LOGINห้องชุดสุดหรูไม่ต่างจากห้องพักในโรงแรมห้าดาว ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดใจกลางกรุงเทพมหานคร ทั้งกว้างขวาง สะอาด และให้ความสะดวกสบายทุกอย่าง แต่กลับไร้กลิ่นอายของคำว่า ‘บ้าน’ ไปมาก
‘ม่านบุษยา’ หรือ ‘บัว’ หญิงสาววัย 24 ปี นั่งนิ่งอยู่บนโซฟายี่ห้อแสนแพง ดวงตาสวยหวานแต่มีความเด็ดเดี่ยวปนเศร้า ทอดมองแสงแดดยามเย็นที่ลอดผ่านผ้าม่านสีครีมเข้ามาฉาบไล้อยู่บนพื้นห้อง
ตามองตรงไปแต่ไม่ได้จดจ่อ เพราะสิ่งที่รบกวนจิตใจทำให้หล่อนไม่อาจทำตัวสบายๆ และมีความสุขดั่งที่เคยเป็นได้อีกแล้ว
ม่านบุษยาอดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองสิ่งที่อยู่รอบตัว จริงอยู่ที่หล่อนอาศัยอยู่ในห้องนี้มานานกว่า 6 ปี จนจำได้แม่นว่าทุกผนัง ทุกมุมห้อง ล้วนไม่ต่างจากกรงทองที่ทำหน้าที่กักกันนกตัวน้อยๆ ไม่ให้บินออกไปได้
แต่... นั่นหล่อนเลือกเอง
‘ไปกับฉัน แล้วเธอจะได้ทุกอย่าง’
คำชวนของคนแปลกหน้าเมื่อ 6 ปีก่อน แต่หล่อนกลับตกปากรับคำและจดปากกาเซ็นสัญญา
หล่อนยินยอมที่จะเป็นนกในกรงทองของเขา ‘พชร ธาราธร’ หรือ ‘คุณเพชร’ ชื่อเล่นที่หล่อนภูมิใจทุกครั้งที่ได้เรียกอย่างสนิทเสน่หา แต่ตอนนี้ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมแล้ว
ม่านบุษยาปรายตามองโทรศัพท์บนโต๊ะกระจกด้านหน้า ภาพข่าวที่เห็นเมื่อ 1 ชั่วโมงก่อน คล้ายยังวิ่งวนอยู่ในหัวไม่จบสิ้น จนหล่อนไม่กล้าที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดอีกเลย
[นักแสดงสาวดาวรุ่ง ‘วิกัญญา พงษ์พิพัฒน์’ เตรียมเข้าพิธีวิวาห์กับนักธุรกิจพันล้าน ‘พชร ธาราธร’ เจ้าของบริษัทในเครือ ‘ธาราธรกรุ๊ป’ ซึ่งเป็นบริษัทส่งออกอาหารทะเลระดับแนวหน้าของประเทศ โดยงานแต่งจะจัดขึ้นในอีกสามเดือนข้างหน้า ณ โรงแรมหรูระดับ 7 ดาว]
“สามเดือน”
เสียงพึมพำแหบพร่า เบาหวิว ราวกับเอ่ยออกมาแค่จะย้ำให้แน่ใจ ว่าไม่ได้เข้าใจผิดไปเอง ไม่ได้ฝัน แต่เป็นเรื่องจริงที่หล่อนต้องยอมรับ
ทว่าเสียงเปิดประตูจากด้านหน้าห้อง พร้อมฝีเท้าหนักๆ ที่หล่อนจำได้แม่นว่าเป็นใคร ก็ทำให้ตื่นจากภวังค์
ม่านบุษยากลั้นก้อนสะอื้นที่กำลังสะท้านในอกลงโดยเร็ว หลับตา ขบฟันแน่น สะกดกลั้นทุกสิ่งทุกอย่าง แย้มยิ้มเล็กน้อยเพื่อให้สีหน้าดีขึ้น ไม่ใช่ใบหน้าของคนใกล้ตายที่สะท้อนให้เห็นจากหน้าจอดำมืดของทีวี แต่มันก็ไม่ได้ดีมาก ก้อนสะอื้นน้อยๆ แม้ไม่มีน้ำตาสักหยดยังคงตีรวน แต่หล่อนต้องลุกขึ้นไปทำหน้าที่
เจ้าของร่างสูงสง่าในชุดสูทแบรนด์เนมเดินเข้ามาพร้อมยื่นกระเป๋าเอกสารให้ ม่านบุษยารับมาถือไว้ แต่ไม่ได้เดินนำไปเก็บที่ห้องทำงานอย่างที่เคยทำทุกวัน
พชรที่กำลังจะเดินไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ชะงักเท้าหยุดเดิน สายตาของเขาที่มองมา ไม่ต่างจากกำแพงล่องหนที่แบ่งแยกชนชั้นได้อย่างชัดเจน
แววเหยียดที่คุ้นเคยบ่งบอกว่าหล่อนไม่มีทางอยู่ในชนชั้นเดียวกับเขาได้แน่ แต่ก็ทนมาได้จนถึงวันนี้
“มีเรื่องจะคุยไหม?”
