ข้าวฟ่าง....
"แกแน่ใจแล้วใช่ไหมฟ่าง" ลูกศรเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของฉันพูดขึ้นหลังจากที่ขับพาฉันมาส่งถึงหน้ามหาลัยเพราะรถของฉันมันเสียตอนนี้ยังอยู่ที่อู่ซ่อมฉันเลยต้องอาศัยรถลูกศรมาก่อนส่วนลูกศรก็เรียนอยู่อีกมหาลัยหนึ่ง
"ถ้าแกหมายถึงเรื่องที่ฉันมาเรียนต่อที่นี่ฉันมั่นใจ"
"แต่แกก็รู้ว่าแกจะต้องเจอกับเอ่อกับ......" สีหน้าของลูกศรฉายแววหนักใจซึ่งฉันรู้และเข้าใจว่าลูกศรมันห่วงฉันเรื่องอะไร
"ก็เพราะฉันรู้ไงว่าจะต้องเจอฉันถึงเลือกที่มาเรียนต่อที่นี่ไม่เรียนที่เดียวกับแก"
"แต่ฉันเป็นห่วงแกนะฉันกลัวแกจะต้องเสียใจกับผู้ชายคนนั้นอีกเป็นครั้งที่สอง"
"มันจะไม่มีวันนั้นอีกแล้วล่ะฉันจะไม่ยอมเสียน้ำตาให้ผู้ชายใจร้ายสารเลวคนนั้นอีกเป็นอันขาด"
"ฉันจะดีใจมากถ้าแกทำได้แบบนั้นจริงๆน่ะฟ่าง"
"แกพูดเหมือนแกไม่เชื่อใจฉันลูกศร"
"บอกตามตรงเลยนะฟ่าง..ฉันรู้ว่าแกยังรักผู้ชายคนนั้นอยู่" สิ่งที่ลูกศรพูดมันคือความจริงแม้ที่ผ่านมาฉันจะไม่เคยเอ่ยชื่อของผู้ชายคนนั้นให้ใครได้ยินแต่จริงๆแล้วฉันยังรักผู้ชายเลวๆคนนั้นอยู่ ผู้ชายที่ทำให้ฉันเจ็บปวดเจียนตายผู้ชายที่ฉันจดจำไม่เคยลืม สามปีที่ผ่านมามันไม่ได้ช่วยทำให้ฉันลืมเขาได้เลยทั้งที่ฉันควรจะลืมเขาไปตั้งนานแล้ว ลืมสิ่งที่เขาเคยทำกับฉันโดยที่เขาไม่เคยรู้สึกผิด
"ฉันจะไม่ยอมอ่อนแออีกแล้วล่ะ" ฉันยิ้มให้ลูกศรเพื่อให้เธอสบายใจ
"ฉันเอาใจช่วยนะ"
"อื้มม^^"
"งั้นฉันไปเรียนก่อนนะเลิกเรียนแล้วจะมารับ"
"เครจ้าาา ขับรถดีๆนะ^^"
หลังจากที่ลูกศรขับรถออกไปฉันก็ยืนสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเหมือนยืนเรียกกำลังใจให้ตัวเองก่อนจะก้าวขาเข้าไปในมหาลัยด้วยใจที่มุ่งมั่น
ฉันขอแนะนำตัวนะคะฉันชื่อข้าวฟ่างอายุ22ปีฉันเรียนอยู่ปีหนึ่งคณะบริหารทุกคนคงจะงงและสงสัยว่าฉันอายุ22แล้วแต่ทำไมถึงเพิ่งมาเรียนปีหนึ่งทั้งที่จริงแล้วฉันควรต้องเรียนอยู่ปีสี่ คือเมื่อสามปีก่อนพอฉันจบมอหกปุ๊บฉันก็ไม่ได้เรียนต่อส่วนสาเหตุก็เพราะตอนนั้นฉันท้องค่ะ ฉันเลยคิดว่ารอจะให้คลอดลูกก่อนและรอให้ลูกโตก่อนแล้วค่อยกลับมาเรียนพราะฉันคิดว่าคนเราไม่มีใครแก่เกินเรียนขอแค่เราตั้งใจ สามปีที่ผ่านมาฉันตั้งใจเลี้ยงดูเด็กๆด้วยความรักทุ่มเททุกอย่างเพื่อพวกแกทั้งสองคน ค่ะทุกคนอ่านไม่ผิด...