Se connecter
งานนี้หญิงสาวจะเลือกใคร และ ชีวิตของเธอจะวุ่นวายขนาดไหน เมื่อมาเฟียหนุ่มทั้งสองคนได้ก้าวเข้ามาในชีวิต...
✨ แล้วใครกัน...ที่จะคุ้มเกมนี้? ✨ ไบรอันต์ พริบพราว หรือ เซน...
:: ไบรอันต์ ::
มาเฟียหนุ่มและนักธุรกิจ อายุ26ปี เก่งและมากไปด้วยความสามารถ สุขุม ทรงอำนาจ เขาถูกขนานนามว่า "ฉลาดเป็นกรด"
"ไม่มีเรื่องไหนที่จะรอดพ้นสายตาของฉันไปได้ แม้กระทั่งม้าพยศอย่างเธอ"
:: พริบพราว ::
นักศึกษาสาวสวยสุดเปรี้ยว อายุ21ปี ฉลาดน้อยแต่ก็พกความมั่นใจมาเกินร้อย เก่งทฤษฎีบทรักแต่ในภาคปฏิบัติเท่ากับศูนย์
"คอยดูนะ ไม่มีอะไรที่พราวทำไม่ได้"
:: เซน ::
มาเฟียหนุ่มและนักธุรกิจ อายุ26ปี เจ้าเล่ห์ เจ้าคารม ใบหน้าที่มักเปื้อนรอยยิ้มแต่กลับซ่อนความร้ายกาจไว้ภายใน เขาถูกขนานนามว่า "รอยยิ้มอำมหิต"
"ฉันชอบนะความกล้าของเธอ และฉันก็ชอบปราบม้าพยศอย่างเธอด้วยสิ"
@งานเลี้ยง 20.00น.
ตึกตึก ตึกตึก..
เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นกระเบื้องหรู ที่เกิดจาก พริบพราว สาวสวยสุดเซ็กซี่ที่อยู่ในชุดเดรสรัดรูปสีขาว เธอเดินตรงเข้ามาในงานเลี้ยงสุดหรูด้วยเรือนร่างอรชรผิวขาวละเอียด มาพร้อมกับหน้าอกอวบใหญ่ที่แทบจะล้นออกมาจากชุดราตรีเกาะอกตัวสวยที่รับกับเอวคอดกิ่วและสะโพกผายบวกกับบั้นท้ายงอนงามที่มันเด้งขึ้นลงตามจังหวะที่ก้าวเดิน จนเรียกสายตาบรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ นักธุรกิจไฮโซชื่อดังได้เป็นอย่างดี
“ (*u*) ” พริบพราวยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยที่วันนี้เธอตกเป็นเป้าสายตาของเหล่าบรรดาผู้ชายและหญิงสาวเพราะด้วยความสวยของเธอ โดยในทุกจังหวะก้าวเดินของเธอ พริบพราวจะแอบเบะปากใส่หญิงสาวคนอื่นๆ ที่มองเธอกลับมาด้วยสายตาที่ริษยาอย่างเหนือกว่า
“อยู่ไหนนะ?” ทันทีที่เข้ามาในงานเลี้ยงเธอก็สอดส่ายสายตามองไปทั่วในงานเพื่อหาคนสำคัญ ก่อนที่ตาคู่สวยจะสะดุดและพบคนที่นัดหมายเธอไว้ และตัดสินใจเดินนวยนาดเขาไปหาบุคคลนั้นทันที
“สวัสดีค่ะคุณแม่” พริบพราวพนมมือขึ้นไหว้เรียกผกาผู้เป็นแม่ของเธออย่างมีจริต
“เฮ้อ....มาได้สักทีนะตัวแสบ ฉันก็ลุ้นจะแย่กลัวว่าแกจะไม่มาอีก” ผกาอุทานออกมาอย่างโล่งอก ที่ลูกสาวคนเดียวของเธอเดินทางมาถึงงานเลี้ยงตามที่นัดหมายไว้สักที
“ต้องมาสิคะคุณแม่~ ระดับพริบพราวแล้วคำไหนคำนั้น!”
“จ้า!....ลูกรัก ลูกเทวดาของแม่!”