เสียงทุ้มต่ำของเขาถามสั้น ๆ ขณะมองไปทางอื่นพร้อมเริ่มต้นถอดสูท เหมือนไม่ได้สนใจหล่อนมากไปกว่าถามเพื่อตัดความรำคาญ
ม่านบุษยากลั้นลมหายใจ คิดทบทวนคำพูดนับสิบหน จนเห็นท่าทางหงุดหงิดที่พชรเริ่มแสดงออก จึงตัดสินใจพูดออกไป
“คุณเพชรคะ… เราคุยกันหน่อยได้ไหมคะ”
เขาชะงักเล็กน้อยก่อนจะยื่นเสื้อสูทให้และเดินไปนั่งที่โซฟา หยิบรีโมตกดเปิดทีวี ที่หล่อนมองรู้ว่าเขาก็แค่ทำไปแบบนั้น เพราะคนอย่างพชร ไม่เคยสนใจอะไรกับสิ่งบันเทิง ชีวิตแต่ละวันของเขามีแค่ งาน เงิน และเซ็กซ์!
แน่นอนว่าที่หล่อนให้เขาได้ก็คือ เซ็กซ์!
“อยากได้อะไรเพิ่ม เงิน ทอง เครื่องเพชร หรือว่าอยากได้รถใหม่?”
“บัวอยากคุยเรื่องงานแต่งของคุณค่ะ”
สิ้นสุดคำตอบ สายตาคมกริบที่จ้องหน้าจอแบบสบายๆ ก็ตวัดขึ้นมองหล่อนอย่างแรง แววโทสะคุกรุ่นแบบที่พชรไม่ต้องยับยั้งสักนิด
“ใครให้เธอยุ่งเรื่องนี้”
เสียงหัวเราะเอิ้กอ้ากของเด็กชายตัวน้อยดังก้องไปทั่วสนามหญ้าหน้าบ้านที่กว้างมาก เพราะรั้วกั้นระหว่างกันถูกรื้อออก ‘น้องพอร์ช’ เด็กชายวัย 1 ปีเต็ม เดินเป๋ไปเป๋มา แต่ก็พยายามหนีคุณพ่อที่ทำหน้าตาเหมือนสัตว์ประหลาดคลานสี่ขาหยอกเย้าเจ้าตัวน้อยหัวเราะเมื่อคุณพ่อไล่ตามทัน พร้อมกับแกล้งนอนบนผืนหญ้าเหมือนยอมแพ้ แต่พอคุณพ่อผละออก เด็กน้อยก็พลิกตัวคลานเข่าแล้วรอดหนีจากใต้ท้องสัตว์ประหลาดมาได้ม่านบุษยายืนยิ้มอยู่หน้าบ้าน ยกกล้องในมือถือบันทึกทุกช่วงเวลาแห่งความสุขเอาไว้ ใครกันจะคาดคิดว่าท่านประธานแห่งธาราธรกรุ๊ป จะมีโมเมนต์แบบนี้ด้วยกล้องในมือแพลนไปยังจุดที่แม่นั่งอยู่ที่เปลชิงช้าไม่ไกลจากจุดที่พชรกำลังเล่นกับลูก และที่หน้าบ้านม่านมัสลินกำลังบังคับวีลแชร์ไปตามทางปูนเล็กๆ ที่พชรสั่งให้คนงานมาทำเชื่อมกันไว้กับทุกจุดของบ้าน เพื่อตรงไปยังรถยนต์ของไปรษณีย์ที่เพิ่งมาจอดเทียบ และคุณลุงชัยของน้องพอร์ช ซึ่งตอนนี้ได้เลื่อนขึ้นมาขับรถรับพัสดุฯ กำลังก้าวลงมาชีวิตสงบ เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความรักม่านบุษยามองทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวด้วยความสุข ขณะยกกล้องขึ้นถ่ายรูปด้านหลังของคุณพ่อที่อุ้มลูกชายขึ้นนั่งบนบ่า