ทั้งสองคนที่ฉันพูดถึง...ก็คือฉันมีลูก2คนค่ะเป็นฝาแฝดชายหนึ่งหญิงหนึ่งตอนนี้อายุได้สามขวบแล้วกำลังซนเลยทีเดียว คนพี่เป็นผู้ชายค่ะชื่อน้องข้าวปั้นส่วนน้องสาวชื่อน้องข้าวแป้งค่ะ ส่วนพ่อของลูก...เค้าไม่รู้หรอกค่ะว่าตัวเองมีลูกและฉันก็ไม่เคยคิดที่จะบอกเขาให้รู้หรือรับผิดชอบด้วยเพราะฉันไม่อยากให้เขาเข้ามาเกี่ยวข้องอะไรกับฉันกับลูกและที่สำคัญฉันก็คือไม่เจอเขามาสามปีเกือบสี่ปีแล้วล่ะค่ะที่ไม่ได้เจอไม่ใช่เพราะฉันหนีหรือหลบหน้าเขาจนเขาตามหาฉันไม่เจอหรอกนะคะแต่เขาไม่เคยมาหาฉันเลยต่างหากไม่เคยสนใจด้วยว่าฉันจะเป็นยังไงหลังจากที่เราเลิกกัน แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเราเลิกกันแล้วเขาจะตามหาฉันทำไมจริงไหมและฉันก็ไม่เคยคิดด้วยว่าเขาจะตามหาฉันหรือมาง้อขอคืนดีกับฉันเพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้ที่คนอย่างเขาจะง้อใครโดยเฉพาะฉันที่เขาแค่มาหลอกให้รักพอได้ในสิ่งที่เขาต้องการพอเขาเบื่อเขาก็....ก็ช่างมันเถอะค่ะเรื่องราวเจ็บปวดพวกนั้นเพราะตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือลูก ที่ผ่านมาฉันเลี้ยงดูลูกทั้งสองคนเพียงลำพังคนเดียวเพราะฉันไม่มีพ่อไม่มีแม่ เพราะพ่อกับแม่ของฉันท่านเสียไปหลายปีก่อนด้วยอุบัติเหตุทางเครื่องบิน ตอนนั้นฉันเรียนอยู่มอหนึ่งอายุเพิ่งสิบห้าฉันเสียใจมากอยากตายตามท่านไปเพราะตอนนั้นมันเหมือนเหลือฉันตัวคนเดียวบนโลกใบนี้จากที่เคยมีครอบครัวที่อบอุ่นมีพ่อมีแม่กลับกลายเป็นเด็กกำพร้าไม่มีพ่อไม่มีแม่ส่วนญาติพี่น้องมีก็เหมือนไม่มีเพราะทุกคนไม่มีใครสนใจใยดีฉันเลยสักคนทุกคนเอาแต่พูดว่าฉันเป็นตัวซวยไม่อยากเอาไปเป็นภาระ ตั้งแต่นั้นมาฉันก็อยู่ด้วยตัวเองคนเดียวมาตลอดทำอะไรเองคนเดียวทุกอย่างจากที่ทำอะไรไม่เป็นเลยเพราะมีแม่บ้านคอยทำให้ทุกอย่างแต่มาตอนนี้ฉันทำเองเป็นหมดทุกอย่างไม่ว่าจะทำกับข้าวกินเองซักผ้าล้างจานทำความสะอาดบ้านรดน้ำต้นไม้ถามว่าลำบากมั้ยตอนแรกๆก็ลำบากนะลำบากมากจากเด็กอายุสิบห้าที่ทำอะไรเองไม่เป็นแต่มาตอนนี้สบายมาก ฉันต้องขอบคุณความลำบากที่ทำให้ฉันเติบโตและเข้มแข็งมาจนถึงทุกวันนี้
