สนามบินระหว่างประเทศเมืองเจียงโจว
หญิงสาวคนหนึ่งอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยวัยสามขวบอยู่ในอ้อมแขน มีผู้หญิงวัยกลางคนยืนกระสับกระส่ายรอรับอยู่ด้านหน้า เมื่อพบหน้ากันก็ช่วยลากกระเป๋าเดินทางของหญิงสาวคนดังกล่าว
“คุณหนูกลับบ้านครั้งนี้ คุณท่านดีใจมากเลยนะคะ”
หญิงวัยกลางคนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ไม่หรอก ฉันระหกระเหเร่ร่อนอยู่ที่อื่นมาสี่ปี คุณปู่เพิ่งเรียกฉันกลับบ้าน คงมีปัญหาอะไรมากกว่า”
หญิงสาวที่อุ้มเด็กหญิงตัวน้อยพูดเสียงราบเรียบ
“แต่คุณหนูก็มีเหลนมาให้ท่าน ท่านไม่ตำหนิอะไรหรอกค่ะ”
“หยุดพูดเถอะค่ะป้าฮั่ว”
หญิงสาวส่งสายตาไม่พอใจ เธอเดินไปขึ้นรถแท็กซี่ที่จอดรอรับผู้โดยสารด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
........
คฤหาสน์ตระกูลโจว
รถแท็กซี่สีเขียววิ่งมาจอดที่หน้าประตูรั้วคฤหาสน์หลังใหญ่ หญิงสาวอุ้มเด็กน้อยลงจากรถ ใบหน้าหวานมองเข้าไปภายในรั้ว แววตาของเธอแฝงความกังวลชัดเจน
“ลู่ลู่ ฟังแม่นะ หนูต้องเป็นเด็กดีล่ะ”
“ได้ค่ะ”
เด็กหญิงพยักหน้ารับคำอย่างเชื่อฟัง
เมื่อเธอเดินเข้าไปในบ้าน เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้น
“โจวฟางฟาง กลับบ้านได้สักทีนะ”
หญิงวัยกลางคนพูดกับเธอ สายตาเย็นชามองเด็กน้อยในอ้อมแขนอย่างไม่เป็นมิตร
“มีลูกติดด้วยหรือนี่”
หญิงสาวที่ชื่อว่าโจวฟางฟางยิ้มเล็กน้อย
“ค่ะแม่ นี่ลูกสาวหนู ชื่อโจวลู่ลู่”
เธอตอบแล้วมองบนชั้นสอง ได้ยินเสียงไอของชายวัยชราดังขึ้น
“หนูไปดูคุณปู่ก่อนนะคะ”
พูดจบเธอก็อุ้มโจวลู่ลู่ตัวน้อยเดินตามเสียงไอไปยังห้องนอนของปู่ตัวเอง
“คุณปู่คะ”
โจวฟางฟางส่งเสียงเรียกชายชราที่กำลังดื่มน้ำอยู่บนเตียง
“ฟางฟางกลับมาแล้ว”
ชายชราหรือนายท่านโจวมองลอดแว่นตาดูหลานสาวตน จากนั้นสายตาของเขาก็หยุดลงตรงเด็กหญิงตัวน้อย
รอยยิ้มเกิดขึ้นประดับบนใบหน้าของเขาในทันใด
“หนูน้อย มาหาตาทวดสิ” มือหนากวักเรียกด้วยความดีใจ
โจวฟางฟางปล่อยเด็กน้อยในอ้อมแขน
“ลู่ลู่ เรียกตาทวดสิจ๊ะ”
“ตาทวด”
เด็กหญิงวิ่งเข้าไปหาชายชรา มือเรียวเล็กจับแขนเขาแน่น
“ฮ่าฮ่า มีเด็กผู้หญิงในบ้านทำให้ฉันมีความสุขเสียจริง”
นายท่านโจวหัวเราะพลางเล่นกับโจวลู่ลู่ ทั้งคู่สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว
........
