"คุณคิดว่าข้อเสนอของคุณมันน่าสนใจนักเหรอคะ" ฮันนี่ยกยิ้มที่มุมปาก ผู้ชายที่นั่งตัวตรงเด่นตรงหน้าของเธอเขาแค่ยังไม่รู้ว่าที่ผ่านมาเธอตอกหน้าคนที่พยายามยัดเยียดสถานะที่น่ารังเกียจให้เธอมานักต่อนัก
มีเมียอยู่แล้วแต่ยังอยากมีเล็กมีน้อยบ้าง อยากมีเด็กๆ ไว้คอยเอาใจ และประดับบารมีบ้าง คนพวกนั้นมันโคตรน่ารังเกียจสำหรับเธอ! "ขออนุญาตครับ" อาชาโน้มศีรษะลงเล็กน้อย ตามด้วยการส่งโทรศัพท์มือถือให้กับคนที่เป็นเจ้านายของเขา มาเฟียหนุ่มกดยิ้มที่มุมปาก ไม่นานนิ้วยาวเหยียดก็เลือกที่จะดันโทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นมาหยุดที่ตรงหน้าของเธอ "คนที่เธอคบหามาเป็นปี ตอนนี้มันกำลังใช้แม่ของเธอเป็นเครื่องมือเพื่อต่อรองกับเธออยู่นะ" ฮันนี่เบิกตาขึ้น มือเรียวคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจ่อ เพื่อเพิ่มระดับการมองเห็นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เห็นชัดกับตาว่าภาพบนนั้นเป็นภาพของอาร์ตที่เผชิญหน้ากับแม่ของเธออยู่ในตอนนี้ "ถ้าฉันเดาไม่ผิด มันก็คงจะใช้แม่ของเธอเป็นเครื่องมือในการบังคับเธอให้กลับไปที่นั่นตอนนี้ สุดท้ายแล้วมันก็คงจะยกหนี้สินขึ้นมาอ้างเพื่อให้เธอไปไหนไม่รอด" "คุณรู้ นี่คุณสะกดรอยตามฉันและยุ่งกับครอบครัวของฉันเหรอ" "เหตุผลในตอนแรก เพราะเธอหน้าตาคล้ายกับคนที่ฉันกำลังตามตัว" "แต่คุณก็มั่นใจไปแล้วว่าฉันและผู้หญิงคนนั้นเป็นคนละคนกัน คุณยังจะอะไรกับฉันอีก แค่ฉันไม่แจ้งความและเอาผิดกับคุณมันก็ดีแค่ไหนแล้ว ต่างคนต่างอยู่ไม่ได้รึไง" "เดี๋ยวไอ้เวรนั่นมันก็จะให้แม่ของเธอติดต่อกลับมาหาเธอและเรียกตัวกลับไปตกลงกันใหม่ หากเธอฉลาดมากพอ หวังว่าเธอจะรู้ว่าควรทำยังไงต่อไป" ครืด~ ครืด~ จบประโยคของออสตินได้ไม่นาน โทรศัพท์มือถือของฮันนี่ก็มีสายเรียกเข้าเข้ามาจริงๆ มือเล็กรีบล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าและเบอร์ที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอก็เป็นเบอร์โทรของมารดาเธอจริงๆ "แม่คะ..." [ ฮันนี่ อยู่ดีๆ ทำไมอาร์ตถึงสั่งให้แม่เก็บของออกไปจากที่นี่ล่ะลูก...