วันต่อมา...ข้าวฟ่าง...วันนี้ฉันกับเตอร์เราตื่นกันแต่เช้าเพราะเตอร์จะพาฉันไปหาหมอที่โรงพยาบาลคือพักนี้ฉันเป็นอะไรก็ไม่รู้มันรู้สึกหดหู่เศร้าๆ แปลกๆ และมักจะเป็นช่วงค่ำๆ ด้วยนะ พอพระอาทิตย์ตกดินปุ๊บฉันจะเริ่มมีอาการทันทีมันเป็นเองโดยอัตโนมัติจนฉันกลัวว่าตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้าเพราะคิดถึงลูกตอนนี้เราพาเด็กๆ มาที่บ้านของเตอร์เพราะตอนนี้เราสองคนได้จ้างใบบัวให้เป็นพี่เลี้ยงเด็กๆ ซึ่งใบบัวก็ทำได้ดีมากเธอเลี้ยงเด็กเก่งมากจนฉันแปลกใจถ้าบอกว่าเคยมีลูกมาก่อนฉันก็เชื่อนะแต่คงเป็นไปไม่ได้เพราะใบบัวยังไม่เคยมีแฟนจะมีลูกได้ยังไงแถมเธอก็อยู่ที่นี่มาหลายปีฉันไม่เห็นเธอท้องเลยแล้วเธอจะไปมีลูกตอนไหนฉันคงคิดมากไปเอง"บัวไปไหนปกติเวลานี้ต้องมารอรับเด็กๆ แล้วนะ" เตอร์พูดพร้อมกับมองไปรอบๆ บ้านเพราะปกติเวลานี้ใบบัวจะมารอเด็กๆ อยู่หน้าบ้านแต่วันนี้ไม่เห็นเธอออกมาเลยหรือเธอจะไม่สบาย"หรือว่าบัวไม่สบาย""อืมอาจจะเป็นไปได้ งั้นเอาไงดี เตอร์ไม่อยากพาเด็กๆ ไปโรงพยาบาลเลยอ่ะเชื้อโรคมันเยอะ""ถ้างั้นฝากฟิวก็ได้นะแต่ไม่รู้จะตื่นหรือยัง" เพราะเด็กๆ ทั้งสองคนจะสนิทกับฟิวเหมือนกันฉันเลยคิดว่าถ้าใบบัวไม่สบายจริงๆ คนที
ฮันเตอร์..."ขอพ่อกอดแม่หน่อยไม่ได้เหรอค๊าบลูกพ่อก็คิดถึงแม่ฟ่างเหมือนกันนะ>ลูกชายจอมแสบทั้งสองคนที่หวงแม่ยิ่งกว่าอะไรทุกวันนี้ผมกับฟ่างแทบไม่มีเวลาได้จู๋จี๋กันเลยเพราะเจ้าตัวแสบทั้งสองไม่ยอมแยกไปนอนห้องตัวเองผมกับฟ่างก็เลยต้องซื้อเตียงมาไว้ในห้องนอนของเราเพื่อให้เด็กๆ ได้นอนด้วยกัน แต่รู้มั้ยว่าใครที่ต้องไปนอน ผมเองครับเพราะเจ้าตัวแสบจะงอแงไม่ยอมนอนที่นอนของตัวเองบอกอยากนอนกอดแม่ผมก็เลยต้องเนรเทศตัวเองไปนอนเตียงลูกแทน อยากจะบอกว่าตั้งแต่เด็กๆ รู้ความ พูดเป็นพูดได้ก็พูดจ้อไม่หยุดพูดจนลิงหลับส่วนเรื่องความแสบความซนไม่ต้องห่วง ทั้งดื้อทั้งแสบจนผมอยากจะจับไปปล่อยสวนสัตว์วันละหลายร้อยรอบแต่ผมก็มีวิธีกำราบของผมเพราะผมเลี้ยงมาเองกับมือทำไมผมจะไม่รู้ว่าเด็กๆ นิสัยเป็นยังไงชอบอะไรไม่ชอบอะไร และตั้งแต่เจ้าตัวแสบโตโอกาสที่ผมจะได้นอนกอดเมียหรือทำกิจกรรมเข้าจังหวะกับเมียมันช่างเป็นอะไรที่ยากเย็นสุดๆ ทุกวันนี้นะถ้าไม่แอบอุ้มเมียออกมานอนห้
