ตอนที่ 19 สองต่อสอง
“หนีหน้าพี่ทำไม”
ฉันสะดุ้งสุดตัวเมื่อเสียงทุ้มดังอยู่ข้างหู ทำให้ฉันรีบหันกลับไปมองด้านหลังทันที จนใบหน้าเกือบชนกับหน้าอกกำยำ
“พี่เกมส์”
“ตอบคำถามพี่ก่อน” กรภัคก้าวเท้าขยับไปใกล้ก่อนจะยกมือทาบบนหลังคารถแล้วโน้มใบหน้าลงมาใกล้
“ถอยไปเลยค่ะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”
“ตอบมาก่อน สองวันนี้หนีหน้าพี่ทำไม”
“ไม่ได้หนีค่ะ”
“แล้วโทรไปทำไมไม่รับ ทักไปก็ไม่ตอบคืออะไร”
“ก็แค่...กอบัวไม่ว่าง”
“แล้วเราไปนอนที่ไหน คอนโดก็ไม่ยอมกลับ”
“ไปนอนที่คอนโดตังเมมาค่ะ”
“โกรธพี่เรื่องจีจี้ใช่ไหม”
“เปล่าค่ะ”
“เอาความจริง”
“กอบัวไม่ได้โกรธ แค่...”
“แค่อะไร”
“เปล่า ไม่มีอะไร” เพราะต่อให้พูดออกไปก็ไม่มีประโยชน์ เธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขาท่องไว้ให้ขึ้นใจนะกอบัว
กรภัคลูบผมนุ่มก่อนจะดึงเข้ามากอดไว้แนบอก “พี่ขอโทษที่พี่ไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นทั้งที่พี่สัญญากับเราไว้แล้ว แต่พี่พูดจริงๆนะว่าพี่กับจีจี้ไม่ได้เป็นอะไรกัน และพี่ไม่เคยมีอะไรเกินเลยกันแม้แต่ครั้งเดียว”
“หนูก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันอยู่แล้ว ถ้าพี่จะคบกับใครก็แค่มาบอกกับหนูตรงๆ ไอ้เรื่องที่เคยตกลงกันไว้จะได้จบ”
“อย่าพูดแบบนี้สิ”
“ทำไมคะ”
“พี่ไม่ชอบ ถ้าพูดอีกจะจูบตรงนี้เลยนะ”
“แล้วหนูพูดผิดตรงไหน”
“ผิดทุกอย่างนั่นแหละ เพราะพี่ไม่เคยยุ่งกับผู้หญิงคนไหนเลย ตั้งแต่เจอเราและไม่คิดที่จะมองใครด้วย”
“เหรอคะ”
“พี่พูดจริงๆ”
“ค่ะ ช่างมันเหอะ”
“หายงอนพี่นะ พี่ขอโทษ”
“ก็ได้ค่ะ”
“งั้นไปกินข้าวกันนะ”
“ไม่ค่ะ วันนี้หนูมีนัดกับเพื่อน”
“โกหก วันนี้ตังเมมีงาน ส่วนหนูพราวอยู่กับไอ้ธันย์ เรามีเพื่อนสนิทแค่สองคน”
“รู้มาก”
“พี่สืบมาหมดแล้ว”
“พี่เกมส์ไปไหนมาไหนกับหนูบ่อยๆพี่ไม่กลัวคนเห็นหรือไงคะ”
“พี่ไม่กลัว”
สุดท้ายเธอก็ยอมนั่งรถไปกับเขา อยากจะใจแข็งแต่พอเขามาทำดีด้วยหน่อย สุดท้ายใจเหลวเป็นน้ำ
“กินข้าวที่ไหนดี”
“แล้วแต่พี่เลยค่ะ”
“งั้นกลับไปกินที่บ้าน เดี๋ยวพี่ทำให้ โอเคไหม”
“ก็ได้ค่ะแต่พาแวะซื้อไอติมที่ร้านสะดวกซื้อด้วยนะคะ”
“ได้ครับคุณผู้หญิง”
