“มิ่งมิ่งจะไปหาพ่อ”
เด็กชายร้องเสียงดัง เขาเบะปากทำท่าจะร้องไห้
“ไม่ต้องไป เขาเป็นพ่อของเราจริงๆ หรือเปล่าก็ไม่รู้”
ซูเหม่ยปรายสายตา พูดประชดอดีตลูกเขยของตน
หลี่ชิวโหรวส่งเสียงทันใด
“แม่ แม่กำลังกล่าวหาว่าหนูมีชู้อยู่นะ”
ซูเหม่ยตกใจรีบปฏิเสธทันที
“เปล่า ลูกสาวแม่ออกจะดี จะไปมีชู้ได้ยังไง มิ่งมิ่งก็ไม่ใช่ลูกชู้”
เธอลูบผมหลานชายปลอบใจเขา
“มิ่งมิ่งจะหาพ่อ ฮือ”
“มิ่งมิ่งจะไปหาพ่อ”เด็กชายร้องเสียงดัง เขาเบะปากทำท่าจะร้องไห้ “ไม่ต้องไป เขาเป็นพ่อของเราจริงๆ หรือเปล่าก็ไม่รู้”ซูเหม่ยปรายสายตา พูดประชดอดีตลูกเขยของตน หลี่ชิวโหรวส่งเสียงทันใด“แม่ แม่กำลังกล่าวหาว่าหนูมีชู้อยู่นะ” ซูเหม่ยตกใจรีบปฏิเสธทันที“เปล่า ลูกสาวแม่ออกจะดี จะไปมีชู้ได้ยังไง มิ่งมิ่งก็ไม่ใช่ลูกชู้”เธอลูบผมหลานชายปลอบใจเขา “มิ่งมิ่งจะหาพ่อ ฮือ”
เมืองเจียงโจว วิลล่าของซ่งเวย รถยนต์คันหรูของโม่เหยี่ยนเลี้ยวเข้าประตูวิลล่าของซ่งเวย เมื่อรถยนต์จอดสนิท เด็กหญิงตัวน้อยก็วิ่งออกมาจากตัวบ้านแล้วกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “มิ่งมิ่งมาถึงแล้ว” ประตูรถเปิดออก เด็กชายที่ถูกเรียกชื่อก็ลงจากรถอย่างรวดเร็ว เขาวิ่งมากอดเด็กหญิงตัวน้อย “ลู่ลู่” “เรียกว่าน้องลู่ลู่สิ”ซ่งเวยกับโจวฟางฟางเดินออกมารับแขก พวกเขายิ้มแย้มเมื่อเห็นเด็กทั้งสองดีต่อกัน 
โจวฟางฟางรับโทรศัพท์จากจั่วซิ่วหลิงผู้เป็นมารดา สีหน้าของเธอดูเหนื่อยหน่ายอย่างเห็นได้ชัด “มีอะไรเหรอ”ซ่งเวยยื่นกระป๋องน้ำผลไม้ส่งให้เธอพร้อมกับถามน้ำเสียงอ่อนโยน “ไม่มีอะไรค่ะ แม่แค่สั่งให้ฉันออกไปทำธุระข้างนอก”เธอลอบถอนหายใจก่อนหันไปคุยกับลูกสาวตัวน้อย “ลู่ลู่อยู่กับป่าป๊านะจ๊ะ ตอนเย็นหม่าม้าจะกลับมาหา” เด็กหญิงพยักหน้ารับ “ได้ค่ะ” “ผมไปส่งไหม”ซ่งเวยพูด เขาลุก
วิลล่าของซ่งเวย “คุณโจวฟางฟาง ผมขอเรียกคุณว่าฟางฟางนะ”ซ่งเวยพูดขณะที่ช่วยเธอถือกระเป๋าเดินทางเข้ามาภายในวิลล่า “เอ่อ ก็ได้ค่ะ”โจวฟางฟางตอบ สายตามองรอบบริเวณบ้าน เมื่อรู้สึกไว้วางใจเธอจึงปล่อยลูกสาวตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนลงบนพื้น “ลู่ลู่อย่าดื้อ อย่าทำลายข้าวของในบ้านคุณลุงนะ” “ไม่ใช่คุณลุง ต้องเรียกว่าป่าป๊า พ่อทูนหัวก็คือป่าป๊า”ซ่งเวยรีบพูดแก้อย่างรวดเร็ว โจวฟางฟางเงียบ เธ
ภายในห้องรับแขกของบ้าน จั่วซิ่วหลิงภรรยาของโจวจ้าวยืนรอต้อนรับแขกด้วยความกระวนกระวาย เมื่อเธอเห็นโจวฟางฟางและหลี่ชิวโหรวเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกันก็ตาโตตกใจก่อนทำตัวกลบเกลื่อน“ฟางฟาง นี่คือหนูหลี่ชิวโหรวที่พูดถึงหรือ”“ใช่ค่ะแม่”โจวฟางฟางตอบพร้อมกับแนะนำหลี่ชิวโหรวแก่มารดาของตน“หนูชิวโหรวเกิดที่เมืองไหนหรือจ๊ะ”หญิงวัยกลางคนถามอย่างระมัดระวัง“หนูเกิดที่เมืองเจียงโจวนี่แหละค่ะ แต่ไปโตที่เมืองจินไห่”หลี่ชิวโหรวตอบ สายตามองป้าฮั่วที่ยืนเหงื่อออกเต็มใบหน้าอยู่ด้านข้างจั่วซิ่วหลิง“หนูมีฝาแฝดหรือเปล่า”จั่วซิ่วหลิงยังคงถามต่อ แต่คำถามนี้ทำให้ซ่งเวยลอบมองสำรวจเธอทันที
