การดูงานในแผนกต่างๆ ของบริษัท หลี่เจียวมิ่งได้แสดงไหวพริบในการตั้งคำถามจนทำให้โม่เหยี่ยนประทับใจอีกหลายครั้ง เด็กคนนี้นอกจากจะมีความมั่นใจแล้ว ยังเฉลียวฉลาดเกินเด็กวัยเดียวกัน
ในใจเริ่มอยากรู้ว่าพ่อแม่ของเด็กคนนี้เป็นใคร เลี้ยงดูลูกอย่างไรจึงออกมาดีแบบนี้
ก่อนที่เด็กชายตัวน้อยจะขึ้นรถกลับโรงเรียน เขาก็เดินเข้าไปถามอย่างเอ็นดู
“เฉิงเจียวมิ่ง คุณพ่อคุณแม่ทำงานอะไร”
เด็กน้อยหันมามองหน้าเขาด้วยความสงสัย แต่ก็ตอบน้ำเสียงภาคภูมิใจ
“คุณแม่ทำงานบริษัท ส่วนคุณพ่อเป็นหมอ”
เขาตอบโดยไม่ลังเลสักนิด ในเมื่อใจให้เฉิงอี้หยวนเป็นพ่อไปแล้ว
“อ่อ”
โม่เหยี่ยนกล่าวสั้นๆ เขาส่งเด็กน้อยขึ้นรถแล้วโบกมือลาบรรดาเด็กๆ ที่อยู่บนรถ
“ประธานโม่ เย็นนี้เราไปกินข้าวด้วยกันไหมคะ”
อู๋อี้ตันถามเจ้านายตนหลังจากเด็กนักเรียนกลับกันหมดแล้ว
“ไม่ล่ะ ฉันยังมีงาน”
โม่เหยี่ยนปฏิเสธทันที เขาโบกมือพร้อมเรียกต่งเหอเก๋อ
“ไปกับฉัน”
........
ห้างสรรพสินค้าเล่อฝู
ต่งเหอเก๋อเดินตามหลังโม่เหยี่ยน ในมือถือโทรศัพท์ไว้คอยพิมพ์โน้ตสิ่งที่เจ้านายตนพูด
พวกเขาไปแผนกขนมนำเข้าจากต่างประเทศของแต่ละห้างเพื่อดูผลิตภัณฑ์ต่างๆ
“ประธานโม่จะทำสินค้าแข่งกับพวกนี้หรือครับ”
“ไม่ดีเหรอ ถ้ามีขนมที่มีคุณภาพเหมือนสินค้านำเข้าแต่ราคาเท่ากับสินค้าที่ผลิตเองภายในประเทศ เป็นนายจะเลือกอะไร”
โม่เหยี่ยนพูดพร้อมกับหยิบขนมยี่ห้อต่างๆ เพื่อนำไปจ่ายเงิน
........
เช้าวันถัดมา โม่เหยี่ยนมาถึงบริษัทพร้อมด้วยซองขนมหลากหลายยี่ห้อ
“ให้ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปศึกษาสูตรขนมพวกนี้ แล้วก็ปรับให้เข้ากับความชื่นชอบของเด็กๆ อ่อ สารอาหารให้มีเท่ากันหรือไม่ก็มีมากกว่านะ”
อู๋อี้ตันรับซองขนม สายตามองด้วยความสงสัย
“ประธานโม่จะทำขนมเด็กเพิ่มหรือคะ”
“ไม่ ฉันจะให้กินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ อ่อ แบ่งประเภทไปเลยให้เหมาะสำหรับเด็กเล็กและเหมาะกับผู้ใหญ่ งดผงชูรสให้ใช้ผงปรุงรสจากธรรมชาติทั้งหมด”
โม่เหยี่ยนตอบพลางนึกถึงใบหน้าเด็กน้อยเมื่อวาน โดยเฉพาะหลี่เจียวมิ่ง
เขาอยากทำขนมให้เด็กๆ ได้กินแล้วมีความสุข ขณะเดียวกันก็ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
........
