เข้าสู่ระบบบทที่ 5
บ้านใหญ่
สาวออฟฟิศเลิกงานตอนห้าโมงเย็นอย่างรุ เวลาปกติแล้วต้องนั่งรถเมล์กลับที่พัก เมื่อก่อนรุเองก็นั่งรถเมล์กลับเช่นกัน แต่พอได้เลื่อนสถานะมาเป็นแฟนของสาวไฮโซเงินหนา พ่อรวยอย่างโณ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่เปลี่ยนไปมาก
ทำไมไม่ขอฉันเป็นแฟนตั้งแต่แรกนะ
“สวัสดีครับคุณรุ”
คบขับรถเลื่อนกระจกรถทักทาย รุเองก็ผงกศีรษะลงเล็กน้อยเพื่อทักทายเขากลับไป
“สวัสดีค่ะคุณศักดิ์” เมื่อทักทายกันแล้วก็ก้าวขึ้นรถไป แต่แล้วผู้หญิงหน้าสวยที่นั่งอยู่ในรถก็ทำให้รุตกใจ “โณ ไหนว่ากลับพรุ่งนี้ไง”
โณไปทำงานที่ฮ่องกง เธอบอกกับรุว่าจะกลับวันพรุ่งนี้ รุจึงตกใจมากที่เห็นโณนั่งอยู่บนรถที่รับส่งเธอมาตั้งแต่ที่ทั้งคู่คบหาดูใจกัน
“เซอร์ไพรส์ไง ทำไม หรือว่ามีอะไรปกปิดฉัน”
รุรีบส่ายหน้าในทันที ทั้งยังงัดลูกอ้อนออกมาอ้อนแฟนสาว โดยที่ไม่ได้สนใจเลยสักนิดว่าคนขับรถจะมองอยู่หรือไม่ เพราะอย่างไร เขาก็คือคนที่รู้เห็นเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่มาตลอด
“คุณโณจะให้ผมขับไปที่ไหนครับ”
“บ้านใหญ่ค่ะ”
ตอบสั้น ๆ คนขับรถก็ตรงดิ่งไปยังคฤหาสน์ซึ่งตั้งอยู่ชานเมือง กว่าจะฝ่ารถติดไปถึงที่นั่นได้ก็กินเวลากว่าสองชั่วโมง
“คุณหนูกลับมาแล้วเหรอคะ อ้าว คุณรุก็มาด้วย”
แม่นมของโณเดินออกมาต้อนรับพร้อมทั้งช่วยคุณหนูของตนถือกระเป๋าด้วย ใบหน้าแสดงความดีใจเป็นอย่างมาก ด้วยไม่ได้เห็นหน้าคุณหนูมาเกือบเดือนแล้ว
“ค่ะนม คุณพ่ออยู่ที่ห้องทำงานไหมคะ โณอยากรายงานเรื่องงานก่อนจะไปพักผ่อน”
“ค่ะ คุณท่านอยู่ในห้องทำงานตั้งแต่กลับมาจากสนามบินแล้วค่ะ”
“โอเคค่ะ งั้นพารุไปพักผ่อนก่อนได้เลยนะคะ...เดี๋ยวฉันมานะ”
ประโยคตอนต้นเอ่ยบอกแม่นมประโยคหลังหันไปบอกรุ จากนั้นโณก็เดินขึ้นไปยังห้องทำงานทางปีกซ้ายของคฤหาสถน์ ซึ่งห้องนอนส่วนตัวของโณอยู่ทางฝั่งปีกขวาของ
“คุณรุไม่ได้มาค้างที่นี่นานเลยนะคะ”
อย่างที่บอกว่ารุกับโณคบเป็นเพื่อนกันมานานมากแล้ว แน่นอนว่ารุย่อมเคยมาค้างที่บ้านใหญ่หลายครั้ง