“ค่ะ~” พริบพราวเอ่ยตอบผกาด้วยน้ำเสียงสดใส โดยไม่สนใจสายตาเอือมระอาของผู้เป็นแม่ที่กำลังมองสำรวจตัวเธอเลย
“แล้วนี่แกเป็นอะไร นอนตกหมอนเหรอ..ทำไมเชิดคอสูงขนาดนั้น” ผกามองลูกสาวตัวเองที่เชิดปลายคางขึ้นสูงและเผยอปากขึ้นเล็กน้อยพร้อมส่งสายตายั่วยวนอย่างมีจริตไปรอบๆ ข้างอย่างลอยหน้าลอยตา
“อือแม๊!...นี่หนูกำลังเชิดใบหน้าโชว์ความสวยให้ทุกคนในงานเห็นอยู่นะ”
“ฮ่าๆ จริงดิ! ใครสอนแกเนี่ยว่าทำท่าแบบนี้แล้วสวย ฉันก็นึกว่าเส้นเอ็นที่คอแกยึด ฮ่าๆ ”
“แม่! อย่าหัวเราะเสียงดังไปสิคะ นี่มันเส้นยงเส้นยึดอะไรกัน แม่นี่ขัดจังหวะหนูจริงๆ ไม่เข้าใจวิธีการโปรยเสน่ห์ของหนูเลย ชิ!”
พริบพราว Talk…
ฉันชื่อพริบพราวค่ะ! เป็นลูกสาวคนเดียวของคุณอำนาจ และคุณผกานักธุรกิจระดับกลางๆ ของประเทศ ที่สวยแซ่บที่สุดในสามโลก เพราะว่าบรรดาลูกสาวนักธุรกิจคนอื่นๆ ที่ผลิตออกมาก็มีแต่ใบหน้าที่จืดๆ และทำตัวเฉยๆ บางคนก็ทำตัวใสๆ จนฉันล่ะหมั่นไส้ นี่เลยเป็นสาเหตุที่ไม่มีใครเหมาะที่จะเป็นเพื่อนฉันเลยสักคน
ฉะนั้นฉันเลยเบื่อที่จะต้องเข้างานสังคมแบบนี้ เลยแอบเบี้ยวนัดคุณแม่อยู่บ่อยๆ แต่ที่เบื่อที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นกับพวกชอบแอ็บ ครันสายตาฉันก็ไปปะทะกับนางเชอรี่ รากไม้ (นี่ฉันแอบตั้งนามสกุลให้มันเองT.T เพราะฉันไม่ชอบมันมากที่สุด) เพราะนางคือไม้เบื่อไม้เมาของฉัน และครอบครัวของเราก็ไม่ถูกกัน เพราะพ่อนางและพ่อฉันเป็นคู่แข่งทางธุรกิจกันอีก
ฉันเบะปากใส่นางเชอรี่รัวๆ เมื่อมันส่งยิ้มอ่อนให้ฉันอย่างผู้มีชัยชนะ เพราะว่าวันนี้มันมีผู้ชายคนใหม่มายืนข้างกายควงแขนแนบชิดในงานอีกแล้ว ซึ่งฉันจะต้องพยายามข่มอารมณ์ความอิจฉานี้ไว้ถึงแม้ว่าภายในใจมันจะร้องดั่งไฟสุมทรวงก็ตาม
“พราว!...นี่แกคิดอะไรอยู่” เสียงผกาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นความผิดปกติของลูกสาว
“.....” พริบพราวไม่สนใจเสียงเรียกของผู้เป็นแม่ เธอยังคงสายตาเคียดแค้นไปยังเชอรี่โดยที่ทั้งคู่กำลังปะทะสายตากันดั่งละครหลังข่าว
“ยัยพราว!!” ผกาเอ่ยเรียกชื่อลูกสาวเสียงดังอีกครั้ง
“อะไรอีก แม๊!!”
“พอเลย! แกหยุดคิดจินตนาการเป็นละครหลังข่าวเลยนะ”
“แม่นี้รู้ทันหนูจริง! หนูจะไม่ให้อภัยแม่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์!”
“ไม่ให้อภัยยี่สิบเปอร์เซ็นต์อะไรของแก นี่ฉันแม่แกนะ!”
“เชอะ! หนูล่ะไม่เข้าใจจริงๆ เลยนะ นี่หนูทั้งสวยแซ่บแบบขนาดนี้ทำไมผู้ชายดีๆ ถึงไม่ตกถึงท้องเลยสักคน นี่พรหมจรรย์ของหนูหยากไย่จะขึ้นแล้วนะแม่ เฮ้อ...หนูอยากให้ใครสักคนมาช่วยแง้มมันออกมาสักที T-T”
“ว๊ายย! นี่แกพูดอะไรเนี่ย พูดจาน่าเกลียดมาก หยุดพูดและหยุดคิดแบบนี้เลยนะยัยพราว!”
