แชร์

บทที่ 35 เข้าวัง

ผู้เขียน: BigM00N
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-22 22:06:37

หลังผ่านพ้นพิธีปักปิ่นไปหลินเหม่ยเหยาก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกติอยู่ในจวน ยามนี้เหตุการณ์หลายอย่างในชีวิตของนางได้เปลี่ยนแปลงไป ผลกระทบน่าจะเกิดจากการที่นางได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่และได้แก้ไขชีวิตของตนเองอีกครั้ง เดิมทีนางเคยคิดว่าตนเองถือไพ่เหนือกว่าผู้อื่นตรงที่ได้ย้อนกลับมาและรู้เหตุการณ์ที่จะเกิดล่วงหน้า แต่พอหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตได้เปลี่ยนไปความมั่นใจในการรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าของนางก็เริ่มจะสั่นคลอน

‘อย่างน้อยยามนี้ข้าก็ยังไม่ได้แต่งงาน’ หลินเหม่ยเหยาคิดพลางค่อยๆ ไล่อ่านรายการสั่งซื้อสมุนไพรของหอเซียงอวี้อย่างตั้งอกตั้งใจ

ในชาติก่อนยามนี้นางกำลังเตรียมตัวเข้าพิธีแต่งงานกับซ่งเสวี่ยหรงแล้ว แต่ชาตินี้แม้ว่าจะมีราชโองการพระราชทานสมรสแล้ว แต่วันแต่งงานกลับยังไม่ได้มีกำหนดการลงมา อีกทั้งจากที่นางรู้มาหยางเจี้ยนได้บอกกับผู้อาวุโสในจวนของเขาว่าเรื่องกำหนดงานแต่งงานยังไม่ต้องเร่งรีบ ช่วงนี้เขามีภารกิจรัดตัวหากจะจัดงานปีนี้คงจะไม่เหมาะ ดังนั้นบรรดาผู้อาวุโสทั้งสองจวนจึงได้นัดหมายกันว่าจะหาฤกษ์แต่งในปีหน้าแล้วจะกำหนดวันแต่งงานร่วมกันอีกครั้ง

เมื่อทั้งสองจวนตกลงกันได้เช่นนี้หลินเหม่ยเหยาจึงได้ใช้
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 81 ตอนพิเศษที่สอง ความในใจสวีหย่วน

    คุณหนูสกุลฉางกำลังจะแต่งงาน ข่าวนี้ทำให้ผู้คนในเมืองหลวงต่างพากันแตกตื่นและก็พากันสงสัยว่าใครกันที่จะเป็นเจ้าบ่าวผู้โชคร้ายคนนั้น ที่น่าประหลาดใจก็คือใกล้จะถึงวันมงคลอยู่แล้วแต่จวนสกุลฉางกลับไม่ได้จัดเตรียมงานมงคล แต่จวนที่จัดเตรียมงานมงคลกลับเป็นจวนสกุลหยาง จึงมีหลายคนต่างพากันพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเจ้าสาวอย่างฉางเจียกำลังจะแต่งออกจากจวนสกุลหยาง“เป็นเรื่องที่บ้าไปแล้ว ก่อนหน้านี้นางทำตัวหน้าไม่อายไปขอพักอาศัยที่จวนสกุลหยางก็เป็นเรื่องที่คนทั่วไปไม่กล้าทำอยู่แล้ว แต่ยามนี้นางยังกล้าจัดงานพิธีส่งตัวขึ้นเกี้ยวที่จวนสกุลหยางอีกช่างเป็นสตรีที่ไร้ความเกรงอกเกรงใจเสียจริง” เสียงติฉินนินทาทำให้สวีหย่วนขมวดคิ้ว ในใจของเขารู้สึกไม่สบายใจอยู่แล้วที่ได้รู้ว่าฉางเจียกำลังจะแต่งงานกับผู้อื่น และยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อได้รู้ว่านางแต่งออกไปอย่างไม่ปกติ ในฐานะบุตรสาวเพียงคนเดียวของท่านแม่ทัพฉาง แม้ว่าจะสิ้นไร้บิดาไปแล้วแต่นางก็ยังมีหน้ามีตามากเพียงพอที่จะแต่งออกจากจวนสกุลฉางโดยไม่อายผู้ใด แต่การที่นางแต่งออกจากสกุลหยางเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกว่าเรื่องที่ไม่ปกติเท่าใดนัก“ญาติผู้พี่ช่ว

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 80 ตอนพิเศษที่หนึ่ง ฉางเจีย