บริษัทโยวสือ
บริษัทเล็กๆ ที่มีพนักงานเพียงหกคน หลี่ชิวโหรวตั้งใจก่อตั้งบริษัทแห่งนี้ให้เหมือนบ้านอันแสนอบอุ่น
“พี่หลี่ ขนมที่เรานำเข้าได้การตอบรับอย่างดีเลยค่ะ”
เถียนถิงถิงพูดกับหลี่ชิวโหรวด้วยความดีใจ
“พี่อยากทำขนมโฮมเมดเพิ่ม คิดว่าดีมั้ย”
หลี่ชิวโหรวเอ่ยถามความคิดเห็นของพนักงานคนอื่นๆ ในบริษัท
“ดีค่ะ”
“เห็นด้วยค่ะ”
“งั้นพี่คิดสูตรก่อนแล้วจะให้พวกเราลองนะ”
หลี่ชิวโหรวยิ้มแย้มแล้วเดินเข้าห้องทำงานของตน เรื่องอาหารเป็นสิ่งที่เธอเชี่ยวชาญเพราะจบด้านนี้มาโดยตรง ทั้งยังศึกษาเพิ่มตั้งแต่ตั้งท้องหลี่เจียวมิ่ง
........
หลังเลิกงานเฉิงอี้หยวนไปรับหลี่เจียวมิ่งที่โรงเรียนก่อนเลยไปรับหลี่ชิวโหรวที่บริษัท
“ทำไมวันนี้พี่ถึงมารับฉันล่ะคะ”
หลี่ชิวโหรวพูดขณะขึ้นรถ
“วันนี้จองร้านอาหารไว้ จะพามิ่งมิ่งไปกินอาหารอร่อยๆ”
เฉิงอี้หยวนหันไปยิ้มให้กับเด็กชายตัวน้อยที่ปรบมือชอบใจ
“ดีดี มิ่งมิ่งชอบของอร่อย”
ย่านการค้า
“โหรวโหรว พี่ไปรอที่ร้านก่อนนะ ถ้าอาหารยกมาเสิร์ฟแล้วจะโทรหา”
เฉิงอี้หยวนบอกหลี่ชิวโหรวที่กำลังจูงมือหลี่เจียวมิ่งเดินตามหลัง
“ได้ค่ะ ฉันพามิ่งมิ่งไปสนามเด็กเล่นนะคะ”
เมื่อถึงสนามเด็กเล่น หลี่ชิวโหรวก็ปล่อยให้ลูกชายของตนวิ่งเล่นอย่างสนุกสนาน
“มิ่งมิ่ง เดี๋ยวแม่มานะ”
เธอตะโกนบอกเด็กน้อย มือเรียวควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าถือ
“น่าจะอยู่บนรถ”
เธอพูดเบาๆ กับตัวเองก่อนเดินไปที่รถ
........
“ที่ย่านการค้าครึกครื้นจังเลยนะคะ”
อู๋อี้ตันพูดเสียงหวาน สายตามองไปรอบๆ บริเวณ
“อืม”
โม่เหยี่ยนที่เดินไม่สนใจสิ่งรอบข้างเหลือบตามองตามที่อู๋อี้ตันพูด เขามองไปยังสนามเด็กเล่นที่ตัวเองกำลังเดินผ่านก็เห็นเด็กชายหน้าตาคุ้นเคยกำลังเล่นเครื่องเล่นอยู่ไม่ไกล
“เฉิงเจียวมิ่ง”
เขาตะโกนเรียกเสียงดัง