ห้องครัว
จั่วซิ่วหลิงมารดาของโจวฟางฟางเรียกป้าฮั่วมาคุยเป็นการส่วนตัวในห้องครัว เธอมองซ้ายขวาก่อนกระซิบคุยกัน
“ฉันจะไล่ฟางฟางออกจากบ้านเหมือนเดิม แกต้องไปสารภาพผิดเอง”
“คุณนาย” ป้าฮั่วรีบขอร้อง
“ตอนนั้นคุณนายเป็นคนบอกฉันเองว่าอยากมีลูกผู้หญิง ฉันก็ยอมเสี่ยงสลับตัวเด็กแรกเกิดมา”
“ก็ตระกูลโจวไม่มีลูกผู้หญิงเลยสักคน ฉันอยากได้ก็ไม่แปลก แต่ใครจะคิดว่านางเด็กนั่นจะไม่รักดีไปมีอะไรกับผู้ชายที่ไม่รู้จัก แถมยังท้องไม่มีพ่ออีกต่างหาก”
จั่วซิ่วหลิงพูดน้ำเสียงหงุดหงิด
“ถ้าเป็นเด็กดี เชื่อฟังฉัน แต่งงานกับคนที่ฉันเลือกให้ ชีวิตฉันคงสบายมากกว่านี้”
เธอมองป้าฮั่วด้วยสายตาโกรธ
“ฉันอยากเจอลูกชายของฉัน แกต้องไปสืบมาว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน”
“คุณนาย นี่มันก็ยี่สิบห้าปีแล้วนะคะ จะให้ฉันสืบยังไง ฉันไม่ใช่นักสืบนะ อีกอย่างบ้านนั้นได้เด็กผู้ชายไป คงไม่อยากคืนให้แล้วล่ะ”
ป้าฮั่วส่ายหน้าตอบ มือทั้งสองยกขึ้นมานวดขมับของตน
“ไม่ได้เรื่อง”
จั่วซิ่วหลิงสะบัดหน้าเดินออกจากห้องครัวทันที
........
“เฮลโหล เสี่ยวซิง เดี๋ยวฉันจะไปหาที่เจียงโจวนะ”
อู๋อี้ตันโทรศัพท์หาเพื่อนสาวของเธอที่อาศัยอยู่เมืองเจียงโจว
“คิดอะไรจะมาหาฉัน”
ผู้หญิงที่อยู่ปลายสายเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ก็ประธานโม่ไปที่นั่นแล้ว ฉันเพิ่งรู้เรื่องน่ะสิ”
“เขาจะมาสืบเรื่องเมื่อสี่ปีที่แล้วเหรอ แต่คงสืบอะไรไม่ได้แล้ว”
เย่เสี่ยวซิงตอบกลับ น้ำเสียงไม่กังวลสิ่งใด ต่างจากอู๋อี้ตันที่ฟังจากเสียงก็รู้ได้ว่ากำลังกระวนกระวายใจ
“ถ้าเขาเจอผู้ชายในคลิปแล้วถามขึ้นมาล่ะ”
“อี้ตัน ฉันยังไม่รู้เลยว่าเขาเป็นใคร ในคลิปก็ไม่ชัด คงสืบหาไม่เจอหรอก”
“ฉันไม่ไว้ใจ เดี๋ยวฉันจะไปเจียงโจวเลยนะ”
อู๋อี้ตันพูดก่อนกดวางสาย
........
คอนโดเฉิงอี้หยวน
“มิ่งมิ่ง ลุงพาไปเที่ยวดีมั้ย”
เฉิงอี้หยวนอุ้มเด็กชายตัวน้อยมานั่งบนตักเพื่อนั่งดูโทรทัศน์พร้อมกัน
“ไป มิ่งมิ่งอยากไปเที่ยว อยากเล่นน้ำทะเล”
“ได้เลย มะรืนนี้ปิดเทอมลุงจะพาไปนะ”
ชายหนุ่มพูดกับเด็กน้อย สายตามองหลี่ชิวโหรวอย่างอ่อนโยน
“โหรวโหรวก็บอกน้องๆ ที่ทำงานด้วยล่ะ เราจะไปเที่ยวกันสักสี่ห้าวัน”
“ได้ค่ะพี่”
หลี่ชิวโหรวยิ้มตอบ ในใจคิดว่าอยู่ไกลจากโม่เหยี่ยนสักพักก็ดีเหมือนกัน
........
บริษัทอวี๋ตง
“ประธานซ่ง การ์ดเชิญไปงานเลี้ยงครับ”
หลินฟางยื่นการ์ดสีแดงให้แก่ซ่งเวย
ชายหนุ่มรับมาเปิดอ่านเนื้อหาภายใน จากนั้นก็หันไปคุยกับโม่เหยี่ยนที่นั่งบนโซฟาไม่ไกลกันนัก
“งานเลี้ยงริมชายหาด นายไปด้วยกันมั้ย”
โม่เหยี่ยนวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ เขาคิดเล็กน้อยก่อนพยักหน้าตอบรับ
“เอาสิ ไปด้วย เมื่อไหร่ล่ะ”
“อีกสามวัน” ซ่งเวยตอบยื่นการ์ดในมือให้โม่เหยี่ยนดู
........