“ใช่ค่ะ คิดถึงนมมากเลยนะคะ”
“นมก็คิดถึงคุณรุค่ะ”
เสียงพูดคุยของสตรีทั้งสองทำให้ ‘เน’ น้องชายวัย 19 ปีของโณได้ยินเข้า เขาเดินออกมาจากห้องของตนเองหลังจากที่สองเสียงนั้นเดินห่างออกไปไกล ดวงตาฉายความดีใจขึ้นมาในทันที
“นั่นเพื่อนตัวน้อยของพี่โณนี่”
เนมีเครื่องหน้าได้รูปไม่ต่างจากโณ นั่นหมายความว่าเขาหล่อมาก และที่สำคัญเขาเป็นวัยรุ่นที่กำลังคลั่งไคล้ ‘เรื่องอย่างว่า’ ตั้งแต่ขึ้นมหาวิทยาลัยมา สาว ๆ ไม่ซ้ำหน้ากันเลยสักคน และเขาก็แอบเล็งเพื่อนพี่สาวคนนี้มานานหลายปีแล้ว
ไม่รอช้า เพียงแค่แม่นมเดินจากไป ร่างสูงในชุดนักศึกษาชายเสื้อหลุดลุ่ยก็เดินตรงไปยังห้องของโณพร้อมทั้งยกมือขึ้นเคาะ
ก๊อก ก๊อก
เพียงเคาะไม่กี่ทีเท่านั้นประตูห้องก็เปิดออกแล้ว เรียกรอยยิ้มมุมปากจากเนได้เป็นอย่างดี
“โณ ทำมาเร็ว...อ้าว! น้องเน”
ใบหน้ายิ้มแย้มของรุเปลี่ยนไปในทันทีเมื่อเห็นร่างสูงยืนล้วงกระเป๋าให้เธออยู่ รุจะไม่อคติเลย ถ้าหากทั้งคู่ไม่มีประเด็นกันในอดีต
เมื่อสามปีก่อนตอนที่เนอายุ 16 เขาเคยสารภาพรักกับเธอ ทั้งยังจุ๊บริมฝีปากเธอแบบที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัวด้วย ซึ่งเรื่องนี้รุไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลยแม้กระทั่งโณ
“ไง พี่สาวคนสวย ไปคุยกันหน่อยไหม”
“น้องเนมีอะไรจะพูดกับพี่ก็พูดได้เลยนะคะ พี่รอฟังอยู่ค่ะ” รุพยายามประคองรอยยิ้มไว้บนใบหน้าเพื่อกลบความหวาดหวั่น
เนยิ้มมุมปาก เขารู้อยู่แล้วว่ามันไม่ได้ง่าย
“พอดีผมมีเรื่องอยากจะคุยกับพี่เป็นการส่วนตัวหน่อย ห้องผมก็คงไม่เหมาะ งั้นห้องพี่โณเลยแล้วกัน”
กล่าวจบก็ดันตัวรุเข้าไปในห้อง มิหนำซ้ำยังจัดการล็อคกลอนประตูเอาไว้เสร็จสรรพ เดิมทีการอยู่กับผู้ชายในที่ลับตาคนก็เพียงพอจะทำให้รุใจไม่ดีแล้ว แต่นี่ยังมาอยู่ในห้องโณอีก คิดดูเถอะว่าเธอจะอึดอัดใจแค่ไหน
“น้องเน แบบนี้ไม่เหมาะนะคะ ถ้าน้องเนอยากคุยกับพี่ อย่างเช่นห้องรับแขกจะเหมาะกว่าไหม”