เช้าตรู่ของอีกวัน โม่เหยี่ยน ต่งเหอเก๋อและชายฉกรรจ์อีกสองคนมายืนรอหน้าห้อง เมื่อประตูห้องถูกเปิดออก ชายฉกรรจ์สองคนก็เข้าไปอุ้มอู๋อี้ตันที่กำลังงัวเงียอยู่ออกจากเตียง พวกเขาออกจากโรงแรมอย่างเงียบเชียบแม้แต่กล้องวงจรปิดก็ไม่มีการบันทึกภาพไว้ ........ ในห้องที่หน้าต่างถูกปิดทุกบาน มีแค่แสงจากหลอดไฟดวงเล็กส่องสว่างรำไร อู๋อี้ตันถูกจับมัดมือมัดเท้าติดกับเก้าอี้ มีโม่เหยี่ยนและซ่งเวยนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาใกล้ๆ “บอกมาว่าใครสั่งเธอให้ทำเรื่องพวกนี้”โม่เหยี่ยนมองหญิงสาวแล้วพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ
โรงพยาบาลเด็กเมืองเจียงโจวช่วงที่หลี่ชิวโหรวและโจวฟางฟางรอลูกน้อยของตนรักษาตัวอยู่ในห้องฉุกเฉินพวกเธอเหลือบสายตามองกันเป็นระยะ“คุณเอ่อ ฉันชื่อหลี่ชิวโหรวนะคะ”“ฉันโจวฟางฟางค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”หญิงสาวเริ่มเอ่ยทักทายกันท่ามกลางสายตาของซ่งเวยและโจวจ้าว“ผมเคยได้ยินมาว่ามนุษย์เราจะมีคนที่ใบหน้าเหมือนกันอยู่เจ็ดคนทั่วโลกโดยไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะได้เจอจริงๆ”ซ่งเวยมองหญิงสาวทั้งสองก่อนพูดออกมาให้พวกเธอได้ยิน“สวัสดีครับ ผมซ่งเวย”เขาลุกขึ้นไปยืนใกล้หญิงสาว ส่งฝ่ามือหนาของตนรอให้เธอจับทักทายโจวฟางฟางลังเลครู่หนึ่ง เมื่อนึกถึงตอนที่เขาอยู่กับลูกสา
“ลู่ลู่ มากับแม่ได้แล้วนะ”โจวฟางฟางเดินเข้าใกล้ซ่งเวย ชายหนุ่มทั้งสองหันมองตามเสียงพร้อมกันทั้งซ่งเวยและโม่เหยี่ยนเมื่อได้เห็นหน้าหญิงสาวต่างก็อึ้งประหลาดใจ ใบหน้าของเธอคล้ายกับหลี่ชิวโหรวเป็นอย่างมาก ถ้าจะให้พวกเขาพูดก็คือคล้ายกันราวกับเป็นฝาแฝดซ่งเวยประหม่าเมื่อได้อยู่ใกล้หญิงสาว เขารู้แล้วว่าผู้หญิงที่เขาตามหาตลอดสี่ปีมานี้ก็คือผู้หญิงที่กำลังยืนตรงหน้า และเด็กผู้หญิงที่เขากำลังอุ้มอยู่ก็อาจจะเป็นลูกสาวของเขาก็ได้แต่ว่าเขาควรพูดอย่างไร ทำอย่างไรดี ในเมื่อเธอไม่รู้จักเขาเลยสักนิด เดาได้ว่าวันนั้นเธออาจถูกมอมเหล้าหรือไม่ก็ถูกวางยาเพื่อกลั่นแกล้งเช่นกันซ่งเวยคิดในใจได้ทันทีว่าเขาจะทวงความเป็นธรรมให้กับหญิงสาว เขาจะเป็นสามีของเธอและยอมรับลู่ลู่ในอ้อมแขนเป็นลูกของเขา แม้จะไม่ใช่ก็ตามแต่ก่อนอื่นต้องหาวิธีเข้าใกล้เธอก่อน
บริษัทต้าเฉิง ขณะที่โม่เหยี่ยนนั่งไขว่ห้างดื่มกาแฟที่อู๋อี้ตันยกมาเสิร์ฟ เฉิงอี้หยวนก็หุนหันเข้ามาในห้องทำงานของเขา “ประธานโม่ ห้ามคุณไปยุ่งวุ่นวายกับโหรวโหรวและมิ่งมิ่งอีกเป็นอันขาด”ชายหนุ่มที่ไม่ได้รับเชิญขึ้นเสียงใส่เจ้าของห้องทำงานโดยไม่มีความเกรงใจ โม่เหยี่ยนมองเฉิงอี้หยวนสายตาเย็นชา“ทำไมผมจะยุ่งไม่ได้ เรื่องของผมกับภรรยา คุณไม่มีสิทธิ์ยุ่ง” “เธอหย่ากับคุณนานแล้ว กรุณาให้เกียรติเธอด้วย”เห็นสายตาที่เย็นชาของเขา เฉิงอี้หยวนก็สะกดกลั้นอารมณ์โกรธแล้วตอบอย่างมีมารยาท