หลี่เจียวมิ่งได้ยินเสียงเรียกชื่อตนก็หันมองโดยอัตโนมัติ เมื่อเห็นคุณลุงเจ้าของบริษัทก็เลิกเล่นแล้ววิ่งมาทักทายด้วยความดีใจ
“คุณลุง”
“เฉิงเจียวมิ่ง มากับใคร”
โม่เหยี่ยนยกมือลูบศีรษะเด็กน้อย นัยน์ตาคมมองหาผู้ปกครองของเขา
“มากับแม่และพ่อ”
หลี่เจียวมิ่งตอบอย่างไร้เดียงสา
“แต่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่”
“อ่อ ลุงอยู่เป็นเพื่อนดีไหม”
โม่เหยี่ยนถาม เขาถอดเสื้อสูทให้อู๋อี้ตันถือ ส่วนตัวเขาเองอุ้มหลี่เจียวมิ่งไปเล่นที่ชิงช้า
“ลุงแกว่งสูงๆ เลยนะ”
เขาบอกเด็กชายที่กำลังหัวเราะชอบใจ
ไม่นานนักหลี่ชิวโหรวก็เดินกลับมา เมื่อเธอเห็นโม่ เหยี่ยนกำลังแกว่งชิงช้าให้ลูกชายตัวน้อยก็ชะงักฝีเท้าแล้วยืนนิ่งอยู่สักพัก
“นั่นแม่”
หลี่เจียวมิ่งชี้นิ้วเรียวเล็กมาทางหญิงสาว โม่เหยี่ยนหันหน้ามองตาม
เป็นจังหวะเดียวกับมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาบังหลี่ชิวโหรวพอดี
“อ่อ” โม่เหยี่ยนพยักหน้าเมื่อเห็นผู้หญิงคนนั้น
“งั้นลุงไปทำงานแล้วนะ”
เขาจับชิงช้าให้นิ่ง อุ้มเด็กน้อยลงพื้นแล้วลูบศีรษะทุยของเขาอีกครั้ง
“บ๊ายบาย”
หลี่เจียวมิ่งโบกมือเล็กๆ รอจนโม่เหยี่ยนเดินไปไกลลับตาจึงวิ่งไปหาหลี่ชิวโหรว
“แม่เห็นคุณลุงมั้ย คนนั้นเจ้าของบริษัทที่มิ่งมิ่งไปเที่ยว”
“เห็นแล้วจ้ะ แต่คุณลุงคนนั้นน่าจะทำงานยุ่ง คราวหลังมิ่งมิ่งอย่าไปรบกวนลุงนะ”
เธอพูดเสียงสั่นแต่พยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ
คิดไม่ถึงว่าโม่เหยี่ยนชายที่แสนเย็นชาจะชื่นชอบมิ่งมิ่งของเธอขนาดนี้
หรือว่าเป็นเพราะสายใยพ่อลูก แต่แม้เขาจะเป็นพ่อของมิ่งมิ่ง แต่เธอก็ไม่ต้องการให้คนทั้งสองใกล้ชิดกัน
“สัญญากับแม่สิ จะไม่รบกวนคุณลุงอีก”
หลี่ชิวโหรวสีหน้าจริงจังจนเด็กน้อยเอียงคอสงสัย เมื่อเห็นสายตาของมารดา เขาก็พยักหน้าแล้วยกนิ้วก้อยที่เล็กมาเกี่ยวกับนิ้วก้อยของเธอ
“มิ่งมิ่งสัญญา”
........