ฮันเตอร์..."ทำไมเตอร์มองไม่เห็นอะไรเลยฟ่าง" พอผมพูดแบบนั้นออกไปทุกคนก็ทำหน้าเศร้าจนผมรู้สึกผิดที่ผมโกหกว่าตัวเองมองไม่เห็นแต่อันที่จริงแล้วผมมองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนโดยเฉพาะผู้หญิงตรงหน้าที่ผมเรียกว่าเมีย"........" ใบหน้าของฟ่างซีดลงทันทีจนผมอดสงสารไม่ได้ ในตอนแรกที่ผมค่อยๆ ลืมตาผมเห็นแววตาของเธอสดใสและมีความหวังแต่พอผมบอกว่ามองไม่เห็นแววตาของเธอก็เปลี่ยนไปในทันทีมันบ่งบอกได้ว่าเธอเศร้าและเสียใจมากแค่ไหนที่ผมบอกว่ามองไม่เห็น"คุณเตอร์...มองไม่เห็นอะไรเลยเหรอครับ" คุณหมอทำท่าทางแปลกใจก่อนจะถามผมซึ่งผมก็บอกไปตามความจริงว่า"ใช่ครับคุณหมอทำไมผมถึงมองไม่เห็นอะไรเลย....นอกจากความสวยของเมีย^~^" ผมพยายามยิ้มเพื่อให้ฟ่างรู้สึกดีแต่เปล่าเลยครับ"0-0" แม่"??? " ป๊า"ว่าไงนะ!!! " ไอ้ฟิว".........." ฟ่าง"ทำไมทุกคนทำหน้าแบบนั้นกันล่ะครับ ผมก็แค่พูดว่าผมมองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากเมียของผมที่ยืนอยู่ตรงหน้า ผมเห็นแค่เธอคนเดียว คนสวยของผม^^" พอผมพูดจบประโยคมือเล็กๆ ของฟ่างก็เงื้อสูงขึ้นทันทีพร้อมอารมณ์โกรธผมรู้เลยว่าเธอกำลังจะทำอะไรเธอไม่ได้จะตบยุงแต่เธอจะตบผม มือผมไวกว่าเลยรีบคว้ามือของเธอไว้ได้ทัน
ฮันเตอร์....ตอนนี้ตาของผมยังถูกปิดไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เนื่องจากเพิ่งผ่าตัดตามาแต่ก็ดีใจที่พอผมตื่นขึ้นมาแล้วมีฟ่างอยู่ข้างๆ เธออยู่กับผมไม่ไปไหนมันทำให้ผมอุ่นใจขึ้นมาก"ฟ่าง" ผมไม่รู้ว่าตอนนี้เธอกำลังทำอะไรอยู่เพราะเธอเงียบมาก หรือเธอจะหลับ"หื้มมม" เสียงเหมือนงัวเงีย"ทำอะไรอยู่ หลับอยู่หรือเปล่า""อื้ม""ขอโทษนะที่ปลุกถ้าง่วงก็หลับต่อเถอะ" ผมรู้สึกผิดที่เรียกหาเธอทั้งที่เธอกำลังหลับอยู่"ไม่ง่วงแล้วล่ะ ว่าแต่เตอร์เป็นอะไรปวดตาเหรอ""เปล่าหรอกแค่อยากกอดฟ่างอยากอยู่ใกล้ๆ ""ก็เพิ่งกอดไปเมื่อกี๊เองนะจะกอดอีกแล้วเหรอ""กอดทั้งชีวิตก็กอดได้""รู้สึกจะปากหวานขึ้นนะตั้งแต่ผ่าตัดมาเนี๊ยะ""ก็อยากพูดจาเพราะๆ กับเมียบ้างไม่ได้เหรอ"หมับ!! เสียงกอด"อ่ะกอดแล้วพอใจยังคะ" ฟ่างเดินมากอดผมผมก็เลยเอื้อมมือไปโอบเอวฟ่างเอาไว้ในท่าที่ตัวเองยังนอนอยู่ทำให้ตอนนี้ใบหน้าของผมก็ซบลงที่หน้าท้องของฟ่างพอดีครืดดดด ครืดดดด"หืมมม?? เสียงอะไร" ผมพูดออกมาเพราะจู่ๆ ผมก็รู้สึกได้ถึงหน้าท้องของฟ่างที่มีเสียงครืดๆ และไม่รู้ว่าผมหูแว่วหรือคิดไปเองหรือเปล่าว่าท้องของเธอมันเหมือนมีอะไรเคลื่นไหวอยู่ข้างใน"ฟ่าง ฟ่า