สามวันผ่านไป
หาดทรายส่วนตัวของโรงแรมซื่อจี้วิลเลจ
ซ่งเวยและโม่เหยี่ยนเดินเข้างานเลี้ยงดินเนอร์ที่จัดขึ้นริมชายหาดของโรงแรมแห่งนี้
“ประธานซ่ง”
เสียงเรียกดังขึ้นจนชายหนุ่มสองคนต้องหันมอง
“อ้าว ประธานอู่ สบายดีไหมครับ”
ซ่งเวยยื่นมือไปจับกับผู้ที่เรียกเพื่อทักทาย
“นี่เพื่อนผมครับ ประธานโม่ โม่เหยี่ยนแห่งบริษัทต้าเฉิงเมืองจินไห่” ซ่งเวยกล่าวแนะนำ
“อ่อ ผมรู้จักบริษัทต้าเฉิง ประธานโม่ก็ดังใช่ย่อย ผมเห็นคุณตามเว็บไซต์และนิตยสารค่อนข้างบ่อย ยินดีรู้จักนะครับ”
“ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก”
โม่เหยี่ยนตอบกลับอย่างมีมารยาท
ระหว่างที่พวกเขาทักทายกับนักธุรกิจคนอื่นๆ ก็มีเสียงเด็กน้อยวิ่งเข้ามาในงาน ทุกสายตาจ้องมองด้วยความสนใจ
“ลู่ลู่ อย่าวิ่งเร็วนักนะ”
โจวจ้าวร้องเตือนเด็กหญิงพร้อมกับรอยยิ้มมีความสุข
“ประธานโจว หลานสาวหรือครับ”
แขกในงานทักทายเขาและยกมือทักทายเด็กหญิงตัวน้อย
“ใช่ครับ หลานสาวผมเอง”
“แต่ผมไม่เคยได้ยินว่าลูกสาวคุณแต่งงานนี่ครับ”
เสียงหนึ่งดังขึ้นไม่ไกลนัก
โจวจ้าวหน้าถอดสีเล็กน้อย แต่ก็ยังพูดคุยอารมณ์ดี
“ไม่เป็นไรแล้ว ผมไม่ถือ คุณก็รู้ว่าตระกูลผมมีแต่ลูกหลานผู้ชาย แค่ผมได้ลูกสาวหลานสาวมาสักคนก็ไม่ง่ายนัก ขาดลูกเขยไปไม่กระทบอะไรกับผมเลย”
ผู้ฟังคนอื่นได้แต่หัวเราะด้วยความอิจฉา หลายครอบครัวพยายามมีลูกชายอย่างมาก หวังจะให้มาสืบทอดกิจการ แต่ตระกูลโจวมีลูกหลานผู้ชายแทบทั้งบ้าน การได้ลูกผู้หญิงเหมือนได้สมบัติที่แสนล้ำค่า
“ถ้าอย่างนั้น ผมก็แนะนำลูกชายผมให้กับลูกสาวประธานโจวได้สินะครับ”
แขกคนหนึ่งตอบ สีหน้าเต็มไปด้วยความหวัง
“ผมตามใจลูกสาว คราวก่อนเธอออกจากบ้านไปหลายปี ตอนนี้ไม่กล้าดุอีกแล้ว”
โจวจ้าวยิ้มตอบอย่างไม่อาย
ใครไม่รู้บ้างเรื่องข่าวฉาวของลูกสาวเขา แม้ไม่มีหลักฐานปรากฏออกมา แต่อดีตคู่หมั้นของเธอก็ยืนยันหนักแน่น ทำให้ลูกสาวประธานโจวต้องออกจากบ้านด้วยความอับอาย