เนยิ้มกว้างกว่าเดิม การทำให้ใครรนรานเสียอาการได้เป็นสิ่งที่เขาชอบที่สุด และยิ่งชอบเข้าไปอีกเมื่อพี่สาวคนสวยผู้เป็นรักแรกของเขาแสดงท่าทีตื่นกลัวออกมาเช่นนี้
“เราไม่ได้เจอกันนานแล้ว แค่เห็นจากรูปร่างภายนอกแบบนี้พี่ก็รู้แล้วใช่ไหมว่าผมโตขึ้นมาก ไม่ใช่เด็ก ม.ปลาย แบบในอดีตที่พี่จะหักหน้าผมได้ง่าย ๆ อีกแล้ว”
คำว่า ‘หักหน้า’ ของเนบ่งบอกว่าเขายังคงถือสาเรื่องที่รุปฏิเสธเขาเมื่อหลายปีก่อน รุชักหวั่นใจแล้วว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าจะทำการอะไรที่ ‘เอาคืน’ เธอหรือไม่
“เนดูโกรธพี่รุนะคะ ถ้าตอนนั้นพี่ทำให้เนรู้สึกเสียหน้า พี่ขอโทษน้องเนตอนนี้ยังทันไหม”
เนส่ายหน้าช้า ๆ “คำ ‘ขอโทษ’ ก็แค่คำพูดที่ออกมาจากลมปากเท่านั้น ไม่ได้แสดงความจริงใจอะไรเลย ทำไมพี่ไม่พิสูจน์ด้วยการกระทำล่ะครับ”
ใจของรุหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อเนดึงเธอเข้ามากอด ใบหน้าหล่อเหลาเลื่อนเข้ามาใกล้เธอมากขึ้น สายตาจดจ้องอยู่ที่ริมฝีปากของเธอไม่ไปไหน ยิ่งเธอถอยห่างเท่าไร เข้าก็ยิ่งก้มหน้าเข้ามาใกล้มากขึ้นจนรุสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อน
“พี่กลัวขนาดนั้นเลยเหรอ”
จากตอนแรกที่เขาตั้งใจจะแกล้งเล่นเท่านั้น มาตอนนี้กลับไม่นึกสนุกแล้ว เมื่อรักแรกของเขาเนื้อตัวสั่นระริก ดวงตาปิดสนิทเม้มปากแน่น
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูทำให้รุลืมตาขึ้น ตกใจจนงัดเอาเรี่ยวแรงทั้งหมดมาผลักเนออกห่างได้ เธอกระวนกระวาย กลัวว่าคนที่เคาะประตูจะเป็นโณ
“รุ นี่ฉันเอง”
แล้วสิ่งที่เธอไม่ปรารถนาก็เกิดขึ้นจนได้ คนที่เคาะประตูก็คือโณ รุจึงกระวนกระวายเพราะไม่อยากให้แฟนสาวเห็นว่าเธออยู่สองต่อสองกับน้องชายแฟน
“น้องเน ไปซ่อนที่ระเบียงก่อน”
เนขืนตัวเอาไว้ เพราะไม่เห็นความจำเป็นใดที่จะต้องซ่อนตัว ต่อให้พี่สาวเปิดประตูมาแล้วเห็นเขาแนบสนิทกับรุจริง ๆ แล้วละก็ เขาก็จะตอบออกมาตามตรงว่า
…ผมอยากได้พี่รุ!