ฮัลโหลฮันนี่ ] เสียงของอาร์ตดังแทรกตอนประโยคให้หลัง ความร้อนอกร้อนใจที่ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดกับแม่ของเธอบ้างส่งผลให้เสียงที่ตอบกลับสั่นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว "พี่อาร์ต อย่ายุ่งกับแม่ของฮันนี่" [ เธอไม่ใช่เหรอที่บังคับให้พี่ต้องทำแบบนี้ เธอรู้ใช่ไหมฮันนี้ว่าเพราะเหตุผลอะไรพี่ถึงต้องไล่แม่เธอออกไปจากตรงนี้ หวังว่าเธอจะยังไม่ลืมว่ากรรมสิทธิ์ในที่ตรงนี้มันเป็นของพี่ เธอและแม่แค่อาศัยอยู่ชั่วคราว ] หมับ~ มาเฟียหนุ่มแย่งโทรศัพท์มือถือออกมาจากมือของคนตัวเล็กตามด้วยการกดวางสายอย่างไม่ใยดี "นี่คุณ!" "ที่กระจอกๆ แบบนั้น หึ...ฉันหาให้เธอได้ที่ที่ดีกว่านั้นเยอะ" "คุณอยากได้ฉันไปเป็นนางบำเรอของคุณสินะ" "..." "คุณคิดว่าผู้ชายที่มีผู้หญิงข้างกายไว้ประดับบารมีเยอะๆ มันเท่มากเลยงั้นเหรอ ฉันจะบอกให้นะว่าคุณคิดผิด" "แล้วคิดว่าการปฏิเสธฉันแล้วต้องคบกับไอ้เวรนั่นต่อเพื่อให้แม่ของเธอปลอดภัย มันคือวิธีที่ดีที่สุดแล้วหรือไง" "ฉันไม่มีทางเลือก" "เธอมีทางเลือกนะฮันนี่..." "...แค่ตอบตกลง แล้วเธอจะรู้ว่าการเป็นผู้หญิงของฉัน เธอจะได้มากกว่าที่มันให้เธอ!" "ฉันไม่มีวัน..." "เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเธอและฉัน มันไม่ต่างจากเธอเป็นของฉันแล้วเลยนะ" "เลว!" "ที่ฉันพูดแบบนี้ฉันไม่ได้พูดเพื่อให้เธอด่าฉัน แต่ถ้าคนฉลาด ควรหาวิธีเอาตัวรอดที่ดีที่สุดให้กับตัวเองนะ" "..." "มันไม่บ่อยนักหรอกนะที่คนอย่างฉันจะเปิดโอกาสให้ผู้หญิงเข้ามากอบโกยอะไรๆ ไปจากฉันได้ ฉันผิดที่ฉันจับคนมาผิดตัว และฉันก็มีเหตุผลของฉันที่ทำให้ฉันต้องการเธอ" "เหตุผลอะไรของคุณ" "ผู้หญิงมันมีอยู่สองประเภท ประเภทแรกคือรักเดียวใจเดียว ยอมถวายตัวและหัวใจให้กับชายเดียวที่รัก เธอก็อาจจะเป็นคนประเภทนี้ แต่โชคร้ายที่ผู้ชายที่เธอเลือกดันไม่ได้มีแค่เธอ ส่วนผู้หญิงอีกประเภท ก็แค่รักสนุก มีจุดมุ่งหมายหลักที่ชัดเจนว่าชีวิตต้องการอะไร แค่ได้ในสิ่งที่ต้องการ และสิ่งที่ได้ขอแค่มันคุ้มค่ามากพอกับสิ่งที่ต้องเสีย คนประเภทนี้ก็พร้อมที่จะทำ" ไม่แปลกเลยที่ในชีวิตนี้คนอย่างเธอพยายามระมัดระวังตัวเอง และเชื่อมาโดยตลอดว่าบุรุษเพศล้วนมักมาก ไร้ความจริงใจ พวกเขาก็แค่พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อสนองสิ่งที่ตัวเองต้องการ "มาเป็นผู้หญิงของฉัน