เด็กหญิงตัวน้อยจับมือโจวจ้าวสักพัก จากนั้นก็ปล่อยมือเขาแล้ววิ่งไปทางซ่งเวยและโม่เหยี่ยนอย่างรวดเร็ว
เธอใช้มือที่เล็กดึงกางเกงของซ่งเวยจนเขาก้มลงอุ้มเธอในอ้อมแขน
“ลู่ลู่ใช่ไหมคะ หนูอยากได้อะไร”
ซ่งเวยมองเด็กหญิงด้วยสายตาเอ็นดู เขาใช้น้ำเสียงอ่อนโยนถาม พร้อมกับพาเธอไปที่โต๊ะวางขนม
“ลู่ลู่อยากกินอันนั้น”
เด็กน้อยชี้นิ้วไปที่ขนมหวานจานที่อยู่ไม่ไกล
ซ่งเวยเห็นดังนั้นก็หยิบขนมส่งให้
“นี่จ้ะ”
“ดูแลเด็กดีเหมือนกันนะเนี่ย”
โม่เหยี่ยนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยแซวเมื่อเห็นการกระทำของเพื่อนตัวเอง
“ลู่ลู่”
โจวจ้าวเห็นหลานสาวตัวเองที่ถูกอุ้มก็รู้สึกเกรงใจ เขาจะเดินเข้าไปรับตัวเธอมา
“เดี๋ยวหนูไปอุ้มลู่ลู่เองค่ะพ่อ”
เสียงของโจวฟางฟางดังขึ้นบอกโจวจ้าว
ในร้านอาหารที่ไม่ไกลกันนัก โม่เหยี่ยนคุยธุระเสร็จ อู๋อี้ตันก็เรียกพนักงานมาสั่งอาหาร “ฉันว่าประธานโม่คงอยากมีเด็กวิ่งเล่นในบ้านแล้วนะคะ ประธานโม่ไม่คิดจะแต่งงานใหม่หรือคะ”เธอถามชายหนุ่มพลางสังเกตปฏิกิริยาของเขา “ฉันไม่อยากแต่งงานใหม่”โม่เหยี่ยนปฏิเสธน้ำเสียงเยือกเย็น “ถ้าประธานไม่อยากแต่งงานแต่อยากมีลูก ฉันก็พร้อมมีให้นะคะ”หญิงสาวรวบรวมความกล้าแล้วพูดเสนอตัวออกมา นัยน์ตาคมของโม่เหยี่ยนมองเธอ ริมฝีปากบางเม้มเล็กน้อย
สนามบินระหว่างประเทศเมืองเจียงโจวหญิงสาวคนหนึ่งอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยวัยสามขวบอยู่ในอ้อมแขน มีผู้หญิงวัยกลางคนยืนกระสับกระส่ายรอรับอยู่ด้านหน้า เมื่อพบหน้ากันก็ช่วยลากกระเป๋าเดินทางของหญิงสาวคนดังกล่าว“คุณหนูกลับบ้านครั้งนี้ คุณท่านดีใจมากเลยนะคะ”หญิงวัยกลางคนกล่าวด้วยรอยยิ้ม“ไม่หรอก ฉันระหกระเหเร่ร่อนอยู่ที่อื่นมาสี่ปี คุณปู่เพิ่งเรียกฉันกลับบ้าน คงมีปัญหาอะไรมากกว่า”หญิงสาวที่อุ้มเด็กหญิงตัวน้อยพูดเสียงราบเรียบ“แต่คุณหนูก็มีเหลนมาให้ท่าน ท่านไม่ตำหนิอะไรหรอกค่ะ”“หยุดพูดเถอะค่ะป้าฮั่ว”หญิงสาวส่งสายตาไม่พอใจ เธอเดินไปขึ้นรถแท็กซี่ที่จอดรอรับผู้โดยสารด้านหน้าอย่างรวดเร็ว.....