ข้าวฟ่าง...."เตอร์....ฟ่างมีข่าวดีจะบอกกับเตอร์ด้วยนะ" ฉันลุกขึ้นยืนขึ้นแล้วจับมือของเขามาวางไว้ที่หน้าท้องของฉันแล้วจับมือเขาลูบเบาๆ ตรงบริเวณหน้าท้องที่นูนขึ้นมาเล็กน้อย"ฟ่างท้องได้สามเดือนแล้วนะเตอร์เตอร์ดีใจมั้ยเรากำลังจะมีลูกด้วยกันอีกแล้วนะ" ฉันบอกข่าวดีให้เขารู้เผื่อว่าถ้าเขาได้ยินเขาจะรีบฟื้นขึ้นมา ฉันเพิ่งรู้ว่าตัวเองท้องเมื่อไม่กี่วันนี่เองหลังจากที่ฉันกับฟิวพาเตอร์มาส่งโรงพยาบาลเนื่องจากว่าวันนั้นเตอร์บ่นปวดหัวมาตลอดทั้งวันแม้เขาจะบอกว่าเขาไหวไม่เป็นไรแต่ฉันไม่เชื่อฉันก็เลยแอบโทรไปหาฟิวขอให้ฟิวมาหาที่คอนโดเพื่อที่จะพาเตอร์ส่งโรงพยาบาล โชคดีที่วันนั้นเด็กๆ ไปนอนที่บ้านป๊าเพราะไมงั้นเด็กๆ อาจจะตกใจจนร้องไห้ที่เห็นพ่อไม่สบาย ซึ่งตอนนั้นฟิวกับทุกคนยังไม่รู้ว่าเขาป่วยเพราะเขากลัวว่าทุกคนจะเป็นห่วงเขา พอฟิวมาถึงเขาก็ถามว่าเตอร์เป็นอะไรกันแน่ฉันจึงต้องยอมบอกความจริงกับฟิว รู้ไหมว่าพอฟิวรู้ฟิวด่าเตอร์ไปชุดใหญ่ ส่วนเตอร์ก็เถียงอะไรไม่ออกเพราะตัวเองก็ลุกไม่ไหว หลังจากนั้นฟิวก็ขับรถพาฉันกับเตอร์มาที่โรงพยาบาลคุณหมอเจ้าของไข้ของเตอร์รีบพาเขาเข้าห้องตรวจทันทีฉันกับฟิวนั่งรออยู่หน้าห้อ
ข้าวฟ่าง.....ตอนนี้เตอร์กำลังขับรถมาส่งฉันที่มหาลัยหลังจากที่เราพาเด็กๆ ไปฝากไว้กับแม่เฟื่องที่บ้านเพราะที่โรงเรียนของเด็กๆ ปิดเทอม ฉันก้มมองดูแหวนที่นิ้วตลอดทางดูไปก็ยิ้มไปมันบรรยายความรู้สึกไม่ถูกเหมือนมันฝันไป เตอร์ขอฉันแต่งงานจริงๆ แหวนที่นิ้วคือหลักฐานยืนยันได้ว่ามันคือเรื่องจริงมันคือความจริง"ชอบใช่มั้ย" เตอร์หันมาถามฉัน"ชอบสิชอบมากเลยขอบคุณนะ^^" ฉันตอบเขาพร้อมกับส่งยิ้มไปให้อย่างอารมณ์ดี"ดีใจนะที่ฟ่างชอบถ้าไม่ชอบเตอร์จะได้พาไปดูวงใหม่" หืมมมพ่อสายเปย์ ฉันคิดคนเดียวในใจ แต่เอาจริงๆ นะต่อให้แหวนที่เขาขอฉันแต่งงานมันจะไม่มีค่าไม่มีราคาอะไรเลยฉันก็พร้อมที่จะแต่งงานกับเขาอยู่ดีเพราะฉันรักเขา"ไม่ต้องหรอกเพราะแหวนวงนี้คือแหวนที่เตอร์เลือกให้แล้วก็เป็นแหวนขอแต่งงานต่อให้มันเป็นแค่แหวนวงละร้อยเก้าสิบเก้าฟ่างก็ชอบมันอยู่ดี""ใครจะไปซื้อแหวนร้อยเก้าเก้ามาขอเมียแต่งงานบ้าป่าวฟ่าง ระดับเตอร์ต้องไม่ต่ำกว่าล้าน""จ้าาาพ่อสายเปย์ พ่อคนรวย""ก็เปย์ให้แค่ลูกกับเมียเท่านั้นแล่ะค๊าบบบบบ""ก็ลองให้ผู้หญิงอื่นดูสิ""ใครจะกล้า ตอนนี้เตอร์มีแค่ฟ่างคนเดียว""แค่ตอนนี้เหรอ""ตลอดไปสิ นับจากวันนี้เป