    ‘ข้าเคยพูดว่าเขาเป็นคนหน้าตาธรรมดาหรือ ข้าเคยพูดตอนไหนกันนะ’ นี่คือความคิดของฉางเจียหลังจากที่นางมอบถุงผ้าปักของตนเองให้สวีหย่วนเพื่อเป็นของแทนใจแต่กลับถูกเขาส่งคืนมาให้แถมยังบอกกับนางว่า“คุณหนูเคยเอ่ยกับข้าว่าข้าเป็นคนที่มีหน้าตาธรรมดา ดังนั้นคนที่มีหน้าตาธรรมดาเช่นข้าจึงไม่คู่ควรที่คุณหนูฉางจะมาชื่นชอบหรอก” คำตอบของเขาพร้อมกับถุงผ้าปักที่ถูกส่งคืนทำให้ฉางเจียยื่นนิ่งอยู่กับที่ด้วยความสับสนวุ่นวายใจ“คุณหนูพวกเรารีบกลับจวนกันเถิด หากมัวชักช้าจะมืดค่ำเอาได้นะเจ้าคะ” คำพูดของสาวใช้ทำให้ฉางเจียตื่นจากภวังค์ความคิดในที่สุด นางหันไปมองสวีหย่วนอีกครั้งด้วยความปวดใจแล้วจึงได้เดินทางกลับจวนของตนเองด้วยความเหม่อลอยสวีหย่วนคือชายหนุ่มที่มีอนาคตไกล มีอายุแค่เพียงยี่สิบต้นๆ เขาก็ได้เป็นเจ้ากรมอาญาแล้ว ส่วนนางเป็นสตรีที่กำลังจะพ้นวัยออกเรือนแล้ว เดิมทีนางไม่คิดว่าตนเองจะถูกใจบุรุษคนใดนอกจากญาติผู้พี่ของตนเองอีกแล้ว จวบจนนางได้เห็นเขาตอนที่กำลังแสดงฝีมือจับกุมคนร้ายนางจึงได้รู้ว่าบนโลกใบนี้ยังมีคนที่มีความห้าวหาญไม่แตกต่างไปจากญาติผู้พี่ของนางเลย สายตาเย็นชาที่เขาใช้จ้องมองนางทำให้นางรู้สึกได้ว่า

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 79 บทสรุปของชีวิต

    ซ่งเสวี่ยหรงและกัวไป๋จิ้งถูกตัดสินประหารชีวิตในวันเดียวกัน คนสกุลกัวทั้งสกุลพลอยติดร่างไปด้วย ส่วนคนอื่นๆ ในสกุลซ่งได้รับการอภัยโทษและถูกเนรเทศไปอยู่ชายแดนตลอดชีวิต หวังจื่อเถียนทนรับความลำบากไม่ไหวแขวนคอตนเองตายไปในที่สุด หลินเหม่ยเหยารับฟังเรื่องราวเหล่านี้ด้วยจิตใจอันว่างเปล่า บุญคุณความแค้นในชาติที่แล้วยามนี้นางสามารถปล่อยวางลงได้แล้ว ยามนี้สิ่งเดียวที่สามารถดึงดูดความสนใจของนางได้ก็มีแค่เพียงลูกในท้องที่กำลังจะเกิดมาเพียงเท่านั้นปราบปรามกบฏและสยบเหตุการณ์ก่อจลาจลได้สำเร็จ หยางเจี้ยนก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นไหวกั๋วกงสามารถเข้าเฝ้าได้โดยไม่ต้องคุกเข่าอีกทั้งยังสามารถพกอาวุธเข้าไปในเขตพระราชฐานชั้นในได้อีกด้วย หลินเหม่ยเหยาจึงพลอยได้เป็นไหวกั๋วกงฮูหยินไปด้วย นางได้รับความริษยาจากบรรดาสตรีทั่วทั้งเมืองหลวง ไม่เพียงมีวาสนาที่ดีแต่ยังได้รับความรักจากสามีอย่างล้นเหลือจนทำให้ผู้อื่นอดริษยาไม่ได้ไหวกั๋วกงไม่เพียงกว้านซื้อกิจการร้านค้าให้นางอย่างใจกว้าง แต่ยังประกาศต่อหน้าธารกำนัลว่าชาตินี้จะไม่รับสตรีอื่นเข้าจวนอีก ดังนั้นหากผู้ใดกล้ายัดเยียดอิสตรีมาให้เขาก็จงเตรียมตัวรอรับการลงทัณฑ์จาก