แล้วเธอจะได้ทุกอย่างที่เธอต้องการ" "คุณเป็นใคร ฉันจะทำแบบนั้นได้ยังไงในเมื่อฉันไม่ได้รู้จักตัวตนของคุณเลย ในสายตาของฉันตอนนี้คุณไม่ได้ต่างจากปีศาจตนหนึ่งที่ทำเรื่องเลวระยำกับฉันทั้งที่ฉันไม่เคยไปทำอะไรให้คุณเลย" "ฉันแค่เดินทางมาพักผ่อนที่เมืองไทยเพราะช่วงนี้รู้สึกหงุดหงิดกับอะไรหลายๆ อย่าง" "...หมายความว่าคุณจะอยู่ที่นี่ไม่นาน?" "ประมาณนั้น" แสดงว่าคุณก็แค่ต้องการผู้หญิงสักคนไว้คอยบำเรอคุณ ตลอดเวลาที่คุณอยู่ที่นี่ก็แค่นั้นเอง" "..." "ฉันไม่ชอบยุ่งกับพวกมาเฟียที่มือเปื้อนเลือดและทำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย หากเลือกได้ฉันก็ไม่ได้อยากรู้จักคนที่จ้องจะเอารัดเอาเปรียบคนอื่นหรือหากินแบบที่ไม่สุจริต เงินสกปรกมันไม่ได้หอมเลยสักนิด" "วันละสองหมื่น สามสิบวันเท่ากับหกแสน เธอไม่ได้เป็นเมียฉัน เธอไม่จำเป็นต้องลงลึกค้นหาความเป็นจริงว่าเงินของฉันมันมาจากอะไร ฉันจ่ายแต่ฉันต้องได้ในสิ่งที่ฉันอยากได้ ส่วนเธอก็เป็นฝ่ายรับในสิ่งที่ฉันให้ แต่ก็ต้องสนองในสิ่งที่ฉันต้องการให้ได้เหมือนกัน" ฮันนี่เม้มปากแน่น ข้อเสนอของเขาหากมองในอีกมุม มันไม่ต่างจากการที่เธอใช้ร่างกายหาเงิน "เป็นผู้หญิงของฉัน วันไหนที่ฉันกลับอังกฤษแล้วเลือกที่จะไม่กลับมาที่นี่อีก เธอจะเป็นอิสระทันที" "..." "ฉันจะให้ในสิ่งที่เธออยากได้ฉันจะเลี้ยงดูเธอ หากเธอยังเป็นคนที่ฉันต้องการ" "คุณพรากสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตของฉันไปแล้วนี่ หากฉันจะกอบโกยจากคุณบ้าง ก็ถือว่าหายกัน ตกลง...ฉันรับข้อเสนอของคุณ!" -----"มันไม่เกินไปเหรอครับ" "มึงไม่เห็นเหรอว่ายัยนั่นปีนเกลียวกับกูแค่ไหน กูนอนด้วย ไม่ได้หมายความว่ากูจะยอมทุกอย่างนะอาชา" "แต่ตอนนี้ฝนแรงมากเลยนะครับ คนมองเยอะอีกต่างหาก" "ใครเข้ามาเสือกมึงก็บีบแตรไล่มัน" อาชาเผลอถอนลมหายใจออกมาอย่างไม่รู้ตัวเขารู้ว่าการปล่อยปละละเลยทุกอย่างมากเกินไป ออสตินจะเสียการควบคุม แต่นี่มันก็เกินไป"ไม่สงสารเธอหน่อยเหรอครับ อย่างน้อยๆ คุณฮันนี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้ฝันร้ายของนายหายไป" "ปกติมึงไม่ยุ่งขนาดนี้นะอาชา ยัยนั่นเป็นเมียมึงรึไง!" "ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ เพราะถ้าเป็นผู้หญิงของผม