Mag-log in"ที่บ้านคุณคงเลี้ยงลูกแบบตามใจ เลยเอานิสัยแย่ๆ มาใช้กับคนอื่นไปทั่ว แต่ฉันว่ามันไม่ได้อยู่ที่นิสัย แต่อยู่ที่สันดานของคุณมากกว่า เพราะคนอย่างคุณคงสะกดคำว่ามารยาทไม่เป็น" มารียาพูดออกมาด้วยความเอือมระอา เมื่อกวินนั้นมีทีท่าดูเหมือนว่าจะไม่สนใจในคำพูดของเธอเลยสักนิด
"คุณพูดเหนื่อยไหม แต่ผมฟังแล้วรู้สึกเมื่อยและก็หิวมากด้วย ในครัวพอมีอะไรให้รับประทานไหมครับ" กวินพูดพร้อมกับดีดตัวลุกขึ้นยืน แล้วเดินตรงเข้าไปในครัว โดยที่ไม่ได้สนใจว่าเจ้าของบ้านจะอนุญาตหรือไม่
"โอ๊ยนอ! คนผีบ้านี่มันคือเว่ายากตายมันแท้ เว่ามาแล้วกะสูนคัก เบิ้ดคำสิเว่าแล้วล่ะ เชิญตามสบายโลด เขาว่าดาราคือคนของประชาชนคือสิแม่น มื่อนี่ล่ะคนของประชาชนอย่างคักเลย!" (โอ๊ย! ไอ้คนบ้าเอ๊ยทำไมพูดจาไม่รู้เรื่องแบบนี้ พูดมาแล้วโมโห ไม่อยากจะพูดแล้วอยากจะทำอะไรก็เชิญตามสบาย นี่ใช่ไหมที่เขาว่าดาราคือคนของประชาชน วันนี้เข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว)
มารียาพูดจาโวยวายออกมาเสียงดัง จนทำให้กวินนั้นแอบฉีกยิ้มกว้าง ให้กับคำพูดของเธอ ที่เขานั้นฟังไม่เข้าใจ แต่ก็พอจะรับรู้ได้ กับน้ำเสียงของเธอที่ดังออกมา ดาราสาวคงจะไม่พอใจ แต่ต่อไปนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็จะไม่ถอยกลับไปอีกแล้ว จะขอเดินหน้าสู้ต่อไป เพื่อพิชิตหัวใจของเธอมาให้ได้ นั่นคือสิ่งที่กวินกำลังคิดและทำอยู่ในขณะนี้ เขาจะถือคติที่ว่าด้านได้อายอด เพราะอาหารมื้อเที่ยงฝีมือของเขา มารียาจะต้องได้ชิมอย่างแน่นอน
ในขณะที่กวินขะมักเขม้นทำอาหารอยู่ในครัว มารียาได้เผลอหลับไปที่โซฟากว้าง ตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ทั้งที่ความเป็นจริงเธอควรจะไล่กวินไปให้พ้นๆ แต่มารียากลับเลือกที่จะนิ่งเฉย นั่นเป็นเพราะว่าเธอเองก็อาจจะมีใจให้เขาไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่รู้ตัว เมื่อน้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อนนับประสาอะไรกับใจคน ที่กวินแอบสะกดรอยตามเธอไปทุกที่ และเขาก็มักจะลักลอบเข้ามาในบ้านของเธอบ่อยครั้ง จนบางทีมารียาเองก็รู้สึกว่าเขานั้น ชักจะทำตัวกลมกลืน คล้ายกับเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ไปทุกที