ใช้เวลาไม่นานรถคันหรูจอดสนิทที่หน้าร้านสะดวกซื้อ แต่พอฉันหันจะถามเขาก็มีสายเรียกเข้าพอดี
“เข้าไปซื้อเลย พี่ขอคุยโทรศัพท์กับเพื่อนแป๊ปนึง”
“ได้ค่ะ”
รมย์รวินท์หายเข้าไปในร้านสะดวกซื้ออยู่นานสองนานจนกรภัคที่คุยโทรศัพท์อยู่ต้องชะเง้อคอมอง
“ไอ้เกมส์มึงฟังกูอยู่ป่ะเนี่ย”
“มึงว่าอะไรนะไอ้เสี่ย”
“มาที่ผับไหม”
“กูไม่สะดวกว่ะ”
“เออ งั้นเดี๋ยวกูไปหามึงที่คอนโดแล้วกัน”
“ไม่ได้”
“ทำไม”
“วันนี้กูไม่ว่าง”
“มึงพาสาวขึ้นคอนโดเหรอ”
“ไม่รู้สักเรื่องได้ไหมเพื่อน”
“ถ้ามึงไม่บอก วันนี้กูพาพวกไปบุกหามึงที่คอนโดจริงๆด้วย”
“เออ”
“ก็แค่นั้น”
“ไม่มีอะไรแล้วแค่นี้นะ”
“อือ”
เมื่อผมวางสายก็เป็นเวลาเดียวกับที่รมย์รวินท์เดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อพอดีพร้อมกับหิ้วถุงขนมมามายมายจนเต็มสองมือ
“ไปซื้อไอติมไม่ใช่เหรอ แล้วนี่อะไรเต็มมือเลย”
“หนูซื้อขนมแล้วเห็นเบียร์จัดโปร ก็เลยซื้อมาเสียเลย เห็นแล้วเปรี้ยวปาก”
“ยัยเด็กติดแอลกอฮอร์นี่”
“ตอนนี้หนูว่าเริ่มติดอย่างอื่นแล้วนะคะ”
“ติดอะไร” กรภัคหรี่ตามอง ก่อนจะก้มมองจุดที่ดวงตาคู่สวยกำลังมองมา
“ทะลึ่งละ” ผมช้อนคางได้รูปขึ้นเล็กน้อย “หน้าพี่อยู่นี่”
“อะไร หนูมองเข็มขัด”
“สาบานไหม”
“ไม่เอาค่ะ กลัวตายฟรี” รมย์รวินท์ตอบเสียงทะเล้นก่อนจะหยิบถุงเก็บความเย็นขึ้นมาเปิด “หนูกินไอติมในรถได้ไหมคะ”
“ตามสบายครับ”
“พี่เกมส์กินไหม หนูซื้อมาหลายแท่ง”
“พี่ไม่ชอบกินของหวาน แต่ถ้าคนข้างๆ....”
“ว่าแต่หนูหื่น ตัวเองไม่ค่อยหื่นเลยเนาะ”
“หึๆ” ผมหัวเราะขำก่อนจะกลับมาตั้งใจขับรถ แต่สุดท้ายก็ต้องหักเลี้ยวจอดข้างทาง
เอี๊ยดดด!
“พี่เกมส์ ขับรถอะไรแบบนี้คะเนี่ย เดี๋ยวก็ถูกคันหลังด่าเอาหรอก”
“เราช่วยกินไอติมดีๆหน่อยได้ไหม”
“แล้วหนูกินไม่ดีตรงไหน” ผมเผลอจ้องมองคนข้างๆที่กำลังตวัดลิ้นเลียไอศกรีมในมือจนเสียวท้องน้อยวาบ จนอดคิดไปถึงเรื่องอย่างว่าไม่ได้
“พี่เกมส์คิดเรื่องหื่นกามอยู่ใช่ไหมคะ”
“รู้ได้ไง”
“ก็เลือดกำเดาพี่ไหล”
กรภัครีบยกมือขึ้นเช็ดปลายจมูกทันที แต่กลับไม่มีเลือดกำเดาอย่างที่ยัยเด็กแสบพูด
“โกหกพี่หรอ”
“คริๆ”
“เดี๋ยวคืนนี้จะโดนไม่ใช่น้อย”
“อีกหลายชั่วโมงเลยนะ อดไหวหรอ ดูท่าเจ้ายักษ์ของพี่มันจะ...”