การดูงานในแผนกต่างๆ ของบริษัท หลี่เจียวมิ่งได้แสดงไหวพริบในการตั้งคำถามจนทำให้โม่เหยี่ยนประทับใจอีกหลายครั้ง เด็กคนนี้นอกจากจะมีความมั่นใจแล้ว ยังเฉลียวฉลาดเกินเด็กวัยเดียวกัน ในใจเริ่มอยากรู้ว่าพ่อแม่ของเด็กคนนี้เป็นใคร เลี้ยงดูลูกอย่างไรจึงออกมาดีแบบนี้ ก่อนที่เด็กชายตัวน้อยจะขึ้นรถกลับโรงเรียน เขาก็เดินเข้าไปถามอย่างเอ็นดู “เฉิงเจียวมิ่ง คุณพ่อคุณแม่ทำงานอะไร” เด็กน้อยหันมามองหน้าเขาด้วยความสงสัย แต่ก็ตอบน้ำเสียงภาคภูมิใจ“คุณแม่ทำงานบริษัท ส่วนคุณพ่อเป็นหมอ” เขาตอบโดยไ
สี่ปีผ่านไปเมืองซิ่งชุน “หลี่เจียวมิ่ง เก็บของได้แล้วลูก”หลี่ชิวโหรวบอกเด็กชายวัยสามขวบครึ่ง ลูกชายตัวน้อยที่แสนน่ารักของเธอ “เฉิงเจียวมิ่ง อย่าเรียกว่าหลี่เจียวมิ่ง”เด็กชายรีบแย้ง เขาไม่อยากใช้แซ่ของผู้เป็นแม่ เพราะมักถูกเพื่อนที่โรงเรียนล้อว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ ทั้งๆ ที่เขามีพ่อ พ่อของเขาเป็นถึงคุณหมอ มีชื่อว่าเฉิงอี้หยวน “พี่ชอบให้ท้ายหลาน เดี๋ยวเขาก็สับสนหรอก”หลี่ชิวโหรวมองค้อนบอกเฉิงอี้หยวน “โหรวโหรว พี่บอกเธอกี่ครั้งแล้ว ให้มิ่งมิ่งเรียกพี่ว่าพ่อ เขาจะได้ไม่เป็นเด็กมีปัญหา อีกอย่างพี่ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรด้วย”เฉิงอี้หยวนนับจำนวนกระเป๋าเดินทางแล้วช่วยเด็กชายตัวน้อยถือกระเป๋า “พี่ก็นะ เดี๋ยวไม่ได้แต่งงานพอดี”หลี่ชิวโหรวส่ายศีรษะมองผู้ชายตัวใหญ่และผู้ชายตัวเล็กเดินตามกัน เขาเคยขอเธอเป็นแฟน ทั้งยังขอแต่งงานแล้วหลายครั้ง แต่เธอก็ใจแข็ง ตอนนี้กำลังจะย้ายกลับไปที่เมืองจินไห่ อาจจะต้องพิจารณาอีกครั้ง ทำให้เขาเสียโอกาสมีสี่ปี เธอคงต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ ........ เมืองจินไห่ “ไม่ต้องกลับไปอยู่บ้านพ
“เสี่ยวหรู ดูเลขาอู๋ทำสิ นับวันยิ่งทำตัวเป็นเจ้านายแล้วก็ทำเป็นเจ้าของท่านประธาน”ตงเย่ชิง หนึ่งในเลขาหน้าห้องของโม่เหยี่ยนเดินมากระซิบกระซาบกับเฉินเสี่ยวหรู“เอาหน้าขนาดนั้น ถึงกับกล้าหยิบรูปคู่ของท่านประธานกับคุณนายที่อยู่บนชั้นวางหนังสือไปเก็บใส่ลังได้ ประธานก็ไม่ต่อว่า”จ้าวเล่ออิ๋น เลขาอีกคนลากเก้าอี้เข้ามาร่วมวงสนทนา“ฉันเห็นแววตั้งแต่แรกแล้วว่าผู้หญิงคนนี้อยากเป็นคุณนายคนใหม่ อาศัยว่าเคยช่วยชีวิตท่านประธาน ท่านประธานจึงค่อนข้างตามใจเธอ ไม่เคยต่อว่าเลยสักครั้ง”“ก็รอดูว่าท่านประธานจะเอายังไงกับผู้หญิงคนนี้”หญิงสาวทั้งสามคนพูดคุยกันได้สักพักก็แยกย้ายทำงานเหมือนเดิม........ห้องทำงานโม่เหยี่ยน“ประธานโม่คะ เย็นพรุ่งนี้มีงานเลี้ยงดินเนอร์ของประธานเหมาแห่งบริษัทเอ็นเอฟค่ะ”อู๋อี้ตันเปิดตารางงาน รายงานโม่เหยี่ยนด้วยน้ำเสียงดีใจ“อืม” ประธานหนุ่มรับคำ“ประธานโม่จะให้เลขาต่งตามไปหรือว่าให้ฉันไปด้วยดีคะ งานเลี้ยงแบบนี้ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยไปเลยค่ะ”บุรุษที่ฟังอยู่เหลือบตามองหญิงสาว เห็นดวงตาเธอจ้องเขาอย่างมีความหวัง“คุณไปกับผมและเลขาต่งก็ได้” เขาตอบเธอแล้วพูดกับต่งเหอเก๋อ“พาเลขา