คนขับรถที่พูดแบบติดตลก แต่เขาตลกไม่ออกเลย คำ ‘รัก’ เหรอ เพิ่งเคยได้พูดไปแค่ 2 ครั้ง แต่คำว่ารักจะมีความหมายอะไร ถ้าการกระทำสวนทาง‘ฉันรักบัวนะ ถ้าไม่รักจะทำแบบนี้เหรอ นายก็เห็นว่าฉัน... ฉันเปลี่ยนไปแล้วนะ เปลี่ยนไปในทางที่ดี ที่คิดว่าคนอย่างฉันไม่น่าจะทำได้ด้วยซ้ำ ถ้าไม่รัก คงไม่ทำแบบนี้หรอก’‘แล้วคุณบัวเชื่อไหมครับ’นั่นคือคำถามจากคนขับรถที่เขาให้คำตอบไม่ได้‘อย่าว่าผมแนะนำเลยนะครับ ที่คุณเพชรทำกับคุณบัวมันหนักหนา ถ้าคุณบัวจะไม่เชื่อว่าคุณเพชรรักเธอจริง แต่เธอคิดว่าที่คุณเพชรมาทำดีด้วยเพราะต้องการลูก ผมว่ามันจะไปกันใหญ่ รักแล้วต้องแสดงออกทุกอย่างนะครับ ต้องทำให้เมียแน่ใจเชื่อใจว่ารักเธอจริงๆ แล้วก็ต้องพูดว่ารักออกมาจากปากด้วยครับ ผู้หญิงเป็นเพศที่ซับซ้อน ไม่ว่าคุณเพชรจะพยายามแสดงออกว่ารักมากแค่ไหน แต่พวกเธอก็อยากได้ยินคำนั้นด้วยครับ แค่บอกว่ารักเมีย มันง่ายจะตาย คำสั้นๆ ง่ายๆ แต่พวกเธอมีความสุข’พชรพยายามจะยกมือขึ้นจะเช็ดน้ำตาที่เจิ่งนองใบหน้าสวย แต่อาการขัดยอกก็ทำให้ยกช้า ม่านบุษยาจึงรีบปาดน้ำตาตัวเองจนแห้ง ยิ้มน้อยๆ ว่าหล่อนทำเองได้สิ่งที่เห็นยิ่งทำให้พชรสะท้อนใจ ไม่มีเขา ม่านบุษย
สายฝนโปรยปรายตลอดเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ และปราณบุรี“ช้าหน่อยนะครับคุณเพชร ฝนตกหนักมากเลยครับ”“อืม... ไม่เป็นไร ไปเรื่อยๆ เอาปลอดภัยไว้ก่อน”พชรบอกคนขับรถ นี่คือสาเหตุที่เขาไม่ได้เอารถไปจอดไว้ที่ข้างบ้านม่านบุษยา เพราะตลอด 1 เดือนก่อนที่หล่อนจะคลอด เขาตีรถจากกรุงเทพฯ มาปราณบุรีทุกวัน พอเคลียร์งานเรียบร้อย เขาก็ออกเดินทาง โดยมีคนขับรถมาให้ พอคนขับส่งเขาที่บ้าน ก็ไปจอดนอนพักที่โฮมสเตย์ของป้าแป้น เพื่อตี 5 จะตีรถเข้ากรุงเทพฯ อีกครั้ง เรียกได้ว่าคนขับรถของเขา เทียวไปเทียวมาจนคุ้นชินกับทุกหลุมบนท้องถนน ที่บ้านม่านบุษยา แม่ชำเลืองมองไปที่หน้าบ้านบ่อยครั้ง เพราะว่าดึกแล้วแต่พชรก็ยังไม่มา “บัว คุณเพชรเขาโทร.