หลายวันต่อมา...@07.30น.พริบพราวที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วยืนมองดูมาเฟียหนุ่มสองคนที่ยังคงนอนหลับใหลบนเตียงนอนใหญ่ ซึ่งเวลาพวกเขาหลับเธอมองว่าพวกเขาเหมือนกับเด็กหนุ่มหล่อที่ไม่มีพิษมีภัยอะไรเลย แต่เพียงแค่พวกเขาลืมตาขึ้นมาร่างของเด็กหนุ่มน้อยก็กลายเป็นปีศาจตัวใหญ่ได้เลยจุ๊บ..จุ๊บ..“กู๊ดมอร์นิ่ง คิสค่ะ” หญิงสาวก้าวขึ้นไปบนเตียงนอนประทับริมฝีปากเล็กที่ปากหยักของไบรอันต์และเซนสลับไปมาจุ๊บ..จุ๊บ.. จุ๊บ..จุ๊บ..“ตื่นได้แล้วนะคะ” เมื่อไม่ได้รับเสียงตอบรับเธอจึงก้มลงไปจูบซ้ำๆ อีกหลายครั้ง อย่างต้องการรบกวนการนอนของทั้งสองคน“อือ....กวนอะไรแต่เช้า” ไบรอันต์“คิก...คิก...”“อารมณ์ไหนเนี่ยที่รัก ปกติไม่ตื่นเช้าขนาดนี้นะ” เซนลืมตามองสำรวจเรือนร่างของหญิงสาวที่แต่งหน้าและอยู่ในชุดสวยพร้อมออกไปข้างนอก“ตอนนี้น้ำฉันหมดตัวแล้วนะ ถ้าจะเอาต่อก็ไปขอไอ้เซนแล้วกัน” ไบรอันต์พูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆอย่างต้องการพักผ่อน“งื้ออ อะไรกันคะเฮีย พราวไม่ได้จะปลุกมาทำเรื่องอย่างว่าสักหน่อย”“หรืออยากได้ของอะไรอีก เฮียบอกแล้วไงว่าใช้บัตรไปรูดได้เลย” เซน“งื้ออออ อันนี้ก็ไม่ใช่อีกค่ะ วันนี้...พราวจะไปร่วมบริจาค
ไบรอันต์ประทับริมฝีปาก ครอบลงที่ช่องทางรักให้พอดี ก่อนสูบลมดูดน้ำแข็งออกมาแรงๆ จนน้ำแข็งหลุดเข้าปากของเขา“อึก...อ๊า!!!” หญิงสาวสั่นสะท้านเพราะแรงดูดของไบรอันต์ทำให้กลีบกุหลาบของเธอแทบหลุดติดปากมาเฟียหนุ่มไปด้วย จนมือบางเผลอยกขึ้นมาจับเส้นผมสีเทาสว่างไว้ด้วยความเสียวซ่าน“เสียวใช่ไหม...” ไบรอันต์เอ่ยถามพลางเขี้ยวน้ำแข็งโชว์หญิงสาวที่ตอนนี้ใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย“สะ..เสียวค่ะ และยะ..เย็นด้วย”“ขอกินน้ำแข็งอีกก้อนนะ”พรวด....สูดดดด!! บ๊อกก!!“อึก!!! อ๊า!!!” เสียงหวานครวญครางสุดเสียง มือเล็กกำเส้นผมลงแน่นขึ้น เมื่อไบรอันต์ดูดร่องหลืบของเธอเต็มแรง และแยงลิ้นแข็งไปในรูของเธอ ซึ่งนี่เป็นความเสียวแปลกใหม่ที่เธอพึ่งเคยได้รับตั่บ!!!!“กรี๊ดดดดดดด!” ไม่ทันที่พริบพราวจะพักเสียงเธอก็ต้องร้องออกมาอีกครั้งเมื่อไบรอันต์ กระโดดขึ้นมาบนโซฟาและกระแทกท่อนเอ็นใหญ่เข้ามาในร่องสาวอย่างแรง จนท่อนเอ็นแทบจะแทรกเข้าไปเป็นเนื้อเดียวกับร่องหลืบของหญิงสาว ทำให้โซฟาตัวใหญ่แทบเลื่อนถไหลแต่โชคดีที่มีร่างหนาของเซนนั่นยืนค้ำไว้ให้“อ้าส์!!”ตั่บ!! ตั่บ!! ตั่บ!!ไบรอันต์นั่งยองยกดอกไม้งามให้แอ่นขึ้นมาเพื่อความถนั