“บนรถเลยดีไหม หื้ม”
“แซวเล่นนิดหน่อยเองค่ะ”
“ทำท่ากินให้ดีๆก่อน”
“ค่ะ”
เมื่อรู้ว่าเขาแอบมองเธอก็ตวัดลิ้นเลียไอศกรีมแท่งรสสตรอว์เบอร์รี ก่อนจะอมเข้าไปจนสุดแล้วรูดออกมา ก่อนจะใช้ปากงับที่ส่วนปลายพลางช้อนตาขึ้นมองเขาที่จ้องเธอแบบไม่ละสายตา แล้วตวัดลิ้นเลียขอบปากด้วยท่าทีเย้ายวน
“อร่อยจัง”
“รีบกินเร็วๆเข้าเถอะ”
“อ่า หวานมาก”
“ถ้ายั่วพี่อีก ไม่รอดแน่”
“อะไร ใครยั่วพี่กัน หนูแค่กินไอติมเอง แล้วที่รีบเลียก็เพราะมันโดนแอร์แล้วมันละลายไว”
“หึๆ”
เธอรีบอ้าปากงับไอศกรีมเข้าไปทั้งแท่งเมื่อใกล้จะหมด ก่อนจะรูดออกมาแล้วใช้ลิ้นเลียขอบปากอีกครั้ง
“หมดแล้วค่ะ”
“เฮ้อ ค่อยโล่งอกขึ้นมาหน่อย”
“คนกินไอติมพี่ก็คิดอกุศลได้นะคะ”
“พูดดีๆ เดี๋ยวจะโดนตีปากไม่รู้ตัว”
“ค่ะๆ”
เมื่อกลับมาถึงห้องเธอก็รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหญ่กับกางเกงขาสั้นแล้วเดินเข้าครัวเพื่อช่วยเจ้าบ้านทำอาหารสำหรับมื้อเย็น
“พี่บอกแล้วไง ให้ไปนั่งรอข้างนอก”
“หนูแค่อยากมาเป็นกำลังใจให้พี่เกมส์เฉยๆ”
“งั้นมานี่เลย” กรภัคอุ้มร่างบางขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์กลางครัว แล้วยืนแทรกตรงกลางท่อนขาเรียว พร้อมกับโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ก่อนที่จะใช้สองมือโอบเอวบางมากอดแนบชิด
“พี่เกมส์ จะทำอะไรคะ”
“ตอนแรกยั่วเก่ง พอเอาเข้าจริงกลัวหรอ หื้ม”
“เปล่าคะ กอบัวไม่ได้กลัว”
“แต่แววตาเราตรงข้ามกับปากมากเลยนะ”
รมย์รวินท์ทำแก้มป่องอย่างน่ารักแล้วยกมือขึ้นคล้องคอก่อนจะขยับหน้าเข้าไปชิดใกล้ และทำในสิ่งที่เขาไม่คาดคิด
จุ๊ฟ!
“หึๆ สงสัยอยากอดข้าวเย็น”
“ถ้าได้กินของแซ่บรองท้อง กอบัวยอมอดข้าวเย็นก็ได้นะคะ”
ตอนที่ 43 คู่หมั้นสามเดือนต่อมา@บ้านเพชรปกรณ์บ้านทรงไทยประยุกต์สองชั้นหลังใหญ่ผสานไปกับสไตล์โมเดิร์น อย่างลงตัว ผนังข้างนอกตกแต่งด้วยโทนสีขาวสลับกับโทนสีน้ำตาล ให้บรรยากาศที่อบอุ่น บริเวณหน้าบ้านปลูกดอกไม้ประดับที่ออกดอกชูช่ออวดความสวยบานสะพรั่งราวกับต้อนรับแขกผู้มาเยือนในวันสำคัญของลูกสาวเพียงคนเดียวของเจ้าของสวนทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพิธีหมั้นถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายมีเพียงแขก ญาติและเพื่อนสนิทเท่านั้นแต่งานก็ถูกจัดขึ้นอย่างสมเกรียติ สมหน้าสมตาทั้งสองฝ่าย เมื่อเศรษฐีนีเจ้าของตลาดวัฒนาขนเงิน ขนทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ แหวนเพชรสิบกระรัตและที่ดินมาหมั้นว่าที่สะใภ้ในอนาคตให้กับลูกชายเพียงคนเดียว“ว่าที่คู่หมั้นมาแล้วค่ะ” ตังเมและพราวฟ้าเอ่ยบอกขณะพา รมย์รวินท์อยู่ในชุดเดรสคอวีขาวผ้าชีฟองอัดพลีส ยาวคลุมข้อเท้าเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านกรภัคยกยิ้มให้อย่างอ่อนโยนขณะเดินไปจูงมือคู่หมั้นเดินเข้ามาในห้องรับแขก“วันนี้หนูสวยมาก พี่คิดว่านางฟ้าที่ไหนลงมาเดินเล่น”รมย์รวินท์หลุดหัวเราะออกมาเมื่อเจอคำพูดหวานเลียน ยืนยิ้มหน้าแดงด้วยความเขินอายเมื่อเขาจูบที่แก้มแล้วผละออกอย่างรวมเร็วเพราะกลั