มาบอกแม่ว่า จะกลับมาวันนี้ แต่นี่มันดึกแล้วนะลูก ฝนก็ตกหนักอีก” แม่เหมือนจะบ่นให้ฟัง แต่ม่านบุษยารู้ว่านั่นคือความเป็นห่วง หล่อนเองก็ห่วงพชรเช่นกัน “ลองโทร.หาดีไหมลูก” ม่านบุษยาพยักหน้า ก่อนจะกดโทร.ออก ทว่าติดแต่ไม่มีคนรับ ลางสังหรณ์บางอย่างพวยพุ่ง หัวใจของหล่อนสั่นไหว เพราะถึงเสียงฝนจะดัง แต่ถ้าพชรกำลังเดินทาง เขาต้องเ
ข่าวหน้าแรกของเว็บไซต์ข่าวเศรษฐกิจชื่อดังพาดหัวว่า[‘พชร ธาราธร’ ผงาด! คว้าโควต้าส่งออกอาหารทะเลล็อตใหญ่ เปิดตลาดใหม่สู่ยุโรป]ตามด้วยภาพของเขาในชุดสูทเรียบหรู กำลังก้าวลงจากเวทีพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน ไม่ได้ดุดันเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาเพจข่าวบันเทิงอีกด้านกลับดึงประเด็นดราม่าเก่า[อดีตคู่หมั้นที่วิกัญญาเคยฟ้องว่านอกใจ-ทำร้ายร่างกาย แต่พชรกลับได้เป็นผู้นำธุรกิจไทย]เนื้อข่าวมองมาแต่ดาวอังคารยังรู้ว่านี่การขุดหลุมฝังกลบวิกัญญา แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้เรียกยอดวิวได้มากที่สุด เพราะเหล่าบรรดาประชาชนช่างใส่ใจเข้ามาคอมเมนต์โพสต์กันจ้าละหวั่น[ใครจะยอมแต่งงานแบบคลุมถุงชนกันง่ายๆ ล่ะคะ คุณเพชรเขามีคนรักอยู่แล้ว เขารักกันมา 6 ปี ไม่ใช่เรื่องนอกใจค่ะ]คอมเมนต์จากผู้ใช้ชื่อ ‘ม่านฝัน’ มีคนมากดไลก์นับหมื่นและแชร์กระหน่ำ กระแสกลับตาลปัตรอย่างสมบูรณ์ และชื่อของพชรกลายเป็นภาพจำใหม่ของ ‘ผู้ชายที่มีความรักมั่นคง’ ในสายตาชาวเน็ตแต่เรื่องที่ทำให้คนทั้งประเทศฮือฮา ก็คือการให้สัมภาษณ์สดกับช่องเศรษฐกิจชื่อดังในช่วงเย็นของวันนั้น เมื่อผู้สื่อข่าวถามคำถามสุดท้าย“มีข่าวซุบซิบว่าคุณเพชรหายไปหนึ่งเดือนกว่าๆ เพราะลาค
พชรทำตัวเหมือนเป็นคนในครอบครัว เช้าตรู่เขามาพาลูกไปรับวิตามินดี พอเอาลูกมาส่งคืนแม่ เขาก็ไปช่วยซักผ้าอ้อม ซึ่งทุกวันก็จะมีผ้าที่เปื้อนอึ แม้ว่าแม่จะล้างอึออกไปแล้ว แต่ก็ยังเห็นเป็นรอยที่ต้องขยี้ซัก และก็มีบ้างบางวันที่เจ้าตัวน้อยอึออกมาสดๆ ร้อนๆ ขณะที่เขากำลังซักผ้าอ้อมอยู่“ผมทำเองครับแม่”“อุ๊ย! ไม่ได้ค่ะคุณเพชร เดี๋ยวแม่ล้างเอง คุณเพชรไปซักกองนั้นก็พอค่ะ”แม่ของม่านบุษยาพูดขึ้นอย่างเกรงใจ แม้จะเรียกแทนตัวเองว่า ‘แม่-ลูก’ กันไปแล้ว แต่ใครจะกล้าใช้ท่านประธานบริษัทมาล้างอึลูก“ไม่เป็นไรครับ ผมอยากทำ”“มันเหม็นนะคะ”พชรกลับส่ายหน้า อมยิ้มน้อยๆ“อึลูกไม่เหม็นหรอกครับ ผมอยากทำให้เขา”คนพูดไปน้ำตาคลอไป ทำให้ม่านมัสลินที่แอบดูอยู่ที่ข้างประตูหัวเราะคิกคัก“พี่เพชรหอมจนร้องไห้เลยนะคะ”อีกคนที่เรียกพชรว่า ‘พี่’ อย่างสนิทสนมม่านบุษยานั่งให้นมลูกและฟังเสียงพูดคุยของทั้งสามคนไปด้วย บรรยากาศในบ้านที่อบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะ อดไม่ได้ที่จะทำให้หล่อนยิ้มตาม คงมีเพียงหล่อนคนเดียวที่ไม่มีความสนิทสนมกับเขาจนน้องพอร์ชอายุได้ 1 เดือน พชรก็ยังมีกิจวัตรเหมือนเดิม ไม่ได้กลับไปทำงาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ งานเ
เสียงร้องเบาๆ ของเด็กทารกดังลอดออกมาจากบ้านไม้หลังกะทัดรัดข้างเคียง พชรยืนอยู่ข้างรั้วชะเง้อมอง แต่ไม่กล้าก้าวเข้าไป เพราะเจ้าของบ้านไม่ได้อนุญาต ตั้งแต่วันที่ม่านบุษยาคลอดลูก และกลับบ้านได้ในวันรุ่งขึ้น หล่อนก็ไม่ได้พูดอะไรกับเขาอีกเลย เขารู้ว่าหล่อนเหนื่อย แต่กลับมาบ้านแล้ว ม่านบุษยาก็ยังไม่ได้เรียก ไม่ได้คุยกับเขา ทว่าทุกครั้งที่เขาได้ยินเสียงลูกร้อง ใจเขาจะขาด“แม่ครับ! น้องพอร์ชเป็นอะไรครับ ทำไมร้องเสียงดังล่ะครับ”อดไม่ได้ที่จะตะโกนถาม เมื่อเห็นแม่ของม่านบุษยาเดินออกมาหญิงสูงวัยท่าทางใจดีกวักมือเรียกเขา และทำท่าจุ๊ปากไม่ได้เขาพูด แค่นั้นก็เข้าใจทันทีพชรแทบจะเหาะเข้าไปในบ้านของม่านบุษยา และแม่ของหล่อนก็จูงมือเขาไปแอบอยู่ข้างประตูกระจก ให้แอบมองด้านใน ที่เห็นก็คือ ม่านบุษยากำลังนั่งให้นมลูก และแม่ก็เข้ามากระซิบ“น้องพอร์ชหิวนมน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”พชรพยักหน้าแต่สายตามองภาพนั้นไม่หยุด ภาพใบหน้าสวยหวานของม่านบุษยาที่ทอดมองลูกชายตัวน้อยของเขา แค่เห็นก็มีความสุขเหลือเกิน“เด็กอ่อนยังเอาออกมาโดนลมมากไม่ได้ แต่เช้าๆ ตอนพระอาทิตย์ขึ้น แม่จะอุ้มเขาออกมารับวิตามินดี”“ครับ ขอบคุณครับ”เขารู