หลายเดือนต่อมา....@โกดังลับ“เฮียว่าพราวจะเรียนจบไหมคะ” พริบพราวที่อยู่ในชุดนักศึกษาซบอกแกร่งของเซนอย่างออดอ้อนหวังเอาใจชายหนุ่ม“ถ้าเฮียเซ็นเอกสารฝึกงานของพราวผ่าน มันก็ต้องจบสิ”“งื้ออออ แล้วเฮีย...จะเซ็นให้พราวจบไหมคะ” นิ้วเล็กไล่ไต่ขึ้นลงบนอกแกร่งอย่างยั่วยวน เพราะช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา เธอได้เข้ามาฝึกงานที่บริษัทฯยาของเซนอย่างที่เขาเคยชวนเธอไว้“เฮียไม่อยากเซนให้หนูผ่านเลย ยังอยากให้หนูมาฝึกงานกับเฮียต่อ เฮียจะได้จับหนูกระแทกที่ห้องทำงานได้ทุกวัน...”“งื้อออ...ให้น้องน้อยของพราวพักบ้างเถอะค่ะ”“หึๆ” เซนหัวเราะในลำคอ เมื่อคำพูดและแววตาของหญิงสาวมันสวนทางกัน“ว๊ายยยย” พริบพราวส่งเสียงร้องตกใจเมื่ออยู่ๆ ร่างของเธอก็ถูกอุ้มให้ขึ้นไปนั่งบนตักแกร่งของคนขี้อิจฉาอีกคนหนึ่ง“ฉันก็เซ็นผ่านฝึกงานให้เธอเรียนจบได้เหมือนกันนะ” ไบรอันต์“จริงเหรอคะ เฮียไบร์ท...อย่าหลอกพราวนะคะ” พริบพราวคล้องแขนเล็กไว้ที่ลำคอหนาพลางมองตาแป๋วราวกับลูกแมวน้อย“จริงสิ...แต่มันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนิดหน่อยนะ”“เอ๊ะ..อะไรเหรอคะ อะไรเอ่ยข้อแลกเปลี่ยน พราวรู้สึกลุ้นจังเลยค่ะ” พริบพราวเหยียดยิ้มมุมปากสีแดงสดอย่างมีจร
เช้าวันต่อมา....@บ้านอำนาจการจัดงานหมั้นที่เรียบหรู ทุกอย่างถูกเนรมิตในช่วงข้ามคืน ตอนนี้พริบพราวกำลังนั่งลงที่พื้นเช่นเดียวกับไบรอันต์และเซน ท่ามกลางพ่อแม่ของทั้งสามคนเพื่อทำพิธีการสู่ขอให้สมบูรณ์แบบ ซึ่งวันนี้มีแค่คนสำคัญและเพื่อนสนิทของทั้งสองฝ่ายเท่านั้นที่ได้มาร่วมงานเป็นสักขีพยานในวันนี้ด้วยทุกอย่างดำเนินไปอย่างเลื่อนๆจนทั้งสามคนได้แลกและแหวนหมั้นที่จัดทำขึ้นไว้เมื่อวานเป็นการเสร็จเรียบร้อย ใบหน้าสวยเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุขไม่ต่างจากทั้งสองมาเฟียหนุ่มที่มีความสุขเช่นเดียวกัน“ขอบคุณ คุณอำนาจมากนะคะ ที่ยอมยกลูกสาวให้ลูกของดิฉัน” ดาราริน แม่ของเซนเอ่ยขึ้นหลังจากที่จบพิธีที่สำคัญ และร่วมถ่ายรูปรวมกันแล้วเรียบร้อย“ผมขอฝากลูกสาวคนเดียวของของผมไว้ด้วยนะครับ อาจจะแสบซนไปบ้างต้องขอโทษล่วงหน้าไว้ก่อนเลย” อำนาจ“ยินดีมากค่ะคุณอำนาจ หนูพราวน่ารักและสวยมากเลยนะคะ แสบๆแบบนี้นี่แหละคะถึงจะเอาลูกชายที่บ้านอยู่ ” ไพลิน แม่ของไบรอันต์ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มหวานพลางหันมามองใบหน้าลูกสะใภ้ของตัวเองด้วยความภูมิใจ“ขอบคุณนะคะคุณแม่ ที่เอ็นดูหนู ”"แม่อยากได้ลูกสาวน่ารักๆแบบนี้มานานมากแล้ว ม