"คุณตื่นมาทานข้าว นอนหรือซ้อมตาย ผมเรียกคุณตั้งนานแล้วทำไมไม่ลุก" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเขย่าลงไปที่ต้นแขนของมารียาเบาๆ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว เขาแอบนั่งมองเธออยู่ตั้งนาน ความสวยบนใบหน้าที่ปราศจากเครื่องสำอาง ทำให้กวินคิดว่าเธอนั้นไม่ต้องพึ่งสิ่งเหล่านั้นมาแต่งแต้ม มารียาก็สวยแบบไม่มีที่ติอยู่แล้ว และที่สำคัญเธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว ที่ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง เมื่อเข้าใกล้เธอทุกครั้ง ความรู้สึกที่มีมันยิ่งตอกย้ำให้เขาอยากใช้ชีวิตร่วมกันกับเธอ
"อืม..ยุ่งแท้ ว่าสินอนเว็นแหน่จักหน่อย เจ้านี่เป็นเจ้ากรรมนายเวรข่อยแต่ชาติปางก่อนติ ตามตอแยอยู่ได้" (อืม..ยุ่งจัง ว่าจะนอนพักช่วงกลางวันสักหน่อย คุณนี่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของฉัน แต่ชาติปางก่อนหรือไง ถึงได้ตามราวีอยู่ได้) มารียาพูดออกมาพร้อมกับทำหน้ามุ่ยอย่างรำคาญใจ แต่กวินกลับฉีกยิ้มกว้าง เขาชอบจังเวลาที่เธอนั้นโวยวาย กวินไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนขี้โมโหแล้วน่ารักเท่ากับมารียามาก่อน "เรียกแทนตัวเองว่ามะลิสิ! ผมชอบชื่อนี้น่ารักดี ลุกขึ้นได้แล้วอย่างอแง" กวินพูดพร้อมกับฉุดมารียาลุกขึ้น จนดาราสาวมองออกไปอย่างไม่ชอบใจ ที่เขานั้นถึงเนื้อถึงตัวเธอ
"ปากว่ามือถึง นิสัยของคุณ คงทำแบบนี้กับผู้หญิงเสียจนเคยชิน แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยนะ ฉันไม่ใช่หนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน" มารียาพูดพร้อมกับผลักกวินออก เมื่อเธอนั้นไม่ชอบสัมผัสจากเขา เพราะกลัวว่าตัวเองจะเผลอใจไปกับชายหนุ่ม ที่แน่ๆ หากเขาหนีหน้าไปสักวัน เธอเองก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกที่มีจะรู้สึกขาดหายขาดหายอะไรบางอย่างในชีวิตไปหรือเปล่า
"แตะนิดแตะหน่อยก็ไม่ได้ เดี๋ยวก็ฉุดทำเมียเลยซะนี่" กวินพูดพึมพำกับตัวเองเบาๆ แต่ก็ไม่สามารถทำอย่างที่พูด เพราะกลัวว่าเธอนั้นจะโกรธและเกลียดเขาไปตลอดชีวิตอย่างที่แบงก์เคยเตือน หากวันไหนเขาหน้ามืดขึ้นมาเรื่องนั้น ค่อยว่ากันอีกที
"ฉันถามจริงๆ เถอะ คุณไม่มีการมีงานทำเลยหรือไง หรือว่าเกิดมาเพื่อเกาะพ่อแม่กินไปวันๆ" มารียาพูดพร้อมกับตักข้าวใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อย โดยลืมนึกไปว่าอาหารที่เลิศรสมื้อนี้ เป็นฝีมือของกวินทั้งสิ้น
"คุณไม่ต้องเป็นห่วงสวัสดิการของผมหรอก บังเอิญว่าที่บ้านผมรวย" กวินพูดออกมาอย่างลอยหน้าลอยตา เมื่อเขาไม่รู้ว่ามารียากำลังพูดจาประชดประชัน
"ชิ! จ้าพ่อเศรษฐี รวยมาก ฉันก็ขออวยพรให้คุณใช้ชีวิตแบบนี้ไปอีกนานๆ พ่อแม่คุณท่านไม่เอือมระอาเลยหรือไง ที่มีลูกชายไม่เอาการเอางานแบบนี้" มารียายังคงพูดจาแขวะกวินอย่างไม่เลิกรา เพราะเธอคิดว่าต่อให้รวยแค่ไหน เมื่อเขาโตเป็นผู้ใหญ่ก็ควรจะมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ เพราะรู้สึกว่าเขาตามติดชีวิตเธอมาเป็นปี ไม่เห็นว่าจะมีวันไหนไปทำงานเลย
"คุณพูดยังกับว่า เป็นภรรยาของผมอย่างนั้นแหละ แต่ผมชอบนะ ที่คุณดูใส่ใจห่วงใยผมขนาดนี้" กวินยังคงพูดจาหยอดคำหวานไปให้กับมารียา แต่แม่ดาราสาวของเขากลับกลอกตามองบน ด้วยความหมั่นไส้ชายตรงหน้า
"รีบทานข้าว แล้วคุณก็รีบกลับบ้านได้แล้ว" มารียาพูดพร้อมกับยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม
"อิ่มแล้วเหรอ ทำไมคุณทานน้อยจัง ผอมยังกับกุ้งแห้งอย่าบอกนะว่าไดเอท" กวินพูดออกมาด้วยสีหน้าที่จริงจัง เพราะเขานั้นห่วงใยมารียา แม้ว่าเธอนั้นจะเป็นดารา ก็ควรรับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่ ไม่ใช่อยากกินอะไรก็อดเอาไว้กลัวอ้วนไปหมด
"ฉันอิ่มแล้ว สงสัยอาหารจะไม่ถูกปาก เลยทานได้น้อย" มารียาพูดพร้อมกับลุกขึ้นเก็บจานชามไปล้างในครัว กวินมองตามหลังสาวร่างเล็ก พร้อมกับแอบยิ้มให้กับท่าทีของเธอ
ดาราสาวไม่รู้ว่าเธอคิดผิดหรือคิดถูก ที่ตัดสินใจจดทะเบียนสมรสกับเขา เมื่อผู้ชายอย่างกวิน มีสาวสวยอย่างนาตาชาอยู่ข้างๆ แมวกับปลาย่างที่เป็นดั่งน้ำมันกับเชื้อเพลิง เธอจะวางใจได้แค่ไหนกัน ถ้าหากวันหนึ่งเขานั้นเกิดพิศวาสผู้หญิงคนนั้นขึ้นมา รักแท้แพ้ใกล้ชิดมีให้เห็นถมเถไป เวลานี้มารียาเริ่มที่จะหวาดระแวงสามีหนุ่มป้ายแดงของเธอ เมื่อเขานั้นเคยเป็นผู้ชายที่ใช้ผู้หญิงเปลืองมาก่อน เขาจะหยุดที่เธอจริงๆ หรือเปล่า นั่นคือสิ่งที่ดาราสาวกำลังคิดทบทวนอยู่ในเวลานี้ภายในห้องแต่งตัว มารียากำลังใช้ความคิด ถึงสิ่งที่ได้ตัดสินใจทำลงไป ความลับมันไม่มีในโลกสักวันทุกอย่างก็จะถูกเปิดเผย ดาราสาวกำลังคิดว่าหากวันนั้นมาถึงเธอจะตั้งรับกับมันยังไงดี "พี่มารียาคะ พี่สวยจัง เนเน่เป็นแฟนคลับของพี่นะคะ พี่วางตัวได้เหมาะสมไม่เคยมีข่าวเสียหาย สมกับฉายาเจ้าหญิงในวงการบันเทิง เนเน่อยากดังได้สักครึ่งของพี่จัง" นั่นคือน้ำเสียงของเนเน่ดาราสาวหน้าใหม่ ที่คนทั่วไปรู้จักเธอในฐานะของสาวไฮโซ ที่ผันตัวเองมาเป็นดารา หล่อนเป็นนักแสดงที่มากความสามารถ แต่ค่อนข้างจะทำตัวแรง ไม่ค่อยเกรงใจใคร
เวลาล่วงเลยผ่านไป กวินนั้นต้องยอมตามใจนาตาชา เมื่อมารดาของเขาเดินเข้ามาสั่งการ ให้พาหล่อนไปรับประทานอาหารมื้อเที่ยง โดยที่นาตาชาเป็นคนเลือกสถานที่ หลังจากรับประทานมื้อกลางวันเสร็จ หล่อนไม่ได้คิดเลยหรือไงว่ามาทำงานในตำแหน่งเลขา ซึ่งกินเงินเดือนเป็นพนักงานบริษัทของเขาอยู่ เพราะเวลานี้นาตาชากำลังเลือกซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม หล่อนหยิบใบนั้นทีใบนี้ทีแล้ววางเลือกไม่ได้เป็นชั่วโมง "มะลิฉันว่าใบนี้เหมาะกับหล่อนมาก ดูสิสะพายแล้วดูเซ็กซี่ หล่อนเหมาะกับกระเป๋าใบนี้" นั่นคือเสียงของเชอรี่ผู้จัดการส่วนตัวของมารียา ทั้งสองอยู่ในร้านกระเป๋านี้ด้วย เสียงของเชอร์รี่ที่พูดกับมารยาทำให้เวลานี้ใจของกวินเต้นแรง เพราะกลัวว่าภรรยานั้นจะเข้าใจผิด "คุณกวิน! ใบนี้สวยเหมาะกับนาตาชาคุณว่าไหมคะ" หล่อนจะรู้ไหมว่าไฟกำลังจะไหม้บ้านของกวิน ด้วยฝีมือของนาตาชา เมื่อเวลานี้มารียาจ้องมองมาที่เขาตาเขียวปั๊ดเลยทีเดียว "พี่เชอรี่ วันนี้มะลิขอเปลี่ยนใจ อากาศที่นี่ช่างเป็นพิษ มะลิอยากกลับบ้านแล้วค่ะ" ดาราสาวพูดพร้อมกับเหลือบมองไปที่กวิน จนเขานั้นขนลุกซู่ แ
"อย่าบอกนะว่าครั้งแรกครั้งเดียว ก็ติดแล้ว" กวินพูดออกมาพร้อมกับฉายแววตาเจ้าเล่ห์ ถ้าหากดาราสาวท้อง แน่นอนเธอจะต้องยอมเปิดตัว แต่ผลเสียก็จะตามมามันคือชื่อเสียงของเธอ จากที่ยิ้มร้ายแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ได้เปลี่ยนมาเป็นความกังวลแทนขึ้นมาภายในพริบตา เขาไม่ได้กลัวที่จะมีลูกกับเธอ แต่กำลังกลัวว่าจะทำให้ชื่อเสียงของเธอนั้นป่นปี้ ทั้งที่เธอวางตัวดีมาโดยตลอด "เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะคะ มะลิฟังไม่ถนัด" "ผมแค่จะบอกคุณว่า ผมจะไปเสร็จแล้วจะลงไปทำอาหารให้คุณทาน เดี๋ยวสายผมไปอาบน้ำก่อนนะครับคนดี จุ๊บ! "ว้าย! คนบ้าคนผีทะเล!" มารียาร้องออกมาเสียงหลง เมื่อกวินลุกขึ้นทั้งที่ตัวเขานั้นเปลือยเปล่าล่อนจ้อน จนเธอนั้นรีบมุดลงไปใต้ผ้าห่มแทบไม่ทัน แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเธอเห็นภาพเหล่านั้นเต็มตาเรียบร้อยแล้ว มันคงจะตามหลอกหลอนเธอไปตราบนานเท่านาน ซึ่งเธอเองก็ควรทำให้มันชินกับภาพเหล่านี้ เพราะเธออาจจะได้เห็นแทบทุกคืน กวินฉีกยิ้มออกมา ก่อนจะหยิบผ้
"ไม่ไปทำงานก็ต้องตื่น วันนี้เรามีนัดกันที่เขตจำไม่ได้เหรอครับ หืม!" กวินยังคงตอแยมารียาไม่เลิก มือของเขายังคงลูบลงไปที่ใบหน้าของดาราสาวเบาๆ "แต่มะลิลุกไม่ไหวนี่ค่ะ ขอนอนต่อน๊า" เสียงหวานยังคงออดอ้อนไม่เลิก เมื่อเธอนั้นรู้สึกเพลียจากการถูกกวินเชยชมฉกเอาความสาวจากเธอไปจนสิ้น โดยที่ดาราสาวนั้นยินยอมพร้อมใจ ไม่มีการขัดขืนใดๆ เมื่อเธอนั้นเต็มใจที่จะฝากชีวิตไว้กับกวิน "ผมชอบจังเวลาที่คุณเรียกตัวเองว่ามะลิแบบนี้ ทำไมวันนี้ถึงได้ขี้เซาจัง ยังเจ็บอยู่หรือเปล่าขอดูหน่อยซิ" กวินพูดออกมาพร้อมกับแกล้งจะดึงผ้าห่มเปิดออก ทำให้มารียานั้นถึงกับใจหายใจคว่ำ "ว้าย! คุณจะทำอะไร บ้าหรือเปล่า ฉันโป้อยู่นะ คุณก็ลุกไปอาบน้ำได้แล้ว" มารียาพูดพร้อมกับดึงผ้าห่มมาคลุมกายเอาไว้อย่างดี ขณะที่กวินปิดแค่ช่วงเอวลงไป ทำให้มองเห็นซิกแพคเป็นชั้นๆ หน้าอกที่เปลือยเปล่าบวกกับมีขนขึ้นแซม ทำให้หัวใจของมารียาเต้นแรง ยิ่งกว่าการที่เธอถูกมัง