“นะ พี่ขอละนะ”
เนเห็นสีหน้าจะร้องไห้ของรุแล้วนึกสงสาร แต่ก็ไม่วายคิดเรื่องเอาเปรียบผู้อื่นออกมา
“จูบผมก่อน แล้วผมจะยอมไปซ่อน”
แน่นอนว่ารุไม่ยอมทำแน่ แต่เสียงของโณก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง รุจึงได้คว้าคอหนาลงต่ำแล้วประกบริมฝีปากลงแบบผิวเผิน
เธอคิดว่ามันจะจบเพียงเท่านี้ แต่เนกลับไม่ยอมปล่อย ดันเธอไปชิดกับผนังแล้วสอดลิ้นสากเข้ามาในโพรงปากอิ่ม ดูดกลืนความหวานอย่างหิวกระหาย นาทีนี้รุทั้งตกใจทั้งกลัว ผนังห้องไม่ได้เก็บเสียงขนาดนั้น เธอกลัวว่าเสียงของตนเองจะเล็ดลอดออกไปจนโณได้ยินเข้า
“อือ~”
เสียงครางในลำคอของเนบ่งบอกว่าเขาพอใจกับรสชาตินี้เป็นอย่างมาก ทั้งยังดูดกลืนริมฝีปากนุ่มอย่างเร่งรีบ ราวกับว่าถ้าเขาไม่รีบทำเสียตั้งแต่ตอนนี้ เขาจะไม่มีสิทธิ์ได้ทำมันอีกแล้ว
“รุ! ทำอะไรอยู่ ถ้าไม่สะดวกมาเปิดประตูก็เอ่ยตอบฉันหน่อยสิ ฉันเป็นห่วงนะ”
น้ำเสียงกังวลของโณทำให้รุออกแรงตีอกของเนแรง ๆ ไม่ใช่เพราะเขาเจ็บ แต่เป็นเพราะว่าโณบอกให้แม่บ้านเอากุญแจมาเปิด เนถึงได้ผละจูบออก
“ไปที่ระเบียงเดี๋ยวนี้”
รุออกคำสั่งด้วยอาการหอบเล็กน้อย เธอโล่งอกที่เนยอมทำตามแต่โดยดี เมื่อปรับลมหายใจได้เป็นปกติแล้วจึงได้เปิดประตูห้องออกไป
“รุ มัวแต่ทำอะไรอยู่ ตกใจหมดเลย คิดว่าเป็นอะไรไป”
“ขอโทษทีโณ เมื่อกี้เราเข้าห้องน้ำอยู่”
“ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ ฉันร้อนใจแทบบ้าแล้ว”
บทที่ 80 บทส่งท้ายตอนเช้ารุเปลี่ยนมาใส่ชุดสูทลินินขาสั้นสีเขียวพร้อมสวมหมวกสีเดียวกับชุด ตอนแรกเนเห็นก็คิดว่าหญิงสาวเผยแค่เรียวขาเท่านั้นจนกระทั่งเธอเข้ามาในเต็นท์แล้วรูดซิปเสื้อสูทลง จึงเห็นว่าด้านในเป็นบิกีนี่สีเขียวขี้ม้า แหวกหน้าอกจนเห็นเนื้อสีขาวทะลักออกมา เขาจึงรีบเอื้อมมือไปรูดซิปขึ้นจนถึงคอทำเอาหญิงสาวหน้าเหวอไปเลย“อะไรเน พี่จะพ่นสเปย์รักแร้”เนหน้าเจื่อนไปนิดหนึ่ง แต่ก็ยังทำเป็นเข้ม “ก็ทำสิครับ”ชุดสูทตัวนี้ต้องถอดเสื้อออกก่อนรุถึงจะสามารถพ่นสเปย์ให้โดนใต้วงแขนในระยะพอดีได้ เพราะเช่นนั้นตอนรุถอดเสื้อออกเนจึงได้เห็นบิกี่นี่ท่อนบนเต็ม ๆ ดวงตาคมกริบจ้องส่วนขาวนวลที่ล้นออกมาจากบิกี่นี่ กลืนน้ำลายเหนียวลงคอเมื่อหญิงสาวเตรียมจะใส่เสื้อตามเดิม1 2 3…“ว้าย!”