@บ้านอำนาจ “ฮัลโหล...แม่....คุณแม่อยู่ไหมคะ คุณแม๊!” พริบพราวเดินตรงเข้าในบ้านทันทีที่จองรถเสร็จ ตอนแรกคนสวนไม่ยอมเปิดประตูรั้วให้เธอ เพราะวันนี้เธอดันขับรถยนต์คันใหม่มา“อะ..คุณหนู กลับมาบ้านไม่บอกกันเลยนะคะ”“ป้าอุ่น คุณแม่อยู่ไหม”“อยู่ค่ ตะ..ตอน..น”“มีอะไรกัน...เสียงแกนี้ร้องโหยหวนร้องเรียกหาฉันอะไรขนาดนั้น” ผกาเดินออกมาจากห้องครัวหลังได้ยินเสียตะโกนโหวกเหวกของลูกสาว“แม่! พราวมีเรื่องมาบอกแล้วคุณพ่อล่ะคะ”“นี่แกเรียกฉันมาเพื่อมาถามถึงพ่อแกหรอกเหรอ พ่อแกอยู่ในห้องทำงาน”“ก็พราวอยากเล่าให้พ่อกับแม่ฟังพร้อมกันนี่คะ”“แกเป็นอะไร ทำไมดูร้อนรนรีบๆ ยังไงก็ไม่รู้” ผกาสังเกตอาการของลูกสาวตัวเองที่ดูผิดแปลกไปจากทุกวัน“ไปหาพ่อกันค่ะ”“รอก่อนคุณพ่อแกพึ่งเข้าห้องไป อย่างพึ่งไปกวนคุณพ่อกำลังงานยุ่ง มีอะไรแกก็เล่าให้ฉันฟังก่อนแล้วกัน” ผกาจูงมือลูกสาวตัวเองไปนั่งที่โซฟาหรูพลางถอดผ้ากันเปื้อนออกให้อุ่นคนรับใช้ภายในบ้านพริบพราวTalk…ฉันลังเลอยู่นิดก่อนจะตัดสินใจ บอกความจริงกับท่านก่อน ซึ่งคิดไปคิดมามันก็ดีนะบอกแม่ก่อน เพื่อท่านจะได้ช่วยคิดช่วยพูดกับพ่ออีกที“แม่ค่ะ จะมีมาเฟียมาขอหนูหมั้นพรุ่งน
“ก็ได้ค่ะเฮีย...” พริบพราววางแหวนเพชรในมือข้างซ้ายลง และกำลังจะสวมแหวนที่อยู่ในมือขวาของเธอลงบนนิ้วกลางข้างซ้าย แต่ทว่ากลับมีมือหนายกขึ้นมาจับมือของเธอไว้ราวกับไม่พอใจอะไรบางอย่าง“ไม่ใช่นิ้วนี้” ไบรอันต์จับมือหญิงสาวขึ้น พลางหยิบแหวนเพชรออกจากมือของหญิงสาวมาไว้ที่มือหนาของตัวเองพริบพราวถึงกับเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อของไบรอันต์ เพราะตำแหน่งในการใส่แหวนที่เขาต้องการคือนิ้วนางข้างซ้าย...“เฮียไบร์ท...คะ...คือมัน...”“ถูกแล้วต้องสวมข้างซ้ายสิ” เซนเอ่ยสบทบไบรอันต์ทันทีดวงตาสวยมองผู้ชายตรงหน้าทั้งสองคนด้วยแววตาที่สั่นระริก ยิ่งเห็นเซนหยิบแหวนเพชรอีกวงขึ้นมาสวมเตรียมสวมใส่ให้เธอ เธอก็รู้ได้ในทันทีว่าพวกเขากำลังจะตีตราจองชีวิตและหัวใจของเธอ“นี่มันคือแหวนและตัวแทนของเฮีย” ไบรอันต์“และนี่ก็แหวนของเฮีย ชีวิตของเฮียมันฝากกับพราวนะ” เซนน้ำตาแห่งความสุขมันเอ่อล้นขึ้นมาดื้อๆ เธอมองดูแหวนเพชรทีละวงค่อยๆ สวมเข้าไปที่นิ้วนางข้างซ้ายอย่างช้าๆ ก่อนที่สัมผัสอันอบอุ่นจะเกิดขึ้นบนมือของเธอ...เซนจูบหลังมือของหญิงสาวข้างกายอย่างนุ่มนวลแล้วเงยหน้ามองเธอพร้อมส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจ ส่วนไบร์อันต์ก็ไม่น้อยหน้าตา