ร้านอาหาร
เฉิงอี้หยวนมองหลี่ชิวโหรวที่อุ้มหลี่เจียวมิ่งเข้ามาในร้าน เห็นสีหน้าของเธอดูเคร่งเครียดจนอดถามไม่ได้
“เกิดอะไรขึ้นหรือ”
“ไม่มีอะไรค่ะ”
หญิงสาวตอบ เธอหยิบทิชชูเปียกเช็ดมือทั้งสองข้างของเด็กน้อย
“เมื่อครู่ฉันปล่อยมิ่งมิ่งเล่นคนเดียว เลยรู้สึกกังวล”
เฉิงอี้หยวนมองเด็กชายสายตาอ่อนโยน
“อาหารมาพอดี ของชอบมิ่งมิ่งทั้งหมดเลยนะ”
หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่กินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย แต่หลี่ชิวโหรวเหลือบมองแขกแต่ละโต๊ะทั่วทั้งร้าน เมื่อไม่เห็นร่างของโม่เหยี่ยนเธอก็ถอนหายใจก่อนมองอาหารที่อยู่ตรงหน้า
ในร้านอาหารที่ไม่ไกลกันนัก โม่เหยี่ยนคุยธุระเสร็จ อู๋อี้ตันก็เรียกพนักงานมาสั่งอาหาร “ฉันว่าประธานโม่คงอยากมีเด็กวิ่งเล่นในบ้านแล้วนะคะ ประธานโม่ไม่คิดจะแต่งงานใหม่หรือคะ”เธอถามชายหนุ่มพลางสังเกตปฏิกิริยาของเขา “ฉันไม่อยากแต่งงานใหม่”โม่เหยี่ยนปฏิเสธน้ำเสียงเยือกเย็น “ถ้าประธานไม่อยากแต่งงานแต่อยากมีลูก ฉันก็พร้อมมีให้นะคะ”หญิงสาวรวบรวมความกล้าแล้วพูดเสนอตัวออกมา นัยน์ตาคมของโม่เหยี่ยนมองเธอ ริมฝีปากบางเม้มเล็กน้อย
สนามบินระหว่างประเทศเมืองเจียงโจวหญิงสาวคนหนึ่งอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยวัยสามขวบอยู่ในอ้อมแขน มีผู้หญิงวัยกลางคนยืนกระสับกระส่ายรอรับอยู่ด้านหน้า เมื่อพบหน้ากันก็ช่วยลากกระเป๋าเดินทางของหญิงสาวคนดังกล่าว“คุณหนูกลับบ้านครั้งนี้ คุณท่านดีใจมากเลยนะคะ”หญิงวัยกลางคนกล่าวด้วยรอยยิ้ม“ไม่หรอก ฉันระหกระเหเร่ร่อนอยู่ที่อื่นมาสี่ปี คุณปู่เพิ่งเรียกฉันกลับบ้าน คงมีปัญหาอะไรมากกว่า”หญิงสาวที่อุ้มเด็กหญิงตัวน้อยพูดเสียงราบเรียบ“แต่คุณหนูก็มีเหลนมาให้ท่าน ท่านไม่ตำหนิอะไรหรอกค่ะ”“หยุดพูดเถอะค่ะป้าฮั่ว”หญิงสาวส่งสายตาไม่พอใจ เธอเดินไปขึ้นรถแท็กซี่ที่จอดรอรับผู้โดยสารด้านหน้าอย่างรวดเร็ว.....
การดูงานในแผนกต่างๆ ของบริษัท หลี่เจียวมิ่งได้แสดงไหวพริบในการตั้งคำถามจนทำให้โม่เหยี่ยนประทับใจอีกหลายครั้ง เด็กคนนี้นอกจากจะมีความมั่นใจแล้ว ยังเฉลียวฉลาดเกินเด็กวัยเดียวกัน ในใจเริ่มอยากรู้ว่าพ่อแม่ของเด็กคนนี้เป็นใคร เลี้ยงดูลูกอย่างไรจึงออกมาดีแบบนี้ ก่อนที่เด็กชายตัวน้อยจะขึ้นรถกลับโรงเรียน เขาก็เดินเข้าไปถามอย่างเอ็นดู “เฉิงเจียวมิ่ง คุณพ่อคุณแม่ทำงานอะไร” เด็กน้อยหันมามองหน้าเขาด้วยความสงสัย แต่ก็ตอบน้ำเสียงภาคภูมิใจ“คุณแม่ทำงานบริษัท ส่วนคุณพ่อเป็นหมอ” เขาตอบโดยไ