การทดเลขในใจไว้ของเขาไม่เป็นผลเมื่อสุดท้ายเนก็ผลักรุลงนอนอีกครั้งเตรียมจะจรดริมฝีปากลงอกอิ่มเกินตัว ริมฝีปากหนาครอบครองยอดยกทั้งสองข้างจนชุ่ม กระตุ้นเส้นประสาทจนรุเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาบ้างแล้ว แต่เมื่อได้ยินเสียงของผู้ตั้งแคมป์คนอื่นเดินผ่านมา เธอก็รีบตีไหล่หนาให้พอได้แล้ว“สักรอบไม่ได้เหรอครับ”เขาเงยหน้าขึ้นจากอกอิ่มด้วยสีหน้า
บทที่ 79รุตัวแข็งทื่อเมื่อโดนเนรุกอย่างกะทันหัน จนกระทั่งสะโพกสัมผัสได้ถึงความแข็งกลางกายเขา เธอจึงทราบว่าแท้จริงแล้วชายหนุ่มมีความรู้สึกมาได้สักพักแล้ว และตอนนี้ก็พร้อมสำหรับก้าวต่อไปแล้วด้วย“เข้าใจแล้ว ดับตะเกียงเพราะกลัวคนเห็นเงาจริง ๆ ด้วย”เนไม่ตอบว่าใช่หรือไม่ใช่เพราะเขากำลังเน้นปฏิบัติ ริมฝีปากหนาพรมจูบไปยังใบหน้าเนียนกลิ่นสะอาด ก่อนที่จะเลื่อนจมูกลงต่ำเรื่อย ๆ มายังลำคอหอมอ่อน ๆ ยิ่งได้กลิ่นกายเฉพาะตัวเธอมากเท่าไรก็ยิ่งเป็นการเพิ่มอารมณ์ให้เขามากขึ้นเท่านั้น“เน…เบา ๆ นะ”รุเอ่ยเสียงกระซิบทั้งยังเอียงหน้าไปทางตรงข้ามกับที่ริมฝีปากหนากำลังไล่ลงต่ำ ขนอ่อนบนกายชูชันด้วยหวั่นไหวไปกับสัมผัสของเขา“ที่บอกว่าเบา ๆ เป็นเสียงหรือว่าสัมผัสจากผมครับ”ถามเสร็จมือหนาก็สอดเข้าไปใต้ร่มผ้าในชุดเสื้อยืดกางเกงวอร์มขายาวของรุ หญิงสาวไม่ตอบทั้งยังชูแขนขึ้นให้เขาได้ถอดเสื้อยืดตัวโคลงซึ่งด้านในมีเสื้อชั้นในตัวเล็กปกคลุมเอาไว้“หมายถึง…เสียง”ใบหน้าหล่อเหลาปรากฏรอยยิ้มมุมปาก เมื่อหญิงสาวเปิดทางให้แบบนี้แล้ว เสื้อชั้นในตัวเล็กก็ไม่ได้เกาะอยู่กับร่างกายเธออีกต่อไป รวมถึงเสื้อผ้าตัวอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน
บทที่ 78เมื่อเสร็จพิธียกช่อฟ้ารุกับเนไม่ได้กลับในทันทีเพราะวางแผนเอาไว้แล้วว่าจะขึ้นไปกางเต็นท์บนลานชมดาวของอุทยานแห่งชาติ รุแอบดีใจที่ลานชมดาวไม่ได้มีเพียงเธอและเน ที่นี่มีเต็นท์อีกสิบกว่าหลัง บรรยากาศไม่เงียบสงบเกินไปแต่ก็ไม่เหงาจนเกินไป“ดีนะบนนี้ยังมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตอยู่บ้าง ไม่งั้นอัพโหลดคลิปใหม่ไม่ได้แน่…สำเร็จ!”