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 78 กำจัดเศษขยะชิ้นสุดท้าย

    ยามที่หยางเจี้ยนขี่ม้าไปถึงจวนก็เห็นว่าคนของกรมอาญามาอยู่ที่จวนอย่างผิดปกติ เขารีบเดินไปลากคอของกัวไป๋จิ้งให้ลงจากหลังม้าอย่างรวดเร็วในทันที โดยที่เขาไม่สนใจว่ากัวไป๋จิ้งตั้งหลักได้หรือไม่ ดังนั้นภาพที่ทุกคนเห็นก็คือแม่ทัพใหญ่หยางกำลังลากคุณชายกัวในสภาพเนื้อตัวชุ่มไปด้วยเลือดเข้าไปในจวนสกุลหยาง“เหยาเหยา” เมื่อเข้าไปในจวนได้เขาก็ตะโกนเรียกชื่อของภรรยาในทันที ทำให้หลินเหม่ยเหยาที่กำลังมอบยาถอนพิษให้กับข้ารับใช้ภายในจวนต้องรีบเดินออกมาหาเขา“ท่านกลับมาแล้ว” หลินเหม่ยเหยาส่งเสียงทักทายเขาออกมาด้วยความยินดี เมื่อเขาเห็นนางก็เหวี่ยงกัวไป๋จิ้งให้สวีหย่วนที่กำลังยืนทำหน้าเคร่งเครียดอยู่แล้วก็รีบวิ่งไปดึงร่างของนางมาโอบกอดเอาไว้“เจ้าไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงของเขาทำให้หลินเหม่ยเหยารีบพยักหน้าแล้วเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงปลอบโยนเพื่อให้เขาสบายใจในทันที“ท่านวางใจได้ข้าไม่ได้เป็นอันใด บ่อน้ำที่ใช้ภายในจวนล้วนต้องผ่านการตรวจสอบจากคนของข้าที่นำมาจากร้านฝูโซ่วก่อน มีเพียงข้ารับใช้แค่เพียงไม่กี่คนเพียงเท่านั้นที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งดื่มน้ำในบ่อก่อนตรวจสอบ ก็เลยทำให้พวกเขาไ

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 77 จุดจบของจางซิงซิน

    ทางฝั่งของหยางเจี้ยนยามนี้เขากำลังไล่ล่ากวาดล้างคนของฉินอ๋องที่ซุกซ่อนอยู่ในต่างเมือง ความวุ่นวายในเมืองหลวงมีคนของกรมอาญาและจิ่นหรงคอยดูแลความสงบเรียบร้อย ส่วนเขานำกองกำลังอีกส่วนหนึ่งคอยติดตามจับกุมกัวไป๋จิ้งและจางซิงซิน“จางซิงซินหากเจ้ายินยอมมอบตัวแต่โดยดี ข้าก็ยินดีที่จะไว้ชีวิตบุตรชายที่พึ่งจะคลอดออกมาของเจ้า” หยางเจี้ยนที่ในยามนี้นำกองกำลังส่วนหนึ่งล้อมรอบบ้านหลังหนึ่งเอาไว้ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดังกึกก้อง“หากเจ้าไม่ยินดีจะมอบตัววันนี้ข้าคงทำได้แค่เพียงต้องจบชีวิตของพวกเจ้าสองแม่ลูกในกองเพลิงเพียงเท่านั้น” คำพูดของเขาทำให้จางซิงซินค่อยๆ อุ้มห่อผ้าออกมาจากบ้านหลังนั้น สภาพเนื้อตัวของนางไม่หลงเหลือเค้าความงามอีกต่อไปแล้ว เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งและเก่าคร่ำคร่า ร่างกายที่พึ่งจะคลอดบุตรได้ไม่นานแต่กลับไม่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างที่ควรจะเป็นทรุดโทรมจนแทบจะเดินไม่ไหว นางไม่มีทางเลือกมากนักเพราะคนที่หลบอยู่ในบ้านหลังนั้นสั่งให้นางอุ้มลูกออกมามอบตัว ไม่เช่นนั้นพวกนางสองแม่ลูกก็จะถูกพวกเขาฆ่าทิ้งเช่นเดียวกัน นางจึงทำได้แค่เพียงอุ้มทารกน้อยออกมามอบตัวด้วยสภาพสิ้นไร้หนทาง“ท่านแม่ทัพได้โปรด