สี่ปีผ่านไปเมืองซิ่งชุน “หลี่เจียวมิ่ง เก็บของได้แล้วลูก”หลี่ชิวโหรวบอกเด็กชายวัยสามขวบครึ่ง ลูกชายตัวน้อยที่แสนน่ารักของเธอ “เฉิงเจียวมิ่ง อย่าเรียกว่าหลี่เจียวมิ่ง”เด็กชายรีบแย้ง เขาไม่อยากใช้แซ่ของผู้เป็นแม่ เพราะมักถูกเพื่อนที่โรงเรียนล้อว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ ทั้งๆ ที่เขามีพ่อ พ่อของเขาเป็นถึงคุณหมอ มีชื่อว่าเฉิงอี้หยวน “พี่ชอบให้ท้ายหลาน เดี๋ยวเขาก็สับสนหรอก”หลี่ชิวโหรวมองค้อนบอกเฉิงอี้หยวน “โหรวโหรว พี่บอกเธอกี่ครั้งแล้ว ให้มิ่งมิ่งเรียกพี่ว่าพ่อ เขาจะได้ไม่เป็นเด็กมีปัญหา อีกอย่างพี่ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรด้วย”เฉิงอี้หยวนนับจำนวนกระเป๋าเดินทางแล้วช่วยเด็กชายตัวน้อยถือกระเป๋า “พี่ก็นะ เดี๋ยวไม่ได้แต่งงานพอดี”หลี่ชิวโหรวส่ายศีรษะมองผู้ชายตัวใหญ่และผู้ชายตัวเล็กเดินตามกัน เขาเคยขอเธอเป็นแฟน ทั้งยังขอแต่งงานแล้วหลายครั้ง แต่เธอก็ใจแข็ง ตอนนี้กำลังจะย้ายกลับไปที่เมืองจินไห่ อาจจะต้องพิจารณาอีกครั้ง ทำให้เขาเสียโอกาสมีสี่ปี เธอคงต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ ........ เมืองจินไห่ “ไม่ต้องกลับไปอยู่บ้านพ
“เสี่ยวหรู ดูเลขาอู๋ทำสิ นับวันยิ่งทำตัวเป็นเจ้านายแล้วก็ทำเป็นเจ้าของท่านประธาน”ตงเย่ชิง หนึ่งในเลขาหน้าห้องของโม่เหยี่ยนเดินมากระซิบกระซาบกับเฉินเสี่ยวหรู“เอาหน้าขนาดนั้น ถึงกับกล้าหยิบรูปคู่ของท่านประธานกับคุณนายที่อยู่บนชั้นวางหนังสือไปเก็บใส่ลังได้ ประธานก็ไม่ต่อว่า”จ้าวเล่ออิ๋น เลขาอีกคนลากเก้าอี้เข้ามาร่วมวงสนทนา“ฉันเห็นแววตั้งแต่แรกแล้วว่าผู้หญิงคนนี้อยากเป็นคุณนายคนใหม่ อาศัยว่าเคยช่วยชีวิตท่านประธาน ท่านประธานจึงค่อนข้างตามใจเธอ ไม่เคยต่อว่าเลยสักครั้ง”“ก็รอดูว่าท่านประธานจะเอายังไงกับผู้หญิงคนนี้”หญิงสาวทั้งสามคนพูดคุยกันได้สักพักก็แยกย้ายทำงานเหมือนเดิม........ห้องทำงานโม่เหยี่ยน“ประธานโม่คะ เย็นพรุ่งนี้มีงานเลี้ยงดินเนอร์ของประธานเหมาแห่งบริษัทเอ็นเอฟค่ะ”อู๋อี้ตันเปิดตารางงาน รายงานโม่เหยี่ยนด้วยน้ำเสียงดีใจ“อืม” ประธานหนุ่มรับคำ“ประธานโม่จะให้เลขาต่งตามไปหรือว่าให้ฉันไปด้วยดีคะ งานเลี้ยงแบบนี้ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยไปเลยค่ะ”บุรุษที่ฟังอยู่เหลือบตามองหญิงสาว เห็นดวงตาเธอจ้องเขาอย่างมีความหวัง“คุณไปกับผมและเลขาต่งก็ได้” เขาตอบเธอแล้วพูดกับต่งเหอเก๋อ“พาเลขา