ผมไม่ทำร้ายเธอแน่นอน" "..." "ไม่ใช่แค่กับคุณฮันนี่หรอกนะครับ แต่หมายถึงกับผู้หญิงทุกคน" "..." "รู้แหละครับว่านายไม่จริงจัง แต่ถ้ายังอยากได้จนยอมจ่ายถึงวันละสองหมื่น ดูแลเอาหน่อยครับ เดี๋ยวเธอจะเปลี่ยนใจ" อาชาจี้ได้อย่างถูกจุดมาเฟียหนุ่มไม่ยอมเสี่ยงหรอก เขาไม่ยอมเสี่ยงที่จะปล่อยเธอไปแน่หากยังไม่ได้พิสูจน์ว่าในวันที่ไม่มีผู้หญิงคนนี้จริงๆ ฝันร้ายมันจะยังอยู่หรือเปล่า"เปิดประตู" สุดท้ายออสตินก็เลือกที่จะเอ่ยคำนี้ออกมาคนสนิทของมาเฟียจัดการประตูให้เปิดออกอัตโนมัติ หลังจากนั้นก็
ฮันนี่ก้าวขาออกมาจากห้องน้ำ แต่กลับเจอกับอาชาที่ยืนรออยู่คนตัวเล็กถอนลมหายใจออกมาหนักๆ สุดท้ายก็จำใจถามออกไป"มีอะไรอีก" "นายให้ผมมารับคุณฮันนี่ครับ รถจอดรออยู่ทางด้านโน้น เราไม่ควรปล่อยให้นายรอนาน" คนสนิทของมาเฟียผายมือไปอีกด้าน คิดอยู่แล้วว่าผู้หญิงของเจ้านายคงไม่พอใจแน่"วันนี้ฉันมีเรียน และนี่มันก็มหา'ลัย เขาไม่ล้ำเส้นฉันเกินไปเหรอ?" "ผมเคลียร์กับอาจารย์ให้แล้วครับ รับรองว่าการไปกับนายมันจะไม่มีผลกระทบอะไร" "อ้อ...มีอำนาจเหลือเกินนะ คนอย่างเขาอยากได้อะไรเขาก็จะเอาให้ได้จริงๆ" ฮันนี่ยกมือขึ้นสางเส้นผมของตัวเองอย่างหงุด สุดท้ายก็ยอมเดินไปตามทิศทางที่อาชาบอกแต่โดยดีเครื่องปรับอากาศภายในรถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาชาเคลื่อยรถออกจากมหา'ลัย เป็นจังหวะที่ผู้เป็นเจ้านายของเขาเปิดประเด็นขึ้นมา"ทีหลังอย่าเดินหนีฉันแบบนั้นอีก ฉันไม่ชอบในสิ่งที่เธอทำ" "ฉันเองก็ไม่ชอบสิ่งที่คุณทำเหมือนกัน ฉันควรมีเวลาส่วนตัวของฉันบ้าง ที่นั่นเป็นมหา'ลัย มันไม่ควรมีใครต้องไปยืนทะเลาะกันจริงๆ" "อาชา" "ครับ" "จัดการไอ้เวรนั่นด้วย ทำให้มันหยุด และไม่กล้าเข้ามาทำให้ฉันรำคาญอีก" ฮันนี่ขมวดคิ้วทันที"คุณ
หมับ~ "อย่าเดินหนีฉัน!" ออสตินออกคำสั่งขณะบีบข้อมือเล็กเอาไว้แน่นเขาไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงจะใจอ่อนกับแฟนเก่าแค่ไหน ไม่รู้ว่าเธอจะชอบสิ่งที่ไอ้เวรนี่ทำหรือไม่ และไม่รู้ว่าเธอยังอยากลองกลับไปคบกับมันอีกหรือเปล่า สิ่งเดียวที่เขารู้ ตราบใดที่ฮันนี่ยังเป็นคนของเขา ใครไหนหน้าก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามาวุ่นวาย"ฉันอายคน" "เธอไม่..." "ย้ำนะออสติน