รุชูมือขึ้นเหนือฟ้าเมื่อสามารถอัพโหลดคลิปวิดีโอลงบนบัญชีติกต๊อกส่วนตัวได้สำเร็จ ช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาเธอสามารถเรียกตัวเองเป็นดาวติกต๊อกได้แล้ว เพราะว่าผู้ติดตามในตอนนี้ขึ้นเลข ‘1M’ แล้วเนที่กางเต็นท์เสร็จแล้วยิ้มดีใจกับพี่สาวคนสวย เขากางเต็นท์คนเดียวโดยให้รุนั่งตัดคลิปไป ตอนแรกเธอก็อยากเข้ามาช่วยเขา แต่ช่วยแล้วเนกางเต็นท์ได้ยากกว่าเดิม เขาจึงให้เธอไปนั่งพักแล้วกางเต็นท์ต่อคนเดียว รุที่ไม่มีอะไรทำจึงได้ตัดคลิปที่ถ่ายในงานพิธีวันนี้ลงโซเชียล“เนเก่งมาก ต่อไปนี้ก็ไปแคมป์ปิ้งกลางป่าได้แล้วสิ แต่พี่ไม่ไปด้วยนะพี่กลัวงู แต่ถ้าเป็นลานชมดาวที่โล่ง ๆ แบบนี้พี่อยู่ได้”เนหยิบเก้าอี้พับอีกตัวให้รุ มือหนาตบลงบนเก้าอี้ให้เธอได้นั่งลง เมื่อรุหย่อนก้นนั่งลงก็กวาดตามองโดยรอบ เ
บทที่ 77พูดคุยเรื่องต่าง ๆ กันอยู่นานเวลาก็ล่วงเลยมาสี่ทุ่มแล้ว รุจึงชวนชายหนุ่มนอนที่นี่ ตอนแรกเธอก็ไม่กล้าชวนเขานอน แต่เมื่อยายพิศเคยเอ่ยปากอนุญาตแล้ว เธอจึงได้ชวนเขาขึ้นมานอนบนบ้าน ปูที่นอนพร้อมกางมุ้งให้อีกฝ่ายด้วยยายพิศได้ยินเสียงเลยตื่นออกมาดูครู่หนึ่ง สนทนากับเนไม่นานก็กลับเข้าไปนอน ก่อนที่รุจะเข้าไปนอนในห้องเธอก็ตรวจความเรียบร้อยของมุ้งว่าเหน็บมุ้งดีหรือไม่ ด้วยกลัวว่ายุงจะเข้าไปด้านในมุ้งของเนเนที่นั่งอยู่ในมุ้งสีขาวให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจยิ่งแล้ว มองรุที่กำลังคลานไปเหน็บมุ้งกับที่นอนรอบทิศ ท่าทางเธอในตอนนี้เหมือนแม่ที่กำลังห่วงลูกน้อยกลัวว่าลูกน้อยจะโดนลิ้นไรไต่ตอม“พอแล้วครับพี่รุ ยุงเข้าไม่ได้แล้ว”“เข้าไม่ได้แน่ แต่ว่าจะเป็นการขังมันไว้ด้วยหรือเปล่า ด้านในมีไหม เผื่อขังยุงเอาไว้” ไม่ว่าเปล่ายังเพ่งสายตาเข้ามาด้านในด้วย เนจึงได้ยื่นมือไปบีบแก้มเธอผ่านมุ้งจนรุร้อง “โอ๊ย!”“ไปนอนได้แล้วครับ พรุ่งนี้ต้องไปงานยกช่อฟ้านะ ผิวไม่ดีเดี๋ยวแต่งหน้าไม่สวยนะครับ”งานยกช่อฟ้าจัดขึ้นพรุ่งนี้ โณและธนาไม่ว่างเนและรุจึงเป็นตัวแทนของทั้งสองเป็นประธานของพิธีแทน“ก็ได้”รุลุกขึ้นยืน ปิดไฟตรงห
บทที่ 76“แม่รอตั้งนานทำไมมาช้าจังเลย”เมื่อจอดรถแล้วเดินเข้ามาในบ้านประโยคแรกที่มานีทักขึ้นก็คือประโยคนี้ รุไม่เห็นรถเนจอดหน้าบ้านไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือว่ารถมอเตอร์ไซด์จึงเดาว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วไม่อยู่ที่นี่ตั้งแต่แรกหรือว่ากลับไปแล้วนะ“ไหนจ๊ะ ลูกชายที่แม่ว่า”“เนกลับไปแล้ว เราอยากมาช้าเอง”รุได้ยินเช่นนั้นในใจยิ่งรู้สึกระอุขึ้น…มาที่นี่แต่ไม่รับสายกันหมายความว่ายังไงกันแน่“กลับที่ว่ากลับกรุงเทพฯ หรือว่ากลับบ้านมินิมอลคะ”มานียิ้มแก้มปริเมื่อเห็นลูกสาวเก็บอาการไม่อยู่ ไม่วายเอ่ยแซวด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ“ทำไม อยากรู้ล่ะสิ ถ้าอยากรู้ทำไมไม่โทร.ไปหาเองล่ะ”โทร.ไปแล้วแต่เขาไม่รับใครจะกล้าโทร.กลับไปอีกรอบล่ะ“หนูจะไปอาบน้ำแล้วจ้ะ วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”“อ้อ ๆ เสร็จแล้วมากินข้าวนะ แม่กับพ่อกินไปก่อนแล้ว เก็บไว้ให้หนูแล้วด้วย”รุพยักหน้าแทนการพูด จากนั้นก็เดินไปห้องตัวเองผลัดเปลี่ยนเป็นชุดผ้าขนหนูแล้วอาบน้ำในห้องน้ำหลังใหม่เอี่ยมไร้เงาอึ่งอ่างในห้องน้ำเช่นในอดีต“รุ อาบน้ำตั้งนานแล้วยังไม่เสร็จอีกเหรอหนู ตัวเปื่อยยุ่ยแล้วมั้ง”เพราะกำลังอยู่ในภาวะคิดหนัก รุจึงใจลอยจนทำทุกอย่างช้
บทที่ 75‘กิเลสตัณหาใดยับยั้งช่างใจได้เลย’รุเก็บคำพูดของเนวันนั้นมาคิดตลอด กระทั่งผ่านมาหลายวันจนเธอกลับจังหวัดบ้านเกิด ช่วงไหนที่ว่างเธอจะคิดถึงคำพูดนี้ของเขาทันทีแม้กระทั่งตอนที่พายายมาหาหมอในโรงพยาบาลรัฐตามวันที่หมอนัด ช่วงที่ไม่มีอะไรทำเธอก็คิดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้ง“เขาพูดจริงเหรอ หรือแค่กำลังล้อเราเล่น”“ใครล้อใครเล่นหรือหนู”รุกลับมาอยู่ในโลกของความเป็นจริงอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงของคุณยายดังขึ้น ใบหน้าที่แต่งบาง ๆ รีบดึงรอยยิ้มกลับมาประดับใบหน้า“หนูกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจ้ะยาย แล้วนี่ยายกำลังหาหมากทานอยู่เหรอจ๊ะ อดใจก่อนได้ไหมจ๊ะยาย เดี๋ยวหมอก็เรียกแล้วใกล้ถึงคิวแล้วจ้ะ”ยายพิศถอนหายเมื่อโดนหลานห้ามไม่ให้เคี้ยวหมาก แต่สุดท้ายก็เชื่อฟังหลาน นั่งมองผู้สูงอายุในวัยไล่เรี่ยกันเดินเข้าห้องตรวจตามคิว การตรวจสุขภาพจะมีทุกสี่เดือน ปรกติแม่กับน้าคนที่สองของเธอจะเป็นคนพามา แต่พอรุย้ายมาอยู่ต่างจังหวัดแล้ว เธอจึงเป็นคนพายายมาแทนคุณยายพิศมีโรคประจำตัวคือเบาหวาน โรคนี้ถ่ายทอดทางพันธุกรรมมาถึงน้าคนที่สองและลูกสาวของน้าด้วย ดีว่ามานีไม่เป็น มิเช่นนั้นรุก็มีโอกาสเป็นเบาหวานตามการถ่ายทอด