"อืม... คุณกวิน" เสียงหวานขานชื่อชายหนุ่มออกมา เมื่อกวินใช้ปลายลิ้นเลียไล้ไซ้ลงไปที่ซอกคอหอมกรุ่น ก่อนจะวนไปที่ใบหูเล็กแล้วดูดกัดเม้มเบาๆ ที่ติ่งหูนุ่มนิ่ม เพื่อกระตุ้นคนตัวเล็กใต้ร่างให้เธอมีความต้องการแก่นกายของความเป็นชายจากเขามากขึ้น "ยังกลัวอยู่ไหมครับ หืม" เวลานี้ใบหน้าของชายหนุ่มอยู่ห่างจากใบหน้างามไม่ถึงคืบ ลมหายใจของเขารดลงมาที่ต้นคอของเธอ จนสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของมัน และเขาเองก็คงจะสัมผัสได้ไม่ต่างกัน เมื่อเวลานี้มารียานั้นเริ่มหายใจหอบแรงถี่ขึ้น กับการกระตุ้นของกวินเมื่อครู่ ที่เวลานี้มันได้ค้างกลางอากาศ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าความพิศวาสที่เธอมีต่อเขานั้นจะลดลง "คุณจะไม่ทิ้งฉันใช่ไหม ฉันกลัว ยายเคยบอกว่าผู้หญิงที่ยอมให้ผู้ชายง่ายๆ ก็จะกลายเป็นคนไร้ค่า และอีกไม่นานก็จะโดนเขาทิ้งไปง่ายๆ เช่นกัน" แววตาของดาราสาวเวลานี้ไม่ต่างจากเด็กที่ไร้เดียงสา เธออยู่ในโลกมายาและรอดพ้นจากเสือตะเข้มาได้อย่างไร
ชายหนุ่มขับรถออกมาด้วยความหวัง เขาคิดว่ามันถึงเวลาแล้ว พี่มารียาจะต้องใจอ่อน ในเมื่อเขาแสดงความจริงใจกับเธอสารพัดวิธี แถมยังตามติดชีวิตของเธอมาเป็นปีๆ แล้วทำไมเธอถึงยังไม่ยอมเชื่อมั่นในตัวเขาสักที แต่มันไม่สำคัญอีกแล้ว เพราะเขาจะทำให้เธอได้รู้ว่า ชีวิตของการเป็นผู้หญิงนายกวินนั้นเป็นเช่นไร แม้ว่าเขาจะไม่ใช่เจ้าชาย แต่ทำหน้าที่ดูแลและปกป้องเธอไม่ต่างจากเจ้าหญิง เขามีพร้อมแล้ว พร้อมที่จะรวบหัวรวบหางมารียามาเป็นภรรยาภายในค่ำคืนนี้พอกวินขับรถเข้ามา ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบเดินตรงไปที่ห้องครัว เพื่อเตรียมอาหารรอมารียา เขาลืมไปหรือเปล่าว่าอาชีพของเธอนั้นกลับบ้านไม่ตรงเวลา อย่างเช่นวันนี้มารียามีงานต่อ ซึ่งเป็นงานเดินแบบคู่กับมาร์ติน เพราะช่วงเวลานี้กระแสคู่จิ้นของคนทั้งคู่กำลังมาแรง กวินเตรียมอาหารเสร็จ ชายหนุ่มได้เดินขึ้นไปบนห้อง เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วจึงมานั่งเปิดทีวีดู เพื่อรอมารียา เขากดรีโมทเลื่อนช่องไปเรื่อยๆ แล้วก็ต้องไปสะดุดกับรายการถ่ายทอดสด ที่มีมารียาเดินเคียงคู่มากับดาราหนุ่ม ด้วยคอนเซ็ปต์ของงานนั้นต้องการให้ภาพที่ออกมาเป็นดรีมของคู่รัก ทุกคนต่างปรบมือเกรียว