ฉันอายคนอื่น อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว คุณกลัวว่าคนอื่นจะมายุ่งกับของเล่นของคุณมันไม่ใช่เรื่องผิด แต่ขอร้องเถอะนะ การที่คุณมาประกาศต่อหน้าคนอื่นว่าได้ฉันแล้ว มันทำให้คนอื่นรับรู้และตราหน้าว่าฉันโคตรง่ายเลย" ฮันนี่ปัดมือหนาออกห่างอย่างไม่ใยดีต่อให้จะสำเหนียกสถานะของตัวเองดีแค่ไหน ลึกๆ แล้วมันก็อดเสียใจไม่ได้อยู่ดี"หึ ต่อให้มึงจะได้ตัวเขา มันก็ไม่ได้หมายความว่ามึงรู้จักเขาที่สุด" อาร์ตยิ้มเยาะ เขามั่นใจว่าเขารู้จักฮันนี่ดีในระดับหนึ่ง สีหน้าที่เธอแสดงมันออกมาเมื่อสักครู่บ่งบอกชัดเจนว่าเธอไม่พอใจ"เสือกไรกับกู" น้ำเสียงที่เกรี้ยวกราดและการกัดกรามจนเป็นสันนูน เป็นสัญญาณเตือนที่ทำให้อาชาที่มองเหตุการณ์อยู่ห่างๆ รู้สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตนายขอ
มหาวิทยาลัย"วิดวิ้ว~" เสียงแซวดังมาตามสายลมในยามที่ร่างแบบบางในชุดนักศึกษาที่กระโปรงทรงเอสั้นเพียงต้นขา เสื้อสีขาวสะอาดเรียบกริบพอดีตัวเป๊ะใบหน้าที่สวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้วแต่งแต้มด้วยความสำอางบางๆ วันนี้ฮันนี่ดัดผมเป็นลอนในช่วงปลาย ผิวทั้งตัวขาวละเอียดสมกับที่ดูแลตัวเองมาเป็นอย่างดีและเข้าคลินิกเติมวิตามินผิวอยู่สม่ำเสมอ รองเท้าส้นเข็มที่ฮันนี่สวมใส่ส่งผลให้คนตัวเล็กดูเพียวขึ้นกว่าเก่า ไม่แปลกที่อดีตเคยเป็นถึงดาวคณะ"ฮันนี่ ทางนี้" โมจิโบกไม้โบกมือ กระตุ้นให้เพื่อนสาวที่สวยและฮอตมากของเธอดูโดดเด่นมากกว่าเก่า หนึ่งในสายตาหลายต่อหลายคู่มีดวงตากลมสวยของสาวสวยในกลุ่มของเดือนคณะที่มองตาม"วันนี้แกสวยจัง" "อะไรอ่ะ มาไม้ไหนไม่ทราบ" ฮันนี่ปลดกระเป๋าสะพายข้างออกมาบ่า วางลงบนโต๊ะตามด้วยการล้วงโทรศัพท์ออกมา"ความขาวออร่าเจิดจ้ามาตั้งแต่ไกลๆ แบบนี้ไหมนะ พี่แบงค์เจ้าของโชว์รูมรถถึงได้อยากให้โอกาสสาวสวยคนนี้ไปร่วมงาน""หืม? พี่แบงค์ ฉันเสียมารยาททิ้งเขาไว้แบบนั้นเขายังจะให้โอกาสฉันงั้นเหรอ" "ใช่จ้ะ เขายังรอแกอยู่นะ นี่...ถามจริงเถอะ ช่วงนี้แกเช็กดวงรายวันมาบ้างปะ รู้สึกว่าช่วงนี้แกขาขึ้นนะ ดวงดี