เมืองซีเหลียนยามค่ำคืนของเมืองซีเหลียนอากาศเย็นสบาย ตึกและอาคารต่างๆ เปิดไฟประดับสว่างไสวทำให้บรรยากาศคึกคัก ผู้คนพลุกพล่านไม่ต่างจากตอนเช้า“ท่านประธานจะกลับโรงแรมเลยหรือว่าจะไปดื่มก่อนดีครับ”ต่งเหอเก๋อที่กำลังขับรถอยู่เหลือบสายตามองเจ้านายผ่านกระจกมองหลัง“กลับโรงแรม”โม่เหยี่ยนตอบ แต่เมื่อรถถึงหน้าโรงแรมก็กลับพูดขึ้น“ฉันจะลงตรงนี้”เขาเปิดประตูลงจากรถ นัยน์ตาคมมองทางฝั่งซ้ายของโรงแรมที่มีถนนเส้นเล็กสายยาวแต่เต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านขายของหลายร้าน จึงเดินไปอย่างรวดเร็ว“เดินเที่ยวบ้างก็ดี”เขาพูดบอกเลขาเสียงไม่ดังนักต่งเหอเก๋อมองตามหลังเจ้านายหนุ่ม ก่อนที่จะขับรถเข้าไปจอดภายในโรงแรม ปล่อยให้โม่เหยี่ยนเดินชมวิวกลางคืนของเมืองคนเดียวโม่เหยี่ยนปรายตามองแต่ละร้านอย่างไม่สนใจเท่าใด เขาไม่ได้เที่ยวตอนกลางคืนมาหลายปี คืนนี้เลยถือโอกาสเดินชมบรรยากาศเมืองซีเหลียนเมืองนี้แม้ผู้คนจะเยอะแต่ก็ไม่วุ่นวายเท่าเมืองจินไห่ ชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลาย เขาแวะซื้อเบียร์ที่ร้านสะดวกซื้อข้างทาง จากนั้นก็หาเก้าอี้นั่งรับลมริมแม่น้ำที่ไหลผ่านใจกลางเมืองนั่งดื่มเบียร์จนหมดสองกระป๋องเขาก็ลุกขึ้นเพื่อที่จะก
ณ งานเลี้ยงกาลาดินเนอร์ที่จัดขึ้นในโรงแรม ML โรงแรมชื่อดังระดับห้าดาวแห่งเมืองจินไห่ รถยนต์แบรนด์หรูคันใหญ่ค่อยๆ เคลื่อนเข้าจอดเทียบหน้าประตูทางเข้างานประตูรถถูกเปิดออก ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อเหลาแต่เต็มไปด้วยความเย็นชาลงจากรถเป็นคนแรก จากนั้นก็มีหญิงสาวใบหน้าสวยหวาน ผิวพรรณเกลี้ยงเกลาลงจากรถตามมาเธอเอื้อมมือเรียวควงแขนชายหนุ่มเพื่อเดินเข้าไปในงาน พร้อมกับส่งรอยยิ้มให้แขกในงานเป็นระยะ“ประธานโม่ คุณนายโม่”เสียงทักทายจากบรรดาแขกเหรื่อดังขึ้นตลอดทางเมื่อเห็นพวกเขาพวกเขาก็คือประธานโม่เหยี่ยนแห่งบริษัทต้าเฉิง และหลี่ชิวโหรวภรรยาสาวโม่เหยี่ยนเดินทักทายกับแขกคนอื่นอย่างเป็นกันเอง ไม่ว่าใครที่เข้ามาทักทายเขาก็พูดคุยอย่างสนิทสนม ปล่อยให้หลี่ชิวโหรวที่ควงแขนเดินก้าวเท้าตามเขารัวๆลักษณะคล้ายกับว่าเขากำลังลากเธอให้เดินตาม โดยที่ไม่สนใจว่าเธอจะตามทันหรือไม่หลายคนเห็นท่าทางของเขาก็ได้แต่สงสัย เมื่อก่อนประธานโม่เอาใจใส่ดูแลภรรยาสุดสวยคนนี้มาก เธอจะทำอะไรเขาก็ยอมเธอทุกอย่าง แต่มาวันนี้ดูเหมือนเขาไม่ใส่ใจเธอแม้แต่น้อยหลี่ชิวโหรวที่สวมชุดเดรสเข้ารูปและรองเท้าส้นสูง เธอเดินตามสามีหนุ่มไ