เมืองซีเหลียนยามค่ำคืนของเมืองซีเหลียนอากาศเย็นสบาย ตึกและอาคารต่างๆ เปิดไฟประดับสว่างไสวทำให้บรรยากาศคึกคัก ผู้คนพลุกพล่านไม่ต่างจากตอนเช้า“ท่านประธานจะกลับโรงแรมเลยหรือว่าจะไปดื่มก่อนดีครับ”ต่งเหอเก๋อที่กำลังขับรถอยู่เหลือบสายตามองเจ้านายผ่านกระจกมองหลัง“กลับโรงแรม”โม่เหยี่ยนตอบ แต่เมื่อรถถึงหน้าโรงแรมก็กลับพูดขึ้น“ฉันจะลงตรงนี้”เขาเปิดประตูลงจากรถ นัยน์ตาคมมองทางฝั่งซ้ายของโรงแรมที่มีถนนเส้นเล็กสายยาวแต่เต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านขายของหลายร้าน จึงเดินไปอย่างรวดเร็ว“เดินเที่ยวบ้างก็ดี”เขาพูดบอกเลขาเสียงไม่ดังนักต่งเหอเก๋อมองตามหลังเจ้านายหนุ่ม ก่อนที่จะขับรถเข้าไปจอดภายในโรงแรม ปล่อยให้โม่เหยี่ยนเดินชมวิวกลางคืนของเมืองคนเดียวโม่เหยี่ยนปรายตามองแต่ละร้านอย่างไม่สนใจเท่าใด เขาไม่ได้เที่ยวตอนกลางคืนมาหลายปี คืนนี้เลยถือโอกาสเดินชมบรรยากาศเมืองซีเหลียนเมืองนี้แม้ผู้คนจะเยอะแต่ก็ไม่วุ่นวายเท่าเมืองจินไห่ ชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลาย เขาแวะซื้อเบียร์ที่ร้านสะดวกซื้อข้างทาง จากนั้นก็หาเก้าอี้นั่งรับลมริมแม่น้ำที่ไหลผ่านใจกลางเมืองนั่งดื่มเบียร์จนหมดสองกระป๋องเขาก็ลุกขึ้นเพื่อที่จะก
ณ งานเลี้ยงกาลาดินเนอร์ที่จัดขึ้นในโรงแรม ML โรงแรมชื่อดังระดับห้าดาวแห่งเมืองจินไห่ รถยนต์แบรนด์หรูคันใหญ่ค่อยๆ เคลื่อนเข้าจอดเทียบหน้าประตูทางเข้างานประตูรถถูกเปิดออก ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อเหลาแต่เต็มไปด้วยความเย็นชาลงจากรถเป็นคนแรก จากนั้นก็มีหญิงสาวใบหน้าสวยหวาน ผิวพรรณเกลี้ยงเกลาลงจากรถตามมาเธอเอื้อมมือเรียวควงแขนชายหนุ่มเพื่อเดินเข้าไปในงาน พร้อมกับส่งรอยยิ้มให้แขกในงานเป็นระยะ“ประธานโม่ คุณนายโม่”เสียงทักทายจากบรรดาแขกเหรื่อดังขึ้นตลอดทางเมื่อเห็นพวกเขาพวกเขาก็คือประธานโม่เหยี่ยนแห่งบริษัทต้าเฉิง และหลี่ชิวโหรวภรรยาสาวโม่เหยี่ยนเดินทักทายกับแขกคนอื่นอย่างเป็นกันเอง ไม่ว่าใครที่เข้ามาทักทายเขาก็พูดคุยอย่างสนิทสนม ปล่อยให้หลี่ชิวโหรวที่ควงแขนเดินก้าวเท้าตามเขารัวๆลักษณะคล้ายกับว่าเขากำลังลากเธอให้เดินตาม โดยที่ไม่สนใจว่าเธอจะตามทันหรือไม่หลายคนเห็นท่าทางของเขาก็ได้แต่สงสัย เมื่อก่อนประธานโม่เอาใจใส่ดูแลภรรยาสุดสวยคนนี้มาก เธอจะทำอะไรเขาก็ยอมเธอทุกอย่าง แต่มาวันนี้ดูเหมือนเขาไม่ใส่ใจเธอแม้แต่น้อยหลี่ชิวโหรวที่สวมชุดเดรสเข้ารูปและรองเท้าส้นสูง เธอเดินตามสามีหนุ่มไ