"อื้อออ!" ฝ่ามือเล็กขยุ้มผ้าปูที่นอนอย่างแรง พอๆ กับฝ่าเท้าที่จิกเกร็งลงบนบ่ากว้างเรี่ยวแรงของร่างกายดับวูบเมื่อริมฝีปากร้อนฉกชิมเข้ากับใจกลางความเป็นสาวในเวลาอันรวดเร็วนิ้วยาวเหยียดแหวกกลีบสีชมพูเรื่อ ลากปลายลิ้นไปกับเนินสามเหลี่ยมอวบนูนไร้ขนอ่อนตามด้วยการกดปลายนิ้วเข้าหาร่องแคบ กระทั้นเข้าลึกจนสุดความยาวของมันในครั้งเดียว"ออสติน..." เสียงครางเพราะความเสียวซ่านสร้างความพึงพอใจให้กับมาเฟียหนุ่มไม่น้อยดวงตาคมที่ประกายความพอใจตวัดขึ้นมองใบหน้าสะสวย กลีบปากร้อนบดเข้ากับจุดอ่อนไหว ขบเม้มสลับกับการตวัดปลายลิ้นทักทายแรงๆ"อ๊ายยยย!" ฮันนี่ปลดปล่อยมวลน้ำหวานออกมาอย่างสุดจะกลั้น มาเฟียหนุ่มรั้งปลายนิ้วที่ควานเข้ากับผนังอ่อนนุ่มจนกระทั่งเธอสุขสมกลับพลางยกยิ้มที่มุมปากไม่ลืมที่จะสอดปลายนิ้วที่เปรอะธารน้ำหวานเข้ามาในช่องปาก การดูดแรงๆ แล้วกลืนกินทำฮันนี่ตาโตทันที"บ้า คุณมันโรคจิต" "หึ" ออสตินไม่ได้สะทกสะท้านกับคำด่าเท่าไหร่นัก หนุ่มหล่อหยัดตัวลุกจนเต็มความสูง ปลดเข็มขัดหนังพลางถอดกางเกงที่สวมใส่ จ่อความใหญ่โตเข้าหาช่องทางคับแคบ ก่อนจะอัดกระแทกเข้าใส่จนสุดความยาวของมันในครั้งเดียวปึก! "อ
"แม่..." ฮันนี่อมยิ้มให้กับคำพูดที่ไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อนแม้กับอาร์ตแฟนเก่าที่เธอคบหามาเป็นปีๆ แม่ก็ไม่เคยชมจนออกนอกหน้าแบบนี้เหมือนกัน"ฮันนี่ ตักข้าวได้แล้วลูก" "ค่าา รับทราบค่ะ" คนที่ยังอยู่ในชุดนักศึกษาฉีกยิ้มกว้าง ฮันนี่รีบลุกขึ้นตักข้าว การเคลื่อนไหวของเธออยู่ในสายตาของอีกคนตลอดเวลา"แม่ว่าแบบเผ็ดก็อร่อยนะลูก รสจัดจ้าน ทำให้ไม่รู้สึกเลี่ยน""ครับ" "นี่ คุณพูดกับแม่เยอะๆ หน่อยสิ ปกติแม่ไม่ค่อยคุยกับใครแบบนี้เลยนะ" "แม้กับแฟนเก่าเธอ?" ออสตินถามออกมาแบบซึ่งๆ หน้า เลยเป็นฮันนี่ที่เลิ่กลั่กก่อนจะรีบพยักหน้าออกมา"อือ" "หึ..." รอยยิ้มเย้ยหยันบนมุมปาก แสดงออกให้เห็นว่าเขาไม่ได้อยากจะเชื่อเท่าไหร่นักแต่ก็เอาเถอะ เรื่องนั้นค่อยเคลียร์ทีหลังก็แล้วกัน"แม่ขา กินเยอะๆ เลยนะ แม่ทำงานหนักทุกวันเลยอ่ะ" "ลูกคนนี้นี่ ไม่ได้หนักหนาขนาดนั้นสักหน่อย" "ไม่เชื่อหรอกค่ะ ยืนจับตะหลิวจนข้อมือร้าวหมดแล้วมั้ง คอยดูเถอะ วันไหนรวยขึ้นมา จะบังคับให้แม่เลิกขายของทันทีเลย แม่ต้องรับปากหนูด้วยนะ วันไหนรวย เราจะสวยและสบายไปด้วยกัน" "ดูพูดเข้า แม่ไม่เลิกหรอก ให้อยู่เฉยๆ แม่ทำไม่ได้หรอกนะ ลูกสาวแม่ตัวเล