ตอนที่ 42 งอนอยู่นะ“พี่เมฆา พี่เมฆา”“...”“เมฆา”“ครับ คุณเกมส์” เมฆาที่เดินกลับมาถึงโต๊ะทำงานได้ยินเสียงผู้บริหารหนุ่มโวยวายเสียงดังจึงรีบเข้ามาในห้องทำงาน"ไปไหนมา"“ผมปวดหนัก ผมขอโทษนะครับ”เมฆาเอ่ยบอกอย่างสำนึกผิดเมื่อปล่อยเจ้านายสัมภาษณ์งานเลขาคนใหม่เพียงลำพัง“คราวหน้าผมไม่เอาแล้วนะเลขาผู้หญิงอ่า เอาผู้ชายเท่านั้น ผู้ชายเท่านั้นนะพี่”“ครับผม แล้วเธอ...ทำอะไรคุณหรือเปล่าครับ”“ผมเกือบโดนสวบแล้วไหมล่ะ”“อาบน้ำก่อนไหมครับ กลิ่นน้ำหอมเธอแรงมาก ถ้าไปรับคุณกอบัวในสภาพนี้ คุณเกมส์จะโดนโกรธเอาได้นะครับ”“ก็คงโดนอยู่แล้ว เพราะผมต้องเล่าให้เธอฟังทุกเรื่อง”“อนาคตไม่มีโอกาสเป็นพ่อบ้านใจกล้านะครับคุณเกมส์”“ยังไง?”“กลัวเมีย”“เขาเรียกให้เกียรติครับ และที่สำคัญผมไม่พูดโกหก”“ครับๆ” เมฆายกยิ้มให้เจ้านายก่อนจะเดินออกมา อยากจะแซวคนกลัวเมียให้นานกว่านี้ แต่เขายังไม่พร้อมหางานใหม่หลังจากร
ตอนที่ 41 เอาแต่ใจ2 ปีต่อมา@มหาลัยรถอาวดี้คันหรูจอดสนิทข้างตึกคณะวิศวกรรมก่อนจะดึงร่างบางมาสวมกอดแล้วหอมแก้มนุ่มอย่างเช่นทุกวัน“ตั้งใจเรียนนะ เดี๋ยวตอนเย็นพี่มารับ”“โอเคค่ะ”“พี่เกมส์ก็ตั้งใจทำงานนะคะ” รมย์รวินท์โน้มตัวไปหอมที่แก้มเขากลับคืนแล้วก้าวลงจากรถแต่ถูกเขาดึงไว้อีกครั้ง“คะ พี่เกมส์”“ฝึกงานเมื่อไหร่”“อีกสองเดือนค่ะ”“พี่ว่าหนู...”“ค่อยคุยกันเรื่องนี้ได้ไหมคะพี่เกมส์” รมย์รวินท์เอ่ยแทรกขึ้นมาเมื่อเขาถามเรื่องฝึกงานอีกครั้ง คุยกันทีไรจบด้วยการเถียงกันและงอนกันทุกครั้งไป“โอเคครับ หวังว่าตอนเย็นพี่มารับหนูจะมีคำตอบให้พี่นะ”“รับทราบค่ะ”ฟู่ว!รมย์รวินท์ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้วเดินไปหาเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ในโรงอาหาร“เป็นอะไรกอบัว”“เครียด เรื่องฝึกงาน”“มีปัญหาหรอ เรื่องเกรดหรือติดกิจกรรมล่ะ ไปปรึกษาอาจารย์ไหม เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อน”
ตอนที่ 40 คบกันนะหลังจากเรื่องราวทุกอย่างเคลียร์จบเรียบร้อย ผมจึงพาเธอกลับมาที่คอนโดเพื่อเปลี่ยนชุด ก่อนจะพามาที่ร้านอาหารบนตึกสูงใจกลางเมืองรมย์รวินท์ในชุดเดรสสายเดี่ยวสีชมพูพิ้งค์โกลด์สั้นเหนือเข่าเดินเคียงข้างเขาในชุดสูทสีดำไม่ทางการ พอมองไปที่มือนุ่มก็ถูกเขากุมไว้ตลอดเวลาจนเธอต้องสลับมองหน้าเขาด้วยแววตาเป็นประกาย“มองแบบนี้พี่เขินนะ”“ก็พี่หล่อนี่คะ”“ไปเอาความปากหวานมาจากไหนหนอ”“พี่มุกกับพี่ชะเอมเคยบอกไว้ค่ะ ว่าพี่ชอบคนอ้อนๆ”“ไปเชื่อพวกมันสองคน โดยต้มจนเปื่อยแล้วมั้ง”“อ้าวไม่ชอบหรอคะ” รมย์รวินท์เอียงคอถามอย่างน่ารักจนกรภัคหลุดหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าเหวอของคนตัวเล็กกว่าแล้วโอบเอวดึงเธอมากอดแนบชิด“ชอบ แต่คนที่อ้อนพี่ ต้องเป็นเราเท่านั้นนะ ถ้าเป็นคนอื่นพี่ไม่ชอบ”“ไม่คุยด้วยแล้ว” รมย์รวินท์หันหน้าหนีซ่อนรอยยิ้ม แต่ลืมไปว่าเป็นกระจกซึ่งเห็นเงาที่สะท้อนออกมาเห็นเขายืนกลั้นขำจนหน้าแดง“อยากยิ้มก็ยิ้ม ไม่ต้องแอบหรอก พอโดนเอาคืนบ้าง ไปไม่เป็นเลยนะเรา”
ตอนที่ 39 คืนเกิดเหตุตึกคณะบริหารจีจี้เดินเล่นโทรศัพท์ลงมาจากตึกในช่วงห้าโมงเย็น ก่อนจะเดินไปนั่งรอคนขับรถที่บ้านมารับ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอร่างสูงใบหน้าหล่อที่ทำท่าถมึงทึง คนที่เธอพยายามพาตัวเองไปอยู่ใกล้ๆและตามจีบมานานนับเดือน แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่เธออยากวิ่งหนีไปให้ไกลๆ ถ้ามีวิชาหายตัวได้ก็คงจะดี“หยุดเลยนะจีจี้”“พี่เกมส์” จีจี้พูดเสียงสลดใบหน้าสวยซีดเผือด “จีจี้ขอโทษ”“รู้ไหมว่าสิ่งที่จีจี้ทำมันทำให้พี่วุ่นวายมากแค่ไหน”“แต่หมอบอกว่าพี่ไม่ถึงตายนะคะ แพ้แต่ไม่รุนแรง แล้วจีจี้ก็ไม่ได้ตั้งใจ จีจี้ขอโทษ”“ใครว่าพี่ไม่ตาย”“นี่จีจี้คุยกับวิญญาณพี่หรอคะ ฮือ จีจี้ขอโทษนะคะขนาดตายไปแล้วยังเป็นผีมาหลอกมาหลอนจีจี้อีก” จีจี้ตีโพยตีพายยกมือปิดหน้าปิดตาร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความกลัว แถวนี้ยิ่งไม่มีคนอยู่ด้วย“พี่ยังไม่ตาย แต่ที่บอกตายเพราะพี่ทรมานใจที่จีจี้ก่อเรื่องจนทำให้พี่กับกอบัวผิดใจกันต่างหาก”“อึกฮือ”“จีจี้ตั้งสติก่อน เลิกร
ตอนที่ 38 หวานต่อไม่รอแล้วนะไม่นานรถอาวดี้คันหรูจอดสนิทที่หน้าร้านอาหารริมชายหาด ภายในตกแต่งสไตล์โมเดิร์นกรุกระจกล้อมรอบ และยังมีโซนด้านนอกริมหาดที่ตกแต่งด้วยไฟสีเหลืองนวล และเสียงเพลงจากนักร้องยิ่งทำให้บรรยากาศโดยรวมช่างโรแมนติก“นั่งตรงไหนดี หืม” กรภัคโอบไหล่คนตัวเล็กแล้วโน้มมาถามด้วยน้ำเสียงเอ็นดู“ตรงโซนริมหาดดีกว่าค่ะ บรรยากาศกำลังดีเลย” สายลมพัดเอื่อยๆพัดกลิ่นอายทะเลขึ้นมาจนทำให้ร่างบางที่หน้าบึ้งตึงยิ้มกว้างออกมา นี่สินะกลิ่นอายทะเลบ้านเกิดที่ไม่ได้สัมผัสมานานหลังจากที่ย้ายไปเรียนในเมืองหลวง“ชอบไหม” ผมเอ่ยถามเสียงนุ่มพร้อมกับเกลี่ยปอยผมที่ปลิวไปตามแรงลมขึ้นทัดหูให้อย่างอ่อนโยน“ชอบมากค่ะ”“เห็นเรายิ้มได้พี่ก็ดีใจแล้ว”“ไม่ได้หลอกว่าอะไรหนูอยู่ใช่ไหมคะ”“เปล๊า ใครจะกล้า แล้วเราอยากกินอะไร สั่งเลยนะ วันนี้ป๋าเลี้ยงไม่อั้น” กรภัคเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเอ็นดูแววตายามมองคนตรงหน้าก็เปี่ยมไปด้วยรัก“จะเอาให้ขนหน้าแข้งป๋าร่วงเลย”“คงยากหน่อยนะ เพราะพี่รวยมาก”“จ้