพลีส ยาวคลุมข้อเท้าเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านกรภัคยกยิ้มให้อย่างอ่อนโยนขณะเดินไปจูงมือคู่หมั้นเดินเข้ามาในห้องรับแขก“วันนี้หนูสวยมาก พี่คิดว่านางฟ้าที่ไหนลงมาเดินเล่น”รมย์รวินท์หลุดหัวเราะออกมาเมื่อเจอคำพูดหวานเลียน ยืนยิ้มหน้าแดงด้วยความเขินอายเมื่อเขาจูบที่แก้มแล้วผละออกอย่างรวมเร็วเพราะกลั
ตอนที่ 42 งอนอยู่นะ“พี่เมฆา พี่เมฆา”“...”“เมฆา”“ครับ คุณเกมส์” เมฆาที่เดินกลับมาถึงโต๊ะทำงานได้ยินเสียงผู้บริหารหนุ่มโวยวายเสียงดังจึงรีบเข้ามาในห้องทำงาน"ไปไหนมา"“ผมปวดหนัก ผมขอโทษนะครับ”เมฆาเอ่ยบอกอย่างสำนึกผิดเมื่อปล่อยเจ้านายสัมภาษณ์งานเลขาคนใหม่เพียงลำพัง“คราวหน้าผมไม่เอาแล้วนะเลขาผู้หญิงอ่า เอาผู้ชายเท่านั้น ผู้ชายเท่านั้นนะพี่”“ครับผม แล้วเธอ...ทำอะไรคุณหรือเปล่าครับ”“ผมเกือบโดนสวบแล้วไหมล่ะ”“อาบน้ำก่อนไหมครับ กลิ่นน้ำหอมเธอแรงมาก ถ้าไปรับคุณกอบัวในสภาพนี้ คุณเกมส์จะโดนโกรธเอาได้นะครับ”“ก็คงโดนอยู่แล้ว เพราะผมต้องเล่าให้เธอฟังทุกเรื่อง”“อนาคตไม่มีโอกาสเป็นพ่อบ้านใจกล้านะครับคุณเกมส์”“ยังไง?”“กลัวเมีย”“เขาเรียกให้เกียรติครับ และที่สำคัญผมไม่พูดโกหก”“ครับๆ” เมฆายกยิ้มให้เจ้านายก่อนจะเดินออกมา อยากจะแซวคนกลัวเมียให้นานกว่านี้ แต่เขายังไม่พร้อมหางานใหม่หลังจากร
ตอนที่ 41 เอาแต่ใจ2 ปีต่อมา@มหาลัยรถอาวดี้คันหรูจอดสนิทข้างตึกคณะวิศวกรรมก่อนจะดึงร่างบางมาสวมกอดแล้วหอมแก้มนุ่มอย่างเช่นทุกวัน“ตั้งใจเรียนนะ เดี๋ยวตอนเย็นพี่มารับ”“โอเคค่ะ”“พี่เกมส์ก็ตั้งใจทำงานนะคะ” รมย์รวินท์โน้มตัวไปหอมที่แก้มเขากลับคืนแล้วก้าวลงจากรถแต่ถูกเขาดึงไว้อีกครั้ง“คะ พี่เกมส์”“ฝึกงานเมื่อไหร่”“อีกสองเดือนค่ะ”“พี่ว่าหนู...”“ค่อยคุยกันเรื่องนี้ได้ไหมคะพี่เกมส์” รมย์รวินท์เอ่ยแทรกขึ้นมาเมื่อเขาถามเรื่องฝึกงานอีกครั้ง คุยกันทีไรจบด้วยการเถียงกันและงอนกันทุกครั้งไป“โอเคครับ หวังว่าตอนเย็นพี่มารับหนูจะมีคำตอบให้พี่นะ”“รับทราบค่ะ”ฟู่ว!รมย์รวินท์ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้วเดินไปหาเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ในโรงอาหาร“เป็นอะไรกอบัว”“เครียด เรื่องฝึกงาน”“มีปัญหาหรอ เรื่องเกรดหรือติดกิจกรรมล่ะ ไปปรึกษาอาจารย์ไหม เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อน”
ตอนที่ 40 คบกันนะหลังจากเรื่องราวทุกอย่างเคลียร์จบเรียบร้อย ผมจึงพาเธอกลับมาที่คอนโดเพื่อเปลี่ยนชุด ก่อนจะพามาที่ร้านอาหารบนตึกสูงใจกลางเมืองรมย์รวินท์ในชุดเดรสสายเดี่ยวสีชมพูพิ้งค์โกลด์สั้นเหนือเข่าเดินเคียงข้างเขาในชุดสูทสีดำไม่ทางการ พอมองไปที่มือนุ่มก็ถูกเขากุมไว้ตลอดเวลาจนเธอต้องสลับมองหน้าเขาด้วยแววตาเป็นประกาย“มองแบบนี้พี่เขินนะ”“ก็พี่หล่อนี่คะ”“ไปเอาความปากหวานมาจากไหนหนอ”“พี่มุกกับพี่ชะเอมเคยบอกไว้ค่ะ ว่าพี่ชอบคนอ้อนๆ”“ไปเชื่อพวกมันสองคน โดยต้มจนเปื่อยแล้วมั้ง”“อ้าวไม่ชอบหรอคะ” รมย์รวินท์เอียงคอถามอย่างน่ารักจนกรภัคหลุดหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าเหวอของคนตัวเล็กกว่าแล้วโอบเอวดึงเธอมากอดแนบชิด“ชอบ แต่คนที่อ้อนพี่ ต้องเป็นเราเท่านั้นนะ ถ้าเป็นคนอื่นพี่ไม่ชอบ”“ไม่คุยด้วยแล้ว” รมย์รวินท์หันหน้าหนีซ่อนรอยยิ้ม แต่ลืมไปว่าเป็นกระจกซึ่งเห็นเงาที่สะท้อนออกมาเห็นเขายืนกลั้นขำจนหน้าแดง“อยากยิ้มก็ยิ้ม ไม่ต้องแอบหรอก พอโดนเอาคืนบ้าง ไปไม่เป็นเลยนะเรา”
ตอนที่ 39 คืนเกิดเหตุตึกคณะบริหารจีจี้เดินเล่นโทรศัพท์ลงมาจากตึกในช่วงห้าโมงเย็น ก่อนจะเดินไปนั่งรอคนขับรถที่บ้านมารับ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอร่างสูงใบหน้าหล่อที่ทำท่าถมึงทึง คนที่เธอพยายามพาตัวเองไปอยู่ใกล้ๆและตามจีบมานานนับเดือน แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่เธออยากวิ่งหนีไปให้ไกลๆ ถ้ามีวิชาหายตัวได้ก็คงจะดี“หยุดเลยนะจีจี้”“พี่เกมส์” จีจี้พูดเสียงสลดใบหน้าสวยซีดเผือด “จีจี้ขอโทษ”“รู้ไหมว่าสิ่งที่จีจี้ทำมันทำให้พี่วุ่นวายมากแค่ไหน”“แต่หมอบอกว่าพี่ไม่ถึงตายนะคะ แพ้แต่ไม่รุนแรง แล้วจีจี้ก็ไม่ได้ตั้งใจ จีจี้ขอโทษ”“ใครว่าพี่ไม่ตาย”“นี่จีจี้คุยกับวิญญาณพี่หรอคะ ฮือ จีจี้ขอโทษนะคะขนาดตายไปแล้วยังเป็นผีมาหลอกมาหลอนจีจี้อีก” จีจี้ตีโพยตีพายยกมือปิดหน้าปิดตาร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความกลัว แถวนี้ยิ่งไม่มีคนอยู่ด้วย“พี่ยังไม่ตาย แต่ที่บอกตายเพราะพี่ทรมานใจที่จีจี้ก่อเรื่องจนทำให้พี่กับกอบัวผิดใจกันต่างหาก”“อึกฮือ”“จีจี้ตั้งสติก่อน เลิกร
ตอนที่ 38 หวานต่อไม่รอแล้วนะไม่นานรถอาวดี้คันหรูจอดสนิทที่หน้าร้านอาหารริมชายหาด ภายในตกแต่งสไตล์โมเดิร์นกรุกระจกล้อมรอบ และยังมีโซนด้านนอกริมหาดที่ตกแต่งด้วยไฟสีเหลืองนวล และเสียงเพลงจากนักร้องยิ่งทำให้บรรยากาศโดยรวมช่างโรแมนติก“นั่งตรงไหนดี หืม” กรภัคโอบไหล่คนตัวเล็กแล้วโน้มมาถามด้วยน้ำเสียงเอ็นดู“ตรงโซนริมหาดดีกว่าค่ะ บรรยากาศกำลังดีเลย” สายลมพัดเอื่อยๆพัดกลิ่นอายทะเลขึ้นมาจนทำให้ร่างบางที่หน้าบึ้งตึงยิ้มกว้างออกมา นี่สินะกลิ่นอายทะเลบ้านเกิดที่ไม่ได้สัมผัสมานานหลังจากที่ย้ายไปเรียนในเมืองหลวง“ชอบไหม” ผมเอ่ยถามเสียงนุ่มพร้อมกับเกลี่ยปอยผมที่ปลิวไปตามแรงลมขึ้นทัดหูให้อย่างอ่อนโยน“ชอบมากค่ะ”“เห็นเรายิ้มได้พี่ก็ดีใจแล้ว”“ไม่ได้หลอกว่าอะไรหนูอยู่ใช่ไหมคะ”“เปล๊า ใครจะกล้า แล้วเราอยากกินอะไร สั่งเลยนะ วันนี้ป๋าเลี้ยงไม่อั้น” กรภัคเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเอ็นดูแววตายามมองคนตรงหน้าก็เปี่ยมไปด้วยรัก“จะเอาให้ขนหน้าแข้งป๋าร่วงเลย”“คงยากหน่อยนะ เพราะพี่รวยมาก”“จ้