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 76 ตั้งครรภ์

    ฉางเจียไม่สนใจคำครหาของผู้คน นางเข้ามาอยู่ในจวนสกุลหยางราวกับที่นี่เป็นจวนของตนเอง ที่สำคัญนางเฝ้าติดตามหลินเหม่ยเหยาราวกับเงา แต่หลินเหม่ยเหยากลับไม่ได้รังเกียจนางอีกทั้งยังอยู่ร่วมกับฉางเจียราวกับว่านางคือพี่สาวน้องสาวคนหนึ่ง ซ่งเสวี่ยหรงทนได้รับการสอบสวนจากกรมอาญาไม่ไหวยอมรับสารภาพออกมาว่าเขาได้รับการติดต่อจากกัวไป๋จิ้งให้หาวิธีเข้าไปวางยาพิษเสวียนหมิงหลงฮ่องเต้ แต่เพราะช่วงนี้เขาถูกขับออกจากสำนักแพทย์หลวงทำให้เขาต้องยื่นข้อต่อรองขอให้กัวไป๋จิ้งหาวิธีให้เขาได้กลับเข้าไปทำงานในสำนักแพทย์หลวงอีกครั้งกัวไป๋จิ้งจึงสั่งให้เขาสังหารอนุจากสกุลหยางของตนเองก่อนเพื่อที่จะได้เอาอกเอาใจคนสกุลหวัง แล้วหลังจากนั้นกัวไป๋จิ้งจะไปช่วยพูดกับคนสกุลหวังเพื่อช่วยเขา ช่วงนี้กัวไป๋จูกำลังตั้งครรภ์อยู่แม้ว่านางจะมีฐานะแค่เพียงอนุ แต่ทารกที่อยู่ในครรภ์ของนางถือเป็นหลานคนแรกของท่านเสนาบดีหวัง กัวไป๋จิ้งจึงตั้งใจจะใช้การตั้งครรภ์ของน้องสาวเป็นสะพานให้ตนเองตีสนิทกับสกุลหวังและตั้งใจว่าจะเข้าไปช่วยพูดกับท่านเสนาบดีหาวิธีผลักดันซ่งเสวี่ยหรงด้วย ซ่งเสวี่ยหรงเกรงว่ากัวไป๋จิ้งจะเปลี่ยนใจ เขาจึงได้เก็บจดหมายที่ใช้ต

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 75 อบอุ่นในหัวใจ

    การตายของหยางสุ่ยเซียนทำให้ทุกคนในจวนสกุลซ่งถูกไต่สวน ทั่วทั้งจวนสกุลซ่งถูกตรวจค้นอย่างละเอียดจนพบว่าซ่งเสวี่ยหรงเป็นคนปรุงยาพิษด้วยตนเองแล้วสั่งให้สาวใช้ช่วยกันนำยาพิษนั้นไปกรอกหยางสุ่ยเซียนจนนางเลือดออกจากทวารทั้งเจ็ดแล้วก็ตายไปในที่สุด โดยมีหวังจื่อเถียนผู้เป็นฮูหยินของเขาร่วมมีส่วนรู้เห็นการกระทำของเขาด้วยซ่งเสวี่ยหรงไม่เพียงมีความผิดเรื่องฆ่าหยางสุ่ยเซียน แต่หลังจากตรวจค้นอย่างละเอียดแล้วคนของกรมอาญายังตรวจพบจดหมายที่ใช้ติดต่อกันระหว่างกัวไป๋จิ้งและซ่งเสวี่ยหรงอีกด้วย เนื้อความในจดหมายเอ่ยถึงแผนการช่วยเหลือฉินอ๋องออกจากคุกหลวง อีกทั้งยังเอ่ยถึงเรื่องการพยายามวางยาอีกครั้งและครั้งนี้ซ่งเสวี่ยหรงจะต้องเป็นคนลงมือเอง เมื่อเจ้ากรมอาญาตรวจพบจดหมายนี้อีกทั้งยังมีเบาะแสเรื่องการวางยา จึงได้จัดการลากตัวซ่งเสวี่ยหรง หวังจื่อเถียนผู้เป็นฮูหยินของเขาและกัวไป๋จิ้งเข้าคุกของกรมอาญา ซ่งเสวี่ยหรงกับฮูหยินถูกส่งตัวเข้าคุกแล้วแต่กัวไป๋จิ้งกลับสามารถหลบหนีไปได้ส่วนศพของหยางสุ่ยเซียนนั้นหยางเม่าไปรับศพนางกลับมาจัดพิธีศพอย่างเรียบง่ายให้นางด้วยตนเอง ชื่อของนางถูกลบออกจากผังสกุลของสกุลหยางแล้วดังนั้

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 74 จุดจบของหยางสุ่ยเซียน

    ในขณะที่หลินเหม่ยเหยากำลังต้อนรับแขกในโถงรับแขกของจวน ทางฝั่งของสวีเยียนก็ได้รับข่าวคราวที่ไม่ค่อยจะดีนักของหยางสุ่ยเซียน“คุณหนูแย่แล้วเจ้าค่ะ” อิงจื่อเข้ามากระซิบที่หูของหลินเหม่ยเหยาด้วยความร้อนรน“คุณหนูสามดื่มยาพิษฆ่าตัวตายเจ้าค่ะ” เมื่ออิงจื่อเอ่ยเช่นนี้หลินเหม่ยเหยาก็พลันขมวดคิ้วในทันที“พิษชนิดใด” เมื่อนางเอ่ยถามเช่นนี้อิงจื่อก็เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่น“ได้ยินว่าเป็นพิษหงอนกระเรียนแดงเจ้าค่ะ” คำพูดของอิงจื่อทำให้หลินเหม่ยเหยานิ่งงันไปในทันที ชาติก่อนนางก็ถูกหยางสุ่ยเซียนและซ่งเสวี่ยหรงกรอกยาพิษชนิดนี้“คุณหนูสามที่สาวใช้ผู้นี้เอ่ยถึงคงจะไม่ใช่หยางสุ่ยเซียนกระมัง” ฉางเจียเอ่ยถามออกมาด้วยความร้อนใจ นางเป็นผู้ฝึกยุทธ์เสียงกระซิบกระซาบที่อยู่ใกล้ถึงเพียงนี้นางย่อมจะได้ยิน“ใช่แล้ว ที่สาวใช้ของข้าพูดถึงก็คือคุณหนูสามของจวนนี้ หยางสุ่ยเซียน” เมื่อรู้ว่าไม่อาจจะปิดบังได้แล้วหลินเหม่ยเหยาจึงได้ยอมรับออกมาตามตรง“จะเป็นไปได้อย่างไร คนอย่างหยางสุ่ยเซียนไม่มีทางยอมตายง่ายๆ หรอก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องยาพิษ คนเช่นนางหากสามารถหายาพิษได้ เอาไปลอบฆ่าคนที่นางเกลียดชังจะไ

  • ขยะผู้นี้ข้ายกให้เจ้า   บทที่ 73 ฉางเจีย

    หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จหยางเจี้ยนจึงได้ตัดสินใจออกจากจวนไปตรวจความเรียบร้อยของกองกำลังของตนเอง และนำกองกำลังบางส่วนเข้าไปควบคุมสถานการณ์ที่เมืองอู่ติ้งด้วยตนเอง เขาไม่แน่ใจว่าไปคราวนี้ต้องใช้เวลากี่วัน แต่เพราะหลินเหม่ยเหยารับปากกับเขาแล้วว่าจะจัดการเรื่องราวทุกอย่างภายในจวนด้วยตนเอง เขาเชื่อมั่นในตัวนางจึงได้ไปจัดการสะสางภารกิจของตนเองได้อย่างไร้ความกังวลหลังจากที่หยางเจี้ยนออกจากจวนไปแล้วหลินเหม่ยเหยาก็ไปนั่งเล่นพูดคุยและดื่มชาเป็นเพื่อนแม่สามีอย่างสวีเยียนตามปกติที่เคยทำเป็นประจำ นางยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าหลังจากที่หยางเจี้ยนออกจากจวนไปได้ไม่นานฉางเจียก็มาขอเยี่ยมเยียนคารวะพี่สะใภ้จนถึงจวน เมื่อสวีเยียนได้ยินว่าฉางเจียมานางก็พลันเอ่ยปากเตือนหลินเหม่ยเหยาในทันที“นางพูดสิ่งใดเจ้าอย่าได้ใส่ใจ เจี้ยนเอ๋อก็แค่สงสารนางเพราะนางเป็นหลานสาวของมารดาแท้ๆ ของเขาเพียงเท่านั้น” เมื่อสวีเยียนเอ่ยเช่นนี้หลินเหม่ยเหยาก็พยักหน้าแล้วนางจึงได้เอ่ยออกมาเสียงเบา“ได้ยินว่านางมีหน้าตาที่คล้ายมารดาแท้ๆ ของเขา ทำให้เขามอบความสนิทชิดเชื้อกับนางมากเป็นพิเศษ เดิมทีทั้งข้าและฮองเฮาเคยคิดจะหมั้นหมายนางให้เขาแล้

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status